ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    [Love not bad] ฝากร้ายคืนรัก

    ลำดับตอนที่ #12 : ไม่มีสถานะ ตัด NC มีแต่คุย

    • เนื้อหาตอนนี้เปิดให้อ่าน
    • 2.51K
      76
      9 พ.ค. 63

    เวลาผ่านไป

    ฉันเผลอนอนหลับไปจริงๆ ตอนไหนไม่รู้ รู้ตัวอีกทีก็มีมืออุ่นๆ มาแนบที่หน้าผาก ก่อนจะรับสัมผัสนุ่มๆ ที่ข้างแก้ม

    ฟ่างมาแล้วเหรอเนี่ย? ฉันพยายามปรือตาขึ้นมอง แต่กลับรู้สึกหนักอึ้ง ภาพที่ปรากฏตรงหน้าเป็นเงาเลือนรางของผู้ชายร่างสูงใหญ่ที่นั่งอยู่ข้างเตียง แต่พอสายตาเริ่มปรับได้ก็ทำเอาฉันเด้งตัวหนี

    โซ่!

    “นี่นาย!”

    โซ่ยิ้มเยาะที่มุมปากกับท่าทางตกใจของฉัน ส่วนฉันเองก็ตะโกนเรียกพาร์ทหวังว่าเขาจะนั่งอยู่ตรงโซฟาเหมือนเดิมในขณะที่ผ้าม่านในห้องฉันนั้นปิดสนิท โดยมีประตูกระจกที่กั้นกลางระหว่างห้องนั่งเล่นกับห้องนอนเอาไว้

    “พาร์ท!”

    “พาร์ท!”

    “นายอยู่ข้างนอกห้องหรือเปล่า” ฉันตะโกนร้องเรียกชื่อพาร์ท น้ำเสียงที่เปล่งออกไปนั้นไม่ค่อยจะดีนัก อีกทั้งยังเจ็บคอส่งผลให้เสียงแหบแห้ง ปากก็ตะโกนเรียกพาร์ทแต่ในขณะที่สายตาก็จับจ้องมองไปยังโซ่อย่างหวาดระแวง

    “เรียกไปมันก็ไม่ได้ยินหรอก”

    “ทำไม? พาร์ทกลับไปแล้วเหรอ”

    “เปล่า มันนอน”

    จึ๊! ฉันทำเสียงดีดปากไม่พอใจเมื่อได้ยินคำตอบจากโซ่

    “นอนบ้าอะไรจะลึกขนาดนั้น ไม่ได้ยินที่ฉันเรียกเลยเหรอไง พาร์ท!”

    ฉันพึมพำบ่นกับตัวเอง แต่ก็เหมือนจะบ่นให้โซ่ฟังเสียมากกว่า เห็นทีต้องไปตามเจ้าตัวที่โซฟาหน้าทีวีเสียแล้ว

    พอฉันทำท่าจะลุกไปตามพาร์ท โซ่กลับเอามือมาจับต้นแขนของฉันเอาไว้แน่น ตอนนี้รู้สึกไม่ไว้ใจกับการอยู่ด้วยกันสองต่อสองกับโซ่ในห้องนอนที่ปิดม่านเกือบสนิทแล้วสิ มีเพียงแค่แสงสีส้มอ่อนๆ จากไฟหัวเตียงนอนเท่านั้นที่พอจะทำให้ฉันเห็นใบหน้าหล่อเหลาแต่สายตาเย่อหยิ่งเยือกเย็นของโซ่ ยิ่งเป็นแบบนี้ก็ยิ่งทำให้ฉันรู้สึกประหม่าอย่างบอกไม่ถูก

    “อะไร! นายอย่ามาทำอะไรบ้าๆ ในห้องนอนฉันนะ”

    “เธอติดหนี้ฉันอยู่นี่”

    “หนี้!?” ฉันพยายามนึกถึงหนี้ที่ฉันติดค้างเขา

    อ่อ! ฉันเข้าใจแล้วล่ะ โซ่น่าจะหมายถึงค่ารักษาพยาบาลฉันที่คลินิกแล้วก็เรื่องโจ๊กสินะ

    “งั้นรอแป๊บ เดี๋ยวออกไปหยิบเงินมาให้”

