ตอนที่ 26 : บทที่ 7 | ปลอบประโลม [2]
ชุด จอมใจทะเลทราย มีทั้งหมด 2 เล่มค่ะ อ่านแยกได้ไม่งงค่า
1. นางบำเรอแดนทราย (เจ้าชายแอชตัน x นาวาห์)
2. สุภาพบุรุษแดนทราย (ชีคอาซาดิล x มิถิลา)
ตอนนี้ทางหน้าเพจของ สนพ. ไลต์ ออฟ เลิฟ กำลังเปิดจองอยู่นะคะ
จิ้มที่รูปเพื่อลิงก์ไปยังโพสต์สำหรับจองหนังสือได้เลยค่ะ
หรือถ้าไม่สะดวก จะรอซื้อผ่านหน้าเว็บ สนพ. / Shopee / Lazada ก็ได้นะคะ
สำหรับอีบุ๊ก มีนะคะ จะออกช้ากว่ารูปเล่มราวๆ 1-2 สัปดาห์น้าาาา
“เลือกเฉพาะวิธีที่ไม่เจ็บ ไม่ทรมานดีไหม” อาซาดิลรู้ว่ามิถิลาไม่อาจหักใจที่จะเลือกไม่รับการรักษาใดๆ เลย ไม่มีใครอยากเห็นคนที่รักจากไปโดยที่ไม่ได้ทำอะไรหรอก เขาลองเสนอความคิดเห็นดู ถึงจะไม่ใช่คนในครอบครัว แต่เขาก็รู้ว่าหญิงสาวอยากได้คำปรึกษา
“ลองคุยกับหมอดู ว่าวิธีไหนที่ไม่ทรมาน คุณก็เลือกวิธีนั้น” คนป่วยเองก็จะได้จากไปอย่างสงบ ในขณะที่มิถิลาก็จะไม่ติดค้างเพราะเธอเองก็ได้ยื้อชีวิตน้องสาวเอาไว้เต็มที่แล้วเหมือนกัน
มิถิลาพิงอกกว้างของอาซาดิลอยู่อีกพักหนึ่ง จนกระทั่งแรงสะอื้นเบาลง และน้ำตาเริ่มแห้งเหือด หญิงสาวถึงได้ผละออกจากอ้อมกอดอบอุ่นของเขา
“ฉันจะเซ็นใบนี้แล้วเอาไปให้หมอค่ะ” หญิงสาวพูดอย่างคนที่ตัดสินใจได้ เธอสูดลมหายใจลึก เลือกที่จะเชื่อชีคอาซาดิล ในวาระสุดท้ายของมารตี ถ้าจะต้องยื้อชีวิตน้องสาวของเธอ ก็ขอให้วิธีนั้นเป็นไปอย่างไม่ทรมาน
*
มิถิลาพบว่าตัวเองเป็นคนเจ้าน้ำตา เธอร้องไห้ทุกวัน และร้องมากกว่าครั้งไหนๆ ตอนที่มารตีจากไป
น้องสาวของเธอจากไปอย่างสงบหลังจากวันที่มิถิลาเซ็นใบยินยอมได้ไม่กี่วัน หมอพบเชื้อราขึ้นในปอด มารตีความดันตก และหมดลมไปในที่สุด
มิถิลาอยู่กับน้องสาวจนวินาทีสุดท้าย จับมือผอมแห้งเอาไว้จนกระทั่งมือนั้นเย็นชืด เจ็บปวดจนแทบแหลกสลาย เสียใจยิ่งกว่าครั้งไหนๆ ในชีวิต เธอไม่เหลือใครในครอบครัวอีกแล้ว
เกือบจะคิดว่าเหลือตัวคนเดียว ถ้าชีคอาซาดิลไม่ได้ยืนอยู่เคียงข้างเธอในตอนนี้
“เสร็จจากนี้แล้วก็กลับไปกับผมนะ ถ้าคุณอยากจะพาน้องคุณไปอัลมานฮาฌ์มด้วย ผมจะจัดการให้”
