ตอนที่ 14 : EP14 : ป่วย
(Sunggyu x Woohyun)
Genre: AU School-Life
Rate: PG-13
EP14 – ป่วย
‘หนาวอ่ะ’
‘ปวดหัวด้วย’
กอดหน่อย’
มันแน่นอนอยู่แล้วที่คำพูดแบบนี้ของซองกยูจะเป็นสิ่งที่อูฮยอนไม่เคยฟัง เพราะคนปากเสียแถมยังฟอร์มจัดแบบนี้ก็คงไม่อ้อนใครนอกจากแม่บังเกิดเกล้าของตัวเอง แต่วันนี้มันเป็นเพราะความเข้าใจผิดที่คิดไปเองว่าคนที่เปิดประตูเข้ามานั่งอยู่บนเตียงแล้วใช้มือแตะหน้าผากคือคนเป็นแม่ซองกยูจึงไม่รู้ตัวว่าตัวเองเผลออ้อนผิดคนไปเสียแล้ว
โดยเฉพาะอย่างยิ่งในตอนที่แขนข้างนั้นกอดเอวอูฮยอนเสียแน่น ลมหายใจอุ่นจัดผ่านเสื้อยืดตัวบางของอูฮยอนเข้าไปกระทบหน้าท้องพร้อมกับที่ซองกยูซุกหน้าเข้ากับหน้าท้องคนเป็นน้องพร้อมพูดอยู่ในลำคอเสียงอู้อี้
“แม่ ปวดหัวมากเลยอะ จะตายไหม…”
“อะ.. ไอ้ พี่กยู ปละ ปล่อยกู” หลังจากนั่งตัวแข็งทำอะไรไม่ถูกอยู่เป็นนาที อูฮยอนก็ใช้มือน้อย ๆ ของตัวเองฟาดลงบนบ่าคนที่นอนซบอยู่กับตัก “นี่กูเอง ไม่ใช่คุณป้า ปล่อย”
“เฮ้ย!”
เสียงที่ได้ยินทำให้ซองกยูตกใจไม่น้อยอยู่เหมือนกัน แล้วยิ่งเมื่อลืมตาแล้วเงยหน้าขึ้นมองว่าคนที่ตัวเองกอดไว้ซะแน่นแถมยังทำเสียงอ้อนไปเมื่อนาทีก่อนไม่ใช่แม่แต่เป็นไอ้อ้วนข้างบ้าน ซองกยูก็อยากจะแกล้งหลับต่อไปซะเดี๋ยวนี้ เด็กหนุ่มขยับตัวออกห่างจากตักของนัมอูฮยอนแทบไม่ทัน แทบสร่างไข้เป็นปลิดทิ้ง ซองกยูหน้าเหวอพอกันกับคนที่ถอยหลังไปนั่งอยู่แทบจะสุดขอบเตียงนั่นแหละ
“อะ… ไอ้อ้วน มึงมาได้ไงเนี่ย”
“กูก็เปิดประตูเข้ามาไง มึงนั่นแหละ เป็นบ้าอะไร อ้อนไม่ดูตาม้าตาเรือเลยนะมึงอะ”
“ใครอ้อนมึง”
“เออ กูก็รู้ว่ามึงไม่ได้อ้อนกูหรอก แต่” อูฮยอนหลุดเสียงหัวเราะออกมาเมื่อนึกถึงน้ำเสียงหงุงหงิงของคนที่ปกติแล้วมีแต่จะพูดกระโชกโฮกฮากใส่กัน
“พี่มึงอ้อนแล้วน่ารักอ่ะ ขนาดกูไม่ใช่แม่มึงยังว่ามึงน่ารักเลยเนี่ย”
อูฮยอนพูดแล้วก็หัวเราะคิกคัก ในขณะที่ซองกยูรู้สึกว่าตัวเองเสียศักดิ์ศรีอย่างสิ้นเชิง
มันต้องล้อกูไปอีกสามชาติแน่ ๆ …
“อูฮยอน มึงเงียบไปเลยนะ”
