ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    [K]-Gent ร้ายขั้นสุด...สุภาพบุรุษสองหน้า [เซ็ต รร. K]

    ลำดับตอนที่ #24 : หญิงสาวต้องห้าม

    • เนื้อหาตอนนี้เปิดให้อ่าน
    • 13.15K
      96
      13 ก.พ. 60

     

     

    เธอไม่เป็นอะไรมากแล้วใช่มั้ยคะหมอ

    ฉันได้ยินเสียงคนคุยกันดังแว่วๆ เข้ามาในหู นี่ฉันอยู่ที่ไหนกันนะ หมอ??? O_O แปลว่าตอนนี้ฉันก็ต้องนอนอยู่ในโรงพยาบาลน่ะสิ เอาอีกแล้วเรอะ! เข้าโรงพยาบาลรอบที่เท่าไหร่แล้วเนี่ย ปีนี้มันปีชงของฉันหรือไงกันนะ U_U

    ครับ...หมอล้างท้องให้แล้ว หลังจากนี้ก็แค่พักผ่อนให้มีเรี่ยวมีแรงขึ้นมาสักหน่อย ถ้ารู้สึกดีขึ้นแล้วก็กลับบ้านได้ครับ

    ละ...ล้างท้อง O_O

    ประโยคนี้ทำให้ตาฉันที่ตอนแรกแทบจะลืมไม่ขึ้นถึงกับเบิกโพลงขึ้นมาทันที ล้างท้อง? ล้างท้องอัลไล =[]= ใครมาเขียนอะไรไว้บนท้องฉันหรือเปล่าจ๊า ถึงกับต้องล้างออก ไม่สิ! นี่ไม่ใช่เวลามาเล่นตลก ฉันไม่ได้กินยาตายสักหน่อย จะมาล้างท้องฉันทำไม เกิดอะไรขึ้นกับฉันกันแน่เนี่ย TOT

    ล้างท้องเลยเหรอคะ มันหนักขนาดนั้นเลยเหรอคะหมอ =[]=’

    ก็ไม่ได้หนักขนาดนั้นหรอกครับ อาจารย์ไม่ต้องตกใจ ไม่ใช่เรื่องใหญ่โตอะไรมากมาย เธอแค่ทานยาแก้แพ้มากเกินขนาดไปหน่อย พอดีว่ายาตัวนี้มีสาร Chlorpheniramine ที่ทำให้เกิดเอฟเฟ็กต์รุนแรงต่อร่างกาย ใจสั่นเพราะหัวใจทำงานหนักเกินไป หายใจลำบาก เบลอ และจะมีอาการเหมือนง่วงนอนตลอดเวลา หมอเลยต้องล้างท้องให้ เพื่อที่จะได้กำจัดสารตัวนี้ออกไปจากร่างกายโดยเร็วครับ

    ดะ...เดี๋ยวนะ O_O

    ยาแก้แพ้? ยาแก้แพ้อะไรวะ!!! ฉันไม่เคยกินยาแก้แพ้เลยนะ แล้วมันเข้าไปอยู่ในท้องฉันได้ไง นี่ใครเล่นของ เสกยาแก้แพ้เข้าท้องฉันเหรอ =[]= หรือว่าจะเป็นยาที่ฉันกินเข้าไปเมื่อเช้า แต่ไม่น่าใช่คนโดนรถชน หมอจะจัดยาแก้แพ้มาให้ทำไม แล้วถึงจะจัดให้ก็ไม่น่าจะให้มากจนเกินขนาดนี่นา เรื่องมันกลายเป็นแบบนี้ได้ยังไง งงไปหมดแล้วนะ U_U

    หมอคะ...หนูไม่เคยทานยาแก้แพ้เลยนะคะ ในที่สุดฉันก็พยายามฮึดสู้ ลุกขึ้นมานั่งพิงหมอนแล้วตะโกนออกมาด้วยเสียงอันดัง ก่อนจะมองไปรอบๆ...

