ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    [FIC BTS จบแล้ว] レインコート `raincoat ❥ vga & kookmin .

    ลำดับตอนที่ #2 : レインコート 02

    • เนื้อหาตอนนี้เปิดให้อ่าน
    • 2.8K
      57
      10 พ.ค. 58

    レインコート

    `raincoat

     

     

    02






              ในความลับมีสองสิ่งที่สวนทางกันอยู่ – ไม่อยากให้รู้จึงต้องเก็บไว้ ในขณะเดียวกันนั้นมันช่างน่าอึดอัดที่ต้องเก็บ

     

       พัง...

       นั่นเป็นคำแรกที่แทฮยองนึกออกตอนเห็นรอยยิ้มอย่างผู้ชนะของรุ่นพี่ผิวขาว จนแม้กระทั่งแยกกันไปแล้วก็ดูเหมือนรอยยิ้มนั่นจะติดตรึงอยู่เป็นภาพในสมองของเขาอยู่

       "เฮ้อ..." เด็กหนุ่มถอนหายใจออกมาก่อนจะใช้ชิไนเคาะไปที่เม็งซึ่งวางไว้บนพื้นข้างตัวจองกุก นึกไปถึงตอนที่ยุนกิยื่นเอาของทั้งหมดมาให้เขาไปเก็บที่ห้องพละแทนแล้วก็อัดเคาะไปแรงๆ ที่เกราะสวมศีรษะนั่นอีกทีไม่ได้

       "ค่อยเอาไปเก็บตอนท้ายคาบก็ได้มั้ง" จองกุกเอ่ยขึ้น เขามองแทฮยองที่เอาแต่เคาะชิไนเล่นก่อนจะถอนหายใจตามออกมา โคตรซวย           "ทำไมเฉากันแบบนี้วะ" เป็นกูจุนฮเวที่เอ่ยขึ้นมาก่อนที่แทฮยองกับจองกุกจะสลับกันถอนหายใจกันออกมาอีกครั้ง

       "ว่างมากก็ไปทดสอบเก็บคะแนนซะไป" คิมนัมจุนว่า เขาทิ้งกายลงนั่งกับทั้งสองคนก่อนนี้ จุนฮเวเองก็นั่งลงตามพลางเหยียดขาอย่างสบายอารมณ์

       "สอบกันแล้วหรอ" จองกุกถามพร้อมกับขยับกายลุกขึ้น "ทำไมเร็วจังวะ"

       "เร็วอะไร จะหมดคาบอยู่แล้ว มัวแต่เคาะดาบไม้ไผ่อยู่ได้นะไอ้แท" นัมจุนส่ายหน้าหน่ายๆ เมื่อแทฮยองเบิกตาโตอย่างตกใจ สองคนนี้มัวแต่นั่งหน้าวิตกอยู่ตั้งแต่ต้นคาบจนไม่ได้มองเวลาเลยสินะ

       "มีอะไรหรือเปล่าวะ" จุนฮเวเอ่ยถามหลังจากที่แทฮยองและจองกุกลุกขึ้นเตรียมไปทดสอบ

       "ไม่มีอ่ะ" แทฮยองพูดเพียงเท่านั้นก่อนจะวิ่งไปต่อแถวที่เบาะสำหรับซิทอัพ แล้วเขาก็ถอนหายใจออกมาอีกรอบ

       "อายุสั้นไปเท่าไหร่แล้วเนี่ย" จองกุกยกมือขึ้นตบไหล่เพื่อน "แกสอบก่อนเลย เลยคาบแน่ๆ แบบนี้"

       แทฮยองรับยกนาฬิกาข้อมือขึ้นมาดูแล้วจึงเงยหน้าขึ้นนับจำนวนคนที่ต่อแถวอยู่ด้านหน้า "น่าจะพอไปทัน ขอให้พี่ยุนกิเลิกช้าๆ แล้วกัน"

       ดูเหมือนสิ่งที่แทฮยองคาดหวังจะไม่เป็นจริงนักเมื่อเขาวิ่งออกจากโรงยิมทันทีที่ทดสอบเก็บคะแนนเสร็จมายังตึกวิทยาศาสตร์แล้วพบร่างขาวๆ ยืนกอดอกอยู่ด้วยใบหน้าบึงตึงในบริเวณใต้ถุนตึก เด็กหนุ่มขยี้เส้นผมเปียกฝนของตัวเองก่อนจะค่อยๆ สาวเท้าเข้าไปใกล้ยุนกิที่ตวัดสายตามามองเขาอย่างเอาเรื่อง

       "ชักช้า!!"