“ทำไม เขินเหรอ กูไม่บอกใครหรอกน่าว่าเวลามึงอ้อนแม่แล้วน่ารักเป็นบ้า กูอยากอัดคลิปไว้ดูเลยอ่ะ พี่มึงมาอ้อนใหม่อีกรอบดิ๊”
“อูฮยอน มึงอยากตายเหรอ”
ซองกยูทั้งหน้าและหูแดงไปหมดแล้วตอนนี้ ไม่แน่นักว่ามันเป็นเพราะไข้ขึ้นหรืออายกันแน่
“กูก็ไม่อยากตายนะ มีแต่พี่มึงไม่ใช่เหรอที่กลัวตายอะ”
“…”
“แม่ ปวดหัวมากเลยอะ จะตายไหม” ตัวแสบเลียนเสียงพี่ชายตัวเองแล้วก็หัวเราะเสียงดังลั่นจนซองกยูอยากจะใช้เท้าถีบเข้าให้สักที
“กอดหน่อย”
นี่ถ้าไม่ติดว่ากูป่วยอยู่ล่ะก็นะ
“อูฮยอน มึงหยุดเลย จะล้อกูอีกนานไหม”
“ไม่ได้ล้อสักหน่อย ก็กูชมว่ามึงน่ารักแล้วไง น่ารักจริง ๆ นะ”
“คำว่าน่ารักของมึงเนี่ยแหละที่ล้อกูอ่ะ”
“เอ้า” คนเป็นน้องหัวเราะออกมาอีกครั้ง “กูไม่ชมมึงก็ได้ งั้นกูกลับไปด่ามึงเหมือนเดิมดีกว่างั้น”
อูฮยอนพูดอย่างนึกขำกับท่าทางของคนเป็นพี่ชาย เขาขยับเข้าไปใกล้ซองกยูก่อนถามว่าอีกฝ่ายเป็นยังไงบ้าง
“กูก็เป็นไข้ไง ปวดหัวจะตายแล้วเนี่ย” ซองกยูพูดพร้อมกับยกมือจับศีรษะ ไม่ได้พูดเกินจริงเลยที่บอกว่าปวดหัวเหมือนจะตายเพราะตอนนี้ก็รู้สึกแบบนั้นจริง ๆ
“พี่มึงไปทำอะไรมาถึงไม่สบายอ่ะ ช่วงนี้อากาศก็ปกตินี่”
คำถามของน้องชายข้างบ้านทำให้ซองกยูส่งเสียง ‘หึ’ อยู่ในคอ
จะบอกมันได้ยังไงล่ะว่าสาเหตุที่ทำให้เป็นไข้ก็เพราะความเครียดและอดนอน แล้วเหตุผลที่อดนอนก็เพราะว่านอนไม่หลับจากการคิดเรื่องของมัน ภาพที่เห็นเมื่อเย็นวานนี้ยังคงติดอยู่ในความคิดของคิมซองกยูพร้อมความสับสนวุ่นวายทั้งในสมองและในหัวใจ เด็กหนุ่มปักใจเชื่อไปแล้วในสิ่งที่ตัวเองเห็นว่านัมอูฮยอนจูบกับฮวังมินฮยอนที่หน้าบ้าน มันไม่แปลกหรอกกับการที่คนซึ่งกำลังคบหาดูใจจะจูบกันหรือแม้แต่จะมีอะไรมากไปกว่านั้น แต่มันก็เป็นสิ่งที่น่าเจ็บปวดสำหรับซองกยูไม่น้อยอยู่เหมือนกันเมื่อนัมอูฮยอนคือคนที่เพิ่งจูบกับเขาเมื่อวันก่อนโดยไม่เต็มใจ แต่มันคงมีความสุขดีกับจูบของฮวังมินฮยอน
“ทำไมอ่ะ มึงทำไมชอบทำเสียงแบบนี้ตอนพูดกับกูอยู่เรื่อยเลยวะ มีอะไรก็พูดมาดิ”
