คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #20 : 18th : Today 100%
-J-U-S-T-A-F-F-A-I-R-
ผมไม่อยู่เกาหลีเกือบ 2 เดือน สภาพจิตใจผมก็เหมือนจะดีขึ้น ผมคิดว่าถึงผมต้องเจอพี่มาร์คตอนนี้ ผมก็คงจะแสดงออกมาได้ว่าผมไม่เป็นอะไร ถึงแม้หัวใจยังไม่หายเจ็บดี แต่ผมก็อยู่ได้ เมื่อก่อนไม่มีเขาเราก็อยู่ของเราได้ วันนี้มันก็แค่กลับไปเหมือนวันนั้น วันที่ไม่มีเขามันก็เท่านั้นเอง
ไม่มีเขา แต่ผมยังมีครอบครัว
ไม่มีเขาแต่ผมก็ยังมีเพื่อน
ไม่มีเขาแต่ผมก็ยังมีลมหายใจ
เพราะฉะนั้นผมอยู่ได้ ผมบอกกับตัวเองแบบนั้น
ตอนที่แม่เห็นผม ที่ประตูบ้านแม่ถึงกลับตกใจว่ามีอะไรทำไมถึงบินกลับมา ผมก็บอกแค่ว่าผมคิดถึงแม่ครับ แล้วน้ำตาผมก็ไหล แม่ถึงกับดึงผมไปกอดเอาไว้แน่นๆ ผมรับรู้ถึงความรักของแม่ได้มากจริงๆ เป็นอ้อมกอดที่อบอุ่นที่คงไม่มีใครให้ผมได้อีกแล้ว เมื่อน้องสาวและพี่ชายเห็นผมกับแม่กอดกันพวกเขาก็เข้ามากอดผมด้วยความคิดถึง มันยิ่งทำให้ผมร้องไห้หนักขึ้น
ผมลืมความรักของพวกเขาเหล่านี้ไปได้ยังไง
ความรักที่ให้โดยไม่มีเงื่อนไข
ความรักที่รักผมมากกว่าใคร
ความรักที่มีค่ามากที่สุด
ทำไมผมต้องโหยหาความรักจากคนที่เขาไม่เห็นค่าของเรา
ทำไมผมต้องยอมที่จะเป็นที่ 2 รองจากใคร
ทำไมผมต้องทำร้ายตัวเองแบบนี้
ทำไมผมถึงโง่ขนาดนี้ ......
ทำไมถึงลืมนึกถึงความรักของพวกเขาเหล่านี้ ทั้งที่พวกเขารักผมมากขนาดนี้
ถ้าพวกเขารู้ว่าเกิดอะไรขึ้นกับผมพวกเขาจะเสียใจแค่ไหน
ถ้าพวกเขารู้ว่าผมเจ็บแค่ไหน พวกเขาคงเจ็บยิ่งกว่า
ถ้าพวกเขารู้ว่าผมยอมโง่ขนาดนั้นเพื่อคนที่เขาไม่เห็นค่า
พวกเขาคง จะยิ่งกว่าเสียใจ
เสียใจที่ผมไม่เห็นค่าของตัวเองเลย................
