ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    นิโอะ เพลงดาบแด่ผู้พิทักษ์

    ลำดับตอนที่ #5 : เพลงดาบที่3

    • อัปเดตล่าสุด 20 มี.ค. 53


         

     

    เพลงดาบที่3

              แสงแห่งอรุณรุ่งปลุกให้คนที่อยู่ในบ้านร้างตื่นขึ้นมา  พวกเขาเตรียมตัวที่จะออกเดินทางไปยังปราสาทเอโดะตามที่คิดไว้ตั้งแต่เมื่อวาน

              ไซโซล่ะซาสุเกะถาม ก่อนที่คนที่ถามถึงจะโผล่หน้ามาทักทายด้วยสภาพที่เรียกว่าโทรมสุดๆ ฮ้าว~ ซาสุจังเรียกข้ามีอะไรเหรอ ผู้ถูกพาดพิงกล่าวขึ้น ก่อนที่จะลากอะไรบางอย่างเข้ามาในที่พัก

              ครืด~  ครืด~  

              ใครเนี่ย ไซโซยูคิถามพลางชี้ไปยังคนสองสามคน ที่ถูกมัดเรียงรายติดกัน  ไซโซทำหน้าเบื่อก่อนจะพูดขึ้น

              ก็พวกที่มีค่าหัวไงล่ะ  เมื่อคืนพวกมันมาทำรุ่มร่ามกับข้า  ข้าก็เลย...ไซโซค้างไว้แค่นั้น แต่ถึงจะไม่พูดก็คงจะพอรู้กันอยู่ เมื่อเห็นสภาพเหยื่อของไซโซที่ปากแตก  จมูกมีเลือดติดเกรอะกรัง  และมีบาดแผลเต็มตัวไปหมด  ฮิเดะก้มหน้าหัวเราะก่อนจะพูดขึ้นแทนเจ้าตัว

              ก็เลยเผลอซัดไปสินะยูคิหัวเราะแล้วก้มตัวลงไปดูเหยื่อที่นอนเรียงรายกันอยู่

              ให้ตายสิ   เล่นกับใครไม่เล่น  ดันมาเล่นกับ 4 ผู้พิทักษ์ซะได้ยูคิยิ้มกว้างแล้วเงยหน้าขึ้น หันไปบอกกับคนอื่นๆ  ให้พวกมันทำงานให้เราดีกว่านะ  ส่งให้ทางการก็คงได้เงินแค่ 200 เยน ว่าไง! สนใจทำงานให้มั้ยล่ะ แลกกับที่พวกข้าจะไม่ส่งพวกเจ้าไปทางการยูคิถาม  พวกมันพยักหน้ารัว   

              งั้นงานแรกของพวกเจ้า  ไปปราสาทโอซาก้า บอกกับใครก็ได้ในวัง ว่าพวกข้า 4 ผู้พิทักษ์จะไปหา ให้เตรียมตัวไว้ด้วยยูคิกล่าวแล้วตวัดดาบตัดเชือกที่พันคนพวกนั้นเอาไว้ออกไป

              ขอบคุณท่านมากขอรับพวกมันผงกหัวรัวเร็วก่อนจะพากันวิ่งออกไปนอกที่พักนั้น   เอาล่ะ  พวกเราก็ไปกันเถอะ ยูคิหันมาบอกกับคนอื่นๆในที่พัก

              โอนุคุจังจะไปถึงไหนแล้วนะไซโซพึมพำก่อนจะแบกข้าวของต่างๆของตัวเองขึ้นบ่า  เดินออกมารอคนอื่นๆด้านนอก   ซาสุเกะเดินตามออกมาแล้วพูดขึ้นว่า เมื่อวาน ข้าเจอคนๆหนึ่ง  เขามีจิตสังหารแรงมาก และมันก็พุ่งใส่พวกเราซะด้วยสิซาสุเกะบอก

              ข้าก็รู้  ตอนที่สู้กัน ข้ากดดันเพราะจิตสังหารนั้นแหละ  ซาสุจังก็มีจิตสัมผัสที่ดีเหมือนกันนี่ไซโซกล่าว  พอดีกับที่ยูคิและฮิเดะเดินออกมาพอดี

