ลำดับตอนที่ #62
คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #62 : แบบร่างนวนิยายฉบับแรกของเกมDiablo
ตอนที่ 60
แบบร่างนวนิยายฉบับแรกของเกมDiablo
ฟางฉีในวันนี้เขาไม่ได้เล่นเกมตอนนี้เขากำลังถือหนังสือแบบร่างนวนิยายฉบับแรกของเกมDiabloอยู่ภายในมือของเขาแทน
ในหน้าแรกของแบบร่างนวนิยายมันมีลายมือที่บรรจงวิจิตรที่งดงามเขียนว่า " Diablo : Volume One "
เขาเงยหน้าขึ้นมามองหลังจากที่เห็นลายมือที่เขียนอยู่หน้าปกนิยาย เขาตกใจเมื่อเห็นใบหน้าที่สวยงามยื่นมาใกล้ๆ
ชิเชี่ยวเฟิงไขว้มือของเธอไว้ด้านหลังและยื่นหน้าเข้าไปใกล้ๆเขาแล้วพูดด้วยความกระตือรือล้นที่ต้องการให้เขาอ่าน "เปิดดูสิ!"
ฟางฉีพยักหน้าในขณะที่เขากำลังเปิดหนังสือหน้าแรก เขาสามารถบอกได้เลยว่าผู้เขียนได้ใส่จิตวิญญาณของเขาลงไปในหนังสือ มันเป็นเพียงแบบร่างเท่านั้นแต่การเขียนตัวหนังสือนั้นมันเป็นระเบียบและอ่านง่ายเป็นอย่างมาก
ชูกวนชิงเธอพูดถูกเกี่ยวกับชิเชี่ยวเฟิงในฐานะที่เป็นเด็กผู้หญิงที่มีความสามารถที่มีทักษะทั้งด้านวรรณคดีและศิลปะการต่อสู้ ตั้งแต่ที่ฟางฉีเลือกเล่นตัวละครพาลาดิน,ชิเชี่ยวเฟิงเธอเองก็เลือกเล่นตัวละครของพาลาดินเช่นกันดังนั้นเธอจึงเลือกตัวละครตัวนี้เป็นหลักในการเขียนหนังสือเล่มแรกนี้
เมื่อวรรณกรรมออนไลน์เกมDiablo II วางจำหน่ายให้ได้เล่นในครั้งแรกของโลกที่ฟางฉีจากมา ฟางฉีเขาเองก็ชื่นชอบทั้งโครงเรื่องและเนื้อหาเกมต่างๆมันน่าตื่นเต้นเป็นอย่างมากจนทำให้เขายินยอมที่จะเสียเงินในการอ่าน
นั่นเป็นเหตุผลที่ว่าทำไมหลังจากที่วรรณกรรมออนไลน์ได้รับความนิยมผู้เขียนหลายๆคนจึงตัดสินใจที่จะเขียนและตีพิมพ์หนังสือที่เกี่ยวข้องกับเกม Diablo
ดังนั้นฟางฉีจึงรู้สึกอารมณ์ดีเล็กน้อยหลังจากที่เขาได้อ่านแบบร่างนวนิยายฉบับแรกของชิเชี่ยวเฟิงมันออกมาดีเป็นอย่างมาก
ในขณะนี้ร้านอินเทอร์เน็ตคาเฟ่ของเขาเต็มไปด้วยลูกค้า นาหลันฮ่องวู,อันเฉิง,ซองชิงเฟิงและคนอื่นๆต่างพยายามที่จะไปถึงยังรังลับของอันดาเรียล
พวกเขาได้พบกับสัตว์ประหลาดทุกประเภทตามรายทางไปยังรังลับของอันดาเรียล ดังนั้นพวกเขาจึงต้องต่อสู้กับเหล่าสัตว์ประหลาดทั้งหมดด้วยพลังที่มีทั้งหมดของพวกเขา ระเบิดน้ำแข็งและนรกจากแม่มดและก้อนหินที่ถูกหลอมเหลวจากสกิลภูเขาไฟแห่งดรูอินล้วนเป็นฉากที่น่าตื่นเต้นสำหรับการเป็นพยานในการกำจัดสัตว์ประหลาด
"ระวังตัวเด็กน้อยข้าไม่สามารถช่วยเจ้าได้หากเจ้าโดนโจมตี!" นาหลันฮ่องวูและผู้อาวุโสฟูต่างก็พากันถือโล่ไว้ด้านหน้าของพวกเขา
ยิ่งเข้าใกล้รังของอันดาเรียลมากเท่าไรสัตว์ประหลาดก็ยิ่งแข็งแกร่งมากขึ้นเท่านั้น
ยิ่งไปกว่านั้นพวกเขาตอนนี้อยู่ใต้ดินและสถานที่ต่างๆมากมายมันไม่มีแสงสว่างส่องถึงดังนั้นพวกเขาจึงพบปะกับฝูงสัตว์ประหลาดหลายต่อหลายครั้งโดยบังเอิญ!