ครอบครัวทำให้ผมดีขึ้น ครอบครัวทำให้ผมสบายใจขึ้น ครอบครัวคืนรอยยิ้มให้กับผม ครอบครัวทำให้ผมกลับไปเป็นแบมแบมคนเดิม คนที่รักตัวเองมากกว่าใคร คนที่ยิ้มมากกว่าใคร คนที่มีความสุขไม่แพ้ใคร ครอบครัวทำให้ผมตื่นจากความฝันที่แสนเศร้ากลับมาสู่ความจริงที่ไม่โหดร้ายอีกต่อไป
หากคุณมองไม่เห็นว่าใครยืนอยู่ข้างตัวคุณ คุณแค่เดินไปหาครอบครัวของคุณพวกเขาจะฉุดคุณขึ้นมาให้เห็นว่าจริงๆแล้วยังมีคนมากมายอยู่ข้างๆ คุณ
-J-U-S-T-A-F-F-A-I-R-
ตั้งแต่กลับไปอยู่ไทยผมก็ไม่ได้เปิดโทรศัพท์ที่ใช้อยู่เกาหลีเลยพอเปิดมาถึงกลับตกใจ โอ้วแม่เจ้ามีคนโทรเข้ามาเกือบ 500 สาย พอเช็คดูก็เห็นชื่อของคนที่ทำให้ผมเสียใจโทรมาเกือบ 90% ของจำนวนการโทรทั้งหมด โทรมาทำไม โทรมาเพื่ออะไร แน่นอนว่าข้อความไลน์เด้งไม่หยุด ผมไม่รู้ว่าควรจะเปิดข้อความไลน์อ่านดีรึเปล่า แต่สุดท้ายก็เปิดอ่าน เพราะหนียังไงก็คงหนีไม่พ้น ยังไงที่โรงเรียนก็ต้องเจอกันเพราะฉะนั้นแทนที่จะไม่เปิดอ่านแล้วทำเหมือนกับหนีความจริง สู้เราเปิดอ่านไปเลยดีกว่า
พี่มาร์คไลน์มามากกว่า 1,100 ข้อความ เขาคงไม่คิดว่าผมจะไล่อ่านทั้งหมดหรอกมั้ง ผมเลื่อนแบบขอไปที คือ ไม่อยากอ่านข้อความอะไรทั้งนั้น แต่ถึงจะไม่อยากเห็นก็เห็น เป็นคำขอโทษ โดยที่ในวันหนึ่งพิมพ์ประมาณ 24 ครั้ง ผมไม่ได้ตั้งใจจะนับนะครับ มันแค่อยากรู้เท่านั้น และมันเริ่มครั้งแรกเมื่อ 45 วันก่อน สรุปโดยเฉลี่ยพี่เขาพิมพ์ขอโทษผมทุกชม.เลยเหรอเนี่ย แต่ที่สุดข้อความประหลาดใจคือ คำ ขอโทษ พิมพ์เป็นภาษาไทย พิมพ์ว่า “ขอโทษ” แบบนี้เลยย และข้อความสุดท้ายที่ส่งมาก็คือเมื่อ ครึ่งชม.ก่อน ถ้าพี่มาร์คเปิดไลน์มาอีกครั้งก็คงจะเห็นว่าผมอ่านแล้ว ผมเลยตัดสินใจที่จะไลน์ไปหาเป็นข้อความสุดท้าย
“ไหนพี่บอกว่าพี่จะให้ตามคำที่ผมขอทุกอย่าง ผมจำได้ว่าผมขอให้พี่อย่ามายุ่งกับผมอีก และ อย่ามาให้ผมเห็นหน้าพี่อีกไง ไม่ต้องไลน์มาแล้วนะครับ เพราะถึงไลน์มาผมก็คงไม่ได้อ่านแล้ว เพราะผมจะบล็อกพี่”
