ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    [Exo & You] ::All X KyungSoo:: Baby KyungSoo ลูกสาวแม่หมี

    ลำดับตอนที่ #3 : ::ว่าที่พ่อของแอล:: 100%

    • เนื้อหาตอนนี้เปิดให้อ่าน
    • 516
      3
      24 เม.ย. 60



    ::ว่าที่คุณพ่อของแอล::


     

              Kyongsoo's Part


              ‘ก็ได้ฮะ ผมตกลง ต่อไปนี้ผมจะเป็นออมม่าให้แอลเอง

              ตั้งแต่ที่ผมตอบตกลงไปว่า คยองซูผู้นี้จะรับอาสาเป็นแม่ให้กับ แอล สาวน้อยบนสวรรค์ที่เขาจำได้แล้วว่าเคยเจอหน้ากันที่สวนสนุก สาวน้อยที่วิ่งมากอดเขาพร้อมกับพูดว่า ออมม่า หลังจากนั้นผมกลับมาที่บ้านก็เจอสัตว์ประหลาดเพศแม่ที่พุ่งเข้ามาทำร้ายผม ขอบอกว่าตอนนั้นมึนมาก ไม่รับรู้อะไรเลย แต่จำได้ว่าเธอพูดอะไร ลูกๆเนี่ยแหละ ผมว่านะ ในความคิดของผม น้องแอลกับผู้หญิงคนนั้นต้องเกี่ยวข้องกันแน่ๆ มันมีประเด็นค่อนข้างเป็นไปได้ว่า พวกเขาจะเป็น...

            แม่ลูกกัน

            แต่ผมก็ไม่รู้อะไรมากหรอกนะ บอกตามตรง ตอนนี้ผมก็ยังไม่รู้ถึงเรื่องราวที่เกิดขึ้นเลย มันงงไปหมด...ว่าทำไมผู้ชายคนนั้นที่ชื่อคิดส์อะไรนั่นต้องเลือกผมให้มาเป็น แม่! ของเด็กหญิงน่าตาน่ารักที่เป็นดั่งลูกสาวของเขา ทำไมล่ะ...เพื่อปั่นหัวผมหรอ เพื่อเป็นเหยื่อล่อผู้หญิงคนนั้นหรอ หรือว่าฟ้าได้ลิขิตเอาไว้แล้ว?

            ให้ตายสิ! ทำไมมันถึงได้ยุ่งเหยิงยังนี้เนี่ย!?

     

              “ออมม่า~” เสียงใสของเด็กหญิงหน้าตาน่ารักดังขึ้นพร้อมกับร่างเล็กที่โผเข้ามากอดผมทั้งที่ยังนอนแผ่อยู่บนเตียง ผมหันไปมองเธอพร้อมส่งยิ้มหวานให้ ยกมือขึ้นมาลูบหัวน้อยๆของน้องแอล จริงๆแล้วมันก็ไม่เลวร้ายเท่าไรถ้าจะมีเด็กหญิงตัวเล็กๆมาอยู่เป็นเพื่อน ผมบอกทุกคนแล้วยังว่าผมรักเด็ก บอกไปแล้วใช่มั้ย? ฮ่าๆ ฟังดูหน่อมแน้มชะมัด แต่ผมก็ตกหลุมรักสิ่งมีชีวิตน้อยๆที่ชอบใช้สายตากลมโตจ้องมาที่ผมอย่างออดอ้อน แต่จะดีกว่านี้ถ้าน้องแอลจะไม่มาอยู่กับเขา...

            ในรูปแบบของวิญญาณ

            อย่าเพิ่งเข้าใจผิดไปล่ะ เธอยังไม่ตาย...เอิ่ม หมายถึง ยังไม่ตายเพราะยังไม่ได้เกิด... เข้าใจที่ผมพูดป่ะ ถ้าไม่เข้าใจก็ไปอ่านใหม่อีกรอบนะ - -

            คุณคิดส์บอกกับผมว่า อยากจะให้ผมดูแลน้องแอลเหมือนแม่คนนึงแลกกับความปลอดภัยของผม โดยเริ่มตั้งแต่ที่เธอยังเป็นทารกเลย เนื่องจากสาวน้อยอยากลองที่จะเกิดเป็นมนุษย์ แต่เพราะว่าผมยังไม่มีแฟน ก็เลย...ให้เวลาผมหาแฟน เข้าใจใช่ม่ะ? จากนั้นก็ให้กำเนิดน้องแอล ผมว่ามันฟังดูเหม่งๆตรงที่ผมต้องเป็นแม่อยู่นะ - -

            คยองซูคนนี้ก็แย้งไปแล้วนะว่า ทำไมไม่ให้ผมเป็นพ่อล่ะ คุณคิดส์ก็เลยสวนกลับมาว่า นายคงจะไม่เหมาะ...

            ผมนี้อึ้งไปเลย - -

            เพราะเหตุผลทั้งหมดทั้งมวลที่กล่าวมาทำให้คยองซูคนนี้ต้องมาเลี้ยงน้องแอลในร่างของวิญญาณ ไม่มีร่างกาย ไม่มีใครมองเห็นเธอได้ถ้าเธอไม่อยากให้เห็น ไม่มีใครได้ยินเสียงเธอถ้าเธอไม่อยากให้ได้ยิน ไม่มีใครสามารถสัมผัสจับแตะต้องเธอได้ถ้าเธอไม่อยากให้จับ คงจะมีแต่ผมกับภารกิจอันใหญ่หลวง...

            ภารกิจตามหาพ่อให้น้องแอล....

            เย่... -_-/ *ทำหน้านิ่ง*

            ณ จุดๆนี้ ผมก็ยังไม่รู้ว่าจะไปหาใครมาเป็นพ่อให้กับน้องแอลดี...
    .
    .
    .
    .
    .
    .
    .
    .



            ทุกคนช่วยผมหน่อยได้มั้ย??

     

            End Kyungsoo's Part



     

    -
    -

     

     

              “ออมม่า แอลหิวแล้ว แอลอยากกินอาหารของมนุษย์แล้ววว” เสียงใสเอ่ยขึ้นอย่างร่าเริงทันทีที่คนเป็น ออมม่า เดินงัวเงียลงมาจากห้องนอน มือป้อมที่โผล่พ้นแขนเสื้อสีขาวมาเพียงเล็กน้อยยกขึ้นมาขยี้ตา สาวน้อยยิ้มหวานให้ออมม่าที่เพิ่งแต่งตั้งอย่างเป็นทางการไปเมื่อไม่กี่ชั่วโมงที่ผ่านมา หลังจากที่ตกลงกับท่านพ่อเรียบร้อยแล้ว ก็ส่งวิญญาณของออมม่ากลับเข้าร่าง แอลก็เพิ่งขึ้นไปปลุกเมื่อกี้เอง แต่ดูเหมือนเจ้าตัวจะตื่นอยู่แล้วนะ

            “จะกินอะไรดีล่ะครับ” เสียงนุ่มเอ่ยขึ้นอย่างเอ็นดู คยองซูผู้รักเด็กเป็นชีวิตจิตใจกำลังเดินวนไปมาที่ห้องครัว มือป้อมหยิบจับอุปกรณ์ประกอบอาหารอย่างชำนาญ ก่อนจะหยุดชะงักลงเมื่อแก้มกลมของตนถูกริมฝีปากอิ่มของ ลูกสาวที่เพิ่งจะมีเมื่อไม่นานมานี้ ประทับลงเบาๆ สายตากลมหันไปมองดวงหน้ากลมที่แย้มยิ้มอย่างน่ารัก

            “มอนิ่งคิสนะ ออมม่า”
     

            ร่างเล็กเผยยิ้มออกมาอย่างห้ามไม่ได้กับประโยคข้างต้นที่เอ่ยออกมาจากปากอิ่ม ใครสั่งใครสอนให้น้องแอลทำตัวน่ารักขนาดนี้

            “ออมม่าก็คิสแอลบ้างสิ” สาวน้อยที่ปืนขึ้นไปบนเคาเตอร์แล้วขโมยหอมแก้มคุณแม่ อมลมพองแก้มขึ้นแล้วยื่นให้คุณแม่ตัวเล็ก คยองซูหัวเราะกับท่าทีดังกล่าว ก่อนจะค่อยๆประทับริมฝีปากอิ่มรูปหัวใจบนแก้มย้วยพร้อมกับหยิกเบาๆอย่างเอ็นดู เรียกเสียงหัวเราะชอบใจของหญิงสาวตัวน้อยได้เป็นอย่างดี

            ความสัมพันธ์ระหว่างคุณแม่มือใหม่กับลูกสาวแสนซนค่อยๆเพิ่มขึ้นไปในทางบวก เสียงหัวเราะของทั้งคู่ดังตลบอบอวลไปทั่วห้องครัว หญิงสาวตัวน้อยกำลังพยายามช่วยคุณแม่ตัวเล็กในการทำมื้อเอย่างตั้งใจ แต่กลับน่ารักในสายตากลมโตของผู้เป็นแม่ หญิงสาวทำตัวเป็นผู้ช่วยที่มีประโยชน์คอยส่งยื่นของต่างๆที่ร่างเล็กต้องการ...แม้มันจะไม่ถูกทั้งหมดก็เถอะ - -

            “น้องแอล หยิบน้ำตาลให้หน่อยสิ”
     

            “อ่ะ”

            “นี้มันเกลือนะ - - ไม่ใช่อันนี้ อันนู้น”

            “หยิบตะหลิวให้หน่อยน้องแอล”

            “อันนี้ใช่ไหม??”

            “นี้มันทัพพี - -“

            สรุปแล้วการทำมื้อเช้าก็เป็นฝีมือของคนตัวเล็กทั้งหมด น้องสาวคนสวยไม่ไม่ได้ช่วยอะไรเลย...แต่คยองซูคิดว่า


            มันก็มีสีสันดีนะ

    .

    .

    .

    .

    .

    .

    .

    .

    .

    .

    .

    .

