ตอนที่ 21 : Chapter 19
-19-
ภาพในแผ่นกระดาษที่จื่อเทาเอามาให้ดูทำเอาชานยอลถึงกับมือไม้สั่น ไอ้ผู้ชายในภาพมันไม่ใช่คนในมหาลัยนี้ ชานยอลจำเสื้อที่มันใส่ได้ มันคือเด็กช่างม.ตรงข้ามที่เขาเคยไปมีเรื่องด้วย
ถึงแม้ว่าการโดนแกล้งแบบนี้มันอาจจะไม่ใช่เรื่องใหญ่ของใครหลายๆคน แต่ถ้าคนที่โดนแกล้งเป็นแบคฮยอนชานยอลบอกเลยว่ามันคือเรื่องใหญ่มากๆ เขาไม่ได้หวงเมียมากมายหรืออะไรทั้งนั้น เพียงแค่การแกล้งแบบนี้มันก็ไม่ต่างอะไรกับพวกขี้แพ้ที่เก่งในที่ที่มองไม่เห็น
“มึงจำได้ป่ะว่ามันชื่ออะไร” ชานยอลหันไปถามเพื่อนตัวเองที่สุมหัวมองหน้าไอ้คนในภาพ โอเซฮุนส่ายหัวพลางทำหน้าครุ่นคิด ถามว่าคุ้นมั้ยมันก็คุ้น ท่าทางการเดินและรูปร่างมันเหมือนกับใครบางคน เหมือนจนน่าสงสัย....
เดี๋ยวนะ...ถ้าเห็นแววตาของไอ้นี่เซฮุนอาจจะนึกถึงคนที่ทำร้ายลู่หานก็ได้นะ ถ้างั้นขอลองสืบก่อนแล้วกัน ถ้าคนเดียวกันก็ล่อแม่งให้จมส้นตีนตายไปเลย
“จำชื่อพ่อมึงสิ หน้ากูยังเห็นไม่ชัดเลยอีชิบหาย” จงอินหรี่ตามองคนในภาพแทบจะแดกเข้าไปแล้วเพราะภาพมันมัวเหลือเกิน เมียไอ้เทานี่ก็ดีนะ ช่วยให้ใกล้ความจริงนิดนึง
“เห้ยมึง เอาคลิปมาดูดิ๊” เซฮุนวิ่งไปหยิบโทรศัพท์จื่อเทาที่ถ่ายคลิปในกล้องวงจรปิดไว้ สังเกตท่าเดินตรงขาซ้ายที่ดูจะทรงตัวค่อนข้างยากพลางนึกไปถึงเหตุการณ์ที่เขาเพิ่งจะไปบู๊ช่วยลู่หานมา เซฮุนจำได้ว่าเตะช่วงข้อพับขาข้างซ้ายและถีบจนมันไปกระแทกกับอ่างล้างหน้าทั้งช่วงตัว และยิ่งท่าเดินและหุ่นใกล้เคียงกันขนาดนี้ แถมจุดประสงค์ยังจะทำร้ายคนในกลุ่มของแบคฮยอนอีก
“กูว่าแม่งคนเดียวกันว่ะ กูจำได้ว่ากูกระทืบมันข้างซ้าย เน้นตรงเข่าด้วย” เซฮุนวิเคราะห์จากท่าเดินลับๆล่อๆของมัน ยิ่งมองยิ่งเหมือน ในหัวเขาเชื่อไปแล้วว่ามันคือคนเดียวกัน
“แล้วมันจะทำแบบนี้เพื่ออะไรวะ ?”
