ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    Love You ที่รักครับ ผมรักคุณ [yaoi]

    ลำดับตอนที่ #3 : บทเรียนที่ 3 ::: สงครามประสาท 100 per

    • เนื้อหาตอนนี้เปิดให้อ่าน
    • 207
      8
      19 มิ.ย. 56

    Lesson   3

    สงครามประสาท 

     

     



     

     

     

    _พี่แสนแม่...อึก...แม่จะเป็นไรไหมเด็กน้อยอายุประมาณแปดเก้าขวบเงยหน้าไปถามพี่ชายที่โตกว่าตนประมาณสี่ถึงห้าปีเห็นจะได้ด้วยใบหน้าที่เต็มไปด้วยน้ำตาโดยที่พี่ชายทำได้เพียงกอดและพูดปลอบเท่านั้น

     

    “ไม่เป็นไรนะนา...แม่จะต้องไม่เป็นอะไรนะ..แม่เป็นคนดี” ผู้เป็นพี่พูดอย่างเลื่อนลอย

     

    ใช่แม่พวกเขาเป็นคนดี แม่พวกเขาจะต้องไม่เป็นไร..

     

    แม่พวกแกตายไปได้ซะก็ดี เสียงของผู้หญิงที่จัดได้ว่าสวยมากทีเดียวที่ยืนมองเด็กทั้งสองด้วยสายตาสมเพชพูดขึ้นทำให้ผู้เป็นน้องเดินไปผลักพลางทุบตีเธอคนนั้นสุดแรง

     

    “โอ๊ย!ไอ้เด็กบ้าแกจะมาตีฉันทำไมยะ!!!

     

    “ก็คุณมา..อึก...แช่งแม่...อึก...ผมทำไม”

     

    “ล้านนาปล่อยแอนเดี๋ยวนี้ พ่อสั่งให้ปล่อย!” ลันผู้เป็นพ่อของเด็กทั้งสองพูดขึ้นหลังจากที่พึ่งมาถึงพร้อมทั้งเดินเข้าไปแยกล้านนาออกจากหญิงสาวแต่ดูเหมือนลันจะใช้แรงมากไปหน่อยบวกกับที่ล้านนาตัวเล็กด้วยทำให้ล้านนาล้มไม่เป็นท่า

     

    “พ่อ..ทำนาทำไม..ฮื่อ” ล้านนาปล่อยโฮออกมาทันทีหลังจากล้มลงไปกองกับพื้น

     

    “ก็แกไปทุบตีแอนเขาทำไม” ลันหันไปตะคอกใส่ล้านนาก่อนจะเดินไปโอบเอวหญิงสาวที่ยื่นมองอยู่ “แอนเจ็บตรงไหนรึป่าว”

     

    “ไม่ค่ะ ฉันไม่เป็นไร”

     

    “พ่อ...ไม่สิ!...คุณมันใจร้ายที่สุดต่อให้คุณมากราบ...อึก....แทบเท้าพวกผมก็จะไม่มีวันให้อภัย!!!

     

     

     

    “ไอ้นาตื่นๆๆๆ!!!!

     

    “ไอ้แกมมึงจะเสียงดังทำไมวะ” ผมหันไปด่าไอ้แกมที่นั่งหน้าเป็นตูดอยู่ตั้งแต่เมื่อเช้าจนตอนนี้เลิกเรียนแล้วมันก็ยังไม่หาย

     

    ถามจริงมึงไม่เบื่อบ้างไงครับ

     

    “ก็กูหิวนิ”

     

    “หิวมึงก็ไปหาไรกินดิ มาบอกกูแล้วหายหิวไหม! กูง่วงไอ้สัด!”