       "อาจารย์เก็บคะแนน โทษผมไม่ได้หรอก" แทฮยองเอ่ยเสียงเรียบ ยุนกิสะบัดหน้าหนีไปอีกทางด้วยท่าทางไม่พอใจเป็นอย่างมาก

       ไม่ได้รู้หน้าที่ตัวเองบ้างเลย... คิมแทฮยอง

       แต่หัวเสียอยู่ได้เพียงครู่เดียวยุนกิก็เปลี่ยนเป็นยกยิ้มขึ้น เพิ่งเริ่มแท้ๆ เขาคงจะไม่เอาเรื่องนี้ไปบอกพ่อของแทฮยองในตอนนี้หรอก

       นี่เป็นสาเหตุที่ว่าทำไมทั้งแทฮยองและจองกุกถึงดูหมดอาลัยตายอยากตั้งแต่เริ่มคาบพละที่ปกติทั้งคู่มักจะกระตือรือร้นอยู่ตลอด ย้อนไปราวๆ หนึ่งชั่วโมงก่อนยุนกิเพิ่งบอกให้เขา...เชื่อฟัง

       เออ... เชื่อฟัง

       แทฮยองขมวดคิ้วมองหน้าอีกคนอยู่เป็นพักก่อนที่เขาจะค่อยๆ เข้าใจ จะกดหัวเขาสินะ

       "นายเป็นคนใช้ฉันนะบอกไว้ก่อน" ยุนกิหมุนตัวกลับมาพูดด้วยรอยยิ้มเย้ย แทฮยองกลอกตาไปทางอื่นแต่ก็ไม่ได้เถียงหรือปฏิเสธ เขาจะไปทำอะไรได้ในเมื่อความลับของเขาอยู่ในมือยุนกิ

       "พี่จะให้ผมทำอะไรบ้างละครับ" หันไปถามอีกคนที่ดูอารมณ์ดีจนน่าหมั่นไส้

       "กางร่มให้ฉันสิ ยังไงนายก็ต้องไปโรงฝึกอยู่แล้วนี่"

       "เอาร่มมาสิ ผมไม่มี" แทฮยองตอบกลับทันที ยุนกิทำปากยื่นเล็กน้อยก่อนจะปลดกระเป๋ามาด้านหน้าเพื่อหยิบของ

       "ช่วงฝนตกบ่อยขนาดนี้ยังไม่รู้จักพก" บ่นไปขณะที่ควานหาของในกระเป๋าของตนเองต่อ "อยู่ไหนวะเนี่ย"

       "ผมใช้เสื้อกันฝน"

       "เสื้อกันฝน? อ่ะ นี่ร่ม" เอ่ยด้วยน้ำเสียงฉงนพร้อมกับยื่นร่มพับสีขาวที่เห็นเป็นรอยคราบน้ำฝนอยู่บ้าง แทฮยองรับมาไว้ในมือแล้วจึงหยิบเสื้อกันฝนของตนเองออกมา

       "มันหนัก แล้วบางทีมันก็คลุมกระเป๋าไม่ได้ด้วยน่ะครับ" แทฮยองตอบไป ยุนกิอ้าปากร้องอ๋อออกมา วันไหนฝนตกหนักๆ เขาก็มีปัญหาเวลาลืมย้ายเป้มาด้านหน้า บางทีก็โดนฝนสาดจนหนังสือชื้นบวมไปหมด

       "แต่ร่มมันก็เก็บง่ายกว่า ไม่รู้สิ สำหรับฉันร่มสะดวกกว่า" ยุนกิพึมพำเหมือนพูดกับตัวเอง เขาหันไปมองแทฮยองที่กำลังคลี่เสื้อกันฝนสีใสที่พับไว้ออก "ย๊า นายต้องกางร่มให้ฉันด้วยนะ"

       "เดี๋ยวกางให้ครับ" แทฮยองตอบออกมา ยุนกิทำปากเป็นคำว่าห๊ะแบบไม่มีเสียง เดี๋ยวสิ ใส่เสื้อกันฝน... กางร่ม...