    ฉันตอบและพยายามแกะมือของโซ่ออกจากต้นแขนของตัวเอง แต่ทว่าโซ่กลับจับให้แน่นขึ้นจนฉันเองก็เริ่มหงุดหงิดก่อนที่เขาจะผลักให้ฉันนอนลงที่เตียงเหมือนเดิม

    “นี่นาย! ขืนทำอะไรบ้าๆ ฉันกรี๊ดลั่นห้องจริงๆ ด้วยนะ”

    ฉันมองโซ่ด้วยสายตาที่ดุดันหวังว่าเขาจะรู้ว่าฉันจริงจังกับประโยคที่พูดออกไป แมวอย่างฉันเริ่มจะขู่เสืออย่างโซ่บ้างแล้วล่ะ แต่ดูเหมือนเสือจะมีเล็บที่ยาวและอุ้งเท้าที่ใหญ่กว่าแมวอย่างฉันอยู่มาก พอเผลอเลยโดนเสืออย่างโซ่ตะปบมือทั้งสองข้างให้กางออกแนบกับเตียงก่อนที่ร่างสูงจะเปลี่ยนท่านั่งกลายเป็นมาคร่อมร่างฉันแทน

    “กรี๊ดสิ! พาร์ทจะได้เห็น จะได้รู้ว่าเราสองคนกำลังจะทำอะไรกัน”

    “ป่าเถื่อน! นายเป็นโรคจิตเหรอ?” ฉันพยายามดิ้นอยู่ภายใต้ร่างของโซ่ไปมา

    แต่ยิ่งดิ้นก็เหมือนยิ่งหมดแรง โซ่แทบจะไม่ได้ทำอะไรเลยนอกจากนั่งทับและกางแขนฉันออก แต่ทำไมคนอย่างฉันต้องไร้เรี่ยวแรงในการต่อสู้ด้วยเนี่ย

    “ดิ้นเยอะ ลูกชายตื่นไว ดิ้นอีกสิ!”

    หลังจากโซ่พูดจบฉันก็รับรู้ได้ถึงความแข็งขืนที่สัมผัสอยู่ตรงหน้าท้องของตัวเอง

    บ้าจริง!

    นายโซ่! หื่นไม่ดูสถานที่ ไม่ดูเวลาเลยให้ตายเถอะ แล้วนี่ถ้าพาร์ทเปิดม่านมาเห็นเราในสภาพแบบนี้จะทำยังไงล่ะ โอ๊ย! อยากจะร้องไห้

    “นายต้องการอะไร เงินเหรอ? เดี๋ยวฉันเอาให้ไง ฉันไม่ได้จะติดหนี้นายไปตลอดสักหน่อย” โซ่ไม่ยอมตอบ เขาก้มลงมามองหน้าฉันนิ่งๆ “หรือว่านายอยากแก้แค้นที่ฉันด่านายตรงหน้าปั๊ม แล้วก็อ้วกใส่ ตอนนั้นฉันไม่ได้ตั้งใจ ฉันไม่มีสติ ฉันขอโทษ!”

    ฉันพยายามพูดทุกสิ่งที่พยายามนึกได้ให้โซ่ฟัง หวังว่าเขาจะเปลี่ยนใจและลงจากร่างฉัน

    “ถ้าฉันบอกว่าฉันต้องการเธอล่ะ เธอจะว่าไง”

    “ฮะ!? ต้องการฉัน” โซ่ไม่ได้ยิ้ม และไม่ได้หัวเราะ หรือแสดงออกทางสีหน้าใดๆ ทั้งสิ้น ตรงกันข้ามเขากลับกำลังจ้องตาฉันและพิจารณาฉันอย่างละเอียดถี่ถ้วนอยู่ต่างหาก นี่ฉันหูเพี้ยนไปหรือเปล่าที่ว่าเขาต้องการฉัน “นายพูดอะไรน่ะ ฉันไม่เข้าใจ ล้อเล่นหรือเปล่า?”

    “คงงั้น?”