“มึงไม่รู้ก็ดีแล้ว คนโง่อย่างมึงไม่ต้องรู้หรอก”
มึงไม่เคยรู้อะไรหรอกอูฮยอน ไม่เคยรู้อะไรเลย
ซองกยูพูดประโยคนั้นอยู่ในใจ แต่เขาเองก็คงไม่รู้เหมือนกันว่าสิ่งที่ตัวเองคิดอยู่นั้นก็ไม่ใช่สิ่งที่เกิดขึ้นทั้งหมด
โดยเฉพาะอย่างยิ่งเรื่องที่อูฮยอนจูบกับฮวังมินฮยอน
“ถ้ากูโง่มึงก็มีน้องโง่อ่ะ แล้วนี่กินข้าวหรือยัง” อดไม่ได้ที่จะถามเพราะเป็นห่วง ถึงไอ้พี่บ้านี่มันจะกวนส้นตีนก็เถอะ
“ข้าวเช้ากินแล้ว”
“กลางวันอะ”
“เป็นแม่กูหรือไง จะกินหรือยังไม่กินก็เรื่องของกู”
“ก็กูเป็นห่วงมึงไม่ได้เหรอ”
คำพูดนั้นหลุดออกมาก่อนที่อูฮยอนจะทันคิดด้วยซ้ำว่าไม่ควรพูด ตลอดเวลาที่ผ่านมาเคยพูดดี ๆ กันเสียที่ไหนแล้วอยู่ ๆ จะมาบอกว่าเป็นห่วงมันก็แปลก ๆ อยู่ แต่อย่างไรก็แล้วแต่ คำพูดนั้นก็ออกจากปากไปแล้วโดยที่คนพูดห้ามตัวเองไม่ทันในขณะที่คนฟังก็ชะงักไป
มึงเป็นห่วงกูในฐานะอะไรล่ะ นัมอูฮยอน
มันคงจะดีถ้าหากว่าซองกยูพูดทุกอย่างที่ตัวเองคิดออกไป เช่นเดียวกับที่มันคงง่ายกว่านี้มากหากอูฮยอนรู้จักตัวเองดีกว่านี้
“เดี๋ยวกูไปเอาข้าวขึ้นมาให้ คุณป้ายังอยู่ที่บ้านกูอยู่เลยตอนกูเดินมานี่ คุณป้าสั่งกูไว้แล้วว่าให้มาดูมึงกินข้าวกินยา” นั่นเป็นคำโกหกแทบทั้งหมด แต่มันก็เกิดขึ้นเพราะความหวังดีเพราะอูฮยอนคิดว่ายังไงไอ้พี่บ้านี่มันก็ไม่มีทางขัดคำสั่งแม่ตัวเองแน่นอน
“เดี๋ยวกูไปเอาข้าวมาให้ มึงกินซะด้วย รอแป๊บนึง เดี๋ยวกูมา”
อูฮยอนพูดแล้วก็เดินออกไปจากห้องโดยไม่รอฟังว่าอีกคนจะพูดอะไร แต่ถ้าอูฮยอนจะหันกลับมามองสักนิด บางทีหนุ่มน้อยคนนั้นอาจจะดีใจก็ได้ที่คำว่า ‘เป็นห่วง’ ของตัวเอง ทำให้คนที่ดื้อและฟอร์มจัดยิ่งกว่าใครอย่างคิมซองกยูยิ้มออกมาได้
อย่างน้อยในวันที่วุ่นวายใจและสับสนจนส่งผลให้ร่างกายซองกยูแปรปรวนไปหมดแบบนี้ก็ยังมีเรื่องดี ๆ เกิดขึ้นบ้าง ไม่ว่าคำว่า ‘เป็นห่วง’ กับการแสดงออกถึงความเป็นห่วงของนัมอูฮยอนจะมีเหตุผลมาจากคำสั่งของของแม่ซองกยูหรือเป็นเพียงเพราะว่าซองกยูอยู่ในฐานะ ‘พี่ชายข้างบ้าน’ ของเด็กคนนั้นก็ตาม
