Into the Light - มุ่งสู่แสงสว่าง ภาค สงครามปลายบูรพาทิศ [จบแล้ว/มี E-book]
สามัญศักราชที่ 2694 - สองมหาอำนาจ ยาชิม่าและเอลีเซียทำสงครามอย่างดุเดือด โลกตกอยู่ในยุคสงคราม มันคือช่วงเวลาแห่งความมืดมน ช่วงเวลาประวัติศาสตร์ และชีวิตของแต่ละคนต่างต้องดำเนินต่อไป
ผู้เข้าชมรวม
38,255
ผู้เข้าชมเดือนนี้
395
ผู้เข้าชมรวม
ความรัก ดราม่า สงคราม ย้อนยุค การเมือง สงครามโลก มิตรภาพ แอ็คชั่น เเฟนตาซี พลังวิเศษ มิโกะ จบแล้ว โลกแฟนตาซี โรแมนติก ผจญภัย
ข้อมูลเบื้องต้น
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
เข้าร่วมกลุ่มเฟสบุ๊กเพื่อพูดคุย สอบถามและแลกเปลี่ยนได้ที่นี่ :
หรือไม่ก็ เข้าร่วมกลุ่มดิสคอร์ดเพื่อคุยกับนักเขียนโดยตรงได้ที่นี่ :
ที่เหลือก็ เข้าสู่นิยายได้เลยครับ
สวัสดีผู้อ่านทุกท่าน
วันนี้ ผมมีเรื่องอยากมาแจ้งกับพวกท่านว่า การรีไรท์ ITL เวอร์ชั่น 1 - Anadiarthrosis ได้ดำเนินการกับภาค Season 3/1 เรียบร้อยแล้ว โดย Season 3/2 จะตามมาในภายหลัง
ขอบคุณทุกท่านที่ติดตามนะครับ
สวัสดีผู้อ่านทุกท่าน
วันนี้ ผมมีเรื่องอยากมาแจ้งกับพวกท่าน ไม่ว่าท่านจะไปผู้อ่านเก่า ผู้อ่านใหม่หรือผู้ที่เพิ่งผ่านมาแล้วเจอกระทู้นี้พอดี ... หลังจากที่ว่างเว้นจากนิยายเรื่องนี้ไป 1-2 ปีหลังแต่งเสร็จ ผมได้ทำการรีไรท์เรื่อง "Into the Light - มุ่งสู่แสงสว่าง ภาค สงครามปลายบูรพาทิศ" โดยรายละเอียดมีอยู่ดังต่อไปนี้
ที่มา
อย่างแรกเลย ที่มาของรีไรท์นี้ คือผมได้ไปสอบถามผู้อ่านบางส่วน ซึ่งข้อติที่ผมได้รับมักจะมาทำนองว่า "อ่านยาก" ซึ่งต่อมา ผมก็ไปคุยกับที่ปรึกษาที่มีความรู้เรื่องวรรณคดีวิจักร โดยเฉพาะเรื่องโครงสร้างทางวรรณกรรม (อันที่จริง ตอนที่ไปคุยไม่ได้คุยเรื่องภาคนี้หรอก แต่กำลังลองเขียนภาค Prequel เล่นๆ ดู) ซึ่งที่ปรึกษาได้ชี้ข้อปัญหาให้ผมเห็นคือ .... งานเขียนชิ้นนี้อ่านยาก เพราะว่าโครงสร้างฉาก โครงสร้างประโยค มันดูสะเปะสะปะไปหมด มุมมองมันกระโดดไปมาจนงงไปหมด ว่าตกลงแล้ว เล่าผ่านใครกันแน่ ดังนั้น ผมจึงรับคำชี้แนะมา แล้วทำการรีไรท์ โดยเริ่มจาก Season 1 ที่เก่าสุด คือเขียนเมื่อ 7 ปีที่แล้ว และจะทำการรีไรท์โดยอิงตามคำแนะนำนี้ ไปให้ถึง Season สุดท้าย
รายละเอียดการรีไรท์โดยหลักมีอยู่ดังนี้
โครงสร้างฉากและระบบมุมมอง
นี่คือประเด็นหลักของการรีไรท์ครั้งนี้ และเป็นที่มาของชื่อด้วย ... Anadiarthrosis - การปรับโครงสร้าง
อันนี้เป็นปัญหาหลักเลยคือ ใน SS1 แต่ละฉาก ไม่ได้มีการอธิบายชัดเจนแต่ต้นว่า ฉากนี้เล่าผ่านใคร ใครกำลังทำอะไร เกิดเรื่องอะไรขึ้น ... มันไปลงกับการบรรยายฉากซะมากกว่า แต่กว่าจะได้เห็นตัวละคร กว่าจะได้รู้ว่าฉากนี้เล่าผ่านใคร ใครเป็นตัวชูโรง ตัวละครก็ไปโผล่ตรง Paragraph หลังๆ ประมาณ Paragraph 5-6 โน่นเลย และมันก็ไม่ชัดอยู่ดี มันเลยทำให้ผู้อ่านน่่าจะประสบปัญหาที่ว่า ฉากนี้เราควร Focus ที่ใครกันแน่? เพราะมุมมองมันไม่ชัดตั้งแต่เนิ่นๆ
ที่ปรึกษาได้แนะนำให้ผมลองปรับแบบนี้คือ ภายใน 1-3 Paragraph แรก เราควรเห็นตัวละครกับการกระทำตั้งแต่ตรงนั้นเลย
และอีกปัญหาหนึ่งคือ แต่ละฉากไม่มีความต่อเนื่องด้านมุมมอง ... คือฉากหนึ่ง เป็นมุมมองบุคคลที่สามแบบพระเจ้าบ้าง มุมมองบุคคลที่สามแบบจำกัดบ้าง ซึ่งผมยอมรับเลยว่า เป็นความผิดพลาดของผมเอง ซึ่งในตอนนั้น เมื่อ 7 ปีที่แล้วที่เริ่มเขียน ผมยังไม่ชัดเจนว่าจะเล่น POV สไตล์ไหน ซึ่งกว่าจะชัดเจนคือใน Season หลังๆ เมื่อเขียนไปได้สักพักแล้ว
ดังนั้น ในรีไรท์นี้ ผมจึงปรับโครงสร้างฉากให้มันเป็นมุมมองบุคคลที่ 3 แบบจำกัดให้หมด อิงจากสไตล์ที่ผมชินในสมัยหลัง ซึ่งการปรับมุมมองให้เป็นรูปแบบเดียวกันหมด ผมหวังว่ามันน่าจะช่วยให้ผู้อ่านสามารถจับโครงสร้างและเนื้อหาได้มากขึ้น
รูปประโยคกับวรรคตอน
ปัญหาหนึ่งที่ผมเจอใน SS1 คือ ประโยคมีความเวิ้นเว้อมาก บาง Paragraph ก็ยาวเหยียดบ้าง บางประโยคก็มีการกล่าวซ้ำเกินไปหน่อย บทพูดก็เช่นกัน บางบทพูดฟังดูไม่เป็นธรรมชาติไปหน่อย ซึ่งน่าจะสืบเนื่องมาจากช่วงที่ผมเปลี่ยนผ่านจากงานเขียนวิชาการแบบวิทยานิพนธ์ รูปประโยคกับคำพูดบางอย่างมันก็เลยแอบทื่อ แอบเยอะไป ผมก็เลยทำการปรับสิ่งเหล่านี้ โดยสิ่งที่เกิดขึ้นคือ รูปประโยคจะมีความกระชับขึ้น ไม่ยาวเกินไป บทพูดก็น่าจะมีความเป็นธรรมชาติมากขึ้น
แก้คำผิด
ระหว่างรีไรท์ ผมก็เจอเรื่องคำผิดคำตกในตอนต่างๆ ซึ่งบางอันก็ทำให้เนื้อความเปลี่ยนไปด้วย ซึ่งปัญหานี้ เป็นปัญหาที่บางทีก็ไม่ค่อยน่าให้อภัยเท่าไหร่นัก และผมก็ต้องขออภัยและขอยอมรับผิดในส่วนนี้ที่ผมไม่ได้ตรวจทานให้ดีก่อน ทำให้ผู้อ่านที่เคยอ่านงานนี้อาจต้องมาเจอกับอะไรที่ทำให้เสียอรรถรสแบบนี้
โดยในรีไรท์นี้ ผมได้แก้ไขคำผิดเรียบร้อยแล้ว
ขอขอบคุณ