            “เสร็จแล้ว ข้าวต้มร้อนๆ” ร่างเล็กยกข้าวต้มที่ส่งกลิ่นหอมโชยมาแตะเข้ากับจมูกเล็กของหญิงสาว น้องแอลที่ถูกไล่ให้มานั่งรอเฉยๆที่โต๊ะกินข้าวก็ร่าเริงขึ้นทันทีหลังจากที่อารมณ์บูดเนื่องจากโดนขัดใจ

            ก็คนเขาอยากช่วย! ไม่ได้อ่ออออ

            “น่ากินจังออมม่า! กินเลยน้า~” มือน้อยยกขึ้นมาจับช้อนแล้วตักเตรียมตัวเอาเข้าปาก แต่คนตรงหน้าก็ร้องห้าม คยองซูที่นั่งลงที่ฝั่งตรงข้ามเกือบร้องห้ามไม่ทัน... ถ้ากินเข้าไปตอนนี้ก็ลวกปากกันพอดี

            “น้องแอลต้องเป่าก่อนนะครับ มันร้อน เป่าฟู่วๆ” ร่างเล็กเอ่ยบอกหญิงสาวตรงหน้าพร้อมกับทำปากเป่าฟู่วๆเป็นตัวอย่าง หญิงสาวตื่นเต้นเพราะที่ไม่เคยทำอะไรแบบนี้เลยเป่าลมออกมาจากปากเต็มแรง ทำเอาข้าวต้มในช้อนเกือบกระเด็นมาใส่คยองซู

            “ไม่ช่ายย~ เป่าแบบนี้ข้าวก็กระเด็นหมดอดกินกันพอดีสิครับ เป่าเบาๆสิครับ ฟู่วๆเบาๆ” ร่างเล็กกุมขมัยก่อนจะค่อยๆสอนหญิงสาวตรงหน้าที่เริ่มทำตามอย่างว่าง่าย ทันทีที่เป่าไล่ความร้อนตามที่ออมม่าคยองซูสอน ข้าวต้มคำโตก็ยัดเข้าปากอิ่มของหญิงสาว

            “อื้ม~ หยอยย ทำไมอร่อยจังอ่า~” หญิงสาวเคี้ยวแก้มตุยก่อนจะตักอีกคำเข้าปาก แต่เนื่องจากว่าลืมเป่าจึงร้องจ๊ากออกมาเนื่องจากว่ามันร้อนอย่างกับกินน้ำร้อนเข้าไป

            “อ้า~ ร้อนอ่า” หญิงสาวร้องออกมาทันทีที่ตักข้าวต้มเข้าปาก คยองซูรีบส่งน้ำให้กับเด็กน้อย หญิงสาวรับและรีบกระดกกินอย่างรวดเร็วก่อนจะสำลักออกมาอย่างห้ามไม่ได้

            “อะ แค่กๆๆ”

            “ใจเย็นๆ เห็นไหมบอกแล้วว่าให้เป่าฟู่วๆก่อน เป็นไงล่ะ”

            “ร้อนนนนน” คยองซูยิ้มกับท่าทีของคนตรงหน้าก่อนจะยื่นผ้าเช็ดหน้าไปเช็ดที่มุมปากของเด็กหญิงเบาๆ

            จะไหวไหมเนี่ย ฮ่ะฮ่าๆ

            ร่างเล็กได้แต่นั่งมองหญิงสาวกินข้าวต้มชามแรกที่ตนโม้โอ้อวดไปด้วย คนตัวเล็กเมื่อกินเสร็จก็ยิ้มแป้นและบอกว่าถ้าเขาไม่อิ่มจะไปตักมากินแน่นอน เพราะมันอร่อยมากๆ ยกยอฝีมือการทำอาหารของคยองซูอย่างยกใหญ่ เล่นเอาคนเป็นแม่ยิ้มไม่หุบ

            ทั้งคู่ช่วยกันล้างจานด้วยกันในครัวแต่อยู่ๆก็มีเสียงกดออดที่หน้าบ้าน หญิงสาวตัวเล็กจึงอาสาเดินออกไปเปิดประตูให้ ทันทีที่วิ่งมาจนถึงหน้าบ้านแล้วผลักประตูออกไป หญิงสาวก็เห็นชายหนุ่มหน้าตาที่คิดว่าดีมากๆในระดับหนึ่งกำลังถือช่อดอกไม้ช่อโต ยืนจ้องๆมองๆเข้าไปในตัวบ้าน แต่แล้วก็ตกใจเมื่อเธอเปิดประตูออกไป

            “นี้สาวน้อย หนูเป็นใครหรอจ๊ะ” ชายหนุ่มตรงหน้าย่อตัวลงมานั่งคุกเขาต่อหน้าแอลพร้อมกับเอ่ยคำถามอย่างสุภาพ แอลมองตาคนตรงหน้าอย่างสงสัย ตากลมโตจ้องใบหน้าคมขาวใสแป๋ว ก่อนจะเอ๋ยตอบออกไป

            “ชื่อแอล ลูกสาวของออมม่า”

            “ออมม่า?? หรอครับ ฮ่าๆๆ แล้วคยองซูอยู่บ้านหรือป่าว”

            คยองซู? ออมม่าหรอ?

            “อยู่สิ” หญิงสาวตอบไปตามความเป็นจริง ชายหนุ่มยิ้มให้น้อยๆก่อนจะยื่นช่อดอกกุหลาบสีแดงสดช่อสวยให้หญิงสาวพร้อมกับบอกว่า

            “ฝากเอาไปให้คยองซูหน่อยนะครับสาวน้อย” 

            “อืม” แอลพยักหน้ารับพร้อมกับรับช่อดอกไม้มาไว้ในอ้อมกอด ชายหนุ่มลูบหัวน้องแอลอย่างเอ็นดู ก่อนจะเดินกลับไปขึ้นรถของตนที่จอดไว้ข้างรั้วบ้านของคยองซู ชายหนุ่มหันมาโบกมือให้กับหญิงสาวก่อนจะขึ้นรถและขับออกไป สาวน้อยมองช่อกุหลาบในอ้อมอกก่อนจะวิ่งเตาะแตะไปหาออมม่าในบ้าน

            “ใครมาหรอ แล้วนั่นถืออะไรมาล่ะครับ” ร่างเล็กเห็นสาวน้อยวิ่งจึงเดินเข้าไปรับ ร่างบางคุกเข่าพร้อมกับช่อดอกกุหลาบสีแดงสดมาจากสวาน้อย คยองซูถึงกับรู้ทันทีว่าดอกไม้ช่อนี้ใครเป็นคนส่งมา

            "เขาบอกว่า ฝากเอาไปให้คยองซูหน่อยนะครับสาวน้อย นะออมม่า” หญิงสาวพูดเสียงใส แต่คยองซูกลับหน้าเจื่อนทันทีที่เห็นโน้ตข้อความที่ติดมากับช่อดอกไม้.....




            น้องคยองซูที่รัก พี่จุนมยอนคนนี้มีเรื่องจะบอก... บอกว่ารัก แล้วพี่ก็จะรักน้องคยองซูไปทุกวันหรือตลอดไป พี่ขอโทษนะถ้าเกิดว่าทำให้น้องคยองซูรำคาญ แล้วก็ขอโทษด้วยที่ไม่มีโอกาสแสดงความรู้สึกของหัวใจได้มากไปกว่ากล่าวคำว่ารัก...รักน้องคยองซูนะครับ




    พี่จุนมยอน รัก น้องคยองซู



     




     

           “เอ่อ....” คนตัวเล็กได้แต่จ้องนิ่งกับตัวหนังสือที่ถูกเขียนอย่างเป็นระเบียบด้วยความตั้งใจ ใบหน้ากลมป้อมของลูกสาวสอดส่ายมองคนตัวเล็กที่เริ่มหน้าซีดลง เด็กน้อยสะกิดเบาๆที่ไหล่แคบ ก่อนจะเอ่ยถามอย่างน่ารัก

    “ออมม่า เป็นอะไรอ่ะ” ใบหน้าป้อมกลมฉายแววสงสัย คยองซูจ้องหน้าเล็กกลับก่อนจะยิ้มแหยๆให้ พร้อมกับพูดเสียงนุ่ม

    “ไม่มีอะไรหรอกครับน้องแอล พี่ว่าเรามาช่วยกันจัดดอกไม้ใส่แจกันดิกว่าเนอะ” คยองซูพูดเสียงใสพร้อมกับอุ้มช่อดอกไม้ช่อใหญ่เข้ามาในห้องนั่งเล่น ตามด้วยหญิงตัวเล็กที่ยิ้มร่าวิ่งตามมาด้วยความรู้สึกสนุกตื่นเต้น

    “จัดดอกไม้ใส่แจกัน น่าหนุกจังแหะ คริคริ”

     

    สองร่างเล็กกำลังขมักเขม้นอยู่กับแจกันใบใหญ่ที่ประดับตกแต่งไปด้วยดอกไม้หลากสี คยองซูนำดอกไม้ชุดเก่าที่เคยใส่ไว้ในแจกันไปทิ้งเพราะมันเริ่มจะเฉาแล้ว บังเอิญพอดีที่ คนส่งดอกไม้ ขาประจำนำดอกไม้ช่อโตมาให้

    ถ้าจุนมยอนรู้ว่าคยองซูคิดกับเขาแค่คนส่งดอกไม้โดยไม่ต้องจ่ายเงินคงต้องเสียใจแย่

     

    ก็ช่วยไม่ได้เองนะ

    “ออมม่าดูดิ! สวยมากๆเลยเนอะ ฮ่าๆ” น้ำเสียงสดใสดังตลบไปทั่วทั้งบ้านหลังเล็ก หญิงสาวที่เพิ่งเคยได้ทำอะไรอย่างนี้เป็นครั้งแรก ทำได้แค่ร้องว้าวไปมาเป็นเสียงประกอบเมื่อคนตัวเล็กทำนู่นทำนี่ให้ดู

     

    หลังจากที่ทำความสะอาดบ้านในวันหยุดของคนตัวเล็กที่ไม่ค่อยจะมีสักเท่าไรเสร็จ คนตัวเล็กก็มานั่งแผ่หลาบนโซฟาตัวใหญ่อย่างเมื่อยล้าข้างเด็กตัวเล็กที่กำลังจดจ้องอยู่กับรายการสัตว์โลกน่ารักอย่างตื่นเต้น

