ตอนที่ 15 : EP15 : ทางเลือก
Kiss Me Slowly
(Sunggyu x Woohyun)
Genre: AU School-Life
Rate: PG-13
EP15 – ทางเลือก
‘ถ้ากูใจดีกับมึงเหมือนคนอื่น มึงจะชอบกูไหม อูฮยอน’
คำพูดของคิมซองกยูทำให้เกิดความเงียบขึ้นราวกับว่าทั้งคนถามและคนฟังต่างตกใจกับนัยยะของคำถามจนต้องกลั้นหายใจพร้อมกัน
“ฮะ ฮะ” อูฮยอนหัวเราะออกมาหลังผ่านไปเกือบสองนาที “มึงเป็นอะไรเนี่ย พี่กยู ไข้ขึ้นหรือไง”
อาการใจกระตุกที่เกิดขึ้นถูกซ่อนไว้อย่างมิดชิดด้วยเสียงหัวเราะที่นัมอูฮยอนทำเหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้นและคำถามนั้นเป็นเรื่องปกติธรรมดาที่ไม่จำเป็นต้องเก็บมาตีความอะไร
“กู…”
ส่วนซองกยู เขารู้สึกว่าตัวเองพลาดไปเสียแล้ว อูฮยอนจะเข้าใจความหมายของคำพูดที่หลุดปากไปหรือเปล่าคนพูดเองก็ไม่แน่ใจนัก
“…”
“กูก็แค่อยากรู้…”
“มึงหมายถึงชอบแบบไหนล่ะ” เป็นครั้งแรกในชีวิตเลยก็ว่าได้ที่อูฮยอนรู้สึกได้ว่าน้ำเสียงของตัวเองกำลังสั่น
“กูหมายถึงว่าถ้ากูไม่กวนตีนมึงแล้วมึงจะเลิกเรียกกูว่าไอ้เหี้ยพี่กยูหรือเลิกด่ากูไหม ก็แค่นั้นแหละ มึงคิดไปถึงไหนเนี่ย” สุดท้ายแล้วก็เป็นซองกยูอีกครั้งที่ก่อกำแพงที่เหมือนจะพังลงไปให้สูงกลับขึ้นมาเท่าเดิม คำถามมีนัยประโยคนั้นถูกกลบเกลื่อนด้วยเสียงหัวเราะที่ฟังดูจืดเจื่อนฝืดฝืน แต่มันก็ดีที่สุดแล้วที่จะทำได้ในเวลานี้
สำหรับพวกเขาทั้งสองคน
“กูไม่มีทางชอบคนกวนส้นตีนแล้วก็ปากหมาไปทั่วอย่างมึงหรอก ไอ้พี่กยู ต่อให้มึงใจดีกับกู กูก็ยังเกลียดมึงแล้วก็จะด่ามึงอยู่ดีนั่นแหละ”
เมื่อซองกยูไม่ยอมให้กำแพงระหว่างกันพังลง มันก็คงไม่แปลกที่นัมอูฮยอนจะยิ่งก่อกำแพงให้สูงขึ้น คนเป็นน้องเคยเจ็บในใจมาแล้วก่อนหน้านี้ด้วยจูบที่ฝังใจว่ามันเกิดขึ้นเพียงเพราะความเมา แต่อูฮยอนกลับบ้าบอคอแตกไปรู้สึกดีกับจูบที่เกิดขึ้นด้วยความไม่ตั้งใจนั่น
คำพูดทีเล่นทีจริงของนัมอูฮยอนก็สมกันดีแล้วกับคนอย่างคิมซองกยู