    ที่นี่คือโรงพยาบาลจริงๆ ด้วย -O- มิสโดโรธีกำลังยืนคุยกับหมออยู่ ส่วนอีตาเทเลอร์นั่งทำหน้าไม่รู้ไม่ชี้อยู่บนโซฟาเฝ้าไข้ ว่าแต่เขาเกี่ยวอะไรด้วยไม่ทราบ มานั่งเสนอหน้าอยู่ตรงนี้ทำไมยะ เจ๋อ!

    เอ...แต่หมอตรวจพบว่าสารนี้มันมาจากยาแก้แพ้นะครับ ปกติไม่ควรกินเกินหนึ่งเม็ดต่อครั้ง แต่จากการส่งตรวจ พบว่าปริมาณที่หนูทานเข้าไปเทียบเท่ากับยาแก้แพ้สี่เม็ดเลยนะ

    นึกดูดีๆ นะมารีญา เธอได้กินยาแก้แพ้เข้าไปบ้างหรือเปล่า หรือกินยาผิดเข้าไปมั้ย ทำไมกินเข้าไปตั้งสี่เม็ดล่ะ หืม?มิสโดโรธีพยายามเค้นถาม

    แต่ว่า...หนูไม่ได้...

    เอ๊ะ! เหมือนจะนึกได้รางๆ แฮะ เมื่อเช้านี้ฉันกินยาเข้าไปสี่เม็ดจริงๆ ด้วย แต่นั่นก็ไม่น่าจะเป็นยาแก้แพ้ทั้งหมดนี่นา หรือว่า...

    ขวับ!

    ฉันหันไปจ้องหน้าอีตาเทเลอร์อย่างต้องการจะเค้นความจริงออกมาจากเขาให้ได้ แต่อีตาเทเลอร์ยักไหล่แล้วอมยิ้มมุมปาก ทำท่าทางมีพิรุธ บ่งบอกชัดเจนว่าเขามีส่วนรู้เห็นกับไอ้ยาแก้แพ้สี่เม็ดนี้แน่ๆ

    ไอ้เลวววววว -_-++++

    อ่า...นึกออกแล้วค่ะมิส หนูอาจจะทานยาผิดไปจริงๆ คิดว่าเป็นยาลดไข้น่ะค่ะ

    เวรกรรม นี่มันอันตรายมากนะ คราวหลังก็ต้องดูให้ดีๆ ก่อน ถ้าเกิดช็อกตายขึ้นมาจะว่าไง

    หนูขอโทษค่ะมิส (._.)”

    แล้วทำไมฉันต้องเป็นฝ่ายขอโทษด้วยเนี่ย นั่น! ไอ้หมอนั่น ตัวการนั่งอยู่ตรงนั้น ทำไมไม่มีใครรู้เลย ฮือออ อีตาเทเลอร์วางยาฉัน ฉันอยากฆ่าเขาาา >O<

    ครับ งั้นคราวหลังต้องระวังหน่อยนะครับ หมอช่วยย้ำอีกแรง โชคดีที่มาล้างท้องได้ทัน หมอตรวจพบว่าคลื่นหัวใจของหนูทำงานผิดปกติด้วย อาจเป็นเพราะไม่ค่อยได้ออกกำลังกาย ถ้าหลงทานไปเยอะกว่านี้อาจถึงตายได้เลยนะครับเนี่ย

    จะ...จริงเหรอคะหมอ TOT”

    ไอ้เทเลอร์! มันจะฆ่าฉันแล้ววว >_<

    ครับ...ยังไงหลังจากนี้หมั่นออกกำลังกายด้วยนะครับ สุขภาพจะได้แข็งแรง งั้นหมอขอตัวก่อนนะครับ พอดีมีเคสอื่นต่อ

