ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    นิโอะ เพลงดาบแด่ผู้พิทักษ์

    ลำดับตอนที่ #4 : เพลงดาบที่2

    • เนื้อหาตอนนี้เปิดให้อ่าน
    • 149
      1
      25 มี.ค. 53

    เพลงดาบที่2

              เสียงของผู้คนมากมายที่กำลังเดินขวักไขว่ซื้อจ่ายสินค้าที่ตลาดแห่งนี้  ยูคิปาดเหงื่อที่หน้าผากก่อนจะเข็นรถใส่ผักไปส่งยังร้านค้าต่างๆที่จ้างพวกเขาให้ทำงาน

              เฮ้! พ่อหนุ่มแรงดีแบบนี้ไม่สนใจไปแข่งขันงานที่กลางตลาดรึไง รางวัลใหญ่น่ะ เงินตั้ง สามพันเยนเชียวนะเสียงใครคนหนึ่งตะโกนให้ยูคิฟัง เขาหันไปมองคนที่ตะโกนแต่ก็ไม่เจอเสียแล้ว  ยูคิวางรถเข็นผักลงก่อนจะเดินไปดูใบปลิวที่ถูกแปะไว้ข้างกำแพง และก็เป็นจริงอย่างที่คนๆนั้นพูดไว้ วันนี้มีงานแข็งพละกำลังหรือเรียกง่ายๆว่าแข่งต่อสู้นั้นเอง รางวัลของงานนี้ก็คือเงิน สามพันเยน  เป็นเงินที่ไม่เลวทีเดียวเขาคิดก่อนจะหันกลับมาเข็นรถผักไปส่งตามร้านต่างๆที่เขาได้รับคำสั่งมาจนครบ

              อ่ะ  นี้เงินค่าจ้างของเจ้าเงินร้อยเยนถูกวางลงตรงหน้าของยูคิ เขายิ้มรับก่อนจะหยิบเงินนั้นเข้ากระเป๋า  นายจ้างหยิบเงินอีก สามร้อยเยนขึ้นมาแล้ววางลงตรงหน้าของซาสุเกะ  ไซโซ และฮิเดะ  

              นี้เงินของพวกเจ้า คนละร้อยเยนนายจ้างพูด  ทุกคนหยิบเงินตรงหน้าเข้ากระเป๋าตัวเองก่อนจะเดินออกจากร้านนั้นมา  ยูคิหันไปมองยังกลางเมืองที่ๆ กำลังแข่งขันพละกำลังกันอยู่  แต่จู่ๆไซโซกลับเดินตรงไปยังกลางเมือง  ถึงยูคิจะเรียกเท่าไรก็ไม่เป็นผล  จนกระทั่งทั้งหมดมายืนรออยู่ตรงใจกลางเมืองที่สนามแข่งพอดี

              ผู้แข่งขันคนถัดไป  ซานารุ  ยูคิเสียงประกาศจากกรรมการทำเอาผู้ที่ถูกกล่าวถึงทำหน้างง  ไซโซยิ้มแล้วดันยูคิขึ้นไปบนเวที

              สู้ๆ เพื่อเงินสามพันเยนนะไซโซบอกก่อนจะเดินไปกระซิบอะไรบางอย่างกับกรรมการตัดสิน  กรรมการคนนั้นพยักหน้าก่อนจะเรียกชื่อผู้แงคนถึดไป เพื่อที่จะสู้ในครั้งนี้  ไซโซเดินอมยิ้มกลับมายืนอยู่ที่เดิม  ซาสุเกะดูเหมือนจะตัดขาดจากโลกภายนอกโดยสิ้นเชิงแววตาที่เปี่ยมไปด้วยความสนุกสนานเพ่งมองไปที่ยูคิแต่เพียงคนเดียว  ฮิเดะทำหน้าหน่ายๆ  คล้ายอยากจะสู้แต่ก็ไม่ได้สู้  ไซโซยิ้มอยู่คนเดียวในใจ  อีกเดี๋ยวก็ตาพวกนายแล้วล่ะก่อนจะหันไปสนใจยูคิที่ตอนนี้เหมือนจะเป็นฝ่ายเสียเปรียบอยู่  ทั่วสนามเงียบจนได้ยินแม้กระทั่งเสียงลมพัด  ท่าแล้วท่าเล่าของศัตรูที่ยูคิยืนนิ่งให้ถูกซัดเอาซัดเอาแบบนั้นทำให้อารมณ์ของศัตรูนั้นเริ่มจะเสียขึ้นมา

