ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    [Exo & You] ::All X KyungSoo:: Baby KyungSoo ลูกสาวแม่หมี

    ลำดับตอนที่ #2 : ::แม่ของแอล:: 100%

    • เนื้อหาตอนนี้เปิดให้อ่าน
    • 582
      7
      24 เม.ย. 60


    ::แม่ของแอล::


     
             "องค์หญิงทรงเลือกท่านแม่ของมนุษย์ขององค์หญิงได้แล้วนะเพคะ"

             "หรอ...แล้วผู้หญิงคนนั้นเป็นคนยังไงล่ะ??"

             "ไม่ใช่ผู้หญิงเพคะ...เป็นผู้ชาย"

             พรวดดดด

             "อะแค่กๆๆ ไปตาม...ไปตามเสด็จองค์หญิงน้อยมาเดี๋ยวนี้!!" ร่างหนาของผู้เป็นใหญ่สั่นคลอนตามแรงสำลัก น้ำทิพย์ที่ไร้รสชาติกระจายออกมาจากปากเรียวสวย ก่อนที่ร่างเล็กของหญิงสาวจะโผล่ออกมา

             "ท่านพ่อมีอะไรหรือเพคะ??" ใบหน้าอ้วนกลมแย้มยิ้มพร้อมกับกระโดดขึ้นไปนั่งบนตักแกร่งของผู้เป็นพ่อ ฟองสบู่มากมายกระจายเต็มห้องโถง

             "ทำไมลูกถึงเลือกแม่มนุษย์ของลูกเป็น..."

             "ผู้ชาย" เสียงใสดังขึ้นต่อจากประโยคของผู้เป็นใหญ่ที่เอ่ยขึ้นอย่างหนักใจ มือสั้นเอื้อมขึ้นไปหยิกที่แก้มนวลเหมือนครั้งก่อน

             "ทำไมล่ะ??" ผู้เป็นใหญ่ถามขึ้นอีกครั้งพร้อมกับมือหนาอบอุ่นวางลงบนหัวน้อยๆของลูกสาว

            "อาจจะเป็นเพราะว่า ฟ้าได้ลิขิตไว้แล้ว...มั้งเพคะ" หญิงสาวพูดติดตลกพร้อมกับรอยยิ้มที่แย้มบนหน้า ก่อนจะแปรเปลี่ยนเป็นตกใจ เมื่อเงาดำทะมึนปรากฏขึ้นตรงหน้าของเธอและผู้เป็นพ่อ

            "เจ้า..." เสียงแหบพร่าของผู้เป็นใหญ่ดังขึ้นเมื่อเห็นว่าเงาสีดำเริ่มก่อตัวเป็นรูปร่างที่ตนนั้นคุ้นเคย...ใบหน้าคมที่เคยอบอุ่นเปลี่ยนเป็นนิ่งดูน่าเกรงขาม แขนแกร่งยกขึ้นมาโอบร่างเล็กของหญิงสาวที่เริ่มสั่นเทาด้วยความกลัว

           มันกลับมาแล้ว...

           "อ่า...สวัสดีท่านผู้เป็นใหญ่"

           "เจ้ามาทำอะไรที่นี้" เสียงนิ่งที่ดูน่าเกรงขามกล่าวขึ้นกับเงาสีดำรูปร่างเพียวสูง น้ำเสียงแหบพร่าที่ฟังแล้วดูน่าขยะแขยงเอ่ยทักทายพร้อมกับโค้งคำนับทำความเคารพ ใบหน้าเรียวถูกปกปิดด้วยหน้ากากสีดำ 

           "อ่า...ข้าแค่คิดถึงพวกท่าน...เลยอยากมาหา" น้ำเสียงที่แสนน่าเกลียดเอ่ยขึ้นอีกครั้ง ก่อนที่เงาควันดำเคลื่อนตัวเข้ามาใกล้ร่างของหญิงสาวในอ้อมอกแกร่ง ใบหน้าเรียวแสยะยิ้มใต้ร่มผ้า ก่อนที่จะยี่นนิ้วชี้ผอมแห้งมาเชยคางเล็กของหญิงสาวให้เลื่อนขึ้นไปสบตา

           "องค์หญิงนี้...ยิ่งโตยิ่งเหมือนท่านแม่นะขอรับ..."

           "เอามือสกปรกๆของเจ้าออกไปจากคางของลูกข้าซะ!!!" น้ำเสียงเกรี้ยวกราดดังขึ้น พร้อมกับมือหนาที่เอื้อมมาปัดนิ้วยาวน่ารังเกียจแต่สิ่งที่แตะต้องกลับกลายเป็นเพียงแค่ควันดำ ตาเรียวคมเบิกกว้างขึ้นเมื่อร่างเงาดำเคลื่อนตัวออกห่างจากพวกเขา แต่ในมือเรียวกลับมีแหวนสีเงินเกลี้ยงเกลาของหญิงสาวผู้เป็นที่รัก...

           "เจ้า...เจ้าทำอะไรกับมาเรีย!!!" น้ำเสียงสั่นแต่ทรงพลังของผู้เป็นใหญ่ดังขึ้น พร้อมกับอ้อมกอดที่กระชับร่างเล็กที่สั่นเทาให้แน่นเข้าไปอีกขั้น ตาเรียวลุกวาวด้วยความเกรี้ยวโกรธ

           "อ่อ...ข้าก็แค่ทดลองอะไรนิดๆหน่อยๆ แล้วเห็นว่าแหวนวงนี้มัน เกะกะ น่ารำคาญ ข้าเลยถอดมันออก...ก็แค่นั้น"

           "เจ้า!!"