    ค่ะ มิสโดโรธีตอบแทนฉัน ขอบคุณมากนะคะหมอ

    หมอผละออกไปแล้ว มิสโดโรธีก็เลยสบโอกาสหันมาเทศนาฉันต่อ

    คราวหลังไม่เอาแบบนี้แล้วนะ เกิดเป็นอะไรขึ้นมาฉันขี้เกียจมานั่งรับผิดชอบ นี่ยังโชคดีนะที่เธอเป็นคนสุดท้ายพอดี ไม่งั้นการประกวดคงล่มไม่เป็นท่า เพราะเธอคนเดียวแท้ๆ ทำเอาวุ่นวายกันไปหมด -*-”

    เพราะอีตาเทเลอร์ต่างหาก เพราะเขาทั้งน้านนนนนน TOT

    อย่าว่ามารีเลยครับ เธอคงกลัวพลาดงานประกวดนี้มากถึงได้อัดยาไปเยอะขนาดนั้น เธอมีความตั้งใจดีจริงๆ นะครับมิส ผมเป็นพยานได้ :)

    ไอ้สร้างภาพ!!! -_-+++

    อืม...ก็จริงของเธอ แต่ยังไงก็ต้องห่วงสุขภาพตัวเองก่อนนะมารี เธอเข้าใจใช่มั้ย

    ...เข้ากันดีเป็นปี่เป็นขลุ่ย -_-;

    ค่ะ...หนูขอโทษค่ะฉันไม่แก้ตัวใดๆ เพราะรู้ว่าพูดไปก็เหมือนหมาเห่าใบตองแห้ง ไม่มีใครเชื่อฉันหรอก แต่มิสคะ เรื่องนี้...ไม่บอกพ่อกับแม่หนูได้มั้ยคะ T^T”

    ทำไมล่ะ...อันที่จริงฉันก็โทรหาแม่เธอแล้วนะ แต่โทรไม่ติด ส่วนเบอร์พ่อเธอมันขึ้นว่าหมายเลขนี้ยังไม่เปิดใช้บริการ

    อ้อ...ค่อยยังชั่ว แสดงว่าทางโรงเรียนยังไม่มีเบอร์ใหม่ของพ่อฉัน ส่วนแม่นี่โทรไม่ติดก็ไม่แปลก นางติดต่อยากที่สุดในสามโลก ขนาดฉันเป็นลูกบางทียังต้องโทรติดต่อผ่านเลขาฯ เลยด้วยซ้ำ ไม่เข้าใจเหมือนกันว่า บ.ก. หนังสือพิมพ์เป็นอย่างนี้กันทุกคนมั้ย =_=

    โล่งอกไปค่ะ หนูไม่อยากให้พ่อกับแม่เป็นห่วง คิดว่าได้นอนพักอีกสักหน่อยก็น่าจะหายแล้ว

    ตามใจ เพราะยังไงฉันก็ติดต่อพ่อกับแม่เธอไม่ได้อยู่ดี งั้นเดี๋ยวฉันกลับไปสอนต่อก่อนล่ะ ส่วนเทเลอร์ ฝากดูแลมารีด้วยนะ ถ้าอาการดีขึ้นแล้วเธอก็กลับมาเรียนต่อได้ ยังไงช่วงเช้าฉันจะทำเรื่องขอหยุดให้เธอโดยไม่ตัดคะแนนความประพฤติ แต่ถ้าดูแล้วอาการมารีไม่ดีขึ้นก็อย่าลืมโทรแจ้งฉันด้วยล่ะ

    ครับมิส...ผมจะดูแลให้อย่างดีเลยครับ ^^”

    ดี...งั้นฉันไปก่อนนะ เธอก็หายไวๆ ล่ะ

    ประโยคหลังมิสโดโรธีหันมายิ้มกับฉันก่อนจะเดินออกจากห้องไป หึๆ เวลานี้แหละที่ฉันจะได้ปะฉะดะกับเขาได้เต็มที่สักที อัดอั้นมานานแล้วโว้ยยย -_-+++++

    นาย!...นายมันเลวที่สุด!!!”