“กูถึงได้บอกมึงนี่ไงว่ามันเป็นอริเรา แถมวันที่ไปต่อยกันล่าสุดนี่มันเห็นแบคฮยอนด้วย” ชานยอลยกตัวอย่างจากเหตุการณ์ลากเลือดเมื่อเดือนที่แล้ว แบคฮยอนวิ่งมาดึงมือเขาบอกให้พอ แต่หนึ่งในกลุ่มมันเสือกมาปากพล่อยใส่เลยโดนส้นตีนอิมพอร์ทมาจากปาร์คชานยอลเต็มๆ
“แล้วมันจะรู้จักลู่หานได้ยังไงถ้าไม่มีคนบอก แล้วทำไมถึงต้องบอกกับลู่หานว่าไม่ได้เจอกันตั้งนาน ทำไมถึงมาหาลู่หานก่อนล่ะวะ ?” เซฮุนยิงคำถามรัวๆเพื่อเสริมข้อเท็จจริงเข้าไปอีก พวกเขาไม่ใช่นักสืบ เป็นเพียงเด็กวิศวะที่หล่อมากๆก็เท่านั้น ประเด็นหลังเหมือนจะไม่ใช่แต่ช่างมันเหอะ
“แบคฮยอนโดนแกล้งในห้องเลกเชอร์” จื่อเทาที่นั่งเงียบมานานเอ่ยขึ้น
“........”
“ก็ต้องเป็นใครซักคนที่เรียนคลาสเดียวกับแบคฮยอนที่บอกเลขเก้าอี้ของแบคฮยอนให้มันรู้ ? ”
ชานยอลดีดนิ้วเสียงดัง มือหนาเอื้อมไปตบบ่าจื่อเทาแรงๆที่ทำให้ปริศนาแคบลงกว่าเดิม แต่ชานยอลยังไม่ลืมหรอกนะว่าคนที่ไม่ชอบแบคฮยอนน่ะก็มีทั้งที่แสดงตัวและไม่แสดงตัว เขาก็ไม่รู้ว่าทำไมตัวเองถึงได้นึกถึงคิมมินอาคนแรก แต่ความรู้สึกมันบอกมาแบบนี้....
แล้วมินอาจะไปรู้จักไอ้พวกนี้ได้ยังไง ประสาทน่าชานยอล.....
“คิมมินอา....?” โอเซฮุนหลุดคำพูดชื่อของคนที่ชานยอลคิดออกมา เขาก็ไม่รู้ว่าอะไรทำให้ตัวเองคิดแบบนั้น เซฮุนไม่ได้รู้จักกับมินอาเป็นการส่วนตัว แต่ลู่หานล่ะก็ไม่แน่....
“ทำไมกูถึงคิดว่าเป็นมินอาวะ มึงคิดเหมือนกันป่ะ” จงอินสะกิดสีข้างชานยอลเบาๆ ทำไมล่ะ ทำไมถึงต้องเป็นมินอา หรือเพราะหล่อนไม่ถูกกับแบคฮยอนเลยต้องทำแบบนี้
“โทรหาจินฮวานดิ๊”
.........................
“อาจารย์ครับ คืองานที่ผมส่งให้อาจารย์ตรวจทานดูเมื่อวานน่ะครับ....” น้ำเสียงนุ่มเอ่ยขึ้นอย่างกล้าๆกลัวๆ พยายามสบตาอาจารย์วัยกลางคนที่นั่งหน้าตรงมองมาที่ตัวเองด้วยสายตานิ่งๆ
“มีปัญหาอะไรหรอครับคุณนักศึกษาบยอน” อาจารย์มองแบคฮยอนด้วยสายตานิ่งๆทว่ากลับกดดันคู่สนทนาไม่น้อย คนตัวเล็กบอกปัญหาของตัวเองให้กับอาจารย์ประจำวิชา
“คืองานแปลที่อาจารย์ให้ผมไปทำโดนแกล้งจากใครก็ไม่รู้จนเละอ่านไม่ออกเลยครับ ผมพยายามแล้วแต่หมึกมันไหลไปตามน้ำมันหมดเลย”
“น้ำมันงั้นหรอ ? ขอผมดูหน่อยได้มั้ย”
แบคฮยอนรีบกดโทรศัพท์เปิดรูปภาพให้อาจารย์ดู งานที่เสียไปนั้นแบคฮยอนเขียนเองทั้งหมดก่อนจะพิมพ์ลงในโน้ตบุคเป็นรูปเล่ม เพราะฉะนั้นจึงไม่มีไฟล์สำรองหรืออะไรที่สามารถกู้คืนมาได้นอกจากเริ่มใหม่ นั่นกำลังเป็นปัญหาเลยล่ะ....
