ตอนที่ 37 : ขุมทรัพย์ใต้ผืนน้ำ
*ลงครั้งแรก 20 ส.ค. 60
หลังสองร่างแทรกผ่านผิวทะเลสาบจนสายน้ำเย็นฉ่ำโอบล้อมกายา เมื่อลงมาถึงความลึกระดับหนึ่ง เงาอัคคีก็เลื่อนมือหนาที่โอบช้อนแผ่นหลังของคนตัวเล็กลงประคองบริเวณบั้นเอว พร้อม ๆ กับปล่อยมือที่ช้อนอยู่ใต้ขาพับออก ให้ขาคู่เรียวค่อย ๆ ทิ้งตัวลงตามแรงโน้มถ่วง แล้วตวัดมือข้างที่ว่างออกแหวกว่าย โน้มตัวไปด้านหน้า ถีบขาให้ศีรษะของทั้งทั้งคู่ดำดิ่งลงสู่ก้นทะเลสาบไปด้วยกัน
นัยน์ตาสีฟ้าใสเบิกกว้างเมื่อโดนปล่อยให้ขาลอยคว้างอย่างไม่ทันตั้งตัว คนตัวเล็กผวาถลาเข้ากอดคอร่างสูงแน่นด้วยความตกใจ เมื่อผนวกกับแรงถีบส่งลงสู่ก้นทะเลสาบ ลำตัวหนาด้านบนก็กดโน้มจนร่างของทั้งคู่แนบชิด ให้คนตัวเล็กสัมผัสได้ถึงกล้ามเนื้อทรงพลังในทุกการเคลื่อนไหว
ยามหายจากอาการตื่นตระหนก ดวงตาสีฟ้าใสตวัดมองค้อนใบหน้าคมอย่างเอาเรื่อง ทว่านัยน์ตาสีเพลิงกลับจับจ้องไปยังเป้าหมายเบื้องล่างอย่างมุ่งมั่นจริงจัง ไร้วี่แววการกลั่นแกล้ง ร่างเล็กในอ้อมแขนจึงได้แต่กล้ำกลืนเก็บความไม่พอใจ แล้วปล่อยตัวให้ลอยไปตามแรงชักนำ
อัศวินสามสีทอดสายตาข้ามไหล่แข็งแรงไปยังผิวน้ำสะท้อนแสงสีเขียวมรกตระยิบระยับด้านบน ที่ค่อย ๆ ถอยห่างออกไปเรื่อย ๆ เริ่มมีฝูงปลาน้อยใหญ่แหวกว่ายผ่านเหนือร่างของพวกตน ณ ผิวน้ำไม่ห่างจากจุดที่สองร่างจากมานั้น นากดนตรีสีชมพูสดใสกำลังดำผุดดำว่ายอย่างมีความสุข
อี้....
เมื่อเห็นรุ่นพี่ของตนจ้องตรงมา นากดนตรีตัวเขื่องก็ส่งเสียงร้องเรียกผ่านสายน้ำอย่างร่าเริง ก่อนจะแสดงความสามารถสมกับที่เป็นหนึ่งในเจ้าแห่งธารา ว่ายน้ำควงสว่านกวดเข้าหาทั้งคู่
เฮ้อ... เจ้านี่ก็บ้าพาวจริง พอ ๆ กับเจ้าของมันนั่นแหละ
คิดในใจ ดวงตาสีฟ้าใสก็เหลือบมองเสี้ยวหน้าคม ชายหนุ่มผมดำยังคงมองตรงไปข้างหน้าอย่างมุ่งมั่น นัยน์ตาสีเพลิงเปล่งประกายเจิดจ้าล้อแสงระยิบระยับสีมรกต โดยมีฉากหลังเป็นผืนน้ำดำมืด ภาพที่หนุ่มน้อยเห็นเปี่ยมไปด้วยมนต์เสน่ห์ชวนหลงใหล ดวงตาคู่คมฉายชัดถึงความมั่นใจในพลังของตน พลังมากล้นดุจเอาชนะได้ในทุกอุปสรรค และพร้อมจะเป็นที่พักพิงอันแข็งแกร่งให้แก่ผู้อ่อนแอกว่า ภาพนั้นดั่งมีมนตรา ดึงดูดร่างเล็กให้มองจนเหมือนจะถอนสายตาออกมาไม่ได้