              ไปปราสาทเอโดะกันเถอะฮิเดะพูดแล้วเดินนำทุกคนออกไปทันที  ทั้งหมดไปที่ปราสาทเอโดะในเวลาไม่นานนัก  ก่อนจะเข้าไปเดินเที่ยวภายในตัวปราสาท  จนเวลาผ่านไปครึ่งวันกว่าแล้วจึงออกไปหาซื้อทาโกยากิแถวนั้นกินรอท้อง

              อ่า~ อร่อยจังฮิเดะพูกแล้วจิ้มทาโกยากิอีกลูกเข้าปาก  ควันร้อนโชยขึ้นจากในปาก  ซาสุเกะจิ้มทาโกยากิขึ้นมาดูแล้ววางกลับลงไปอย่างเดิม ประมาณสองสามครั้งจนไซโซรำคาญยัดทาโกยากิของตัวเองเข้าไปในปากคนที่มีอายุน้อยที่สุดในกลุ่มทั้งลูก

              กินๆไปซะ  ไม่ตายหรอกไซโซว่าก่อนจะจิ้มทาโกยากิในจานของซาสุเกะคืนไปหนึ่งลูก  ขอคืนนะซาสุจัง ไซโซยิ้มหวานแล้วกินต่อไปอย่างเอร็ดอร่อย  โดยที่ไม่รู้เลยว่าในอีกไม่กี่นาทีต่อไป  จะเกิดการต่อสู้ขึ้น ณ ที่ตรงนี้

              เฮ้ย! พวกเจ้าน่ะ  ใครอนุญาตให้ผ่านทางนี้กันเสียงหญิงสาวที่มีสำเนียงโอซาก้าพูดขึ้นจากด้านหลัง  ทุกคนหันหลังควับกลับไปดูทันที  หญิงสาวในชุดกิโมโนสีชมพูอ่อน ประดับด้วยลวดลายของมังกรในประเทศจีนที่  4 ผู้พิทักษ์รู้จักเป็นอย่างดี 1 ใน 9 องค์เทพ โซโนมุ  ริริน... ฉายา โคฟุคุ มังกรที่ชอบน้ำ

              เธอ... คนของท่านผู้นั้นสินะซาสุเกะถาม  หญิงสาวพยักหน้ารับแล้วตวัดดวงตาสีเทาขึ้นมอง  ที่จริงข้าได้รับหน้าที่ให้มาพาพวกท่านไปยังปราสาทโอซาก้า  คนที่ท่านส่งไปน่ะไม่ได้เรื่องเลยรู้รึเปล่า  ข้าน่ะมาถึงเอโดะรอพวกท่านตั้งนานแล้ว  พอข้าไปถามพวกมันว่าพวกท่านอยู่ไหน  มันก็ดันไม่ตอบข้าก็เลยเผลอมือฆ่าพวกมันไปแล้ว หวังว่าท่านคงจะไม่โกรธข้าหรอกนะริรินว่า  ยูคิส่ายหน้าน้อยๆ

              ข้าชอบท่านก็ตรงที่ท่านมีแต่รอยยิ้มเนี่ยล่ะริรินกล่าวอีกครั้งก่อนจะแต่ตามเข้ามาในกลุ่ม  ซาสุเกะกับไซโซสะดุ้งก้าวถอยหลัง ไปก้าวหนึ่ง

              จิตสังหารนี้มัน...!!!”ซาสุเกะครางในลำคอ  ริรินยิ้มแล้วเอ่ยขึ้นว่า ความรู้สึกไวดีนี่  เมื่อวานข้าก็สังเกตไว้แล้วล่ะ

              งั้นก่อนที่ข้าจะพาพวกท่านไปหาท่านผู้นั้นข้าขอทดสอบพวกท่านก่อนแล้วกัน  ข้าอยากรู้ว่าพวกท่านมีความสามารถสมพอที่ข้าจะนำทางให้หรือเปล่าริรินกล่าวพลางถอยไปสองก้าว ชัดดาบออกจากฝักเตรียมมพร้อมที่จะสู้กับศัตรูเบื้องหน้าของนาง

