[รามเกียรติ์] รอยจูบนิลพัท - นิยาย [รามเกียรติ์] รอยจูบนิลพัท : Dek-D.com - Writer
×

    [รามเกียรติ์] รอยจูบนิลพัท

    เทียนไขชังนิลพัทอย่างกับอะไรดี แต่เพราะเหตุการณ์บังคับ เขาจึงต้องตามติดไปแทบทุกที่ แต่แล้วหัวใจกลับไม่รักดี ทั้งที่เธอกับเขาไม่มีอะไรเข้ากันได้เลยสักนิด... (ภาคต่อ หนุมานถวายรัก)

    ผู้เข้าชมรวม

    18,797

    ผู้เข้าชมเดือนนี้

    80

    ผู้เข้าชมรวม


    18.79K

    ความคิดเห็น


    454

    คนติดตาม


    620
    จำนวนตอน :  16 ตอน
    อัปเดตล่าสุด :  13 เม.ย. 67 / 10:42 น.
    ตั้งค่าการอ่าน

    ค่าเริ่มต้น

    • เลื่อนอัตโนมัติ


    บทนำ

     


                   “บ้า! บ้าบอที่สุด!” เทียนไขบ่นไปตลอดทางที่เดินขึ้นเขา ตอนนี้เท้าเจ็บระบมไปหมด หลังจากที่เดินมาเกือบครึ่งค่อนวัน

                   หญิงสาวเงยหน้าขึ้นมองท้องฟ้าอย่างมีความหวังว่าจะเป็นร่างของนิลพัท แต่กลับไร้วี่แวว

                   อย่าให้เธอเจอเขาอีกครั้ง แม่จะด่ากราดจนลืมว่าเป็นลิงไปเลย!

                   เทียนไขคิดอย่างขุ่นเคืองใจ ก่อนจะทิ้งตัวลงนั่งใต้ต้นไม้ อาศัยร่มเงาหลบแสงแดด เธอยกฝ่าเท้าที่ทั้งบวมและแดงขึ้นมาดู เห็นได้ชัดว่าเธอไม่มีทางเดินทางจากเกาะลงกาไปถึงเมืองอโยธยาได้ด้วยสองเท้าเปล่าแน่ๆ

                   “โอ๊ย!” เธอเผลอร้องออกมาเมื่อมือไปแตะที่รอยพองใต้ฝ่าเท้า ก่อนจะวางเท้าลงบนใบไม้พร้อมกับเอนกายพิงและหลับไปด้วยความเหนื่อยอ่อน เวลานี้เทียนไขคิดถึงพี่สาวตัวเองเหลือเกิน ไม่รู้ว่าป่านนี้ฝาแฝดอีกคนกำลังทำอะไรอยู่

                   ขณะที่เทียนไขกำลังจะเคลิ้มหลับไปด้วยความเหนื่อยอ่อน เงาของใครบางคนก็ทาบทับลงมา

                   “ว่าอย่างไรเล่าแม่คนฉลาดปราดเปรื่อง หากไร้ข้าเจ้ามันก็เป็นเพียงมนุษย์น้อย”

                   เสียงทุ้มห้าวคุ้นหู ทำให้เทียนไขหายง่วงนอนทันที

                   “นิลพัท!” หญิงสาวลืมตัวผุดลุกขึ้นยืน ก่อนจะร้องโอดโอยเมื่อลืมไปว่าฝ่าเท้าเธอเจ็บระบมมากแค่ไหน เทียนไขทรงตัวบนฝ่าเท้าทั้งสองไม่ไหวจนโถมเข้าหาวานรหนุ่มตรงหน้า เขาฉวยคว้าเอวเธอไว้ ดวงตาคมสีนิลทอดมองลงมา

                   แล้วลมหายใจของเทียนไขก็เกิดอาการติดขัดขึ้นมาเสียดื้อๆ แต่เธอก็เก็บอาการนั้นอย่างรวดเร็วพร้อมกับถลึงตาใส่วานรนิลอย่างที่มักทำเป็นประจำ

                   “พาฉันกลับอโยธยาเดี๋ยวนี้เลย!

