ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    เจ้าสาวจำเป็น

    ลำดับตอนที่ #20 : ความไม่เข้าใจ

    • เนื้อหาตอนนี้เปิดให้อ่าน
    • 3.95K
      1
      9 ก.พ. 56

                     เหล่านักข่าวจากสำนักต่าง ๆ ต่างรุมเข้ามาสัมภาษณ์เมื่อเห็นว่าไฮโซหนุ่มหล่อที่ควงภรรยาออกงานสังคมงานแรกก็เจออดีตคู่ควงเสียแล้ว
                    "คุณภควัตรคะไม่ทราบว่ายังคบอยู่กับคุณวิลาวัลย์อยู่หรือเปล่าคะ แล้วภรรยาคุณทราบเรื่องหรือยังคะ เห็นว่าวันนี้มาออกงานด้วยไม่ใช่เหรอคะ" เสียงนักข่าวคนหนึ่งดังขึ้นพร้อมกับยิงคำถามใส่ชายหนุ่มเป็นชุด
                    "แล้วคุณเปรมมิกาเธอไม่ว่าอะไรหรือคะที่สามีควงสาวอื่นแบบนี้" นักข่าวอีกคนถามขึ้นมาบ้าง

                    เมื่อเห็นสถานการณ์แบบนี้คุณพอฤดีและคุณภัทรจึงทราบเรื่องทันทีว่าลูกชายคนเดียวยังคงติดต่ออยู่กับอดีตคู่ขาเก่าอยู่และไม่พอใจกับเรื่องที่เกิดขึ้นนี้แต่ท่านยังพูดอะไรตอนนี้ไม่ได้เนื่องจากนักข่าวยังรุมสัมภาษณ์ทั้งท่านเองและภควัตร เปรมมิกาที่เห็นสีหน้าไม่สบายใจของคุณพอฤดีจึงเอ่ยขึ้นเพื่อรักษาเกียรติของท่าน

                    "ขอโทษนะคะที่ขัดจังหวะพี่ ๆ นักข่าวทุกคน"เสียงหวานดังขึ้นเรียกร้องความสนใจของกลุ่มนักข่าวได้เป็นอย่างดี
                    "อยากรู้เรื่องไหนถามแป้งได้ค่ะ" เมื่อพูดจบนักข่าวคนเดิมก็ถามคำถามเดิมทันที
                    "คุณเปรมมิกาทราบเรื่องเกี่ยวกับคุณวิลาวัลย์หรือเปล่าคะเห็นว่าเมื่อก่อนเคยเป็นคู่ควงของคุณภควัตรคุณเปรมมิการู้สึกยังไงคะที่เห็นว่าคุณวิลาวัลย์กับคุณภควัตรยังมีส่วนเกี่ยวข้องกันอยู่" หญิงสาวนิ่งตั้งสติก่อนจะตอบคำถาม
                    "แป้งทราบทุกเรื่องของพี่วัตรเสมอค่ะ รวมทั้งเรื่องของคุณวิลาวัลย์ด้วย แต่อดีตยังไงมันก็คืออดีตค่ะแป้งไม่ใส่ใจกับเรื่องพวกนี้หรอกค่ะแป้งให้ความสำคัญกับความรู้สึกของคนในครอบครัวมากกว่าค่ะ" เปรมมิกายังคงยิ้มและตอบคำถามอย่างอารมณ์ดี วิลาวัลย์เห็นอย่างนั้นจึงพูดขึ้นมาบ้างเพราะกลัวจะเสียหน้า

                    "พี่  ๆนักข่าวคะ วีวี่ว่าคุณเปรมมิกาคงไม่รู้เท่าวีวี่หรอกค่ะเพราะวีวี่กับพี่วัตรเราสนิทกันมากๆๆๆๆ สมัยที่อยู่เมืองนอกวีวี่กับพี่วัตรเราไปมาหาสู่กันเสมอค่ะ ไม่รู้ว่าเรื่องนี้คุณเปรมมิกาทราบหรือเปล่าที่เราสนิทกันมากขนาดนี้"             
                   วิลาวัลย์พยายามกวนน้ำให้ขุ่นคุณพอฤดีที่ทำท่าจะเป็นลมคุณภัทรจึงเข้าไปช่วยพยุงไว้ก่อนจะขอตัวหลีกนักข่าวไปรอที่รถให้ลูกชายตัวดีจัดการเรื่องนี้ให้จบ

