ตอนที่ 20 : Chapter 18
-18-
ใครบอกว่าชานยอลตามใจแบคฮยอน ?
ใครบอกว่าปาร์คชานยอลโดนเมียกดขี่ ?
แล้วไอ้การที่แบคฮยอนต้องมานั่งรอมันทำงานกลุ่มแถมโดนจิกหัวใช้ไปซื้อข้าวซื้อขนมให้นี่เรียกว่าอะไร ยังต้องมานั่งโง่ๆในดงวิศวะอีก ไม่รู้จักใครสักคนเลย
“มึง หิวอ่ะ” คนตัวเล็กสะกิดแขนแฟนตัวเองที่กำลังนั่งจดรายงานอยู่ ชานยอลเพียงแค่งึมงำในลำคอพยักหน้ารับรู้แล้วหันหลังกลับไปทำงานต่อ เพราะว่าใกล้จะเป็นช่วงไฟนอลแล้ว ร่างสูงจึงต้องรีบเคลียร์งานให้เสร็จเพื่อที่จะได้ไม่ไปหนักช่วงใกล้ปิดเทอม
“ชานยอล กูหิววววว”
“ไหนๆก็ปีสามแล้ว ให้กูได้เกรดดีๆไปฝากพ่อแทนที่จะโดนด่าเถอะนะเมียนะ....” ชานยอลพูดกับแบคฮยอนเบาๆ เขารู้ว่าแบคฮยอนหิว แต่มันก็มีความอดทนมากพอที่จะรอเขาแหละน่า
“งั้นเดี๋ยวไปซื้อขนมตรงนี้ก่อนนะ” แบคฮยอนยืนขึ้น ชี้ไปที่มินิมาร์ทของคณะวิศวะที่ยังมีคนพลุกพล่านอยู่ จริงๆวันนี้แบคฮยอนมีเรียนครึ่งวัน ชานยอลก็มีเรียนแค่ครึ่งวัน แต่ว่าต้องอยู่ตอนบ่ายด้วยเพราะทำงาน
จนตอนนี้ห้าโมงเย็นแล้ว งานของชานยอลก็ยังไม่มีวี่แววว่าจะเสร็จง่ายๆ แบคฮยอนทนหิวไม่ไหวเลยไปซื้อข้าวที่โรงอาหารมากิน ถามว่ากินหมดไหม ก็ไม่หมดอ่ะ ไม่รู้ว่าป้าให้เยอะหรือแบคฮยอนกินน้อยเอง
“หิวว่ะ กินมั่ง” ชานยอลนั่งพิงหลังของคนตัวเล็กเอาไว้ เห็นแบคฮยอนกำลังนั่งกินข้าวก็เกิดอาการอยากกินบ้าง ร่างสูงเอาคางเกยไหล่เล็ก อ้าปากรับข้าวที่คนตัวเล็กกำลังป้อนให้
“เหงื่อมึงเยอะมากอ่ะ ดูดิ” แบคฮยอนใช้หลังมือปาดเหงื่อที่ซึมออกมาจากหน้าผากของอีกคนเบาๆ ตอนนี้ชานยอลคงเหนื่อยน่าดู จากสภาพนี่คิดว่าหอมันต้องหนีไปนอนแล้วไม่อาบน้ำแน่ๆ
คริสนั่งเบ้ปากให้กับภาพตรงหน้า อะไรอ่ะ มานั่งป้อนข้าวอะไรกันตรงนี้ อีชานยอลไม่มีมือหรอ หรืออะไร พิการ เป็นง่อย อ่อยเมีย ?