    หืม? เธอด่าฉันเหรอ นี่คงไม่รู้ใช่มั้ยเนี่ยว่าฉันเป็นคนอุ้มเธอขึ้นแท็กซี่มาส่งที่โรงพยาบาลพร้อมกับมิสโดโรธีน่ะ ทำกับผู้มีพระคุณแบบนี้ได้เหรอ *O*”

    กล้าพูด! นายแอบมาเปลี่ยนยาของฉันใช่มั้ย!!! เมื่อเช้านี้ยาที่ฉันกินเข้าไปสี่เม็ดมันเป็นยาแก้แพ้ล้วนๆ ฉันเกือบตายแล้วนะเว้ย!!!”

    โธ่! ทำเป็นใจเสาะไปได้ แค่ยาแก้แพ้สี่เม็ดไม่ถึงกับตายหรอก

    หมอบอกว่าถ้ากินเข้าไปเยอะกว่านี้ฉันอาจถึงตายได้เลยนะ -_-^^^”

    ก็ใครจะไปรู้ล่ะว่าเธอมีอาการคลื่นหัวใจผิดปกติอะไรนั่นด้วย ฉันเองก็เคยกินยาแก้แพ้เข้าไปสองสามเม็ดเหมือนกัน อาการก็คล้ายๆ เธอนั่นแหละ แต่ไม่ยักตาย

    นี่มันสี่เม็ด!!!!!!”

    ก็ช่วยไม่ได้นี่นา ฉันบอกเธอแล้วว่าให้เลิกยุ่งเรื่องของฉัน เธอก็ไม่ยอมเลิก เลิกยุ่งสักทีสิ ทุกอย่างจะได้จบ ฉันก็จะได้ไม่ต้องทำอะไรเธออีก

    โอ๊ย! พูดง่ายนี่ มาถึงขั้นนี้แล้ว ฉันเกือบสังเวยชีวิตเพราะเขามาก็ตั้งหลายครั้ง บอกเลยตอนนี้ต่อให้เข้า ICU ฉันก็ไม่มีวันเลิก ชีวิตเขาจะต้องพังคามือฉันให้ได้ คอยดู!!!

    ฝันไปเถอะว่าฉันจะเลิก ยิ่งนายทำแบบนี้ฉันยิ่งไม่อยากเลิก มันแปลว่าความลับของนายมันช่างยิ่งใหญ่ น่าค้นหา มีเงื่อนงำ เพราะงั้นฉันจะต้องรู้ให้ได้!”

    ถึงเธอจะไม่ยอมเลิก แต่ยังไงก็คงหมดหวังจะได้เป็นปริ๊นเซสคู่กับฉันแล้วล่ะ ตอบคำถามก็ไม่จบ แถมยังสลบกลางคัน ดูท่าทางจะไปไม่รอด :)

    ก็ไม่เป็นไร ฉันยังมีวิธีอื่นอีกเยอะแยะ ความลับไม่มีในโลกหรอก และฉันนี่แหละที่จะเป็นคนแฉความลับของนายเอง

    ตามใจ! อยากทำอะไรก็ทำ อย่าหาว่าฉันไม่เตือนก็แล้วกัน

    เตือนให้ตายก็ไม่ฟัง

    ได้...โอเค ฉันจะรอดู!!!”

    เทเลอร์หงุดหงิดมาก ดูท่าทางคงพยายามระงับอารมณ์น่าดู ไม่อย่างนั้นคงพุ่งเข้ามาบีบคอฉันให้ตายคามือไปละ เขาจ้องหน้าฉันเหมือนจะฉีกกินเป็นชิ้นๆ จากนั้นก็ยกมือขึ้นต่อยโซฟาอย่างแรงหนึ่งที ก่อนจะลุกพรวดขึ้น คว้ากระเป๋าเป้ขึ้นพาดบ่าแล้วก็เดินหนีออกจากห้องไปเลย...