              ข้าจะเป็นคู่ต่อสู้ให้เจ้าเองซาสุเกะว่าแล้วก้าวไปด้านหน้าเพื่อเผชิญหน้ากับนาง  ดาบสุซาคุตวัดออกจากฝัก  เพียงแค่สัญญาณอะไรที่ขึ้นมา ทั้งสองก็พร้อมจะฟาดฟันกันอย่างเต็มที่

              เจ้ารู้มั้ย  ข้าน่ะ... เกลียดน้ำมากที่สุดเลยล่ะซาสุเกะกล่าวแล้วลูบคมดาบของตนเองไปมา  และข้าก็เกลียดคนที่ใช้น้ำไม่แพ้กัน!”พูดจบทั้งสองก็เข้าฟาดฟันกันในทันที   ดาบทั้งสองเล่มปะทะกันจนเกิดแสงสว่างในบางครั้ง  และทุกครั้งที่เข้าไปก็จะต้องมีคนได้รับบาดเจ็บทุกครั้ง  

              เพลงดาบพิฆาตเพลิง!!!”ริรินว่าก่อนที่สายน้ำจะพวยพุ่งออกจากดายไปรัดตัวของซาสุเกะ ตาย!!”ริรินว่าก่อนที่ดาบจะฟันลงมายังคนที่ถูกจับกุมตัวไว้อยู่

              ฮึ! นกเพลิงปีศาจ!!!”ซาสุเกะตะโกนก่อนจะดิ้นให้หลุดพ้นจากพันธนาการ  นกเพลิงปีศาจบินเข้าใส่ศัตรู  สายน้ำที่วนอยู่รอบตัวริรินเริ่มจะกลายเป็นน้ำเดือดเมื่อเปลวเพลิงนั้นเผาไหม้จนแทบจะระเหยไปหมด

              อ๊ากกกก!”ริรินร้องเมื่อนกเพลิงปีศาจนั้นบินโฉบเข้ามาในตัวของนาง  ความร้อนแทบจะเผาไหม้ในนางละลายไป ณ ที่ตรงนั้น  ซาสุเกะพยุงร่างที่หนักอึ้งของตนเองไปยังร่างของศัตรูที่ลงไปนอนอยู่บนพื้น เป็นข้อเสียของการใช้เพลงดาบนี้ เพราะมันจะทำให้ร่างกายของเขาหนักขึ้น และเคลื่อนไหวได้ไม่สะดวกเท่าที่ควร หญิงสาวที่นอนอยู่บนพื้นดิ้นพล่านเพราะความร้อนในร่างกายที่เพิ่มขึ้นสูง  แม้จะใช้น้ำดับเท่าไรก็เอาไม่อยู่  จนนางหมดสติไป  นกเพลิงปีศาจถึงได้จะสงบลง  ซาสุเกะเองในตอนที่โดนเพลงดาบพิฆาตเพลิง เขาก็แทบจะหมดแรงไปแล้ว  ร่างของเด็กหนุ่มร่วงไปนอนอยู่ที่พื้นข้างๆ ริริน  ไซโซถอนหายใจก่อนจะบ่นกับตัวเอง

              สุดท้ายก็แค่เสมอ   แต่ยังไงซาสุจังก็ล้มที่หลังล่ะนะไซโซว่า ฮิเดะเดินเข้าไปจับๆตัวซาสุเกะก่อนจจะเริ่มทำแผลให้แล้วก็หันไปทำให้กับริรินด้วยเช่นกัน  

              เอาไงต่อยูคิถาม

              ไม่รู้ไซโซตอบกลับแล้วเดินไปนั่งรอใต้ต้นไม้   รอสองคนนั้นฟื้นก่อนแล้วกัน เขาบอก  แล้วหันกลับไปกินทาโกยากิที่ตั้งทิ้งไว้ต่อ

              ทิ้งไว้แล้วไม่ค่อยอร่อยแฮะไซโซบอกแล้วจิ้มทาโกยากิอีกลูกเข้าปาก   รอเวลาที่หญิงสาวและซาสุเกะจะฟื้นขึ้นมาและบอกทางไปปราสาทโอซาก้า

              ฟึบ!  

