ตอนที่ 7 : ความแค้นแน่นอก 100%
เมื่อลงไปถึงชั้นล่างห้องอาหารนั้นหาได้ไม่ยากเพียงแค่เลี้ยวขวาก็เจอห้องที่เป็นเป้าหมายโดยทันที
หญิงสาวเดินเข้าไปและพบว่าในห้องนั้นกลับมีแต่อีตาบ้านั่นนั่งอยู่ตรงหัวโต๊ะ เขาจ้องมองเธอเขม็งจนหญิงสาวหยุดยืนอยู่ไม่ห่างจากโต๊ะอาหารมากนัก
“เชิญ” เขาร้องบอก กึ่งออกคำสั่งกับเธอเสียงเรียบเย็น แต่ศวิตายังไม่นั่ง เธอขมวดคิ้วมองเขาด้วยสายตาสงสัย
“คุณพีรวัสล่ะ”
หญิงสาวยังถามถึงคนที่อยากเจออีกครั้ง
คราวนี้เธอได้ยินเสียงเขาถอนหายใจยาว ก่อนจะสั่งเธอเสียงเข้ม “ศวิตา นั่งลง”
ไม่พูดเปล่าแต่ยังชี้ไปยังเก้าอี้ทางขวามือของเขา ศวิตาจึงกระแทกตัวลงนั่งตามคำสั่งของอีกฝ่าย
“ฉัน...”
“ผมรู้ว่าคุณอยากเจอผม คุณได้เจอแล้วนี่ ทีนี้กินข้าว ได้หรือยัง”
เขาพูดสวนขึ้นมาทันทีที่เธอนั่งตามคำสั่งทำให้ศวิตาหันขวับมามองเขาตาดุ
“ฉันไม่ได้อยากเจอนาย ฉันอยากเจอคุณพีรวัส ภคนันท์ เจ้าของบ้านหลังนี้!” หญิงสาวย้ำเสียงหนักในตอนท้าย
“งั้นมองหน้าผมให้เต็มๆ ตา” เขาพูดด้วยน้ำเสียงคล้ายกับจะรำคาญนิดๆ ดวงตาเหมือนนัยน์ตาเสือของเขามองเธอราวกับเธอเป็นคนโง่งี่เง่าและปัญญาอ่อนจนหญิงสาวนึกฉุนขึ้นมาอีกรอบ “ผมนี่แหละพีรวัส ภคนันท์”
“...”
“ตัวจริงเสียงจริง!”
“เป็นไปไม่ได้!” หญิงสาวถึงกับเผลอลืมตัวหลุดค้านออกมาเสียงหลง ส่งผลให้นัยน์ตาดุๆ นั้นกราดใส่เธออีกครั้ง
“จะดูบัตรประชาชนหรือเปล่าล่ะ?” เขาถามเหมือนท้าทาย “เมื่อไหร่จะหมดปัญหาเสียที ไหนศิรดาบอกว่าน้องสาวตัวเองอ่อนหวาน เงียบๆ ไม่ค่อยพูดมาก แต่คุณนี่ทั้งหัวดื้อและปากจัด แถมยังออกจะโง่เสียด้วยซ้ำ” เขาพูดพลางมองหน้าเธอด้วยสีหน้าและแววตาเยาะหยัน
“คุณ!”
ศวิตาได้แต่เม้มริมฝีปากแน่น ดวงหน้าสวยแดงจัดด้วยความโกรธเคืองสุดใจ นี่ถ้าไม่เห็นว่าเขาคือว่าที่เจ้าบ่าวในอีกไม่กี่วันข้างหน้าของพี่สาว เธอจะยุให้พี่ปอเลิกกับคนบ้าปากจัดเช่นนี้จริงๆ ด้วย!
“จะกินอาหารได้หรือยัง ผมหิวแล้ว” เขาเอ่ยเสียงเย็นอีกครั้ง
คราวนี้ศวิตาไม่ตอบแต่หยิบช้อนส้อมขึ้นมาแทน พีรวัสเองก็เริ่มต้นรับประทานมื้อเย็นของตนเช่นเดียวกัน
นี่เป็นมื้อเย็นที่ทั้งน่าอึดอัดและน่าโมโหที่สุดเท่าที่เธอเคยประสบมาในชีวิตนี้!