    “อะไรเนี่ย ตกใจหมดเลย” ฉันถอนหายใจทันควันเมื่อรู้ว่าโซ่เพียงแค่ล้อเล่นกับความรู้สึกของตัวเอง

    “ทำไม เสียใจเหรอ”

    “บ้า! จะเสียใจทำไม ฉันตกใจจริงๆ จู่ๆ นายจะมาต้องการฉันทำไม ในเมื่อเราไม่เคยรู้จักกันมาก่อน เพิ่งเจอกันก็ตอนไปเที่ยวกับเพื่อน แล้วก็เอ่อ... เรื่องนั้นก็ข้ามๆ ไป ฉันเข้าใจว่านายคงไม่ได้ตั้งใจเพราะเล่นเกมกับเพื่อนก็เลยได้ยาปลุกเซ็กส์มากิน แล้วก็ความผิดฉันเองนั่นแหละที่ยอมอะไรง่ายๆ แต่ก็ผิดทั้งสองคนด้วย เพราะนายก็ไม่รู้จักยับยั้งชั่งใจเหมือนกัน”

    “พูดพอหรือยัง”

    “นายคงไม่ได้ชอบฉันหรอกใช่มั้ย”

    ฉันถามออกไปตรงๆ ก็ดูสิ่งที่เขาทำตลอดระยะเวลาที่เจอกันสิ ทำเหมือนเราสองคนรู้จักกันมานานยังไงยังงั้น ไหนจะเรื่องโจ๊กอีก ฉันว่าฉันถามโซ่ไปเลยดีกว่าว่าเค้าจะซื้อให้ฉันหรือให้น้องกันแน่ หรือว่าฉันจะหลงตัวเองมากไป

    “หึ! ผู้หญิงก็เป็นแบบนี้ทุกคนสินะ ใครทำดีให้หน่อยก็คิดว่าชอบไปเสียหมด”

    “ขอโทษ ฉันคงคิดมากไปน่ะ ถึงนายชอบฉันตอนนี้ฉันก็คงเปิดใจให้ไม่ได้จริงๆ ฉันเพิ่งเลิกกับแฟนคนแรกไป แล้วก็เพิ่งรู้ว่าที่ผ่านมาฉันก็แค่คนที่มาแทนที่อีกคน”

    “แล้วไง” โซ่จ้องหน้าฉันเขม็ง เหมือนกับว่าเรื่องของฉันเป็นเรื่องที่น่ารำคาญ

    “เปล่าก็แค่อยากระบายให้ใครสักคนฟัง แต่ว่านายช่วยลงจากตัวฉันก่อนได้ไหม ฉันหนัก!” ฉันบอกกับโซ่หน้ามุ่ย ก็โซ่ทั้งสูง ทั้งตัวใหญ่กว่าฉัน นั่งทับลงมาทั้งตัวแบบนี้ฉันไม่แบนติดเตียงก็ดีเท่าไหร่แล้วล่ะ

    โซ่เหมือนจะรับฟังในสิ่งที่ฉันพูด เขาย้ายตัวเองลงไปนอนข้างๆ ฉันแทน แต่มือก็เลื่อนมาโอบเอวฉันเอาไว้แน่น

    “นี่นาย! ไหนบอกไม่ชอบไง ไม่ชอบก็อย่ามากอดสิ” ฉันพูดพร้อมกับเอามือปัดบ่ายเบี่ยงโซ่ให้ออกห่าง “นายมีแฟนอยู่แล้วไม่ใช่หรือไง จะมายุ่งกับฉันทำไม เป็นพวกเจ้าชู้เล่นผู้หญิงไม่เลือกหน้าเหรอ”

    “แฟน? คุกกี้เหรอ”

    “ใช่สิ! ยังจะถาม รองเท้าแฟนนายอยู่ข้างนอกนะ เดี๋ยวน้องนายมาก็เอาออกไปด้วย” ยิ่งดิ้นหรือยิ่งพูดโซ่ก็ยิ่งกอดฉันเอาไว้ในอ้อมกอดของเขาแน่น “ขอความกรุณาเอามือออกจากตัวฉันหน่อยได้ไหม ในเมื่อไม่ชอบก็อย่ากอด”

    “แล้วทำไงถึงได้กอด ต้องชอบเท่านั้นเหรอถึงได้กอด”

    “นี่! นายกวนประสาทฉันเหรอ?” ฉันเงยหน้าไปสบตาของโซ่ที่ตอนนี้จ้องหน้าฉันนิ่ง

    “เสียงดังเดี๋ยวไอ้พาร์ทมันตื่นมาเห็น เธอก็เตรียมตอบคำถามมันก็แล้วกันนะ”