อูฮยอนใช้เวลาไม่นานในการลงไปจัดการอุ่นอาหารที่คุณนายคิมเตรียมไว้แล้วยกขึ้นมาให้พร้อมยาลดไข้ แม่ของซองกยูกลับมาตอนที่อูฮยอนกำลังหายาแก้ไข้อยู่พอดี นอกจากความโชคดีที่ได้ยาแล้วมันจึงเป็นเรื่องดีอีกอย่างหนึ่งด้วยที่ซองกยูจะไม่มีทางรู้ว่าอูฮยอนใช้แม่ของอีกฝ่ายเป็นข้ออ้างในการแสดงออกถึงความเป็นห่วงของตัวเอง
ซองกยูกินข้าวที่อูฮยอนยกขึ้นมาให้ไปเงียบ ๆ ในขณะที่คนเป็นน้องก็นั่งเล่นมือถืออยู่เงียบ ๆ เช่นกัน ดูเหมือนว่าอาการป่วยจะมีข้อดีอย่างหนึ่งก็คือทำให้เด็กหนุ่มลดความปากไม่ดีของตัวเองลงไปได้มาก เขากับนัมอูฮยอนจึงไม่ได้เถียงกันทุกสามประโยคเหมือนที่เป็นอยู่แทบทุกวัน
“อิ่มแล้วเหรอ” อูฮยอนถามพร้อมกับขมวดคิ้ว เมื่อเห็นซองกยูวางช้อนแล้วหยิบแผงยาลดไข้มาฉีก “ทำไมมึงกินน้อยจังอ่ะ ข้าวเหลือเต็มเลย”
“ก็กูป่วยอยู่ จะให้กินเยอะขนาดไหนอ่ะ ตอนมึงป่วยมึงเคยกินข้าวหมดหรือไง”
“แต่พี่มึงกินไปไม่กี่คำเองนะ”
“กูเจ็บคอ ไม่อยากกินแล้ว”
“ถ้ามึงไม่กินข้าวเยอะ ๆ แล้วเมื่อไรมึงจะหายดีอ่ะ” อูฮยอนทำหน้ามุ่ย ถ้าจะพูดตามความจริงแล้วก็ไม่ชอบนักหรอกที่เห็นไอ้พี่บ้านี่มันป่วยแล้วเงียบแบบนี้ ถึงปกติแล้วความปากหมาของมันจะทำให้อูฮยอนโมโหหัวฟัดหัวเหวี่ยงเวลาโดนมันแกล้ง แต่มันก็ดีกว่าการที่มันจะไม่ปากหมาเพราะป่วยแบบนี้
“ถึงเวลามึงป่วยจะไม่ปากหมากวนตีนกูเหมือนตอนมึงดี ๆ แต่กูก็ไม่ได้อยากให้มึงป่วยหรอกนะ ไอ้พี่กยู”
เป็นอีกครั้งที่อูฮยอนพูดความรู้สึกของตัวเองออกมาโดยไม่รู้ตัว ใจจริงแล้วก็อยากจะบังคับให้ซองกยูกินข้าวต่ออย่างน้อยอีกสามสี่คำก็ยังดี แต่ก็เข้าใจว่าคนป่วยโดยปกติแล้วจะเบื่ออาหารก็เลยไม่อยากจะไปบังคับอะไรซองกยูอีก แต่คำพูดที่เพิ่งพูดออกมานั่นกลับทำให้คนที่ได้ยินคิดอะไรบางอย่างขึ้นมาได้
นั่นสินะ ถ้าไม่ใช่เพราะป่วยไอ้อ้วนนี่ก็ไม่ต้องมาช่วยหาข้าวหายาให้กินแบบนี้หรอก แล้วเขากับมันก็คงจะทั้งเถียงกันแล้วก็ด่ากันเหมือนที่ทำอยู่ทุกครั้งที่พูดกัน เพราะมันแทบนับครั้งได้เลยที่ซองกยูกับไอ้อ้วนนี่จะพูดกันดี ๆ ได้ไม่ว่าจะเป็นเรื่องอะไรก็ตาม