เมื่อรู้สึกตัวอีกที หัวใจดวงน้อยของอัศวินสามสีก็สั่นไหว จนต้องหรุบตาหลบ แล้วเอนใบหน้าซบลงบนไหล่กว้าง
ไม่มีอะไรหรอกน่า... เราก็แค่ อยากเป็นให้ได้อย่างนี้บ้างก็เท่านั้นแหละ
ตริ๊ง
/ ลำแสงแห่งอักขระฟื้นฟูซึ่งเปี่ยมไปด้วยพลังแห่งการเยียวยาได้อาบไล้ไปทั่วร่าง ชำระล้างด้วยเมตตาแห่งเทพดาราพิทักษ์
ท่านได้รับทักษะพิเศษ สัมผัสธรรมชาติ /
ท่ามกลางความสับสนในห้วงคิด เสียงอันคุ้นเคยก็ดังก้องขึ้นในหัว ฉุดดึงอัศวินสามสีให้กลับมาสู่ปัจจุบัน หากเพียงร่างเล็กหันหน้าไปกวาดตามองสถานการณ์ ยังไม่ทันได้ทำอะไร เสียงใส ๆ ก็ดังขึ้นอีกครั้ง
ตริ๊ง
/ ภารกิจ ปริศนาเมืองดาราพิทักษ์ 2: ตามหาอักขระอำนวยพรที่ถูกลืมเลือน (อยู่ระหว่างดำเนินการ)
ท่านพบลำแสงแห่งอักขระฟื้นฟู ที่จารึกไว้ด้วยความเมตตาขององค์เทพดาราพิทักษ์ เพื่อปกปักให้เหล่าสรรพสัตว์ในแดนดินไร้โรคภัยแผ้วพาน
อักขระป้องกัน ณ ผืนน้ำกว้างใหญ่ (1/1) /
เอ๋?
ร่างเล็กชะงักค้างอย่างงุนงง ก่อนจะเหลือบไปเห็นผลึกใสในอุ้งมือหนา ที่ดูดลำแสงมาจนกลายเป็นผลึกสีเขียวมรกตสว่าง พร้อมรอยอักขระมนตราจาง ๆ ที่ผิวเรียบ เหมือนที่ตนเคยได้
เพียงชั่วครู่ เงาอัคคีก็กระดกปลายนิ้วโยนผลึกเหลี่ยมขึ้นให้ลอยหมุนคว้างในสายน้ำ ก่อนจะพลิกข้อมือใช้กำไลผู้เล่นแตะเก็บเข้าไป ให้นากดนตรีสีชมพูที่กำลังว่ายวนอยู่รอบ ๆ ร้องครางออกมาอย่างเสียดายที่เข้ามาลองของเล่นชิ้นใหม่ด้วยไม่ทัน
แรงกระตุกจากมือใหญ่ที่บั้นเอว พร้อมใบหน้าที่พยักพเยิดไปด้านบนของร่างสูง ให้ร่างเล็กแปลได้ว่าถึงเวลาที่ควรต้องกลับขึ้นสู่ผิวน้ำแล้ว ซึ่งก็ควรจะเป็นเช่นนั้นหากดวงตาสีฟ้าใสไม่เหลือบไปเห็นแสงพราวระยิบระยับละลานตาของเหล่าผลึกสีเขียวมะนาวเสียก่อน ผลึกสีเขียวอ่อนสะท้อนแสงวาววับดั่งคริสทัล กระจายฝังตัวอยู่รายรอบ พื้นทะเลสาบบริเวณใกล้แท่นหินอักขระชั้นนอก ผลึกที่หนึ่งในนั้น นากดนตรีตัวป่วนกำลังใช้หางตวัดขึ้นมา แล้วเอาหัวโหม่งให้ลอยหมุนคว้างในน้ำเล่นเลียนแบบเจ้าของ
ผลึกแบบนั้น... นั่น ท่าจะของแพง!