“กูอยากให้มึงชอบกูตายแล้วนี่ กลับบ้านไปได้แล้วไป กูจะนอน” เสียงห้าวออกปากไล่ กลบเกลื่อนสีหน้าและแววตาที่ผิดปกติของตัวเองด้วยการเบือนหน้าหนีแล้วล้มตัวลงนอน ส่วนอูฮยอนก็เก็บจานข้าวที่ถือขึ้นมาเตรียมจะออกจากห้องไปเหมือนกัน
“พอกินอิ่มแล้วก็ถีบหัวกูส่งเลยนะ มึงจำไว้”
“ต้องให้กราบขอบคุณมึงหรือไง” คนที่นอนอยู่บนเตียงพูดโดยไม่หันมามอง ทั้งที่คำพูดคำจาระหว่างกันก็เป็นปกติ แต่ต่างฝ่ายต่างก็รู้ดีว่ามีบางอย่างแปลกไปและพวกเขาจะไม่มีวันกลับไปเป็นเหมือนเดิมได้อีกแล้ว ที่ทำได้ในตอนนี้ก็มีเพียงแค่การพยายามทำตัวเองให้เป็นปกติกับพยายามซ่อนความผิดปกติของความรู้สึกตัวเองให้มิดชิดที่สุดเท่าที่จะทำได้
“ได้ก็ดี๊” น้องชายพูดด้วยน้ำเสียงกวนประสาท อูฮยอนกำลังจะเดินออกไปจากห้องอยู่แล้วในตอนที่ซองกยูเรียกเขาขึ้นมาอีกครั้ง
“ไอ้อ้วน เดี๋ยวดิ วันจันทร์นี้กูยืมเสื้อวอร์มมึงหน่อย ตัวสีน้ำเงินอ่ะ กูจะเอาไปใช้ในชมรม”
“ได้” อูฮยอนตอบรับโดยไม่ขัดข้องอะไร มันเป็นปกติอยู่แล้วที่พวกเขาหยิบยืมสิ่งของของกันและกันแต่ซองกยูเพิ่งจะคิดได้ว่าตัวเองไม่ควรยืมเสื้อวอร์มของนัมอูฮยอนเลย เพราะถ้าหากว่าเขาไม่พูดเรื่องนี้ สิ่งที่อูฮยอนพูดทิ้งท้ายไว้ก่อนออกจากห้องไปก็คงจะไม่เกิดขึ้น
แล้วซองกยูก็คงไม่ต้องรู้สึกเจ็บที่ใจกับความห่างเหินที่นับวันจะมากขึ้นทุกที
“เดี๋ยวกูฝากกลับบ้านไปแล้วจะเอามาฝากคุณป้าไว้แล้วกัน เช้าวันจันทร์เราคงไม่ได้เจอกัน เพราะว่ากูจะไปโรงเรียนพร้อมพี่มินฮยอน”
เมื่อวันจันทร์มาถึง ทุกอย่างก็เป็นไปอย่างที่อูฮยอนบอกไว้ พวกเขาไม่เจอกันในตอนเช้าและเสื้อวอร์มที่ซองกยูยืมไว้ก็ถูกฝากไว้กับคุณนายคิมตั้งแต่ค่ำวันอาทิตย์ อาการไข้หวัดของซองกยูยังไม่หายดี แต่การสอบไฟนอลที่ใกล้เข้ามาทำให้เด็กหนุ่มไม่อยากขาดเรียนถ้าไม่จำเป็น แม้ว่าการเดินไปโรงเรียนโดยไม่มีนัมอูฮยอนไปพร้อมกันจะไม่ใช่เรื่องที่จะเคยชินหรือทำใจได้ง่าย แต่ซองกยูก็ไม่มีทางเลือกอะไรดีไปกว่าการพยายามทำใจให้ชินแล้วก็ออกจากบ้านให้เช้าขึ้นกว่าเดิม เพื่อที่จะได้ไม่ต้องเห็นว่าน้องชายข้างบ้านของตัวเองมีคนอื่นมายืนรออยู่หน้าบ้านแล้วเดินไปโรงเรียนด้วยกันอย่างมีความสุข
