ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    BLACK TECH INTERNET CAFE SYSTEM ระบบอินเทอร์เน็ตคาเฟ่ในต่างโลก (นิยายแปล)

    ลำดับตอนที่ #81 : Watching the New Game

    • เนื้อหาตอนนี้เปิดให้อ่าน
    • 6.02K
      716
      2 พ.ย. 62

    ตอนที่ 79 
    Watching the New Game Legend of the swoed and fairy
     (เฝ้าดูเกมใหม่ตำนานดาบและนางฟ้า)

    ฟางฉีได้ทำการฝึกฝนอย่างหนักมาหลายคืนติดต่อกันและเขายังมีเวลาพักผ่อนที่ไม่เพียงพอ ดังนั้นเขาจึงโกรธมากที่พวกเขามารบกวนเวลานอนของเขาในขณะที่เขากำลังใช้เวลาในการพักผ่อนอันมีค่าของเขา 

    ฝูงชนที่คาดหวังว่าเมื่อพวกเขาได้ทำการบังคับให้เจ้าของร้านมาเปิดร้านในตอนเช้ามืดแล้วจะได้เวลาในการเปิดร้านเพิ่มเติม ความจริงก็คือเจียงเสี่ยวเหยูก็ไม่ได้นอนหลับสนิทเช่นเดียวกับฟางฉีดังนั้นวันนี้ฟางฉีจึงบอกให้เธอเข้านอนแต่หัวค่ำเช่นกัน

    ฟางฉีทำการผักผ่อนเป็นเวลาสั้นๆเพื่อเติมพลังให้ตัวเองอีกครั้งก่อนที่

    จากนั้นเขาก็นั่งขัดสมาธิอยู่บนเตียงของเขาทำการรวบรวมสมาธิและฝึกฝนการใช้พลังงานฉีในการควบคุมสิ่งต่างๆ

    ทันใดนั้นระบบก็ส่งภารกิจใหม่มาให้เขา

    (Skill Expert : มีความเชี่ยวชาญทักษะในระดับ 10 และฝึกฝนเทคนิคการควบคุมดาบให้ถึงระดับ 10 ปัจจุบัน (2/10)

    รางวัล : การบินด้วยดาบ(ระดับเชี่ยวชาญ)

    คำอธิบายรายละเอียดภารกิจ : คุณควรขอบคุณระบบที่ทรงพลังของคุณ)

    "หืม" ฟางฉีรู้สึกตื่นเต้นเมื่อเขาอ่านภารกิจใหม่ของเขาจนกระทั่งเขาได้อ่านคำอธิบายภารกิจ เขาเกือบจะหัวเราะออกมาดังๆ "ระบบคุณจะลดคำเยินยอให้น้อยลงได้ไหม"

    ระบบของเขากลับไม่ตอบสนองต่อคำถามของฟางฉี

    ฟางฉีกล่าวเสริมต่อไปอีกว่า "คุณอายเกินกว่าที่จะพูกอะไรออกมาเหรอ?"

    ระบบก็ยังไม่ตอบสนองต่อฟางฉีอยู่ดี

    อย่างไรก็ตามเขาต้องยอมรับว่าภารกิจใหม่ของระบบจะช่วยให้เขาประหยัดเวลาได้มากในขณะที่ตัวละครหลักเรียนรู้สิ่งต่างๆอย่างรวดเร็ว แม้แต่นาหลันหมิ่งซื่อก็จะไม่สามารถตามเขาทันได้

    ยังมีใครอีกบ้างที่จำเทคนิคการควบคุมดาบพื้นฐานได้หลังจากที่ได้ดูเพียงครั้งเดียวยกเว้นไว้คนเดียวหลี่เชียวเหยา

    สิ่งที่ดีที่สุดก็คือการฆ่าสัตว์ประหลาดใน Legend of the swoed and fairy (ตำนานดาบและนางฟ้า)มันช่วยเพิ่มทักษะและคะแนนประสบการณ์ เช่นเดียวกับเกม Diablo ที่ผู้เล่นสามารถเพิ่มคะแนนให้กับทักษะเพื่อเพิ่มระดับให้เร็วขึ้น

    ดังนั้นฟางฉีจึงมีความเชี่ยวชาญในเรื่องนี้หรือแม้กระทั่งทักษะหลักตราบใดเท่าที่เขามีคะแนนทักษะเพียงพอและอยู่ในระดับสูงเพียงพอ

    โดยสรุปการมีความเชี่ยวชาญในสิบทักษะในเกมนั้นมันง่ายกว่าเมื่อเอามาเปรียบเทียบกับโลกแห่งความเป็นจริง ไม่เช่นนนั้นฟางฉีอาจจะไม่เชี่ยชาญทั้งสองทักษะได้