ศวิตาคิดอย่างหงุดหงิดเมื่อแยกตัวออกมาเธอรู้สึกผิดหวังอย่างบอกไม่ถูกที่ศิรดาเลือกผู้ชายแบบนี้มาเป็นพี่เขยของเธอ
ห่าม เถื่อน มารยาททราม! แถมนิสัยก็ผีเข้าผีออก อ้อ! แถมลูกกะตาก็เหมือนตาเสือน่ากลัวจะตายไม่รู้พี่ป่านเห็นดีเห็นงามอะไรในตัวอีตาพีรวัสนี่
แถมยังปากจัด ด่าว่าเธอสารพัด ทั้งที่เขานั่นแหละว่าเธอก่อนทั้งนั้น หญิงสาวได้แต่นึกอย่างเจ็บใจ
ศวิตาขบเคี้ยวฟันเมื่อเดินเข้าห้องพักตัวเองเธอตรงดิ่งไปเปิดโทรศัพท์มือถือที่ปิดเครื่องเอาไว้ ก็พบข้อความทั้งแม่ ทั้งเพื่อนสนิทที่ต่างก็โทร.หาเธอกันจ้าละหวั่น เธอมองข้ามข้อความของแม่ แต่เลือกโทรหาพินทุสรเพื่อนสนิทแทน
รอไม่นานอีกฝ่ายก็รับสาย
“ยัยป่าน” พินทุสรเรียกเธอเสียงแหลมสูงราวกับจะกรี๊ด “นี่แกหายไปไหน รู้ไหมว่าแม่กับยายแกเค้าตามหาตัวแกกันจ้าละหวั่นเลย”
“รู้สิ” เธอตอบสั้นๆ เห็นสายที่ไม่ได้รับของแม่ที่กระหน่ำโทร.หาเธอก็รู้แล้ว “ฉันสบายดี”
“นี่แกอยู่ไหน” พินทุสรถามย้ำ
“ฉันมาธุระน่ะ แต่แกไม่ต้องรู้แหละดีแล้วพิน จะได้ไม่ต้องโกหกแม่กับยายของฉัน”
“อือ” พินทุสรรับอย่างจำยอมเอางั้นก็ได้แต่มิวายต่อรอง “แต่แกต้องติดต่อฉันเรื่อยๆ นะ”
ศวิตาหัวเราะ
“ฉันจะอยู่ที่นี่แค่สองสามวันเท่านั้นแหละ เสร็จธุระก็กลับ ไม่ต้องห่วงหรอก บอกแม่กับยายแค่นี้ก็พอถ้าพวกท่านถามนะ แต่ถ้าไม่ถามก็ไม่ต้องบอกหรอก”
คราวนี้เธอได้ยินเพื่อนสนิทหัวเราะบ้าง “ถือโอกาสบินออกจากกรงทองหรือไง ยัยคุณหนูป่าน”
“แน่นอน” ศวิตาตอบเต็มปากเต็มคำ “นี่เป็นโอกาสที่หาได้ยากจะตาย แต่ไม่นานหรอก ฉันจะบินเข้ากรงเอง” พูดถึงตรงนี้แล้วเธอก็ถอนหายใจยาว รู้ดีว่าอย่างไรเธอก็ไม่อาจสลัด 'กรงทอง' ที่พินทุสรเอ่ยถึงไปได้
“ดูแลตัวเองดีๆ ด้วย” พินทุสรเอ่ยสำทับ เมื่อคลายใจได้บ้างว่าเพื่อนสนิทของเธอปลอดภัย “แล้วโทรหาฉันทุกวันนะ โอเคไหม?”
“ตกลง”
หญิงสาวตอบสั้นๆ แล้วกดวางสาย จัดการกดปิดโทรศัพท์อีกครั้งจึงล้มตัวนอนแผ่บนเตียงนุ่มๆ อย่างสบายอารมณ์
นี่เป็นครั้งแรกที่เธอกล้าเปิดกรงของผู้เป็นมารดาหนีออกมา อากาศของอิสรภาพภายนอกกรงนั้นช่างสดชื่นเสียจนเธอไม่นึกอยากบินกลับไป
แต่เพราะรู้ว่าแม่กับยายมีเพียงแค่เธอเท่านั้น...ศวิตาจึงได้แต่ลิ้มรสชาติของการออกนอกกรอบเพียงไม่กี่วันแล้วก็จะกลับไปเอง
เพราะเธอไม่อยากให้แม่กับยายเสียใจ
พีรวัสไม่ได้ตรงดิ่งเข้าห้องนอนของตนเองแต่ยังคงรั้งตัวอยู่ในห้องทำงาน แม้ตอนนี้จะเป็นเวลาเที่ยงคืนแล้วก็ตาม
ทว่าเขากลับไม่ได้แตะต้องงานเลยแม้แต่น้อยดวงตาของเขาเอาแต่จ้องจดหมายฉบับหนึ่ง...จดหมายที่เขาได้รับเมื่อสามวันก่อนหน้านี้
มือใหญ่กำกระดาษที่ยับยู่จนแน่นอีกครั้งแต่ก็ไม่อาจฉีกมันได้เพราะใจยังไม่เข้มแข็งพอ เขาจ้องมองมันด้วยสายตาโกรธเคือง อีกสามวัน...ไม่สิ สองวันเท่านั้นที่เวลาของเขาจะมาถึง
ความแค้นสุมแน่นในอก...เหลือเพียงแค่รอเวลาระบายเท่านั้น
ศิรดาเลือกตัวแทนได้ดีนัก...น้องสาวของเธอพยศน่าดู
แต่นั่นก็ยิ่งดี...เพราะยิ่งอีกฝ่ายดื้อดึงมากเท่าไหร่ เขา ยิ่งสนุกในเกมแก้แค้นที่จะได้กดเธอให้ลงต่ำมากขึ้นเท่านั้นแล้วศวิตาจะได้รู้ว่า...อย่าได้คิดงัดข้อกับเขาอีกต่อไป
...หากเธออยากให้พี่สาวตนเองปลอดภัยและมีความสุข!
พีรวัสเม้มริมฝีปากแน่น ตวัดตามองภาพในกรอบรูปด้วยสายตาปวดร้าว ก่อนจะเก็บจดหมายลงในลิ้นชักแล้วเดินกระแทกเท้าออกไปจากห้องด้วยความรู้สึกหงุดหงิดและความแค้นที่สุมแน่นในอก!
------------
นิยายที่ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ

115 ความคิดเห็น
-
#108 Catdevil77 (จากตอนที่ 7)วันที่ 16 มีนาคม 2560 / 08:06เข้มข้นมากจริงๆ#1081
-
#108-1 ธีรตี(จากตอนที่ 7)16 มีนาคม 2560 / 22:14เรื่องนี้จะพีคขึ้นเรื่อยๆ เลยค่าาา ฝากติดตามด้วยน้าาา#108-1
-
-
#97 pom (จากตอนที่ 7)วันที่ 7 ตุลาคม 2556 / 15:18รอออออออออออออออออนะคะ#970