ในเส้นทางที่เคยมีแต่พวกเขาสองคนตลอดมา
“วันนี้นายดูเงียบ ๆ นะ” มินฮยอนพูดขึ้นมาหลังจากที่พวกเขาสองคนเพิ่งเสร็จจากซ้อมดนตรีในตอนเย็นและกำลังจะกลับบ้าน
“รุ่นพี่จะบอกว่าทุกวันผมพูดมากเสียงดังหนวกหูเหรอ” อูฮยอนกลบเกลื่อนความผิดปกติที่มินฮยอนพูดถึงด้วยการแสร้งทำเสียงขุ่นและตีหน้าบึ้ง พวกเขาเดินผ่านสนามบอลหลังลงมาและมันก็ช่วยไม่ได้เลยที่อูฮยอนจะมองหาใครบางคนในชมรมฟุตบอลที่หนุ่มน้อยรู้ว่าจะต้องกำลังซ้อมอยู่
“ไม่ใช่อย่างนั้น แค่ทุกวันนายจะชอบเล่าเรื่องนู้นเรื่องนี้ให้พี่ฟังไง” มินฮยอนหัวเราะพร้อมกับใช้มือขยี้ผมคนที่เดินมาข้างกันด้วยความเอ็นดู แล้วมันก็ช่างเป็นความบังเอิญที่ได้จังหวะพอเหมาะพอดีเสียเหลือเกิน เมื่อตอนที่พวกเขาสองคนเดินผ่านสนามบอลแล้วซองกยูเดินออกมาหลังซ้อมบอลเสร็จพอดี
“อูฮยอน” เสียงเรียกที่ได้ยินทำเอาเจ้าของชื่อชะงักไป เด็กหนุ่มหันไปมองพี่ชายข้างบ้านที่ยังอยู่ในชุดซ้อมบอลโดยมีเสื้อวอร์มของเขาสวมอยู่แล้วก็เม้มริมฝีปาก
เจอไอ้พี่บ้านี่ตอนที่ไม่น่าจะเจอกันเลย …
“ไง เพิ่งซ้อมบอลเสร็จเหรอ”
มินฮยอนทักทายพร้อมกับโบกมือให้ซองกยู พวกเขาหยุดยืนคุยกันอยู่ริมสนามบอลโดยที่ไม่รู้ว่ามีสายตาคู่หนึ่งของใครบางคนกำลังมองมาพร้อมกับยิ้มที่มุมปาก
บรรยากาศดีชะมัดเลยเย็นวันนี้ อยู่กันพร้อมหน้าพร้อมตาดี เหมาะที่จะเข้าไปร่วมวงสนทนาด้วยอีกสักคน
“เออ เพิ่งซ้อมเสร็จ เหนื่อยฉิบหาย หิวน้ำด้วย”
“เอานี่ไปก็ได้” มินฮยอนพูดพร้อมกับโยนขวดน้ำที่ถือติดมือมาให้ซองกยูไปขวดหนึ่ง
“เพิ่งซื้อมาเมื่อกี้ตอนลงจากตึก อูฮยอนซ้อมร้องเพลงนานอยู่นาน กลัวจะหิวน้ำเลยซื้อน้ำติดไว้ ยังไม่ได้กินเลย นายเอาไปเถอะ”
ฮวังมินฮยอนก็ยังคงเป็นคนที่ใจดีและมีน้ำใจต่อทุกคนที่อยู่รอบตัวเสมอ ต่อให้คน ๆ นั้นจะเป็น ‘พี่ชายข้างบ้าน’ ของแฟนตัวเองก็ตาม