“อืม ผมให้ส่งแบบร่างที่ใช้ปากกาเขียนวันพรุ่งนี้ถึงจะตรวจเป็นรูปเล่มจริง แต่คุณบอกผมว่าโดนแกล้งใช่มั้ย”
“ครับ ผมขึ้นมาบนตึกก็เห็นชิ้นงานในสภาพนี้แล้ว”
“คุณน่าจะรู้ว่าคะแนนของงานชิ้นนี้ไม่ใช่น้อยๆ ถ้าหากขาดมันไปผมรับรองเลยว่าคุณติดเอฟแน่ๆ”
“............” แบคฮยอนกัดริมฝีปากอย่างประหม่า อาจารย์พูดแบบนี้มันโครตกำกวม นี่เขาไม่เคยรู้สึกว่าการฟังแล้วจับใจความมันยากขนาดนี้จนมาอยู่ในสถานการณ์นี้เอง ถึงแม้จะเรียนภาษาฝรั่งเศสแต่มันไม่ได้ช่วยอะไรเลยในเมื่อตอนโดนด่าก็ยังโดนด่าเป็นภาษาเกาหลีอยู่ดี
“คุณเลทได้จนถึงปลายสัปดาห์นี้ เพราะงานแปลของคุณละเอียดและดีมาก ผมเลยให้เป็นกรณีพิเศษ แต่ต้องส่งภายในห้าวันที่ใกล้จะถึงนี้เท่านั้น” เพราะวันนี้เป็นวันอังคาร แบคฮยอนจึงเหลือเวลาอีกห้าวัน อย่างน้อยมันก็ต่อชีวิตของเขาได้แหละนะ
“ขอบคุณครับอาจารย์” คนตัวเล็กโค้งให้อาจารย์อย่างสุภาพแล้วขอตัวออกมาจากห้องพักอาจารย์ แบคฮยอนถอนหายใจเฮอือกใหญ่เมื่อรู้ว่างานของตัวเองยังมีสิทธิ์กลับมาได้เหมือนเดิม ถึงแม้ว่าจะไม่เต็มร้อยแต่ขอให้ไม่ติดเอฟก็พอแล้ว
ขาเล็กก้าวไปที่ตึกของตัวเอง ระหว่างทางก็ยิ้มรับทุกคำทักทาย แบคฮยอนไม่คิดว่าตัวเองเป็นคนดังหรืออะไรทั้งนั้น เขาเป็นแค่นักศึกษาธรรมดาๆคนนึงที่มีผัวหล่อและโดนชะนีหมั่นไส้ไปเกือบครึ่งมหาลัย ซึ่งแบคฮยอนไม่แคร์
ถ้าต้องแคร์คนทั้งโลกแล้วแบคฮยอนจะไม่ตายหรือไง อะไรที่ปล่อยผ่านได้ก็ปล่อยมันไปเถอะ....
วันนี้เป็นวันที่ดีวันหนึ่งเพราะแบคฮยอนมีโอกาสแก้ตัวสำหรับงานชิ้นไม่ใหญ่แต่มากคะแนน แต่มันจะไม่ดีก็อีตรงที่เขายังไม่รู้ว่าใครเป็นคนทำนี่แหละ นึกถึงแล้วคันไม้คันมือขึ้นมาเลย รู้สึกร่างกายอยากปะทะมาก
Rrrrr~
“ว่า ?”