    และก่อนที่ทุกอย่างจะจบลงทุกคนเห็นแค่เพียงแววตากระหายเลือดของสัตว์ป่าเท่านั้น ในเวลาถัดมาเลือดสีแดงก็ไหลออกจากบ่าที่ไร้หัว  เลือดสีแดงย้อมไปทั่วเวทีกรรมการตัดสินให้ยูคิผ่านไปรอรอบถัดไป

              ผู้แข่งขันคนถัดไป  ซารุโทบิ ซาสุเกะ กับ โทคุรุ  ฮิเดะผู้ถูกเรียกทั้งสองสะดุ้งทันทีก่อนจะพร้อมใจกันหันไปมองตัวต้นเหตุที่ยืนทำหน้าไม่รู้ไม่ชี้อยู่ข้างๆ

              เขาเรียกแล้วก็ขึ้นไปสิยูคิที่มาจากไหนไม่รู้เรียกก่อนจะเดินมายืนแทนที่ของทั้งสอง  ซาสุเกะเดินไปบนเวทีอย่างหัวเสียต่างกับฮิเดะที่เดินขึ้นไปด้วยใบหน้าเรียบๆไม่สนใจใครอันเป็นนิสัยประจำตัวของเขา

              ย้าก!”ซาสุเกะฟาดดาบลงไปทันทีที่สัญญาณเริ่มขึ้น  ฮิเดะก็ใช่ว่าจะชนะง่ายๆ เขายกดาบข้างตัวขึ้นป้องกันได้ในทันที  ก่อนจะเริ่มตอบโต้กลับไปบ้าง  เนื่องจากทั้งสองนั้นเป็น 4 ผู้พิทักษ์ทั้งคู่จึงไม่แปลกเลยที่จะต้องเอาจริงถึงเพียงนี้   

              ย้ากก!!!!”ซาสุเกะฟาดดาบลงไปอีกครั้ง และก็ไม่ต่างจากครั้งแรกเท่าไรนักที่ฮิเดะรับดาบของซาสุเกะไว้ได้อย่างง่ายดาย

              ครืน!

              เสียงพื้นเวทีที่ทรุดลงเพราะแรงกดจากดาบของซาสุเกะ ฮิเดะเองก็ต้านเอาไว้สุดกำลังก่อนที่สุดท้ายฮิเดะจะดันให้ซาสุเกะพ้นจากรัศมีของดาบเซริว   ผู้ที่ถูกผลักออกไปใช้ดาบสุซาคุยันตัวเองขึ้นยืน  ฝุ่นนั้นฟุ้งขึ้นจนมองไม่เห็นรอบเวที   และคนด้านล่างเวทีเองก็มองไม่เห็นทั้งสองคนเช่นกัน

              เพลงดาบเมฆาหวนกลับเสียงกลับซิบเบาๆที่ด้านหลังก่อนที่กลุ่มเมฆขนาดใหญ่จะครอบคลุมร่างทั้งสองคนเอาไว้   

              อ๊ากกก!!!”ซาสุเกะร้องลั่นก่อนที่กลุ่มเมฆนั้นจะจางหายไปเหลือเพียงร่างของคนสองคนที่ล้มอยู่บนพื้นเวที เสื้อผ้าที่สวมใส่อยู่ขาดเป็นริ้วๆ บาดแผลที่มีอยู่เต็มร่างกายถูกเพิ่มเข้าไปอีก  เลือดสีแดงซึมเปรอะเปื้อนทั่วร่างกายและเสื้อผ้า   ในเวลานี้ใครที่ลุกขึ้นได้ก่อนจะถือว่าเป็นผู้ชนะในทันที