พอผมพิมพ์เสร็จผมก็ออกจากไลน์และบล็อกทันที เพราะไม่อยากอ่านข้อความอะไรทั้งนั้นจากผู้ชายคนนี้ เขาควรจะสำนึกได้แล้วว่าไม่ควรมายุ่งกับผมอีก
ผมตัดสินใจโทรหาไอ้ยูคเพื่อบอกว่าผมกลับมาแล้ว และมันไม่จำเป็นต้องมารับผมใดใดทั้งสิ้นเพราะผมกำลังจะไปถึงคอนโดผมแล้ว ให้เจอกันวันพรุ่งนี้ที่ร้านเดิมเลย เสียงมันดูตกใจที่รู้ว่าผมกลับมาแต่ก็รู้ได้ว่ามันดีใจแค่ไหนที่ผมกลับมา มันเหมือนอยากจะพูดอะไรสักอย่างแต่ผมต้องลงจากรถพอดีก็เลยต้องขอวางก่อน เพื่อลงรถ
ผมถือของลงจากรถด้วยความอนาถเพราะมือเต็มไปด้วยข้าวของเสื้อผ้าและขนม รวมถึงของอย่างอื่นอีกเพียบ โชคดีที่พี่ยามใจดีอาสามาช่วยผมถือขึ้นห้องไปให้ด้วย พี่ยามบอกผมว่ามีผู้ชายผมแดงมาหาผมทุกวันเลย เขาดูเป็นห่วงและอยากเจอผมมาก ผมรู้ทันทีว่าเป็นใคร ผมไม่อยากให้เรื่องผู้ชายคนนั้นมาอยู่ในสมอง เลยรีบเปลี่ยนเรื่องถามเรื่องอื่นเมื่อถึงห้องผมก็จัดของเก็บของให้เรียบร้อย
ห้องที่ทำให้ผมคิดถึงคนนิสัยไม่ดีมากขึ้นทั้งที่คิดว่าทำใจได้ไหงพอมาถึงที่ห้องแล้วกลับนึกถึงผู้ชายคนนั้น อาจเพราะที่นี่มีความทรงจำเกี่ยวกับเขามากเกินไป ผมคิดอยู่หลายรอบว่าผมจะย้ายออกจากที่นี่ดูไหม แต่แบบนั้นมันก็ไม่ต่างอะไรกับการหนีปัญหาใช่ไหม ผมจะไม่หนีปัญหาอะไรอีกแล้ว ไม่เอาอีกแล้ว
จู่ๆ พี่ที่คอยดูแลเรื่องจดหมายก็โทรเข้ามาที่ห้องบอกให้ผมไปรับจดหมายด้วย เพราะจดหมายมันจะล้นตู้พี่เขาอยู่แล้ว ใครแม่งจะส่งหาผมนักหนาว่ะ
เมื่อได้รับจดหมายมา สรุปทั้งหมดเป็นจดหมายจากพี่มาร์ค ทุกซองไม่ได้มีตราปั้มไปรษณีย์เท่ากับว่าคนที่ส่งคงมาส่งเองที่ห้องผมทั้งหมด ทำไมเขาต้องทำอะไรขนาดนี้พี่ที่ดูแลจดหมายถึงกับถามผมเขินๆว่า เป็นแฟนกันเหรอ ผมรีบปฏิเสธทันที
“เขาเป็นแค่คนรู้จักกันครับไม่ได้มีอะไรมากกว่านั้น” พอผมบอกเสร็จก็รีบขึ้นห้อง ทำไมทั้งที่ผมอยากจะลืมเขาให้หมด แต่ทุกคนที่เจอผมต้องพูดถึงเขา ทำไมทุกคนไม่สงสารผมบ้าง
พอผมเดินขึ้นมาที่ห้องก็เจอกับคนที่ผมไม่อยากเจอที่สุด ใบหน้าของเขาที่ผมไม่ได้เห็นกว่า 2 เดือน มองตรงมาที่ผมเขายิ้มและวิ่งมาจะกอดผม