ผู้โดนโอบเอวส่ายหน้าดิก มือเรียวปลดลงจากรอบลำคอของร่างสูง แล้วชี้นิ้วไปยังเป้าหมายใหม่ เมื่ออีกฝ่ายยังเฉยและพยักพเยิดไปในทิศทางเดิม เจ้าตัวเล็กก็สะบัดร่างหนี ถีบตัวออกห่าง แล้วว่ายน้ำตะกายเข้าหาลานผลึกใส ปล่อยให้ชายหนุ่มผมดำได้แต่ส่ายหน้าอย่างระอา
เมื่อว่ายเข้ามาใกล้ ดวงตาหนุ่มร่างเล็กก็ยิ่งลุกวาว เริ่มเอากระเป๋าคู่ใจเข้าแตะเก็บเกี่ยวก้อนผลึกอย่างเมามัน เมื่อนากดนตรีเห็นรุ่นพี่เข้ามาเล่นด้วย ก็ช่วยโยนผลึกจากไกล ๆ ให้อัศวินสามสียกกระเป๋าขึ้นแตะรับอย่างสนุกสนาน
ชายหนุ่มผมดำมองภาพตรงหน้าอย่างปลง ๆ ยกกำไลของตนขึ้นตรวจดูเวลา เมื่อเห็นว่าอากาศของทั้งคู่น่าจะใกล้หมดแล้ว ก็รีบคว้าเข้าที่เอวร่างเล็กแล้วพยายามฉุดขึ้นสู่ผิวน้ำ อัศวินสามสีที่กำลังเก็บเกี่ยวอยู่เพลิน ๆ เมื่อโดนฉุดก็พยายามดิ้นหนี ปากจิ้มลิ้มอ้าขึ้นจะต่อว่าอย่างลืมตัว ให้ฟองอากาศที่มีเหลืออยู่ไม่มากลอยเล็ดลอดออกไป
ดิ้นต่อสู้กันได้สักพัก สีหน้าของร่างเล็กก็เริ่มแปรเปลี่ยน เป็นความทรมานเนื่องจากอากาศไม่พอ ทำให้ร่างสูงใหญ่ผงะ เหลือบตาขึ้นมองผิวน้ำเบื้องบน สลับกับร่างเล็กที่เริ่มไร้แรงต่อต้าน นิ่งคิดคำนวณเพียงชั่วครู่ ชายหนุ่มผมดำจึงตัดสินใจกระชับวงแขน ช้อนเข้าที่เอวและหลังต้นคอ รวบตัวร่างเล็กเข้ามาใกล้
หนุ่มผมสีน้ำตาลที่ทรมานจากการขาดอากาศเป็นครั้งแรกก็ตกใจจนทำอะไรไม่ถูก ร่างอ่อนแรงช้อนดวงตาขึ้นมองร่างตรงหน้าอย่างอ้อนวอน เมื่อสัมผัสได้ถึงแรงกอดรัดรอบตัวก็ไม่ขัดขืน โอนอ่อนผ่อนตามแต่โดยดี ในห้วงแห่งความทรมานนั้น ใบหน้าคมของร่างสูงค่อย ๆ โน้มลงเข้ามาใกล้ ดวงตาสีฟ้าใสเหลือบขึ้นสอดประสานกับนัยน์ตาสีเพลิงคู่คมที่มีประกายบางอย่างไหวระริก ใกล้... ใกล้เข้ามาเรื่อย ๆ ใกล้กว่าครั้งไหน ๆ
อี้!
ทันใดนั้นเอง อยู่ ๆ จมูกเรียวแหลมของนากดนตรีสีชมพูก็โผล่ขึ้นตรงหน้าชายหนุ่มผู้สิ้นเรี่ยวแรง ใบหน้าที่เต็มไปด้วยขนบดบังใบดวงตาคมคู่นั้นไปจนหมด เจ้าตัวเล็กส่งเสียงร้องโวยวายแล้วจ้องมองหนุ่มน้อยด้วยความเป็นห่วง โดยไม่รู้ตัวหางยาวของมันแกว่งไกว ปัดใบหน้าเจ้าของตนให้ต้องผละออก
หากก่อนที่ใครจะทันได้ต่อว่า ฟองอากาศกลมใสฟองใหญ่ก็ผุดขึ้นมาบนอุ้งเท้าหน้าของนากตัวน้อย ก่อนจะโดนยื่นแปะเข้าใส่ใบหน้าจิ้มลิ้ม จนฟองอากาศเข้าคลุมทั้งจมูกและปากของรุ่นพี่ที่รัก
เฮือก!
