ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    เจ้าสาวจำเป็น

    ลำดับตอนที่ #17 : ลีลาศการกุศล

    • เนื้อหาตอนนี้เปิดให้อ่าน
    • 3.81K
      0
      8 ก.พ. 56

                   หลังจากวางสายของคุณพอฤดีแล้วเปรมมิกากลับต้องมานั่งกลุ้มนอนไม่หลับอีกเมื่อตบปากรับคำผู้ใหญ่แล้วอย่างนี้เธอจะหาทางปฏิเสธก็ยากแล้วจะหาทางบอกเรื่องนี้กับภควัตรอย่างไรดีหญิงสาวที่ตั้งใจว่าจะนอนแล้วตอนนี้ถึงกับนั่งไม่ติดที่ลุกเดินวนไปวนมาไปที่หน้าระเบียงห้องซึ่งอยู่ติดกับสวนหลังบ้านพอดี 

                    "วีวี่คิดถึงพี่วัตรขามากเลยนะคะ พี่วัตรไม่คิดถึงวีวี่บ้างเลยวีวี่น้อยใจแล้วนะ" เสียงวิลาวัลย์ยังคงออดอ้อนเต็มที่
                    "พี่แต่งงานแล้ววีวี่ก็รู้ คงไม่ได้ออกไปไหนมาไหนกับวีวี่บ่อยเหมือนเมื่อก่อนหรอก "
                    เสียงทุ้มตอบแต่วิลาวัลย์ไม่ได้ใส่ใจเลยแม้แต่น้อยกลับกอดแขนเขาเสียงแน่นโดยที่ทั้งคู่ไม่รู้เลยว่ามีสายตาอีกคู่หนึ่งกำลังมองมาทางนั้นพอดี
           
                    เปรมมิกามองลงมาเห็นทั้งสองคนยืนกอดกันพอดีถึงกับถอนหายใจน้อยใจในโชคชะตาของตัวเองที่ต้องมารับผิดชอบในสิ่งที่ไม่ได้ก่อขึ้นอีกทั้งน้องสาวตัวดีก็มาหายไปอีก ตัวเธอเองก็ยังไม่รู้เลยว่าคุณพอฤดีจะรู้ความจริงวันไหนอีกทั้งยังต้องมาสู้รบปรบมือกับผู้ชายที่ร้ายกาจ เอาแต่ใจ ดื้อรั้นไม่ยอมใครไม่ฟังเหตุผลและดื้อด้านที่สุดอย่างภควัตรเธอจะทนได้อีกนานแค่ไหนกันนะเปรมมิกา หญิงสาวถอนหายใจอีกครั้งก่อนจะกลับเข้าไปในห้องแล้วล้มตัวลงนอนด้วยความเมื่อยขบ

                   เช้าวันใหม่หลังผ่านคืนแรกของบ้านที่เธอไม่คุ้นเปรมมิกาตืนแต่เช้ามืดเพื่อทำอาหารใส่บาตรโดยมีสาวใช้ทั้ง 3 คนช่วยเป็นลูกมืออย่างดี ชายหนุ่มยืนมองการกระทำของหญิงสาวอย่างคาดไม่ถึงว่ายังมีผู้หญิงที่เอาใจใส่การบ้านการเรือนอย่างเธอหลงเหลืออยู่ในสังคมปัจจุบันนี้ซึ่งมีแต่ความเร่งรีบก่อนจะเดินออกไปเงียบ  ๆ ปล่อยให้เปรมมิกาและสาวใช้อีก 3 คนทำอาหารต่อไปจนเสร็จ และเตรียมยกถาดอาหารคาวหวานไปวางที่โต๊ะหน้าบ้านรอใส่บาตร
              