มิถิลายิ่งซาบซึ้งในความใจดีของชีคอาซาดิลมากยิ่งขึ้นไปอีก เขาดีเกินกว่าที่เธอจะจินตนาการ แปลกตรงไหนที่หัวใจจะไหวยวบไปความอบอุ่นที่เขามอบให้เธอ
“มายด์บริจาคร่างกาย อวัยวะ แล้วก็ดวงตาไว้แล้วค่ะ ตั้งแต่ตอนที่รู้ว่าตัวเองป่วย” มิถิลาไม่มีอะไรให้ต้องจัดการ ที่เหลือก็เป็นเรื่องของทางโรงพยาบาล
“งั้นก็กลับบ้านกัน”
คำว่า ‘บ้าน’ ให้ความรู้สึกเหมือนกับสายน้ำชุ่มฉ่ำที่ไหลผ่านหัวใจแห้งผากของมิถิลา หญิงสาวช้อนตาขึ้นสบกับดวงตาสีอำพันลึกล้ำของชีคหนุ่ม มันอ่อนแสงกว่าทุกครา เจือไปด้วยความเป็นห่วง เห็นใจ และปลอบโยน
“อันที่จริงฉันไม่รบกวนคุณแล้วก็ได้นะคะ ส่วนเรื่องค่าจ้างอีกหนึ่งแสนเหรียญฯ ที่คุณยังไม่ได้จ่าย ฉันก็ไม่มีความจำเป็นต้องใช้มันแล้ว คุณจะยกเลิกสัญญาจ้างก็ได้นะคะ”
มิถิลาไม่ได้อยากจะทิ้งงานหรอก แต่เธอมองว่าค่าจ้างที่ชีคอาซาดิลต้องจ่ายให้เธอมันไม่ใช่เงินจำนวนน้อยๆ เนื้องานของเธอก็แทบจะไม่มีอะไรเลย ก่อนหน้านี้ที่ไม่ได้เกรงใจเขาเพราะเธออยากได้เงินมารักษาน้อง ในเมื่อเขาจ่ายไหว เธอจึงไม่ปฏิเสธ
แต่ตอนนี้สถานการณ์เปลี่ยนไปแล้ว มารตีไม่อยู่แล้ว เงินก้อนนั้นต่อให้ได้มา มันก็ไม่ได้มีค่ามากเท่ากับที่มิถิลาต้องการ มันซื้อชีวิตของมารตีไม่ได้
“คุณยังทำงานไม่ครบกำหนดหกเดือนเลยนะ”
“คุณเองก็รู้ดีว่านั่นแทบจะไม่เรียกว่างาน เอาเงินจำนวนเท่านี้ไปจ้างคนอื่นที่มืออาชีพกว่ามาช่วยงานคุณไม่ดีกว่าเหรอคะ”
“ไม่ดี ผมอยากจ้างคุณ” มืออาชีพเขามีเยอะแล้ว อาซาดิลอยากได้มิถิลาต่างหาก
“สงสารฉันหรือไงคะ”
“คุณจะเรียกมันแบบนั้นก็ได้ แต่สำหรับผมมันไม่ใช่ความสงสารเสียทีเดียว”
“แล้วมันคืออะไรคะ”
“ไม่รู้สิ” อาซาดิลไหวไหล่เบาๆ เขาเองก็ไม่แน่ใจนักว่าความรู้สึกที่เกิดขึ้นในตอนนี้มันควรจะเรียกว่าอะไรดี ที่ดูจะใกล้เคียงที่สุด...ก็คงเป็นห่วง “ผมรู้แค่ว่าผมปล่อยคุณไว้คนเดียวไม่ได้ ถ้าคุณไม่อยากกลับไปอัลมานฮาฌ์ม งั้นช่วยบอกทีว่าหลังจากนี้คุณจะเอายังไงต่อ”