     

    เออจำไว้เลยนะมึง นั่งเฝ้าของอยู่นี่ล่ะไอ้แกมมันสั่งผมก่อนจะเดินออกไป

     

    บางคนคงสงสัยว่าไอ้กุมภ์กับไอ้ชาร์ลไปไหน ผมก็อยากรู้เหมือนกันว่าพวกมันไปไหน ก่อนผมนอนผมยังเห็นพวกมันสองตัวอยู่เลย =  =

     

    ติ๊ด  ติ๊ด ติ๊ด

     

    หวัดดีคร้าบ คนหล่อพูดสายอยู่ครับผมพูดขึ้นหลังจากหยิบมือถือขึ้นมาแล้วปรากฏว่าเป็นพี่เชียงแสนพี่ชายสุดที่รักของผมเอง

     

    “ขอโทษครับสงสัยผมคงโทรผิดผมจำได้ว่าผมโทรหาน้องชายผู้น่าเกลียดและอัปลักษณ์ของผม” ไอ้พี่แสนมันพูดด้วยน้ำเสียงที่เปี่ยมไปด้วยความสำนึกผิดที่น่า.......ถีบ = =

     

    ไม่ผิดหรอกครับไอ้หล่อนี่หล่อกว่ารับสายไงถ่ายแบบมากๆจนลืมกันแล้วหรอเค้าน้อยใจนะ ฮ่าๆๆ

     

    ผมพูดหยอกมันพลางหัวเราะร่า พี่ผมมันเป็นคนที่ผมภูมิใจมากเลยนะครับเป็นดาราดังมากเลยอยู่ที่ปารีสแถมยังส่งเสียผมแล้วก็ตัวเองเรียนอีก ไหนจะค่ากินค่าอยู่ค่าอะไรต่อมิอะไรพี่มันก็ออกให้ผมหมดเลยแต่ออกเป็นชื่อพี่มันหมดเลยนะ = =

     

    โอเคๆพี่ยอมแพ้แล้ว แล้วนี่เราเป็นไงมั้งสบายดีไหม เงินที่พี่ส่งไปพอใช้รึป่าว ขาดเหลืออะไรบอกพี่นะ เรียนหนักมากไหม ไอ้แกมมันแกล้งอะไรเราอีกรึป่าวพี่จะได้ไปจัดการมัน เออใช่! อีกสามอาทิตย์พี่จะบินไปหานะอยากได้ของขวัญอะไรเป็นพิเศษ

     

    แหม....กลัวใครแย่งพูดวะพี่

     

    แต่จะว่าไปอีกสามอาทิตย์นี่มันวันเกิดผมนิหว่า ดีเหมือนกันผมอยากฉลองวันเกิดกับพี่มันอยู่เหมือนกันนานแล้วนะเนี่ยที่ผมไม่ได้ฉลองวันเกิดกับพี่เนี่ย

     

    “ใจเย็นๆก็ได้ครับพี่ผมสบายดีน่า”

     

    “ก็พี่เป็นห่วงเรานิคิดถึงด้วยไม่ได้เจอกันสี่ปีกว่าๆแล้วเราไม่คิดถึงพี่รึไง”

     

    เออจริงด้วยผมไม่ได้เจอพี่มาสี่ปีแล้วนิหว่าตั้งแต่มันได้เป็นนักแสดงกับนายแบบอยู่ที่ปารีส

     

    “คิดถึงดิ เหลือกันอยู่สองคนไม่คิดถึงพี่แล้วจะให้ผมคิดถึงหมาที่ไหนล่ะครับ ฮ่าๆๆ”

     

    แหม...ตอนแรกมันก็จะซึ้งอยู่หรอถ้าเราไม่หลอกด่าพี่ว่าเป็นหมาน่ะพี่มันพูดแบบขำๆ “เออ..พี่ต้องไปแล้วเดี๋ยวว่างๆพี่โทรไปใหม่นะ บ๊ายบาย”

     

    วางซะหล่ะ..

     

    “พี่นาทำไมมานั่งอยู่คนเดียว พวกพี่แกมไปไหนอ่ะ” ไอ้แอลน้องชายของไอ้แกมทักผมก่อนที่มันจะเดินมานั่งเก้าอี้ฝั่งตรงข้ามผม

     

    พวกมันไปสู่สุขคติแล้วปล่อยมันไป แล้วนี่มึงจะไปไหนล่ะกูไปด้วยดิโคตรเบื่อเลย

     

    ผมว่าจะไปตรวจดูตรงตึกร้างเก่าหลังมหาลัยหน่อยวะพี่เห็นพวกไอ้เกลมันบอกว่าเห็นเด็กไปมั่วสุ่มกันอยู่

     

    “แต่แถวนั้นมันเปลี่ยวนะมึง”

     

    “เอาน่าแค่ไปตรวจดูเฉยๆพี่อย่าป๊อดไปหน่อยเลย!

