ตอนที่ 7 : 'Forget me not [ Sanada x Yukimura ]
Forget me not
Pairing : Sanada x Yukimura
เม็ดฝนที่ทิ้งตัวลงมาจากฟ้ากว้างนั้นเรียกให้ร่างเพรียวที่เดินเอื่อยเฉื่อยอยู่ถึงกับต้องเร่งหาที่หลบ ทว่าไม่นานนักขาทั้งสองข้างก็หยุดชะงักเมื่อนึกขึ้นได้ว่าไม่จำเป็น
...ฝนแค่นี้...ทำอะไรเขาไม่ได้หรอก...
มายืนทำอะไรอยู่ตรงนี้
น้ำเสียงทุ้มต่ำที่ฟังดูหนักแน่นนั้นคุ้นหูอย่างน่าประหลาด คนที่บังเอิญวิ่งมาหลบฝนบริเวณนี้ถึงกับพูดไม่ออก
ดวงตาคู่งามกระพริบสองสามครั้ง จ้องมองใบหน้าหล่อเหลาตรงหน้าด้วยความรู้สึกที่ตัวเองก็ยังบรรยายไม่ถูก
ปวดลึกอยู่ในอก...อย่างที่หาคำตอบไม่ได้
นี่... บ้านของคุณเหรอ
ร่างเพรียวตัดสินใจเริ่มต้นประโยคสนทนาด้วยคำถาม ริมฝีปากเรียวบางที่ซีดเผือดอย่างที่คนมองเข้าใจว่าเป็นเพราะอากาศหนาวนั้นคลี่ยิ้มจางๆ ดูเปราะบางทว่าก็แฝงความรู้สึกท้าทายเอาไว้ให้คาใจ
ถ้าใช่แล้วจะทำไม คนตัวสูงเลิกคิ้ว มือหนากระชับสูทราคาแพงที่สวมอยู่เล็กน้อย ถ้าไม่มีธุระก็ถอยออกไปซะ ฉันต้องเข้าบ้าน
เดี๋ยวก่อนสิ
คนแปลกหน้าร้องเสียงหลงทันทีเมื่อรับรู้ว่ากำลังถูกเมินอย่างสิ้นเชิง ดวงหน้าสวยนั้นฉายแววแง่งอนที่ทำให้คนที่กำลังจะก้าวขาเข้าบ้านต้องเปลี่ยนใจหยุด ยอมให้ละอองฝนที่เล็ดลอดผ่านหลังคาส่วนที่ยื่นออกมาเล็กน้อยตรงบริเวณหน้าบ้านถูกตัว
เจ้าของบ้านขมวดคิ้วเมื่อแลเห็นมือเรียวทำท่าจะเอื้อมมาจับแขนของเขา ทว่าก็เพียงแต่ชะงักแล้วถอยห่างพร้อมเบี่ยงนัยน์ตาหลบ
คุณน่ะ... ซานาดะใช่มั้ย?
สิ้นเสียงพึมพำนั้น คนฟังก็ได้แต่ตีหน้าเคร่ง
ถ้าใช่แล้วจะทำไม
นี่ อะไรกันเล่า... เสียงหวานตัดพ้อ พูดเป็นแต่ประโยคนี้รึไงกัน
ดูคร่าวๆแล้วเธออายุแค่สิบห้าสิบหกเองนี่... มาเดินป้วนเปี้ยนหน้าบ้านคนอื่นดึกๆดื่นๆแบบนี้หวังอะไรอยู่รึเปล่า ดวงตาคมกริบอย่างคนกร้านโลกนั้นฉายแววที่ทำให้คนมองหน้าร้อนผ่าว ก่อนเสียงต่ำจะลากยาวอย่างค่อนขอด หือ?
บ้า!