อาซาดิลไม่คิดว่ามิถิลาจะพูดว่ากลับไปหาครอบครัวหรืออะไรทำนองนั้น หลายวันที่เขาเห็นเธออยู่ที่โรงพยาบาล เขาไม่เห็นใครอื่นอีก ไม่มีวี่แววของพ่อและแม่ของหญิงสาว แม้แต่ในวันนี้ที่มารตีสิ้นลม ก็ยังไม่เห็นสมาชิกคนไหนในครอบครัวของมิถิลา
ไม่เห็น นั่นอาจแปลได้ว่าไม่มี
“จะเดินสายประกวดนางงามหรือว่าทำอะไร” ชายหนุ่มถามซ้ำเมื่อมิถิลายังไม่ได้ให้คำตอบ
อาซาดิลจำได้ว่าก่อนหน้าที่มิถิลาจะมาทำงานกับเขา หญิงสาวเป็นผู้หนึ่งในผู้สมัครของเวทีนางงามระดับประเทศ อิมลอฮ์หาตัวเธอเจอได้อย่างไรไม่รู้ แต่สุดท้ายมิถิลาก็สละสิทธิ์ในการเข้าแข่งขัน แล้วเลือกงานที่ได้ค่าจ้างสองแสนเหรียญฯ แทน
เธอน่าจะบอกเขาว่าจะเอาเงินไปทำอะไร แค่มิถิลาบอกเขาสักหน่อย หญิงสาวก็จะไม่ต้องรอถึงหกเดือน
ทว่าอาซาดิลก็รู้ดี มิถิลาไม่ได้คนช่างเอาเปรียบแบบนั้น
“ฉันคงจะหางานทำ ฉันพูดได้หลายภาษา คงหางานได้ไม่ยาก” ส่วนเรื่องที่ว่าเธอจะไปอยู่ไหน ก็คงต้องดูอีกทีว่าได้ทำงานที่ไหน
ก่อนหน้านี้มิถิลาไม่ได้มีบ้าน เคยอยู่บ้านพักของรัฐตอนที่แม่ยังไม่ตาย แต่หลังจากนั้นก็ต้องออกมาห้องเช่า ทว่าพอมิถิลารู้ว่าต้องไปทำงานที่อัลมานฮาฌ์มเธอก็ย้ายออกมา เพราะมารตีเองก็ต้องอยู่ที่โรงพยาบาลประหนึ่งว่าที่นั่นเป็นบ้านหลังใหม่อยู่แล้ว
“งั้นก็มาทำงานกับผม”
“แต่ว่า...”
“ไม่มีแต่มิถิลา ผมทิ้งคุณไว้ที่นี่คนเดียวไม่ได้”
____________________________________________________
ฮืออออ ท่านไม่ทิ้งน้อง เอาน้องกลับบ้านไปให้ได้นะคะ น้องไม่เหลือใครแล้ววว
ปล.คอมเม้นต์กันเข้ามาเยอะๆ นะคะ เดี๋ยวแนนมีสุ่มแจกนิยายจากคอมเม้นต์ด้วยค่ะ
ขอฝากผลงานเรื่องก่อนๆ เอาไว้ด้วยนะคะ
นิยายที่ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ

น้องมินต์จะไม่เศร้าอีกต่อไปถ้าได้ไปอยู่กับท่านชีค
ทำตัวน่ารักจริง ๆ ท่านชีคคคคคค
พี่อ่อนโยนต่อใจมากกกก
มันจะรู้สึกอึ้งตลอดเวลาได้ยินข่าว คนไข้อายุน้อยๆ อยู่แต่จากไปด้วยโรคที่ร้ายแรง วิทยากรเราไม่ทันป้องกันโรคภัย
ความสงสารเป็นบ่อเกิดแห่งความรัก
ชีคน่ารักว่ะทิ้งน้องไม่ได้😀
ซีคใจละลาย
สงสาร น้อง