       ประหลาด

       แล้วมันก็ดูประหลาดจริงๆ ด้วย แทฮยองที่เอาเสื้อกันฝนสีใสสวมทับร่างไว้พร้อมกับถือร่มยื่นมาให้ยุนกิที่เดินอยู่ข้างๆ กัน ยื่นแบบยืดแขนมาจนตึง

       "ไม่คิดบ้างหรอว่ามันดูประหลาด" ยุนกิเอ่ยถามขึ้นหลังจากเดินด้วยกันมาสักพัก เขาหมุนศีรษะมองไปรอบๆ ก็พบว่ามีคนในโรงเรียนมองมาด้วยสายตาขบขัน แบบนี้มันเด่นเป็นบ้า

       "หื้ม... ไม่นี่ครับ" แทฮยองหันมาตอบ ยุนกิจิ๊ปากอย่างหงุดหงิดใจ พอตอบเสร็จแทฮยองก็หันหน้าเอียงไปอีกด้านแล้วกางร่มให้ยุนกิต่อไป

       "ย๊า! ไอ้บ้า มาใกล้ๆ เลยนะ" ยุนกิคว้าข้อมือของแทฮยองแล้วดึงให้เข้ามาใกล้ เด็กหนุ่มเซมาเล็กน้อยเพราะไม่ทันได้ตั้งตัว คิ้วเข้มขมวดเล็กน้อยเป็นเชิงติเตียนหากแต่ยุนกิกลับเชิดหน้าใส่ "นายต้องทำตามคำสั่งฉัน อย่าลืมสิ"

       แทฮยองนิ่งไปชั่วครู่กันจะยอมขยับเดินเข้ามาใกล้แต่ก็ยังคงเว้นระยะไว้พอควร

       "ทำไมไม่มาใกล้ๆ เล่า! ฉันไม่กัดนายหรอกน่า"

       "เสื้อกันฝนมันเปียก เดี๋ยวผมโดนพี่" แทฮยองตอบกลับมานิ่งๆ ยุนกิหันไปมองตรงอกเสื้อกันฝนที่มีหยดน้ำเกาะพราวก่อนจะยอมพยักหน้ามาให้เบาๆ เขาเองก็ไม่อยากเปียกหรอก "ให้ผมเดินห่างๆ น่ะดีแล้วครับ จะมาเบียดกันในร่มคันเดียวทำไม"

       พูดจบแทฮยองก็ขยับห่างออกไปแล้วยื่นแขนมากางร่มให้ยุนกิแบบเดิม ยุนกิหันขวับไปมองร่างสูงที่เริ่มเดินออกไป ร่างเล็กจ้ำใจต้องย่ำเท้าไปตามร่มที่แทฮยองเป็นคนถือไปทั้งที่ไม่ค่อยเต็มใจนัก นี่เขาต้องเดินแบบนี้ไปจนถึงโรงฝึกเลยหรือไง

       พอเดินออกมาได้พ้นเขตโรงเรียนความอดทนของมินยุนกิก็หมดลง มือขวาแย่งเอาร่มจากแทฮยองมือไว้เอง เด็กหนุ่มผิวแทนเลิกคิ้วอย่างแปลกใจที่จู่ๆ คนที่สั่งให้เขากลางร่มไว้ก็เป็นฝ่ายมาคว้าไปเสียเอง

       "ไม่เห็นคนมองหรือไง นายใส่เสื้อกันแล้วยื่นแขนมากางร่มให้ฉันเนี่ยนะ โอ๊ย นี่ฉันทำเรื่องน่าอายแบบนั้นไปได้ยังไงกัน" ยุนกิกระทืบเท้าลงกับพื้นถนนที่มีน้ำเจิ่งนองอยู่ แทฮยองขยับถอยหลังหนีน้ำที่กระเด็นไปสองสามก้าว ไม่รู้ทำไมพอเห็นแล้วยุนกิยิ่งหงุดหงิด รองเท้าผ้าใบสีขาวที่เลอะเพราะฝนและพื้นที่เฉอะแฉะเลยกวาดไปตรงแอ่งน้ำโดยจงใจให้โดนขาอีกคนเต็มๆ

       "เฮ้ยพี่" แทฮยองไม่ได้กระโดดหลบแต่เปลี่ยนมาเป็นกดเสียงเข้มๆ ใส่อีกคนแทน ยุนกิแลบลิ้นใส่เขาก่อนจะกำร่มในมือไว้แล้วเดินไปข้างหน้าโดยไม่รออีกคนว่าอะไรเขาอีก

       แทฮยองถอนหายใจอีกรอบ เม็ดฝนตกลงกระทบกับส่วนฮู้ดของเสื้อกันฝนทำให้ได้ยินเสียงเปาะแปะชัดเจน เขามองตามแผ่นหลังของคนถือร่มสีขาวที่ไม่รู้จะโกรธแค้นอะไรเขานักหนา แทฮยองก็แค่เล่นไปตามความสามารถของเขา ที่เขาชนะนี่เป็นความผิดของเขาหรอ?