                   “ไม่!” เขาปฏิเสธทันควัน

                   แต่ก่อนที่หญิงสาวจะออกคำสั่งอีกครั้ง นิลพัทก็อุ้มเธอขึ้นมาและเหาะทะยานขึ้นไปบนฟ้า

                   “นายกำลังจะพาฉันไปไหน!” เธอร้องถาม

                   นิลพัทไม่ยอมตอบ แต่กลับพาเธอถลาร่อนลงตรงถ้ำที่เธอใช้เวลาครึ่งค่อนวันเดินจากมา

                   “ฉันจะกลับอโยธยา!” ทันทีที่ถึงพื้นเธอก็ออกคำสั่ง

                   “สำนึกไว้บ้างว่าอารมณ์ร้อนของเจ้าจักทำทุกอย่างพินาศ” วานรหนุ่มพูดเสียงเข้ม เขาปล่อยเธอเป็นอิสระอีกครั้ง แต่ถึงอย่างนั้นแขนก็เลื่อนมาประคองแผ่นหลังช่วยผ่อนน้ำหนักที่จะลงไปบนฝ่าเท้าบวมแดงนั่น

                   “จะพินาศได้ยังไง ฉันแค่จะกลับไปเยี่ยมเทียนหอม”

                   นิลพัทพ่นลมหายใจอย่างเหนื่อยหน่ายระคนหงุดหงิด ก่อนจะพูดเสียงเรียบว่า “ถ้าเจ้าอยากให้อินทรชิตล่วงรู้ว่าเทียนหอมอยู่ที่ใด ก็ลองเดินเท้ากลับไปอีกครา แล้วรอความพินาศที่จะบังเกิดเพราะตัวเจ้าเอง”

                   เทียนไขถึงกับตอบไม่ออก เธอได้แต่นิ่งเงียบสงบปากสงบคำและปล่อยให้วานรนิลประคองไปนั่งที่ด้านใน

                   ทันทีที่เขาช่วยให้เธอนั่งลงนิ่งๆแล้ว วานรหนุ่มก็หมุนตัวหันหลังให้ และเมื่อเขาเดินไปได้เพียงสามก้าว

                   “นายยังรู้สึกอะไรกับพี่สาวฉันอีกเหรอ”

                   เทียนไขแทบอยากจะกัดลิ้นตัวเองที่เผลอหลุดปากถามออกไปแบบนี้



     

                   นิลพัทอดที่จะหงุดหงิดคำถามของเทียนไขไม่ได้ เขาจะคิดพิศวาสพี่สาวนางได้อย่างไร ในเมื่อนางเอาแต่ทำให้เขาละเมอจนฝันถึงทุกราตรี

                   ถ้าไม่ใช่เพราะจุมพิตในครานั้น...

                   วานรหนุ่มพยายามจะไม่หวนนึกถึง แต่ยิ่งห้ามเหมือนยิ่งยุเมื่อหัวใจไม่รักดีเอาแต่จะเพ้อถึงอยู่บ่อยครั้ง แม้ว่านางจะไม่ล่วงรู้เลยว่าเป็นเขานั่นเองที่ขโมยจุมพิตนางในราตรีนั้น และเขายังจดจำเหตุการณ์ในวันนั้นได้ดี

     

                   นายเห็นหรือยังล่ะ!’ นางพูดอย่างถือดีชวนน่าหมั่นไส้ ฉันไม่ได้ไม่มีเสน่ห์สักหน่อย เห็นไหม มีคนอยากจูบกับฉันด้วย

                   หึ!’ วานรนิลอดหัวเราะเสียงเบาไม่ได้ แต่นางกลับถลึงตาใส่เพราะคิดว่าเขาหัวเราะเยาะนาง หญิงสาวเชิดหน้าขึ้นสูง ก่อนจะเดินตรงเข้ามาเอานิ้วจิ้มแผงอกกว้างของเขาพร้อมกับเอ่ยว่า

                พนันกันได้ว่าผู้ชายคนนั้นต้องหน้าตาดีและฉลาด แถมสายตาดีกว่านายพันเท่า

                   จริงรึนิลพัทเลิกคิ้วสูงด้วยท่าทางยียวน

                แน่นอนสิ!’ เทียนไขเอ่ยด้วยท่าทางดุดัน

                ราตรีนี้มืดหนา เจ้าเชื่อได้อย่างไรว่าชายผู้นั้นหน้าตาดี ฉลาดเฉลียว อีกทั้งสายตาดีกว่าตัวข้า เจ้ารู้จักชายผู้นั้นรึ

                   ตอนนี้อาจจะยังนางพูดแต่ก็รีบเสริมอย่างไม่ยอมแพ้ว่า แต่คอยดูเถอะ ฉันจะพาผู้ชายคนนี้มาให้นายรู้จักว่าเขาดีกว่านายทุกอย่าง

                   เจ้ารู้แน่แก่ใจรึวานรหนุ่มถามต่อและพยายามไม่หลุดหัวเราะออกมา เพราะจะเป็นไปได้อย่างไรเมื่อชายผู้นั้นก็คือตัวเขาเอง แต่ท่าทางกลั้นยิ้มของเขาคงทำให้นางเดือดดาลเป็นแน่แท้ เมื่อนางเอ่ยอย่างจริงจังว่า

                   รู้ซะยิ่งกว่ารู้ เชอะ! แล้วถ้าฉันเจอเขาเมื่อไหร่ ฉันจะลบคำสบประมาทของนายที่หาว่าฉันเป็นคนไร้เสน่ห์

                   แล้วนิลพัทก็อดไม่ได้ที่จะหลุดหัวเราะออกมา แต่เมื่อนางพูดประโยคถัดไปวานรหนุ่มก็ถึงกับหัวเราะไม่ออก

                ฉันจะแต่งงานกับเขา เชื่อได้เลยว่าเขาจูบเก่งกว่านายแน่ๆ!’