    หึ! เรื่องพวกนี้ทำอะไรฉันไม่ได้หรอก ฉันสู้ชีวิตมากกว่าที่เขาคิดเยอะ...ไม่งั้นจะมาเป็นนักข่าวได้เหรอ ฉันเห็นแม่ฉันกว่าจะได้ข่าวอะไรเจ๋งๆ มาขายต้องแลกกับน้ำตาเป็นถังๆ และโรคซึมเศร้ามาเป็นของแถม สิ่งที่ฉันเจอมันยังแค่เรื่องเล็กน้อย ถ้าเรื่องแค่นี้ฉันยังทำไม่สำเร็จก็เลิกคิดที่จะเป็นนักข่าวเถอะ สายอาชีพนี้คงไม่เหมาะกับฉันแล้วล่ะ T^T

     

    ตกเย็น...

    ฉันนอนหลับๆ ตื่นๆ ตลอดทั้งวันเพราะฤทธิ์ยาหรือเพราะอะไรก็ไม่รู้ ส่วนอาหารและยาที่พยาบาลเอามาวางไว้ให้ ฉันก็ไม่ค่อยกล้ากินเท่าไหร่ (ยังระแวงอยู่ >O<) แต่เริ่มรู้สึกได้แล้วล่ะว่าอาการดีขึ้น ไม่ค่อยปวดหัวเหมือนช่วงแรกๆ แล้ว

    เฮ้อ~ แต่จะว่าไป ฉันไปขู่เทเลอร์เขาฟอดๆ แบบนั้น นี่ก็ยังนึกไม่ออกเลยนะว่าจะทำยังไงต่อไปดี แผนจะตามเป็นปริ๊นเซสเกาะติดเขาเป็นลูกลิงก็พังไปแล้ว ส่วนเรื่องหนังสือรุ่นก็ไม่ต้องพูดถึง ถูกเอาไปเผาทิ้งเรียบร้อยโรงเรียนเทเลอร์...แต่เอ๊ะ! เดี๋ยวนะ O_o ตอนนั้นฉันถือแต่หนังสือรุ่นของ ม.5 ไว้ในมือนี่นา แต่หนังสือรุ่นของ ม.6 ยังคงอยู่ในกระเป๋า เขาไม่ได้เอาไปด้วย!!!

    งั้นก็ไม่แน่นะ ยัยนี่อาจจะอยู่ ม.6 ก็ได้ ต้องลองเปิดดู...

    หมับ~

    ฉันเอื้อมมือไปคว้ากระเป๋านักเรียนที่วางอยู่บนโต๊ะหัวเตียงขึ้นมารื้อด้วยความกระตือรือร้น ตอนหาหนังสือเรียนยังไม่จริงจังขนาดนี้ พูดเลยยย~~

    ฟุ่บ!~

    นี่ไงล่ะ! >O< มันยังอยู่จริงๆ ด้วย งั้นเรามาลองเปิดดูกันหน่อยดีกว่าว่ายัยเออะไรนั่นใช่นักเรียน ม.6 ของโรงเรียนนี้หรือเปล่า

    พึ่บพั่บ~

    พึ่บพั่บ~

    ไม่มี...

    นี่พยายามเปิดช้าๆ และคอยสังเกตดูอย่างละเอียดแล้วนะ แต่ก็ไม่มีใครที่เข้าเค้าเลยอ่ะ T^T งั้นก็แปลว่ายัยนี่ต้องเป็นนักเรียนชั้น ม.5 แน่ๆ เออ! จริงด้วย ฉันนี่โง่จริง ถ้ายัยนี่ไม่ใช่เด็ก ม.5 อีตาเทเลอร์จะเอาหนงสือรุ่นไปเผาทิ้งทำไมกันล่ะ แปลว่าฉันหยิบมาถูกเล่มแล้วเขาถึงได้ร้อนตัวรีบเอาไปทำลายทิ้งแบบนั้นน่ะ

    โอ๊ย! เสียเวลาชะมัด =_=

    แต่ไม่เป็นไร...