              ใครน่ะไซโซตะโกน  ไพ่ที่เขาหยิบขึ้นมาถูกปาใส่คนในเงามืดทันที   เนื่องจากเขามีสายเลือดของนินจาอยู่ในตัว ทำให้เขามองอะไรได้ไวกว่าคนอื่น และวิชาที่เขาถนัดที่สุดก็คือ การใช้ไพ่ฆ่าผู้อื่น  เป็นอาวุธที่ใช้ได้ทั้งในระยะประชิดและระยะไกล  

              ชิ! หนีไปได้งั้นหรือไซโซบ่น  ยูคิหันมามองเพื่อนของเขาก่อนจะหันไปตามสายตาของไซโซ  มีอะไรเหรอ ยูคิถาม

              มีนินจาแอบดูพวกเราน่ะสิเขาว่า   ยูคิยิ้มน้อยๆก่อนจะโยกหัวไซโซไปมา ช่างมันเถอะ ยูคิพูดแล้วร้องบอกคนอื่นๆ

              เอ้า! หมดเวลาสนุกแล้วล่ะ  ต่อไปข้ามีธุระที่ต้องทำ  หวังว่าคงจะพอมีเวลาให้ข้าสักสองสามวันนะยูคิบอก  ทุกคนพยักหน้าแทนการเอ่ยคำพูด   แสงตะวันที่แสงสว่างค่อยๆมืดลงไป  ปรากฏการณ์ธรรมชาติที่ไม่น่าจะมีอะไรกลับทำให้ยูคิขนลุกชัน  หวังจะให้ลางสังหรณ์ของเขานั้นผิดพลาด ปรากฏการณ์ธรรมชาติน่ะ  มันคือชะตาชีวิตของใครคนหนึ่ง เช่นถ้าฝนตก ก็แสดงว่ามีคนกำลังร้องไห้เสียงที่อาจารย์เคยพร้ำสอนเขาดังขึ้นในโสตประสาทการได้ยินของเขา    แล้วถ้าดวงตะวันถูกความมืดปกคลุมมันแปลว่าอะไรล่ะ ท่านอาจารย์บอกข้าได้รึเปล่ายูคิคิด  ถัดไปในเวลาไม่นานความมืดนั้นก็จางหายไป  คงเหลือแต่ความสว่างเช่นเดิม  ใจที่เต้นรัวของเขาก็เต้นช้าลงตามไปด้วยเช่นกัน

              ท่านมาซามูเนะรอท่านอยู่ที่เขาฟูโอะซึ  รีบไปหาเถอะ เพราะตอนนี้อาจารย์ท่านป่วยหนัก  และอยากเจอท่านมากนินจาคนหนึ่งที่เมื่อครู่ไซโซจับจิตสัมผัสได้แอบกระซิบบอกกับเขา  ยูคิหันควับไปมองแต่แล้วก็พบกับความว่างเปล่า   นินจาผู้นั้นได้หายไปแล้ว...

              อือ~”ซาสุเกะร้องครางก่อนจะพยุงตัวเองให้อยู่ในท่าครึ่งนั่งครึ่งนอน  ก่อนจะหันไปมองริรินที่กำลังนอนหมดสติอยู่ข้างๆเขา

              ดูท่าคงจะฟื้นแล้วกระมังฮิเดะเดินไปก้มหน้าดูแล้วหันมาบอกแก่ซาสุเกะ   

              อีกเดี๋ยวยูคิจะเดินทางไปที่เขาฟูโอะซึ  ที่อยู่ทางทิศเหนือของเอโดะ  ให้เตรียมตัวไว้ด้วยฮิเดะถ่ายทอดคำพูดของยูคิที่จู่ๆ ก็ตะโกนขึ้นว่า ข้าจะไปเขาฟูโอะซึ  รีบไปเตรียมตัวซะเป็นครั้งแรกที่ฮิเดะเห็นใบหน้าที่ไร้รอยยิ้มของยูคิ  มันดูราวกับปีศาจที่พร้อมจะฆ่าคนที่เข้าใกล้เสมอ  เขาจิตนาการไม่ออกเลยว่า ถ้ายูคิทำหน้าโกรธจะเป็นเช่นไร