    เมื่อเขาได้รับภารกิจใหม่ของระบบมาแล้ว ฟางฉีก็ตื่นแต่เช้าตรูของวันรุ่งขึ้น เขาก็ตระหนักได้ว่าเขายังต้องพึ่งพาเกมของเขาเพื่อที่จะมีพลังมากยิ่งขึ้น

    ในเวลา 7.00 น.เขาตื่นขึ้นมาพร้อมกับเจียงเสี่ยวหยูและขอให้เธอทำความสะอาดร้านค้าพร้อมกันกับเขา

    วันนี้ไม่มีใครกล้ามาที่ร้านเร็วกว่าปกติและมาปลุกให้เขาตื่นก่อนเวลาเปิดร้านอย่างเช่นเมื่อวานนี้ เมื่อร้านอินเทอร์เน็ตเปิดทำการแล้วเวลา 8.00 น.ลูกค้าก็เริ่มเข้ามาใช้บริการในร้านทีละคนๆ ในไม่ช้าอันเฉิง,โอหยางเฉิงและบุเชก็เดินเข้ามาพร้อมกับรอยคล้ำใต้ตาของเขา

    "เฮ้ทำไมวันนี้พวกเจ้าถึงพากันแต่งหน้าด้วยสีดำ?" ฟางฉีถามอย่างอยากรู้

    ใบหน้าของพวกเขาพากันกระตุกเมื่อได้ยินคำถามของฟางฉีถามถึงรอยคล้ำใต้ตา

    เมื่อวานนี้ไม่เพียงแต่พวกเขาไม่ได้เล่นเกมครบหกชั่วโมงแล้ว พวกเขากลับต้องถูกลงโทษโดยนาหลันฮ่องหวูและคนอื่นๆ

    อย่างไรก็ตามแทนที่พวกเขาจะตอบกลับพวกเขาต่างพากันมุ่งหน้าไปที่คอมพิวเตอร์ทันที

    ในไม่ช้าฟางฉีก็มองเห็นซองชิงเฟิงและคนอื่นๆก็เดินเข้ามาพร้อมกับรอยคล้ำใต้ตาของพวกเขา

    "เจ้าของร้านคิดว่าเกิดอะไรขึ้นกับพวกเขา" เจียงเสี่ยวหยูอยากรู้เช่นกันว่าเกิดอะไรขึ้นกับพวกเขากันแน่หลายคนที่มีสีดำอยู่บนหน้า

    "เมื่อคืนนี้พวกเรานอนไม่หลับเท่าไร"ซองชิงเฟิงรู้สึกอึดอัดใจตั้งแต่ที่เจียงเสี่ยวหยูจ้องมองเขาแล้วหันไปกระซิบกับฟางฉีเขาก็รู้ทันทีว่าทั้งสองกำลังคุยเกี่ยวกับพวกตนอยู่

    ฟางฉีขี้เกียจเกินไปที่จะโต้เถียงกับพวกเขาเขาจึงตัดสินใจที่จะไปทำภารกิจต่อ

    ทักษะทั้งสองอย่างที่เขามีก็คือทักษะการใช้มีดสั้นและการใช้ปืนใน Resident Evil เขาใช้เวลากับพวกมันมากจนเขาเชี่ยวชาญมากกว่าทุกคนในร้านเสียอีก

    ฟางฉีไม่ทราบว่ามาตรฐานการพิจราณาความเชี่ยวชาญในเกม diablo นั้นเป็นอย่างไรแต่เขาก็คิดว่ามันน่าจะเต็มการอัพทักษะให้ระดับเต็ม 10 ขึ้นไปจะดี ในกลุ่มของเขายังไม่มีใครอัพระดับเป็นระดับ 10 แต่เขาก็เชื่อว่าเมื่อ Act III ถูกเปิดใช้งานเขาจะกลายเป็นผู้เชี่ยวชาญในทันที

    ดังนั้นสิ่งที่เหลืออยู่จึงมีความเชี่ยวชาญในทักษะที่ระบุไว้ใน Legend of the swoed and fairy (ตำนานดาบและนางฟ้า)

    เกมนี้ไม่ได้เป็นเกมวางแผนแบบเทิร์นเบสอีกต่อไปแล้วเนื่องจากLegend of the swoed and fairy (ตำนานดาบและนางฟ้า)เป็นเหมือนชีวิตจริงทำให้ผู้เล่นที่มีความสามารถมีพลังมากขึ้น

    เนื่องจากฟางฉีเพิ่งเล่นเกมเขาไม่รู้จักดทคนิคมากมาย อย่างไรก็ตามเขาต้องการเพียงรู้เทคนิคการควบคุมดาบขั้นพื้นฐานให้มากที่สุดเพื่อต่อสู้กับศัตรู

    .........................