อย่างแรกเลย ผมต้องขอขอบคุณที่ปรึกษาที่ช่วยชี้ให้เห็นปัญหาเชิงโครงสร้าง และให้คำแนะนำ ทำให้ผมเล็งเห็นความจำเป็นที่ต้อง Set Standard จริงๆ จังๆ หากไม่มีท่าน ผมก็คงไม่เข้าใจปัญหานี้เป็นเชิงรูปธรรม
อย่างที่สอง ผมต้องขอขอบคุณผู้อ่านทุกท่านที่ยังคงติดตามอ่านเรื่องนี้ แม้ว่าใน Season 1 จะปรากฎปัญหาตามที่กล่าวไว้ในข้างต้น โดยบางท่านก็อ่านจบเรื่องด้วยซ้ำ ซึ่งผมต้องขอขอบคุณและขอคารวะเลยที่ทนอ่านจนจบได้ ขอขอบคุณทุกท่านที่ยังอดทนกับผมจนถึงบัดนี้ และขออภัยด้วยสำหรับความผิดพลาดในก่อนหน้านี้
SS1 34/34
SS2 27/34
SS3 0/34
SS4 0/34
SS5 0/34
SS6 0/34
SS7 0/34
SS8 0/34
SS9 0/36
"แสงตะเกียงกำลังดับลงทั่วโลก ... พวกเราคงไม่อาจเห็นมันถูกจุดขึ้นติดอีกครั้ง ในช่วงชีวิตของพวกเรา"
- เซอร์ ไซมอน เกรย์, รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ ราชอาณาจักรอัลเบียน, บันทึกส่วนตัว วันที่ 28 มิถุนายน ส.ศ. 2667
กาลครั้งหนึ่งนานมาแล้ว ... ในพิภพแห่งหนึ่ง ... สิ่งเหล่านี้ เคยเกิดขึ้น
นี่คือเรื่องราวของโค้งสุดท้ายแห่งศตวรรษที่ 27 ... ก่อนที่ยุคสมัยแห่งความมืดและโกลาหลจะแผ่ปกคลุม
สามัญศักราช 2694
มหาสงครามจบไปแล้วนานกว่าสองทศวรรษ โลกผ่านยุคสมัยของความสงบสุขอันร้อนรุ่มและแสนสั้น ไฟสงครามครั้งใหม่ถูกจุดติดขึ้นอีกครั้ง มันเริ่มขึ้นในตะวันตกก่อน ตามด้วยตะวันออกไกล เหนือมหาสมุทรแห่งสันติสุข
นานมากแล้วที่สองมหาอำนาจพยายามขับเขี้ยวชิงความเป็นใหญ่เหนือมหาสมุทรอันกว้างใหญ่ นานแล้วที่เอลีเซียและยาชิม่าพยายามเพิ่มพูนอำนาจของตนในดินแดนตะวันออกไกล หลังจากที่มหาอำนาจเก่าอ่อนแอลง ... เสือสองตัวอยู่ถ้ำเดียวกันไม่ได้ฉันใด มหาอำนาจทั้งสองก็ไม่อาจอยู่ในดินแดนเดียวกันได้ฉันนั้น ... ในท้ายที่สุด มหาสมุทรก็ลุกเป็นไฟ พญาฟีนิกซ์แห่งเอลีเซียสยายปีกแผ่รัศมีพยายามกลบรัศมีไตรมณีแห่งยาชิม่า
สงครามใหม่ได้เริ่มขึ้นขณะที่โลกทั้งใบกำลังเข้าใกล้ศตวรรษใหม่ ... ไม่มีใครรู้เลยว่านับแต่บัดนี้เป็นต้นไป โลกจะเดินไปสู่ทิศทางไหน และจะลงเอยในสภาพใดกันแน่? เพราะมันกำลังเข้าสู่ยุคมืดที่สอง ยุคมืดที่ไม่ได้เป็นฝีมือของปีศาจหรือมารร้าย ... หากแต่เกิดจากฝีมือของคนเช่นเรา เหล่าปุถุชนเดินดินทั้งหลาย
แต่ถึงแม้ว่า โลกได้ถลำลึกเข้าสู่ความมืดแล้ว ชีวิตก็ยังคงต้องดำเนินต่อไป
มันอาจจะเป็นโลกที่มืดมน แต่ก็ยังเหลือประกายแห่งแสงสว่างคอยชี้นำหนทาง
สิ่งนั้นอาจจะเป็นความรัก ความหวัง อาจจะเป็นมิตรภาพ หรือความมุ่งมั่น
แด่มิตรสหายทั้งหลาย ผู้เป็นที่รักยิ่ง … แม้จะอยู่ท่ามกลางเสียงกระหึ่มของปืน ระเบิด และเสียงร้องระงม แม้จะอยู่ในความเลวร้ายและความมืดมนของสงคราม
เราจดจำการเดินทางของพวกเราได้ … มิตรภาพ ความรัก และความเจ็บปวด
ท่านพี่คัตสึโอะ เจ้าชายผู้สูงส่ง ท่านร่วมรบในแนวหน้าสุด หาใช่เพื่อความรุ่งโรจน์หรืออุดมการณ์อันสวยหรูไม่ หากแต่เป็นเพื่อผองเพื่อนที่เชื่อมั่นในตัวท่านอย่างมิเคยเสื่อมคลาย
ท่านอิซาโอะ นักรบผู้ซื่อสัตย์ ท่านยึดมั่นเกียรติกับสัจจะเทิดไว้เหนือเกล้า เป็นแบบอย่างให้หลายคน หลังจากที่ท่านได้เผชิญกับความโหดร้ายและความเป็นจริงของสงครามสมัยใหม่ หวังว่าท่านจะได้พบกับสันติสุขที่ปลายทาง
ท่านพี่มิตสึโกะ ท่านพี่มีศรัทธาเรื่อยมา แม้โลกใบนี้มืดมนลงเรื่อยไป แม้ว่าหลายคนสูญสิ้นศรัทธา ท่านพี่คือแสงสว่างส่องทาง ให้ความช่วยเหลือกับคนหลายคน โดยไม่ต้องยิงกระสุนแม้แต่นัดเดียว มิต้องมอบความเจ็บปวดแก่ผู้ใด
อากิโกะ เธอคือเพื่อนที่เรารักที่สุด เธอคือเสียงแห่งเหตุผลในขณะที่คนอื่นๆ กำลังคลุ้มคลั่ง เธอคือเพื่อนยาก ในยามที่เราเปล่าเปลี่ยวเดียวดาย ถ้าหากเราทำได้ ถ้าหากเราทำอะไรได้จริงๆ เราก็อยากให้เธอได้อยู่กับพี่ชายอีกครั้งหนึ่ง
และก็คนอื่นๆ อีกหลายคน แม้ว่าเราไม่เอ่ยนาม เราก็รับรู้และยอมรับเรื่องราวของพวกท่าน ความกล้าหาญ ความเสียสละและความทุกข์ระทม
ส่วนเรา … หากเราเป็นเพียงเด็กสาวธรรมดา เราอาจจะถ่ายทอดความรู้สึกนี้ออกไปได้ ให้ทุกท่านได้ทราบ … แต่ด้วยโชคชะตาและหน้าที่แล้ว เราไม่อาจทำเช่นนั้นได้ … และเมื่อเวลาผ่านพ้นไป เมื่อถึงยามที่พวกเราต้องลาจากกัน หวังว่าเรื่องราวของพวกเราจะยังคงดำรงต่อไป หวังว่าพวกเขาจะยังจำพวกเราได้ ในยามที่โลกมุ่งสู่แสงสว่างแล้ว
- มิยาโอกะ โนะ ฮิโรโกะ
(@Lumbbyz)
สถานการณ์โลกในปี สามัญศักราช 2694
(กดเพื่อเข้าสู่หน้าข้อมูลโลกและแผนที่แบบ Interactive Map)
นับตั้งแต่ที่มหาสงครามสิ้นสุดลงในปี ส.ศ. 2671 หรือเมื่อ 23 ปีก่อน ภูมิภาคตะวันออกไกลก็ระส่ำระส่ายมากยิ่งขึ้น เริ่มจากสงครามกลางเมืองเสินโจวที่ทำให้มหาอำนาจเก่าสิ้นท่าและการถอนตัวของเฮสเปอเรียออกจากอัลฟอนซีนส์ … ภาวะสุญญากาศนี้ทำให้มหาอำนาจใหม่เข้ามาแทนที่ ได้แก่ยาชิม่า มหาอำนาจใหม่ในตะวันออกไกล และเอลีเซีย มหาอำนาจโลกใหม่ที่เริ่มขยายอำนาจเข้ามาที่อีกฟากฝั่งของมหาสมุทรอันสงบสุข … การขยายอำนาจของสองมหาอำนาจนี้ทำให้เกิดความขัดแย้งและภาวะตึงเครียดอย่างยาวนาน ขณะที่มหาอำนาจโลกเก่าได้แต่รักษาอำนาจในอาณานิคมที่เหลือและจ้องมองอยู่ห่างๆ ดูว่าความขัดแย้งนี้จะปะทุกลายเป๋็นสงครามใหญ่หรือไม่ ซึ่งมันก็เกิดขึ้นจริงในวันที่ 1 พฤษภาคม ส.ศ. 2694 เมื่อเอลีเซียเปิดฉากสงครามก่อน