              ริรินจัง  ตื่นได้แล้วล่ะ   ยูคิซังจะเริ่มเดินทางแล้วซาสุเกะหันไปปลุกนข้างๆ  เมื่อริรินตื่นขึ้นมา ซาสุเกะก็บอกสิ่งที่ได้ยินจากฮิเดะให้ริรินฟังอีกที  ทั้งสองลุกขึ้นแล้วเดินไปรวมกลุ่มกับคนอื่นๆที่เตรียมตัวจะเดินทางต่อ  ฮิเดะเดินเข้าไปหายูคิแล้วสะกิดเรียกเบาๆ

              มีอะไรเหรอ ฮิเดะยูคิก้มหน้ามาถาม  ฮิเดะมองหน้ายูคิเหมือนชั่งใจก่อนจะถามขึ้น

    ข้าก็ไม่รู้เหมือนกัน  แต่เวลาข้าเห็นหน้าเจ้าตอนที่ไม่ยิ้ม ตรงนี้ของข้ามันเต้นแรงฮิเดะบอกก่อนจะชี้ไปที่หน้าอกข้างซ้าย แล้วเลือดในกายข้าก็เหมือนจะเดือดพล่านทุกทีเขาบอก  ยูคิยิ้มแล้วก้มหน้ามาบอกกับคนถาม

    นั้นก็เพราะว่าเจ้าน่ะ... มีใจอยากจะสู้กับข้าน่ะสิยูคิบอก  ฮิเดะพยักหน้าเข้าใจก่อนจะพูดขึ้น งั้นคราวหน้าเจ้ามาสู้กับข้าหน่อยนะ   ข้าอยากรู้ว่าที่เจ้าพูดมันจริงหรือเปล่าเขาพูด

    ได้สิ  แต่ว่าเจ้าน่ะ...  ต้องมีฝีมือเทียบเท่าข้าให้ได้ก่อนนะยูคิกล่าวก่อนจะลูบหัวฮิเดะเบาๆ แต่ข้าไม่มั่นใจว่าเมื่อถึงตอนนั้น ข้าจะเก่งขึ้นไปอีกสักเท่าใดยูคิบอก  แววตาของปีศาจเผยให้เห็นเพียงชั่วครู่ก่อนจะจางหายไป

    ข้าผู้ที่เคยเป็นปีศาจถ้าหากว่าตอนนั้นยูคิไม่หยุดข้าเอาไว้ล่ะก็... ข้าก็คงหายไปจากโลกนี้ หลังจากนั้นข้าจึงได้มาอยู่กับเจ้า... ยูคิ  แต่ว่าตอนนี้หน้าอกด้านซ้ายข้ามันเต้นแรงเหมือนจะหลุดออกมา  ในตอนที่ข้าเห็นหน้าเจ้าตอนนั้น  ข้าอยากจะสู้ด้วยจนแทบจะทนไม่ไหว  อยากจะลองดูสักครั้ง การต่อสู้ที่เดิมพันด้วยชีวิตน่ะ  ไม่ว่าจะกี่พันกี่หมื่นคนที่ข้าเคยฆ่าไป  ไม่มีคนไหนเลยที่จะมีแววตาอย่างเจ้า   สัญลักษณ์ของปีศาจนั้นมันร้อนรุ่มอยากจะดื่มเลือดของเจ้า   อยากจะกลับไปเป็นเครื่องจักรสังหารอีกครั้ง  อ่า~  แววตาเจ้าในตอนนั้นมันทำให้ข้าอยากจะใช้ดาบในมือฟันเจ้าให้ขาดเป็นสองท่อน  อยากได้ยินเสียงร้องของเจ้า  อยากเห็นแววตาที่หยิ่งทระนงนั้นอีกครั้ง   ยูคิ... ในคราวที่แล้วเจ้าหยุดเครื่องจักรสังหารในตัวข้าได้  แล้วคราวนี้เจ้าจะหยุดได้รึเปล่าล่ะ  จิตใจของข้าที่เต็มไปด้วยความต้องการ  ถ้าหากบางครั้งข้าควบคุมตัวไม่ได้  เจ้าอาจต้องเป็นคู่ต่อสู้ให้ข้า  ข้ามันซื่อเกินไปรึเปล่านะที่เดินไปถามเจ้าเช่นนั้น  หรือว่าเลือดในตัวข้ามันร้องให้ไปถามเจ้ากันแน่  แต่ว่า... ไม่ว่าข้าจะซื่อหรือเซ่อ หรืออะไรก็แล้วแต่ที่พวกเจ้าจะหาคำมาเรียกข้า  ข้าก็อยากจะสู้กับเจ้า   เมื่อถึงวันนั้น วันที่ข้าจะเก่งเทียบเท่ากับเจ้า  ข้าจะต้องแข็งแกร่งเป็นอันดับ 1  ข้าจะต้องชนะเจ้าให้ได้เสียงจากจิตใต้สำนึกของฮิเดะคิด   เขาออกจะเสียใจไปสักนิดที่อยากจะสู้กับคนที่ทำให้เขากลับมาเป็นมนุษย์ได้อีกครั้ง  แต่ว่าจิตใจที่อยากจะสู้นั้นกลับมีมากกว่า