       แต่ต่อจะให้พูดด้วยเหตุผลยุนกิก็คงไม่ใช่คนที่จะยอมรับกันง่ายๆ เขาพอจะรู้นิสัยของอีกคนจากที่เห็นในโรงฝึกและที่โรงเรียนบ้าง

       ขายาวออกก้าวเดินตามอีกคน ผมตรงส่วนหน้าผากของเขาเปียกฝนจนมีน้ำหยดลงมา ฝนสาดมากระทบที่ใบหน้าแต่เขาก็ไม่ได้เดือดร้อนอะไร แม้ขากางเกงกับรองเท้าจะเลอะเทอะ เสื้อของเขายังคงแห้ง กลางศีรษะก็ไม่ได้เปียก แถมกระเป๋าเป้นักเรียนก็ปลอดภัย คนตรงหน้าเขาต่างหากที่ตัวเปียกชื้นไปหมด

       พอมาถึงโรงฝึกยุนกิก็ทิ้งร่มไว้ด้านหน้าพร้อมกับตะโกนมาบอกให้เขาที่เดินตามหลังมาเก็บให้ด้วย แล้วร่างเล็กหายไปที่ห้องเปลี่ยนเสื้อผ้า แทฮยองเดินไปเก็บร่มคันนั้นขึ้นมาแล้วเอาไปผึ่งไว้ที่ตรงมุมของโรงฝึกรวมกับของอีกหลายๆ คนหลังจากที่เขาถอดเสื้อกันฝนออกมาเรียบร้อย จากนั้นเขาจึงไปเปลี่ยนเสื้อผ้าบ้าง

       เขาเอาเสื้อกันฝนพาดไว้ตรงราวในห้องเปลี่ยนเสื้อผ้ารวม ถึงฝนจะตกแต่วันนี้เขาก็มาถึงโรงฝึกไวมากเพราะไม่ได้แวะไปที่ไหนเลย แทฮยองเข้าไปในเปลี่ยนเสื้อผ้าที่แบ่งเป็นล็อกๆ ไว้ก่อนจะกลับออกมาอีกครั้งในชุดสำหรับซ้อมเคนโด้

       ยุนกิออกมาก่อนหน้าเขาแล้ว คนตัวเล็กกำลังจัดเสื้อให้เข้าที่อยู่หน้ากระจก ริมฝีปากบางกำลังจะขยับพูดอะไรสักอย่างแต่จังหวะนั้นเองเสียงเรียกเข้าจากโทรศัพท์แทฮยองก็ดังขึ้น แทฮยองหยิบมันออกมาจากกระเป๋ากางเกงนักเรียนที่เขาเพิ่งเปลี่ยน พอยกหน้าจอขึ้นมาก็พบว่าเป็นพ่อของเขาเอง

       "โอ๊ะ พ่อนายนี่" ไม่รู้ว่ายุนกิย้ายมายืนข้างเขาแล้วยื่นหน้ามาอ่านที่หน้าจอตั้งแต่เมื่อไหร่ แทฮยองยื้อแขนตัวเองหนีไปอีกทาง "รับสิ"

       ยุนกิเงยหน้าขึ้นจ้องตากับเขา แทฮยองขมวดคิ้วอย่างไม่ค่อยไว้ใจคนตัวเล็กข้างๆ กายนี่เลย

       "ฉันจะยืนนิ่งๆ ปล่อยให้นายพูดแต่นายต้องสัญญามาก่อนว่าวันนี้จะไม่แข่งกับฉัน" ยุนกิย้ายสายตาไปที่โทรศัพท์ในมืออีกด้านของแทฮยอง ร่างสูงเม้มปากแน่นแล้วจึงตอบไป

       "แต่ถ้าอาจารย์สั่ง..."