              ฮึ!”ซาสุเกะร้องในลำคอ ดาบสุซาคุถูกใช้พยุงร่างให้ลุกขึ้นมา

              อ๊ะ... ซาสุจังชนะหรือเนี่ยไซโซพึมพำกับยูคิ  กลุ่มควันยังจางไปไม่หมด   ยูคิกระตุกยิ้มแล้วเอ่ยปากแบบสบายๆ ยังหรอก ดูให้ดีสิ ทันทีที่หมอกควันหายไปหมด ร่างของฮิเดะที่บาดเจ็บหนักก็เผยขึ้น ดาบเซริวจ่ออยู่ที่ลำคอของซาสุเกะไม่ต่างจากดาบสุซาคุที่จ่ออยู่ที่ลำคอของฮิเดะเช่นกัน

              เสมอ... สินะฮิเดะกล่าว  ดาบทั้งสองเล่มถูกลดลงพร้อมกัน

              เคร้ง! และปะทะกันด้วยความเร็วเป็นครั้งสุดท้าย   ขอเพียงได้สู้จนวินาทีสุดท้ายที่ยังพอมีแรงอยู่  เท่านั้นก็พอแล้วทั้งสองคงจะคิดเหมือนๆกัน เพราะหลังจากนั้นดาบของทั้งสองก็ถูกปล่อยตกลงพื้นพร้อมๆกับเจ้าของดาบที่ล้มลงไปนั่งอยู่บนเวที  

              หมดแรงซะแล้วสิไซโซหัวเราะอย่างชอบใจก่อนจะเดินไปพยุงซาสุเกะลงมาปล่อยให้ฮิเดะเป็นหน้าที่ของยูคิที่ต้องพยุงลงมาพร้อมกับดาบอีกสองเล่ม  กรรมการขึ้นมาตัดสินว่าทั้งคู่เสมอกันให้รอแข่งกับคนอื่นในรอบถัดไป  การตัดสินของที่นี้ เพียงแค่ยังมีชีวิตอยู่ก็ถือว่าใช้ได้ให้ผ่านไปยังรอบต่อไป

              มีแค่บาดแผลจากตอนที่ใช้เมฆาหวนกลับ  นอกนั้นไม่เป็นอะไร  แบบพวกนี้อีกสักเดี๋ยวก็ลุกมาเดินได้แล้วยูคิพูดหลังจากตรวจสอบบาดแผลทั่วร่างกายของทั้งสอง

              ใช้อะไร ไม่ระวังกันบ้างเลยไซโซบ่น  ยูคิหันมามองหน้าไซโซก่อนจะกล่าวอะไรบางอย่างทำเอาผู้ฟังสะอึกเลยทีเดียว ก็เพราะใครที่ไปบอกกรรมการให้เจ้าพวกนี้สู้กันล่ะ ก็รู้อยู่ว่าพวกนี้มันเคยยอมแพ้สักที่ไหน

              โธ่! ยูคิซัง  ก็ใครจะไปรู้ล่ะ ว่าเจ้าฮิเดะมันจะใช้เมฆาหวนกลับน่ะ ข้าออกไปดูการต่อสู้ดีกว่าไซโซทำหน้าซื่อแล้วเดินออกไปด้านนอก  เกตะที่สวมอยู่สะดุดกับเกตะของซาสุเกะและฮิเดะที่วางทิ้งเอาไว้

              โอ๊ะ!”ร้องแล้วเดินออกไปเหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้น ยูคิที่นั่งดูทั้งสองคนหัวเราะเบาๆ ก่อนจะลุกขึ้นเดินตามไซโซออกไป ปล่อยให้คนบาดเจ็บได้พักผ่อน

              ผู้แข่งขันคนถัดไป  มุราเสะ  ไซโซ กับ มุราเสะ  โทคิยะเสียงกรรมการประการขึ้น  ยูคิยืนนิ่งทันทีที่ผู้แข่งขันคนที่สองก้าวเดินขึ้นเวที

              ไมคิดเลยนะว่าจะได้มาเจอพี่ที่นี่น่ะไซโซพูดก่อนจะหยิบสิ่งที่เขาใช้แทบจะนับครั้งได้  อีกฝ่ายกระตุกยิ้ม  หน้ากากหมาป่าที่ใส่อยู่ห้อยกระดิ่งสีเงินที่สะท้องแสงอาทิตย์จนไซโซต้องหรี่ตาลง

              ดูท่า เจ้าเองก็จะไม่ได้พัฒนาฝีมือขึ้นเลยนะ  ไซโซ เอาเถอะ! เพราะข้าเห็นเจ้าเป็นน้อง ข้าจะฆ่าเจ้าแบบไม่ต้องทรมานแล้วกันนะดาบเล่มยาวที่คนในตระกูลมุราเสะรู้จักเป็นอย่างดี  ไซโซนิ่งงันเป็นโอกาสดีที่โทคิยะจะฆ่าเขา

              เคร้ง!