    นี่! ข้าเมื่อยแล้วนะผู้ที่ได้ฉายาว่าโคฟุคุบ่น  ก่อนจะทุบขาของตัวเองเบาๆ  ฮิเดะหันไปมองก่อนจะย่อตัวลงตรงหน้าของริริน

    เจ้า... ทำอะไรน่ะนางถามก่อนจะถอยหลังไปประมาณ 2 ก้าว

    เจ้าบอกว่าเมื่อยไม่ใช่รึ  ขึ้นหลังข้ามาสิ  เดี๋ยวข้าแบกเจ้าไปก็ได้ฮิเดะบอกหน้าซื่อ  ก่อนจะเร่งอีกฝ่ายให้ขึ้นมาบนหลังของตน เอ้า! เร็วสิ  ข้าจะได้ไปต่อซะที

    ใครจะไปขึ้นกันยะริรินว่าแล้วสะบัดหน้าไปทางอื่นเดินตามคนอื่นๆต่อไป  ฮิเดะมองตามอย่างงงๆแล้วลุกขึ้นเดินตามไป ระหว่างทางก็คิดไปด้วย ข้าทำอะไรผิดอีกล่ะเนี่ย

    พรุ่งนี้เช้าคงจะไปถึง ถ้าไม่มีอะไรออกมาให้เจอละก็นะ...ยูคิบอกกับทุกคนหลงจากที่เดินกันมาจนใกล้เย็นใกล้จะมืดเต็มที  ตอนนี้ทั้งหมดเดินอยู่ภายในป่าที่จะขึ้นไปบนยอดสูงสุด ที่อยู่ของคนๆนั้น

    ฮึบ!”ไซโซกระโดดตีลังกาวัดมือรับมีดสั้นไว้ได้อย่างฉิวเฉียว  

    ดูท่า... คงจะไม่ได้ถึงตอนพรุ่งนี้เช้าแน่ซาสุเกะว่าแล้วทั้งหมดก็ยืนให้หลังชนกันเป็นวงกลม เป็นการป้องกันด้านหลังของฝ่ายและให้อีกฝ่ายป้องกันหลังของตนเอง

    นินจาแน่ๆริรินว่า  ไซโซเปลี่ยนอาวุธของตนจากดาบเป็นไพ่   นินจานั้นจะสู้ด้วยดาบคงไม่ดี เพราะนินจาได้ชื่อความรวดเร็วที่ยากจะตามทัน  และมีพวกมากเหมือนหมาป่าที่ชอบล่าเหยื่อพร้อมกันเป็นฝูง