อดีตดินแดนของเหล่าผู้แพ้และผู้อพยพ ดินแดนต้องห้ามห่างไกลสุดขอบโลก ปัจจุบันคือมหาอำนาจแห่งโลกใหม่ เจ้าผู้ปกครองเหนือหลากดินแดน หลายอารยธรรม จากเหนือจรดใต้ จักรวรรดิแห่งพญาฟีนิกซ์กำลังสยายปีกปกคลุมโลกใบนี้ มันกำลังขยายอำนาจออกไปเรื่อยๆ และเป้าหมายของมันในตอนนี้คือตะวันออกไกล
เอลีเซียคือมหาอำนาจใหญ่แห่งโลกใหม่ และเป็นมหาอำนาจใหม่ที่กำลังขยายอำนาจเข้ามาในตะวันออกไกล โดยอาศัยภาวะสุญญากาศทางการเมืองจากความเสื่อมถอยของจักรวรรดิเสินโจว ทำให้ตนมีความขัดแย้งกับจักรวรรดิยาชิม่า … ความขัดแย้งนี้ได้รุนแรงขึ้นเรื่อยๆ จนในท้ายที่สุด เอลีเซียก็เป็นฝ่ายเปิดฉากโจมตียาชิม่าก่อนในวันที่ 1 พฤษภาคม ส.ศ. 2694 โดยอ้างว่าเป็นการป้องกันตัวจากภัยทหารนิยมยาชิม่าที่กำลังก่อตัวและคุกคามภูมิภาคตะวันออกไกลโดยรวม
ด้วยทรัพยากรอันมากล้นของซีกโลกตะวันตกทั้งหมด เอลีเซียอยู่ในตำแหน่งที่สามารถขยายอำนาจใส่ตะวันออกไกล และอาจเป็นจักรวรรดิเดียวที่สามารถมอบความสงบสุขอันยั่งยืนให้กับดินแดนนี้ได้ … แต่อย่างไรก็ตาม สงครามครั้งใหม่นี้จะทดสอบเอลีเซีย จะทำให้จักรวรรดิโลกใหม่ต้องสั่นสะท้าน เมื่อโครงสร้างอันโบราณของจักรวรรดิถูกขึงตรึงกว้างไกลเต็มที่ต้องมาเผชิญหน้ากับสงครามเต็มรูปแบบกับมหาอำนาจใหม่แห่งตะวันออกไกลที่พร้อมจะหลั่งเลือดให้กับดินแดนทุกตารางเมตร
แต่เดิมเป็นแค่หมู่เกาะบ้านนอกของตะวันออกไกล ไม่มีใครทราบเลยว่ารัฐเกาะแห่งนี้จะเดินทางมาไกลเพียงนี้ ผู้ชนะมหาสงครามในแนวรบตะวันออกไกลเมื่อหลายสิบปีก่อน มหาอำนาจใหม่ที่ยืนหยัดผ่านช่วงเวลาวิปโยคที่พัดผ่านทั่วดินแดนโลกเก่า บัดนี้กำลังเผชิญหน้ากับศัตรูใหม่จากอีกฟากมหาสมุทร
23 ปีหลังจากชัยชนะในมหาสงครามที่ผลักดันให้ยาชิม่ากลายเป็นมหาอำนาจใหม่แห่งตะวันออกไกล บททดสอบใหม่ก็กำลังมาถึง และมันก็หนักหน่วงยิ่งกว่าครั้งไหนๆ
วันที่ 1 พฤษภาคม ส.ศ. 2694 … สงครามครั้งใหม่เกิดขึ้น … ยาชิม่าโดนโจมตี กองเรือเสียหาย องค์สมเด็จพระจักรพรรดิและองค์รัชทายาทต่างสวรรคตในเวลาเดียวกัน … หลังจากที่ควันไฟของวันนั้นได้ซาลง จักรวรรดิก็ต้องพบกับวันใหม่ รัชสมัยใหม่ … รัชศกอันเตย์ … รัชศกแห่งเสถียรภาพ ภายใต้องค์สมเด็จพระจักรพรรดินีนาถ มิยาโอกะ โนะ ฮิโรโกะ … อดีตเจ้าหญิงองค์สุดท้อง ที่ไม่พร้อมขึ้นปกครองประเทศ ไม่เคยเป็นที่คาดหวังของใครๆ
ในขณะที่ยาชิม่ากำลังเข้าสู่ยุคใหม่อันระส่ำระส่าย ความเป็นจริงที่เลวร้ายกว่านั้นก็ปรากฏเด่นชัด … จักรวรรดิกำลังอยู่ในภาวะสงคราม และกำลังเผชิญกับการรุกราน …. จักรวรรดิและวงไพบูลย์ต้องรวบรวมสรรพกำลังทุกอย่างในการต่อต้านศัตรูตัวฉกาจที่มีพละกำลังเหลือล้น ต้องสู้ในสงครามที่ตนไม่น่าจะมีโอกาสชนะ … แต่ตนไม่มีทางเลือกใดๆ เพราะถ้าไม่ชนะก็จะมีแต่สูญสิ้นไปตลอดกาล
อดีตมหาอำนาจแห่งตะวันออกไกล แต่ด้วยความพ่ายแพ้ในมหาสงคราม พิษเศรษฐกิจและสงครามกลางเมือง บัดนี้คือคนป่วยประจำภูมิภาค ผู้ถูกรุมเร้าด้วยโรคภัยทั้งความเสื่อมโทรม ขุนศึก ความถดถอย และปัญหาต่างๆ … เมื่อสงครามครั้งใหม่กำลังจะเกิดขึ้น เสินโจวจะมีโอกาสกลับคืนสู่เวทีโลกอีกครั้งหรือไม่? หรือว่าจะรอวันตายในโลกแสนโหดร้ายแห่งนี้?
นับตั้งแต่ความพ่ายแพ้ในมหาสงคราม ตามด้วยสงครามกลางเมืองอันยาวนานและยุคสมัยความสงบสุขอันขรุขระเพียงไม่กี่ปี เสินโจวก็ยังคงไม่มีท่าทีฟื้นตัวขึ้นมาให้ยิ่งใหญ่เหมือนกับสมัยก่อน จักรวรรดิส่วนใหญ่ตกอยู่ใต้อำนาจของก๊กขุนศึกต่างๆ ที่สวามิภักดิ์อย่างหลวมๆ ต่อรัฐบาลก๊กเป่ยหยาง ขุนศึกที่แข็งแกร่งที่สุดและดำรงตำแหน่งผู้คุ้มครองราชบัลลังก์ อดีตยักษ์ใหญ่แห่งตะวันออกไกลบัดนี้อยู่ในสภาพป่วยออดแอด ไม่น่าจะฟื้นตัวขึ้นมาได้ในเร็ววัน
แต่ด้วยสงครามครั้งใหม่ที่กำลังคุกรุ่นในน่านน้ำภายนอกนั้น บางที ไฟสงครามภายนอกอาจทำให้พญามังกรตัวนี้สร่างไข้ในเร็ววัน และทำใหัมันสามารถผงาดกลับมาเป็นยักษ์ใหญ่แห่งตะวันออกไกลได้ … คำถามก็มีอยู่แค่ มังกรตัวนี้จะมีบทบาทอย่างไร ในสงครามครั้งใหม่ของตะวันออกไกล?
ก่อตั้งขึ้นจากความพยายามป้องกันตัวเองและการเอาตัวรอดจากภัยคุกคามวาร์เรียตอนมหาสงคราม บัดนี้คือปราการปกป้องอารยธรรมแห่งโลกตะวันตก ผู้รักษาเสรีภาพ....และอำนาจจักรวรรดินิยม .... ผู้ปกป้องทวีปเรเนียร์ริส ...และผู้ปกปักอาณานิคมต่างๆ .... นี่คือปีที่สามในสงครามครั้งที่สองกับวาร์เรีย และภัยเอลีเซียก็เริ่มคืบคลานเข้ามาทางตะวันออกไกล และสัมพันธมิตรจะมีท่าทีกับพญาฟีนิกซ์อย่างไร?