(แบค มึงมาหากูที่ห้องพักพ่อของจุนมยอนหน่อย)
“เดี๋ยวนะชานยอล ห้องคณบดีเนี่ยนะ มึงคิดอะไรอยู่วะ”
(พ่อจุนมยอนไม่อยู่ แล้วในนี้ก็มีแต่เพื่อนมึงกับเพื่อนกูด้วย รีบๆมา)
ชานยอลตัดสายไปทันทีที่พูดจบ ปล่อยให้แบคฮยอนยืนเคว้งอยู่กลางมหาลัย ก่อนที่จะหันหลังกลับเข้าตึกพักของอาจารย์แล้วเดินขึ้นบันไดเข้าห้องของคณบดีคิมทันที
เพื่อนของชานยอลและเพื่อนของเขาครบองค์ประชุมมากองรวมกันอยู่ที่ห้องพักสุดหรูนี้ จุนมยอนไม่พูดอะไรเพียงแค่เดินมารับและดึงข้อมือของแบคฮยอนให้นั่งลงดูภาพในจอไอแพดเท่านั้น
“นะ..นี่มัน !!” นิ้วเรียวชี้ไปที่ภพเคลื่อนไหวในจอ นั่นมันกระเป๋าของแบคฮยอนที่กำลังถูกใครเอาน้ำมันจากขวดเทลงไป แถมยังใจดีปิดซิปกันกลิ่นออกให้ด้วย เพราะว่าเป็นกระเป๋าหนังมันจึงไม่ซึมออกมาอย่างกระเป๋าผ้าที่หลายคนใช้กัน
“ชานยอล ใครวะไอ้เหี้ย” คนตัวเล็กกระแทกตัวนั่งหว่างขาของชานยอลที่กำลังนั่งเพ่งใบหน้าคนในจออยู่ เอาเถอะ...ถึงแม้ว่าตอนนี้จะซีเรียสยังไงความขี้อ่อยของแบคฮยอนมันก็ยังแผ่ออกมาอยู่ดี
“เด็กม.นู้น แต่มันจะรู้โต๊ะของมึงได้ยังไงถ้าไม่มีคนบอก” คางแหลมเกยหัวของแกฝ่ายไว้เส้นผมนุ่มนิ่มกลิ่นหอมสีชมพูนี้ชานยอลล่ะชอบนักแหละ เหมือนสายไหมเลย
“แล้วใครบอกอ่ะ”
“พวกกูคิดว่าน่าจะเป็นมินอา ตอนนี้จินฮวานกำลังโทรหาอีผีนั่นอยู่” คยองซูพาดพิงถึงมินอา ถึงแม้จะกระดากปากยังไงแต่ความขี้เสือกต้องมาที่หนึ่ง ยิ่งเรื่องของมินอาแล้วคยองซูจะเสือกแล้วกระทืบซ้ำให้อีห่านี่แม่งจมดินเลย
ทันทีที่พูดถึงร่างป้อมๆของคิมจินฮวานก็โผล่มาที่หน้าประตูพอดี เด็กหนุ่มหอบแฮ่กๆเอามือค้ำขอบประตูไว้ ก่อนจะเดินเข้ามาในห้องเพื่อรายงานสถานการณ์
“เฮีย กูว่ามินอาทำว่ะ”
“กูให้มึงไปหามินอา แล้วจะวิ่งมาหากูทำเหี้ยอะไรเนี่ย !” ชานยอลผลักหัวน้องรหัวตัวเองแรงๆแล้วขยี้หัวตัวเองให้กับความโง่เง่าเต่าตุ่นของมัน คือถ้าไม่บอกนี่มึงจะไม่รู้เลยใช่มั้ย นี่ขนาดบอกให้ไปหามินอามันยังสะเออะมาหาเขาอีก โอ๊ยอีเตี้ยจินฮวาน !