ไหนๆก็เจอกันละมาอัปเดตสถานะหัวใจกูหน่อยนะครับ ตอนนี้ก็เรื่อยๆอ่ะ กูยังตามจีบน้องอี้ชิงเคมีอยู่ ถึงแม้ว่าน้องเขาจะด่ากูแทบไม่เห็นหัวเลยก็เถอะ แต่แม่บอกว่าผู้หญิงด่าแปลว่าผู้หญิงรัก แต่น้องอี้ชิงไม่ใช่ผู้หญิง แสดงว่าน้องต้องรักกูมากแน่ๆ
เห็นพี่กากแบบนี้พี่บอกเลยนะว่าพี่จริงจัง คิดจะกินเด็กใจต้องนิ่ง หน้าต้องเนี๊ยบ บุคลิกต้องเป๊ะ กูต้องคีพลุคเป็นพี่คริสคนหล่อของโลกใบนี้ ต่อให้น้องอี้ชิงเอาเมียมาเย้ยกูก็ไม่หวั่นครับ กูจะเอาน้องเขาทำเมีย เรื่องแค่นี้ไม่ระคายหรอก
เอ้าแล้วกูมานั่งดราม่าทำไมอ่ะ ในบทนี่ต้องหมั่นไส้ไอ้ชานยอลนี่หว่า โอเคงั้นกูขอโทษ เดี๋ยวกูจะอธิบายภาพให้ฟังนะครับ แบคฮยอนกำลังนั่งป้อนข้าวไอ้ชานยอลที่นั่งเขียนรายงานอยู่ อีกมือนึงก็ปาดเหงื่อกันเข้าไป อ้วกมั้ย กูอ้วกได้มั้ยครับ
“ไอ้อู๋ มองเหี้ยไรนักหนา” จนกระทั่งปากกาถูกขว้างมากระแทกกับฟันหน้าเต็มๆนั่นแหละคริสถึงได้หยุดพร่ำเพ้อ ชานยอลรวบกองเอกสารทั้งหมดที่ทำเสร็จแล้วยื่นให้เพื่อนตัวเอง ก่อนจะชิ่งกลับบ้านทันที
แบคฮยอนปล่อยให้ชานยอลไปอาบน้ำหลังจากจัดการตัวเองเสร็จแล้ว ตอนนี้ก็เดินเก็บของเล่นที่พุงพุงเล่นไว้ ช่วงเวลาที่เขาไม่อยู่ แบคฮยอนจะฝากพุงพุงไว้กับคนข้างห้อง หรือไม่ก็ป้าแม่บ้านประจำหอ แต่ถ้าเรียนแค่ครึ่งวันก็จะเทอาหารทิ้งไว้ แล้วพุงพุงก็จะมากินเอง
คนตัวเล็กเดินไปค้นในชั้นวางหนังสือของตัวเองเพื่อหารายงานที่จะต้องส่งอาจารย์ในสองวันข้างหน้านี้ แบคฮยอนขมวดคิ้วแน่นเมื่อไม่เห็นปึกกระดาษที่ตัวเองนั่งแปลมาทั้งคืน จนแล้วจนรอดก็ไม่มีวี่แววของคะแนนเก็บของเขา ริมฝีปากบางเม้มเข้าหากันแน่น วันนี้แบคฮยอนไม่ได้เอามันออกมาเลยนะ แล้วจะหายไปได้ยังไง แถมเขาเอาไปให้อาจารย์ตรวจดูคร่าวๆแล้วด้วย เหลือแค่จัดรูปเล่มก็ส่งได้แล้ว ไม่ตลกเลยนะ !
หรือจะอยู่ในกระเป๋า ?
แบคฮยอนวิ่งไปหยิบกระเป๋าเป้ของตัวเองที่วางไว้บนโซฟา รูดซิปเพื่อหางาน แต่ทันทีที่ศิปถูกเปิดออกกลิ่นคาวๆของน้ำมันก็ฟุ้งขึ้นมา ร่างบางเม้มปากก่อนจะกลั้นใจเปิดมันออกกว้าง เผยให้เห็นปึกรายงานของตัวเองที่ถูกราดด้วยน้ำมันเติมรถยนต์จนเละไม่เหลือชิ้นดี กระดาษที่มีตัวอักษรภาษาเกาหลีและฝรั่งเศสเกือบห้าสิบหน้าที่เขานั่งหลังขดหลังแข็งแปลมันเกือบทั้งคืนกำลังจะถูกทำลายจากคนโรคจิตที่ไม่รู้ว่าเป็นใคร...