           "อ่ะๆ ใจเย็นสิขอรับท่านผู้เป็นใหญ่ เราทำสัญญากันแล้ว...ท่านอย่าลืมสิ" นิ้วชี้เรียวแห้งยกขึ้นมาจรดที่ริมฝีปากบางคล้ำใต้หน้ากากดำ สายตาเรียวคมที่ไร้ความรู้สึกจ้องเขม็งไปที่ร่างเล็กในอ้อมกอดของร่างหนาอย่างหื่นกระหาย

           อ่า...น่าสนุกขึ้นมาแล้วสิ

           "องค์หญิงอย่าทรงเกลียดหม่อนฉันเลยนะขอรับ กะหม่อนอุตส่าห์หาของขวัญวันเกิดที่แสนน่าจดจำมาให้...จำได้มั้ยขอรับ??"

           "ฮึก...แก..มันน่ารังเกียจ ฮึก" ดวงตากลมโตเอ่อไปด้วยน้ำสีใส ใบหน้าอ้วนกลมเบ้ออกจากเจ็บปวดและทรมาน แค่นึกถึงเหตุการณ์ในวันนั้นก็เจ็บปวดแล้ว ถ้ามันเกิดขึ้นอีกล่ะ...

           มันจะไม่มีวันนั้นอีกแล้ว

           "ออกไปซะ!! ออกไปให้พ้นข้ากับลูก เจ้าได้สิ่งที่ต้องการแล้ว... เจ้าจะกลับมาทำไมอีกห๊ะ!!" เสียงใหญ่ตวาดลั่น มือหนาเอื้อมมาเช็ดน้ำตาของลูกสาวอย่างเจ็บปวด ตาเรียวฉายแววปลอมโยนให้หญิงสาวก่อนจะกลับแข็งกร้าวใส่เงาดำ

           "อ่อ...ที่ข้ามาหาเพราะจะเอาของขวัญชิ้นใหม่มาให้...ได้ยินข่าวว่าองค์หญิงน้อยของข้าจะเสด็จลงไปเกิดเป็นลูกมนุษย์..." เสียงแหบพร่าเอ่ยขึ้นอย่างสบายใจ ทำให้เรียวตากลมโตขององค์หญิงเบิกกว้าง

           "ออมม่า...."

           "นี้เจ้า!!!"

           "อ่ะๆ จุ๊ๆไปสิท่าน ตั้งแต่ท่านมาเรียไม่อยู่ ท่านกลายเป็นพวกชอบตะโกนโหกห้ากไปแล้วรึ"

           "หยุดพูดซะ!!!" เรียวตาคมลุกวาว ก่อนจะอ่อนลงเมื่อหญิงสาวใต้ร่างดึงความสนใจ

           "ท่านพ่อ...ไปหาแม่มนุษย์ของข้ากันเถอะนะ"


     

    -
    -


     

           "หาวววว โอ๊ย...ง่วง" เสียงนุ่มทุ้มเอ่ยออกมาอย่างเบื่อหน่าย ร่างเล็กเดินอย่างเอื่อยเชื่อยไปที่โซฟาตัวโปรด วันนี้เป็นวันที่เหนื่อยล้ามากๆสำหรับคยองซู ใบหน้ากลมฉายแววความเมื่อยล้าอย่างชัดเจน

           อีกนานเท่าไรที่งานพาร์ททาร์มนี้จะหมดลงนะ...

           "ง่วงจัง..." ร่างเล็กบ่นพึมพำก่อนจะล้มตัวลงบนโซฟารับแขกในห้องโถงกลางขนาดย่อมๆ ใบหน้ากลมซุกที่หมอนอิงอย่างหมดแรง มือป้อมเอือมมาหยิบสิ่งที่ไม่มีชีวิตอย่างรีโมตทีวีและกดเปิดทันที

           "อ๊า~ สดชื่น" เสียงแหลมที่ดูสดใสดังออกมาจากจออิเล็กทรอนิกส์สี่เหลี่ยม ดึงความสดใจจากร่างเล็กให้หันหน้าไปมอง ภาพของเด็กผู้หญิงน่าตาน่ารักในจอสี่เหลี่ยม ทำให้คยองซูนึกถึงเด็กผู้หญิงที่วิ่งมากระโดดเกาะเขาแล้วบอกว่าเขาคือแม่ของเด็กหญิง

           ขอบอกว่าตอนแรกก็แค่รู้สึกว่าน้องคงยังเล็ก แต่ด้วยสายตากลมโตของเด็กหญิงทำให้เขาต้องคิดใหม่ แววตาที่ดูมุ่งมั่นและดูจริงใจของเด็กน้อยยังคงติดตรึงอยู่ในใจของเขา...

           เห็นแล้วก็อยากมีลูกสาวน่าตาน่ารักแบบนั้นเลย แล้วดูท่าว่าจะต้องซนมากๆแน่ๆ...

           นี้เขาคิดบ้าอะไรอยู่เนี่ย - -

           และแน่นอนว่าถ้าเขามีลูก เขาต้องเป็นพ่อแน่ๆ ไม่ใช่แม่แน่นอน

           พนันเลยมั้ย??

           ถึงจะพูดแบบนั้น แต่ตลอด 23 ปีที่ผ่านมา เขาก็เคยมีแฟนนะ...แต่ว่า

           เป็นผู้ชาย- -

           "เฮ้อ~ เพ้ออะไรของนายเนี่ยคยองซู..." ร่างเล็กพึมพำกับตัวเอง ก่อนจะตัดสินใจปิดโทรทัศน์ที่ตอนนี้กำลังฉายหนังละครน้ำเน่าของเหล่าป้าๆทั้งหลายอยู่ ร่างเล็กลุกขึ้นแล้วเดินเอื่อยอ่ายไปที่ชั้นสอง...ที่ห้องนอนของตน แต่กลับเกิดสิ่งที่ไม่คาดคิดขึ้น เมื่อร่างเล็กเดินขึ้นมาถึงชั้นสองแล้ว สายตากลมโตก็เลื่อนไปเห็นเงาดำที่ตรงมุมประตูเปิดออกไปนอกระเบียง เท้าเล็กเดินเข้าไปใกล้เงาดำนั่น ก่อนจะเอื้อมมือป้อมเข้าไปใกล้หวังจะสัมผัส

           ความเย็นยะเยือกพัดเข้ามาในห้อง ลมที่ไร้จุดหมายพัดสาดเข้าใส่ร่างเล็กจนหนาวสั่น เขาจำได้ว่าไม่ได้เปิดประตูระเบียงหรือหน้าต่างสักบาน แต่ทำไมถึงมีลมพัดกันล่ะ??