     

     

     

    ในที่สุดผมก็มาอยู่หน้าสถานที่ๆไอ้เกลมันบอกว่าเป็นแหล่งอับสัญญาณเรดาร์ตรวจตราของพวกปกครองแล้วครับ บรรากาศตอนนี้มันช่างน่ากลัวเสียนี่กระไร

     

    ซะเมื่อไหร่ลืมที่ผมบรรยายเมื่อกี้ไปได้เลยครับ = =

     

    ไหนอ่ะเด็กกูเห็นแต่หมาผมหันไปถามไอ้แอลที่ยิ้มแหยะๆมาให้ผม

     

    “อย่ามองผมแบบนั้นเด่ ผมว่าเราเข้าไปดูก่อนดีกว่าอันนี้มันแค่หน้าตึกเองนะพี่”

     

    “”มึงจะบ้าไงไอ้แอลถ้าเกิดเข้าไปแล้วเดินอยู่ดีๆพื้นมันทรุดขึ้นมาจะทำยังไง?!”

     

    “พี่ก็เว่อร์ไป”

     

    กูไม่ได้เว่อร์ครับตึกไม้เก่าสองชั้นที่ถูกทิ้งร้างมาสิบกว่าปีแบบนั้นไม้แม่งไม่ถูกปลวกกินหมดแล้วเรอะ!

     

    “สรุปพี่จะไม่ไปว่างั้น!?

     

    “เออ”

     

    “งั้นผมไปคนเดียวก็ได้!

     

    ไอ้แอลมันพูดก่อนจะสะบัดตูดเดินเข้าไปข้างใน

     

    ส่วนผมขอนั่งเล่นกับหมาดีกว่าน่ารักด้วยสงสัยเป็นหมาแถวนี้แหละมั้ง

     

    อ้าว ไอ้นามานั่งเล่นหมาอะไรตรงนี้วะ!?” ไอ้ลาเต้ครับที่ทักผม

     

    ผมจึงเงยหน้าขึ้นไปมองก็พบว่าเป็นไอ้ลาเต้กับไอ้นิทานพวกมันสองคนเรียนคนละคณะกับผมครับแต่ก็คุยกันบ้างนิดหน่อยแต่ผมคุยแต่กับไอ้ทานแล้วก็ไอ้ลาเต้นะเพราะถึงผมจะเกลียดเพื่อนมันแต่ผมก็ไม่ได้พาลถึงขนาดไม่คุยกับพวกของมันนะครับผมมีเหตุผลพอ

     

     พอดีกูมาตรวจอะไรแถวนี้กับไอ้แอลนิดหน่อยเพราะเด็กในคณะมันบอกว่าเป็นแหล่งมั่วสุมน่ะ ผมตอบ

     

    “อื้ม เหมือนพวกกูเลยแล้วนี่ไอ้แอลไปไหน!?” ไอ้ลาเต้อีกนั้นแหละครับที่ถาม

     

    “ข้างในไง จะว่าไปมันเข้าไปนานแล้วนะเนี่ยทำไมยังไม่ออกมาอีกวะ” ผมพูดเหมือนกับบ่นกับตัวเองครับ

     

    “แล้วมึงก็ปล่อยมันเข้าไปเนี่ยนะ!!!” ไอ้โลกิที่โผล่มาจากไหนก็ไม่รู้เดินเข้ามาเขย่าผมก่อนจะผลักผมจนเกือบล้มถ้าไม่ติดว่ามีคนมารับไว้ผมเตรียมจะหันไปขอบคุณแต่ก็ต้องชะงัก

     

    ไอ้เหี้ย....ซาตาน

     

    ความรู้สึกตอนที่ผมเงยหน้าไปมองมันอย่าให้ผมบรรยายเลยครับ มันพูดได้แค่ว่าหน่วงไปหมด หน่วงจนไม่รู้จะบรรยายอะไร…..