    นี่เขากำลังขู่ฉันเหรอ? บ้าจริง คนแบบเขามีสิทธิ์อะไรมาขู่ฉันด้วย

    “พาร์ทมาเห็นก็ดี นายจะได้หยุดลวนลามฉัน”

    “แค่กอดก็ถือว่าลวนลามแล้วเหรอ” ดูคำถามที่ถามออกมาสิ ทำเอาฉันหัวเสียแทบจะกรี๊ดลั่นห้อง

    “ใช่!!”

    “ถ้าลวนลามต้องแบบนี้”

    โซ่ย้ายมือมาสัมผัสที่หน้าอกฉันพร้อมกับบีบเคล้นอย่างมันมือจนฉันเผลอร้องเสียงหลงออกมาด้วยความตกใจ แต่ก็ถูกคนวายร้ายอย่างโซ่ประกบจูบเข้าที่ปากหวังปิดผนึกไม่ให้เสียงดังเล็ดลอด ริมฝีปากอวบอิ่มของฉันถูกโซ่ดูดและกดเม้มพร้อมกับแทรกลิ้นเปียกชื้นเข้ามาหยอกเย้าอย่างไม่เกรงใจ มือที่สัมผัสหน้าอกก็ยังคงออกแรงบีบและคลึงจนตัวฉันเริ่มอ่อนปวกเปียกเมื่อได้รับสัมผัสอุ่นที่ย้ายเข้ามาภายใต้ร่มผ้า

    “อื้ออ อ่อย”

    จ๊วบ!

    โซ่คลายริมฝีปากออกจากฉัน สายตาที่มองมาและริมฝีปากที่ยกยิ้มแบบเย้ยหยันนั้นเล่นเอาฉันหัวใจวูบไหว คนบ้าอะไรหล่อเป็นบ้าเลยวะ หล่อแบบแบดบอยเป็นสไตล์ที่ฉันไม่ชอบที่สุด แต่ทำไมตอนนี้เหมือนฉันกำลังก้าวขาไปเล่นกับไฟยังไงก็ไม่รู้

    ฉันหอบหายใจเพราะรู้สึกเหนื่อย จนต้องหลบตาลงจากสายตาคู่นั้นที่มองมา กลัวหัวใจตัวเองจะหวั่นไหวกับผู้ชายที่เจอไม่กี่วันจนลืมแฟนเก่าตัวเองที่พยายามขอคืนดีอยู่ ถึงพี่เมสจะไม่รักฉันและหันไปคบกับแฟนเก่าแล้วก็ตาม แต่หัวใจฉันก็เป็นของเขาไปแล้วมันคงยากที่จะมอบให้คนอื่นหมดใจอีกครั้ง

    “แยกออกหรือยัง”

    “อืม” ฉันตอบไปแบบส่งๆ โซ่เอามือสากขึ้นมาปัดผมออกจากหน้าฉันเพื่อไปทัดหูให้ พฤติกรรมงงๆ แบบนี้ฉันเองก็ไม่เข้าใจเขาเหมือนกัน “ถ้าไม่ได้ชอบฉันแล้วนายต้องการอะไรกันแน่ ฉันไม่เข้าใจในสิ่งที่นายทำอยู่ตอนนี้มันคืออะไร”

    โซ่ทำหน้าครุ่นคิด เขาไม่ได้ให้คำตอบฉันทันที เอาแต่จ้องหน้าแต่ก็ไม่ยอมพูดอะไรเลยสักนิด

    “เอาคืน” สายตาที่ดูจริงจังและเปลี่ยนไปเหมือนโกรธแค้นฉันทำเอาฉันสะดุ้งจนเริ่มอยู่ไม่เป็นสุข แต่พอฟังคำพูดของโซ่กลับรู้สึกว่าเขาเหมือนเด็กน้อย ที่โกรธแค้นกันเรื่องเล็กๆ และเอาคืนในเรื่องที่ไร้สาระ