           มือป้อมที่เอื้อมออกไปหวังจะสัมผัสกับเงามืดดำ ถูกกระชากอย่างแรงจนร่างเล็กต้องล้มลง ใบหน้ากลมเหยเกด้วยความเจ็บปวด สายตากลมโตสั่นระริก...เมื่อกี้ใครกระชากแขนเขากัน

           พลั่ก

           "อ๊ะ!!!" แรงกระแทกเกิดขึ้นที่ไหล่ขวาจนความเจ็บปวดแล่นเข้าสู่ร่างกายบริเวณไหล่แคบ ก่อนจะลามไปที่หลังเล็ก สายตากลมโตเลื่อนหาที่มาของแรงกระแทก ใบหน้ากลมผงะเมื่อหันไปเจอกับร่างบางของหญิงสาวที่สวมชุดสีดำ ผมเผ้าก็ดูรุงรังอย่างกับขาดการดูแลมาเป็นเวลานาน แผ่นหลังยาวงอเอนไปข้างหน้าเหมือนกับหญิงชรา...

           "คุณครับ..." เสียงทุ้มนุ่นดังขึ้นอีกครั้ง พร้อมกับมือป้อมที่เลื้อนเข้าไปใกล้ร่างของหญิงสาว ร่างเล็กพยายามเดินเข้าไปใกล้ร่างของหญิงสาว แต่ด้วยความเจ็บปวดที่ไหล่เล็กทำให้เขาต้องหยุดลง 

           "คุณ..."

           "หึๆๆ" เสียงหัวเราะน้อยๆดังออกมาจากร่างของหญิงสาว ร่างบางนั้นเริ่มขยับหันหน้ามาหาร่างเล็ก ตากลมโตเบิกกว้างทันทีที่ร่างบางหันมาจนสุด ใบหน้าซูบผอมที่ดูไร้เรี่ยวแรง ปากบางที่ตอนนี้ซีดยิ่งกว่ากระดาษ ตาก็แดงก่ำอย่างน่ากลัว...

           นี้มันอะไรกัน...เกิดอะไรขึ้น
































           "กรี๊ดดดดดดดดดดดดดดด!!!!!" เสียงแหลมแหบดังขึ้นพร้อมกับมือผอมแห้งยื่นมาที่คอของร่างเล็กก่อนจะคว้าหมับและออกแรงบีบอย่างรุนแรง

           "คะ...คุณ...อึก" ร่างเล็กพยายามดิ้นเพื่อให้หลุดจากการเกาะกุม ใบหน้ากลมเหยเกด้วยความเจ็บปวดอีกครั้ง มือป้อมพยายามดึงมือเรียวแห้งที่บีบอยู่ที่ต้นคอของตนให้หลุดออก แต่ด้วยความเจ็บปวดที่ไหล่เล็กและความเหนื่อยล้าทำให้ร่างเล็กไร้ซึ่งกำลังในการขัดขืน

           "แก...แก...แกจะมาเอาลูกของฉันไป แก...แก...แกจะพรากลูกไปจากฉัน แก...แก...แก....



















           แกต้องตาย!!!!"

           สวบ!!

           "อัก...อึก" เลือดสีแดงสดไหลออกมาจากปากอิ่มและท้องแบนราบที่ถูกของมีคมแทงเข้าไปอย่างแรง สายตาคมเริ่มพร่ามัวก่อนจะมืดดับลงพร้อมกับร่างเล็กที่ร่วงกระทบลงกับพื้น

           "จำเอาไว้...แอลคือลูกของฉัน...ไม่ใช่แก!" เสียงแหบพร่าของหญิงสาวดังขึ้นอีกครั้งก่อนจะหายวับไปทิ้งไว้แค่คราบเลือดและความเจ็บปวดกับร่างเล็ก สติที่ยังคงเหลืออยู่ของร่างเล็กกำลังช่วยประคองให้ตนเองลุกขึ้น แต่ความเจ็บปวดก็วิ่งแล่นเข้าโจมตีทำให้เขาไม่สามารถขยับไปไหนได้เลย ลมหายใจของร่างเล็กเริ่มรวยริน สติที่คงเหลือตอนนี้พยายามเตือนตัวเองไว้ไม่ให้หลับ...และเฝ้าพร่ำบอกว่า...


            มันก็แค่ฝันร้าย...

            โลกเริ่มมืดลงอีกครั้ง ร่างเล็กเริ่มรู้สึกหายใจลำบาก เลือดก็ไหลอาบไปทั้งตัว สติที่มีอยู่ตอนนี้หายไปหมดแล้ว...นี้มันอะไรกัน เกิดอะไรขึ้นกับเขา...ไม่เห็นจะเข้าใจเลย

             ไม่เห็นจะ....

             "ออมม่า!!!!!"




    -

    -

     


              ร่างเล็กแสนบอบบางถูกแขนแกร่งโอบอุ้มอย่างอ่อนโยน ร่างโปร่งก้าวเดินมาเรื่อยๆก่อนจะหยุดลงตรงวัตถุสีขาวเกลี้ยง ลักษณะของมันดูนุ่มนิ่มเหมือนปุยเมฆ แขนแกร่งค่อยๆวางร่างเล็กลงบนวัตถุสีขาว ใบหน้ากลมใสของร่างเล็กที่ตอนแรกเปื้อนและชุ่มไปด้วยเลือด ตอนนี้กลับขาวใสและสะอาดดังเดิม ร่างกายของเขาก็เช่นกัน จากเสื้อเชิ้ตสีฟ้าที่ถูกยอมไปด้วยสีแดง กลับกลายเป็นสีขาวบริสุทธิ์

     

            ที่นี้ที่ไหน...