    ฉึบ!  ยูคิเก็บดาบของตัวเองเข้าฝักแล้วเดินไปนั่งอยู่ใต้ต้นไม้ พยักหน้าให้คนอื่นๆทำตามใจตัวเอง  ฮิเดะหยิบยาตัวหนึ่งขึ้นมาก่อนจะปามันขึ้นไปบนอากาศ  ควันสีขาวพุ่งออกจากปากขวด  เป็นยาที่เมื่อเจอกับอากาศภายนอกแล้วจะเกิดเป็นควันสีขาว  ไม่มีอันตรายแต่สามารถใช้พรางตาศัตรูได้

    ย้ากกกก!!!!”เสียงผู้คนมากมายที่วิ่งเข้าใส่กลุ่มของไซโซ  ยูคิแค่นั่งมองดูการต่อสู้ที่ดำเนินไปอย่างสบายใจ   ในป่าแห่งนี้ เขามาเที่ยวไม่รู้กี่ครั้งต่อกี่ครั้ง  สู้กับเจ้าพวกนี้ก็บ่อย  จนเขากลายเป็นเพื่อนกับคนพวกนี้ไปแล้ว แต่คงเป็นเพราะเขาไม่ได้กลับมานาน จึงมีคนที่ไม่รู้จักเขาแล้วบุกมาหาพวกเขาแบบในตอนนี้

    ฟึบ! ฟึบ! ฟึบ!

    ไพ่สามใบถูกส่งออกไป  และที่ที่ไพ่พวกนั้นหยุดอยู่ก็คือใบหน้าของคนพวกนั้น   ริรินและคนอื่นๆตวัดดาบไปมา แต่ก็ยังไม่มีนตายมีแค่เพียงคนที่บาดเจ็บหนักเท่านั้น

    เคร้ง!

    พอได้แล้ว  นานๆท่านยูคิจะกลับมาเยี่ยมทั้งที  ตอนรับแบบนี้ใช้ได้ที่ไหนเสียงของสตรีนางหนึ่งที่หยุดอาวุธของทุกคนได้ด้วยดาบเล่มเดียวกล่าว

    อ้าว! น้าซึโนะยูคิทัก  ทุกคนนึกแบบเดียวกันคือ ยูคิ... เรียกคนๆนี้ว่าน้า  ทั้งที่สวยขนาดนี้น่ะนะ หญิงสาวหันมายิ้มให้ทุกคนก่อนจะหันไปแว้ดใส่ยูคิ

    พี่สิยะ  เรียกน้าได้ยังไง  อย่าลืมสิ  ใครกันที่พาเจ้าไปหามาซานูเมะ  ใครกันที่เก็บเจ้ามาจากข้างถนน  แล้วใครกันที่ทำให้เจ้าโตได้ขนาดนี้  แล้วตอบแทนข้าด้วยการเรียกข้าว่าป้าเนี่ยนะซึโนะว่า  ยูคิหัวเราะแล้วพูดขึ้น

    ก็ได้ๆ   พี่ซึโนะ  แล้วอาจารย์ข้าเป็นยังไงบ้างยูคิถาม  ซึโนะทำหน้าเบ้แล้วกระซิบเสียงเบา ไม่ค่อยดีเลยนะ ข้าว่า  ตอนนี้น่ะ มีชีวิตอยู่ได้ก็เพราะยายืดอายุเท่านั้นเอง

    งั้นข้ารีบไปก่อนแล้วกัน  เดี๋ยวขากลับจะแวะมาเยี่ยมอีกรอบนะยูคิบอก แล้วเดินจากไปจากตรงนั้นโดยมีคนอื่นๆตามท้ายไปด้วย

    ระวังตัวด้วยนะซึโนะตะโกนตามไปก่อนจะหันมามองหน้าคนที่บุกเข้าไปทำร้ายพวกของยูคิ พวกเจ้าตามมานี่ซึโนะกวักมือเรียก  แววตาเปลี่ยนไปต่างจากเดิม คนที่เห็นได้แต่กลืนน้ำลายก่อนจะตะโกนลั่น