“อ้าวหรอ แต่เหนื่อยว่ะขอนั่งแปป” จินฮวานเกาหัวตัวเองเบาๆแล้วทิ้งตัวลงนั่งกับพื้นอย่างหมดอาลัยตายอยากในชีวิต เขาวิ่งมาด้วยความเร็วที่ขาสั้นๆมันจะวิ่งมาได้เพราะรู้ว่าเมียไอ้เฮียโดนแกล้ง ไหงเป็นเขาเองล่ะที่ต้องมานั่งให้ไอ้เฮียและเพื่อนมันรุมด่าประหนึ่งมีคำว่าโง่แปะอยู่กลางหน้าผาก จินฮวานล่ะอยากร้องไห้จริงๆ
จนหายเหนื่อยแล้วจินฮวานถึงได้ลุกขึ้นแล้ววิ่งออกไปทางเดิมเพื่อตามหาพี่สาวนอกไส้ที่ตัวเองเกลียดนักเกลียดหนา เพราะเป็นเวลาเลิกคลาสของคณะอักษรพอดีจึงตามหานังปรสิตนั่นไม่ยาก
จินฮวานเดินไปหามินอาพร้อมกับดึงข้อมือของหล่อนไปที่ที่ไม่ค่อยมีคนพลุกพล่าน โทรศัพท์เครื่องหรูที่ถูกกดโทรออกเบอร์ของชานยอลทิ้งไว้อยู่ในกระเป๋าเสื้อที่ทำให้มินอาคิดว่าจินฮวานไม่ได้ต่อสายหาใคร
“เรื่องแบคฮยอนอ่ะ รู้แล้วนะ” จินฮวานพยายามพูดกับมินอาดีๆเพราะตอนนี้เขากำลังสวมบทเป็นน้องชายที่กำลังช่วยพี่สาวแกล้งคนที่เกลียดอยู่
“ที่มันโดนราดน้ำมันใส่งานอ่ะนะ”
“เออ ฉันก็ว่าจะทำแบบนั้น แต่ใครมาทำก่อน” จินฮวานเริ่มดักเหยื่อลงหลุม มินอาดูเชื่อและสะใจที่เห็นว่าจินฮวานกำลังจะทำลายแบคฮยอนตามที่ตัวเองบอก
“หึ ฉันเองแหละ”
“แกเนี่ยนะ ไม่เชื่ออ่ะ” จินฮวานพูดดักอีก เพื่อให้มินอาบอกกับตัวเองว่าที่แกล้งแบคฮยอนนั้นทำด้วยตัวเองหรือเปล่า
“ฉันไม่กล้าหรอก มีเงินก็จ้างสิยะ” มินอาพูดพร้อมกับยิ้มมุมปากเมื่อนึกถึงผลงานของคนที่ตัวเองจ้างไปราดน้ำมันใส่กระเป๋าของแบคฮยอน
“หืม จ้าง ? จ้างใคร ?”
“คนที่ไม่ถูกกับชานยอลน่ะ เห็นว่าชื่ออะไรนะ...อืม..ลีจงกิน่ะ”
“แกนี่มัน...โง่จริงๆเลยคิมมินอา” จินฮวานยักไหล่ทำท่าจะหันหลังกลับ คำพูดถากถางทำเอาคิมมินอาสีหน้าเปลี่ยน เธอหลุบสายตามองไปที่มือของจินฮวานกำลังถือโทรศัพท์อยู่ ดวงตาที่ถูกแต่งด้วยเครื่องสำอางเบิกกว้าง
“แก..แก...จินฮวาน อีงูพิษ!!!!” นิ้วเรียวที่ถูกไว้เล็บยาวชี้หน้าน้องชายต่างสายเลือดของตัวเอง หญิงสาวตัวสั่นแต่ไม่กล้าทำอะไรเพราะยังไงจินฮวานก็คือผู้ชาย ถึงแม้ร่างของจินฮวานจะพอๆกับเธอก็เถอะ
“อะไรหรอคิมมินอา หืม จะทำอะไรฉันหรอ ?” จินฮวานทำสีหน้ายียวน เขาไม่กลัวหรอกว่าคลิปห่าเหวอะไรนั่นจะถูกปล่อยลงเว็บบอร์ดของโรงเรียน เพราะจินฮวานมีไม้เด็ดกว่านั้น
คลิปของคิมมินอาที่ไปมั่วผู้ชายตั้งเจ็ดแปดคนนั่นไง : )
“อีทรยศ ระวังตัวไว้นะ ระวังตัวไว้ทุกคน ฉันไม่ยอมแน่ๆ”
“โอ้ย รำคาญ”
“..........” มินอาโกรธจนตัวสั่น อ้าปากจะพูดแต่ก็พูดไม่ออก