ว่ากันตามตรง ภูมิภาคตะวันออกไกลไม่ได้เป็นภูมิภาคหลักที่สัมพันธมิตรให้ความสนใจมากเท่าไหร่ … พวกเขาให้ความสนใจต่อตะวันออกไกลในมหาสงคราม ด้วยการขอให้ยาชิม่าช่วยรับมือเสินโจว ขณะที่ตนให้ความช่วยเหลือเท่าที่จำเป็น ส่วนการเข้าอารักขาเขตนครการค้าในบริเวณชายฝั่งเสินโจวก็เป็นแค่การเข้าคุ้มครองชุมชนนานาชาติตามคำเรียกร้องของพลเมืองตน
กองบัญชาการตะวันออกไกลแห่งสัมพันธมิตร ซึ่งมีที่ตั้งในเขตซินโดสนีเซียของกิลเดอริส บังคับบัญชากองกำลังสัมพันธมิตรในเสินโจวและกองกำลังซินโดสนีเซีย ถือว่าเป็นโครงสร้างทางทหารที่ค่อนข้างเล็กสำหรับสัมพันธมิตรโดยรวม เพราะความสนใจส่วนใหญ่ ขณะนี้กำลังพุ่งเป้าไปที่สงครามกับวาร์เรียในภูมิภาคเรเนียร์ริสตะวันออก
แต่สงครามระหว่างยาชิม่าและเอลีเซียก็ไม่อาจทำให้สัมพันธมิตรนิ่งดูดายต่อสถานการณ์ตะวันออกไกลได้ เพราะผลลัพธ์ของสงครามนี้จะส่งผลกระทบต่ออาณานิคมและสถานภาพมหาอำนาจของพวกเขาเอง
องค์อาร์คิวาซิลลาร์เคยเป็นหนึ่งในผู้นำที่ทรงอำนาจที่สุดคนหนึ่งในเรเนียร์ริส และวาร์เรียก็เคยมีอำนาจเหนือดินแดนเรเนียร์ริสตะวันออกทั้งหมด ... แต่ทว่า นั่นมันคือช่วงก่อนมหาสงคราม เมื่อหลายสิบปีมาแล้ว ... ในตอนนี้ สงครามกับสัมพันธมิตรก็เริ่มขึ้นอีกครั้ง รบมานานแล้วสามปี และในครั้งนี้ วาร์เรียก็คงไม่อาจอยู่รอดได้เหมือนครั้งก่อน ท่ามกลางสงครามและกระแสการปฏิวัติ พญาหมีขาวแห่งตะวันออกจะอยู่ต่อไปได้หรือไม่? ในขณะที่พญาฟีนิกซ์กำลังสยายปีกเหนือผืนทะเลตะวันออกไกล
แม้ว่าสงครามกำลังดำเนินในพรมแดนด้านตะวันตกของจักรวรรดิ ดินแดนตะวันออกไกลของวาร์เรียก็ยังคงเงียบสงบดังเดิม ด้วยความห่างเหินและรกร้างว่างเปล่าในตัวมันเอง อุปราชยังคงดำเนินกิจการตามนโยบายขององค์อาร์คิวาซิลลาร์ และเฝ้ามองกระแสสงครามระหว่างยาชิม่ากับเอลีเซียต่อไป โดยหวังว่าสงครามนั้นจะไม่ลุกลามบานปลายมาถึงแดนตะวันออกไกลของวาร์เรียแห่งนี้
แต่อย่างไรก็ตาม สงครามกับสัมพันธมิตรตะวันตกก็ทำให้จักรวรรดิอ่อนล้าและเข้าใกล้ภาวะปฏิวัติมากขึ้น เมื่อประชาชนและทหารหลายภาคส่วนเริ่มไม่พอใจ … เมื่อใดที่ไฟปฏิวัติถูกจุดขึ้น เมื่อนั้น ซีเบียร์ก็จะลุกเป็นไฟตาม ไม่ว่ามันจะรกร้างเพียงใดก็ตาม มันก็จะโดนลากเข้าสู่วิกฤตินั้นไปด้วย และเพื่อนบ้านก็จะเข้ามารุมตอมเหมือนฝูงแร้งฝูงกา
“มันไม่มีอะไรที่ไม่สลักสำคัญในโลกนี้หรอก ทั้งหมดมันขึ้นอยู่กับมุมมองเท่านั้นแหละ”
จักรวรรดิแห่งตะวันออกไกล ดินแดนแห่งดวงมณีทั้งสาม … ไม่ว่าจะเด็กสาวชนบท เจ้าชายเจ้าหญิงผู้สูงศักดิ์ ซามูไรผู้ภักดี หรือองค์สมเด็จพระจักรพรรดินีผู้สูงส่ง พวกเขาต่างก็มีเรื่องราวให้เล่า เกี่ยวกับสงครามใหญ่ที่สุดที่ย่างกรายมาถึงดินแดนบ้านเกิดของพวกเขา
สำหรับผู้ลาภมากดีและชนชั้นสูงชาวยาชิม่า ถ้าหากพวกเขาอยากจะหาการหางานทำ ถ้าพวกเขาอยากสร้างตัวตน หรืออยากพิสูจน์อะไรบางอย่าง พวกเขาจะไปเป็นอะไรกัน? … ถ้าเป็นยุคโบราณ ขุนนางก็คงจะไปเป็นนักรบซามูไร แต่ปัจจุบัน ตัวเลือกมันก็หลากหลายขึ้นเยอะ ไม่ว่าจะไปเป็นนักธุรกิจ ข้าราชการ ศิลปิน หรืออะไรก็ได้ตามที่ใจต้องการ เพราะต้นทุนทางเศรษฐกิจและสังคมทำให้พวกเขามีตัวเลือกมากกว่าใครๆ
หนึ่งในคนที่มีต้นทุนและตัวเลือกมากที่สุดในจักรวรรดิยาชิม่าก็น่าจะเป็น อาริสึงาวะ โนะ คัตสึโอะ … เจ้าชายประธานองค์ปัจจุบันแห่งราชสกุลอาริงสึงาวะ หนึึ่งในราชสกุลของยาชิม่าที่มีความสัมพันธ์สนิทสนมกับราชวงศ์ รับหน้าที่ดูแลเขตบูรพา เขตการค้าที่ร่ำรวยมั่งคั่ง ทำให้เขาเป็นหนึ่งในบุคคลที่ทรงเกียรติที่สุดและร่ำรวยมั่งคั่งที่สุดคนหนึ่งในจักรวรรดิ
เจ้าชายอาริสึงาวะองค์นี้มีตัวเลือกมากมาย แต่เขากลับเลือกเป็นนายทหารในกรมทหารรักษาพระองค์ กองทัพจักรวรรดิ ด้วยเหตุผลที่ว่า เขาอยากจะปกป้องคนรัก … เหตุผลที่ทรงเกียรติ สำหรับงานที่ทรงเกียรติมากพอสมควรในสังคมยาชิม่า แต่ก็เป็นงานที่เสี่ยงอันตรายอยู่ดี อันตรายมากๆ ด้วยสำหรับเจ้าชายราชสกุลที่ยังไม่มีทายาทสืบสกุล ซึ่งมันก็ส่อลางไม่ดีเพราะบิดาของเขาซึ่งเป็นทหารเหมือนกันก็ตายในระหว่างปฏิบัติหน้าที่
และแล้ว จักรวรรดิก็เข้าสู่สงครามใหม่ สงครามครั้งใหญ่ที่ตนไม่ได้ก่อ และข้าศึกก็กำลังประชิดบ้าน เจ้าชายองค์นี้ก็ต้องเผชิญกับความเสี่ยง … เขาจะได้กลับบ้านมาเจอหน้ากับครอบครัวหรือไม่? สงครามจะทำให้เขาได้ประสบกับโชคชะตาหรือว่าจะนำพาเขาไปสู่เชิงตะกอน?
โลกใบนี้เต็มไปด้วยผู้คนที่เชื่อในเรื่องต่างๆ ด้วยเหตุผลร้อยแปดประการ ทั้งการจรรโลงใจ การยึดเหนี่ยวหรืออิงตามผู้คนโดยรอบ … แต่ละอย่างช่างเป็นเรื่องยากที่จะตัดสินว่ามันถูกหรือผิดกันแน่?
ทาจิบานะ มิตสึโกะ เป็นหนึ่งในคนกลุ่มนั้น … เด็กสาวที่เชื่อมั่นในทวยเทพทั้งปวง อีกทั้งยังเป็นตัวแทนขององค์เทพในฐานะมิโกะที่รับใช้เทพีอินาริ เทพีแห่งดวงประทีปแสงสว่าง … นางเป็นมิโกะเพราะตนเป็นหลานสาวของนักบวชเจ้าของศาลเจ้าอินาริแห่งมัตสึตากะ เมืองชายฝั่งและที่พักตากอากาศที่ห่างจากเมืองหลวงไม่มากนัก
มิโกะคืองาน คือหน้าที่และบทพิสูจน์ความเชื่อมั่นของนาง … หน้าที่ซึ่งตระกูลของนางปฏิบัติมาอย่างช้านาน และความเชื่อมั่นอันแรงกล้าต่อทวยเทพทั้งปวง เหล่าเทพผู้เฝ้ามองและอำนวยพรต่อทุกสิ่งในโลกอันวุ่นวายแห่งนี้ แม้ว่าหลายคนจะกังขาในศรัทธานี้ เพราะยุคสมัยที่เจริญขึ้น และความเปลี่ยนแปลงของกำแพงเวทมนตร์ที่ทำให้เทพกับโลกนี้ห่างเหินยิ่งขึ้น
สงครามกำลังจะมาถึง มันจะทำให้ศรัทธาของนางต้องสั่นคลอน นางอาจได้เจอกับคำถามว่าศรัทธาที่ตนยึดมั่่นนั้นมันช่วยเหลือได้จริงหรือ? คนเรามีศรัทธาไปเพื่ออะไร? … ถ้าหากทวยเทพทั้งปวงทรงเมตตาการุณจริง แล้วทำไมโลกใบนี้จึงเต็มไปด้วยความทุกข์ทรมานล่ะ?