       "นายจะไม่แข่งกับฉัน" ยุนกิย้ำอีกครั้ง มือขวาคว้าแขนกีข้างที่แทฮยองถือโทรศัพท์อยู่ไว้แน่น ร่างสูงจ้องเข้าไปดวงตาที่ไม่ยอมแพ้ของยุนกิ ยิ่งแววตาของแทฮยองแสดงถึงความไม่พอใจมากเท่าไหร่ แววตาของยุนกิก็ยิ่งดูดื้อดึง

    อะไรกันวะ!!

    "แค่ไม่แข่งมันจะไปยากตรงไหน ถ้าเป็นฉัน พี่ซอกจินไม่ยอมหรอก แต่ถ้านายเป็นคนพูด – ก็แค่ไม่แข่งเองนะ!!"

    น้ำเสียงของร่างเล็กแปร่งไปเล็กน้อยจนแทบจะสังเกตไม่ได้ก่อนที่ใบหน้านั้นจะเชิดขึ้นอย่างอวดเก่งอีกครั้ง แทฮยองสาบานได้ว่าเขาเห็นยุนกิทำหน้าเหมือนคนจะร้องไห้ แม้จะครู่เดียวเท่านั้นก็เถอะ

    "ก็ได้ ผมจะไม่เเข่ง" แทฮยองเอ่ยออกไปก่อนจะดึงแขนกีออกจากมือเล็กแล้วสไลด์หน้าจอเพื่อรับสายจากพ่อ ยุนกิขยับออกไปห่างประมาณครึ่งก้าวแล้วกอดอกฟังแทฮยองคุยโทรศัพท์อย่างถือวิสาสะ "วันนี้ผมคงกลับเย็น"

    ร่างสูงหันหลังให้อีกคนแม้จะรู้ว่าอย่างไรเสียยุนกิก็ยังคงได้ยิน แทฮยองไม่ค่อยชอบการกระทำแบบนี้นักแต่เขาก็เลือกที่จะรีบคุยรีบวาง

    "ครับ... รายงานน่ะครับ แล้วผมจะรีบกลับ" เขาตอบรับปลายสายไปก่อนจะกดวางสายแล้วหมุนตัวกลับไปเผชิญหน้ากับรุ่นพี่ตัวขาว รอยยิ้มเย้ยที่ส่งมาทำเอาเขารู้สึกพลาดที่ยอมตกลง

       "เด็กขี้โกหก" เอ่ยพลางหมุนตัวไปอีกทางเพื่อเดินออกไปจากห้องเปลี่ยนเสื้อผ้า แทฮยองยืนนิ่งอยู่ชั่วครู่ก่อนจะเดินตามออกไป นี่เขาต้องอยู่ในสภาวะแบบนี้ไปอีกนานแค่ไหนกัน

       เขาไม่ได้อยากเป็นแบบนี้เสียหน่อย แต่บางสิ่งบางอย่างช่างควบคุมยากเหลือเกิน สิ่งที่เกี่ยวข้องกับความรู้สึก ความชอบ ชื่นชมหรือหลงใหล แทฮยองแค่อยากจะเล่น อยากพิสูจน์ตัวเอง และก็เพราะความดื้อดึงของตัวเขาเอง สิ่งเหล่านี้ทำให้เขาเป็นเด็กขี้โกหกสินะ

       แต่เขาจะมายอมแพ้ตอนนี้ไม่ได้ อีกเพียงไม่กี่ก้าวเขาก็จะได้เป็นตัวแทนจังหวัดแล้ว

       คนตัวขาวกึ่งเดินกึ่งวิ่งไปหาชายหนุ่มร่างสูงที่ยืนกอดอกดูเด็กวัยไม่น่าเกินมัธยมต้นซ้อมอยู่ แทฮยองเดินไปหยิบชิไนที่เขาฝากไว้ที่โรงฝึกมาแล้วไปยืนพิงกับผนังที่ทำด้วยไม้ไว้เพราะยังไม่ถึงเวลาซ้อม และเพื่อนสนิทอย่างจองกุกก็ยังมาไม่ถึง

       "แทฮยอง" เสียงของซอกจินเอ่ยขึ้นเรียกให้คนที่กำลังคิดเกี่ยวกับเรื่องต่างๆ ของตนเองต้องหันไปมอง ชายไหล่กว้างเดินมาทางเขา ด้านหลังมียุนกิที่เดินตามมาด้วยใบหน้าคว่ำๆ "ไหนๆ ก็มาแล้ว ไปใส่โบกุแล้วมาแข่งกับยุนกิหน่อย"

       เด็กหนุ่มผิวแทนมองไปด้านหลังของคิมซอกจิน ยุนกิยืนทำปากขมุบขมิบส่งมาให้เขา แน่นอนว่าเขาอ่านไม่ออกหรอกแต่ก็พอจะรู้ว่ายุนกิต้องการอะไร

       "ผม..."