    หลังจากที่เล่นมาทั้งวันแล้วเนื้อเรื่องของเกมก็ได้ก้าวเข้าสู่ส่วนที่หลี่เสี่ยวเหยาต้องขึ้นมาต่อสู้บนเวทีเพื่อทำการต่อสู้กับคู่หมั้น

    "ตัวละครหลักพบว่าตัวเองมีคู่หมั้นที่สวยงามอีกคนหนึ่ง?"

    "หลิงกลายเป็นสัตว์ปีศาจมาร?"

    ในขณะที่พวกเขารู้สึกหึงหวงและอิจฉาที่หลี่เสี่ยวเหยามีคู่หมั้นที่สวยงามอีกหนึ่งคน พวกเขาก็รู้สึกอกหักไปพร้อมๆกันหลังจากที่ได้ทราบความจริงว่าหลิงนั้น "เธอเป็นปีศาจงูได้อย่างไร"

    "แม้ว่าเธอจะเป็นปีศาจแต่เธอก็เป็นปีศาจที่ดีใช่มั้ย" ฝูงชนที่รวมตัวกันอยู่ด้านหลังฟางฉีต่างต้องการที่จะดูเนื้อหาส่วนที่เหลือ

    แม้ว่าเกมนี้จะเน้นไปที่ผู้ปลูกฝังเป็นหลัก แต่ก็มีหลายสิ่งที่ไม่มีอยู่ในโลกนี้ ตัวอย่างเช่น เทคนิคการควบคุมดาบ,ดาบอมตะและสิ่งใหม่ที่ค่อยปรากฏออกมาอย่างช้าๆทำให้ผู้เล่นสนใจเกมมากขนาดไหนและมันน่าค้นหามากเท่าไร

    ความจริงที่ว่าLegend of the swoed and fairy (ตำนานดาบและนางฟ้า)นั้นคล้ายกับโลกปัจจุบันของพวกเขาไม่ได้ทำให้ผู้เล่นเบื่อ แต่พวกเขาพบว่าง่ายกว่าที่จะถูกดึงดูดเข้าไปในเกม

    มันแตกต่างจากนักรบสวรรค์ที่โดนถูกทิ้งเอาไว้อย่างน่ากลัว

    ในฐานะแฟนตัวยงของเนื้อหาในเกมแล้ว ชิเชี่ยวเฟิงชอบเกมนี้มากเพราะเธอรู้สึกเหมือนกำลังเล่าเรื่องที่สวยงามที่เต็มไปด้วยเสียงหัวเราะ ความผิดหวัง ความสุขและความเศร้าปะปนกันไป

    สำหรับเธอแล้ว Legend of the swoed and fairy (ตำนานดาบและนางฟ้า) เป็นภาพวาดที่มีสีสันสดใสที่คอยเชื่อมโยงตัวละครทั้งหมดและทำให้ผู้เล่นสงสัยว่าตัวละครนั้นอาศัยอยู่ที่ไหนสักแห่งบนโลกที่พวกเขาไม่รู้จัก

    ในไม่ช้าพวกเขาต่างก็รู้สึกว่าเรื่องราวกำลังเกิดขึ้นที่ใดที่หนึ่งในโลกนี้ พวกเขาเชื่ออย่างแท้จริงว่าชายหนุ่มที่ชื่อหลี่เสี่ยวเหยาที่กำลังออกเดินทางไปที่Nanzhaoกับหลิงนั้นมีอยู่จริง!

    ในฐานะที่เป็นผู้ชายที่ได้เห็นทุกสิ่งทุกอย่างผ่านชีวิตเขามาก่อนนาหลันฮ่องหวูรู้สึกเหมือนว่าเขาได้ย้อนเวลากลับไปในฐานะชายหนุ่มผู้ที่หลงใหลในโลกแห่งการเดินทาง ชายหนุ่มในเรื่องหลี่เสี่ยวเหยาอยู่ในช่วงเวลาที่สำคัญที่สุดในชีวิตของเขาคำนึงในความทรงจำภายในหัวของนาหลันฮ่องหวู

    หากความสนใจของนาหลันฮ่องหวูในเกมนี้เต็มเปี่ยม เนื่องจากเทคนิคการควบคุมดาบแล้วมันก็ปลอดภัยที่จะบอกว่าในที่สุดเขาก็เข้าใจว่าเกมนี้เป็นเกมที่ดื่มด่ำ

    เมื่อเรื่องราวคืบหน้าผุ้เล่นก็จะค่อยๆเข้าใจความแตกต่างระหว่างเกมนี้กับเกมอื่นๆ พวกเขาไม่ใช่ตัวละครหลักในเกมนี้ มันเป็นเรื่องเกี่ยวข้องกับชายหนุ่มคนหนึ่งชื่อหลี่เสียวเหยาซึ่งอยู่ที่ไหนสักแห่งบนโลกใบนี้ ทุกสิ่งที่พวกเขาเห็นและรู้สึกก็คือการมองผ่านดวงตาของหลี่เสี่ยวเหยาไม่ใช่ดวงตาของพวกเขา