การเกิดมาเป็นสตรีในสังคมหัวเก่าอย่างสังคมยาชิม่าถือว่าเป็นความยากในระดับหนึ่ง ไม่ว่าจะความคาดหวังและการบงการจากสังคม ไม่ว่าจากพ่อแม่หรือคนรอบตัว … ถ้าเกิดเป็นหญิงในยาชิม่า ชีวิตมันก็ยากในระดับหนึ่งแล้ว
อากิโกะ ถือว่าเป็นเด็กสาวที่โชคดีที่สุดคนหนึ่งในยาชิม่า … นางไม่ได้เกิดมาเป็นเด็กสาวของสามัญชนตาสีตาสา นางเกิดมาในราชสกุลผู้สูงส่ง ไม่ใช่แค่อากิโกะจังหรืออากิโกะซัง หากแต่เป็น ใต้เท้าอาริสึงาวะ โนะ อากิโกะ - เจ้าหญิงอาริสึงาวะ …. นางเกิดมาพร้อมกับต้นทุนต่างๆ ไม่ว่าจะทรัพย์สิน การยอมรับและหลายต่อหลายอย่าง นางมีโอกาสได้รับการศึกษาที่ทันสมัยที่สุด มีโอกาสได้อ่าน ได้พูดและได้เขียนเรื่องราวต่างๆ ถ่ายทอดออกมาโดยที่มีคนรอรับฟังนางเสมอ ต่างจากเด็กสาวรุ่นเดียวกันที่ต้องเรียนและเตรียมเป็นแม่บ้านแม่เรือนเหมือนกับคนอื่นๆ อีกหลายล้านคนในท้องทะเลแห่งมวลมหาชนที่ไร้ความสลักสำคัญ
อากิโกะเชื่อว่าตนเกิดมาโชคดีกว่าใครๆ นางมีครอบครัวที่ดี มีทรัะย์สินมากมาย แต่นางก็ถูกสอนมาว่า ในเมื่อตนเกิดมาโชคดี ตนก็ควรรับใช้และให้โอกาสคนอื่นๆ ที่ไม่ได้โชคดีเท่านาง ดังนั้นเมื่อสงครามเริ่มขึ้น นางจึงสมัครเป็นอาสา คอยช่วยงานต่างๆ โดยมีความคิดลึกๆ ว่า นี่เป็นแค่ความช่วยเหลือเล็กๆ น้อยๆ ที่น่าจะแบ่งเบาภาระของพี่ชาย ที่ต้องแบกรับหน้าที่อันหนักอึ้งและเสี่ยงตายยิ่งกว่า
จริงอยู่ที่โลกใบนี้เข้าสู่ยุคสมัยใหม่แล้ว แต่มันก็ยังมีกลุ่มคนบางกลุ่มที่ยังยึดวัฒนธรรมและขนบธรรมเนียมโบราณ หนึ่งในนั้นคือพวกซามูไร ขุนนางนักรบที่เป็นหนึ่งในชนชั้นและกลุ่มวัฒนธรรมหนึ่งขิงยาชิม่า … หนึ่งในซามูไรเหล่านั้นก็คือ ยามาดะ อิซาโอะ - ลูกชายของไดเมียวแห่งแคว้นไอซาวะ ขุนนางท้องถิ่นที่เป็นส่วนหนึ่งในกลไกของรัฐ
อิซาโอะ เป็นซามูไรอย่างเต็มขั้น … เขาอ่านและท่องคำสอนในคัมภีร์ปรมาจารย์มินาโมโตะ … สมัครเรียนและจบจากโรงเรียนนายทหาร ประจำการในกองทัพ ได้เป็นนายทหาร เช่นเดียวกับเหล่าซามูไรคนอื่นๆ ที่ก้าวข้ามความเป็นท้องถิ่นนิยมและความจงรักภักดีต่อเจ้านาย ผันตัวมารับใช้รัฐและชาติที่กว้างขวางยิ่งกว่า
อิซาโอะ และเหล่านายทหารจากชนชั้นซามูไร คือแบบอย่างหนึ่งที่ชาวยาชิม่าอยากยึดถือ แต่สงครามใหม่กำลังจะเริ่มขึ้น มันคือสงครามอุตสาหกรรม สงครามจักรกล แตกต่างจากยุคศักดินาอย่างสิ้นเชิง … อิซาโอะจะต้องอยู่กับโลกจักรกลแห่งนี้ โลกที่เกียรติยศและศักดิ์ศรีนักรบถูกกวาดหายไป ด้วยสายลมแห่งความเปลี่ยนแปลง สายลมหนาวที่มาพร้อมกับลูกตะกั่วปลิดชีพ
ตลอดทั้งชีวิตนี้ มิยาโอกะ โนะ ฮิโรโกะ ไม่เคยคาดคิดว่าตนจะได้เป็นผู้ปกครอง …. นางเกิดมาเป็นเจ้าหญิง เป็นลูกสาวขององค์สมเด็จพระจักรพรรดิ และเป็นน้องสาวของเจ้าชายรัชทายาทซึ่งจะได้สืบตำแหน่งต่อจากพระบิดาในอนาคต พี่ชายที่น้องสาวพร้อมจะให้ความช่วยเหลือ ไม่ว่าอนาคตจะเป็นเช่นไรก็ตาม
แต่ทว่าอนาคตที่นางเผชิญกลับเล่นตลกและเลวร้ายยิ่งกว่าครั้งใดๆ … สงครามเริ่มขึ้นจากการฉวยโอกาส สงครามเริ่มขึ้นด้วยความสูญเสียต่อครอบครัวที่นางเหลืออยู่ไม่มาก พระบิดาและพี่ชายที่สิ้นชีพพร้อมกันในวันที่สงครามเริ่มต้นขึ้น ทำให้นางเหมือนโดนโดดเดี่ยวในโลกที่โหดร้ายและเข้าใกล้หายนะมากขึ้น
โชคชะตาช่างโหดร้ายและเรียกร้องให้เด็กสาวตัวเล็กๆ ต้องขึ้นมาปกครองจักรวรรดิ … มันไม่ใช่หน้าที่ที่นางถูกสอนมาหรือถูกคา่ดหวังให้เป็น แต่นางจะพยายามทำให้ดีที่สุด นางจะไม่ยอมให้พระบิดาและพี่ชายต้องผิดหวัง และจะไม่ยอมเป็นประมุของค์สุดท้ายแห่งจักรวรรรดิยาชิม่าเด็ดขาด
จักรวรรดิแห่งโลกใหม่กรีฑาทัพมุ่งตะวันออกไกล หวังพิชิตดินแดนอาทิตย์อุทัยเพื่อสร้างระเบียบใหม่ จักรวรรดิแห่งพญาฟีนิกซ์ได้เรียกระดมไพร่พลต่างๆ ตั้งแต่สามัญชน ขุนนาง ไปจนถึงเจ้าชายพระราชวงศ์ มันอาจเป็นสงครามที่จักรพรรดิสั่งให้เกิด แต่มันคือหน้าที่ของทุกคน
ธรรมเนียมและสายเลือดความเป็นทหารได้หยั่งรากลึกอยู่ในราชวงศ์อิเซาร์ริโอส และถึงแม้ว่าตนจะเกิดมาเป็นหญิง เรื่องจิ๊บจ้อยแค่นั้นจะไม่มีทางเป็นอุปสรรคสำหรับความพยายามเพื่อให้ตนได้มีโอกาสทำหน้าที่ สร้างชื่อเสียงและการขึ้นมาเป็นใหญ่ … และเมื่อตนมีเวทมนตร์ด้วยแล้ว ตนก็ยิ่งมีความจำเป็นต้องทำตามหน้าที่มากขึ้นไปอีก
โคริน่า ฮ็อบซอนิส อิเซาร์ริน่า เป็นทุกอย่าง … เจ้าหญิงอิเซาร์ริโอส จอมเวทและขุนนางเจ้าแคว้น … นางถือว่าเป็นหนึ่งในกลุ่มคนสูงสุดในจักรวรรดิ กลุ่มคนที่มากล้นด้วยเกียรติและอภิสิทธิ์ แต่มันก็ทำให้นางคิดได้ว่า ตนก็ต้องทำประโยชน์ ต้องเป็นตัวอย่าง และต้องทำหน้าที่เพื่อให้จักรวรรดิเจริญรุ่งเรืองมากยิ่งขึ้น
ด้วยเหตุนี้ เจ้าหญิงจึงไปเป็นทหาร และกำลังจะได้เผชิญกับสงคราม … สงครามที่จะไม่ง่ายเลย และจะสร้างความสูญเสียครั้งใหญ่ในอย่างที่นางไม่เคยเห็นมาก่อน แม้แต่เวทมนตร์ก็ไม่อาจช่วยได้มากนัก