“โง่แล้วยังปากดี คิมมินอา...นังโง่ หึ”
จินฮวานรีบเดินออกมาจากมุมนั้น ขาสั้นๆวิ่งขึ้นตึกของคณบดี เบอร์ของชานยอลที่ดักฟังเสียงของมินอาอยู่ยังไม่ตัดสาย ทันทีที่มือเล็กเผลักประตูห้อง สีหน้าของรุ่นพี่ต่างก็สะใจไปตามๆกัน ยิ่งแบคฮยอนก็ยิ่งสะใจ
ไม่เห็นต้องทำอะไรเลย มินอามันขุดหลุมฝังตัวเอง โง่ชะมัด
“ชัดมั้ยไอ้เฮีย อีจงอางมันทำจริงๆนั่นแหละ” จินฮวานเดินไปแท็กมือกับชานยอลและกลุ่มรุ่นพี่ หมดหน้าที่ของเขาแล้ว จินฮวานมีหน้าที่แหกหน้ามินอาและหาความจริงเท่านั้น ส่วนเรื่องลีจงกินั่นก็ปล่อยให้พวกเฮียๆเขาทำไป เพราะแค่นี้จินฮวานก็สะใจมากพอแล้ว
คนเด็กที่สุดในห้องขอตัวไปเรียนต่อตอนนี้ชานยอลยังไม่อยากอะไรกับมินอา เพราะในหัวเขามีแต่คำว่าจงกิ....ไอ้จงกิ ไอ้เด็กปากพล่อยคนนั้น
ลีจงกิเด็กกว่าพวกเขาปีนึง แต่ความปากหมาและกร่างนั้นไม่มีใครยอมใครเลยซักคน แถมไอ้คนที่พูดจาลวนลามแบคฮยอนนั้นก็คือมัน แสดงว่าจงกิต้องรู้จักกับมินอา หรืออาจจะมีเป้าหมายเดียวกันคือทำให้พวกเขาโมโหเล่นๆ
“จงกิ...งั้นหรอ” ลู่หานทวนชื่อของคนคนนั้นอีกรอบ ใบหน้าหวานเริ่มเครียด เมื่อนึกถึงอดีต อดีตที่ลู่หานไม่มีวันลืม.....
“จงกิ ชื่อแฟนเก่ามึงนี่” คยองซูเอ่ยทักโดยไม่รู้หน้าอินทร์หน้าพรหม ส่งผลให้โอเซฮุนถึงขั้นนิ่งชะงักร่างสูงสูดลมหายใจเข้าปอดช้าๆก่อนจะค่อยๆถอนหายใจออกมา
“อืม ลีจงกิ..ไอ้เด็กนั่น..ที่ฆ่าหลานกู”
“ฮะ อะไรนะ ฆ่างั้นหรอ ?” จงอินอุทานเสียงดัง เขารู้ว่าจงกิเป็นคนไม่ดีนัก แต่การทำลายชีวิตของคนคนนึงมันไม่มากไปหรอ...
“แฟนเก่า..ที่ฆ่าหลานกูทั้งที่เขาไม่มีโอกาสจะลืมตาดูโลกด้วยซ้ำ แฟนเก่าที่มันฆ่าได้แม้กระทั่งลูกตัวเอง !” ลู่หานเสียงสั่นอย่างห้ามไม่ได้ เรื่องนี้มีแค่แบคฮยอนกับคยองซูที่รู้ เขาไม่อยากให้ใครรู้เพราะไม่อยากให้คนอื่นมองจงกิแย่
ลู่หานยังรักจงกิอยู่....
แต่ตอนนี้เซฮุนกำลังทำให้เขาเปลี่ยนไป....เปลี่ยนไปทุกอย่าง....
“คือ....เล่าให้ฟังหน่อยดิ” เทาเป็นคนออกปากถาม เขาทนความอยากรู้ไม่ไหวแล้วจริงๆ
“ไอ้จงกิน่ะหรอ มันเป็นแฟนเก่าฉัน....ที่ไปมีอะไรกับพี่สาวของฉัน โอเคมันอาจจะดูเหมือนขายพี่สาวที่ฉันพูดแบบนี้แต่นี่คือเรื่องจริง สองคนนั้นคบกันลับหลังฉัน ลู่หานที่เป็นควายก็เอาแต่รักลีจงกิไม่ลืมหูลืมตา ยอมทุกอย่าง แม้แต่ตัวก็ให้เขา...เป็นไง แต่ฉันยังไม่ได้โง่แค่นี้หรอก ฉันรู้ว่าสองคนนี้มีอะไรกัน แล้วพี่สาวฉันท้อง ตอนนั้นเธอเพิ่งจะอายุแค่สิบเก้าเองนะ ฉันก็สิบแปด ”
“.........”
