หลังจากที่ดูจักรยานเสร็จพ่อของชมพู่ก็ได้ พาต้นไปวัดไซส์ตัวพร้อมกับเลือกรองเท้าปั่นให้
"รองเท้าปั่นจักรยานนี่สำคัญยังไงงั้นเหรอครับ"
ต้นถามพ่อชมพู่ ขึ้นมาด้วยความสงสัยในขณะที่กำลังสวมลองใส่รองเท้าปั่น ว่ามีไว้ทำอะไรและสำคัญยังไงถึงจะต้องใส่
"รองเท้าปั่นหรือรองเท้าคลีทนะ ปกติเวลาเราปั่นนะจะใช้การกดของเท้าและขาลงไปอย่างเดียวแต่ เจ้านี่จะพิเศษกว่ารองเท้าทั่วไป ตรงที่ว่าจะมีตัวล็อกติดอยู่ที่ใต้เท้าตรงปลายๆ ส่วนที่จักรยานนะจะมีตัวล็อกที่จะติดกับตัวที่อยู่ใต้เท้านี้ เวลานายล็อกเท้ากับที่เหยียบแล้วมันจะทำให้นายปั่นได้ดีขึ้นเหนื่อยน้อยลงเพราะ ว่านายจะลดแรงที่จะกดลงไปอย่างเดียวแต่นายจะดึงตัวเหยียบขึ้นมาด้วย อีกทั้งถ้าฝึกดีๆ มันจะช่วยลดแรงนายเยอะมากแถมยังส่งแรงไปที่จักรยาน 100% อีกต่างหาก"
ภาพตัวอย่าง
ต้นเอียงคอสงสัยในสิ่งที่พ่อชมพู่พูดไป ชมพู่จึงพูดอีกครั้งแบบสรุปง่ายๆ ให้ต้นฟังอีกรอบ เพื่อที่จะได้เข้าใจ
"ง่ายๆก็คือมันจะทำให้นายเหนื่อยน้อยและส่งแรงให้กับจักรยานได้มากขึ้นน่ะ"
ต้นพยักหน้าเข้าใจทันที ก่อนที่จะลองลุกขึ้นยืนหลังจากใส่เสร็จ และพ่อของชมพู่ก็ได้พาไปลองปลดล็อกและล็อกคลีทกับที่เหยียบทันที โดยที่ที่พ่อของชมพู่พาไปนั้นมีจักรยานที่ไว้สำหรับทดลองและวัดไซส์ขนาดให้เข้ากับจักรยานวางอยู่
หรือก็คือฟิตติ่งสำหรับคนที่จะซื้อจักรยานนั่นเอง ต้นขึ้นค่อมจักรยานที่พ่อชมพู่ได้จัดไว้ ตัวจักรยานที่ต้นขึ้นนั้นเป็นเสือหมอบ ที่มีเทรนเนอร์จักรยานหรือที่ออกกำลังกายในร่มสำหรับจักรยานที่ไว้ปั่นอยู่กับที่
"เอาละลองเอาขาซ้าย เหยียบดูก่อน ให้ขยับปลายเท้าเข้าตัวจักรยานจนล็อกนะ"
แก๊ก--เสียงรองเท้าคลีทกับที่เหยียบล็อกเข้ากัน และทำแบบนี้อีกข้างและลองปั่นตามที่พ่อชมพู่สั่งทันที
"อะ รู้สึกสบายขึ้นเยอะเลยละ ไ่ต้องกลัวที่เท้าจะหลุดออกจากที่เหยียบอีก--"
ต้นยิ้มขึ้นมา
"ถ้าจะออกให้ เธอขยับหลังเท้าออกจากตัวจักรยานละ"
ต้นหยุดปั่นและขยับตามที่บอก เท้าข้างขวาของต้นก็หลุดออกจากที่เหยียบก่อนจะทำแบบนี้กับอีกข้าง และออกจากจักรยานที่ต้นปั่นเมื่อกี้