              ดาบเกนบุสีเงินสะท้อนใบหน้าของผู้ที่มาใหม่  ก่อนที่ไซโซจะเดินลงจากเวทีไปประกาศยอมแพ้อย่างง่ายดาย   โทคิยะกระตุกยิ้มมุมปากก่อนจะฟาดฟันดาบด้วยเพลงดาบที่ทั้งแข็งแกร่งและอ่อนนุ่มในคราวเดียวกัน   ฝ่ายตั้งรับนั้นก็มิได้ยอมแพ้  กระบวนท่าแล้วท่าเล่าผ่านไป  จิตสังหารที่ถูกปล่อยออกมาอย่างไม่ปกปิดทำให้ทั่วบริเวณนั้นเกิดความกดดันอย่างที่สุด   เสียงดาบที่ปะทะกันจนนับไม่ถ้วน  แสงสะท้อนของคมดาบส่องไปมาจนแสบตากันไปหมด   เหงื่อที่ไหลจนชุ่มฝ่ามือแต่ก็ไม่มีใครเพลี่ยงพล้ำให้แก่ใคร    และกว่าใครจะรู้ตัวโทคิยะนั้นก็กลายเป็นฝ่ายตั้งรับไปเสียแล้ว  ไซโซที่ประกาศยอมแพ้หันกลับไปมองบนเวทีอีกครั้ง  เวลาเพียงชั่วเสี้ยววินาทีที่เขาได้เห็นแววตาสนุกสนานของทั้งสองที่อยู่บนเวที   เสียงรอบสนามนั้นเงียบกริบทุกคนต่างเพ่งมองไปยังการประลอง   บนพื้นเวทีแฉะไปด้วยหยดน้ำที่ไหลมาจากร่างของทั้งสอง  เสียงจังหวะการเต้นของหัวใจของผู้คนทั่วสนามดังจนเหมือนจะหลุดออกจากอก เพียงกระพริบตาครั้งเดียวก็มองตามการต่อสู้ของทั้งสองไม่ทันไปแล้ว   แต่ใครจะรู้ว่าบนเวทีนั้นคนที่เสียเปรียบและใกล้แพ้ก็คือโทคิยะ  บาดแผลเล็กๆน้อยๆที่เขาพลาดโดนมาเรื่อยๆกำลังทำให้เขามองตามศัตรูไม่ทัน  ดวงตาเริ่มพล่าเลือนก่อนที่ดาบยาวเล่มนั้นจะตกลงสู่พื้น  ผู้มาใหม่นั้นก็ยืนมือไปรับได้อย่างทันท่วงที   หากใครที่ได้ดูการประลองครั้งนี้คงจะพูดเป็นเสียงเดียวกันว่าเป็นการประลองที่สวยงามมากที่สุด  ฝ่ายหนึ่งที่มีทั้งความแข็งและอ่อน แต่อีกฝ่ายก็ไม่แพ้กัน  การย่างก้าวแต่ละครั้งสร้างท่าเดินที่ดูสวยงามที่สุด  แม้จะต่อสู้เสี่ยงเป็นเสี่ยงตายแต่บนใบหน้าก็ยังคงมีรอยยิ้ม  เพียงแค่มองครั้งแรกก็แทบจะยอมพลีวิญญาณให้แก่คนตรงหน้า และคนที่จะทำแบบนี้ได้ที่โลกคงมีเพียงคนเดียวเท่านั้น... ซานารุ  ยูคิ  มังกรหลับผู้ที่รักความสงบ และมีรอยยิ้มอยู่บนใบหน้าเสมอ