“อืม...ก็นั่นแหละ ลู่ฟาน อ่า...พี่สาวฉันท้องตอนเรียน และจงกิให้ไปเอาเด็กออก อ๋อ..ตอนนั้นจงกิยังไม่เลิกกับฉันนะ งงมั้ย ?”
“ไม่งงอ่ะ เล่าต่อ” จงอินเป็นฝ่ายพูดบ้าง เขาเห็นแววตาเจ็บปวดของลู่หาน รวมถึงน้ำเสียงสั่นๆนั่นด้วย แต่พอมองไปที่เพื่อนเปรตหัวเทาของตัวเองแล้วถึงรู้ ว่าเซฮุนอาการหนักกว่าลู่หาน...มันนิ่งและเอาแต่มองไปที่หน้าต่าง
“ฉันบอกให้ลู่ฟานไปบอก่อแม่ก่อน แต่ลู่ฟานไม่ยอม เลยทะเลาะกันที่หน้ามหาลัยของลู่ฟาน เราเอาแต่ทะเลาะกันจนจงกิที่ตามมาทีหลังเห็น เขาทำเหมือนว่าฉันสำคัญกว่าทั้งที่ตัวเองก็รู้ว่าลู่ฟานท้อง จนทั้งคู่ทะเลาะกันอีก ลู่ฟานโดนผลักออกไปกลางถนน พี่สาวฉันถูกรถชนและแท้งเด็กคนนั้น”
“.........”
“ฉันวิ่งไปดูอาการพี่ที่กลางถนน...แต่จุงกิกลับเดินข้ามร่างของพี่สาวฉันแล้วขึ้นรถไป...”
“หืม ?”
“รถคันที่ชนลู่ฟานนั่นแหละ ฮึก...แฟนใหม่ของจุงกิเป็นคนขับ” ลู่หานแข็งใจเล่าจนจบแต่ก็กลั้นน้ำตาไว้ไม่ได้เมื่อนึกสภาพของลู่ฟาน พี่สาวของเขาร้องไห้เหมือนคนบ้าจนในที่สุดก็หนีออกจากบ้านไป จนตอนนี้....เป็นเวลาสามปีแล้วยังไม่มีใครเจอเธอเลย
เซฮุนนั่งมองภาพตรงหน้าด้วยความรู้สึกที่บอกไม่ถูก เขาจุก...ยิ่งรู้ว่าลู่หานเคยโดนไอ้จุงกิทำแบบนี้แล้วเซฮุนยิ่งโกรธ มือหนาเอื้อมไปรั้งหัวของอีกฝ่ายไว้ ลู่หานยื้อตัวไม่ให้อ่อนตามแรงดึง ใบหน้าหวานจ้องเซฮุนนิ่งก่อนจะเป็นคนที่โผเข้าหาอกอีกฝ่ายเอง
“ขอโทษ..ฮึก..เซฮุนลู่หานขอโทษ ฮือ” ร่างเล็กเอาแต่พูดย้ำๆว่าขอโทษ ขอโทษที่ทำให้เซฮุนมาเสียเวลาและความรู้สึกกับตัวเอง
“ร้องไห้ทำไม ไม่น่ารักเลย” เสียงทุ้มเอ่ยกล่าวพลางลูบหัวอีกฝ่ายช้าๆ เขาอยากจะกอดลู่หานแน่นๆเพื่อให้คนในอ้อมกอดได้ระบายออกมาบ้าง ซักนิดก็ยังดี.....