       "ก็บอกแล้วว่าวันนี้ผมจะซ้อมกับพี่อ่ะ!" ยุนกิเอ่ยขึ้นมาก่อน แต่คนทำหน้าที่เป็นครูฝึกอย่างซอกจินกลับทำเป็นไม่ได้ยิน การกระทำนี้ยิ่งทำให้ยุนกิที่ยืนอยู่ด้านหลังแทบจะเต้นเป็นเจ้าเข้า

       "ที่นี้ไม่ใช่ที่ที่นายจะมาทำตามใจตัวเองนะ" น้ำเสียงราบเรียบของซอกจินทำให้ยุนกิต้องเม้มปากนิ่ง ชายหนุ่มไม่ได้ระบุว่าพูดกับใคร อาจจะหมายถึงพวกเขาทั้งคู่ แทฮยองกระชับแขนที่กอดดาบไม้ไผ่อยู่แล้วเบนสายตาไปทางคนด้านหลังของซอกจิน ถึงจะดูคิดมากแต่คนคนนั้นก็ยังจะดื้อด้านส่ายหน้ามาให้เขาเป็นเชิงบอกว่ายังไงวันนี้ก็จะไม่แข่งกับเขา

       "ผมทราบครับ" แทฮยองเอ่ยออกมา "แต่ว่าวันนี้ผม..."

       จะพูดว่าอะไรไปดี คิดสิ คิมแทฮยอง... เรื่องแค่นี้เอง

       "ผมขอซ้อมคนเดียวก่อน ขอแก้จุดบกพร่องของตัวเองก่อนน่ะครับ" มันเป็นข้ออ้างที่แทฮยองคิดว่ามันสมเหตุสมผลที่สุดแล้วแม้เขาจะคิดว่าการได้แข่งจะเป็นการพัฒนาฝีมือที่ดีกว่าการซ้อมเองก็เถอะ

       "เอาแบบนั้นหรอ" ซอกจินพยักหน้าตอบรับเบาๆ "งั้นก็ซ้อมไปนะ ส่วนยุนกิ ไปใส่โบกุ อยากซ้อมกับฉันนักก็มาแข่งกันเลย"

       "เฮ้ย พี่จิน ไม่แข่งดิ ผมยังไม่อยากเจ็บตัวนะ" ยุนกิรีบยกมือขึ้นกุมศีรษะตนเองพลางส่ายหน้าไปให้ แต่ซอกจินกลับเดินไปใส่โบกุของตนเองโดยไม่สนใจท่าทางของอีกคน

       "ก็ไม่ต้องแข่งกับผมแล้วไง" แทฮยองว่า ใบหน้าหล่อเหลามีรอยยิ้มขบขันทำเอายุนกิเหวอไปเล็กน้อย

       "ขำไปเถอะ" สุดท้ายแล้วยุนกิก็ต้องวิ่งไปสวมโกบุตามที่ซอกจินสั่งเมื่อรู้ถึงสายตาที่มองมา แทฮยองขยับกายออกมาจากที่พิงผนังอยู่เพื่อเตรียมไปซ้อมเพราะเห็นจองกุกวิ่งกระหืดกระหอบเข้ามาในโรงฝึกพอดี

       "สายหรือเปล่า"

       "ไม่นี่" แทฮยองส่ายหน้า "แต่รีบไปเปลี่ยนเถอะ จะได้มาซ้อม"

       จองกุกพยักหน้ารับแล้วเดินไปเปลี่ยนเสื้อผ้าของตนเอง เด็กหนุ่มยัดเอาร่มพับเปียกๆ ลงถุงพลาสติกใสแล้วเอาใส่กระเป๋าไปเลยโดยไม่ผึ่งให้แห้งก่อน เขาเป็นคนขี้ลืม ช่วงฝนตกบ่อยๆ แบบนี้หากลืมไว้ที่โรงฝึกขึ้นมาเขาต้องลำบากแน่