              ดาบยาวประจำตระกูลมุราเสะถูกส่งให้แก่น้องคนรองที่ยืนอยู่ข้างเวที  ผู้มากมายที่ค่อยๆตื่นจากพวังค์ส่งเสียงคุยจ้อกแจ้กทั่วทั้งแถบ ร่างของโทคิโตะถูกพยุงไปยังห้องพักผ่อนซึ่งอยู่ถัดจากสนามไปเพียงเล็กน้อย  สายลมที่พัดมาแล้วก็ผ่านไป  ยูคิเงยหน้ามองท้องฟ้าแล้วยิ้มกว้าง  วันนี้... ท้องฟ้าดูสวยกว่าที่เคย   ไซโซที่เดินตามโทคิโตะเข้าไปในห้องพักผ่อนเมื่อครู่เดินมาอยู่ข้างๆยูคิแล้วกล่าวขึ้น

              ขอบคุณนะ ยูคิไซโซกล่าว  ยูคิก้มหน้าลงมาก่อนจะเบนสายตาไปยังไซโซแล้วส่งยิ้มที่นุ่มละมุ่นไปให้ ดาบประจำตระกูลเจ้าล่ะไซโซยูคิถาม เมื่อไม่เห็นดาบยาวเล่มนั้นอยู่ข้างกายของไซโซ

              ดาบเล่มนั้นน่ะ  เหมาะสำหรับพี่โทคิยะมากกว่า  ข้าน่ะ... มีแค่ดาบเบี๊ยกโกะก็เพียงพอแล้วไซโซว่าก่อนจะกุมดาบเบี๊ยกโกะแน่น  

              แล้วแต่เจ้าเถอะ  แล้วจะอยู่แข่งต่อรึเปล่าล่ะยูคิถาม  ไซโซตวัดสายตามองด้วยความเคียดแค้นก่อนจะพูดด้วยน้ำเสียงเฉียบคม  แข่งสิ เงินตั้ง สามพันเยนเชียวนะ

              ฮาๆๆยูคิหัวเราะพลางปาดน้ำตาออกไป

              เจ้า... หัวเราะอะไรไซโซถามด้วยความอับอาย  ยูคิยังคงหัวเราะไปเลิกก่อนจะพยายามกลั้นหัวเราะอย่างสุดฤทธิ์แล้วหันมาพูดกับไซโซ ขอโทษๆ  แต่มันกลั้นไม่ไหวนะ ฮาๆๆว่าแล้วก็หัวเราะต่อ ไซโซสะบัดหน้าเหมือนผู้หญิงก่อนจะเดินกระทืบเท้าอย่างขัดใจหนีไป  ยูคิเดินตามไปง้อก่อนจะบอกับไซโซเรื่องที่จะให้ไปแข่งแทนเขาในรอบถัดไป

              เอาเถอะ  งั้นเจ้าไปแข่งกับคนต่อไปแทนข้าที  เดี๋ยวข้าจะไปดูแลเจ้าสองคนนั้นก่อนยูคิพูดแล้วชี้ไปยังห้องที่ซาสุเกะและฮิเดะพักผ่อนอยู่ ถัดจากคู่ของข้า ก็เจ้าพวกนี้ ยังไงเจ้าก็ช่วยยื้อเวลาไว้หน่อยแล้วกันให้เจ้าพวกนี้ได้พักเสียก่อนยูคิกล่าว

              เจ้าพูดมันง่าย แต่คนทำมันยากนะ  และข้าก็ไม่มั่นใจฝีมือตัวเองด้วยว่าจะไม่ฆ่าไอ้คนแข่งคนต่อไปนี้หรือเปล่าไซโซบอกพลางถอนหายใจ ยังไงข้าจะพยายามแล้วกัน บอกแล้วเดินจากไป เพื่อเตรียมตัวแข่งแทนยูคิ  เจ้าตัวที่บอกให้ไซโซไปแข่งแทนนั้นก็เดินเข้ามาในห้องพักของฮิเดะและซาสุเกะ  เป็นตามที่คาดไว้  ซาสุเกะนั้นลุกขึ้นมาตั้งท่าจะเดินออกจากห้อง  ยูคิหันไม่มองฮิเดะเหมือนจะถามว่า ทำไมเจ้าถึงไม่ห้าม