            สติอันน้อยนิดที่เหลืออยู่ของร่างเล็ก กำลังสั่งการให้ตากลมโตของตนเปิดออก แต่ด้วยความเจ็บปวดจากบาดแผลที่หน้าท้อง ทำให้ประสาทสัมผัสทั่วร่างกายขัดข้อง

            นี้มันเกิดอะไรขึ้น...ไม่เห็นจะเข้าใจเลย

            คำถามมากมายดังก้องอยู่ในหัวของร่างเล็ก ตากลมโตเริ่มปรือขึ้นและลืมโพล่งขึ้นอย่างช้าๆ ร่างเล็กกระพริบตาถี่รัว ก่อนจะสอดส่ายไปมา

            สีขาว...สีขาวเต็มไปหมดเลย

            ร่างเล็กเริ่มขยับตัว น่าแปลกที่ตอนแรกร่างกายของเขาเจ็บปวดเจียนตาย แต่ตอนนี้กลับทุเลาลงอย่างไม่น่าเชื่อ หัวทุยเริ่มยกสูงขึ้นก่อนจะมาหยุดอยู่ในท่าตรง สายตากลมโตสอดส่ายไปมา แต่ภาพตรงหน้ากลับว่างเปล่า มีเพียงแค่สีขาวบริสุทธิ์เท่านั้น

            “ตื่นแล้วหรอ” เสียงแหลมแหบดังขึ้นจากข้างหลัง ร่างเล็กหันกลับไปมองก็พบกับร่างของหญิงสาวสวยที่ดูมีอายุกำลังส่งยิ้มมาให้ตนอย่างเป็นมิตร ปากอิ่มจึงได้แค่ยกยิ้มขึ้นน้อยๆ

            “ไม่เจ็บแล้วใช่ไหม” คำถามเสียงแหบพร่ายังคงดังออกมาจากปากเรียวของหญิงสาว ร่างเล็กยิ้มเล็กน้อยพร้อมกับส่ายหัวรัว ก่อนจะก้มลงไปมองบาดแผลที่หน้าท้อง ซึ่งตอนนี้กลับไม่มีเค้าโครงหรือร่องรอยของการฉีกขาดอยู่เลย

            นี้มันเกิดอะไรขึ้นกับเขากัน...ต้องการอะไรกัน

            “อย่าตกใจไปเลย...ที่นี้ไม่น่ากลัวหรอกนะ” เสียงแหลมดังขึ้นพร้อมกับร่างบางของหญิงสาวที่เดิมเข้ามาใกล้พลางยื่นมือมาจับกับมือป้อมของร่างเล็ก ใบหน้าสวยยกยิ้มอย่างเป็นมิตรอีกครั้ง ทำให้ร่างเล็กผ่อนคลายลงไปเยอะ

            “ที่นี้...คือที่ไหนหรอครับ” เสียงนุ่มหลุดออกมาจากปากอิ่มพร้อมกับสะโพกมนที่หย่อนนั่งลงบนวัตถุสีขาวตามแรงชักชาวนของหญิงสาวตรงหน้า

            “สรวงสวรรค์”

            “!?”

              หมะ...หมายความว่า...


            ผมตายแล้ว??

            “ไม่มีอะไรต้องตกใจ...เธอยังไม่ตายนะ” หญิงสาวพูดขึ้นอย่างรู้ทัน ร่างเล็กส่งสายตาที่เต็มไปด้วยความสงสัยให้ มือป้อมกลมก็เริ่มผสานเข้าหากันด้วยความหวาดหวั่น

            ไม่เห็นจะเข้าใจเลย

            “มันเกิดอะไรขึ้น...หรอครับ” ร่างเล็กเอ่ยถามด้วยความหวาดหวั่น ร่างเล็กเริ่มขยับตัวออกห่างจากร่างบางด้วยความไม่ไว้ใจ เรียกรอยยิ้มที่ดูเป็นมิตรจากปากเรียวได้อีกครั้ง

            “เด็กน้อย...ที่นี้เธอจะไม่เป็นอะไรนะ เชื่อใจฉันสิ” มือเรียวที่ดูอ่อนนุ่มลูบเบาๆที่กลุ่มผมสีดำ ความอบอุ่นถูกแผ่กระจายออกมาจากมือเรียว การกระทำดังกล่าวทำให้ร่างเล็กเลิกหวั่นใจไปได้มากเลยทีเดียว

              “คุณเป็นใครฮะ แล้วทำไมผมถึงมาอยู่ที่นี้ล่ะ ต้องการอะไรจากผมหรอฮะ...บอกผมหน่อยได้ไหม” ปากอิ่มส่งคำถามรัว ทำให้เสียงหัวเราะเล็กๆในลำคอของหญิงสาวดังขึ้น ก่อนจะตามด้วยมือนุ่มที่ส่งไปลูบบนหัวทุยอีกครั้ง

            เหมือนท่านจริงๆ...องค์หญิงแอลทรงเลือกถูกจริงๆเพคะ



            “ได้สิ ทำไมจะไม่ได้กัน...แต่ฉันคงตอบเธอไม่ได้หรอกนะ เพราะฉันไม่ได้เป็นคนพาเธอมาที่นี้...”

            “...”

            “อ่อ! แล้วอีกอย่าง...ฉันชื่อว่า คิม ยุน จ๊ะ เด็กน้อย”

     

     

    -

    -

     

     

            “ที่นี้แหละ...เด็กน้อย” เสียงแหบพร่าดังขึ้นพร้อมกับเท้าเล็กที่ไร้ซึ่งสิ่งห่อหุ้มหยุดขยับ ร่างเล็กยืนมองสิ่งก่อสร้างตรงหน้าด้วยความประหลาดใจ มันมีรูปร่างขนาดใหญ่ที่ดูท่าทางว่าคงจะเป็น ปราสาท ไม่ก็ พระราชวัง อะไรเทือกๆนี้ หญิงสาวยกยิ้มอีกครั้งก่อนจะเอื้อมมือมาจับมือป้อมของร่างเล็กเอาไว้ ตากลมโตเลือนลงมามองโดยอัตโนมัติ