                  "อ่ะแฮ่ม" เสียงกระแอมไอดังขึ้นด้านหลังหญิงสาวหันไปตามเสียงแล้วก็เมินหน้าหนีเดินไปหน้าบ้านเลี่ยงการทะเลาะ
                  "ใจคอจะไม่ชวนฉันใส่บาตรด้วยเลยเหรอ ฉันเป็นเจ้าของบ้านนะเธอจะทำอะไรข้ามหัวฉันไม่ได้" เสียงออกคำสั่งดังขึ้นหญิงสาวชะงักก่อนจะหันไปชวนเขาตามมารยาท
                  "คุณภควัตรจะใส่บาตรด้วยกันมั้ยคะเชิญค่ะ" เปรมมิกาบอกเสียงเรียบและเดินนำหน้าออกไปยังโต๊ะที่วางอาหารคาวหวานและดอกไม้ ไว้เรียบร้อยแล้ว ทั้งสองออกมาได้ไม่นานพระสงฆ์รูปหนึ่งก็เดินผ่านมา หลังจากใส่ขาตรและพระให้พรเรียบร้อยแล้วก่อนจะเดินจากไปหลวงพ่อรูปหนึ่งได้เอ่ยกับทั้งคู่ว่า
                  "อยู่พร้อมหน้ากันแล้วสินะโยมทั้งสอง พลัดพรากจากกันมานานเหลื อเกิน" หลวงพ่อรูปนั้นยิ้มก่อนจะบอกอีกว่า
                  "ภาระหน้าที่ครั้งนี้ใหญ่หลวงนัก อย่าใจร้อนค่อย ๆ ประคับประคองกันไปนะโยมนะ" พูดจบก็เดินจากไปทันทีปล่อยให้ทั้งภควัตรและเปรมมิกายืนมองและคิดตามคำพูดของท่านอย่าง งง ๆ เพราะไม่ค่อยเข้าใจที่ท่านพูดสักเท่าไหร่ เปรมมิกาส่ายหัวก่อนจะเก็บของแล้วเดินกลับเข้าไปในบ้านเพื่อเตรียมอาหารเช้าให้ชายหนุ่มและตั้งใจว่าจะบอกเขาเรื่องที่คุณพอฤดีสั่งมา

                   อาหารเช้าซึ่งเป็นข้าวต้มกุ้งน่าตาน่าทานถูกจัดวางไว้ที่โต๊ะรับประทานอาหารโดยมีชายหนุ่มเจ้าของบ้านนั่งรออยู่ก่อนแล้ว แตง สาวใช้ตักข้าวต้มให้ชายหนุ่มก่อนจะหันมาตักให้หญิงสาว
                  "ไม่เป็นไรจ่ะแตงเดี๋ยวแป้งตักเอง" ด้วยความที่เปรมมิกาเป็นคนที่ไม่ถือตัวจึงสามารถเข้ากับพวกสาวใช้ได้อย่างรวดเร็วในเวลาเพียงไม่นาน แตงชะงักเล็กน้อยเพราะภควัตรจ้องมาทางนี้อยู่แต่เปรมมิกาเองก็แย่งเอาทัพพีไปตักเองโดยไม่สนใจสายตาของชายหนุ่มเลยแม้แต่น้อย
                  "คราวหน้าคราวหลังให้แตงเป็นคนจัดการเองเธอไม่ต้องยุ่งกับหน้าที่ ๆ พวกเขาต้องทำหรอก" ชายหนุ่มเอ่ยเสียงเรียบโดยไม่มองหน้าและตักข้าวต้มเข้าปากและก็ต้องตกใจเมื่อข้าวต้มอาหารที่แสนจะธรรมดากลับทำให้เขารู้สึกว่าไม่ธรรมดาและอยากจะทานมันทุก ๆ วัน