“ใจดีจังเลยนะครับ รุ่นพี่ฮวังเนี่ย ใจดีกับทุกคนสมเป็นรุ่นพี่จริง ๆ” คำทักทายนั้นมาจากหนุ่มน้อยอีกคนที่เดินมาทางด้านหลังบริเวณที่อีกสามคนยืนอยู่ คิมแจฮวานยิ้มให้อูฮยอนที่มองมาอย่างแปลกใจว่าคนที่เข้ามาทักมินฮยอนคือใคร น่าแปลกใจอยู่เหมือนกันที่ทั้งไอ้พี่ซองกยูและฮวังมินฮยอนดูจะไม่แปลกใจกับคำทักทายนั่นนัก
“ฉันชื่อคิมแจฮวาน เรียนอยู่ปีเดียวกับนาย ยินดีที่ได้รู้จัก”
แจฮวานทักทายอูฮยอนอย่างง่าย ๆ ด้วยท่าทางเป็นมิตรแต่รอยยิ้มนั้นช่างไม่เข้ากันเสียเลยกับแววตาที่เลื่อนไปมองฮวังมินฮยอนหลังเขาจบคำทักทายกับอูฮยอนแล้ว
“ฉันเป็นเพื่อนใหม่ของคิมซองกยูแล้วก็เป็นเพื่อนของรุ่นพี่มินฮยอนด้วย”
“พวกพี่รู้จักกันเหรอ”
อูฮยอนหันไปถามซองกยู คิ้วสีเข้มเลิกขึ้นด้วยความแปลกใจที่รู้ว่าไอ้พี่ซองกยูมีเพื่อนเป็นเด็กรุ่นน้องด้วยทั้งที่ปกติแล้วเพื่อน ๆ ของซองกยูก็จะมีอยู่ไม่กี่คนแล้วก็ล้วนแต่เป็นคนที่อูฮยอนรู้จักทั้งนั้น
แล้วการที่รู้ว่าซองกยูมีเพื่อนที่ตัวเองไม่รู้จักมันก็ทำให้อูฮยอนรู้สึกว่าตัวเองไม่ใช่คนเดียวที่รู้ทุกเรื่องของซองกยูอีกแล้ว
ไม่ชอบเลย ความรู้สึกแบบนี้
ความรู้สึกที่หวงไอ้พี่ซองกยูกับเพื่อนใหม่ที่ชื่อคิมแจฮวานคนนี้ หวง พี่ชายข้างบ้านของตัวเองทั้งที่อูฮยอนยืนอยู่ข้างแฟนตัวเอง
“ก็ต้องรู้จักสิ เมื่อวานนี้หลังจากพวกนายไปกินข้าวกันมา ฉันกับซองกยูก็ไปกินกาแฟด้วยกัน”
คำพูดของแจฮวานทำให้อีกสามคนที่ได้ยินคำบอกเล่านี้ต่างมีสีหน้าที่ต่างกันออกไป แต่ที่แน่ ๆ คือมินฮยอนไม่สบายใจเอาเสียเลยที่อดีตคนรักของเขาเข้ามาร่วมวงสนทนาแบบนี้
“เอ้อ เย็นแล้ว พวกเรากลับบ้านกันสักทีดีไหม เดี๋ยวภารโรงก็ปิดประตูโรงเรียนแล้ว”
“ก็ดี” ซองกยูยักไหล่ เพราะอยากไปให้พ้นจากการเห็นอูฮยอนยืนอยู่ข้างคนอื่นเหมือนกัน ภาพที่ฮวังมินฮยอนลูบหัวไอ้อ้วนนี่ยังอยู่ในความคิด และซองกยูก็ไม่ได้อยากเห็นอีกเป็นครั้งที่สอง
“พวกมึงกลับก่อนเลย เดี๋ยวกูเอาลูกบอลไปเก็บก่อน”
มินฮยอนพยักหน้า เกือบจะคิดว่าสถานการณ์ชวนอึดอัดจะจบลงแค่นี้ ถ้าไม่ใช่เพราะคำพูดต่อมาของแจฮวาน
“งั้นเดี๋ยวฉันกลับบ้านพร้อมนายนะ ซองกยู” อดีตคนรักของมินฮยอนหันไปพูดกับซองกยู ซึ่งมันก็เป็นเพราะความอยากประชดหรืออะไรก็ไม่แน่ที่ทำให้ซองกยูพยักหน้า