“คุณมาทำไมที่นี่”
“แบมพี่ขอโทษ เราคุยกันหน่อยได้ไหม”
“ผมว่าเราคุยกันจบไปแล้ว” ผมพยายามเดินหนีเขาเพื่อที่จะเข้าห้องแต่เขากลับจับมือผมไว้
“พี่บอกว่าเรามีเรื่องต้องคุยกัน”
“ผมไม่มีอะไรจะคุยกับคุณ เอาจดหมายคุณกลับไปด้วย” ผมปาจดหมายทั้งหมดใส่หน้าเขา แล้วรีบก้าวเข้าไปเปิดประตู ผมไม่ได้ตั้งใจเหยียบจดหมายของเขาที่หล่นพื้น แต่มันเต็มทางเดินไปหมด ผมเลยต้องเหยียบไอ้จดหมายบ้าบอพวกนี้ เหยียบให้เจ้าของจดหมายรู้ว่าผมไม่แคร์อะไรเขาสักนิด
“แบม ทำไมทำแบบนี้” เขาจับประตูที่ผมกำลังจะปิดลงพยายามดันตัวเองเข้ามาที่ห้องของผม
“กลับไปซะผมไม่อยากเห็นหน้าคุณ กลับไปกลับไปเดี๋ยวนี้” ผมตะโกนสุดเสียงเขาจะกลับมาทำไม ที่นี่ไม่มีคนของเขาอีกแล้ว ไม่มีไอ้โง่ที่ปิดหู ปิดตารักเขาอีกแล้ว
“ให้พี่ได้พูดความจริงทั้งหมดก่อนได้ไหม พี่ขอร้อง แล้วถ้าแบมยังเกลียดพี่ พี่สัญญาพี่จะกลับไป” ผมไม่อยากให้เขาเข้าห้องผม ไม่อยากให้เขาก้าวเข้ามาเพื่อย้ำว่าเขาเคยมาที่นี่ ย้ำให้ผมรู้สึกว่าเขาไม่เคยไปไหน ได้โปรดอย่าเข้ามา อย่าเข้ามาทำให้ผมคิดถึงเขาอีกเลย เพราะยิ่งคิดถึงเขาผมก็ยิ่งเจ็บปวด
“น้องแบมให้พี่คนนี้เขาเข้าไปเถอะ เขามาหาน้องทุกวันเลยนะ” พี่ซองจินที่อยู่ข้างห้องออกมาเพราะผมคงตะโกนเสียงดังมากไป
สุดท้ายก็ต้องให้เขาเข้ามาเพราะผมไม่อยากให้คนทั้งคอนโดออกมามองว่ามันเกิดอะไรขึ้น ผมเลยไปที่โซฟา ผมพยายามจะไม่สบตาเขา เขาที่มองผมอย่างไม่หยุดหย่อน เขาที่มองผมด้วยสายตาที่ไม่เปลี่ยนไป ได้โปรดอย่ามองอีกเลย ได้โปรดอย่าทำแบบนี้
“อยากพูดอะไรก็พูดมา พูดแล้วจะได้กลับไปสักที”
“พี่.....................” เขาเล่าเรื่องราวทั้งหมดให้ผมฟังทั้งหมด เขาเล่าว่าอะไรเป็นยังไง เล่าว่าเขาเจ็บปวดแค่ไหน ที่โดนเพื่อนสนิทกับแฟนหักหลัง แล้วผมไม่เจ็บยิ่งกว่าเหรอที่โดนเขาหลอก การที่เขาโดนคนอื่นหลอกมันจำเป็นเหรอว่ะ ที่ต้องมาหลอกคนอื่น มันจำเป็นเหรอที่ต้องมาทำร้ายคนอื่น