    “เอาคืน? แล้วฉันไปทำอะไรให้นายโกรธ อย่าบอกนะว่าแค่เรื่องที่ปั๊มน้ำมันนายถึงกับจะเอาคืนฉันเลยน่ะ ไร้สาระน่า” ฉันพูดพร้อมกับผลักโซ่ให้ถอยห่างแต่กลับโดนโซ่ยึดตัวเอาไว้ในอ้อมกอดแน่นกว่าเดิม

    “เธอไม่รู้จริงๆ หรือว่าแกล้งไม่รู้กันแน่”

    “อะไร? หมายถึงเรื่องอ้วกหรือเรื่องที่ฉันด่า ก็ฉันบอกว่าฉันขอโทษแล้วไง”

    “ผู้หญิงแบบเธอน่ะต้องเจอคนแบบฉัน ต่อให้อยากได้ของเก่าคืนมาก็คงยากแล้วล่ะ”

    “หมายความว่าไง!”

    ไม่ทันที่ฉันจะได้คำตอบจากโซ่ว่าเขาพูดถึงเรื่องอะไร ฉันก็ถูกโซ่รวบรัดตัดตอนประกบจูบด้วยริมฝีปากที่หยาดเยิ้มไปด้วยพิษขมของคำพูดที่ฉันก็ไม่อาจจะเข้าใจความหมาย มือที่รัดเอวเอาไว้ก่อนหน้ารัดฉันแน่นเอาไว้จนหน้าอกเราสองคนแนบชิดไร้ซึ่งอากาศพัดผ่าน

    ชุดนอนของฉันถูกถอดออกอย่างง่ายดายโดยไม่ทันได้ตั้งตัวเพราะพยายามใช้สติกับการแกะมือโซ่ออกจากมือของตัวเอง ฉันไม่ได้ส่งเสียงร้องออกไปเพราะมีปากที่เปียกชื้นนั้นคอยประกบปิดจนน้ำลายไหลเยิ้มลงจนถึงข้างแก้ม ทั้งน่าเกลียดและน่ากลัวกับพฤติกรรมที่ป่าเถื่อนของผู้ชายที่อยู่ตรงหน้า แต่ฉันกลับเริ่มเผลอตัวไปกับแรงจู่โจมและแววตาดุนั้นอย่างห้ามไม่ได้

    “ส่งเสียงร้องออกไปเมื่อไหร่ ฉันจะบอกไอ้พาร์ททันทีว่าเธอน่ะเป็นคนเรียกฉันมาและขอมีอะไรด้วย”

    “นายคิดว่าพาร์ทจะเชื่อเหรอ ฉันไม่ใช่คนแบบนั้น”

    “ก็ลองดู ดูสิว่าไอ้พาร์ทจะเชื่อเธอหรือฉันที่มันรู้จักมาตั้งแต่เด็ก”

    “O_O”

    ฉันมองหน้าโซ่อย่างนึกโมโห เขากำลังขู่ฉันเหรอ นี่ฉันทำอะไรไม่ได้เลยเหรอไง? ในขณะที่โซ่กำลังสนุกกับร่างกายของฉันแต่ฉันกลับรู้สึกเหมือนโดนรังแกแต่ดิ้นไม่ได้

    “นายทำแบบนี้เพื่ออะไร”

    ระหว่างที่โซ่กำลังสนุกกับร่างกายฉัน โซ่ก็เงยหน้ามาตอบโดยที่ฉันไม่ได้เตรียมตัวเตรียมใจกับคำตอบที่ได้รับ

    “เพื่อที่เธอจะได้ไม่ไปคบกับใครอีก”

    “อะไรของนาย นายไม่ได้ชอบฉันไม่ใช่เหรอแล้วทำไมต้องกั๊กฉันด้วย ฉันก็แค่อยากกลับไปคืนดีกับแฟนเก่า มันผิดเหรอ?” ฉันพูดออกไปอย่างโมโห แต่ก็พยายามซ่อนเสียงของตัวเองเอาไว้ไม่ให้ดังออกไปจนพาร์ทมาเห็นฉันในสภาพที่เสื้อผ้าถูกถอดออกและมีคนหื่นกามคร่อมร่างฉันอยู่แบบนี้

    “บอกเหรอว่าไม่ชอบ”

    “ก็นายบอกว่าผู้หญิงเวลาใครทำดีด้วยก็มักคิดไปเองว่าชอบ” ฉันทบทวนคำตอบของโซ่ให้เขาฟังอีกครั้ง เผื่อว่าเขาจะเผลอลืมอะไรไปแล้วทำงง ทำมึน แถไถไปเรื่อย

    “แล้วไง?”