       แทฮยองซ้อมก้าวและลงดาบคนเดียวไปได้สักพักจองกุกก็ออกมาในชุดกี ฮากาม่าเรียบร้อย

       "ซ้อมกะ " จองกุกเอ่ยออกมาได้เท่านั้นเขาก็ต้องหยุดคำพูดไปเสียก่อนเมื่อได้ยินเสียงร้องโวยวายดังขึ้น พอหันไปมองเขาก็เห็นยุนกิเอาแต่วิ่งหนีไปรอบๆ ภายในกรอบที่ใช้ในการแข่งกับซอกจิน

       "อ๊าก!! กิมึนแล้วนะพี่จิน"

       "โด!" ถึงยุนกิจะร้องออกมาเช่นนั้นแต่ซอกจินก็ยังวิ่งเข้าไปพร้อมตะโกนเป้าหมายออกไปแล้วหวดชิไนไปตรงตำแหน่งเกราะด้านของช่วงท้องที่ได้คะแนน เสียงดาบไม้ไผ่กระทบกับตัวเกราะดังขึ้นโดยที่ยุนกิยังไม่คิดไม่ออกว่าจะทำอย่างไรดี ก็เขาอยู่ติดมุมแล้วนี่

       "อะไรน่ะ" จองกุกหันไปดูแล้วเอ่ยออกมาด้วยเสียงปนหัวเราะ แทฮยองหันไปมองเล็กน้อยก่อนจะยกชิไนขึ้นแต่หูก็ยังฟังการแข่งที่น่าจะจบไปนานแล้วเพราะซอกจินได้คะแนนสองในสามแล้ว ที่ยังเล่นต่อก็คงเพื่อฝึก... ไม่ก็ลงโทษยุนกิสินะ

       "เม็ง"

       ปั๊ก!!

       "โอ๊ยยยยยยยยย!!! ตายดีกว่า" รอบนี้ยุนกิร้องออกมาดังจนแทฮยองต้องหันไปมอง เขาหลุดหัวเราะออกมาเมื่อเห็นยุนกิทิ้งกายลงไปนอนกองกับพื้น แต่ก็นะ... ที่โดนซอกจินตีเข้าไปเมื่อกี้นี้มันเบาๆ ที่ไหนล่ะ

       "ต่อให้ยุนกิจะเป็นเพื่อนฉันก็เถอะนะ แต่พอนึกถึงที่โดนทุบหัวในคาบพละแล้วมาเห็นแบบนี้มันก็อดสะใจไม่ได้เลยนะเนี่ย" โฮซอกเดินเข้ามาในโรงฝึกมาทันเห็นตอนยุนกิทิ้งกายลงไปนอนพอดีเอ่ยขึ้นพลางหันไปขำให้จองกุกและแทฮยองที่ยืนมองอยู่

       "อ้าว... พวกพี่ก็เล่นเคนโด้กันด้วยหรอ" จองกุกเอ่ยถามขึ้นพลางมองโฮซอกกับจีมินที่เพิ่งวิ่งหาเพื่อนตนเองถึง เป็นจีมินที่ส่ายหน้ากลับไปให้รุ่นน้องตัวสูงผิวขาวแต่ดูสุขภาพดี ไม่เหมือนยุนกิที่ขาวซีดจนเหมือนคนป่วย

       "ยุนกิฝากยืมหนังสือน่ะ เลยเอามาให้" พูดพลางหยิบหนังสือในกระเป๋ามาชูให้ดู "ต้องหาหนังสือมาอ้างอิงโครงงานน่ะ"

       "มันจะนอนอยู่อย่างนั้นอีกนานหรือเปล่าวะ" โฮซอกเอ่ยขึ้นมาอีกครั้งเรียกให้ทุกคนหันไปมองที่อีกฟากของสนามฝึกตรงส่วนที่ยุนกิกับซอกจินใช้แข่ง ร่างเล็กยังคงนอนอยู่กับพื้นโดยมีซอกจินไปยืนก้มหน้าพูดด้วยอยู่ข้างๆ เพราะอยู่ไกลไปพอสมควรและทั้งคู่ก็ไม่ได้ตะเบ็งเสียงเหมือนตอนแข่งแล้ว พวกเขาเลยไม่ได้ยินว่าซอกจินพูดอะไร

       "ให้เดาก็คงโดนดุแน่ๆ" จองกุกยกชิไนชี้ไปที่ร่างเล็กที่พลิกตัวหนีซอกจินไปอีกด้านเหมือนเด็กโดนปลุกให้ลุกจากที่นอน