“พี่เลิกกับจินยองแล้วนะ พี่จะทำทุกอย่างให้ถูกต้อง พี่รักแบมนะ พี่รักแบมอย่างไม่รู้ตัว รักแบบไม่เคยคิดว่าจะเผลอหลงรักได้ขนาดนี้ พี่รู้ว่าพี่ทำให้แบมเสียใจ แต่ให้โอกาสกับพี่ได้ไหม พี่ขอแค่อีกครั้งเดียว ครั้งเดียวเท่านั้น” แต่มันไม่ได้ทำให้ผมซาบซึ้งใจ หรือ เห็นใจเขา สักนิดเดียว
“คุณพูดจบแล้วใช่ไหม ถ้าใช่ก็ออกไป ที่นี่ไม่มีคนของคุณอีกต่อไปแล้ว ไม่สิ ที่นี่ไม่เคยมีคนของคุณหรอก มีแต่ไอ้โง่คนหนึ่งเท่านั้น”
“แบมอย่าด่าตัวเองโง่ได้ไหม พี่เองที่เลว ถ้าจะด่าอะไรด่ามาที่พี่อย่าด่าตัวเองแบบนี้”
“ผมโทษคุณไม่ได้หรอก เรื่องทั้ง ผมเป็นคนทำมันด้วยตัวผมเอง ผมไปรักคุณอง ผมเลือกที่จะทำผิดด้วยตัวผมเอง ผมมีสิทธิ์ที่จะหยุด แต่ผมไม่ทำ มันก็สมควรแล้วที่ผมจะเจ็บด้วยตัวผมเอง มันก็สมควรแล้วที่ผมจะเสียใจ มันก็สมควรแล้วกับคนโง่ๆ เลวๆ แบบผม เพราะฉะนั้นคุณไม่ผิดหรอก ไม่ผิดเลย ไม่เลยสักนิด”
“แบมเราเริ่มต้นกันใหม่ได้ไหม ลืมเรื่องที่ผ่านมาซะแล้วเรามาเริ่มกันใหม่”
“เริ่มกันใหม่ เราเคยเริ่มเรื่องของเราตั้งแต่เมื่อไหร่เหรอครับ คำว่าเรามันควรจะหมายถึงคน 2 คน แต่เรื่องที่ผ่านมามันเคยมีสักครั้งรึเปล่าที่เป็นแค่เรื่องของ 2 คน”
“ยอมรับความจริงเถอะครับ มันไม่เคยมีเรื่องของเรา”
“และ”
“มันก็จะยังคงไม่มีเรื่องของเราตลอดไป”
“แบมตอนนี้พี่รักแบมจริงๆ พี่รู้แล้วว่าตอนนั้นพี่เลวแค่ไหน”
“มันไม่ได้สำคัญที่ตอนนี้คุณรักผมรึเปล่า แต่มันสำคัญตรงที่วันนั้น วันที่ผมรักคุณทั้งหัวใจ คุณกลับหลอกผมอย่างเลือดเย็น ถึงคุณจะบอกว่าจริงๆ แล้วตอนนั้นคุณก็รักผม แต่มันสำคัญด้วยเหรอครับ....ในเมื่อตอนนั้นคุณเองตั้งหากที่เป็นคนเหยียบและทำร้ายความรักที่ผมมีให้คุณจนมันไม่เหลืออะไรเลย ไม่เหลือแม้แต่ความรู้สึกดีๆ ที่เราเคยมีให้กัน”
“แบม พี่สัญญา พี่สัญญาว่าพี่จะให้ความสำคัญกับแบมมากที่สุด พี่จะดูแลและเอาใจใส่แบม พี่จะซ่อมแซมทุกความรักของแบมด้วยตัวพี่เอง พี่ผิดไปแล้ว พี่ขอโทษได้โปรดให้โอกาสพี่ ได้โปรดให้โอกาสคนโง่ๆ คนนี้ คนที่รู้ตัวแล้วว่ารักแบมแค่ไหน คนที่รู้แล้วว่าแบม..........”