คนคนนั้นสนุกหรอ....
มีความสุขหรอที่กำลังจะทำให้แบคฮยอนไม่มีงานส่ง ตลกมากหรอ...
ชานยอลเดินออกมาจากห้องน้ำ ร่างสูงใส่กางเกงขายาวตัวเดียวเหมือนทุกครั้ง ยืนเช็ดผมอยู่หน้ากระจก สายตาก็มองแบคฮยอนที่นั่งนิ่งอยู่กับพื้นด้วยเงาสะท้อน
“แบคฮยอน ทำไรอ่ะ” เจ้าของชื่อสะดุ้งสุดตัว มองหน้าชานยอลอย่างชั่งใจว่าจะบอกดีหรือเปล่า เพราะแค่นี้ชานยอลก็เหนื่อยกับงานมากพอแล้ว แบคฮยอนไม่อยากให้อีกคนต้องมาเครียดเรื่องของตัวเอง ถึงแม้ว่าตอนนี้จะรู้สึกว่าแก้ปัญหานี้ไม่ได้ก็เถอะ ในเมื่อมันมีเวลาเหลืออีกแค่สองวันนี่ ทั้งๆที่เขานั่งทำรายงานฉบับนี้เกือบสองอาทิตย์
“คือ....” คนตัวเล็กกัดปากลังเล แต่การที่โดนแกล้งแบบนี้แสดงว่าต้องไม่ใช่เรื่องที่ดีแน่ๆ แถมคนทำยังอยากให้เขารู้ตัวอีก
“เป็นอะไร บอกกูดิ มัวแต่ลังเล”
“.........”
“ปัญหาของมึงมันเป็นเรื่องใหญ่ของกูนะแบคฮยอน” ทันทีที่ชานยอลพูดจบ แบคฮยอนก็เดินไปกอดอีกคนจากทางด้านหลังทันที เนื้อตัวที่เต็มไปด้วยหยาดน้ำของชานยอลกลับไม่ได้ทำให้รู้สึกหนาวเลยสักนิด คนตัวเล็กซุกหน้าลงกับแผ่นหลังกว้าง ชานยอลหันเสี้ยวหน้ามามองคนตัวเล็กที่เอาแต่ส่ายหัวอยู่กับแผ่นหลังของตัวเอง กลุ่มผมสีชมพูส่ายยุกยิก ปลายจมูกก็ไถกับแผ่นหลังหนา แบคฮยอนเงียบ จนชานยอลทนไม่ไหวพลิกตัวหันมามองคนตัวเล็กที่กำลังก้มหน้าหลบอยู่
ชานยอลดันแบคฮยอนให้นั่งลงบนเตียงด้วยกัน ดวงตากลมโตจ้องใบหน้าหวานนิ่งๆ มือหนาเอื้อมมือไปทาบกับแก้มใส เชยคางขึ้นมาให้จ้องหน้ากันชัดๆ
“ชานยอล....”
“ครับ ?”
“ขะ..ขอกอดหน่อย...” แบคฮยอนพูดตะกุกตะกักก่อนจะโดนชานยอลดึงไปกอดแน่น คนตัวเล็กกอดลำคอแกร่งพร้อมกับปล่อยน้ำตาออกมาทันที ตอนนี้แบคฮยอนกำลังรู้สึกว่าตัวเองอ่อนแอ รู้สึกว่าตัวเองกำลังต้องการที่พึ่ง ซึ่งตอนนี้ชานยอลกำลังทำหน้าที่นั้น....ทำได้ดีเชียวล่ะ
“เป็นอะไร ร้องไห้ทำไม บอกนี่หน่อยนะ”
“ฮึก....”