ด้วยระดับปัจจุบันของพวกเขาแล้วไม่มีทางที่พวกเขาจะอยู่รอดได้หากพวกเขาไปถึงรังของอันดาเรียลโดยไม่ได้ตั้งใจในการต่อสู้ในทุกๆครั้ง
พวกเขาล้วนก้าวเท้าเดินในรูปแบบต่างๆ แต่นาลันฮ่องวูหยุดเดินทันทีเขากำลังเงี่ยหูฟังอย่างตั้งใจและดูเหมือนว่าเขาจะได้ยินเสียงที่นุ่มนวลแบบแปลกๆดังมาจากความมืดด้านหน้าเขา
มันฟังดูเหมือนเสียงหายใจของสัตว์ร้ายที่กำลังจำศิลอยู่
ในไม่ช้าพวกเขาก็มองเห็นฝูงสัตว์ประหลาดที่มีเขาแหลมคมบนหัวกำลังพุ่งเข้ามาจู่โจมพวกเขา!
"เคลียร์รอบๆ"
"ตรวจดูบริเวณโดยรอบอาจจะมีพวกมันมากกว่านี้!" การแสดงออกของพวกเขาเคร่งเครียดเป็นอย่างมากเมื่อเจอกับสัตวืประหลาดเหล่านี้
สัตว์ประหลาดเหล่านี้มักปรากฏเป็นกลุ่มไม่เพียงแค่การปรากฏตัวเป็นกลุ่มเท่านั้นพวกมันยังแข็งแกร่งแล้วยังสามารถปล่อยลูกบอลสายฟ้าออกมาจากปากของพวกมันได้อีกด้วย! นักรบแนวหน้าที่จำเป็นในการเข้าไปต่อสู้ในระยะประชิดอาจจะตายได้หากได้รับการโจมตีจากลูกบอลสายฟ้าอย่างจัง!
ทันใดนั้นก็มีกระแสสายฟ้าส่องสว่างออกมาจากความมืด!หลากหลายสายมุ่งตรงมายังพวกเขา
นาหลันฮ่องวูและผู้อาวุโสฟูตอบโต้การโจมตีอย่างรวดเร็ว ด้วยการหลบหลีกการโจมตีพวกเขาพากันกลิ้งหลบไปมาและหลีกเลี่ยงลูกบอลสายฟ้าจำนวนมากจากนั้นพวกเขาก็พากันหลบซ่อนตัวอยู่ในห้องพวกเขายกโล่ขึ้นแล้วตะโกนว่า "ปิดกั้นประตูปิดกั้นประตู!"
เมื่อมองเห็นทั้งสองคนที่กำลังเดินถอยหลังบุเช่ก็ทำการหลอกหล่อสัตว์ประหลาดสายฟ้าให้มารวมตัวกันยังทางเข้า!
ดรูอิดที่เชี่ยวชาญด้านทักษะพื้นฐานมีพลังเป็นอยางมากในช่วงต้นของเกมเริ่มทำการโจมตีแล้ว
"ระเบิดน้ำแข็ง!"
"พี่บุใช้สกิลภูเขาไฟ!"
"ให้ข้าทำ!ฟูใช้Holy fire!" นาหลันฮ่องวูตะโกนในขณะทีเขาให้สกิลBlessed Hammer และเล็งไปที่คนที่กำลังเสียสละป้องกันการโจมตีจากสัตว์ประหลาดอยู่ต่อหน้าของเขา!
...............
ต่างจากการต่อสู้ที่ดุเดือดในรังลับของอันดาเรียลอีกด้านหนึ่งของร้านอินเทอร์เน็ตคาเฟ่มันก็เงียบสงบอย่างที่ควรจะเป็นในร้านอินเทอร์เน็ตคาเฟ่
ฟางฉีจิบสไปรท์ในขวดของเขาในขณะที่เขากำลังอ่านแบบร่างนวนิยาย Diablo : Volume One ของชิเชี่ยวเฟิง
"คนพเนจร.......ใช่มันเป็น.....คนพเนจร"
"วันเวลาของข้าที่ป้อม Rorue นั้นนานมาแล้ว..."