              ข้าห้ามแล้วน่า เจ้านั้นดันไม่ฟังดื้อจะไปหาเจ้าให้ได้ฮิเดะกล่าวพลางล้มตัวลงนอน  แล้วหลับตาลงอย่างช้าๆ ฮ้าว~ ข้าขอนอนก่อนนะ มีอะไรก็เรียกข้าแล้วกัน กล่าวหน้าตาย  ตามนิสัยปกติแบบไม่มีผิดเพี้ยนเลยแม้แต่น้อย   

              เดี๋ยวพวกเจ้าต้องไปแข่งต่อ  พักผ่อนให้มากๆแล้วกันนะ   ส่วนนี่... ดาบของเจ้ายูคิว่าแล้วส่งดาบสุซาคุให้แก่เจ้าของ อ่า~ ขอบคุณนะซาสุเกะพูดแล้วเอื้อมมือมาหยิบดาบไป  ก่อนจะหันหลังเดินไปนั่งบนเตียงนอน ขาสองข้างแกว่งไปมาเอื้อยๆ รอเวลาที่ต้องออกไปประลองถัดจากคู่ของไซโซ

              แสงสว่างที่ส่องลอดเข้ามาในหน้าต่างอย่างพอดิบพอดี ส่องให้เห็นครึ่งหน้าของฮิเดะที่ดูคล้ายจะทรมาน  มือข้างตัวกุมแน่น  คงจะเป็นโชคดีของหลายคนที่ยูคิและซาสุเกะสังเกตเห็นความทรมานบนใบหน้านั้น  ยูคิวิ่งไปยังเตียงของฮิเดะในทันที  ซาสุเกะเองก็กระโดดลงจากเตียงแล้ววิ่งไปยังเตียงของฮิเดะด้วยความเร็วไม่ต่างกัน  สัญลักษณ์ของปีศาจส่องแสงเจิดจ้า จนยูคิและซาสุเกะต้องหรี่ตาลงเพื่อป้องกันแสงเหล่านั้น   บริเวณนั้นเกิดความกดดันจากพลังที่ถูกปล่อยออกมาอย่างไม่มีที่สิ่งสุดจากร่างกายของฮิเดะ ผู้ที่เคยได้รับฉายาจากปีศาจด้วยกันว่า...  เครื่องจักรสังหาร    ยูคิถ่ายพลังเพื่อรักษาสมดุลชีวิตของฮิเดะ เหงื่อผุดจากผิวหน้าของยูคิจนชุ่มเสื้อผ้า  ซาสุเกะเองก็ช่วยดูดพลังที่ตื่นขึ้นมาในร่างของฮิเดะออกไป   ทั้งสองใช้เวลาสักพักก่อนที่ร่างของฮิเดะจะสงบลง  ซาสุเกะกับยูคิยิ้มให้กันก่อนจะหันไปมองฮิเดะที่อยๆลืมตาขึ้นมาด้วยความดีใจ

              มัน... ตื่นขึ้นมาอีกแล้วเหรอฮิเดะถาม   เมื่อเห็นสภาพของทั้งสองที่ชุ่มโชกไปด้วยเหงื่อ ไม่ต้องบอกก็รู้ว่าทั้งสองให้พลังมากเท่าใดกับการทำให้ร่างเขาสงบลง

              อืม  แต่ไม่เป็นไรหรอกนะยูคิบอกแล้วยิ้มให้  ฮิเดะก้มหน้าเป็นเพราะร่างกายของเขาที่เคยเป็นของปีศาจดังนั้นใน 1 สัปดาห์ จะมีวันที่ปีศาจในร่างเขาตื่นขึ้นมาเองโดยที่เขาทำอะไรไม่ได้เลย  ซาสุเกะโดดขึ้นไปนั่งบนเตียงเดียวกับฮิเดะแล้วกอดคอคนบนเตียงแน่น

              ช่างมันเถอะ  ข้าจะออกไปข้างนอกแล้ว อยู่กับยูคิแค่สองคนแล้วกันซาสุเกะว่า เป็นเวลาเดียวกันกับไซโซที่เดินเข้ามาในห้องด้วยสภาพเหงื่อโทรมกาย