    อย่าลืมสิว่าอย่างน้อยตอนนี้ฉันก็รู้แล้วว่ายัยนี่อยู่ ม.5 คราวนี้ก็ไม่ใช่เรื่องยากอีกต่อไปแล้ว หนังสือรุ่นมีตั้งหลายเล่ม จะไปขอยืมใครก็ได้นี่ ว่าแล้วก็โทรหายัยเจ้าของหนังสือรุ่น ม.5 หน่อยดีกว่า แล้วก็บอกนางไปว่าขอโทษที่ทำหนังสือหายเพราะไอ้เจ้าแฟนตัวดีรู้ทันก็เลยเอาไปเผาทิ้ง เดี๋ยวไว้ซีร็อกซ์สีให้ใหม่ทั้งเล่มเลยแล้วกันนะ แต่ตอนนี้...ช่วยไปยืมคนอื่นมาให้ใหม่ก่อนเนอะ 555555

    ตู๊ด...ตู๊ด

    [หมายเลขที่ท่านเรียก ไม่สามารถติดต่อได้ในขณะนี้...]

    ตู๊ด...ตู๊ด

    [หมายเลขที่ท่านเรียก ไม่สามารถติดต่อได้ในขณะนี้...]

    อะไรของเขาเนี่ย =_= โทรติดสองตื๊ดแล้วก็ตัดสายทิ้ง หรือเปิดโหมดพระจันทร์? โวะ~ ช่างมัน ไม่รอแล้ว ฉันรีบบุกไปที่โรงเรียนนั้นใหม่อีกรอบดีกว่า ติดต่อยัยนี่ไม่ได้ ก็ไปหานักเรียน ม.5 คนอื่น ยังไงพวกเขาก็ต้องมีหนังสือรุ่นกันทุกคนนั่นแหละ คราวนี้ฉันไม่พลาดหรอก ได้หนังสือมาแล้วจะเปิดอ่านในโรงเรียนนั่นเลย อีตาเทเลอร์จะได้ไม่มีสามารถตามเข้ามาวอแวได้อีกเป็นครั้งที่สองแน่ๆ

    เข้ามาได้ก็ผีแล้วล่ะ!

     

    La Belle High School

    วะฮะฮ่า~ ในที่สุดฉันก็ลากสังขารอันบอบช้ำกลับมาเยือนที่ LBH อีกรอบจนได้ คราวนี้ไม่ว่าอะไรจะเกิดขึ้น ฉันก็จะต้องหาหนังสือรุ่นของ ม.5 มาเก็บไว้กับตัวให้ได้ จะให้จ่ายเท่าไหร่ก็ยอม >O<

    ขอโทษนะครับ เข้าไม่ได้นะครับ

    หือ? อะไรน่ะ อยู่ดีๆ รปภ. ของ LBH ก็เข้ามาขวางฉันไว้ อ้อ! ลืมไปว่าต้องแลกบัตรเนอะ

    นี่ค่ะ...บัตรนักเรียนของฉันเอง ขอโทษนะคะ...ลืมให้ ^^;”

    เข้าไม่ได้ครับ

    อ้าว O_O ทำไมอ่ะคะ ฉันทำผิดกฎตรงไหน ก็นี่ไงแลกบัตรนักเรียน ไม่ถูกเหรอคะ

    คุณเป็นบุคคลวิกลจริต ชอบก่อกวน เราให้เข้าไม่ได้ครับ เชิญครับ

    เฮ้ย!!! เดี๋ยว บุคคลวิกลจริตอะไรกัน =[]= จะบ้าเรอะ! แล้วมันยังไงกันเนี่ย ทำไมคนเดินผ่านฉันไปมาต้องมองหน้าฉันแล้วซุบซิบกันด้วย เกิดเรื่องวิปริตอะไรขึ้นที่นี่เนี่ย =_=

    ขะ...เข้าใจผิดรึเปล่าคะพี่ ฉันไม่ใช่คนบ้านะ นี่ไง! พูดรู้เรื่อง

    แล้วนั่นมันอะไร

    พี่ยามชี้ไปที่กำแพงโรงเรียนซึ่งมีป้ายกระดาษสีขาวแปะอยู่เรียงรายกันเต็มไปหมดอย่างกับมีใครจะลงเลือกตั้ง ขาของฉันเริ่มสั่น ลางสังหรณ์ไม่ดีแล่นขึ้นมาตีสมองดังวิ้งๆ และเมื่อเห็นป้ายนั่นชัดเจนขึ้น คลื่นหัวใจทั้งหมดที่เหลืออยู่ก็แทบจะพร้อมใจกันดับสิ้นไปซะเดี๋ยวนั้น...