คนสวยแว้ดใส่เสียงขุ่น นึกขัดใจหน่อยๆกับภาพลักษณ์ของคนตรงหน้า...ทั้งที่เมื่อก่อนก็ดูดุดันจนเพียงแค่ตวัดตาคนมองก็กลัวจับไข้ เดี๋ยวนี้กลับดูน่าเกรงขามมากกว่าเดิมอีกเป็นเท่าตัว ไม่สิ หลายเท่าตัวเลยต่างหาก
ใบหน้าคมเข้มนั้นนิ่งขรึมเหมาะกับสูทสีดำสนิทที่เจ้าตัวสวมอยู่สุดๆ บ่งบอกให้รู้ได้โดยง่ายว่าหน้าที่การงานนั้นไม่ใช่ระดับต่ำต้อย หากแต่ต้องสูงลิบลิ่ว ไหนจะบรรยากาศกดดันที่เหมือนจงใจแผ่ออกมาตลอดเวลานี่อีก
ฉันไม่มีเวลาว่างมากหรอกนะ ต้องการอะไรก็ว่ามา
เสียงทุ้มลึกนั้นเรียกให้คนฟังได้สติ
ขอเข้าไปหลบฝนสักพักได้มั้ย? นะ... ร่างเพรียวยิ้มอ้อน เดี๋ยวฝนหยุดเมื่อไหร่จะกลับทันทีเลย
นี่ก็เปียกไปทั้งตัวแล้วไม่ใช่รึไง ถ่อกลับบ้านทั้งแบบนี้ไปเลยฉันก็ว่าไม่เห็นจะเสียหายตรงไหน
...ก็มันหนาวนี่
เหมือนจะเป็นไม้ตายที่ได้ผลประกอบกับดวงตาคู่งามที่ฉายแววเว้าวอน คนตัวสูงจึงสังเกตอีกฝ่ายอีกครั้งพบว่านอกจากริมฝีปากจะซีดสั่นแล้วเนื้อตัวเองก็ไร้สีเลือดไม่ต่างกัน
ก็คงจะหนาวมากจริงๆ
ก็ได้... เขาเอ่ยอย่างอ่อนใจ ถ้ายังไง... เธอควรจะบอกด้วยว่ารู้ชื่อของฉันมากจากไหน
ร่างบางยิ่มแฝงนัย
ความลับ
ท่าทางแบบนั้นเรียกให้ซานาดะ เก็นอิจิโร่รู้สึกถึงความทรงจำบางอย่างที่พยายามจะย้อนกลับเข้ามาฉายในหัวของเขา ร่างสูงใหญ่ถึงกับชะงักแล้วพยายามนึกทบทวนถึงรอยยิ้มเมื่อครู่จากคนตรงหน้า
เธอ... เหมือนใครบางคนที่ฉันเคยรู้จัก
ดูเหมือนคำว่าเคยนั้นจะทำให้ใบหน้าสวยหมองลงไปเล็กน้อย ทว่าเพียงอึดใจก็กลับมาแย้มยิ้มตามเดิม
ตอนนี้คุณอายุเท่าไหร่? ผมเดาไม่ผิด...คงจะเป็นสามสิบห้า?
มันไม่ใช่เรื่องที่เธอจำเป็นต้องรู้
สามสิบห้าแน่ๆเลย
เธอ... เป็นใครกันแน่?
...หน้าตาและนิสัย...แทบทั้งหมดเหมือนใครคนหนึ่งในห้วงความทรงจำ...
ความทรงจำที่...เกือบลืมไปแล้ว
+++++
ครอบครัวของคุณเหรอ?
ซานาดะพยายามทำเป็นไม่สนใจคนแปลกหน้าที่เขายอมให้เข้ามาในบ้านด้วย อีกฝ่ายไม่สนผ้าขนหนูที่เขาส่งให้ เอาแต่จ้องมองหญิงสาวหน้าตาสวยหมดจดในห้องกับเด็กชายตัวเล็กวัยไม่เกินสิบขวบด้วยสีหน้าที่ร่าเริงจนเกินเหตุ
ผู้หญิงคนนั้นคงเป็นภรรยา ส่วนเด็กคนนั้น... อ๋า ลูกชายสินะ อายุเท่าไหร่แล้วล่ะนี่
ฉันขอย้ำอีกครั้ง... ถ้าใช่แล้วจะทำไม
พูดเป็นแต่ประโยคนี้รึไงนะ
เธอพึ่งขอความช่วยเหลือจากฉันนะ ทำไมพูดจาไม่ระวังปากแบบนี้
ร่างเพรียวเงียบไปเล็กน้อย ก่อนจะหรี่ตาลง ขอหยิกแก้มทีได้มั้ย... หมั่นไส้จัง ทำตัววางอำนาจอยู่ได้
นี่เธอ!! ซานาดะคำรามในคอ ดวงตาขึงมองอย่างเอาเรื่อง แล้วก็เป็นอีกครั้งที่คนวัยสามสิบต้องถอนหายใจออกมาหนักๆเมื่อรู้สึกแพ้ทางรอยยิ้มสองแง่สองง่ามของคนแปลกหน้า
คุณน่ะ... ได้ไปเยี่ยมเพื่อนสมัยม.ต้นบ้างมั้ย
...ว่าไงนะ?