เมื่อสัมผัสได้ถึงความบางเบาของอากาศที่คุ้นเคย ชายหนุ่มร่างเล็กก็สูดหายใจเข้าอย่างตะกละตะกลาม หวังให้พ้นจากความทรมานนี้โดยเร็ว เวลาผ่านไป ดวงตาสีฟ้าใสก็หรุบลง แล้วค่อย ๆ สูดหายใจเข้าออกช้า ๆ ปรับสภาพร่างกายจนกลับมาสู่สภาวะปกติ โดยไม่ได้เห็นฉากปาฟองอากาศเข้าอัดใบหน้าเจ้านายที่รักของนากดนตรี ผู้ที่ฝังใจไปแล้วว่ารุ่นพี่โดนกลั่นแกล้งทิ้งให้ทรมาน
อ่า... นี่คือความลับของพวกนากสินะ
หลังจากฟองอากาศหมดไป ดวงตาสีฟ้าใสก็กลับมาทอประกายงดงามดังเดิม ให้นากดนตรีตัวใหญ่ลืมสิ้นทุกความเจ็บแค้น ทำท่าระริกระรี้งับชายแขนเสื้อรุ่นพี่ให้ออกไปเล่นเก็บผลึกด้วยกัน
หึ ๆ มีถังออกซิเจนพกพาแบบนี้... เสร็จผมล่ะ! รอก่อนนะคุณของแพง
ห่างออกมา หนุ่มผมดำที่ถูกทิ้งให้ลอยเท้งเต้งอย่างโดดเดี่ยวได้แต่มองตามทั้งคู่ตาละห้อย ก่อนจะเบนสายตามาที่ฟองอากาศใหญ่ในมือ ความสามารถลับของสัตว์เลี้ยงอีกอย่างหนึ่ง ซึ่งแม้แต่เจ้านายอย่างตนก็ไม่เคยรู้ แล้วแนบใบหน้าเข้ากับฟองใส กอบโกยอากาศจนเต็มปอด ทดสอบทักษะลึกลับที่ไม่เคยพบเจอ
ทว่า ในขณะที่ชายหนุ่มผมดำกำลังลอยตัวค้างวิเคราะห์ความสามารถลับ เงาดำมืดที่เคลื่อนพาดผ่านก็ทำให้นัยน์ตาคมสีเพลิงก็ต้องเบิกกว้าง ทั่วทั้งร่างตื่นตัว เมื่อเงยหน้าขึ้นมองจึงเห็นว่าเงานั้นเป็นของปลากระเบนขนาดยักษ์ ปลายหางยาวประดับหัวลูกศรคมกริบแกว่งไกวไปมาแลดูอันตราย และที่สำคัญ ร่างยักษ์นั่นกำลังว่ายเข้าไปใกล้สองร่างเล็ก ผู้กำลังเก็บเกี่ยวขุมทรัพย์กันอย่างสนุกสนานไร้การระวังตัว
ซูมมมม......
คลื่นไฟสว่างจ้าพุ่งจากปลายดาบยาวเข้าหาเป้าหมาย แม้อานุภาพจะโดนลดทอนจากสื่อตัวกลางธาตุอริไปมาก หากก็ยังแรงพอที่จะกระแทกปากอ้ากว้างของกระเบนยักษ์ให้หุบเข้า จนร่างมหึมาเสียการทรงตัวล่าถอยออกไป พร้อมกันนั้นเอง เมื่อต้องประกายจากคลื่นไฟ ลำแสงสีมรกตก็เลือนหายไปในบัดดล เหลือเพียงความมืดมิดให้ทุกชีวิตหยุดชะงัก
ชายหนุ่มร่างเล็กหันรีหันขวางหาร่างสูง จนนากดนตรีด้านข้างต้องตะปบจับให้อยู่นิ่ง ป้องกันการรับรู้ของผู้ล่าจากแรงกระเพื่อมไหวของสายน้ำ
ท่ามกลางผืนน้ำมืดมิด ดวงตาอสูรช่วยให้หนุ่มน้อยมองเห็นสถานการณ์ได้ชัด ชายหนุ่มผมดำที่ตนกำลังตามหาลอยตัวนิ่งอยู่ห่างออกไป เนื่องจากจงใจหยุดการเคลื่อนไหว ร่างสูงจึงค่อย ๆ ทิ้งตัวดำดิ่งลงตามแรงโน้มถ่วง ไม่ไกลนัก เหนือศีรษะร่างสูง กระเบนขนาดยักษ์ว่ายโฉบไปมาเหมือนกำลังตามหาอะไรบางอย่าง หางยาวอันตรายแกว่งไกวฉวัดเฉวียนดั่งกำลังโกรธเกรี้ยว คลื่นน้ำกระเพื่อมจากการเคลื่อนไหวผลักให้ร่างที่ซ่อนตัวอยู่โอนเอนไปมา
ติ๊ด ๆ ติ๊ด ๆ
ท่ามกลางวิกฤติการณ์นั้น อยู่ ๆ กำไลผู้เล่นของหนุ่มผมสีน้ำตาลก็มีข้อความแจ้งเตือนเข้า
ร้อยวันพันปีไม่เห็นมีใครส่งข้อความมานี่นา... เอ๊ะ! หรือว่า...