    คยองซูหลับตาลงเบาๆอย่างเชื่องช้าเนื่องจากว่านี้คงจะเป็นช่วงเวลาพักผ่อนของเขาที่มีอยู่ เพราะเขาต้องไปทำงานพิเศษเพิ่มเพื่อจะได้มีเงินเป็นค่าใช้จ่ายไปพลางๆ เนื่องจากว่าตอนนี้เขาเป็นได้แค่เด็กฝึกงานในร้านอาหารสาขาย่อยของคุณแม่เท่านั้น

    เรียกได้ว่าคงยังไม่เป็นที่พอใจเท่าไรที่จะได้เป็นกุ๊กอย่างเต็มตัว

    จริงๆแล้วคยองซูเรียนจบบริหารมานะ แต่เพราะไม่ชอบอะไรแบบนั้นทำให้ไม่เลือกที่จะไปทำงานในบริษัทของคุณพ่อ ถึงจะพูดว่าไม่ชอบสายบริหาร จากตอนแรกที่คุณพ่อเข้ามาขอให้เรียนคนตัวเล็กก็ไม่ปฏิเสธ แถมยังจบมาได้เกียรตินิยมอันดับหนึ่ง

    ธรรมดาซะที่ไหน

    แต่พอเห็นว่ามันไม่ใช่...เลยเลือกที่จะไม่เรียนต่อและขอมาทำงานที่ร้านอาหารของคุณแม่ในย่านเมียงดง

    แต่เพราะไม่ได้จบทางสายอาชีพคนครัวทำให้ไม่เป็นที่หน้าไว้วางใจของเจ้าของกิจการที่ดูแลสาขานี้ แถมยังโดยเขม่นใส่บ่อยๆเพราะหาว่าใช้เส้นในการเข้าทำงาน  

    เหอะ!

    เป็นลูกจ้างเขาก็ได้โวยยย

    ไม่ง้อ!!

    “ออมม่า! น้องหมา...น้องหมาน่าร๊ากกก อร้ายย อ่อมม่า แอลอยากเล่นกับน้องหมา” เด็กหญิงยิ้มร่าพร้อมกับกระโดดมานั่งบนตักเล็กพร้อมกับเขย่าร่างของคยองซูไปมา คนตัวเล็กยิ้มบางๆกับท่าทีที่แสนตื่นเต้นของลูกสาวตัวน้อย มือป้อมยกขึ้นมาลูบหน้าทุยเบาๆแล้วพูดเสียงร่าเริงอีกครั้ง

    “งั้นเดี๋ยวอ่อมม่าจะพาไปเล่นกับน้องหมากันเนอะ!

    “กรี๊ด!! น้องหมา น้องหมา!

    ดูท่าว่าวันนี้คงไม่ได้พักผ่อนแล้วแหะ...

     

     

    -

    -

     

    บ๊อกๆๆ

    “กรี๊ด!! น้องหมา บ๊อกๆ บูวว” เด็กหญิงยืนเกาะรั้วสีขาวพลางส่งสายตาวิ้งๆไปให้เหล่าน้องหมาที่พร้อมใจกันวิ่งมาที่พวกเขา คยองซูหัวเราะเบาๆกับท่าทีแสนใสซื่อก่อนจะยิ้มทักทายให้กับเจ้าของน้องหมาทั้งหลายที่วิ่งหน้าตาตื่นตามเจ้าสี่ขามาติดๆ

    “อ้าวคยองซู เข้ามาสิ แล้วเด็กน้อยตรงนี้ใครเนี่ย” ร่างหนาเอ่ยทักทายพร้อมเชื้อเชิญร่างเล็กให้เข้ามาเล่นข้างในบ้านด้วยกัน ทันทีที่ประตูรั้วเปิดออก เด็กน้อยก็วิ่งพุ่งเข้าใส่เจ้าสี่ขาทั้งหลายที่เห่าเรียกเด็กหญิงอย่างเชื้อเชิญ

    “สวัสดีจงอิน ขอโทษนะที่มารบกวน” คนตัวเล็กก้มหัวให้เล็กน้อยก่อนจะเดินตามเด็กน้อยที่เดินนำหน้าพร้อมขบวนน้องหมา บ้านหลังนี้เป็นบ้านของเพื่อนสมัยเรียนด้วยกันตอนมัธยมแต่หลังจากนั้นต่างคนก็ต่างไปเรียนที่อื่น จนกลับมาเจอกันเมื่อคยองซูมาซื้อบ้านหลังเล็กโครงการเดียวกันกับคิมจงอินทำให้กลายมาเป็นเพื่อนบ้านกันจนถึงทุกวันนี้  แถมร่างหนายังเลี้ยงน้องหมาไว้ตั้งหลายตัวเลยพาน้องแอลมาเล่นที่นี้ซะเลย

    แม้จะไม่ค่อยอยากมาเท่าไรหรอกนะ - -

    “ไม่เป็นไรครับ ไม่รบกวนอะไรหรอก มาบ่อยๆน่ะดีแล้ว” ร่างหนายิ้มบางๆก่อนจะจูงมือคนตัวเล็กให้เข้ามาเล่นในบ้าน คยองซูใจกระตุกเล็กน้อยเมื่อถูกมือหนากอบกุมมือเล็กๆของตนเอาไว้

    “เออว่าแต่ เด็กผู้หญิงคนนั้น ใครอ่ะ??” ทันทีที่ก้นมนหย่อยลงบนเก้าอี้ไม้บนสนามหญ้า ร่างหนาก็เอ่ยถามพร้อมกับชี้ไปที่หญิงสาวที่เริ่มลงไปนอนเกลือกกลิ้งกับเหล่าสี่ขาทั้งหลาย

    เอ่อ...จะว่าไงดีล่ะ

    “หลานเราเองล่ะ คือ...พี่ชายเรามาฝากเลี้ยงไว้” คยองซูโกหกไปด้วยเหตุจำเป็นเพราะถ้าบอกว่าเป็นลูกสาวคงไม่เชื่อแน่ๆ

    ก็แหงล่ะ ใครมันจะไปเชื่อกัน

    “อ่อ...นายมีพี่ชายด้วยหรอ”

    อูยยยย เต็มหน้าเลย

    “อะ..อ่อ ญาติอ่ะ ลูกของป้า เป็น...ลูกพี่ลูกน้องกัน แหะๆ” เกือบไปแล้ว ร่างเล็กยิ้มน้อยๆจนร่างหนาไม่ติดใจอะไร จงอินขอตัวไปเอาขนมกับเครื่องดื่มมาให้จึงเหลือแค่ร่างเล็กที่ถอนหายใจออกมาอย่างโล่งอก

    เกือบไปแล้ว...ยิ่งโกหกไม่ค่อยจะเป็นอยู่

    “ออมม่า ดูเจ้าตัวนี้สิ น่ารักมากๆเลยอ่า” เด็กหญิงที่ไม่รู้ว่าโผล่มายืนข้างร่างเล็กตั้งแต่เมื่อไรเอ่ยขึ้น ทำให้คยองซูที่กำลังเหม่อสะดุ้งตัวโหยง หญิงสาวที่กำลังอุ้มสุนัขพันธุ์อะไรสักอย่างที่ขนดูยุ่งๆพร้อมกับยิ้มหน้าตาตื่น คยองซูตอบรับกลับเบาๆก่อนจะเอ่ยถามหญิงสาวตัวน้อยที่เริ่มวิ่งเล่นกับน้องหมาเหล่านี้อีกครั้ง

    “ชอบหรือป่าวครับ”

    “ชอบสิ ชอบมากกกกก ชอบมากๆเลย” คยองซูอมยิ้มกับคำตอบก่อนจะดึงเด็กน้อยเข้ามากอดแล้วหอมแก้มย้วยๆอย่างหมั่นไส้

    ลูกสาวใครหว่า น่ารักจังแหะ

    “อะแฮ่มๆ แหมๆสวีทอะไรกกันอาหลานคู่นี้” ร่างหนาที่ไม่รู้ว่าโผล่มาตั้งแต่ตอนไหนเอ่ยทันพร้อมกับวางถาดน้ำส้มและขนมคุ้กกี้ลงบนโต๊ะ คยองซูสะดุ้งโหยงพอๆกับเด็กหญิงที่ทำหน้ามึน


    อาหลานคืออะไรอ่ะ??

     

    ชิบหาย! ลืมเตี๊ยมกับน้องแอลมา


     

    “ออมม่า อาหลานคืออะไรอ่ะ”

    นั่นไง!! ซวยแล้ว

     

    “ออมม่า???” ร่างหนาเอ่ยทวนด้วยความสงสัย ร่างเล็กรีบปฏิเสธทันควันพร้อมกับบอกว่าพี่ชายของเขาอยากแกล้งคยองซูเลยสอนให้ลูกสาวเรียกตนว่าออมม่า คิมจงอินพยักหน้าลงอย่างเข้าใจ แม้จะตะหงิดๆอยู่บ้างแต่ก็ปล่อยๆมันไป ทำเอาร่างเล็กรอดมาได้อย่างหวุดหวิดอีกครั้ง

    กลับบ้านไปต้องไปเตรียมกับน้องแอลไว้แล้วแหละ

    ส่วนเรื่องหาพ่อ...เหอะ

    เขาต้องเป็นพ่อเซ่!!!

     

    “อ่า...สาวน้อยชื่อว่าอะไรเอ่ย” คิมจงอินเลิกติดใจกับเรื่องความเป็นมาของหญิงสาว ร่างเล็กนั่งลงบนเก้าอี้สีขาวข้างๆร่างเล็กที่มีเด็กนั่งอยู่บนตัก ดวงตากลมโตจ้องแป๋วก่อนจะเอ่ยออกมาอย่างเรียบๆ

    “ชื่อแอล ลูกสาวของออมม่า” หญิงสาวพูดเสียงเรียบพร้อมกับเอื้อมมือไปหยิบขนมหน้าตาน่าทานบนจานสีขาวมาใส่เข้าปากทันที ทำให้ใบหน้าน่ารักกำลังแสดงความรู้สึกที่ไม่เคยเป็นมาก่อน

    อร่อยจังเลย~~

    แก้มตุ้ยๆเริ่มพองขึ้นพอๆกับจำนวนขนมที่ลดลง เด็กน้อยนึกชอบใจขึ้นมาทันที เพราะครั้งนี้นอกจากจะได้เล่นกับน้องหมายังได้กินขนมอร่อยๆอีก โอยยย

    รู้สึกชอบกว่าตอนจัดแจกันดอกไม้อีก

    ผู้ชายคนนี้น่าสนใจแหะ...