เขาไม่คิดว่าจะได้รับคำถามแบบนี้จากคนที่พึ่งเจอหน้ากัน
คนสวยขยับยิ้มจาง ช่างเถอะ
มันผ่านมาตั้งกี่ปีแล้ว... ร่างสูงใหญ่เบี่ยงสายตาหลบเหมือนเป็นเรื่องเล็กน้อยที่ไม่คิดใส่ใจ หน้าก็ยังจำได้แค่ลางๆ ส่วนชื่อ...ฉันจำไม่ได้
ซานาดะรู้...
ว่ากำลังหลอกใจตัวเอง
และเหมือนเด็กหนุ่มแปลกหน้าเองก็พอรับรู้ได้ เขาจึงผ่อนลมหายใจออกมาเบาๆพร้อมเอ่ยเสียงพร่า
จำไม่ได้... แม้สักคน?
ถ้าเป็นอย่างนั้น... แล้วจะทำไม
ซานาดะกดเสียงต่ำ มองสบตากับอีกฝ่ายนิ่งงัน
ฉัน... ก็ไม่มีอะไรจะพูด ร่างเพรียวไหวไหล่ เบี่ยงตาหลบดื้อๆ จำไม่ได้ก็ไม่เป็นไร มีครอบครัวที่ดีก็ดีแล้ว หน้าที่การงานฉันก็ว่านายไม่ได้ด้อยไปกว่าใครเลย...
นี่...เธอ...
ตาคมเบิกกว้าง
วันไหน...ถ้าเหงาก็ลองไปเล่นเทนนิสดูบ้างสิ เอาเป็นที่ริคไคนะ... ใบหน้าสวยฉายแววสนุกสนาน กัปตันที่ชื่อยูคิมูระ เซอิจิจะต้องดีใจมากแน่ๆเลย
.
.
.
.
.
...เรื่องของเราสองคนมันจบไปนานแล้ว...
...นานพอที่นายจะลืมเลือนช่วงเวลาที่เราผ่านมาด้วยกัน...
...นานพอที่จะมีครอบครัวที่ดี...
...นานมากพอ...ที่จะเปิดใจรัก...ใครคนใหม่อีกครั้ง...
.
.
.
.
.
นายก็รู้ไม่ช้าก็เร็ว... ฉันก็ต้องมีจุดจบ...ไม่สวยแบบนี้
ซานาดะเม้มปาก เขารู้สึกลำคอแห้งผาก มือกร้านกุมมือเรียวที่แสนบอบบางเอาไว้แน่นราวกับว่าหากคลายแรงออกแม้เพียงนิดคนตรงหน้าจะหายไป
รู้...
ทำไมจะไม่รู้...
เวลาของยูคิมูระ... กำลังจะหมดลงแล้ว
ดวงตาคู่งามที่เคยทอประกายกร้าว หวาน อบอุ่น นุ่มนวล...และสารพัดในความทรงจำนั้นบัดนี้ปรือลงอย่างที่ดูอ่อนแรง ทว่านัยน์ตาก็ใสกระจ่างราวกับเจ้าตัวกำลังรำลึกถึงอดีตที่พ้นผ่านมาด้วยกัน
ฉัน...ได้ยิน...
เซอิจิ... พอ...พอได้แล้ว ไม่ต้องพูดอะไรอีกแล้ว
ฮ่ะๆ อ่อนแอจนถึงวินาทีสุดท้ายเลยนะ... ริมฝีปากสีซีดขยับเชื่องช้า แบบนี้ฉันจะวางใจได้ยังไงกัน...ฉันยิ่งเป็นคนรักที่แย่มากอยู่ด้วย... ว้า เรายัง... หยดน้ำอุ่นจัดไหลริน ไม่ได้แม้แต่...จะเดทกันเลยนี่นะ...
เซอิจิ...
พอ...
พอที...
...ได้โปรด หยุด...
อย่างน้อยก็จะคอยเฝ้าดู... สิบปี อืม ไม่สิ... สักยี่สิบปีดีกว่าเนอะ คนสวยคลี่ยิ้มตาปิด ดูอ่อนล้าเสียจนคนมองต้องข่มตาอย่างทนไม่ไหว งั้น... อีกยี่สิบปีเจอกันนะ... ไว้ฉัน...จะไปหา...