                    "คุณวิลาวัลย์คงจะพอทราบนะคะว่าแป้งกับพี่วัตรเราแต่งงานและจดทะเบียนกันแล้วเรื่องในครอบครัวคนนอกอย่างคุณวิลาวัลย์จะทราบได้ยังไงคะ" ชายหนุ่มที่ยืนนิ่งราวกับหุ่นกระบอกก็ยังคงนิ่งเงียบไม่พูดอะไร
                    "แป้งว่าพี่  ๆ นักข่าวคงจะแยกแยะออกนะคะว่าภรรยาที่ถูกต้องตามกฎหมายกับผู้หญิงที่ไหนก็ไม่รู้คนไหนที่มีสิทธิ์มากกว่ากัน พี่วัตรขาแป้งง่วงนอนแล้วล่ะค่ะเรากลับบ้านกันเถอะนะคะคุณพ่อคุณแม่รออยู่ค่ะ"
                    เสียงออดอ้อนของเปรมมิกาสร้างความแปลกใจให้กับชายหนุ่มเป็นอย่างมากเมื่อเห็นว่าชายหนุ่มยังไม่ขยับคราวนี้เปรมมิกาจึงงัดไม้ตาย
                    เปรมมิกาเดินเข้าไปแทรกตรงกลางระหว่างภควัตรและวิลาวัลย์โดยมีสายตาของนักข่าวยังคงยืนดูสถานการณ์อยู่ เปรมมิกาเอามือเกาะแขนชายหนุ่มแล้วเดินลากออกไปจากกลุ่มนักข่าวทันทีโดยไม่ฟังเสียงโต้แย้งใด ๆ อีก
                     "พี่ ๆ นักข่าวคะแป้งขอตัวก่อนนะคะ เอาไว้คราวหน้าจะตอบคำถามให้ได้มากกว่านี้แน่นอนค่ะ" เปรมมิกาเดินควงแขนชายหนุ่มออกมาจากฝูงนักข่าวโดยไม่สนใจสายตาที่มองมาอย่างอิจฉาริษยาของวิลาวัลย์ คนที่โดยนักข่าวรุมทึ้งต่อก็คงจะไม่พ้นวิลาวัลย์เสียมากกว่า

                    เมื่อทุกคนกลับมาถึงบ้านคุณภัทรและคุณพอฤดีเดินนำหน้าทั้งคู่เข้าไปยังห้องรับแขก
                    "นั่งลงสิตาวัตร" เสียงมีอำนาจสั่งชายหนุ่มไม่รอช้าที่จะทำตามเพราะรู้ดีว่าเวลานี้บิดาคงโกรธมาก
                    "สิ่งที่นักข่าวพวกนั้นพูดไม่เป็นความจริงใช่มั้ยตาวัตร แกไม่ได้ยุ่งเกี่ยวกับแม่ผู้หญิงคนนั้นใช่มั้ยหลังจากที่แต่งงานกับหนูแป้งแล้ว" คุณภัทรถามบุตรชายอย่างหัวเสีย ภควัตรเองก็ไม่รู้จะปฏิเสธอย่างไรเพราะเขาไม่เคยโกหกท่านเลยสักครั้งเลยพูดความจริงทั้งหมดออกไปเพราะอย่างไรเสียไม่วันนี้ก็วันหน้าบิดามารดาของเขาต้องรู้เรื่องของเขากับวิลาวัลย์อยู่ดี
                    "ครับ ที่นักข่าวพวกนั้นถามเป็นเรื่องจริงทั้งหมดครับ" เมื่อชายหนุ่มพูดจบคนเป็นแม่อย่างคุณพอฤดีถึงกับลมจับเลยที่เดียวกับสิ่งที่บุตรชายเอ่ยออกมา
                    "เพราะอย่างนี้ใช่มั้ยแกถึงไม่อยากแต่งงานกับหนูแป้งตั้งแต่แรกเพราะแกยังไม่เลิกยุ่งกับผู้หญิงคนนั้นใช่มั้ย" คุณภัทรยังคงซักต่อ
                    "อันนั้นก็เป็นเหตุผลหนึ่งครับที่ผมไม่อยากแต่งกับเปรมมิกา แต่เหตุผลอีกข้อหนึ่งที่ผมรับไม่ได้ก็คือผมไม่ได้รักเปรมมิกาคุณพ่อกับคุณแม่บังคับผม" 

                    คุณภัทรถึงกับอึ้งจนไม่รู้จะพูดอย่างไรกับลูกชายตัวดีจนป่านนี้แล้วยังไม่รู้เช่นเห็นชาติของผู้หญิงคนนั้นอีกเมื่อไหร่จะได้ตาสว่างเสียทีก็ไม่รู้
                    "นี่ฉันจะทำยังไงกับแกดีห๊ะตาวัตร พ่อกับแม่หวังดีกับแกที่เลือกหนูแป้งให้เป็นคู่ชีวิตแต่แกกลับมองไม่เห็นเพชรที่อยู่ในมือไปเกลือกกลั้วอยู่กับโคลนตมที่คนเขารู้กันทั้งเมืองว่าเหม็นเน่าแค่ไหน" เปรมมิกาที่เห็นว่าเธอเป็นคนนอกจึงเดินเลี่ยงออกไปจากห้องเพื่อให้คนในครอบครัวได้คุยกันตามลำพังแต่เสียงของคุณภัทรห้ามเธอไว้เสียก่อน