แบคฮยอนปาดน้ำตาเมื่อได้ฟังเรื่องของลู่หานจบ ใช่ว่าเขาไม่รู้ว่าลู่หานเจออะไรมาบ้าง แต่ฟังกี่รอบก็ห้ามน้ำตาไม่ได้ซักที ในใจก็นึกโกรธจุงกิอยู่ไม่น้อยที่ทำแบบนี้
“แล้วเรื่องของจุงกิมึงจะเอาไงชานยอล” เทาพูดเข้าเรื่อง แค่รู้ว่าไอ้จุงกิเล่นลอบกัดเขาก็โมโหพอตัวอยู่แล้ว ยิ่งมาเห็นความเลวของมันที่ทำกับลู่หานเขายิ่งโกรธ
“เอาแม่งให้ตาย ถ้ามันไม่กราบเท้ากูก็อย่าให้แม่งมีโอกาสไปเสนอหน้าที่ไหนอีก” เสียงทุ้มพูดด้วยอารมณ์โทสะ เขาบอกกับเพื่อนไว้แล้วว่าตัวเองจะเข้าไปคุยกับมันเอง แต่เซฮุนก็ขอร่วมด้วย เพราะฉะนั้นมันเลยเป็นเขาสองคนที่จะเข้าไปเอาเลือดชั่วของไอ้จุงกิออกมาแทน
“เดี๋ยวกูมา” ชานยอลลุกขึ้นยืนพร้อมกับดึงชายเสื้อนิสิตออกมาจากกางเกง พับแขนเสื้อเล็กน้อย บิดคอและข้อมือเพื่อวอร์มร่างกายสักหน่อย ก่อนจะเดินออกมาหน้าห้องคณบดีแล้วลงไปขึ้นรถของตัวเองที่จอดหลังตึกทันที
“ไปไหน” แบคฮยอนวิ่งตามไปนั่งเบาะข้างๆแล้วดึงแขนชานยอลที่กำลังสตาร์ทรถไว้ เขายังไม่อยากให้อีกคนไปไหน แบคฮยอนยังไม่อยากให้ชานยอลเจ็บตัว
“ไปดูหน้าไอ้คนที่ชื่อจุงกิก่อน” ชานยอลไม่ได้สนใจอะไร เขาขับรถออกมาที่หน้ามหาลัยแล้วจอดรอลีจุงกิอยู่ที่หน้ามหาลัยของอีกฝ่าย เปิดกระจกฝั่งตัวเองให้อีกฝ่ายเห็นด้วยว่าเขามาแล้ว
“กูไม่เชื่ออ่ะ เดี๋ยวมึงไปมีเรื่องเจ็บตัวอีก”
“โห่แบคฮยอน กูก็ไม่ได้อยากมีเรื่องขนาดนั้นป่ะ”
“ไม่อยากอะไรล่ะ มึงถกแขนเสื้อแล้วอ่ะ !”
“กูร้อน”
“ไม่ต้องเลย มึงอ่ะไม่ฟังกูเลย...” แบคฮยอนทำน้ำเสียงตัดพ้อ เขายังไม่อยากให้ชานยอลมีเรื่องจริงๆนี่นา
“ฟังดิ ฟังอยู่เนี่ย” ชานยอลใช้มือเสยผมหน้าม้าของอีกคน มองหน้าของแบคฮยอนที่ยังเอาแต่งอแงไม่ให้เขาลงไปคุยกับไอ้เด็กเมื่อวานซืนจุงกิซักที
“แต่มันทำเมียนี่ร้องไห้ ใครมันจะไปยอมล่ะ”
“แต่ว่า........”
“เชื่อใจกันนะครับ....”
TALK
เอารางวัลผัวอวอร์ดไปเลยค่ะปาร์คชานยอล 5555555
รับสมัครบอทแล้วนะคะ ตอนนี้เหลือบอทของชานยอลกับเซฮุนที่ยังเหลืออยู่น้า ~ ใครสนใจดีเอ็มมาหาเราที่ทวิตเตอร์ @hqwax_ นะคะ เริ้ปปปป
นิยายที่ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ

ปบอกเลยว่าเเพ้คำว่า "นี่" ของชานยอลมากอ่ะเขิลเว้ยยย
เคเข้าเรื่อง จุงกิทำไมเป็นคนงี้
ไปเอาเลือดหัวมันออก ไปปปปปปปปปปป