“อย่าพูดอะไรอีกเลยครับ ผมเคยบอกคุณแล้วใช่ไหมครับ ว่าคำว่า ขอโทษ ยิ่งพูดค่าของมันก็มีแต่น้อยลงโปรดรู้เอาไว้ว่าคำขอโทษของคุณมันหมดค่า ไม่เหลือค่าอะไรอีกแล้วในความรู้สึกของผม คำขอโทษของคุณมันไม่ต่างจากคำแก้ตัวทุเรศๆ เลยสักนิด”
75%
“แบม”
“ถ้าคุณยังเมตตาและเห็นใจไอ้โง่คนนี้บ้าง ได้โปรดออกไปจากห้องผม ได้โปรดอย่ามาสนใจผม ได้โปรดทำเหมือนว่าเราเป็นคนไม่รู้จักกัน ได้โปรดอย่ากลับเข้ามาในชีวิตผมอีกเลย เพราะคุณมันไม่เหลือค่าอะไรสำหรับผมเลย”
“พี่จะออกจากห้องแบมก่อนวันนี้ แต่พี่คงไม่สนใจแบมไม่ได้ เพราะหัวใจพี่มันสนใจคนที่พี่รักเสมอ พี่คงทำเหมือนไม่รู้จักแบมไม่ได้ เพราะสมองของพี่สั่งให้พี่จำคนที่พี่รักไปในทุกลมหายใจ พี่ไม่สามารถจะเดินออกจากชีวิตแบมได้เพราะทั้งสมองและหัวใจของพี่มันเป็นของแบม มันเป็นของแบมทั้งหมด พี่อยากบอกแบมว่าถึงพี่จะไม่มีค่าอะไรในสายตาแบม แต่แบมแบมรู้ไหมแบมมีค่าที่สุดสำหรับพี่”
“ได้โปรดอย่าเรียกผมว่าแบมแบม อย่าเรียกชื่อของผม ชื่อของผมให้สำหรับคนที่รู้จักผมเท่านั้น ส่วนคุณไม่มีสิทธิ์ไม่มีสิทธิ์ที่จะเรียกผมแบบนี้ ไม่มี ออกไปเถอะครับ ก่อนที่ผมจะโทรเรียกยามขึ้นมาจับคุณ”
เขายอมเดินออกไปจากห้องผมแล้วในที่สุด แต่น้ำตาผมกลับไหลมาอาบ 2 แก้มทำไม ทั้งที่ตั้งใจว่าจะไม่ร้องไห้เพื่อผู้ชายคนนี้อีก แต่ทำไมถึงร้อง แค่วันเดียวที่กลับมาเกาหลี เขาก็ทำให้ผมร้องไห้ได้อีกครั้ง เขาช่างมีความสามารถเหลือเกินเก่งเหลือเกิน มาร์ค ต้วน เก่งที่สามารถสร้างน้ำตาให้ผมได้ไม่หยุด
จู่ๆ ก็มีเสียงอ๊อดหน้าห้อง ผมเปิดประตูไปแล้วปรากฎว่าไม่เห็นใครสักคนแล้วสักพักก็สังเกตุเห็นถุงข้าวร้านดังแถวนี้แขวนอยู่หน้าห้อง เพราะน้ำผมไม้ ผมจึงหยิบเข้ามาในห้องแล้วถึงเห็นกระดาษที่มีลายมือคุ้นตา
“พี่รู้ว่าแบมยังไม่กินข้าว โกรธพี่ได้ เกลียดพี่ได้แต่อย่าลืมกินข้าวนะครับ พี่ซื้อน้ำผมไม้มาให้แบมด้วย J”
เมื่อรู้ว่าใครเป็นคนซื้อให้ผมก็ตัดสินใจได้เลยว่าจะไม่กิน ผมเอาข้าวและน้ำลงไปให้ลุงยามข้างล่าง จึงทำให้ผมเห็นว่ายังมีรถคันคุ้นตาจอดอยู่หน้าคอนโดเขาคงจะเห็นว่าผมยื่นข้าวให้ลุงยาม แล้วไงละ ผมไม่แคร์อยู่แล้ว หลังจากนั้นผมมก็เดินออกไปซื้ออะไรกิน