“นะครับ...” น้ำเสียงทุ้มข้างหูและสัมผัสรอบเอวทำเอาแบคฮยอนร้องไห้หนักกว่าเดิม วันที่เขากำลังรู้สึกแย่กลับมีคนคนนี้อยู่ด้วยกัน ชานยอลไม่เคยทิ้งแบคฮยอนไปไหน ไม่ว่าจะเกิดอะไรขึ้น แบคฮยอนเชื่ออย่างนั้น
“ฮึก ชานยอล..งาน...งานเค้า..ใครทำ..กะ..ก็ไม่รู้ ฮือ”
“ใครทำอะไร ไหนบอกนี่ก่อนเร็ว” คนตัวเล็กส่ายหัวไปมา นิ้วเรียวชี้ไปที่กองรายงานของตัวเองบนพื้นเป็นเชิงบอกว่านั่นคือสาเหตุที่ทำให้เขาร้องไห้ แบคฮยอนบอกเลยว่าเขาไม่เคยรู้สึกเฟลอะไรมากมายขนาดนี้ในชีวิต การแปลภาษาที่ไม่ใช่ภาษาแม่ของตัวเองมันยากมากนะ ทำไมล่ะ..ทำไมแบคฮยอนต้องโดนอะไรแบบนี้ด้วย
ตอนนี้การหาตัวคนทำคงไม่สำคัญเท่ากับหาวิธีที่จะทำให้ตัวเองมีงานส่งภายในสองวันนี้หรอก มหาลัยไม่ใช่มัธยม ไม่มีการยืดหยุ่นเวลาให้ทั้งนั้น ตราบใดที่อาจารย์ยังเป็นคนกำหนดชะตาชีวิตในการเรียนแบบนี้ นักศึกษาแทบจะไม่มีสิทธิ์พูดอะไรเลยด้วยซ้ำ เพราะหน้าที่ของเขาคือเรียนและทำงานส่งเท่านั้น
แบคฮยอนเครียดจนไม่รู้จะหาทางออกยังไง อย่างน้อยน้ำตาก็เป็นสิ่งที่สามารถระบายออกมาได้ ถึงแม้ว่าจะช่วยได้ไม่มากแต่ก็ยังดีกว่านั่งฟุ้งซ่านคิดมากไปเอง
“ชานยอล ทำไมเรื่องแบบนี้ต้องมาเกิดกับกูด้วยวะ ทำไมวะ ฮือออ” มือเรียวกำมือหนาแน่น หัวของแบคฮยอนโดนมือของชานยอลกดลงกับซอกคอแล้วปล่อยให้น้ำตาไหลออกมาอย่างห้ามไม่อยู่
ที่ชานยอลเงียบก็เพราะว่ากำลังจะหาวิธีที่จะทำให้แบคฮยอนจัดการกับปัญหาอยู่ อย่างแรกเลยคือการไปคุยกับอาจารย์ ต้องถ่ายรูปเป็นหลักฐานให้อาจารย์เชื่อว่าแบคฮยอนไม่ได้พูดโกหก และปัญหาต่อไปคือใครเป็นคนทำ....
คนไม่ชอบแบคฮยอนเยอะ ข้อนี้ชานยอลรู้ แต่การที่จะมาทำแบบนี้มันไม่ดูขี้แพ้ไปหน่อยหรอ เกลียดมากถึงกับต้องทำลายอนาคตของคนคนนึงขนาดนี้เลยรึไง ตั้งแต่เรื่องมินอาชานยอลก็เห็นว่าแบคฮยอนก็ไม่ไปยุ่งกับใครแล้ว อาจจะแค่สายตาที่มอง อันที่จริงแบคฮยอนเป็นคนที่หน้าตาหาเรื่อง แต่แค่มองคนอื่นก็คิดกันไปเองแล้ว ทั้งที่คนตัวเล็กในอ้อมกอดเขายังไม่ทันที่จะทำอะไรเลยด้วยซ้ำ
ภายนอกแบคฮยอนอาจจะดูแรงเพราะสายตาและการแต่งหน้า แต่นั่นมันก็แค่ภาพในสายตาคนอื่น แบคฮยอนไม่เคยหาเรื่องใครด้วยซ้ำ แต่ก็นั่นแหละ ไม่มีใครเห็นมุมอ่อนแอของแบคฮยอนกันซักเท่าไหร่หรอก
เขาบอกว่าคนตลกเป็นคนที่ร้องไห้น่าสงสาร....