"เอาละ ให้จำไว้ว่า ถ้าถอดข้างใดข้างนึงแล้วให้ เอาเท้ายันพื้นไว้แล้วถอดอีกข้าง"
ต้นพยักหน้าเข้าใจ และถอดรองเท้าคลีทออกพร้อมกับยื่นให้พ่อชมพู่ไปใส่กล่องให้เรียบร้อยเพื่อที่จะได้นำกลับบ้าน
"อะจริงสิ ต้นนายก็ลองดูหมวกจักรยานไปด้วยเลยละกัน"
"เรื่องนั้นน้าเตรียมไว้แล้วละ เป็นหมวกที่ทางสมาคมเตรียมไว้ให้อยู่แล้ว"
ชมพู่ยื่นหมวกกันน็อกสีดำให้ เป็นรูปทรงมาตรฐาน พร้อมกับเเว่นจักรยานสำหรับกันแดด และกันฝุ่นกับเศษหินเข้าตาให้ต้น ลองใส่ หลังจากใส่เสร็จก็ได้คืนไป เพื่อที่จะได้นำใส่ถุงพร้อมกับรองเท้ากลับบ้านเช่นกันเพราะยังไงเรื่องค่าใช้จ่ายทางสมาคมที่สนับสนุนออกให้หมดแล้วสำหรับ ทุกโรงเรียนที่อยู่ในสมาคมเท่านั้น
หลังจากนั้นพ่อของชมพู่ก็ได้ สอนต้นและพูเรื่องการใช้อุปกรณ์ให้ถูกต้องรวม ถึงการกินอาหารที่เหมาะสมและ การพักผ่อน รวมถึงเลี้ยงข้าวเที่ยงอีกด้วย
"ขอบคุณมากครับน้าแพท"
ต้นไหว้ขอบคุณน้าแพทที่แนะนำเทคนิคต่างๆ รวมถึงวิธีการใช้อุปกรณ์ให้ถูกต้อง
"ไม่เป็นไรหรอก เรื่องแค่นี้เอง ถ้ามีอะไรก็มาหา น้าที่ร้านได้ทุกเมื่อนะ"
'พ่อของชมพู่ใจดี ผิดกับรูปร่างเลยละ อืม นี่ก็มาตั้งแต่เช้ายันเย็นเลยแหะ--'
ต้นและพูลาน้าแพทและชมพู่ ก่อนจะพากันกลับบ้านไป
--------------
"พรุ้งนี้ ครูมานีนัดซ้อมตอนเย็นนะ รู้สึกจะมีโค้ชมาฝึกสอนให้ด้วยนะ"
"พรุ้งนี้สิน่ะ ว่าแต่นายเนี่ย ไม่น่าเชื่อเลยนะว่า จะเล่นกีฬาด้วยนะ"
ต้นออกมาจากบ้าน หลังจากเก็บของเข้าบ้านเรียบร้อยแล้ว พร้อมกับไปนั่งเล่นกับพู ที่โต๊ะหินอ่อนเหมือนเดิม ถึงแม้ตอนนี้จะ 4 โมง แล้วก็ตาม
"พอดีพ่อของเรา พาเริ่มปั่นตั้งแต่ ม.ต้นแล้วละ แต่ที่นายไม่เห็นเพราะว่าผมซ้อมช่วงปิดเทอมนะ"
"งี้เอง--แต่ก็ไม่เข้าใจนะว่าพวกเขาเเบ่งความถนัดนักปั่นกันยังไงนะ"
ต้นนึกถึงช่วงที่น้าแพทพูดถึง นักปั่นสายสปริ้นหรือนักไต่เขา แต่ก็ไม่ได้ถามอะไรไป
"เรื่องนั้นละก็ แต่ละคนน่ะ มีความถนัดไม่เหมือนกัน"
พูมองไปที่ต้นก่อนจะอธิบาย ด้วยแววตาที่เคร่งนิดๆ