    ข้าขอโทษ  โอ๊ย! เจ็บและตามด้วยเสียงร้องโอดครวญที่ดังระงมไปทั่ว

    ยูคินั้นใครเหรอซาสุเกะวิ่งจากด้านหลังขึ้นมาหายูคิ  

    อ๋อ... นั้นน่ะเหรอ  นั้นคือซึโนะ  คนที่เก็บข้ามาเลี้ยงแล้วพาข้าไปฝากกับอาจารย์ของข้าน่ะ  ตอนนั้นถ้าไม่มีซึโนะ ข้าก็คงต้องนอนตายอยู่ข้างถนนแล้วล่ะยูคิบอกแล้วแสร้งทำหน้าเจ็บปวด

    ตอนนั้นน่ะ  ข้านะ... หิวแทบตาย ขนาดข้าวหมาข้ายังแย่งมันกินเลย  แล้วซึโนะ คนๆนั้นน่ะก็ยื่นขนมปังให้ข้าแล้วชวนข้ามาอยู่ด้วย  เจ้ารู้มั้ย  อาหารที่ได้ตอนที่ใกล้ตายน่ะ มันมีค่าแค่ไหน

    หลังจากนั้น เจ้าก็เลยเก็บเด็กที่มีชีวิตคล้ายเจ้า เหมือนกับที่เจ้าเก็บข้ามาจากสงครามที่ทำให้ครอบครัวของข้าตายหมดนั้นน่ะเหรอซาสุเกะถาม แล้วยกตัวอย่างเหตุการณ์ของตัวเองให้ยูคิฟัง  ยูคิพยักหน้าตอบรับก่อนจะเอ่ยขึ้นว่า

    แต่ที่ข้าเก็บเจ้ามาก็เพราะว่า แววตาของเจ้า มันทำให้ข้าสนใจยังไงล่ะยูคิยิ้มแล้ววางฝ่ามือไว้บนหัวของซาสุเกะ  จำไว้นะ ซาสุเกะ  ถึงเจ้าจะเป็น 4 ผู้พิทักษ์ แต่เจ้าไม่ใช่สายเลือดนักดาบ  เจ้าจงอย่าทระนงในฝีมือตัวเองให้มากนัก  เพราะไม่เช่นนั้น  สักวันเจ้าคงจะตายด้วยฝีมือของตนเองเช่นกันยูคิเตือน

    ข้ารู้แล้วหน่า   4 ผู้พิทักษ์อะไรกัน  ข้ายังไม่เคยเห็นพวกเราต้องพิทักษ์อะไรสักอย่างซาสุเกะบ่นพึมพำ

    ใช่แล้ว  แต่อีกไม่นานพวกเราก็จะได้รับหน้าที่นั้นแล้วล่ะนะ  รอไปก่อนเถอะ  อย่ารีบเลย เดี๋ยวจะเหนื่อยซะเปล่าๆยูคิตอบก่อนจะเร่งการเดินให้เร็วขึ้นเมื่อความมืดเริ่มปคลุมท้องนภา

    เอาล่ะ  พวกเราจะพักกันที่นี่   ริรินเจ้านอนได้ใช่ไหมไซโซตะโกนบอก

    ได้อยู่แล้วหน่า ไม่ต้องห่วงข้าหรอก  ข้าอยู่ง่ายริรินตะโกนตอบกลับ  ไซโซที่ได้ยินดังนั้นจึงปูเสื่อที่แบกเอาไว้ตั้งแต่แรกลงพื้น  ก่อนจะหันไปบอกกับยูคิ

    นี่ ยูคิ... เจ้ากับข้าไปนอนบนต้นไม้แล้วกัน   รู้สึกว่าเสื่อจะใหญ่ไม่พอ 5 คนนะว่าแล้วก็ใช้วิชานินจาที่ตนเองถนัดโดดขึ้นไปบนต้นไม้

    ไม่ต้องห่วงนะ  ป่านี้ไม่มีสัตว์ป่าหรอก  นอนได้สบายๆยูคิยิ้มบอกก่อนจะกระโดดขึ้นไปนอนบนต้นไม้เช่นเดียวกับไซโซ

     ...

    นามของข้าคือ โอดะ โนบุนากะ

    ข้าขอสั่งให้เจ้ารออ่านตอนต่อไปซะ

    คนแต่งคนนี้แต่งเก่งนะเออ

    ...

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×