                    "หนูแป้งหนูไม่ต้องไปไหนทั้งนั้นอยู่ที่นี่แหละ" เปรมมิกาทำท่าอึกอักแต่ก็ไม่รู้จะปฏิเสธอย่างไรจึงจำต้องทำตามคำสั่งประมุขของบ้านแต่โดยดี
                    "หนูรู้เรื่องนี้มานานแค่ไหนแล้วทำไมถึงไม่บอกพ่อกับแม่ล่ะปล่อยให้ตาวัตรนอกใจได้ยังไงเราเป็นเมียนะอย่าไปยอมสิ" คุณภัทรพูดกับหญิงสาว
                    "เอ่อ แป้งคิดว่าแป้งกับคุณวัตรไม่ได้รักกันตั้งแต่แรกและที่เราต้องมาอยู่ด้วยกันในฐานะสามีภรรยาก็เป็นเรื่องที่ผู้ใหญ่เห็นว่าสมควร แป้งกับคุณวัตรคงขัดไม่ได้ แต่เรื่องที่คุณวัตรจะไปมีใครหรือทำอะไรกับใครนั้นมันเป็นเรื่องส่วนตัวของคุณวัตรค่ะแป้งไม่อยากก้าวก่าย" เปรมมิกาอธิบายยืดยาวแต่ก็ไม่รู้ว่าจะช่วยให้ทุกอย่างดีขึ้นมั้ย

                    "เพราะแบบนี้ใช่มั้ยความสัมพันธ์ของเราสองคนถึงยังไม่คืบหน้าไปถึงไหน" คุณพอฤดีรู้สึกผิดขึ้นมาทันที
       
                    "แม่ขอบใจหนูแป้งมากเลยนะลูกที่ช่วยรักษาหน้าตาของวงตระกูลของเราเอาไว้ไม่ให้เสื่อมเสียมากไปกว่านี้" พูดพร้อมกับปรายตาไปมองลูกชายตัวดีของนางทันที

                    "ผมไม่ได้ทำอะไรผิดนี่ครับ ทำไมจะต้องกลัวด้วย" ชายหนุ่มยังคงไม่ยอมลด
                    "ไม่ผิดอย่างนั้นเหรอชื่อเสียงวงตระกูลเกือบจะป่นปี้เพราะแกแล้วนะตาวัตรยังมีหน้ามาพูดอีกว่าไม่ผิด แม่บอกตั้งกี่ครั้งแล้วเรื่องยัยวีวี่อะไรนั่นน่ะหล่อนมั่วไม่เลือก ประวัติก็ไม่ดี ไหนจะเรื่องติดยาอีกล่ะลูกเคยรู้ความจริงพวกนี้บ้างมั้ย" คนเป็นแม่ถึงกับอ่อนใจ

                    "ช่างคุณวัตรเถอะค่ะคุณแม่ โตจนป่านนี้แล้วยังไม่รู้จักผิดชอบชั่วดีอีก เราก็ไม่ต้องไปพูดอะไรแล้วค่ะเพราะพูดไปก็ระคายหูเขาเสียเปล่า ๆ เขาไม่ฟังเราหรอกค่ะ" เปรมมิกาพูดขึ้นอย่างเหลืออดอีกใจก็สงสารคุณพอฤดีและคุณภัทรที่ต้องทุกข์ใจกับเรื่องลูกชาย

                    "เธอไม่ต้องมาพูดดีเลยนะเปรมมิกา เธอกล้าดียังไงมาสั่งสอนฉันเธอมันก็ไม่ต่างจากผู้หญิงข้างถนนหรอกที่พ่อแม่เอามาเร่ขายคงไม่มีใครเอาล่ะสิท่าถึงได้หลอกพ่อแม่ฉันให้เชื่อแบบนี้น่ะ" ชายหนุ่มโมโหที่ถูกต่อว่าจึงตอบกลับเปรมมิกาไปอย่างเจ็บแสบไม่แพ้กัน
                    "ถึงกับพูดไม่ออกเลยเหรอ มันคือความจริงเธอปฏิเสธไม่ได้หรอกเพราะถึงยังไงเธอก็เป็นได้แค่เมียขัดดอกหรือแค่นางบำเรอของฉันเท่านั้นแหละ" ภควัตรเหยียดยิ้มอย่างดูถูกหญิงสาว
                 
                    
      
    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    นิยายที่ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×