     

                   แล้วรู้ตัวอีกทีเขาก็ไม่อาจคะนึงหาพี่สาวของนางได้อีกต่อไป เมื่อยามนี้อุราของเขานั้นว่างเปล่า เพราะหัวใจเก็บผ้าผ่อนหนีตามไปอยู่กับนางแล้วทั้งดวง...

                


      

                   วิรุญมุขกำลังใช้ไม้ท่อนเขี่ยให้ไฟในกองฟืนยิ่งคุ สายตาของเขาอดไม่ได้ที่เลื่อนไปมองเทียนไขที่นั่งเหม่อมองท้องฟ้ายามค่ำคืน แสงไฟสีส้มส่องกระทบไปที่ใบหน้าของนาง แม้จะเห็นเพียงด้านข้าง แต่ก็ทำให้หัวใจอสุรีหนุ่มสั่นไหวจนต้องรีบหันกลับมาจดจ่อกับกองไฟพร้อมกับพร่ำบอกตัวเองในใจอย่างเอาเป็นเอาตาย

                   นางเป็นพี่สาว! นางเป็นพี่สาว! นางเป็นพี่สาว!

                   แต่แล้วก็มีอีกเสียงหนึ่งดังคัดค้านขึ้นมาว่า

                   ฮะเฮ้ย! แต่นางเป็นพี่สาวต่างสายเลือด ซ้ำเป็นมนุษย์ มิใช่กุมภัณฑ์ ไยต้องคิดให้มากความ

                   อสุราหนุ่มสะบัดเสียงนั้นออกไป แล้วเสียงหวานของนางก็ทำให้เขาตกใจจนทำไม้หลุดมือ

                   “วิรุญมุข ถ้าง่วงก็ไปนอนก่อนนะ เดี๋ยวคืนนี้ฉันจะอยู่เฝ้าให้เอง” นางบอก

                   “ข้าจักทำเยี่ยงนั้นได้อย่างไร เจ้านั่นแลที่ควรเข้านอนเสียที ประเดี๋ยวข้าอยู่โยงเอง” วิรุญมุขปฏิเสธ

                   เทียนไขพ่นลมหายใจอย่างหงุดหงิด ก่อนจะเดินมาทิ้งตัวลงนั่งข้างอสุรา และทำในสิ่งที่เขาต้องตกใจ เมื่อนางยื่นมือมาหยิกแก้มเขาเสียเต็มแรง

                   “เดี๋ยวเถอะ! ดึกแล้วนายนั่นแหละต้องไปนอน”

                   กุมภัณฑ์หนุ่มรีบปัดมือนางออก

                   “ไม่! ชายชาตรีผู้ใดจักปล่อยให้นารีอยู่โยง เจ้านั่นแลไปนอนเสีย เทียนไข” เขาว่าด้วยท่าทางเอาจริงเอาจัง แล้ววิรุญมุขก็หายใจสะดุด เมื่อหญิงสาวกำลังนั่งเท้าคางจ้องมองเขาพร้อมกับรอยยิ้มที่ทำให้หัวใจในอุราเริ่มเต้นผิดจังหวะ

                   “โธ่! ไอ้เด็กนี่ เพิ่งโกนจุกไปไม่นานเองก็รีบทำตัวเป็นผู้ใหญ่ซะแล้ว”

                   อสุราหนุ่มรีบเลื่อนสายตากลับไปที่กองไฟตรงหน้าอีกครั้ง ก่อนจะเริ่มพร่ำบอกตัวเองในใจว่า

                   ท่องจำเอาไว้วิรุญมุข! นางเป็นพี่สาว!



    *******************



    ใครที่เข้ามายังไม่เคยอ่านเรื่องแรก (เพราะเรื่องนี้เป็นภาคต่อ) เชิญที่ลิงค์นี้ได้เลยค่ะ จิ้มๆๆ >> หนุมานถวายรัก

    ภาพปกนิยาย (ชั่วคราว)

    https://unsplash.com/photos/pFW7o43y-FM? utm_source=unsplash&utm_medium=referral&utm_content=creditShareLink


    TB

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น