    อย่างไรก็ตามสิ่งนี้ไม่ได้หยุดพวกเขาจากการเพลิดเพลินกับเกมนี้เลย มันมีหลายแง่มุมของชีวิตของหลี่เสี่ยวเหยาที่ล่อลวงและน่าตื่นเต้นสำหรับพวกเขา

    พวกเขาติดตามหลี่เสี่ยวเหยาในขณะที่พวกเขากับค้นพบในสิ่งต่างๆที่หลี่เสี่ยวเหยาได้กระทำ

    อารมณ์ของพวกเขาก็เต็มไปด้วยประสบการณ์ของตัวละครหลัก พวกเขาก็ยังคงกังวลเกี่ยวกับปัญหาที่เข้ามาเกี่ยวข้องกับปัญหาเรื่องความใส่ใจกับหลิงเมื่อเธอเต็มใจที่จะเสียสละตัวเองเพื่อช่วยหลี่เสี่ยวเหยา พวกเขาต้องยอมรับว่าการดูแลและการเล่นเกมนี้เป็นที่น่าพอใจอย่างมาก

    ไม่เพียงแต่ผู้คนที่ชื่นชอบการคอยมองดูฟางฉีเล่นที่คอยยืนอยู่ด้านหลังเขา แม้แต่แฟนๆของเกม Resident Evil ที่ไม่ค่อยมีปฎิสัมพันธ์กับฟางฉีทั้งหมดก็มารวมตัวกันด้านหลังของเขา

    ................

    เฉินหยางศิษย์ของหอพักบ้านสวรรค์ของสถาบันหลนยันได้มาเล่นเกม Resident Evil ตามคำแนะนำของเพื่อนๆ

    มีผู้คนมากมายในร้านอินเทอร์เน็ตคาเฟ่ของเขาและคอมพิวเตอร์มากกว่า 50 เครื่อง หรือเกือบเต็มทุกครั้งหมายความว่ามีผู้เล่นที่แวะเวียนมาที่ร้าน 150 คนทุกวัน

    ฟางฉีไม่มีเวลาที่จะคอยมาสอนพวกเขาทีละคนดังนั้นผู้เล่นใหม่อย่างเฉินหยางก็เรียนรู้วิธีการเล่นจากเพื่อนของเขาและแทบจะไม่ได้พูดคุยกับเจ้าของร้านเลยตั้งแต่ที่มาเล่นเกมที่ร้านอินเทอร์เน็ตคาเฟ่แห่งนี้

    อย่างงไรก็ตามทันทีที่เฉินหยางเล่นเกมเสร็จในวันนี้เขาก็เห็นคนกลุ่มหนึ่งที่รวมตัวกันอยู่ด้านหลังของฟางฉีประจำ แทนที่วันนี้พวกเขาจะพากันกรีดร้องและตะโกนเหมือนที่เคยทำมาทุกวันกลุ่มนี้กลับเงียบอย่างผิดปกติ

    "พวกเจ้าทุกคนกำลังดูอะไรอยู่" เฉินหยางถามพวกเขาและมีคนในกลุ่มบางคนตอบกลับมาว่า "พวกเรากำลังดูเจ้าของร้านเล่นเกม Legend of the swoed and fairy (ตำนานดาบและนางฟ้า)"

    "เกมที่มีราคา 20 คริสตัล?" สำหรับเฉินหยางแล้ว Resident Evil นั้นสนุกมากเขาจึงไม่เห็นจุดสนใจที่จะยอมเสีย 20 คริสตัลในการเปิดการใช้งานเกมใหม่

    อย่างไรก็ตามวันนี้กลับแตกต่างกัน เขาเพิ่งผ่าน Resident Evil ดังนั้นเขาจึงหยุดและกำลังอยู่ในช่วงตัดสินใจอยู่และดุว่าเกมที่มีราคาถึง 20 คริสตัลมันมีคุณภาพสมกับที่โฆษณาไว้หรือไม่

    "หยางเจ้าจะไม่ออกไปกับพวกเราเหรอ?" ศิษย์คนอื่นๆจากหอพักบ้านสวรรค์ถามเขา เขาเองก็เป็นผู้เล่นใหม่เช่นเดียวกันกับเฉินหยางเขาจึงไม่รู้จักฟางฉีที่เป็นเจ้าของร้าน

    "ไม่ข้าจะดูชายคนนี้เล่นเกมใหม่ซักพัก" เฉินหยางส่ายหัวแล้วตอบกลับไปทางเพื่อนๆของเขา


    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    นิยายที่ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×