แบคฮยอนก็ไม่ได้เป็นคนตลกมากมายอะไรขนาดนั้น แต่ทำไมเวลาร้องไห้มันกลับน่าสงสารจนคนมองอย่างชานยอลใจแทบขาดเลยนะ.....
ยิ่งคิดยิ่งโกรธ ชานยอลยอมรับว่าแบคฮยอนไม่ได้เป็นนางฟ้าหรือดีมากมายขนาดนั้น แต่สิ่งที่เขากล้าการันตีเลยคือแบคฮยอนไม่เคยหาเรื่องใคร แบคฮยอนก็แค่คนคนนึงที่หน้าตาเหวี่ยงทุกอย่างบนโลกใบนี้เท่านั้นเอง
“แล้วจะทำ..ฮึก...ทำทันมั้ยชานยอล ฮือ” คนในอ้อมกอดสั่นขึ้นมาอีกรอบ ชานยอลตัดสินใจแล้วว่าพรุ่งนี้เขาจะเป็นคนไปหาอาจารย์ของแบคฮยอนเอง ถ้าลำพังให้ไปเองคนตัวเล็กไม่ยอมแน่ๆ
“เดี๋ยวพรุ่งนี้นี่จะไปหาอาจารย์ของแบคนะ ไปบอกเขา โอเคมั้ย”
“ตะ..แต่อาจารย์จะฟังหรอ”
“ฟังสิ” ถ้าไม่ฟังชานยอลก็แค่ใช้สายตาด่าเท่านั้นแหละ....
“เครียด เครียดไปหมดเลยชานยอล ฮึก..”
“ไม่เครียดสิ ไม่มีปัญหาไหนไม่มีทางแก้หรอกน่า”
ชานยอลกอดปลอบคนตัวเล็กเบาๆ ริมฝีปากอิ่มจูบลงที่เปลือกตาแดงช้ำที่เกิดจากการร้องไห้ กดจูบซับน้ำตาทั่วใบหน้าหวาน แบคฮยอนเริ่มเงียบแล้ว คาดว่าน่าจะเพราะเหนื่อยและง่วงด้วย เลยไม่ได้งอแงเท่าไหร่
“นอนได้แล้ว เดี๋ยวพรุ่งนี้จะไปบอกอาจารย์ให้”
“แต่ว่า....”
“ไม่มีแต่ครับ แบคฮยอนต้องนอนได้แล้ว เดี๋ยวพรุ่งนี้ไม่มีแรงไปขออาจารย์นะ” ชานยอลค่อยๆดันตัวของแบคฮยอนให้นอนราบกับพื้นเตียง ใช้แขนดันหัวตัวเองให้อยู่สูงกว่าคนตัวเล็กเพื่อมองใบหน้าหวานเปื้อนน้ำตา
แบคฮยอนยังไม่หลับ คนตัวเล็กยังลืมตามองหน้าชานยอลจนแทบไม่กระพริบตา ข้อมือเล็กที่พาดเอวสอบกอดรัดแน่น วันนี้ชานยอลเหนื่อยมาทั้งวัน แบคฮยอนรู้ แต่การที่อีกคนมาปลอบเขาที่ร้องไห้เกือบสองชั่วโมงจนใกล้จะสี่ทุ่มนี่เป็นบททดสอบอีกอย่างที่มำให้แบคฮยอนรู้ว่าเขาเลือกคนไม่ผิด
ไม่สิ....แบคฮยอนมีคนที่ดีอยู่แล้ว ชานยอลไม่ใช่ตัวเลือกซักหน่อย
“ทำไมยังไม่นอน ?” สัมผัสอุ่นๆบนแก้มนิ่มที่เกิดจากฝ่ามือของชานยอล แบคฮยอนเผลอไถหน้าตัวเองเข้าหามือของชานยอลเหมือนตอนที่พุงพุงกำลังอ้อน เป็นสาเหตุให้ชานยอลอมยิ้มจนเห็นลักยิ้มที่แก้มชัดเจน