ไม่...ไม่นะ... ไม่นะ! เซอิจิ!!
รอ... ลืมไม่ได้...นะ..รู้มั้ย...
มือเรียวบางกระชับตอบสัมผัสเป็นครั้งสุดท้าย รอยยิ้มละไมที่ประดับอยู่ตลอดนั้นค่อยๆจางลง
ดีใจ... ที่ได้เจอนาย
เซอิจิ!!!!
.
.
.
.
.
...อีกยี่สิบปี...ไว้ฉันจะไปหานะ...
รอกันด้วย! ห้ามลืมเด็ดขาดเลยล่ะ
.
.
.
.
.
ซานาดะเบิกตากว้าง มือหนาปล่อยให้ผ้าขนหนูผืนนุ่มที่เตรียมมาสำหรับคนตรงหน้าตกลงพื้น
ก็เป็นซะแบบนี้... เสียงหัวเราะใสดังขึ้นแผ่ว ราวกับจะกระตุ้นให้ย้อนนึกถึงอดีตที่ไม่มีวันย้อนกลับ จะไม่ให้ห่วงได้ยังไง
ยู...ยูคิ...
อะไรกัน นี่นายกลัวผีด้วยเหรอ ซานาดะ
คนสวยหยอกอย่างชอบใจ
แต่ว่านะ... ดวงตาคู่งามหรี่ลงพร้อมรอยยิ้มอ่อนหวาน นี่คงเป็นครั้งสุดท้าย... จะสิบปี ยี่สิบปี ต่อจากนี้ไป...คงต้องให้ผู้หญิงคนนั้น...ภรรยาของนายดูแลแทนฉันแล้วล่ะ
ซานาดะรู้สึกวูบ เหมือนกับกำลังทำผิดอย่างร้ายแรงต่อหัวใจ...
หัวใจที่เคยคิดว่าหล่นหายไปแล้ว
ยังไง... ก็ขอบคุณที่ให้ยืมที่หลบฝนแล้วกัน ถึงฉันจะไม่ได้หนาวอย่างที่พูดไปก็เถอะนะ
คนที่ชอบตีหน้าจริงจัง...แต่ก็หยอกให้เขาแพ้ทางได้ตลอดมา
คนที่อยู่ด้วยแล้วรู้สึกกดดัน...เสมือนว่าถูกรู้เท่าทัน...
ยูคิมูระ เซอิจิ คนที่ทำให้เขารู้สึกแพ้อยู่ตลอดทุกลมหายใจ
...ลาก่อน
มาพร้อมสายฝน...
จากไปพร้อมท้องฟ้าที่กลับมาสว่างไสว
ซานาดะไม่รู้จริงๆว่าเวลานี้ต้องพูดว่าอะไร... จะต้องทำยังไง...
แค่เพียง...
อยากให้ทุกครั้งที่ฝนตก...มีใครบางคนมายืนรออยู่หน้าบ้านอีกครั้ง
ด้วยรอยยิ้มเหมือนวันนี้
+++++
ไม่ได้เขียนอะไรเศร้าๆนาน... รู้สึกหมดมุกไปเยอะเลย T^T
ถ้ามันไม่ซึ้งก็ขออภัยนะคะ (ฮา) พยายามถึงที่สุดแล้ว แบบว่ารีบปั่นสุดๆ เสร็จตั้งแต่เมื่อวานแต่ยังไม่ได้ลง ช่วงนี้ติดเที่ยวค่ะ ไม่ค่อยว่างเลย *0* 555+
ก็...
ใครไม่เข้าใจก็คือยุกกี้ตายไปตั้งนานแล้วค่ะ แต่เธอเคยสัญญาไว้ว่า 20 ปีหลังจากนี้จะกลับมาหาซานาดะอีกครั้ง ทีแรกพอป๋าเก็นเห็นเขาก็จำยุกกี้ไม่ได้ ลองนึกถึงความเป็นจริงนะคะ... ม.ต้นน่ะมันผ่านมานานมากๆแล้ว แถมแต่ละคนก็มีสิ่งอื่นต้องทำ ยากค่ะที่จะจำหน้ากันได้ (ยกตัวอย่างลองนึกถึงเพื่อนสมัยอนุบาลสิ =w=;)
แล้วพอดี... รำคาญฝนมากค่ะ (วันก่อนบ้านไรท์เตอร์ฝนตก) ก็เลยเอามาโยงๆกัน วันเกิดยุกกี้ด้วยก็เลยเขียนให้กับคู่นี้
ก็อ่านแบบงงๆจบแบบมึนๆแล้วกันนะจ๊ะ >O<;;
(เดี๋ยวมาต่อเร็นจิอาคายะให้ค่ะ เอาให้จบ ><)
เม้นด้วยน้า ^^
ปล. รูปทั้งหมดจากปู่เกิ้ลค่ะ (:
นิยายที่ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ

แต่พอจะจบ เศร้ามากเลยค่ะ เจ็บจี๊ดในอก สงสารทั้งคู่
ไม่รู้จะสงสารใคร แต่ตอนนี้สงสารตัวเอง หยุดร้องไห้ไม่ได้แล้วว ฮืออออ
ยูคิมูระ ...