     

     

    Santa Talk

     

    “ไอ้โลกิมึงไปผลักไอ้นาแบบนั้นได้ยังไงถ้ามึงเป็นห่วงไอ้แอลนักก็เข้าไปดูสิ” ไอ้ทานมันพูดเหมือนอยากจะเตือนสติไอ้โลกิ ส่วนไอ้โลกิเมื่อได้สติก็รีบวิ่งเข้าไปในตึกร้างทันทีเลยครับ

     

    แหม สงสัยที่ไอ้ลาเต้มันเล่าให้ผมฟังคงจะเป็นเรื่องจริง

     

    “ปล่อย!” ไอ้ล้านนาที่เหมือนจะพึ่งได้สติพูดเสียงแข็งใส่ผมแล้วสะบัดตัวออกก่อนจะเดินตามไอ้โลกิเข้าไปข้างใน

     

    มันเป็นอะไรของมันวะ!?” ผมหันไปถามไอ้ลาเต้แต่ผลที่ได้คือมันถอนหายใจใส่ผมก่อนจะเดินตามไอ้โลกิเข้าไปข้างในอีกคน

     

    “หยุด กูไม่อยากคุยกับควาย” ไอ้ทานที่เห็นว่าผมเตรียมจะหันไปถามมันๆเลยยกมือขึ้นห้ามประมาณว่าอย่ามาพูดกับมันก่อนที่จะเดินเข้าไปข้างในตึกนั้น

     

    สรุป...ไม่มีใครอยากคุยกับกูสินะ!

     

    เออไม่คุยก็ได้วะ เหี้ยเอ๊ย!

     

    “ไอ้หมามึงว่ากูทำอะไรผิดวะไอ้พวกนั้นมันถึงไม่คุยกับกู =  =” ผมหันไปคุยกับลูกหมาตัวเล็กๆที่ไอ้นามันนั่งเล่นอยู่ก่อนหน้านี้ครับ รู้สึกว่าน่าจะเป็นพันธุ์โกลเด้น รีทรีฟเวอร์


     

     

    “’งื้อๆเฮ้ย!หมาตอบผมด้วยวะ

     

     

    แต่ขอโทษกูฟังมึงไม่ออก เพราะกูไม่ใช่หมาสงสัยผมคงต้องเห่าตอบมันซะแล้วมั้ง!?

     

    อย่าๆๆอย่ามองผมแบบนั้นผมไม่ได้บ้านะผมแค่ล้อเล่น = =;;

     

    เออกูรู้ว่ามึงอยากตอบแต่กูไม่รู้เรื่อง มึงช่วยพูดภาษาคนได้ไหมล่ะ!?” ผมถามมันไปอย่างกวนๆครับเล่นซะมันแยกเขี้ยวใส่ผมใหญ่เลยสงสัยจะฟังออก ฮ่าๆๆๆ

     

    “โด่ ทำไม่ได้แล้วอย่ามาเสือกตอบกูควาย” ผมชี้หน้าด่ามันอย่างคาดโทษ (พระเอกเริ่มบ้า = = :: ไรท์เตอร์)

     

    “มึงสิควายเห็นหมาเป็นควายบ้ารึป่าว!?” ไอ้นาที่มายืนหลังผมตั้งแต่เมื่อไหร่ไม่รู้พูดขึ้นก่อนจะเดินไปอุ้มลูกหมาตัวนั้นขึ้นมากอด

     

    จะว่าไปมันสูงขึ้นรึป่าววะ....

     

    “ปากมึงไปโดนอะไรมา!?” ผมถามมันเมื่อสังเกตุใบหน้าที่สวยหวานจนผู้หญิงบางคนยังอายของมันมีแผลแถมมันยังเป็นคนที่ขาวมากเลยส่งผลให้แผลตรงปากมันยิ่งเด่นเข้าไปอีก

     

    “เรื่องของกูอย่าเสือก” มันเอ่ยเสียงเรียบก่อนจะเดินจากไป ส่วนผมก็ยืนอึ้งสิครับปกติมันเคยด่าผมที่ไหนล่ะ!?

     

    รู้สึกว่าไม่เจอกันนานจะปากดีเกินไปหน่อยแล้วมั้ง.....

     

    Santa  End

     

     

    ______________________________________________

    เปิดเทอมแล้วฟิวแต่งนิยายหายตอมเลย อัพช้ามากแต่อย่าพึ่งเบื่อน้า

    Ps1. เค้าจะเปลี่ยนมาอัพวันอาทิตย์แล้วนะตัว (แต่อาจจะไม่ทุกอาทิตย์นะเพราะงานมันเยอะมาก T^T)




     

    :)  Shalunla
    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    นิยายที่ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×