“ยังไม่ง่วงเลย” คราวนี้แบคฮยอนเอื้อมมือของตัวเองไปวางไว้บนแก้มของอีกฝ่ายบ้าง เขาชอบสัมผัสแบบนี้ที่สุด การจับแก้มแบบนี้ทำให้แบคฮยอนรู้สึกว่าชานยอลยังอยู่ใกล้ๆ ตัวอยู่ตลอด
“อ้อนจังเลยว่ะ” ชานยอลก้มหน้าลงมาหาคนที่จับแก้มตัวเองอยู่ ทาบริมฝีปากลงกับเรียวปากบางค้างไว้ ปลายลิ้นเริ่มแทรกเข้าในริมฝีปากหวาน เกี่ยวกระหวัดกับลิ้นเล็กๆของอีกฝ่ายที่ตอบโต้กลับมา
แบคฮยอนหลับตาปล่อยให้ชานยอลเล่นกับริมฝีปากสีแดงสดของตัวเอง ร่างสูงผละออกมาไล่ปลายจมูกทั่วใบหน้าหวาน มาหยุดที่ใบหูขึ้นสีแดง ลมหายใจร้อนเป่ารดหลังหูของคนตัวเล็ก
“นอนได้แล้วครับคนดี...”
หลังจากที่แบคฮยอนหลับไปแล้ว ชานยอลก็ค่อยๆเอื้อมมือไปหยิบโทรศัพท์ของตัวเองกดโทรหาเบอร์คุ้นเคยอย่างหวงจื่อเทา ไอ้เทาเป็นคนเงียบ นิ่งๆแต่ร้ายลึก ไม่งั้นพวกแม่งจะไปล่อลูกคณบดีได้หรอ.....
(โหล)
“ช่วยอะไรหน่อย”
(ว่าไง)
“แบคฮยอนโดนแกล้ง มีคนเอาน้ำมันมาราดงานเมียกูจนเอาไปส่งไม่ได้”
(ให้กูหาตัวคนทำหรอ ?)
“เออ ห้องเลคเชอร์ตึก C ชั้นห้า ห้อง 527 มึงไปหาดูว่าใครอยู่ในห้องนั้นช่วงที่แบคฮยอนวางกระเป๋าไว้”
(มันก็ต้องเป็นช่วงที่เมียมึงไม่อยู่ห้องดิวะ แบคฮยอนได้ไปไหนช่วงพักเบรกหรือเปล่า กูจะได้หาตัวได้ง่ายๆ)
“แบคฮยอนไปซื้อเบียร์ให้กูช่วงเบรก ก็ประมาณเกือบบ่ายอ่ะ ก่อนที่จะขึ้นไปเอากระเป๋าลงมาจากตึก”
(เออ เดี๋ยวกูให้จุนมยอนเปิดกล้องให้ดู)
“ถ้ารู้แล้วว่าเป็นใครก็เอามันมาหากูที่คณะเรา”
(.......)
“ถามมันด้วยว่าจะโดนต่อยหรือจะโดนตีน กูจะได้เลือกให้”
(นี่มึงจะเอาจริงใช่มั้ย)
“แหง โดนส้นตีนกูฟาดให้ปากแตกซักทีคงไม่เป็นไรหรอก”
(.........)
“สะเหล่อมายุ่งกับเมียกูเอง”
COMMENT & HASHTAG
#ฟิคเสี้ยนชบ
TALK
เมนเทอร์แบคฮยอนคะ ดิฉันว่าคุณควรจะออกจากรายการแล้วไปอ้อนผัวอยู่บ้านเฉยๆค่ะ สวัสดี
#ขัมมมมมมมมมมมมมม
นิยายที่ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ

พี่แม่งรักแบคขนาดนี้ ดีทั้งต่อหน้าและลับหลัง
โอ้ยยยยยยย อยากได้ หาได้ที่ไหน