    หญิงสาวกินขนมอย่างไม่สนใจใคร ผิดกับคนตัวเล็กที่หญิงนั่งตักอยู่ ในหัวกำลังคิดมากต่างๆนาๆเพื่อหาทางออกเกี่ยวกับเรื่องที่เกิดขึ้น

    “ออมม่า แอลชอบผู้ชายคนนี้จังเลย” ไม่ว่าเปล่า ชี้ไปที่จงอินพร้อม เป็นอีกครั้งที่ทำให้คนตัวเล็กหน้าเหวอ คยองซูดูปฏิกิริยาตอบรับจากร่างหนาก็เริ่มรู้สึกอธิบายไม่ถูก เพราะจงอินหัวเราะน้อยๆพร้อมกับส่งมือหนามาหยิกแก้มย้วยๆของเด็กหญิง

    อ้ากกกกกกก

    “น่ารักจังเลย รู้ไหมว่าผู้ชายคนนี้ชื่ออะไร” ร่างหนายังคงพูดคุยกับหญิงในอ้อมอกของคยองซู คิมจงอินเลื่อนเก้าอี้มาใกล้ๆทั้งสองก่อนจะทำหน้าตาตั้งใจฟังที่เด็กหญิงพูด

    “พี่เป็นคนใจดีที่เลี้ยงน้องหมา”

    “ฮ่าๆๆๆ น่ารักจัง” คำตอบที่โคตรจะรู้ประสีประสาทำให้คนตัวหนาหัวเราะร่า ร่างหนาค่อยๆเคลื่อนตัวเข้ามาใกล้ก่อนจะกดจมูกโด่งๆลงบนแก้มย้วยน้อยของน้องแอล จมูกโด่งเป็นสันเมื่อกี้แอบเฉียดหน้าย้วยๆของคยองซูไปอย่างวาบหวิว ที่ตอนนี้หน้าขึ้นสีเป็นที่เรียบร้อย

    “ย่าห์! มาหอมแก้มแอลได้ไง นี้เป็นของออมม่านะ” เด็กหญิงโวยวายหลังจากที่ถูกร่างหนาขโมยหอมไปฟอดใหญ่ แม้จะชอบแต่ก็ไม่ได้หมายความว่าจะหอมแก้มกันได้นะ! มือป้อมยกลงมาถูกเบาๆที่แก้มกลมอย่างไม่พอใจต่างกับร่างโปร่งที่ได้ยินเสียงโวยวายถึงกับหัวเราะลั่นอีกครั้ง

    เป็นบ้าหรือไงกัน โดนด่าแล้วหัวเราะ เดี๋ยวปั๊ดขโมยน้องหมากลับบ้านเลย -*-

    “ฮ่าๆ น้องแอลนี้แลดูห้าวๆเนอะ หวงเนื้อหวงตัวด้วย อิจฉาพี่ชายนายจังมีลูกสาวน่ารักแบบนี้” คิมจงอินหันมาพูดกับร่างเล็กที่ได้แต่หัวเราะแหยๆตามน้ำไป คนตัวเล็กแอบดีใจนิดนึงที่น้องแอลบอกว่าแก้มกลมของเจ้าตัวเป็นของเขาคนเดียว

    พูดถูกใจแหะ

    กลับบ้านไปต้องให้รางวัลสักหน่อยแล้ว

    ร่างเล็กที่เอาแต่บ่นงุ้งงิ้งเรื่องแก้มที่โดนขโมยหอมไปเมื่อตะกี้ ไม่ทันสังเกตว่าร่างหนากำลังมองมาด้วยความถูกใจ บอกไม่ถูกแหะว่าเขารู้สึกเอ็นดูเด็กน้อยคนนี้เป็นพิเศษ ทั้งๆที่ก็ไม่ได้รักเด็กอะไรมากนัก แต่มันกลับรู้สึกอิจฉาจริงๆที่พี่ชายของคยองซูมีลูกสาวน่าตาน่ารักแถมยังนิสัยน่าหยิกเข้าไปอีก

    เห็นแล้วอยากมีลูกเลยแหะ

    “น้องแอลไปเล่นกับน้องหมาตัวอื่นๆก่อนนะออมม่า ไปเล่นแล้วนะ” ร่างเล็กพูดกับคยองซูก่อนจะหอมแก้มของร่างเล็กไปฟอดหนึ่ง แต่ไม่ลืมที่จะหันไปบอกร่างหนาด้วยแม้จะยังเคืองๆอยู่ก็ตาม

    “เดี๋ยวสิน้องแอล” ร่างหนาเรียกขัดเด็กน้อยที่กำลังจะวิ่งไปหาสัตว์สี่ขาทั้งหลาย เด็กตัวเล็กหันกลับมามองตาแป๋วอย่างน่ารัก มันยิ่งทำให้ร่างหนาหลงมากกว่าเดิมอีก

    “มีออมม่าแล้ว...อยากมีอัปป้าบ้างหรือป่าว??” ถ้อยคำนุ่มทุ้มเอ่ยอย่างเรียบง่าย แม้คำถามจะเอ่ยกับเด็กน้อยแต่สายตาคมกลับจดจ้องมาที่ร่างเล็ก คยองซูหันหนีเล็กน้อยอย่างเขินอาย

    เอาอีกแล้ว เป็นแบบนี้อีกแล้ว

    “อยากสิ” คำพูดของเด็กน้อยทำให้คิมจงอินยิ้มกว้าง แสดงว่าเขามีโอกาสแล้วสินะ ร่างหนาบอกให้หญิงสาวไปเล่นกับน้องหมาต่อ แล้วหันมาจ้องหน้ากับคยองซูอีกครั้ง คนตัวเล็กหน้าดำหน้าแดงก่อนจะทำเป็นกินน้ำส้มไปไม่สนใจอะไร

    “ได้ยินหรือป่าวคยองซูอ่า น้องแอลอยากมีอัปป้านะ” ร่างสูงพูดหยอดพร้อมรอยยิ้มหวานทำเอาร่างเล็กไปไม่เป็น นี้มันก็ไม่ใช่ครั้งแรกที่โดนหยอดอะไรแบบนี้แล้วนี้ก็ไม่ใช่คนแรกด้วย ทำไมเขาจะไม่รู้ว่าคิมจงอินคิดยังไงกับเขา แต่มันก็...

    “แล้วนายล่ะ...คิดว่าไง” ร่างหนาพูดขึ้นอีกครั้งพอๆกับดวงหน้าคมที่เริ่มยื่นเข้ามาใกล้ๆ บอกตรงๆว่าตอนนี้สมองของคยองซูอื้อไปหมด คิดอะไรไม่ออกแม้แต่สั่งตัวเองให้เบนตัวหลบยังทำไม่ได้เลย ใบหน้าคมเริ่มเข้ามาใกล้เรื่อยๆทำเอาคนตัวเล็กหลับตาปี๋

    “อยากให้ใครมาเป็นอัปป้าให้น้องแอลด้วย...หรือป่าว”

    พรวดดดด

    “อะ แค่กๆๆ แค่กๆ ทิช..ทิชชู่~~” ร่างเล็กสำลักน้ำส้มที่ทำเป็นดื่มแก้เขินหลังจากที่ถูกร่างหนากระซิบถามเสียงแผ่วที่ข้างกกหู จงอินเห็นปฏิกิริยาตอบรับก็หัวเราะร่า ก่อนจะส่งทิชชู่ให้ร่างเล็กทันที

    “นายนี้ เหมือนเดิมเลยนะ” เสียงพูดทุ้มเอ่ยขึ้นอีกครั้งพร้อมแววตาที่คยองซูไม่เข้าใจ คยองซูทำเป็นเช็ดกำจัดคราบน้ำส้มที่เปื้อนไปตามริมฝีปากอิ่มของตนก่อนจะเบือนหน้าหนีเมื่อหันไปเจอะกับแววตาอ่านยาก ถึงขั้นยากมากของคิมจงอิน

    “อย่าลืมมาให้คำตอบฉันล่ะ” พูดจบร่างหนาก็ยิ้มน้อยๆก่อนจะเดินไปหาเด็กหญิงที่กำลังคลุกคลีกับเหล่าน้องหมาสี่ขาทั้งหลายตัว คำพูดชวนใจเต้นแรงของคิมจงอินยิ่งทำให้คยองซูสับสนมากยิ่งขึ้น สายตากลมโตตวัดไปมองร่างหนาที่เข้าไปหยอกล้อกับเด็กหญิงอย่างไม่เข้าใจ

    คำตอบของเขา....