ดวงตาสีฟ้าใสเหลือบมองเงาร่างสูงที่ดูเหมือนกำลังเกาะกุมข้อมือตน ก่อนตัดสินใจเปิดข้อความออกอ่าน
-ใช้จารึกกลับเมือง แล้วเจอกัน-
เห็นดังนั้น อัศวินสามสีจึงพิมพ์รับคำกลับไปสั้น ๆ แล้วค้นหาแผ่นจารึกตามคำสั่งขึ้นกางออก เมื่อคลี่ม้วนจารึกออกได้ แสงเรืองรองก็สว่างขึ้นโอบล้อมรอบร่างเล็ก พร้อมกับหลอดจับเวลานับถอยหลัง 30 วินาที ตรงหน้า [1]
แสงเลือนรางจากร่างเล็กดั่งสัญญาณประกาศศึก ไฟนำทางสว่างจ้าถูกจุดขึ้นเหนือศีรษะร่างสูง ก่อนเงาอัคคีจะเริ่มสะบัดดาบเข้าจู่โจมกระเบนยักษ์ คลื่นดาบไฟดึงความสนใจของผู้ล่าออกมาจากหนุ่มผมสีน้ำตาลได้อย่างชะงัด คลื่นไฟเป็นชุดถูกส่งเข้าหาเป้าหมาย แม้ไม่รุนแรงแต่ก็น่ารำคาญ ยั่วยุอีกฝ่ายอย่างได้ผล จากนั้นชายผมดำจึงว่ายน้ำถอยห่างจากผู้กำลังใช้จารึก ล่อกระเบนยักษ์ให้ตามติดออกมาอีกด้าน
นัยน์ตาสีฟ้าใสมองภาพตรงหน้าด้วยใจระทึก ลึก ๆ แล้วก็เป็นห่วงชายหนุ่มอีกคน หากโดยไม่ทราบสาเหตุ อัศวินสามสีกลับมั่นใจว่าอีกฝ่ายจะเอาตัวรอดได้ ดวงตากลมโตเหลือบมองแสงในหลอดเวลาที่ค่อย ๆ ลดลงจนว่างเปล่า ก่อนหลับตาแน่นเตรียมตัวรับมือกับการเคลื่อนย้ายกลับเมืองครั้งแรกในชีวิต
และแล้ว แผ่นจารึกก็เปล่งแสงเจิดจ้าจนกลบทุกการมองเห็น พร้อมกับร่างอัศวินสามสีที่หายไป
วูบบบ.......
แสงสว่างจ้าจางหาย แรงดันจากน้ำโดยรอบพลันสลายเป็นความบางเบาของอากาศ เมื่อดวงตาสีฟ้าใสลืมขึ้น ภาพที่ปรากฏรอบด้านกลับกลายเป็นบรรยากาศสงบเงียบที่ก้ำกึ่งว่าจะคุ้นเคย ให้เจ้าของเรือนผมสีน้ำตาลแปลกใจที่ไม่ได้เห็นความวุ่นวายของเมืองตามคาด
ที่นี่ที่ไหนอะ พื้นหินล้อมด้วยคูน้ำ ทางเดินปูหินเรียบข้ามคูกับทางเดินดินลดเลี้ยวตัดเข้าไปในป่า เอ... เหมือนจะคุ้น ๆ อยู่นะ
กรอบ!