              “เข้าไปสิ” หญิงสาวเอ่ยอีกครั้ง สายตากลมจ้องลึกเข้าไปในตาคมเรียว ก่อนจะพยักหน้าลงช้าๆ ประตูสีขาวตรงหน้าก็เปิดออกอย่างต้อนรับ เท้าเล็กค่อยๆก้าวเข้าไปข้างในพร้อมกับประตูที่ปิดลง ภาพตรงหน้าคือสีขาวที่ไม่ได้ต่างอะไรจากข้างนอกนัก ก่อนจะมีแสงขาวขึ้น มันสว่างจ้าจนแสบตา มือป้อมยกขึ้นมาป้องปิดตาของตนเอาไว้ทันที

            “ออมม่า!” เสียงเล็กใสดังขึ้นพร้อมกับมือน้อยๆที่เอื้อมมาดึงที่ชายเสื้อสีขาวของร่างเล็ก มือป้อมกลมทิ้งข้างลำตัว ตากลมโตจ้องมองร่างของหญิงสาวนิ่ง ใบหน้ากลมสีขาว แก้มย้วยน่าหยิกมีสีแดงระเรื่อบ่งบอกให้รู้ว่าสุขภาพดีแค่ไหน ผิวพรรณดูดีบ่งบอกถึงชาติตระกูล แค่เมื่อน้องพูดว่าอะไรนะ

            “ออมม่า??” ปากอิ่มเอ่ยเสียงนุ่มขึ้นทวน เด็กหญิงพยักหน้าก่อนจะยื่นมือเล็กๆมาจับกับร่างเล็กและออกแรงดึงให้เดินไปตามทางหินอ่อน ขาเล็กเหยียบลงบนพื้นหญ้าที่ไม่รู้ว่ามาแทนที่พื้นที่สีขาวตั้งแต่ตอนไหนกัน

            “จะพาผมไปไหนกันนะ”

            “แอลจะพาออมม่าไปหาท่านพ่อ” หญิงสาวพูดขึ้นอย่างร่าเริง รอยยิ้มสดใสประดับบนดวงหน้าน่ารัก

            ออมม่า??

            “ผมหรอ?? คุณจะพาผมไปหาท่านพ่อของคุณหรอครับ” ด้วยความที่ตนโผล่อยู่ที่ไหนก็ไม่รู้ ทำให้การใช้คำพูดคำจาของตนต้องระวังเป็นพิเศษ อย่างน้อยก็พูดจาทางการไปก่อนแล้วกัน แม้จะกับเด็กก็เหอะ - -

              “ไม่ต้องกลัวนะออมม่า ที่นี้ไม่น่ากลัวหรอก” หญิงสาวพูดอีกครั้ง เมื่อพาตนและร่างเล็กมาถึงห้องโถงใหญ่ที่ประดับไปด้วยอัญมณีของมีค่ามากมาย

            “คือว่า...ผม...”

            “ท่านพ่อ!!

            ไม่ใช่ออมม่าสักหน่อย - -

            ร่างเล็กพึมพำในใจคนเดียว ตากลมมองการกระทำของเด็กหญิงด้วยความงุนงง สาวน้อยวิ่งโผเข้าหาร่างโปร่งที่ยืนอ้าแขนรับอย่างสุขใจ สาวน้อยยกยิ้มร่าเริงจนร่างเล็กเผื่อยิ้มตาม สาวน้อยผละออกอ้อมกอดอุ่นแล้วเดินมาหาร่างเล็ก

            “ออมม่า นี้คือท่านพ่อของแอล” สาวน้อยพูดเสียงร่าพร้อมกับจูงแขนร่างเล็กให้เดินเข้าไปใกล้ร่างโปร่ง ใบหน้ากลมฉายแววตกใจและงุนงง

            “คือว่า...ผมไม่ใช่ออมม่านะ ผม...”

            “ไม่ใช่ตอนนี้ เดี๋ยวอีกหน่อยก็ต้องใช่ ใช่ไหมเพคะ ท่านพ่อ” หญิงสาวพูดขัดขึ้นอย่างชอบใจ ร่างเล็กเอียงคอมองหน้าเด็กสาว ตากลมโตจ้องไปที่ลูกแก้วกลมตาเป็นประกายของหญิงสาว มันฉายแววไร้เดียงสาก่อนจะฉายแววจริงจังจนตัวเขาเองก็ตกใจ

            เด็กนี้ต้องการอะไรจากเขากัน

            “โด คยองซู...”

            “ฮะ! เอ๋?? คุณ...” ร่างบางขานรับเสียงใสก่อนจะเปลี่ยนเป็นเสียงหลงเมื่อร่างโปร่งตรงหน้าที่เขามั่นใจล้านเปอร์เซ็นว่าไม่เคยเห็นหน้าที่ไหนมาก่อน เอ่ยชื่อเสียงเรียงนามของเขาออกมาอย่างไม่ผิดเพี้ยน

    เขารู้ได้ไงกัน

            “ก็รู้แล้วกันน่า” ร่างโปร่งพูดขึ้นอย่างสบายๆ ส่งผลให้ตากลมโตของร่างเล็กเบิกกว้างขึ้นโตกว่าเดิม ก่อนจะเดินไปนั่งที่เก้าอี้สีขาวบริสุทธิ์ ตรงหน้าก็มีโต๊ะสีขาวแบบเดียวกัน มือเรียวหนาผายมาตรงเก้าอี้อีกตัวอย่างเชื้อเชิญ

            “อ๊ะ!..” ร่างเล็กอุทานออกมาอย่างตกใจเมื่อมือป้อมของตนถูกลากไปทางเก้าอี้ตัวดังกล่าว มือป้อมกลมเล็กจับกับมือป้อมกลมนุ่มแน่น หญิงสาวยิ้มอย่างอารมณ์ดี ก่อนจะพูดให้เขาหายสงสัย

            “ไปนั่งกันเถอะค่ะ แอลปวดขาแล้ว”

            “คือว่า...” ร่างเล็กพูดขึ้นเมื่อตนนั่งลงบนเก้าอี้สีขาวตรงข้ามกับร่าง ส่วนเด็กน้อยตัวเล็ก ก็อ้อมไปนั่งที่เก้าอี้สีขาวข้างๆร่างโปร่ง มือหนายกแก้วที่มีรูปทรงคล้ายแก้วกาแฟที่เห็นได้ทั่วไปยกขึ้นจรดกับริมฝีปากบางได้รูป ก่อนจะส่งสายตาให้ร่างเล็กมองแก้วแบบเดียวกันบนโต๊ะ

            “เอ่อ...”