    “นี้นายยังทนรอได้อีกหรอ...” ร่างเล็กพึมพำกับตัวเองก่อนจะสะดุ้งตกใจเมื่อรู้สึกถึงความสั่นไหวที่กระเป๋ากางเกง มือป้อมวางทิชชู่ลงบนโต๊ะก่อนจะล้วงหยิบโทรศัพท์สีขาวเครื่องเล็กที่กำลังสั่นอย่างรุนแรงมากดรับสายที่แสนคุ้นตาของตนทันที

    “สวัสดีครับพี่ มีอะไรหรือป่าว” เสียงทักทายของคยองซูทำให้คนปลายสายเผลอร้องเย้ออกมาด้วยความดีใจ

    [นี้ๆๆ คยองมาที่ร้านหน่อยสิ ด่วนเลยนะ ลูกค้ามีปัญหาแล้ววว] น้ำเสียงที่ดูเร่งร้อนทำให้คยองซูมึนงง ร่างเล็กเอ่ยถามถึงสาเหตุแต่ปลายสายกลับเพียงแค่เร่งเร้าให้เขามาที่ร้านอาหารที่เขาทำงานอยู่ให้เร็วที่สุด

    [รีบมาเลยนะคยอง พี่ขอโทษด้วยถ้ามันเป็นวันหยุดของนาย แต่ร้านต้องแย่แน่ๆ...รอสักครู่นะคะคุณลูกค้า คยองซูกำลังจะมาแล้วค่ะ....รีบมาเร็วๆเลยน๊า] น้ำเสียงที่ดูเร่งรีบทำให้คยองซูต้องรีบเร่งตัว ร่างเล็กขานรับไปก่อนจะวิ่งเข้าไปหาร่างเล็กของเด็กหญิงที่กำลังเปื้อนไปด้วยดินไม่ต่างจากร่างหนาข้างๆตน

    “คือว่า ฉันต้องขอตัวก่อนแล้ว พอดีว่างานเข้า” ร่างเล็กพูดพร้อมกับยิ้มแหยให้ จงอินเลิกคิ้วแปลกใจ แต่ก็พยุงตัวเองและเด็กน้อยขึ้นมายืนดีๆ มือหนาปัดไปมาตามชายกระโปรงสีฟ้าขาวเพื่อขจัดคราบดินที่เกาะอยู่อย่างน่ารำคาญ ทำเอาเด็กหญิงยิ้มแก้มปริ

    “คิมจงอินใจดีจังเลย ขอบคุณน่า”

    “เปลี่ยนจากคำขอบคุณเป็นหอมแก้มสักฟอดดีไหม” ร่างหนายื่นข้อเสนอพร้อมกับยื่นพวงแก้มเนียนเข้ามาใกล้ๆปากสีชมพูน้อยๆของเด็กหญิง น้องแอลหันมามองคยองซูตาแป๋วเป็นเชิงขออนุญาต ก่อนจะกดริมฝีปากอิ่มลงบนพวงแก้มของร่างหนาทันทีที่คยองซูพยักหน้าตอบรับ

    “บายๆๆ เดี๋ยวมาเล่นด้วยกันใหม่ ไปล่ะ” มือน้อยๆโบกไปมาในระดับสายตาของคิมจงอิน ร่างหนายิ้มให้น้อยๆพร้อมกับเดินไปส่งทั้งคู่ที่ประตูรั้วบ้านของตน

    “บายๆๆ” เสียงใสตอบกลับไปทันทีที่เดินพ้นเขตประตูรั้ว เด็กหญิงยิ้มแก้มปริมาตลอดทางเดินกลับบ้านจนคยองซูต้องเอ่ยทัก

    “น้องแอลเป็นอะไรครับ ยิ้มหน้าบานเลย”

    “ป่าวๆ น้องแอลแค่รู้สึกว่า...ถ้ามีคิมจงอินเป็นอัปป้าก็คงจะดี”



    -

    -

     

    “นี่ เมื่อไรคุณคยองซูจะมากัน” น้ำเสียงใสที่ชักความไม่พอใจมาเต็มกำลัง บวกกับใบหน้ากลมที่แก้มดูย้วยออกมาพอดูเริ่มพองลมขึ้น แสดงถึงความไม่พอใจเป็นอย่างมากถึงม๊ากมาก!

     

    “ตอนนี้คุณคยองซูกำลังมานะคะ ใจเย็นๆก่อนนะคะคุณมินซอก” น้ำเสียงอ่อนแรงของพนักงานสาวกำลังพยายามเกลี้ยกล่อมคนที่ค่อนข้างเอาแต่ใจ ซึ่งตัวเขาเองก็ทำอะไรไม่ได้เพราะคำว่าลูกค้ามันค้ำคออยู่

     

    ใครๆก็บอกว่า ลูกค้าคือพระเจ้า

     

    กริ๊ง กริ๊ง

     

    “มาแล้วคร้าบ มาแล้ว~” เสียงใสที่ค่อนข้างคุ้นเคยของคนทั้งร้านดังมาแต่ไกลพอๆกับเสียงกริ่งที่หน้าประตูร้าน ร่างเล็กแสนคุ้นตาและเป็นขวัญใจของใครบางคนที่ชอบมานั่งเพ้อหาเอาแต่ร้องว่า คุณคยองซูๆ

     

    “อ๊ะ คุณอีกแล้ว” ร่างเล็กที่วิ่งหายไปหลังร้านแล้วเปลี่ยนเป็นชุดยูนิฟอร์มรีบวิ่งหน้าตาตื่นมาหาพี่สาวที่เขาสนิทด้วยที่สุดในร้าน แต่ก็ต้องชะงักเมื่อวิ่งออกมาแล้วมาเจอกับผู้ชายหน้ากลมที่พักนี้เริ่มมาเยี่ยมเยียนที่ร้านเขาบ่อยครั้งจนหน้าแปลกใจกำลังฉีกยิ้มทำหน้าแป้นอย่างน่ารัก

     

    เอิ่ม...หวังว่าคงไม่ใช่...

     

    “คุณคยองซูทำสปาเก็ตตี้ให้ผมกินหน่อย ^^

     

    ว่าแล้วเชียว- -

     

    คนตรงหน้ายิ้มกว้างจนเห็นเหงือก นี้เขารีบวิ่งแทบตายเพราะว่าเขาปิดถนนวางท่ออยู่ทำให้ไม่สามารถมาทางลัดได้ แล้วให้ตาย! ผมรีบมาเพื่อรีบมาทำสปาเก็ตตี้! สปาเก็ตตี้!!!

     

    “ทำไมคุณต้องให้ผมทำให้กินด้วยล่ะครับ ผมไม่ใช่เชฟนะ” คนตัวเล็กพูดแกมอารมณ์เสีย ครั้งที่แล้วก็เหมือนกัน พี่สาวโทรไปปลุกผมตอนสี่ทุ่มคือตอนที่ผมกำลังจะอาบน้ำนอนแล้วให้ตื่นมาทำสปาเก็ตตี้ให้ผู้ชายคนนี้ทาน เพื่ออารายคร้าบบบบ

     

    “ก็ผมชอบฝีมือคุณคยองซูนี้น่า นะๆๆ ทำให้ผมกินหน่อยน้า” ผู้ชายตรงหน้ายกมือขึ้นมาเขย่าแขนคยองซู คนตัวเล็กเห็นท่าทีก็ยอมจำนน ผงกหัวหงึกๆทำเอาคนตรงหน้ายิ้มกว้างหน้านี้บานเลย

     

    “งั้นรอแปปนึงแล้วกัน” คยองซูพูดทิ้งท้ายก่อนจะเดินหลบหายไปหลังร้าน ทิ้งไว้แต่คนหน้ากลมที่ยิ้มแก้มแทบฉีกเพราะจะได้ทานอาหารสุดพิเศษจากคนพิเศษ ที่เขาตกหลุมตั้งแต่แรกเห็น ก็ท่าทางการเทคแคร์ลูกค้าของคนตัวเล็กทำให้รู้สึกรัก คือแบบ... ถ้าได้เป็นแฟนคงจะฟินมากเลย ตื่นมาตอนเช้าพร้อมกับการจุ๊บอรุณสวัสดิ์จากนั้นก็เดินไปในครัวแล้วถามว่า เช้านี้กินอะไรดี

     

    กรี๊ดสิฮะ!!!!

     

    “นี้ๆๆ” เสียงเรียกน้อยๆทำให้คิมมินซอกหลุดจากภวังค์ ร่างเล็กของเด็กผู้หญิงตากลมหน้าดูอวบๆแก้มนี้ชมพูอ่อนจนน่าหยิกเล่น

     

    น่ารักจัง~ ลูกสาวใครเนี่ย

     

    “ว่าไงครับสาวน้อย” ร่างอวบหันไปตอบกับเด็กน้อยที่กระตุกปลายเสื้อเชิ้ตสีเทาอ่อนของเขาเชิงเรียกร้องความสนใจ สาวน้อยตัวเล็กเอียงคอเล็กน้อยก่อนจะเอ่ยถามคำถามที่ทำเอาคนตัวอวบถึงกับงง

     

    “ชอบอ่อมม่าหรอ”

     

    “อ่อมม่าคือใครอ่ะสาวน้อย” ย้อนกลับไปพร้อมกับเครื่องหมายปรัศนียกกำลังยี่สิบ

     

    “ก็คนนู่นไง” นิ้วชี้สั้นๆของสาวน้อยชี้ไปทางร่างเล็กที่กำลังยกจานสปาเก็ตตี้มาเสิร์ฟ ร่างอวบขมวดคิ้ว อ่อมม่า??

     

    “น้องแอล! ตามมาได้ไงเนี่ย” ร่างเล็กร้องเสียงหลงเมื่อสบสายตากับสาวน้อย มือบางวางจานสปาเก็ตตี้ลงบนโต๊ะก่อนจะเดินอ้อมมาหาสาวน้อยที่ยืนทำหน้าหมุ่ยอยู่ข้างมินซอก สาวน้อยทำปากยื่นตามประสาเด็กน้อยที่ค่อนข้างเอาแต่ใจ

     

    “ก็อ่อมม่าจะปล่อยให้แอลอยู่ที่บ้านคนเดียว ไม่เอาด้วยหรอก ออกมาเที่ยวข้างนอกน่าหนุกจะตาย ฮ้า” ร่างเล็กของเด็กน้อยเดินไปหาคยองซูที่นั่งย่อตัวอยู่ในระดับเดียวกันกับเด็กน้อย มือเล็กทั้งสองข้างกางออกเป็นเชิงว่ามันโคตรจะแฮปปี้อีหลีเด้อไรเงี้ย

     

    “บ๊องจริงๆ” คยองซูหัวเราะครืน ทำเอาน้องแอลยิ่งชักสีหน้าไม่พอใจไปกันใหญ่ ดูเผินๆเหมือนกับคุณพ่อ(เอ๊ะ!? หรือคุณแม่)ที่กำลังง้อขอคืนดีกับคุณลูกที่แสนน่ารัก มั้งนะ

     

    แต่เดี๋ยวนะ ทุกคนลืมอะไรไปหรือป่าว??