       "ไม่หรอก" จีมินส่ายหน้าให้ ทั้งจองกุกและแทฮยองหันไปมองที่รุ่นพี่ตัวเล็กอย่างฉงน ยิ่งจองกุก ดวงตาคู่โตของเด็กหนุ่มมีประกายความอยากรู้อยากเห็นอย่างปิดไม่มิด

       "เดี๋ยวพี่ซอกจินก็ง้อ" โฮซอกเอ่ยขึ้นมาแทนพลางพยักเพยิดหน้าให้ไปมอง

       ชายหนุ่มร่างสูงเดินไปอ้อมตัวยุนกิไปทรุดกายลงนั่งทางด้านที่ยุนกิหันหน้าไป ก่อนที่ร่างเล็กจะพลิกตัวหนีไปอีกซอกจินก็จับไหล่เล็กไว้เสียก่อน

       "พวกนายไม่ต้องจ้องขนาดนั้นก็ได้" โฮซอกขำออกมา แทฮยองละสายตาออกมาก่อนจะถอยหลังไปแล้วตั้งท่าจับชิไนเตรียมซ้อมต่อ

       ไม่ใช่เรื่องที่เขาจะต้องสนใจเสียหน่อย

       "ว่าแต่ทำไมวันนี้ยุนกิมันมากับแทฮยองได้ ปกติเห็นมาคนเดียว" โฮซอกพึมพำขึ้นมาหลังจากที่แทฮยองแยกไปซ้อมแล้ว ส่วนจองกุกยังยืนอยู่ใกล้ๆ ถึงจะไม่ได้จ้องไปที่สองคนนั้นแต่มันก็อดมองไปไม่ได้อยู่ดี ทุกคนที่เคยฝึกกับซองจินต่างก็รู้กันอยู่ว่าเขาเป็นคนเข้มงวดมากแค่ไหน

       "เดี๋ยวผมเล่าให้ฟัง" จองกุกหันไปยิ้มให้โฮซอก คนเป็นรุ่นพี่เลิกคิ้วเล็กน้อย ไอ้รอยยิ้มนี่มันยังไงๆ อยู่แหะ

       "ว่ามาสิ"

       "เล่ามาก่อน เรื่องของพี่ซอกจินกับพี่ยุนกิน่ะครับ" เด็กหนุ่มเอ่ยจบก็ยิ้มกว้างโชว์ฟันกระต่ายออกมา

       "ได้ไงล่ะ" จีมินขัดขึ้น ถึงเขาจะอยากรู้ก็เถอะว่าทำไมวันนี้แทฮยองถึงเป็นคนเก็บของที่ยืมมาจากห้องพละให้แถมยังมาโรงฝึกพร้อมกับยุนกิอีก ยิ่งหลังจากที่เพื่อนของเขาเอาชิไนไล่ตีโฮซอกเพราะหงุดหงิดที่แพ้แทฮยองตลอด มันต้องมีมูลแน่ๆ

       "เอ้า ของแบบนี้มันก็ต้องแลกกันสิพี่" จองกุกยักไหล่ "ก็ไม่ต้องเอาตรงที่มันเป็นความลับมาพูดก็ได้นี่"

       จีมินหันไปมองหน้าโฮซอก รายนั้นดูจะกระตือรือร้นที่จะรู้อยู่แล้วเลยพยักหน้ากลับให้จองกุกง่ายๆ จีมินถอนหายใจออกมา ถึงจะบอกก็เถอะว่าที่เขาอยากรู้นั่นมันก็เพราะเขาเป็นห่วงกลัวว่าเพื่อนเขาจะทำอะไรแผลงๆ แต่ส่วนหนึ่งมันก็... ความอยากรู้อยากนั่นแหละ

     

    TBC

     

    ทอล์ก : เย้ จบอีกตอนเเย้วววว ตอนหน้ากุกมินจะมาแล้วค่ะ สัญญา! 555555
    ก็ฝากฟิคเรื่องนี้ไว้ด้วยน้า #ฟิคเรนโค้ท อย่าลืมคอมเมนต์ ติดแท็กเล็กๆน้อยๆ กันน้า แหะๆ
    ยังไงก็ขอบคุณนะคะที่เข้ามาอ่านกันเนอะะ ขอบคุณเบลด้วยนร๊ สเปเชียลหน่อยยย คนพรูฟเรื่องนี้เลยค่ะ ไม่งั้นเรื่องนี้ไม่มีทางออกสู่สายตาทุกคนแน่ๆ 55555555

    เลิ้บบบบบ

     


    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    นิยายที่ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×