            “ไม่ดื่มกาแฟหรอ ได้...เอาไรดีล่ะ ชาไหม??”

            “คือไม่ใช่ครับ พวกคุณต้องการอะไรจากผมกัน พาผมมาที่นี้ทำไม ต้องการอะไรกันแน่...มีเรื่องจะบอกผมใช่ไหม?? อย่าลีลาไปหน่อยเลย - -“






            พรวดดด


            “ฮ่าๆๆ คริๆ ทะ..อุบ ท่านพ่อเพคะ...อุก  ฮ่าๆๆ” เสียงใสหัวเราะลั่นเมื่อกาแฟสีเข้มในแก้วสีขาวถูกกลืนเข้าไปในปากบางก่อนจะพรั่งพรูออกมาเพียงเพราะเจ้าของริมฝีปากบางสะอึกกับคำพูดที่แสนจะตรงไปตรงมาของร่างเล็กตรงหน้า ใบหน้าคมเบ้ออกอย่างเสียเซลฟ์ ภาพลักษณ์อันมาดขรึมนั้นหายไปหมดเมื่อร่างบางตรงหน้าเริ่มกลั้นหัวเราะเอาไว้

            “อะแฮ่มๆ เข้าเรื่องเลยก็ได้” ร่างโปร่งทำท่ากระแอ่มๆเล็กน้อยแก้เขิน ก็ไม่เคยได้คุยอะไรแบบนี้กับใครมาตั้งนานแล้วใครจะไปตั้งตัวได้ ใครมันจะไปรู้ล่ะว่าต้องทำแบบไหนกัน ไม่เคยคุยกับมนุษย์แบบนี้นี้หว่า...บ้าจริง เมื่อกี้เกิดอะไรขึ้น T T แต่ว่า...

            ก็เหมือนจริงๆนั่นแหละ...

              “ก่อนอื่นของแนะนำตัวก่อนเลย ข้ามีนามว่า คิดส์ เป็นผู้ปกครองของแดนนี้...” ชายหนุ่มพูดขึ้นด้วยท่าทีที่จริงจังมากกว่าเดิม จนร่างเล็กต้องมาให้ความสนใจ ใบหน้าคมที่ดูหล่อเหลา ตาเรียวคมเป็นประกายสุขุมลึก ปากบางคลี่ยิ้มบางๆเพื่อไม่ให้ร่างเล็กเกร็งจนเกินไป

            "คุณคิดส์ เป็นเทวดาใช่มั้ยครับ" ร่างเล็กถามขึ้นอย่างไม่อ้อมค้อม  ชายหนุ่มตรงหน้าทำได้แค่พยักหน้าให้คนตัวเล็กหายสงสัย ร่างเล็กเบิกตากว้าง ก่อนจะหรี่ลงอย่างครุ่นคิด

            “แล้วพาผมมาที่นี้ทำไม” ร่างเล็กถามขึ้นอีกครั้ง เขาจำได้ว่าก่อนหน้านี้ที่ตนจะมาอยู่ที่นี้ เขาโดนทำร้าย...โดนใครก็ไม่รู้ที่อยู่ในบ้านของเขา แล้วเขามาโผล่ที่นี้ได้ไง หรือว่า...

            “นายยังไม่ตาย” คำพูดทุ้มดังขึ้นขัดความคิดอันฟุ้งซ่านของร่างเล็ก คยองซูหันหน้าไปจ้องกับใบหน้าคม ร่างโปร่งยิ้มให้ก่อนจะยกมือทั้งสองขึ้นมาเท้าคางกับโต๊ะเรียบสีขาว

            “ฉันพานายขึ้นมาที่นี้เอง”

            “ทำไมล่ะครับ!?”

            “ก็เพราะ...เพื่อความปลอดภัยของนาย...” ร่างโปร่งพูดขึ้นอีกครั้ง ก่อนจะส่งมือหนาไปลูบที่หัวทุยของเด็กหญิง สายตากลมโตฉายแววสงสัย แต่ก็คิดว่าคงเกี่ยวกับเรื่องที่เขาโดนทำร้ายแน่นอน

            “แล้วก็มีเรื่องให้นายช่วยด้วย...” ร่างโปร่งพูดขึ้นต่อจากประโยคเดิม

            “ให้ผมช่วย...”

            “ใช่ แลกเปลี่ยนกับความปลอดภัยของนาย...เพราะตอนนี้นายกำลังถูกจ้องทำร้าย” ร่างโปร่งพูดขึ้นอีกครั้ง แววตาคมวูบไวเล็กน้อยเมื่อนึกถึงเรื่องที่เพิ่งเกิดขึ้นไปไม่นาน

            มันเลวร้ายมาก ถ้าแอลต้องเสียแม่คนนี้ไปอีก...

            แน่นอนว่า มันจะไม่เกิดขึ้น...เขาสัญญา

            “แล้วคุณรู้ไหมว่าทำไมเขาถึงมาทำร้ายผม...ผมจำได้ว่าไม่เคยมีศัตรูที่ไหนเลยนะ” ร่างเล็กเอ่ยขึ้นอย่างข้องใจ ใช่! เขาข้องใจมากที่มีคนมาป้องร้ายโดยที่เขาเองก็ไม่เคยก่อศัตรูที่ไหนเลยสักนิด


            ชายหนุ่มที่ได้ยินคำถามจากปากอิ่มก็ถึงกับผงะ...ใช่แล้ว ประวัติของโด คยองซูนั่นขาวสะอาด ร่างเล็กไม่มีศัตรูที่ไหน จนกระทั่ง...