เอลฟ์ถือว่าเป็นหนึ่งในเผ่าพันธุ์แกนหลักของจักรวรรดิเอลีเซีย ไม่ต่างมนุษย์ ออรค์ คนแคระ มิโนทอร์ และเผ่าอื่นๆ ที่เป็นพลเมืองของจักรวรรดิ … ทุกเผ่าและทุกคนต่างเท่าเทียม ภายใต้องค์จักรพรรดิและผืนธงพญาฟีนิกซ์ที่โบกไสวบนสายลม
โคโลเวียส เกิดมาในตระกูลขุนนางระดับล่างที่ได้รับใช้ใต้เท้าดูกาสแห่งซาร์โกสมานานหลายชั่วคน เขาเองก็ไม่ใช่ข้อยกเว้น ด้วยความที่เขาได้เรียนหลักสูตรนายทหารและมีฝีมือในการต่อสู้่มากล้น เขาจึงได้รับเกียรติให้เป็นองครักษ์ของเจ้าชายเคลเมนิส ผู้บัญชาการกองทัพที่จะเปิดฉากบุกยาชิม่าเพื่อดับอหังการพวกทหารนิยม
แต่ทว่า อีกไม่นานนัก เขาก็จะได้พบว่า สงครามนี้มันใหญ่เกินคาดและมีตัวแปรหลายอย่างที่อยู่นอกเหนือความควบคุม หลายสิ่งจะนำไปสู่ความโชคร้ายและความสูญเสียต่างๆ นานา
การเกิดมาเป็นเจ้าชายในราชวงศ์อิเซาร์ริโอสถือว่าเป็นอภิสิทธิ์หลายอย่าง … เจ้าชายองค์นั้นได้เกิดในราชวงศ์ที่ปกครองดินแดนซีกโลกหนึ่ง มีอำนาจมากล้น และมีโอกาสได้เข้าปกครองดินแดนแห่งหนึ่งในจักรวรรดิเป็นตัวแทนเพื่อช่วยจักรวรรดิปกครองดินแดนท้องถิ่นที่รัฐบาลไม่สามารถเข้าถึงเองได้ … แต่นั่นก็มาพร้อมกับหน้าที่ต่างๆ ที่ตนต้องทำเพื่อจักรวรรดิและจักรพรรดิ องค์เหนือที่มอบโอกาสให้
อคิลโลส ไม่เคยได้เป็นทหาร เขาไม่เคยเรียนจบจากโรงเรียนนายทหาร อย่างมากสุดก็แค่ผ่านหลักสูตรรวบรัด หน้าที่ส่วนใหญ่ของเขาคือการว่าราชการแคว้น พอถึงเวลาว่าง เขาก็แค่อยากจะใช้ชีิวิตอย่างสงบสุขร่วมกับน้องสาว ครอบครัวที่เหลืออยู่เพียงน้อยนิด … แต่พอสงครามเริ่มขึ้น จักรพรรดิก็เรียกระดมพล มอบหมายให้แคว้นต่างๆ ตั้งกองทัพสนับสนุน … อคิลโลสเองก็เป็นหนึ่งในนั้น เขาระดมพลและออกไปบังคับบัญชาเองเพื่อตอบแทนความเมตตาและความผูกพันที่เขามีต่อจักรพรรดิ เสด็จลุงของเขาเอง
แต่ทว่า สงครามที่เขาเดินหน้าเข้าหาเอง จะไม่เหมือนกับสงครามในยุครุ่นพ่อ สงครามนี้จะเรียกร้องให้เขาต้องใช้ทักษะต่างๆ เพียงเพื่อจะเอาตัวรอดเท่านั้น และเขาต้องเอาตัวรอดไปให้ได้ เพราะเขายังมีน้องสาวหัวแก้วหัวแหวนเฝ้ารออยู่ที่บ้าน
แผนผังตัวละครทั้งหมด (กดเพื่อเข้าชม)
“นี่จะไม่ใช่สงครามของวีรบุรุษ … และมันจะไม่ใช่สงครามสั้นๆ ด้วย … สงครามนี่ยาวแน่นอน”
เจ้าชายคัตสึโอะ เจ้าชายราชสกุลและนายทหารผู้สูงส่งจากเมืองหลวงถูกส่งมายังเมืองมัตสึตากะ เมืองชายฝั่งที่อยู่ทางใต้ของเมืองหลวง เขาจึงได้มาพบกับมิตสึโกะ มิโกะผู้เป็นหลานสาวของนักบวช เจ้าของศาลเจ้า ทั้งสองได้มาพบกันในช่วงเวลาหน้าสิ่วหน้าขวานที่สุด เมื่อกองทัพเอลีเซียทำการยกพลขึ้นบกที่หัวหาดตอนใต้ ทำให้เมืองพักตากอากาศกลายเป็นนรก ทั้งสองต้องร่วมกันฝ่าฟันสมรภูมิครั้งใหญ่ที่ประเทศหมู่เกาะไม่ได้สัมผัสมานานนับศตวรรษ
จะไม่มีใครโดดเดี่ยว จะไม่มีใครสู้ศึกนี้ตามลำพัง
เจ้าชายคัตสึโอะกับมิตสึโกะเดินทางกลับมาที่เมืองหลวง พบว่าชีวิตของตนกำลังเปลี่ยนไป คัตสึโอะได้รับการเลื่อนขั้นและได้รับคำสั่งให้ตั้งหน่วยรบขึ้นมา ส่วนมิตสึโกะก็ต้องพยายามปรับตัวให้เข้ากับชีวิตในเมืองหลวง ซึ่งตนไม่คุ้นเคยและไม่มีใครแยแสในตัวเธอ ขณะเดียวกัน ผู้รุกรานก็ยังคงดื้อดึงทำสงครามต่อไปอย่างไม่ลดละ และมีแผนการเปิดแนวรบใหม่ ทำให้เจ้าชายกับพวกพ้องต้องหวนคืนสู่สนามรบอีกครั้ง
อำนาจย่อมมาพร้อมกับหน้าที่และภาระอันหนักอึ้ง
การรบในแนวรบแคว้นโทไครุนแรงมากยิ่งขึ้น คัตสึโอะต้องปรับปรุงตัวเองและเดินหน้าต่อไปเพื่อแก้ไขข้อผิดพลาดร้ายแรงในอดีต ขณะเดียวกันมิตสึโกะ เริ่มมองเจ้าชายหนุ่มด้วยความรู้สึกที่แปลกไป นางจะต้องช่วยเหลือเจ้าชายผู้อ่อนล้าและพยายามบอกความในใจกับเขาได้ทราบ ขณะที่ตนยังมีโอกาสเหลืออยู่ แต่เส้นทางตรงหน้าก็ไม่เคยเป็นใจ ศัตรูทวีความร้ายกาจและมีเล่ห์เหลี่ยมยิ่งขึ้น ท่ามกลางสมรภูมิที่ยืดเยื้อและดุเดือดมากกว่าเดิม จะมีสักกี่คนที่รอดจากสมรภูมิชี้เป็นชี้ตายในครั้งนี้?
คนเรายังมีโอกาสเหลืออยู่อีกไหม?
กองทัพเอลีเซี่ยนรุกคืบไปทั่วเกาะนิชิจิม่า สถานการณ์สงครามประชิดแคว้นไอซาวะได้บีบบังคับให้อิซาโอะต้องหวนคืนสู่ถิ่นเดิม เขาต้องใช้ประสบการณ์ทุกอย่างที่ตนได้รับกลับมาป้องกันบ้านเกิด ... ขณะเดียวกัน เจ้าหญิงอากิโกะก็เพิ่งมีอายุครบสิบหกปี งานและภาระประจำวันทั้งหลายต่างถาโถมเข้ามา ขณะที่สถานการณ์สงครามภายในเมืองหลวงยังคงรุมเร้าอย่างไม่ปราณี ... ชายหนุ่มและเด็กสาวสองคนต่างอยู่ห่างไกลกัน แต่สถานการณ์และสิ่งที่พวกเขาต้องเผชิญแทบไม่ต่างกันเลย ... หน้าที่ได้ผูกมัดตัวพวกเขาสู่เส้นทางอันยากลำบาก ซึ่งนำไปสู่ความเติบโต หรือไม่ก็ความตาย
หน้าที่จะนำพวกเราไปสู่ที่แห่งใดกัน?
สงครามได้นำพามาซึ่งความสูญเสีย มันนำพามาซึ่งภาระอันหนักอึ้งที่ทุกคนต้องแบกรับไว้ ตามด้วยรอยด่างพร้อยที่จะประทับไว้ในจิตใจของทุกคนที่ได้สัมผัสมัน ... ขณะที่สงครามกำลังทำท่าจะรุนแรงยิ่งขึ้น และหลากหลายยิ่งขึ้น ขณะที่หลายคนเริ่มอ่อนล้าและปวดร้าวจากมัน สงครามกับหน้าที่ก็บีบให้พวกเขาต้องเดินหน้าต่อไป ด้วยจิตใจที่ต้องเข้มแข็งยิ่งขึ้น
ทุกคนต้องแบกรับสิ่งนี้ไปอีกนานเท่าใด?