     

    “นี้ๆ อ่อมม่าคือคุณคยองซูหรอ” คิมมินซอกยื่นหน้าเข้ามาในวงสนทนาของสองแม่ลูก คยองซูสะดุ้งเมื่อโดนจู่โจมด้วยคำถามที่เขาค่อนข้างจะอธิบายยากอยู่หรอกนะ

     

    “ใช่/ไม่ใช่” ทั้งคู่ประสานเสียงพร้อมกันทำเอามินซอกยิ่งงงเข้าไปใหญ่ คยองซูได้แต่ตบหน้าผากตัวเองในใจรัวๆ ทำไงดีๆๆ

     

    “แต่ว่าอ่อมม่าบอกว่าแอลเป็นอาหลานกัน” เด็กน้อยพูดขึ้นอย่างใสซื่อเพราะเพิ่งนึกขึ้นได้ว่าอ่อมม่าเคยบอกแบบนี้ไว้ ทำให้คยองซูคิดหาทางออกได้ มาทางไหนก็ต้องไปทางไหน คนตัวเล็กใช้อุบายเดิมว่าน้องแอลคือลูกสาวของพี่ชายแต่พี่ชายเกิดอยากจะแกล้งเขาเลยสอนให้น้องเรียกว่าอ่อมม่า

     

    “อ่อ~ เข้าใจแล้วๆ แหมน่ารักจัง” มินซอกพยักหน้ารัวๆก่อนจะหยิกแก้มย้วยๆที่เขาเล็งมาตั้งนาน น้องแอลก็เบี่ยงหลบอย่างเชี่ยวชาญทำเอาร่างอวบถึงกับหมั่นไส้เข้าไปใหญ่

     

    น่าจับมาฟัดแล้วยัดเข้าปาก แง่บๆ

     

    “เอ่อ...คุณมินซอก ผมขอตัวก่อนนะฮะ ขอตัวไปทำงานต่อ” ร่างเล็กโค้งตัวลงอย่างเคารพก่อนจะอุ้มน้องแอลแล้วเดินจากมา แต่มินซอกกลับทักไว้ก่อนและบอกให้น้องแอลนั่งอยู่เป็นเพื่อนกับเขาที่โต๊ะ

     

    คนตัวเล็กปฏิเสธทันควันเพราะเห็นว่าไม่สมควรแต่มินซอกก็ดื้อและไม่ถือตัวอะไร คนตัวเล็กถึงยอมและปล่อยให้เด็กหญิงนั่งรออยู่กับมินซอก

     

    “นี้ๆ สาวน้อย ชื่อน้องแอลใช่ไหม” ร่างอวบเอ่ยถามกับร่างเล็กที่นั่งจ้องหน้าเขาตาแป๋ว

     

    “ใช่แล้ว ชื่อแอลลูกสาวอ่อมม่า” คนตัวเล็กพูดเสียงฉะฉาน มินซอกก็ได้แต่ผงกหัวขึ้นลงๆ

     

    “น้องแอลขอถามอะไรหน่อยได้ไหม” หญิงสาวที่เงียบไปอึดใจหนึ่งถึงเอ่ยปากถาม มินซอกยิ้มกว้างอย่างเป็นมิตรพร้อมกับพูดด้วยน้ำเสียงสดใส

     

    “ได้สิ มีอะไรหรอฮะ”

     

    “ชอบอ่อมม่าหรอ” น้ำเสียงที่ดูห้วนสั้นไม่มีหางเสียงมันทำให้มินซอกชะงัก เด็กหญิงตรงหน้าจ้องตาเขากลับอย่างจริงจังทำให้ตัวเขาเองก็พยักหน้าตอบกลับไปโดยดี

     

    “แล้วชอบมากป่ะ” เอ่ยถามอีกครั้งพร้อมกับเสียงที่ดูตื่นเต้นขึ้น ท่าทางแบบนั้นทำให้ร่างอวบระบายยิ้มออกมาอย่างห้ามไม่อยู่ ที่ยิ้มเพราะไม่ใช่อะไรนะ เขิน>///<

     

    “ชอบม๊ากกกกก ทำไมหรอ”

     

    “จริงอ่ะ” หญิงสาวถามอีกครั้ง

     

    “อ่าฮะ จริงดิ” มินซอกตอบกลับอย่างภูมิใจ

     

    “คริๆ ดีจัง” หญิงสาวพูดทิ้งท้ายก่อนจะชวนมินซอกคุยไปเรื่อยเปื่อยตามประสาเด็กขี้คุย มินซอกค่อนข้างแปลกใจกับคำพูดชวนคิดลึกลงไปไกลถึงงานวิวาห์ เอ๊ยๆ หมายถึงว่ามันค่อนข้างเหลือเชื่อน่ะนะ เขาไม่ได้มีจุดประสงค์อะไรเลยนะ

     

    “นี้ๆ คุณซาลาเปา คุณซาลาเปารู้หรือป่าวว่าคุณซาลาเปามีคู่แข่งด้วยนะ” เด็กน้อยที่เพิ่งแย่งจานสปาเก็ตตี้ของมินซอกไปกินอย่างไม่รู้ร้อนรู้หนาวจนมินซอกเองก็ไม่รู้จะว่าอะไรยอมหันกลับมาคุยด้วยอีกครั้งหลังจากที่ปล่อยให้มินซอกนั่งเซ็งเพราะโดนแย่งอาหาร!

     

    ไม่เคยมีใครแย่งของกินเขาไปแล้วมีชีวิตรอดเลยนะ รู้ป่าว!!

     

    แต่ยกเว้นไว้คนหนึ่ง เป็นกรณีพิเศษ...เดี๋ยวคุณคยองซูไม่รัก

     

    “คู่แข่ง...คู่แข่งอะไรอ่ะ” มินซอกตอบกลับทำเอาเด็กสาวคิ้วขมวด

     

    “ก็ตำแหน่งของอัปป้าไง ไม่เป็นแล้วอ่อ ก็ดีนะ แอลจะได้ไม่ต้องตัดสินใจยาก”(ง่อววว นางมีทางเลือก หมั่นไส้ๆๆๆ)

     

    “อัปป้า??”

     

    “ก็ใช่ไง มีอ่อมม่า แล้วก็ต้องมีอัปป้าสิ” ไม่พูดเปล่าตักสปาเก็ตตี้เข้าปากไปคำหนึ่ง อ่ำ~

     

    คิมมินซอกกลับมานั่งคิด เอ่...

     

    อ่อมม่า...เท่ากับ...คุณคยองซู!

     

    งั้นอัปป้า...ก็ต้องเท่ากับ...แฟนคุณคยองซู!!

     

    ใครจะไม่เป็นกันเล่า!!

     

    “จริงหรอ! มีคู่แข่งด้วยหรอ ใครอ่ะ แล้วกี่คนๆ” ร่างอวบเขยิบเข้าไปใกล้เด็กหญิงที่สนใจขะเมือบแต่อาหารตรงหน้า ก่อนจะทำท่าครุ่นคิด

     

    “สาม...รวมคุณซาลาเปาก็มีว่าที่อัปป้าสามคนแล้ว” เด็กหญิงก้มลงนับนิ้วก่อนจะชูใกล้ๆสายตาแสนลุกลี้ลุกลนของร่างอวบ มินซอกคิดในใจก่อนจะตัดสินใจเด็ดขาด

     

    เอาว่ะ! เป็นไงเป็นกัน รีบทำคะแนนก่อนจะโดนง้าบ สามคน...สู้โว๊ยยย!

     

    สร้างกำลังใจให้ตัวเองพอสมควรก่อนจะเริ่มทำแต้มด้วยการหันไปบอกกับน้องแอลว่า

     

    “วันนี้กลับยังไงเอ่ย ให้คุณซาลาเปาไปส่งนะน้องแอล^^

     

    “ได้สิ ดีเลย^^

     

    เสร็จตรู เอิ้กๆๆๆ

     

     -

    -

     

     

    “ไว้วันหลังมาส่งใหม่นะ บายๆๆ”หญิงสาวโบกมือไปมาให้กับรถเก๋งสีดำที่ตนนั่งมาแล้วค่อนข้างที่จะถูกอกถูกใจอยู่ไม่น้อย ก็คุณซาลาเปาบอกว่าจะมาส่ง น้องแอลนี้วิ่งขึ้นรถก่อนเพื่อน ก็เคยเห็นแค่ในทีวีนี้ ของจริงก็ต้องตื่นเต้นกันเป็นธรรมดาสิ ขอบอกว่าถูกอกถูกใจเป็นพิเศษตรงที่สามารถเลื่อนกระจกขึ้นลงได้! พระเจ้า!! แอลรักมัน!!

     

    “เข้าบ้านกันเถอะน้องแอล” คยองซูเรียกสติที่ลอยไปกับกระจกรถเก๋งคันโปรดของน้องแอลให้กลับมาโดยการสะกิดเบาๆ แน่นอนว่ามันได้ผล เพราะน้องแอลสะดุ้งจนคิดว่าโดนกระจกหนีบนิ้วยังไงยังงั้น- -

     

    ร่างเล็กเดินเข้าไปอุ้มเด็กหญิงก่อนจะพาเข้าบ้านด้วยสภาพที่ค่อนข้างอิดโรย วันนี้เป็นวันหยุดของเขาแท้ๆแต่กลับต้องมาทำงานอะไรก็ไม่รู้ แต่ว่าวันนี้ลูกค้าก็เยอะจริงๆนั่นแหละ ถ้าไม่มีเขาที่ร้านจะรอดไหมน่า...

     

    “นี้ๆ อ่อมม่า...พรุ่งนี้เราออกไปเที่ยวกันดีไหม” มือป้อมกลมน้อยๆที่คล้องคอของคยองซูไว้ยกขึ้นมาสะกิดเบาๆอย่างเรียกร้องความสนใจ ทันทีที่เหยื่อของน้องแอลตัวจ้อยติดกับก็จัดการใส่ลูกอ้อน ลูกอ้อยไปให้หมด เพราะพรุ่งนี้เขาอยากไปเที่ยวอีก!