"...."
ฟางฉีมีความสุขที่เห็นคำเหล่านี้ Marius กล่าวกับพวกเขาในระหว่างการเปิดอนิเมชั่นของเกมและพวกเขาเป็นความทรงจำที่ดีของเกมเกี่ยวกับ Dark Wanderer
การเขียนของชิเชี่ยวเฟิงไม่ได้กล่าวเกินจริงเพราะเธอเครารพเนื้อเรื่องดั้งเดิมของเกมเป็นอย่างมาก ฟางฉีอ่านและรู้สึกว่าโครงร่างของเนื้อเรื่องนั้นมั่นคงและมีการจัดการที่ดีเธอไม่ได้เพิ่มเนื้อหาที่ไม่จำเป็นลงในนวนิยายเลยแม้แต่น้อยซึ่งแตกต่างจากภาพยนต์และรายการทีวีของเกม
คำอธิบายฉากและตัวละครของเธอนั้นพิถีพิถันมากกว่าที่ฟางฉีคิดเอาไว้เสียอีก เขาสามารถดื่มด่ำกับบรรยากาศของนวนิยายได้อย่างสมบูรณ์แบบ
ป้อม Rogue ซึ่งครั้งหนึ่งเคยรุ่งเรืองและงดงามตอนนี้ไม่มีอะไรมากไปกว่าที่พักแรมและการผจญภัยมากมายนับไม่ถ้วนมีฝนตกอยู่ตลอดทั้งวันและถนนที่มืดมิด ดินสกปรกมักจะติดมากับรองเท้าของนักผจญภัยมักจะพบในล๊อบบี้ของที่พักแรม
สไตล์การเขียนโดยรวมของนวนิยายเรื่องนี้มันดาร์กพอสมควร ในฐานะผู้อ่านฟางฉีมั่นใจว่านี่คือ Diablo แน่นอน
"ผู้หญิงมีความขยันและเรียบร้อยมากกว่าผู้ชาย" ฟางฉีเปิดหน้าหนังสือนวนิยายและอ่านต่อไป
ชูกวนชิงและชิเชี่ยวเฟิงมากจากตระกูลผู้ทรงเกียรติและพวกเธอก็นั่งอยู่ตรงนั่นอย่างเงียบๆโดยไม่พูดเพราะพวกเธอรอให้ฟางฉีอ่านนวนิยายจบ
......................
"เราอยู่ในระดับที่สี่ของ Catacombs!"
เมื่อนาหลันฮ่องวู,อันเฉิงและคนอื่นๆมาถึงพวกเรารู้สึกได้ถึงพลังชั่วร้ายที่กำลังกดขี่
"ระวัง!"สัญชาตญาณของนาหลันฮ่องวูกำลังตะโกนกู่ร้องบอกเขาว่าอันดาเรียลปีศาจที่ทรงพลังที่สุดและที่อยู่ที่อาศัยของมันอยู่ในระดับลึกที่สุด!
ในความคิดนี้เขาแทบจะไม่สามารถเก็บอาการตื่นเต้นของเขาได้เลยในที่สุด.............
"ตามแผนที่นี้นี่จะเป็นสนามรบสุดท้ายของ Act I " อันเฉิงเหวี่ยงไม้เท้าในมือของเขาแล้วหัวเราะ "ข้าจะช่วยโลก!"
"ในอนาคตเราสามารถบอกคนอื่นได้ว่าครั้งหนึ่งเราเคยช่วยโลกไว้"บุเช่ก็หัวเราะออกมาเช่นกัน "นั่นฟังดูไม่เลวเลยใช่ไหม?"
"ลืมมันไปซะมากที่สุดเราก็แค่สามารถช่วยเมืองเอาไว้ได้"โอหยางเแฉิงอดไม่ได้ที่จะพูด "เรากำลังจะสิ้นสุดการช่วยโลก ข้าไม่รู้ว่าปีศาจเหล่านี้มาจากไหน"
"ข้าคิดว่าบางคนควรเขียนนวนิยายเกี่ยวกับการผจญภัยอันรุ่งโรจน์ของเรา!" อันเฉิงหัวเราะ "ข้าได้ยินมาว่าเราจะไปทางตะวันออกใน Act II"
"ประตูเปิดแล้ว!เข้าไปข้างในกัน"นาหลันฮ่องวูค่อยๆเปิดบานประตูที่หนักและส่งกลินเหม็นซึ่งมันอยุ่ที่ระดับสี่!