    “สรุปว่านายชอบฉันเหรอ ชอบก็บอกว่าชอบสิ ทำไมต้องทำแบบนี้?”

    “ยังไม่ได้คิด”

    ไอ้บ้า! ยังไม่ได้คิด ฉันถอนใจเสียงดังจนเผลอทำหน้าฮึดฮัดใส่เขา

    “รู้แค่ว่า ต่อไปนี้เธออย่าไปคบใครอีกก็พอแล้ว โดยเฉพาะคนเก่าของเธอ เพราะไม่อย่างนั้น...” เขาจ้องหน้าฉันนิ่งแต่มือกลับบีบร่างกายฉันแน่นจนฉันหรี่ตาลงและอ้าปากค้างเพราะรู้สึกถึงความเจ็บปวดที่โซ่ได้ระบายลงมากับร่างกายฉัน

    “อ๊ะ เจ็บนะ เบาๆ สิ” ฉันเอามือปัดและบ่ายเบี่ยงไปที่แขนกำยำของโซ่อย่างร้องขอ คนบ้าอะไรแรงเยอะชะมัด ถึงอกฉันจะของจริงแต่ฉันก็กลัวแตกเหมือนกันนะเว้ย! “ตกลงไม่อย่างนั้นอะไร”

    ฉันจ้องมองไปที่โซ่เพื่อบอกให้เขารู้ว่าฉันยังรอคำตอบจากเขาอยู่

    “หึ! อยากรู้เหรอ”

    ฉันผงกหัวรับ เออ! ก็คนมันอยากรู้นี่ แล้วฉันทำอะไรพลาดลงไปตอนไหน ทำไมเขาถึงได้มาพาลลงที่ฉันล่ะเนี่ย

    “อยากรู้ก็นอนนิ่งๆ เดี๋ยวพอใจแล้วจะบอก”

    ดูคำตอบที่ได้รับสิ กวนตีนชะมัดเลย!

    “นายแค้นพี่เมสเหรอถึงได้มาลงกับฉัน มีเรื่องอะไรกันน่ะ”

    ฉันยิงคำถามกลับอย่างรู้สึกกลัวในคำตอบ นี่ถ้าโซ่แค้นพี่เมสแล้วมาลงที่ฉันนะ ฉันว่าเขาโคตรจะงี่เง่าเลย ซึ่งฉันไม่รู้อะไรเลยสักนิดว่าพี่เมสไปมีศัตรูอยู่ที่ไหน ฉันรู้แต่ว่าวันๆ หนึ่งของพี่เมสเขาก็เอาแต่วาดภาพ ทำโมเดล ถ้าไม่ตัดต่องานกับเพื่อนที่หอ ก็นั่งตัดต่องานเองที่ห้อง

    พี่เมสเที่ยวราตรีก็นานๆ ครั้ง หากจะบอกว่ามีเรื่องชกต่อยกันก็ไม่น่าจะใช่ เพราะพี่เมสเป็นคนที่สุภาพมากจริงๆ ขนาดฉันวีนแตกขนาดนั้นเขายังไม่ถือโทษโกรธติดเป็นอารมณ์เลย บางครั้งออกจะง้อฉันด้วยซ้ำ

    จนกระทั่งพี่เมสหันกลับไปคบกับแฟนเก่านี่แหละถึงทำให้พี่เมสทนฉันไม่ไหวอีกต่อไป แฟนเก่าพี่เมสน่าจะนิสัยดีมากๆ เลยล่ะ ถึงทำให้พี่เมสลืมเธอไม่ได้ แม้เวลาจะผ่านไปแล้วสามปีก็ตาม

    “ไม่แค้น แค่จะเอาคืน”

     

    บ้าจริง! เอาคืนเรื่องอะไรกันวะเนี่ย อย่าลากฉันไปเกี่ยวได้ไหม? ฉันไม่รู้เรื่องเว้ย!

     

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    นิยายที่ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    นักเขียนปิดการแสดงความคิดเห็น
    ×