            พวกเขาเข้าไปวุ่นวายกับชีวิตของคยองซู

            รู้สึกผิดจังแหะ...

            “ออมม่า...” เสียงใสที่เงียบหายไปสักพักดังขึ้น เรียกความสนใจจากสองร่างขนาดต่างกันได้เป็นอย่างดี ร่างเล็กหันไปสนใจ หญิงสาวทำหน้าหม่นจนคยองซูใจหาย มือป้อมเผลอยื่นไปประคองแก้มกลมไว้ แล้วปากอิ่มก็เอ่ยคำถามที่เต็มไปด้วยความกังวลใจ

            “เป็นอะไรไปครับ?? ไม่หน้าบึ้งน้า” ด้วยความที่คุ้นเคยกับเด็กๆมามากมาย รอยยิ้มอบอุ่นจึงเผยออกมาอย่างไม่ยากนัก ทำให้ใบหน้าของเด็กสาวที่เคยบูดบึ้งดูดีขึ้นมาไม่มากก็น้อย

            “แอลแค่จะบอกว่า...ขอโทษ” เสียงใสเอ่ยแผ่วเบา คยองซูงุนงง แต่ก็ไม่ได้เอ่ยถามอะไรออกไป ร่างเล็กยิ้มบางๆ ร่างโปร่งก็ยิ้ม...ทำไมลูกแอลถึงได้ฉลาดอย่างนี้ ได้เชื้อพ่อมาเต็มๆ พ่อปริ่ม TwT

            “ให้อภัยนะครับ อ๊ะ!”  คยองซูเอ่ยเสียงนุ่ม ก่อนจะอุทานออกมาด้วยความตกใจเมื่อร่างของเด็กหญิงโผเข้ากอดเขาอย่างเต็มแรง ใบหน้าเล็กก็ซุกอยู่ที่หน้าท้องราบของเขา มือเล็กเอื้อมขึ้นมาลูบหัวเด็กน้อยโดยอัตโนมัติ เขาก็ไม่เข้าใจการกระทำของตัวเองเหมือนกันว่าทำไมถึงได้ทำแบบนี้กัน แค่รู้สึกว่า...ดีน่ะ อืม แค่นี้แหละ


            “รักออมม่านะ” เสียงใสเอ่ยออกมาอย่างร่าเริงทั้งๆที่ยังคงซุกอยู่ที่ท้องของคยองซู ร่างเล็กยิ้มกว้างกับคำพูดของเด็กน้อย ยิ้มออกมาทั้งๆที่ไม่เข้าใจตนเอง ทำไมเขาถึงยอมให้เด็กคนนี้กอดเขาไว้  แล้วทำไมเขาถึงไม่เถียงไปว่า เขาไม่ใช่ออมม่าสักหน่อย

            เถียงไม่ออกตั้งแต่เห็นแววตาจริงจังของเด็กหญิงแล้ว

            “นี้ๆ เลิกหวานกันได้แล้ว ทิ้งพ่อให้เป็นหมาหัวเน่าอย่างนี้หรอ??” เสียงทุ้มดังขึ้นขัดบรรยากาศที่แสนจะอบอุ่นของร่างเล็กและเด็กหญิง ใบหน้าคมง้ำงอเป็นเด็กๆ ก่อนจะมาดขรึมดังเดิมเมื่อคยองซูหันมามอง

            “เอ่อใช่...ว่าแต่เรื่องที่คุณคิดส์จะให้ผมช่วยคือเรื่องอะไรหรอครับ” ร่างเล็กเอ่ยถามขึ้น

            “นี้ยังไม่รู้หรอนี้ นึกว่ารู้แล้ว” แล้วก็เห็นว่าทำไปแล้วด้วย...

            “???”

            “ก็ไม่มีอะไรมากหรอก...แอลก็แค่อยากมีออมม่า ก็เลยว่าจะให้นายเป็นออมม่าให้หน่อย...ก็แค่นั้น” ร่างโปร่งพูดเสียงเรียบ

            “อ่อ~ แค่นี้เอง...ห๊ะ!!!” ร่างเล็กอุทานลั่นด้วยความตกใจ เป็นแม่มันแค่นั่นที่ไหนเล่า

            “หรือว่าออมม่าไม่อยากจะเป็นออมม่าของแอล...” ใบหน้ากลมเบ้ลง ตากลมก็จ้องแป๋ว ปากอิ่มก็เบะคล้ายจะร้องไห้ นี้รู้หรือป่าวว่าเขาแพ้เด็กน่ะ...

            “เอ่อคือ....” เป็นแม่เลยนะ! แม่นะ!! อีกอย่าง...เขาก็ผู้ชายป่ะ!!!

            “เอางี้ ข้ามีข้อเสนอ หากนายเป็นแม่ให้แอลได้ ข้าจะให้นายขออะไรก็ได้ 3 อย่าง” ร่างโปร่งยื่นข้อเสนอจนทำให้คยองซูต้องคิดหนัก ทำไมต้องเอาอะไรแบบนี้มาล่อด้วยล่ะ...

            “แล้วผมจะรู้ได้ไงว่าคุณจะไม่หลอกผม คุณอาจจะเป็นพวกนักต้มตุ๋นอะไรเทือกๆนี้ก็ได้นะ” คยองซูระแวง ตากลมหรี่ลงอย่างพิจารณา ใบหน้าเรียวคม ตาตี๋ๆเล็กน้อยแต่มันกลับคมเฉียบ จมูกโด่งรับกับรูปหน้าพอบวกกับปากบางได้รูปแล้วยิ่งดูดี

            หน้าตาแบบนี้ไม่น่าจะเป็นนักต้มตุ๋นนะแก

            “ใช่ นักต้มตุ๋นไม่หน้าตางี้หรอก ออกจะดูดี อย่างกะพี่คริสวง EXO” ปากบางเอ่ยอย่างขำขันด้วยความหลงตัวเองขั้นยกกำลัง แต่คยองซูไม่ขำด้วย เมื่อกี้เขาคิดดังไปหรอ ผมยังไม่ได้พูดอะไรออกไปเลยนะ หรือว่าเขาอ่านใจผมได้??