แล้วทุกครั้งมันก็จะเป็นซองกยูเองที่หาเรื่องกวนประสาทมาแกล้งน้องชายข้างบ้านของตัวเองอยู่เสมอ นานแค่ไหนแล้วนะที่ความสัมพันธ์ของเราเป็นแบบนี้และเพราะซองกยูเป็นแบบนี้หรือเปล่าไอ้อ้วนนี่มันถึงบ่นอยู่เสมอว่าซองกยูไม่เคยพูดดี ๆ กับมันเลย
มีแต่ซองกยูที่ปากเสีย
ซองกยูที่ไม่เคยทำดีหรือแม้แต่จะพูดดี ๆ กับคนตรงหน้าเลยสักครั้ง
ซองกยูที่เป็นแบบนี้
ซองกยูที่ตรงข้ามทุกอย่างกับคนที่นัมอูฮยอนชอบ
“อูฮยอน”
“หือ” น้องชายเงยหน้าขึ้นมาจากจอมือถือ “อะไรเหรอ”
“ถ้ากูไม่เป็นแบบนี้ มึงจะดีใจไหม”
“…” สายตาของอูฮยอนบ่งบอกว่าไม่เข้าใจคำพูดของซองกยูเลยแม้แต่น้อย
“ถ้ากูพูดดี ๆ ไม่กวนโมโห ไม่หาเรื่องทะเลาะกับมึง ถ้ากูทำดีกับมึงเหมือนที่คนอื่นเขาทำ”
คำว่า ‘คนอื่น’ ที่ซองกยูพูดถึง คงมีแต่คนพูดเท่านั้นที่รู้ว่าตัวเองตั้งใจพูดถึงใคร
“ถ้ากูใจดีกับมึงเหมือนคนอื่น มึงจะชอบกูไหม อูฮยอน”
TBC
กี้ดดด ตอนที่สิบสี่แล้วค่ะ เมื่อมาถึงตอนสิบสี่ก็เกือบครึ่งเรื่องแล้วนะคะแล้วหลังจากนี้ก็จะเข้าสู่ช่วงดราม่าตบกันๆๆๆ #ไม่ใช่ อยากเขียนพี่กยูโหมดอ้อนจังค่ะ แต่ตัวอักษรบังคับไม่ให้เวิ่นเว้อ 5555 เอาแค่นี้พอเด๋วหลุดคาแรกเท่อคนปากหมา ให้เขารักกันดีๆก่อนค่อยเปิดโหมดนั้น ส่วนตอนนี้ก็.... ลุ้นต่อไปค่ะ น้องดาวจะตอบว่าไง ชอบหรือมั่ยยย แต่พี่ปากหมาแบบนี้น้องชอบค่ะ ทับจั่ย เขียนเองน้องก็ชอบเอง ใครชอบเหมือนเราก็บอกมาได้ ใครไม่ชอบก็เงียบไว้พอค่ะ ไปอยู่ทีมพี่มินไปชิ่ว ๆ 5555 เจอกันพะนี้เหมือนเคย ฝากแท็ก #ข้างบ้านกยูอู ด้วย แท็กเถอะเนาะ เราชอบอ่าน ขอบคุงค่า ชอบคุณด้วย คุทุกคนที่เข้ามาอ่านนั่นแหละค่ะ รักนะคะ <3
นิยายที่ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ

ปากไม่ดีแต่จริงใจนะคะ เดี๋ยวพอรู้ตัวทั้งสองคนแล้ว
ก็คง...ไม่ออก5555 เข้ามาอ่านทุกวันเลยนะ
ขอบคุณโคจังมากค่ะ
กด 2 มั่ยชอบ
รอพรุ่งนี้ รออออออออ