     

    “อ่า...ไปเที่ยวไหนดีล่ะครับ” คยองซูที่ไม่ค่อยจะรับมือกับลูกอ้อนของเด็กน้อยได้สักเท่าไรก็ยอมแพ้ จำนนด้วยการวางน้องแอลลงบนโซฟาแล้วตัวเองคุกเข่าตรงหน้าพร้อมเอ่ยถามความประสงค์

     

    “น้องแอลอยากไปสวนสนุก อยากเห็นอ่อมม่าใส่ชุดคุณหมีอีกครั้งหนึ่ง” เด็กน้อยเขย่ามือป้อมของคยองซูรัว

     

    “โอเคๆ ยอมๆ ไปก็ได้แต่พรุ่งนี้นะโอเคไหม” คยองซูพ่ายแพ้ต่อลูกอ้อนที่มีไม่สิ้นสุดจริงๆของหญิงสาว ปากก็ตกลงนะ แต่กายเนี่ยไม่ไหวแล้ว- -

     

    “โอเค แอลตกลง อ่อมม่าไปอาบน้ำกัน” หญิงสาวยิ้มร่าเริงก่อนจะวิ่งขึ้นไปบนชั้นสองอย่างรวดเร็ว คยองซูได้แต่ตะโกนไล่หลังว่าให้ระวังสะดุดล้มแต่ดูเหมือนเจ้าตัวจะไม่รู้สึกรู้สาอะไรเลย

     

     

    นี้เพิ่งผ่านมาแค่วันเดียว ก็วุ่นวายขนาดนี้แล้วหรอเนี่ย เฮ้อ~

     

    รอดูพรุ่งนี้ก่อนแล้วกัน

    .

    .

    .

    .

    .

    .

    .

    .

    .

    .

    เช้าวันที่สองกับการมีเด็กผู้หญิงตัวเล็กๆมาอยู่กับคยองซู

     

    “อ่อมม่า!! ตื่นย๊าง!” เสียงใสดังลั่นไปทั่วบ้านหลังเล็กพร้อมกับน้องแอลแสนซนที่รีบวิ่งซนแต่เช้า เด็กหญิงวิ่งเข้าไปในห้องของคยองซูโดยไม่เคาะหรือขออนุญาตแม้แต่น้อย ก็แหม... วันนี้เขาจะได้ไปเที่ยวนะ!

     

    “ฮืม?...” คยองซูส่งเสียงงัวเงียเพราะยังไม่ตื่นดีนัก น้องแอลเห็นดังนั้นจึงกระโจนใส่ด้วยความรวดเร็ว

     

    “แอ่ก! น้องแอล...มันหนักนะ” คยองซูร้องออกมาเมื่อโดนร่างเล็กของลูกสาวพุ่งเข้าใส่ ร่างป้อมปืนขึ้นมานั่งทับร่างของคยองซูไว้ พร้อมกับเริ่มสะกิดเพื่อให้เขาตื่น

     

    “ถ้าหนักอ่อมม่าก็ต้องลุก ลุกเร็วๆ” เด็กหญิงเขย่าแขนไปพูดไป ร่างเล็กลืมตาขึ้นมามองก่อนจะพยุงตัวเองขึ้นมานั่งบนเตียงทำให้เด็กหญิงไถลไปอยู่บนตักของคยองซู

     

    “งืม วันนี้อ่อมม่าง่วงจัง” คยองซูยังคงงัวเงีย ทำเอาเด็กหญิงเริ่มงอแงขึ้นมา น้องแอลเริ่มปากยื่นพร้อมกับผลักเบาๆที่อกของคยองซูด้วยความน้อยใจ

     

    “อ่อมม่าสัญญาแล้วนะ ลุกสิ! เร็วด้วย” เด็กหญิงที่วิ่งเข้ามาในห้องก็เอาแต่สั่งๆ ถึงตอนนี้ก็ยังคงสั่งๆ คยองซูพยักหน้าเล็กน้อยและทำท่าจะลุกขึ้นกลับโดนเจ้าตัวเล็กบนตักนั่งทับไม่ยอมให้ไปไหน

     

    “น้องแอลครับ...อ่อมม่าจะไปอาบน้ำ”

     

    “อ่อมม่าต้องมอนิ่งคิสน้องแอลก่อนสิ” ไม่พูดเปล่าทำปากจู๋ยื่นมาให้พร้อม คยองซูอมยิ้มทันทีกับท่าทางตรงหน้า ริมฝีปากรูปหัวใจยู่ลงก่อนจะประทับเบาๆลงบนริมฝีปากบางของลูกสาว

     

    “มอนิ่งคิสครับผม^^

     

     

     

    .

     

    “อ่อมม่า เราจะไปสวนสนุกกันจริงๆใช่ม่ะ” เด็กหญิงตัวเล็กในชุดเอี่ยมสีเทากับรองเท้าผ้าใบคู่โปรด ผมยาวสลวยสีดำขลับซึ่งตอนนี้กำลังถูกมือป้อมๆของคุณแม่ตัวเล็กมัดแกะให้อย่างน่ารัก เด็กสาวมองตัวเองในกระจกก่อนจะเอ่ยถามกับคุณแม่ที่กำลังตั้งใจในการมัดแกะของเขาอยู่

     

    “แล้วน้องแอลอยากไปไหนล่ะครับ” คยองซูพูดขึ้นหลังจากที่จัดทรงของผมสีดำเงางามของเด็กหญิงเสร็จเรียบร้อย ขอบอกเลยว่าไม่ค่อยจะเห่อน้องแอลเท่าไร ก็แค่พาไปอาบน้ำ สระผม เป่าผม แต่งตัวให้ ดูแลอย่างดี ไม่ได้เห่อเล๊ย!

     

    ว่าแต่ชุดพวกนี้มาจากไหนกัน- -

     

    “น้องแอลอยากไปสวนสนุก! อยากเห็นอ่อมม่าเป็นคุณหมี น่ารัก~” หญิงสาวหันกลับมาหาคยองซูพร้อมกับพูดอย่างร่าเริง ใบหน้ากลมแย้มยิ้มจนคยองซูอดไม่ได้ที่จะยื่นมือมาหยิกแก้มย้วยๆอมชมพู

     

    “แต่ช่วงนี้สวนสนุกรู้สึกว่าจะปิดปรับปรุงนะครับ อ่อมม่าลืมบอกไป” คนตัวเล็กที่เพิ่งนึกขึ้นได้ว่าที่สวนสนุกที่ตนทำงานมีการรับเครื่องเล่นและจะขยายพื้นที่ให้กว้างขึ้นเพื่อจะได้ต้อนรับเด็กๆได้อย่างทั่วถึง จึงทำการปิดปรับปรุง เห็นว่าถึงเดือนหน้านู่นแน่ะ

     

            ก็ดีนะ เขาจะได้ไม่ต้องไปทำงานในช่วงนี้ ขอปรับตัวให้เข้ากับคนตัวเล็กให้ได้ก่อนแล้วกัน

     

    “ง่าเอาไงกันดีล่ะอ่อมม่า” ใบหน้ากลมหม่นลงอย่างเห็นได้ชัด คยองซูอมยิ้มก่อนจะอุ้มเด็กน้อยขึ้นแล้วพูดปลอบใจ

     

    “งั้นไปเที่ยวแถวห้างแถวๆนี้กันดีกว่าเนอะ”

     

    “ห๊า! จริงหรอ ไปกันเลยๆ ไปเที่ยวห้าง! ไปเที่ยวห้าง!!” เด็กหญิงยิ้มกว้าง พร้อมกับยกมือมาคล้องคอคนตัวเล็กก่อนจะยกขึ้นแล้วชี้ไปข้างนอก ประมาณว่า Let’s Go~

    .

    .

    .

    .

     

     

    ห้างสรรพสินค้าอนุบาลหมีน้อย

     

    “หูววว ใหญ่จัง! เหมือนกับสนามเด็กเล่นที่บ้านน้องแอลเลยอ่า~” หญิงสาวที่เพิ่งลงมาจากรถก็วิ่งวุ่นเข้าห้างจนคุณแม่ตัวเล็กที่กำลังจ่ายค่าแท็กซี่จับไว้แทบไม่ทัน น้องแอลยังไม่เคยเห็นอะไรแบบนี้มาก่อนเลยบนโลกมนุษย์ ขอบอกว่า ถูกใจ๋!!

     

    “น้องแอลใจเย็นๆสิครับ อย่าเพิ่งไปสิ มานี้ก่อนน่า” คยองซูที่วิ่งตามเข้ามาก็เดินไปจูงมือเด็กหญิงให้เดินตามตนมาที่ประชาสัมพันธ์ ที่คนตัวเล็กพาน้องแอลมาที่ห้างนี้เพราะว่าห้างนี้ขึ้นชื่อเรื่องความปลอดภัย ถ้าลูกค้าคนไหนที่พาเด็กมาด้วยจะมีป้ายห้อยที่เขียนชื่อและเบอร์โทรศัพท์ของผู้ปกครองเอาไว้ เกิดพลัดหลงกันและมีผู้พบเจอจะได้ประสานติดต่อกันได้ เป็นไอเดียที่เก๋กู๊ด! ไม่น่าแปลกที่ห้างแห่งนี้จะเหมือนกับสนามเด็กเล่นของน้องแอล

     

    ก็ที่นี้มีเด็กอายุไล่เลี่ยกับห้องแอลไปหมดเลย!!

     

    “ยินดีต้อนรับค่ะ เชิญคุณลูกค้าทางนี้ค่ะ” พนักงานต้อนรับประจำประชาสัมพันธ์พูดเชื้อเชิญก่อนจะพาสองแม่ลูกไปทำบัตรกันเด็กหลงแล้วทำการกรอกประวัติข้อมูลบลาๆ เผื่อเกิดเหตุฉุกเฉินขึ้นมาจะได้แก้ไขปัญหาได้ ก็บอกแล้วว่าห้างนี้มันเก๋กู้ด!!