ก็ในเมื่อไอ้อ้วนนั่นมันยังมีแฟนได้ แล้วทำไมซองกยูจะมีเพื่อนใหม่ไม่ได้บ้าง
“ไม่มีปัญหาอะไรนี่ อูฮยอนมึงกลับบ้านไปกับมินฮยอนเลยแล้วกัน เดี๋ยวกูไปกับแจฮวาน”
ไม่เคยมีสักครั้งที่คำพูดทำนองนี้จะออกมาจากปากคิมซองกยู หรือจะพูดให้อีกอย่างก็คืออูฮยอนไม่เคยถูกซองกยูผลักไสให้ไปกับคนอื่น เช่นเดียวกับที่อีกฝ่ายไม่เคยทิ้งอูฮยอนไว้ข้างหลังเพื่อเดินไปกับคนอื่นอย่างที่กำลังจะทำ และอาจเป็นเพราะสิ่งที่ซองกยูทำในเย็นวันนี้เป็นสิ่งที่อูฮยอนไม่เคยคิดว่ามันจะเกิดขึ้นได้ ดังนั้นมันก็เลยดูเหมือนว่าอาการที่เด็กหนุ่มยื่นแขนออกไปดึงชายเสื้อ 'พี่ชายข้างบ้าน' ของตัวเองเป็นเชิงรั้งไว้ไม่ให้ไปกับคิมแจฮวานมันก็จะเกิดขึ้นเพราะความรู้สึก ‘หวง’ จากหัวใจที่สั่งการโดยไม่ผ่านการกลั่นกรองจากสมองก่อน
“พี่กยู อย่าไป…”
TBC
อะไรของเทอน่ะ นัมอูฮยอน /มองจิก/ ไม่ไหวค่ะ ลูกเรา นิสัยไม่ดีมาอย่างปงอย่าไปอะไร อย่ามาทำเป็นหวง ที่งี้ล่ะมาทำเป็นหวง หมั่นไส้นังลูกนะคะ /เสี้ยมๆ แล้วพอเปนยังงี้พวกเราควรจะอยู่ทีมใครกันดี พี่กยูก็น่าสงสาร น้องมันก็รักเขาแต่เขาไม่พูดก็ไม่รู้จะทำไง แล้วนี่ยังมาหวงเขาอีกโถ้วว เขียนเองนี่เราก็ยังจะบ้าเอง เปนความสัมพันธ์ที่อึดอัดดีจังเลยค่ะ กำแพงแห่งพี่น้องเนี่ย มันยากมากจริงที่จะข้ามไป อ่า… อินละเกิน 555 จริงๆฟิคเรื่องนี้มันมีอะไรหลายอย่างมาจากเรื่องจริงและความแค้นบางอย่างของเราเอง ตัวละครในเรื่องก็เลยทำอะไรตามอารมณ์ล้วนๆเลยค่ะ มันมาจากอินเนอร์ เพราะว่าตอนเขียนเราก็อินมากเลย 5555 หวังว่าทุกคนก็จะอินไปกับเราจนถึงตอนจบเน่อ ฝากแท็ก #ข้างบ้านกยูอู แล้วก็ ขอบคุณทุกคนสำหรับการตอบรับที่ดีด้วย ขอบคุณมาก ๆ ที่เข้ามาอ่านกันทุกวันเลยนะคะ ดีใจมากจริง ๆ แล้วก็รู้สึกขอบคุณมาก ๆ อยู่เสมอเลยค่ะ รักนะ
นิยายที่ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ

โอ้ยยยย เอาแล้วปากแข็งกันจริงๆ เอาเลยค่ะแจฮวานช่วยทำให้ทั้งสองคนเลิกปากแข็งสักที อิอิ #ทีมแจฮวาน