ความรู้สึกถึงรางแห่งความตายพุ่งสูงขึ้นพร้อมกับบรรยากาศชวนสยองขวัญ ผู้คนที่กำลังเดินผ่านประตูไปนั้นมีอารมณ์แตกต่างกันอยางสิ้นเชิง
โอหยางเฉิงผู้ที่ซึ่งกำลังเดินด้านหลังของกลุ่มๆจู่ๆก็กล่าวขึ้นมาว่า "เราจะได้ไอเท็มชนิดใดเมื่อเราฆ่าบอสตัวสุดท้ายใน Act I?"
"ตอนนี้ไม่ใช่เวลามาพูดถึงไอเท็ม!" อันเฉิงเตะก้นโอหยางเฉิงในขณะที่เขาดุด่าพร้อมรอยยิ้ม
"ทำไมเจ้าถึงไม่แลกเปลี่ยนความซื่อสัตย์ทางศีลธรรมของเจ้ากับไอเท็มสีเหลืองซ่ะล่ะ"
"F*ckเจ้า!"
คนอื่นนๆพากันหัวเราะเมื่อได้ยินบทสนทนาของสองเพื่อนชี้ก่อนที่จะได้ซึมซับบรรยากาศครื้นเครงนั้นพวกเขาทั้งกันก็ได้ยินเสียงคำรามดังขึ้น
เสียงคำรามปแหบห้าวดังกึกก้องออกมาจากความมืดที่อยุ่ด้านหน้าของพวกเขาแสดงให้เห็นถึงความน่าเกรงขามและหวาดกลัว
ด้านล่างเนินประตูมีปีศาจที่ชั่วร้ายมากมายทั้งหมดภายในเกมอยู่ในที่นี่และอันดาเรียลบอสตัวสุดท้ายเธอได้ตื่นขึ้นมาแล้ว!
"ชำระความแค้น!" ผู้อาวุโสฟูจับดาบในมือไว้แน่นแล้วตะโกน
"ใช่!"
"ฆ่ามันซะ!"
"ใช้ความสามารถของพวกเจ้าออกมาอย่างเต็มที่!"
"ตำแหน่ง!จัดการตำแหน่งของเจ้าด้วย!"
"ฆ่าสัตว์ประหลาดตัวเล็กๆก่อน!"
"Poison nova!ใช้Wolves!ส่วนที่เหลือของเจ้าพวกเจ้าพากันหลบออกไปและดื่มยาเพิ่มเลือดของพวกเจ้า!"
"หยุดมันด้วยการโจมตีของแม่มด!"
..................................
"มันไม่เลวเลย" ฟางฉียืนขึ้นจากเก้าอี้ของเขาแล้วมองไปทางอันเฉิงและคนอื่นที่พยายามจะฆ่าอันดาเรียลและตะโกนราวกับว่าไม่มีใครอยู่รอบๆตัวของพวกเขาทันใดนั้นเขาก็คิดถึงความหลังครั้งเก่าก่อน
นั่นเป็นวิธีที่เขาและเพื่อนๆของเขาที่ชื่นชอบในการเล่นเกมด้วยกันมันสนุกและครื้นเครงเป้นบรรยากาศที่มักจะพบเจอในร้านเกมทั่วๆไป
มันนานมากแล้วแต่มันรู้สึกราวกับว่ามันเพิ่งผ่านมาเมื่อไม่นานนี่เองความทรงจำเหล่านั้นเขายังจำมันได้
เขาหายใจเข้าลึกๆแล้วชี้ไปที่อันเฉิงและคนอื่นๆ "มันจะดีกว่าถ้าเจ้าเพิ่มอารมณ์แบบนั้นลงในนวนิยาย"
ฟางฉีปิดนวนิยายแล้วส่งคืนให้กับชิเชี่ยวเฟิงในฐานะผู้ที่อ่านนิยายบนเว็บมานับไม่ถ้วนเขาไม่ได้ให้คำแนะนำที่แปลกประหลาดแก่นวนิยายเพราะเขาเคารพความคิดริเริ่มของเกมเสมอมา
**********************************
แก้แล้วเกาคำเรียบร้อย
เก็บเข้าคอลเล็กชัน
ความคิดเห็น