     

    “น้องแอลครับ น้องแอลต้องห้อยป้ายนี้ไว้เลยนะ ห้ามถอดออกเข้าใจไหม” คนตัวเล็กกำชับอีกครั้งหลังจากที่จัดการกรอกประวัติข้อมูลต่างๆเสร็จเรียบร้อยแล้ว เด็กหญิงตัวเล็กหันมาพยักหน้าพร้อมรอยยิ้มก่อนจะลากคยองซูไปที่ร้านต่างๆตามประสาเด็กช่างคิดช่างสงสัย

     

    กว่าทั้งคู่จะเดินเล่นกันตามประสาแม่ลูกเสร็จก็ปาไปเที่ยงครึ่ง น้องแอลที่ได้ทานแค่นมอุ่นๆกับซีเรียลเป็นอาหารเช้าก็เริ่มออกอาการหิว คนตัวเล็กพาเด็กน้อยไปแวะทานอาหารญี่ปุ่นที่คิดว่าน้องแอลจะต้องชอบแน่ๆ

     


     

    ผ่านไปแล้วกับอาหารมื้อเที่ยง หญิงสาวที่เพิ่งเติมพลังมามาดๆก็เริ่มคึก ลากคุณแม่ที่พุงเริ่มออกเนื่องอิ่มแปล้ไปที่ร้านหนังสือขนาดใหญ่ภายในห้าง

     

    เด็กหญิงตัวเล็กวิ่งเข้าไปภายในร้านอย่างร่าเริง มีเพียงคุณแม่ตัวเล็กที่ค่อยเตือนให้ระวังล้มตามหลังไป เป็นภาพที่ดูน่ารักมากๆสำหรับคนที่เดินผ่านไปผ่านมา เด็กหญิงเดินมาหยุดที่มุมของ เทพนิยายตากลมโตจดจ้องไปที่หนังสือปกหนามีตัวอักษรที่น้องแอลเห็นแล้วราวกับโดนมนต์สะกด

     

    เรื่องราวบนฟ้า

     

    “อ่อมม่า แอลอยากได้เล่มนี้ไปอ่าน” เด็กหญิงตัวจ้อยเดินจูงมือผู้ปกครองตัวเล็กมาหาเจ้าหนังสือปกหนา มือป้อมยกขึ้นมาชี้ๆ แสดงความต้องการครอบครองเป็นอย่างมาก คยองซูหยิบขึ้นมาดูก็ถึงกับฉงน

     

    “น้องแอลอยากให้อ่อมม่าอ่านให้ฟัง น้า...” น้องแอลออกลูกอ้อนอีกแล้ว ครั้งนี้ดูจะอ้อนหนักมาก เพราะมือป้อมยกขึ้นมากอดเอวบางของคยองซูแล้วเอาหัวทุยของตนซุกเข้าที่ท้องของคยองซู คยองซูรู้สึกจั๊กจี้จึงได้แค่ผลักออกเบาๆ แต่น้องแอลก็ไม่ปล่อย เอาแต่กอดแน่นและช้อนสายตากลมขึ้นมามองอย่างออดอ้อน ปากบางสีชมพูก็ยื่นออกมาอย่างน่ารัก

     

            ท่าทางอยากจะได้มาก

     

    “โอเคครับ ซื้อให้ก็ได้” พูดยิ้มๆพร้อมกับลูบหัวเด็กน้อยอย่างเอ็นดู เด็กหญิงยิ้มกว้างและแย่งหนังสือปกหนาในมือของคยองซูและเดินไปที่เคาเตอร์แคชเชียร์ทันที

     

    ทันทีที่จ่ายเงินเสร็จเรียบร้อย น้องแอลก็เดินยิ้มหน้าบานออกมาจากร้านหนังสือ มือป้อมข้างหนึ่งถือถุงกระดาษที่มีหนังสือปกหนาใส่เอาไว้ ส่วนก็ข้างก็ถูกคุณแม่ตัวเล็กจูงพาเดินเที่ยวไปรอบๆ

     

    นับว่าวันนี้โชคดีที่คยองซูไม่ได้ไปทำงานเพราะทางร้านหยุดชดเชยให้เพราะเมื่อวานเขาไปทำทั้งๆที่เป็นวันหยุด ก็ดีเหมือนกัน จะได้มาเที่ยวกับน้องแอลเอาให้เหนื่อยกันไปข้าง เพราะห้างที่นี้นะใหญ่มาก กว้างมาก เป็นแหล่งรวมสินค้าชั้นดีและหลากหลาย มีทุกรุ่นทุกวัย ไม่น่าแปลกที่จะคนเยอะทุกวัน แต่วันนี้ดูจะเยอะเป็นพิเศษนะ

     

    “อ่อมม่า นั่นคนมุงดูอะไรกันอ่ะ” เด็กหญิงที่เดินจูงมือมากับคยองซูเอ่ยทัก นิ้วชี้เล็กๆชี้ไปทางผู้คนจำนวนมากที่กำลังยืนมุงดูอะไรก็ไม่รู้ จากที่ประมวลแล้วดูเหมือนจะมีแต่ผู้หญิงเป็นส่วนใหญ่นะ

     

    มุงดูอะไรกันหวา...

     

    “นี้ๆ มีอะไรกันหรอครับ” ร่างเล็กของทั้งสองเดินเข้าไปหากลุ่มคนตรงหน้า คยองซูสะกิดเบาๆที่ไหล่ของหญิงสาวที่ดูแล้วคงยี่สิบต้นๆ ใบหน้าของเธอติดจะรำคาญนิดหน่อยเมื่อโดนคยองซูถาม ตาเรียวคมเสมองมาทางร่างเล็กก่อนจะปริปากพูดอย่างเบื่อหน่าย

     

    “ก็วันนี้นะ มีสายบอกว่าแบคฮยอนอปป้ามาเที่ยวที่ห้างนี้ แฟนคลับเขาก็เลยตามมาดูไง รู้จักไหม? แบคฮยอนนะ ดังมากเลยนะ ถ้าไม่รู้แล้วไปอยู่ที่ไหนถึงไม่รู้จัก” หญิงสาวพูดอย่างเหวี่ยงๆก่อนจะหันกลับไปสนใจกับร้านขายรองเท้าตรงหน้าที่มีคนอื่นๆสาดแสงแฟรชกันกระหน่ำ

     

    อะไรแว่ะ!

     

    หลังจากที่ได้คำตอบมาว่ามีผู้ชายคนหนึ่งที่คงจะดังมาก ชื่อ แบคฮยอน เขามาชอปปิ้งแล้วถูกแฟนคลับตามมา อ่าฮะ!

     

    แต่แบคฮยอนนี้ชื่อคุ้นๆนะ

     

    “อ่อมม่า แบคฮยอนคือใครหรอ” เด็กหญิงเอ่ยถาม ทำเอาคนตัวเล็กยิ่งคิดหนัก

     

    เอ่... แบคฮยอนๆๆ ชื่อคุ้นๆแต่นึกไม่ออก....อืม ลุงขายปาท่องโก๋แถวบ้านแม่หรือป่าวว่ะ

     

    “กรี๊ดดด!!

     

    “แบคฮยอนอปป้า!!

     

    “กรี๊ดด!! อปป้า~

     

    ยังไม่ทันที่คยองซูจะนึกออก เสียงกรีดร้องของหญิงสาวจำนวนมากก็ดังขึ้น ทำเอาน้องแอลตกใจแทบสะดุ้ง หญิงสาวทั้งหลายต่างพากันกรูเข้าไปหาร่างของผู้ชายคนหนึ่งที่เพิ่งเดินออกมาร้านขายรองเท้า ชายคนนั้นใส่ผ้าปิดปากและหมวกไหมพรมพร้อมแว่นตากันแดด

     

    เอิ่ม...เซเลปขนาดนั้นเลยหรอ

     

    “อ่อมม่า! แอลว่าเราไปที่อื่นกันเถอะ ที่นี้คนเยอะและเสียงดังมากอ่ะ” เด็กน้อยพูดพลางเอามือปิดหู คยองซูเองก็เช่นกัน ทั้งคู่พยักหน้าอย่างเข้าใจก่อนจะหันหลังกลับและเดินหนีฝูงชนที่เอาแต่กรีดร้องเสียงดังเซ็งแซ่~

     

    แต่ว่า...

     

    พลั่ก!

     

    “โอ๊ย!” ร่างของคยองซูเซล้มเมื่อโดนชายแปลกหน้าที่เดินลับๆล่อๆจนน่าสงสัยชนเข้า ผู้ชายคนนั้นรีบเข้ามาพยุงร่างเล็กที่เซล้มไปนั่งอยู่บนพื้นอย่างรีบร้อน และกล่าวขอโทษวกไปวนมา

     

    “คุณเป็นอะไรมากไหม? เจ็บตรงไหนหรือป่าว คือผม...ขอโทษนะ ผมไม่ได้ตั้งใจคือว่า...”

     

    “นี้ไม่ใช่แบคฮยอนอปป้านี้!! นั่น! อปป้าอยู่ทางนั่น!!” ยังไม่ทันที่ชายแปลกหน้าจะพูดจบ กลุ่มหญิงสาวก็พูดเสียงดังพร้อมกับชี้มาทางคยองซูและชายแปลกหน้า คยองซูตกใจที่อยู่ๆก็กลายเป็นเป้าสายตาของเหล่าแฟนคลับแสนน่ากลัว แต่จะตกใจยิ่งกว่าเดิมเมื่อเหล่าสาวๆพร้อมใจกันวิ่งมาทางนี้อย่างพร้อมเพรียง

     

    เกิดอะไรขึ้น!!

     

    หมับ!

    ยังไม่ทันที่คยองซูจะได้คำตอบกลับเรื่องที่เกิดขึ้น ข้อมือของตนก็โดนชายแปลกหน้าจับและออกแรงดึงจนคนตัวเล็กต้องหน้าเหวอมากกว่าเดิม

     

    “จะยืนเซ่ออยู่ทำไม ก็วิ่งเซ่!

     

      















    100%


    แอแฮ่~ กลับมาแล้ววว วู้วว คิดถึงกันไหม!!!


    แก้ไขคำผิด 24/4/2560



     

     

    © themy  butter
    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    นิยายที่ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×