ซาดานะ นี่แกจำไม่ได้เหรอ เดี๋ยวเถอะ
ทำไมเป็นแบบนี้ ป่าปี้อ่ะทำไมต้องไปมีคนใหม่ด้วย!!
ถึงม่ามี้จะขอไว้ก็เหอะแต่รับไม่ได้!!YoY
ป่าปี้ต้องมีม่ามี้คนเดียวถึงจะถูกเซ่!!!
แบบว่า Only you YUKIMURA อ่ะไม่ได้รึไง
ยูคิมูระ~~~~TOTนายไม่น่าตายเลย ออกจะรักกันดีขนาดนี้แท้ๆ
แงๆๆอ่านแล้วน้ำตาจะไหลอ่า~มันซึ้งเกิ๊นเรามันพวกแพ้ความซึ้งนะไรเตอร์
ซานาดะแย่มากเลย นายบังอาจลืมได้ยังไงทียุกกี้เขายังไม่ลืมเลยน้า~~~~
รูปยูคิมูระที่ไรท์เตอร์แปะไว้ตอนจบเหมือนมุคุโร่เลย !
เรื่องนี้เศร้า TT ... แต่กินใจมากเลยค่ะ ปรับอารมณ์ไม่ทัน ฮาาาา
แต่ชอบเรื่องนี้มากๆ เลยนะ ชอบมากๆ ไม่รู้ทำไมแต่พอคิดถึงคู่นี้มันจะนึกถึงสีฟ้าหม่นๆ กับอารมณ์เศร้าๆ ตลอดเลย คงเป็นเพราะคู่นี้ฉากสวีทอยู่แต่ในโรงพยาบาล =_=
ซานาดะ ลืมไปได้ยังไงกัน ! !
เคืองนะคะคุณพ่อออออ ! !
แต่อ่านแล้วก็ให้ความรู้สึกว่าเป็นซานาดะกับยูคิมูระจริงๆ
โดยเฉพาะประโยคที่บอกว่า เพราะเป็นแบบนี้ จะไม่ให้ห่วงได้ยังไง ^_^
นึกหน้ายูคิมูระออกเลยแหละค่ะ
อยากได้คู่นี้แบบแฮปปี้มั่งงงง ! ! (หางานให้ไรท์เตอร์แล้ว วะ5555)
อ่านแล้วร้องไห้เลยอ่ะ
ซานาดะ !!!! บังอาจลืมยุกกี้เรอะ !!!!!
แกลืมยุกกี้ไปได้ยังไงกัล !
ร้องไห้เลย ๆ
แต่งเก่งมากเลยค่ะ T^T
ซานาดะ!! ริอ่านจำไม่เรอะ!!!! เดี๋ยวเถอะ!!!!//เอาพัดกระดาษโบกหัวเเละโดนตบกลับมา
เศร้าอ่ะ ฮือT T
ยุกกี้ ถึงเป้นผีก็น่าร้าก*0*
แต่น้ำตาคลอเลยอ่ะ ฮี่ๆ
ซานาดะคุงเอ๋ย ลืมยูจังซะงั้นอ่ะ
ปล.อยากอ่านคู่ไหนก็ได้ที่อาโตเบะเคะค่า >O<
แต่เครียดตรงที่ซานาดะมีครอบครัวเนี่ยสิ ชีวิตคนมันก็เป็นแบบนี้สิน่า
เขียนเรียวมะนี่ได้หลายคู่ชัวร์ สู้ต่อไปนะคะ
เศร้าโคตร ๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆ
เซจังของฉัน ๆๆๆๆๆๆๆๆๆ
TT นังซานาดะแก ๆๆๆๆๆๆๆ
ลืมได้ยังไง ๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