            “ใช่ นายคิดถูกแล้ว” ร่างโปร่งเฉลยข้อสงสัย ร่างเล็กหันขวับไปมอง เฮ้ย!ทำได้ไง ยังงี้เขาก็เสียเปรียบดิ ได้ไงๆ

            “ช่วยไม่ได้ มันได้ยินเอง”

            อีกแล้ว อย่าอ่านน่า~

            “อ่านไปแล้ว”

            “อะไรอ่ะ ไม่แฟร์เลย ขี้โกงๆ” คยองซูพูดออกมาอย่างทนไม่ได้ ทำเอาชายหนุ่มตรงหน้าไหล่ไหวตามแรงหัวเราะ ก่อนจะหยุดชะงักไปจนร่างเล็กตกใจ

            บ้าหรือป่าว เดี๋ยวหัวเราะเดี๋ยวนิ่ง - -

            “ไม่ได้บ้า”

            “ย่าห์! อย่าอ่านเซ่!!” ร่างเล็กตะโกนอย่างเหลืออด จนร่างโปร่งหัวเราะออกมาอย่างห้ามไม่ได้ ทำเอาลูกสาวอย่างแอลถึงกับยิ้มตาม...

            วันนี้ท่านพ่อยิ้มแล้วก็หัวเราะด้วยแหละ หลังจากที่ไม่ได้หัวเราะมานาน... อ่า อยากให้เป็นแบบนี้ไปตลอดจัง

            “ฮ่าๆๆ เอาล่ะๆ ขอโทษแล้วกัน ไม่อ่านแล้วๆ” ร่างโปร่งพูดขึ้นพร้อมกับมือเรียวที่เอื้อมขึ้นมาเช็ดน้ำสีใสที่เล็ดออกจากขอบตาเรียว นี้เขาไม่ได้หัวเราะนานขนาดนี้จนเกือบจะลืมวิธีหัวเราะไปแล้วนะเนี่ย รู้สึกดีจัง...

              คยองซูมองหน้าร่างโปร่งอย่างชั่งใจ อ่านใจเขาได้ขนาดนี้คงไม่ใช่ธรรมดาแล้วล่ะ แต่ว่าเมื่อกี้...


            แน่นะ ไม่อ่านแล้วจริงๆนะ

            “จริงสิ”

            “นั่น!! อ่านอีกแล้ว”

            “ฮาๆๆๆ”

              “เงียบไปเลยนะๆ”

            “โอ๊ยๆ อย่าทุบๆ”

            “โอ๊ะ! ผมขอโทษครับ คือ...คือผมเผลอไปหน่อยคิดว่า...เป็นเพื่อนกัน” ร่างเล็กแก้ตัว เพราะด้วยความไม่ถือตัวของร่างโปร่งตรงหน้าทำให้เขาเผลอส่งกำปั้นน้อยไปทุบไหล่ของร่างโปร่งด้วยความเคยชิน ด้วยความที่เป็นคนโดนแกล้งบ่อยและมีวิธีเอาคืนด้วยการทุบที่ไหล่หรือฟาดแรงๆ จนมันเคยชินไปแล้ว...

            “ไม่เป็นไรหรอกนะ ไม่ต้องคิดมาก เราเป็นเพื่อนกันก็ได้” ร่างโปร่งยิ้มให้กับการกระทำของร่างเล็ก จริงๆก็ไม่ได้ถือตัวอะไรหรอกนะ เขารู้ดีว่าควรปฏิบัติแบบไหนอย่างไรกับใคร ยิ่งเป็นร่างเล็กตรงหน้า เขายิ่งจะต้องสนิทสนมด้วย เพราะอีกไม่นานจะต้องมาเป็นแม่มนุษย์ให้แอลแล้ว...

            “แล้วนี้ ตกลงจะเป็นออมม่าให้แอลไหม??” ร่างโปร่งถามขึ้นอีกรอบ เมื่อคนตัวเล็กยังไม่ให้คำตอบที่แน่ชัดกับเขา หวังในใจก็อยากจะให้ตอบตกลงนะ เพราะอยากจะให้ลูกสาวกลับมาเป็นคนเดิมอีกครั้ง ไม่ต้องจมอยู่ในความฝันที่แสนเจ็บปวดอีกแล้ว...ถ้าเกิดปฏิเสธขึ้นมา คงต้องอ้อนจนกว่าจะได้นั่นแหละนะ

            “เอ่อคือ...”ร่างเล็กเอ่ยเสียงลังเล ตากลมโตทอดมองไปที่เด็กน้อยตรงข้างร่างโปร่ง ใบหน้ากลมฟุบลงกับหมอนบนโต๊ะ ตากลมโตหลับพริ้มอย่างดูมีความสุข น่าทะนุถนอม อาจจะเป็นเพราะพวกเขาคุยกันนานไปจนเด็กน้อยเข้าสู่ห้วงแห่งความฝันแล้วดูท่าจะเป็นฝันดีซะด้วย เล่นยิ้มซะจนคนอื่นยิ้มตาม แพ้...คยองซูแพ้เด็ก





            ว่าแต่เอาหมอนมาจากไหนกัน - -

            “ตกลงเหอะน่า”

            “เอ่อ...”

            “น่า...”




































            “ก็ได้ฮะ ผมตกลง ต่อไปนี้ผมจะเป็นออมม่าให้แอลเอง”













    ------------ฝันดีนะที่รัก มาแบบงงๆไปแบบงงๆ ตอนนี้เค้าก็แต่งแบบงงๆๆ ถูกหรือป่าวไม่รู้แต่มันใช่แล้วกัน บายย


    @cheek_kam 
    #ลูกสาวแม่หมี

    แก้ไขคำผิด 24/4/2560

    © themy  butter
    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    นิยายที่ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×