หากเมื่อเท้าเล็กก้าวออกก็เหยียบเศษเปลือกไข่บนพื้นโดยไม่ได้ตั้งใจ จนความทรงจำในอดีตฉายวาบเข้ามา
อ๊ะ! หรือว่า... นี่เกาะกำเนิดอสูร!
หากยังไม่ทันได้คิดทำอะไรต่อ เสียงเจ้าปัญหาอันคุ้นเคยก็ดังก้องขึ้นในหัวร่างเล็กอีกครั้ง
ติ๊ด ๆ ติ๊ด ๆ
/ เนื่องจากท่านออนไลน์ติดต่อกันนานกว่า 10 ชั่วโมงซึ่งเป็นระยะเวลาสูงสุดตามเงื่อนความปลอดภัยต่อสุขอนามัยของผู้ใช้งาน เพื่อสุขอนามัยที่ดีของท่าน ทางระบบจะบังคับให้ผู้เล่นออกจากเกมโดยอัตโนมัติภายในเวลา 1 นาที และระงับการเข้าใช้หลังจากนี้เป็นเวลาอีก 4 ชั่วโมง
เพื่อความปลอดภัยในโลก Spirit of Adventure กรุณาไปยังสถานที่ปลอดภัยเพื่อเตรียมการออฟไลน์โดยอัตโนมัติ /
อ่า... ถ้าอย่างนั้น มีอะไรก็ต้องไว้ครั้งหน้าแล้วล่ะนะ
คิดดังนั้น หนุ่มน้อยหน้ามนก็ส่งข้อความหาเงาอัคคี บอกพิกัดของตนและเรื่องที่ต้องออฟไลน์ออกไป
ติ๊ด ๆ ติ๊ด ๆ
/ การออฟไลน์อัตโนมัติจะเริ่มในอีก 5 วินาทีต่อจากนี้
5
4
3
2
1 /
วูบบบ...
*****-----*****-----*****
ณ ริมฝั่งทะเลสาบมรกต เสือขาวตัวน้อยยังคงนั่งเหม่อมองกลุ่มแสงสว่างสดใสหยอกล้อกับเหล่าดวงดาราบนฟ้ากว้าง
ฮ้าวววว....
แสงวูบวาบ ๆ ในน้ำนั่นก็หายไปตั้งนานแล้ว จนลูกไฟเขียว ๆ โผล่กลับขึ้นมาเต็มแล้วเนี่ย เจ้าพวกนั้นมัวแต่ทำอะไรกันอยู่นะ ช้าจริง
แล้วค่ำคืนนั้นและอีกหลายวันถัดมา เหล่าสรรพสัตว์ริมทะเลสาบก็ต้องพากันแปลกใจ ที่พบเห็นสัตว์ต่างถิ่นเป็นเสือขาวตัวน้อย มานั่งชมดาวริมน้ำอย่างโดดเดี่ยวทุกค่ำคืน ไม่ยอมจากไปไหน
*****-----*****-----*****
หมายเหตุ
[1] ตามปกติแล้ว การใช้ไอเทมเพื่อกลับจุดเซฟในเกมส่วนมาก จะใช้เวลาชั่วขณะหนึ่งก่อนที่ไอเทมจะแสดงผล หากโดนรบกวนในขณะที่กำลังใช้ การดำเนินการจะยกเลิก กลไกนี้เป็นการป้องกันไม่ให้ผู้เล่นนำไอเทมไปใช้ในทางที่ผิด อย่างเช่นหลบหนีจากการต่อสู้ในทันที ผู้เล่นจึงมักต้องหาที่ปลอดภัยก่อนที่จะใช้ไอเทมเพื่อกลับจุดเซฟ
นิยายที่ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ

น้องเสือผู้เดียวดาย
โดนนากขัดจังหวะซะได้ อิอิ
พี่คิมมีความปกป้องน้องจาตลอดดดดด แล้วจะได้เจอกันในโลกจริงบ้างไหม?
//เห็นแจ้งเตือนมาแล้วงงมาก 5555 #ชื่อเรื่องน่ารักดี
ว่าแต่ว่าเปลี่ยนชื่อเรื่องตอนไหนหว่า
ตอนแรกนี่งงมาก ว่าเรื่องอะไรเนี่ย5555555