ยาชิม่ายังคงต้องรับศึกหนัก สถานการณ์ภายในแนวหลังทำท่าดุเดือดขึ้นมาทีละนิด ขณะที่เอลีเซียต้องรีบเผด็จศึก ก่อนที่นานาชาติจะหันมาแทรกแซงในสงครามเพื่อดับอหังการณ์จักรวรรดิโลกใหม่ ในสนามรบอันดุเดือด ซามูไรหนุ่มจะได้พบว่าเกียรติยศยังหลงเหลืออยู่ในยุคสมัยนี้หรือไม่? เจ้าหญิงน้อยจะได้ค้นพบว่าตนมีคุณค่าเพียงใด และเอลฟ์หนุ่มชาวเอลีเซี่ยนจะต้องตัดสินว่าสงครามนี้ยังมีความชอบธรรมอยู่หรือไม่?
พวกเขาจะได้พบกับสันติภาพก่อนปีใหม่มาเยือนหรือไม่?
สงครามกำลังระอุไปทั่วโลก … ในภูมิภาคตะวันออกไกล สงครามปะทุตามแนวรบต่างๆ … กองทัพเอลีเซี่ยนขึ้นฝั่งในดินแดนตะวันออกไกลของวาร์เรีย เป็นภัยคุกคามต่อรัฐในอารักขาและดินแดนของยาชิม่าในแผ่นดินใหญ่ … การรบตามแนวชายแดนหิรัญภูมิและอาณานิคมครีเซก็ยังคงดำเนินไปอย่างดุเดือด แนวรบไม่มีทีท่าจะขยับเขยื้อน
แต่ทว่า สถานการณ์การเมืองในเสินโจวก็กำลังก่อตัวขึ้น ยาชิม่ากับเอลีเซียจึงต้องชิงไหวชิงพริบในสถานการณ์นี้ เพื่อให้จักรวรรดิที่กำลังฟื้นตัวหันเข้ามาหาฝ่ายของตน ซึ่งมันจะทำให้ดุลอำนาจภายในสงครามแปรผันไปอย่างมาก
ชีวิตของแต่ละคน รวมถึงโลกใบนี้ต่างเปลี่ยนไป เมื่อสงครามระอุ เข้าสู่ความดุเดือดขั้นใหม่
สงครามกำลังดุเดือดไปทั่วโลก จักรวรรดิเอลีเซียกำลังรุกคืบทุกแนวรบ มหาพันธมิตรที่เพิ่งถูกก่อตั้งขึ้นต้องหาแผนการโต้ตอบเพื่อชะลอการรุกรานของพวกเอลีเซี่ยน และหากเป็นไปได้ คือโต้กลับ ให้สงครามพลิกผันความได้เปรียบมาสู่ฝ่ายมหาพันธมิตร
ระหว่างที่เอลีเซียกำลังกดดันจากทุกแนวรบ กองบัญชาการตะวันออกไกลมีแผนการตอบโต้โดยการโจมตีอาณานิคมของเอลีเซียเพื่อกดดันและชะลอการรุกรานตลอดแนวรบตะวันออกไกล … ปฏิบัติการนั้นแลดูมีความหวัง มีความเป็นไปได้ แต่ลงมือปฏิบัติจริงๆ ทุกคนจะต้องเผชิญกับความยุ่งยาก ทั้งจากการรบกับศัตรู และการประสานงานกับพันธมิตรของตน
มหาพันธมิตร ... พันธมิตรที่เกิดขึ้นจากความหวังและความจำเป็น ... มันจะไปรอดหรือไม่?
โลกทั้งใบกำลังหันปากกระบอกมาทางพญาฟีนิกซ์ที่กำลังเผชิญหนัากับอสูรกายจากรอบทิศทางท่ามกลางเปลวเพลิง … เอลีเซียเผชิญหน้ากับศัตรูทั้งภายในและภายนอก ไม่มีที่ใดปลอดภัยเลย แม้แต่ในใจกลางของจักรวรรดิ และสงครามก็ยังคงห่างไกลจากจุดสิ้นสุด
นี่คือบทสุดท้ายของสงครามครั้งยิ่งใหญ่ที่สุดโค้งสุดท้ายของศตวรรษที่ 27 และโลกทั้งใบต่างก็กลั้นหายใจ ว่าผลลัพธ์ของมันจะออกมาเป็นเช่นไร
พญาฟีนิกซ์จะเถลิงอำนาจขึ้นเป็นผู้กุมอำนาจหนึ่งเดียวของโลกหรือเปล่า?
มหาพันธมิตรจะสามารถปราบอหังการเอลีเซียลงได้และนำสมดุลกลับมาสู่โลกใบนี้ได้สำเร็จ?
หรือว่าโลกใบนี้จะถลำลึกสู่ยุคมืดใหม่?
โลก Into the Light เป็นจักรวาลแบบขยายที่เกิดเรื่องราวต่างๆ ภายในสถานที่ต่างๆ … เรื่องราวเหล่านี้อาจเกี่ยวข้องหรือไม่เกี่ยวข้องกับเนื้อเรื่องหลักก็ได้ แต่มันเป็นการบอกเล่าเรื่องราวของโลกกว้างใหญ่ใบนี้ บอกเล่าเรื่องราวของชีวิตและชนชาติ ภายในช่วงเวลาต่างๆ ที่น่าสนใจ
ท่าน… ซึ่งเป็นผู้อ่าน ก็สามารถแต่งเรื่องราวของจักรวาลนี้เพิ่มได้ โดยมันอาจจะไม่ได้เป็นแค่ FanFic แต่สามารถกลายเป็น Canon ได้ ตามการพิจารณาของข้าพเจ้าเอง
นี่คือเรื่องราวต่างๆ ที่พวกท่านสามารถติดตามกันได้ครับ
หมายเหตุ : นิยายหลัก = นิยายชุดยาวที่เป็นการบอกเล่าเนื้อเรื่องจักรวาลแกนหลัก ซึ่งเรื่องราว-ประวัติศาสตร์ส่วนใหญ่จะปรากฏอยู่ในนี้
นิยายส่วนขยาย = นิยายสั้นที่บอกเล่าเรื่องราวส่วนขยายที่เพิ่มเติมจากภาคหลัก ถือว่าเป็นภาคเสริม
ชื่อเรื่อง | ผู้แต่ง | ช่วงเวลา/สถานที่ | เรื่องราวโดยสังเขป | สถานะ/Canonicity | สปอยต่อนิยายหลัก? |
สงครามปลายบูรพาทิศ | CometSighte | เริ่มต้น ส.ศ. 2694 | เรื่องราวของสงครามปลายบูรพาทิศ ระหว่างยาชิม่า-เอลีเซีย | นิยายหลัก/Canon | นิยายหลัก |
CometSighted | ส.ศ. 2691 (3 ปีก่อนภาคหลัก) / ซานไห่, เสินโจว | เรื่องราวของอิวาซากิ โฮดากะที่เดินทางไปฝึกงานที่ซานไห่ ในช่วงเวลาเสี่ยงอันตรายที่สุด เขาจึงได้พบเรื่องราวต่างๆ และเด็กสาวคนหนึ่งที่ทำให้ชีวิตของเขามีความหมายขึ้นมา | นิยายส่วนขยาย/Canon | ไม่ | |
CometSighted | เริ่มต้น ส.ศ. 2695 (SS7-9) | เรื่องราวชีวิตแนวหลังของหนุ่มสาวชาวเอลีเซี่ยนที่แคว้นมิสโซลองกี มณฑลมิโตรโปเลีย และชีวิตของทหารแนวหน้าในแนวรบตะวันตก | นิยายส่วนขยาย/Canon | ใช่ (การเมืองระหว่างประเทศระหว่าง SS8-SS9) |
นิยายเรื่องนี้ เคยถูกนำลงเผยแพร่ในเด็กดีตั้งแต่ต้นปี 2560 ในฐานะเรื่อง "สายนทีแห่งโชคชะตา" ซึ่งต่อมา ผมได้ทำการรีไรท์ ซึ่งในท้ายที่สุด โครงสร้างเนื้อเรื่อง ตัวละคร จำนวนเนื้อหา และหลายอย่างเปลี่ยนไปหมด ผมจึงตัดสินใจปิดเรื่องเดิม และเปิดเรื่องใหม่แทน
ในโอกาสนี้ กระผมขอขอบทคุณที่ทุกท่านได้ผ่านเข้ามายลโฉม หรือได้เสพท์ ขอให้ทุกท่านได้รับความสนุก ความบันเทิง และสิ่งต่างๆ กันอย่างทั่วหน้า สิ่งใดที่ท่านต้องการให้ปรับปรุง ต้องการชี้แนะหรือต้องการแลกเปลี่ยน พวกท่านสามารถคอมเม้นได้ ท่านชอบหรือไม่ชอบอะไร ท่านสามารถแจ้งความในใจของท่านออกมาได้ ผู้เขียนจะพิจารณาอย่างสุดความสามารถ
สิ่งสุดท้ายที่กระผมขอขอบคุณพวกท่าน และอยากจะบอกพวกท่าน .... ขอให้ท่านโชคดีในยุคมืด
Felicitas - สำหรับไอเดียสงครามกลางเมืองอัลเบี่ยนและเชื้อพระวงศ์อัลเบี่ยน
จอมพล แมนฮัตตัน คาเฟ่ - สำหรับการเสนอเผ่าพันธุ์อมนุษณ์ “นรเข้” ให้หิรัญภูมิ
Lotharin - สำหรับ Content ฝั่งหิรัญภูมิ
(@botun jonglima)
ผลงานอื่นๆ ของ CometSighted ดูทั้งหมด
ผลงานอื่นๆ ของ CometSighted
"นี่มันแฟนตาซีที่สมจริงที่สุด"