     

    โปรดระวัง...หญิงสาววิกลจริตในคราบนักเรียน ชอบทำลายข้าวของ พูดจาไม่รู้เรื่อง วกไปวนมา ถ้าเจอโปรดหลีกหนีให้ไกลด้วยครับ

     

    -           Photo –

     

    และภาพประกอบด้านล่างเป็นภาพที่ฉันกำลังขีดเขียนโปสเตอร์ของอีตาเทเลอร์ด้วยความเมามัน สีหน้าเริงร่า ไม่สะทกสะท้าน แลดูโรคจิตจริงๆ นั่นแหละ

    แต่ไม่นะ...ฉันไม่ได้เป็นบ้าโว้ยยยยยย TOT

    มิน่าล่ะ ยัยเด็ก ม.5 นั่นถึงไม่ยอมรับสายฉันเลย คงกลัวฉันขี้หดตดหายไปแล้วมั้ง แง~ แล้วแบบนี้ฉันจะคุยกับใครได้อีกล่ะ ไอ้หมอนั่น...ร้ายกาจเกินไปแล้ว >O<

    เอ่อ...ตัวเอง คือว่า...”

    ฉันปรี่เข้าไปทักนักเรียนหญิงคนหนึ่งที่กำลังเดินยิ้มแย้มออกมาจากโรงเรียน ยัยนี่คาดคะเนคร่าวๆ แล้วน่าจะอยู่ชั้น ม.5 นั่นแหละ ชิ! ไม่ให้เข้าโรงเรียน หาดักมันข้างหน้านี่แหละวะ

    มีอะไรคะ

    ว้าย! นางคุยกับฉันแหละ สงสัยจะยังไม่เห็นป้าย >O<

    คือว่าฉันจะขอ...

    กรี๊ดดดอย่ามายุ่งกับฉันนะอีบ้า!”

    ฉันยังไม่ทันพูดจุดประสงค์ออกไปเลย เพื่อนนางที่ยืนอยู่อีกฝั่งก็ชี้ให้หันไปดูป้ายชั่วๆ นั่น พอนางเห็นเท่านั้นแหละ รีบหันมากรี๊ดใส่หน้าฉันเลย

    ไม่ใช่อย่างนั้นนะคะ คือว่า...

    ไปชิ่วๆ อย่ามายุ่งกับฉัน ไป๊!”

    ยัยคนที่มัดผมทรงดังโงะเอามือเขี่ยฉันอย่างรังเกียจ ก่อนจะวิ่งหนีไปอย่างไว ไม่ยอมหันกลับมามองอีกเลย...

    โอ๊ย!!! ฉันจะชักทนไม่ไหวแล้วนะ -_-^^^^

    แคว่ก~

    แคว่ก~

    แคว่ก~

    ฉันวิ่งไปฉีกป้ายประกาศประสาทเสียนั่นอย่างบ้าคลั่ง นี่ฉันใกล้จะเป็นบ้าจริงๆ แล้วนะโว้ยยย ทำกันขนาดนี้เลยเรอะ! จะเอาอย่างนี้ใช่มั้ย ได้เลยเทเลอร์! เราคงอยู่ร่วมโลกกันไม่ได้อีกต่อไปแล้ววว

    ไอ้คนเลวไม่มีลิมิต ไอ้ผู้ชายเฮงซวยยยยยย!!!!

           (โปรดติดตามตอนต่อไป)

     

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    นิยายที่ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×