                  หลังจากที่เงียบกันมานานหญิงสาวจึงเอ่ยทำลายความเงียบนั้นเสีย
                 "คุณภควัตรคะพอดีฉันมีเรื่องจะบอกคุณ" ชายหนุ่มยังคงนั่งเงียบไม่พูดอะไรหญิงสาวเลยถือว่าเขารับรู้จึงพูดต่อ
                 "พอดีเมื่อคุณคุณแม่คุณโทรหาฉันเพราะท่านโทรหาลูกชายแล้วแต่ไม่รับสาย ท่านจะโทรมาบอกว่าให้คุณกับฉันไม่งานลีลาศการกุศลของทางสมาคมศิษย์เก่าของท่านจัดขึ้นและท่านให้คุณกับฉันลงแข่งครั้งนี้ด้วย" เปรมมิกาพูดรายงานตามที่เธอได้รับข้อมูลมาจากคุณพอฤดี
                 "อะไรนะ คุณแม่จะให้ฉันกับเธอแข่งเต้นลีลาศการกุศลอย่างนั้นเหรอ" ภควัตรตะโกนเสียงดังเพราะตกใจกับสิ่งที่ได้ยิน
                 "เอ๊ะ นี่คุณจะตะโกนเสียงดังทำไมเนี่ยหูจะแตกแล้วอยู่กันแค่นี้เองพูดเบา ๆ ก็ได้"
           
                 เพราะความที่ไม่ค่อยชอบออกงานสังคมบวกกับการเต้นลีลาศไม่เอาไหนของเขาเลยทำให้ชายหนุ่มไม่อยากจะไปสักเท่าไหร่แต่กลัวเสียฟอร์มต่อหน้าหญิงสาวจึงไม่ได้พูดอะไรต่อ
                  "เราจะเริ่มซ้อมกันวันไหนล่ะคุณนัดมาเลยแล้วกันฉันยังไงก็ได้แล้วแต่คุณ" เปรมมิกาบอกเพราะเธอไม่ได้ติดปัญหาอะไร 
                  "อีกอย่างที่ฉันจะบอกคุณก็คือ งานมีอาทิตย์หน้าเพราะฉะนั้นเรามีเวลาเตรียมตัวอีกแค่ 7 วันหวังว่าคุณคงไม่ทำให้ท่านเดือดร้อนนะ" ภควัตรอึ้งเพราะเวลาที่เหลือมันน้อยนิดเหลือเกินแล้วเขาจะไหวมั้ยเนี่ย
                  "วันนี้เธอว่างรึเปล่าล่ะเปรมมิกา" ชายหนุ่มถามเพราะเขาตั้งใจว่าจะเริ่มซ้อมเสียตั้งแต่วันนี้เลยจะได้ไม่เป็นการเสียเวลา
                  "คุณมีอะไรหรือเปล่าคะ แล้ววันนี้คุณไม่ไปทำงานเหรอเห็นหยุดงานมาเสียนานคิดว่าจะต้องรีบกลับไปทำเสียอีก" หญิงสาวเอ่ยถามเพราะเห็นว่าเขายุ่งอยู่ตลอดเวลาถึงแม้ว่าจะไปเมืองนอกแต่เขาก็ดูจะเป็นห่วงงานมากทีเดียว

                  "ไหน  ๆก็หยุดมานานแล้วนี่จะหยุดอีกซักหน่อยจะเป็นไรไปล่ะ จริงมั้ย" ชายหนุ่มตอบอารมณ์ดี ซึ่งมันสร้างความแปลกใจให้กับเปรมมิกาอย่างมากตั้งแต่วันแต่งงานจนถึงวันนี้ก็เพิ่งเห็นเขาอารมณ์ดีผิดหูผิดตาไปก็วันนี้แหละ

                  "ก็ตามใจคุณเถอะค่ะ ฉันยังไงก็ได้" เปรมมิกาตอบเรียบ ๆ
                  "งั้นเอาอย่างนี้แล้วกันวันนี้เราไปบ้านคุณแม่ ไปทานอาหารเย็นกับท่านแล้วก็ปรึกษาเรื่องงานลีลาศนี้ด้วยเลยคุณว่ายังไง" คราวนี้ชายหนุ่มหันมาถามความคิดเห็นของเธอบ้าง

                  "เอาอย่างนั้นก็ได้ค่ะแล้วจะไปกี่โมงคะฉันจะได้เตรียมขนมตะโก้ใส่กล่องไปให้ท่านด้วย" พูดจบก็เดินไปทางห้องครัวเพื่อเตรียมขนมไปฝากคุณพอฤดีกับคุณภัทร





    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    นิยายที่ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×