"อย่างนายที่อาจจะถนัดเรื่องจากเพิ่มความเร็วในระยะเวลาสั้นๆ หรือผมที่ถนัดกับการทำความเร็วนิ่งๆ เป็นเวลานานๆ แต่ถ้าให้พูดถึงความถนัดที่แยกออกไปจริงๆ นั่นคือ สปริ้นเตอร์ นักไต่เขา เอ็นดูรานซ์ และ All rounder"
ต้นพยักหน้าเข้าใจ
"อย่างนิว ที่พวกเราแข่งในวันก่อนนั้น เป็นสปริ้นเตอร์ ซึ่งพวกเขาจะไม่ถนัดกับการปั่นขึ้นเขาอย่างมาก แต่จะได้เปรียบเรื่องการทำความเร็วที่สูงมากๆ หรือเนโกะ ที่ถนัดกับความคล่องสูงผสมกับการปั่นขึ้นเขาเก่ง แต่เขานั้นไม่ได้แสดงออกมาในวันที่คัดตัว แต่ยังไงเขาก็เป็นนักไต่เขาที่ลงทางลาดได้เร็วเช่นกัน"
"แล้วไอซ์ละ"
"อย่างไอซ์นะเป็น All rounder นะ แถมดูเหมือนจะเคยเป็นหัวหน้าทีมตอน ม.ต้นด้วย นักปั่นประเภทนี้จะเก่งในทุกๆด้านเลยละ หรือก็คือถนัดทั้งทำความเร็วและขึ้นเขา จึงไม่แปลกหรอก ที่จะทำถึงได้ขนาดนั้น"
ส่วนเอ็นดูรานซ์ จะเป็นสายที่พบในนักแข่งไตรกีฬานะครับ และนักปั่นทีมชาติ หรือที่ฝึกสายนี้จริงๆ จะเป็นนักปั่นที่มีความอดทนสูงและสามารถทำความเร็วได้นานและสามารถปั่นได้ไกล
"งั้นสินะ--"
ต้นคิดสักพักก่อนที่พูจะพูดต่อ
"แล้วนายละ?"
"ผมนะเป็นนักปั่นเอ็นดูรานซ์นะ ที่ผมสามารถลากนายตั้งแต่สเตจแรกยันสเตจสุดท้ายได้ก็เพราะผมฝึกสายนี้โดยเฉพาะนะ"
พูยิ้มอ่อน จนต้นมองไปทางอื่น
"แต่ว่านายนะ เป็น All rounder แน่นอนทั้งการเร่งความเร็วหนี แถมยังสามารถลากตอนช่วงปั่นขึ้นเนินได้สบายๆอีก"
ต้นหันกลับมามองพู ก่อนจะพูดกลับไป ด้วยความเข้าใจที่พูบอกมาทั้งหมด
"งั้นสินะ เอาเถอะพรุ้งนี้ซ้อมวันแรก สินะ งั้นเราไปพักก่อนละ ปวดขาชะมัด"
"อื้มพรุ้งนี้เจอกันนะ"
ต้นลุกขึ้นพร้อมกับยืดเส้นยืดสาย ก่อนจะส่งพูกลับบ้านไป และเข้าบ้านเพื่อที่จะพักผ่อนสำหรับวันพรุ้งนี้ ด้วยรอยยิ้มเล็กๆ ที่สนุกกับวันนี้ ทั้งวัน
(ตอนนี้อธิบายเกี่ยวกับจักรยานอาจจะงงๆนะครับ)
--------------
ไรท์: ฝากแชร์และติดตามกันด้วยนะครับ นี่เป็นเรื่องแรกที่ผมแต่ง ฝากเนื้อฝากตัวด้วยนะครับ
อย่าลืมให้กำลังใจกันละ :3
ผิดพลาดตรงไหนขออภัยด้วยนะครับ