(แจ้งลบ)ถ้าบางคนได้อ่านแล้วคงอาจจะคิดว่านี่มัน war and peace เวอร์ชั่นแฟนตาซีดีๆ นี่เอง บรรยากาศคล้าย all quiet in the western front หน่อยๆ ก็อย่างที่ว่านั้นแหละครับว่า แฟนตาซี ส่วนใหญ่มักจะเจอแค่ดาบกับโล่แล้วก็เวทย์มนต์เท่านั้นมันก็เลยอาจจะจำเจ ซ้ำซาก ไปเลยทีเดียว ซึ่งในเรื่องนี้คุณอาจจะค่อยไม่ได้เห็นดาบโล่เยอะเหมือนเรื่องอื่นๆ แต่เปลี่ยนเป็นการเอาปืนมาใช ... อ่านเพิ่มเติม
ถ้าบางคนได้อ่านแล้วคงอาจจะคิดว่านี่มัน war and peace เวอร์ชั่นแฟนตาซีดีๆ นี่เอง บรรยากาศคล้าย all quiet in the western front หน่อยๆ ก็อย่างที่ว่านั้นแหละครับว่า แฟนตาซี ส่วนใหญ่มักจะเจอแค่ดาบกับโล่แล้วก็เวทย์มนต์เท่านั้นมันก็เลยอาจจะจำเจ ซ้ำซาก ไปเลยทีเดียว ซึ่งในเรื่องนี้คุณอาจจะค่อยไม่ได้เห็นดาบโล่เยอะเหมือนเรื่องอื่นๆ แต่เปลี่ยนเป็นการเอาปืนมาใช้เป็น main weapon ให้อารมณ์เหมือนอ่านนิยายสงครามโลก แล้วเอาเผ่าพันธุ์อื่นนอกจากมนุยษ์มาเพิ่มความเป็นแฟนตาซี เรื่องนี้สอนให้รู้ว่า การเป็นนักเวทย์ไม่ได้ทำให้คุ้มกะลาหัวได้แม้แต่อย่างใด โดยรวมแล้วนิยายเรื่องเป็นอีกทางเลือกให้กับผู้คนที่กำลังมองหานิยายแฟนตาซีที่มีรูปแบบไม่จำเจ ซ้ำซาก (แล้วถ้าอาจจะอ่านแล้วสนุกยิ่งขึ้นผมแนะนำให้ศึกษาประวัติศาสตร์โลกไปด้วย เพื่อเพิ่มอรรถรสในการอ่านนะครับ) อ่านน้อยลง
Rise-After-Storm | 2 พ.ย. 60
3
0
"เป็นบทความที่ลึกซึ้งครับ"
(แจ้งลบ)ตามพาดหัว เรื่องนี้มีเรื่องราวนี้มีต้นกำเนิดประเทศต่างๆหรือประวัติตัวละครอย่างครบท้วนครับแม้แต่ตัวประกอบยังมีประกอบยังมีประวัติของตัวเอง แล้วผู้แต่งเรื่องนี้ก็ยังสามารถอธิบายสิ่งต่างๆบรรยากาศในเรื่องได้ดีอีกด้วย แล้วผู้แต่งก็เขียนตอนไว้เยอะมาก แล้วยังมีเรื่องของประวัติศาสตร์การรบ รวมถึงยุทธวิธีต่างๆนาๆ ไว้อีกด้วยเป็นเรื่องที่ดีมากๆ :v อ่านเพิ่มเติม
ตามพาดหัว เรื่องนี้มีเรื่องราวนี้มีต้นกำเนิดประเทศต่างๆหรือประวัติตัวละครอย่างครบท้วนครับแม้แต่ตัวประกอบยังมีประกอบยังมีประวัติของตัวเอง แล้วผู้แต่งเรื่องนี้ก็ยังสามารถอธิบายสิ่งต่างๆบรรยากาศในเรื่องได้ดีอีกด้วย แล้วผู้แต่งก็เขียนตอนไว้เยอะมาก แล้วยังมีเรื่องของประวัติศาสตร์การรบ รวมถึงยุทธวิธีต่างๆนาๆ ไว้อีกด้วยเป็นเรื่องที่ดีมากๆ :v
ท่านผู้นำ เกือบสูงสุด | 31 ต.ค. 60
1
0
ดูทั้งหมด
"ชอบนางเอก"
(แจ้งลบ)test test abc defg hijk lmnop รัวิวไงวะ https://lyricstranslate.com/en/serbia-strong-god-serb-god-serb.html From Bihac to Petrovac town To Petrovac Town The entire serbian land is attacked the entire land is attacked (REF:) Karadzic will lead the serbs Will lead the serbs Show them that they are not afraid of anything They are not a ... อ่านเพิ่มเติม
test test abc defg hijk lmnop รัวิวไงวะ https://lyricstranslate.com/en/serbia-strong-god-serb-god-serb.html From Bihac to Petrovac town To Petrovac Town The entire serbian land is attacked the entire land is attacked (REF:) Karadzic will lead the serbs Will lead the serbs Show them that they are not afraid of anything They are not afraid of anything Croatian fascists have woken up Croatian fascists, Don't touch our country Our country (REF:) Karadzic will lead the serbs Will lead the serbs Show them that they are not afraid of anything They are not afraid of anything From the Krajina, the wolves are coming The wolves are coming Be afraid, fascists and turks Fascists and turks (REF:) Karadzic will lead the serbs Will lead the serbs Show them that they are not afraid of anything They are not afraid of anything In defense of the serbian people Defence of the serbian people We fight, glory to our freedom Glory to our freedom (REF:) Karadzic will lead the serbs Will lead the serbs Show them that they are not afraid of anything They are not afraid of anything Show them that they are not afraid of anything They are not afraid of anything อ่านน้อยลง
tleinwza | 14 ก.ค. 61
0
4
"นี่มันแฟนตาซีที่สมจริงที่สุด"
(แจ้งลบ)ถ้าบางคนได้อ่านแล้วคงอาจจะคิดว่านี่มัน war and peace เวอร์ชั่นแฟนตาซีดีๆ นี่เอง บรรยากาศคล้าย all quiet in the western front หน่อยๆ ก็อย่างที่ว่านั้นแหละครับว่า แฟนตาซี ส่วนใหญ่มักจะเจอแค่ดาบกับโล่แล้วก็เวทย์มนต์เท่านั้นมันก็เลยอาจจะจำเจ ซ้ำซาก ไปเลยทีเดียว ซึ่งในเรื่องนี้คุณอาจจะค่อยไม่ได้เห็นดาบโล่เยอะเหมือนเรื่องอื่นๆ แต่เปลี่ยนเป็นการเอาปืนมาใช ... อ่านเพิ่มเติม
ถ้าบางคนได้อ่านแล้วคงอาจจะคิดว่านี่มัน war and peace เวอร์ชั่นแฟนตาซีดีๆ นี่เอง บรรยากาศคล้าย all quiet in the western front หน่อยๆ ก็อย่างที่ว่านั้นแหละครับว่า แฟนตาซี ส่วนใหญ่มักจะเจอแค่ดาบกับโล่แล้วก็เวทย์มนต์เท่านั้นมันก็เลยอาจจะจำเจ ซ้ำซาก ไปเลยทีเดียว ซึ่งในเรื่องนี้คุณอาจจะค่อยไม่ได้เห็นดาบโล่เยอะเหมือนเรื่องอื่นๆ แต่เปลี่ยนเป็นการเอาปืนมาใช้เป็น main weapon ให้อารมณ์เหมือนอ่านนิยายสงครามโลก แล้วเอาเผ่าพันธุ์อื่นนอกจากมนุยษ์มาเพิ่มความเป็นแฟนตาซี เรื่องนี้สอนให้รู้ว่า การเป็นนักเวทย์ไม่ได้ทำให้คุ้มกะลาหัวได้แม้แต่อย่างใด โดยรวมแล้วนิยายเรื่องเป็นอีกทางเลือกให้กับผู้คนที่กำลังมองหานิยายแฟนตาซีที่มีรูปแบบไม่จำเจ ซ้ำซาก (แล้วถ้าอาจจะอ่านแล้วสนุกยิ่งขึ้นผมแนะนำให้ศึกษาประวัติศาสตร์โลกไปด้วย เพื่อเพิ่มอรรถรสในการอ่านนะครับ) อ่านน้อยลง
Rise-After-Storm | 2 พ.ย. 60
3
0
ดูทั้งหมด
ความคิดเห็น