ผมรู้สึกได้ว่ามีคนเดินตามจึงเห็นว่าพี่มาร์คเดินตามผมอยู่อยากเดินตามก็เดิน ผมตัดสินใจเข้าไปกินข้าวที่ร้านแห่งหนึ่งพี่มาร์คไม่ได้ตามเข้ามาเขายืนรออยู่นอกร้าน จู่ๆ ฝนก็ตกลงมา เขาทีไม่มีร่มจึงเปียกฝนอยู่นอกร้านทั้งที่บอกกับตัวเองว่าอย่าสนใจ เขาจะเป็นอะไรก็ช่างแต่สายตาของผมมันก็อดที่จะหันไปมองไม่ได้อยู่ดี ผมไม่รู้ตัวเลยว่าตัวเองรีบกินข้าวนจานนั้นมากแค่ไหน
พอผมออกจากร้าน พี่มาร์คก็มองหน้าผมแล้วยิ้ม ผมตัดสินใจที่จะถามออกไปว่าทำแบบนี้เพื่ออะไร
“ทำแบบนี้ทำไม”
“พี่แค่อยากแน่ใจว่าแบมจะไม่เป็นอันตราย พี่แค่อยากมั่นใจว่าแบมจะกลับบ้านอย่างปลอดภัย แบมไม่อยากเห็นหน้าพี่ก็ไม่เป็นไร แต่พี่อยากเห็นหน้าแบม และ อยากให้แบมรู้ว่าจากนี้และต่อไปพี่จะไม่ปล่อยให้แบมไปไหนตามลำพัง และ พี่จะไม่ปิดบังใครว่าพี่รักแบม พี่จะไม่ปิดบังว่าพี่เห็นแบมสำคัญที่สุด”
“ผมไม่ชอบใครมาตาม อย่าตามผม”
“แต่ถนนไม่ได้เป็นของแบม พี่รู้ว่าพี่ไม่เหลือค่าอะไรแล้วสำหรับแบมแต่พี่ขอได้ไหม ขอให้พี่ได้มองแบม ขอให้พี่ได้ทำอะไรเพื่อแบม ถ้าแบมไม่อยากได้แบมยกให้คนอื่นเหมือนข้าวกล่องเมื่อกี้ก็ได้ พี่ยอม” สายตาของพี่มาร์คกำลังเจ็บปวด มันทำให้ผมรู้สึกเจ็บตามไปด้วย อย่านะแบม อย่าเจ็บเพื่อผู้ชายคนนี้อีก
“ถ้าแบมไม่อยากที่จะรับความรู้สึกของพี่ ก็ไม่เป็นไร พี่ยอมให้แบมทิ้ง พี่ยอมให้แบมทำร้าย เหมือนที่แบมเหยียบจดหมายที่พี่เขียนถึงแบม โดยที่แบมไม่คิดจะเปิดอ่าน พี่ยอมทุกอย่างเลยแบม แต่พี่อยากให้แบมรู้ว่า พี่จะให้แบม เพราะความสุขของพี่คือการทำเพื่อแบม ขอแค่นี้ได้ไหม พี่ขอแค่นี้จากแบมแล้วพี่จะไม่เรียกร้องอะไรจากแบมอีกเลย”
“อยากทำอะไรก็ทำเถอะ เพราะมันไม่มีค่าอะไรต่อผมสักนิดเดียว”
-J-U-S-T-A-F-F-A-I-R-
กดไปฟังเพลงนี้กันเถอะ
>> CLicccccccccccK <<
TALK !!!!!!!
มาครบ 100เปอร์แล้วนะจ้ะ
ขอโทษที่มาต่อช้าาาาาาา
ตั้งใจจะลงเมื่อวาน
แต่.............................
นิยายที่ตามอ่านเพิ่งออก เราเลยอ่านตั้งแต่เย็นจนค่ำ
พอรู้ตัวอีกที ตายแล้ววววววววยังไม่ได้อัพพพพพพพ TTWTT
ต้องขออภัยจริงๆ
ปล. #วซดล ใครเป็นแม่ยก #BBam เจอกันนน อีกไม่เกิน 2ตอนพี่บีจะจัดเต็มเตรียมรออ่านช็อต #BBam กันได้เลย
ส่วน #MarkBam มีในทุกตอนน หุหุหุหุ
ความคิดเห็น