              เหนื่อยมากเลยเหรอไซโซ  ฮาๆๆซาสุเกะแกล้งถาม  แล้วหัวเราะร่าเดินออกไปจากห้อง

              ตาต่อไปของเจ้านะไซโซตะโกนตามหลัง  เสียงตอบรับดังตอบกลับมาก่อนที่เสียงประกาศจากกรรมการจะดังขึ้น

              ฮิเดะ เจ้าไหวรึเปล่า ต่อจากซาสุเกะก็จะเป็นคู่ของเจ้านะไซโซถามด้วยความเป็นห่วง ยูคิหันไปมองหน้าฮิเดะแล้วหันเราะก่อนจะหันไปตอบไซโซแทนฮิเดะ ไหวอยู่แล้ว    4 ผู้พิทักษ์ ถ้าแค่นี้ไม่ไหวก็แย่แล้ว ยูคิบอกก่อนจะชูนิ้วโป้งให้แก่ฮิเดะ  

              ออกไปดูเจ้าซาสุเกะกันได้มั้ย  ข้าจะได้ไปหาซื้อเสบียงก่อนไซโซว่า ไม่ต้องให้มีคนตอบไซโซก็เดินจากไปเสียงแล้ว   ฮิเดะนั่งตีหน้าซื่อก่อนจะกระตุกชายเสื้อยูคิเหมือนเด็ก

              เรามาโตเกียวทำไมเหรอถามแบบเซ่อๆ  อีกฝ่ายส่ายหน้าน้อยๆ  ก่อนจะเปลี่ยนเป็นยิ้มกว้างแล้วหัวเราะเสียงดัง

              พวกเราก็มาตามหาความฝันน่ะสิ   ความฝัน... ที่คนไปกันไม่ถึงน่ะยูคิบอก

              ยูคิซังพูดอะไรไม่เข้าใจ  ไหนซาสุเกะบอกว่ามาเพื่อความยิ่งใหญ่ แล้วยูคิซังบอกว่ามาเพื่อความฝัน  ตกลงมันอะไรกันแน่ฮิเดะสะบัดหน้าไปมาแล้วหยิบกล่องยาใส่เป้ที่เขาพกประจำ  โดดลงจากเตียงก่อนจะเดินออกจากห้องพัก    

              ทั้งสองสิ่งมันก็เหมือนกันนั้นแหละยูคิพึมพำกับตัวเองแล้วเดินตามฮิเดะออกไป   บรรยากาศโดยรอบสนามนั้นอยู่ในช่วงกดดันเนื่องจากคู่ต่อสู้ของซาสุเกะเป็นแชมป์ของเวทีนี้  จิตสังหารแผ่ออก แต่พวกที่เป็น 4 ผู้พิทักษ์ด้วยกันต่างก็รู้อยู่แล้ว  ฝีมือแค่นี้ ถ้าเทียบกันแล้วล่ะก็... แค่ก้าวออกจากที่ยืนเท่านั้น  คนๆนี้ก็สามารถตายได้ด้วยไม่ฝีมือของซาสุเกะที่แข่งในตอนนี้ก็ต้องเป็นด้วยฝีมือของใครสักคนใน 4 ผู้พิทักษ์

              ดาบสุซาคุถูกชักออกจากฝัก  เพียงแค่มองก็รู้ได้ว่าคมแค่ไหน   ดาบที่ผ่านเลือดผู้คนมานับร้อยนับพัน  มันแทบไม่ต่างไปจากดาบของปีศาจสักเท่าใด   เสียงตวัดคมดาบเพียงแค่ครั้งเดียว  ถึงจิตสังหารจะยังไม่หายไปไหน  แต่คมดาบนั้นก็ได้ปลิดลมหายใจของอีกฝ่ายไปจนหมด    เลือดของอีกฝ่ายซาดกระจายเปรอะใบหน้าของผู้คนรอบสนาม  กลิ่นคาวโชยคลุ้ง จนบางคนทนไม่ไหวถึงกับอาเจียนออกมา   ซาสุเกะยิ้ม เป็นรอยยิ้มของเด็กที่ดูเหมือนไร้เดียงสา แต่ที่จริงแล้ว รอยยิ้มนั้นอาบยาพิษเพียงแค่ไปแตะโดน รอยยิ้มนั้นก็อาจจะฆ่าคุณได้   ตาต่อไปเป็นตาของฮิเดะ  ไม่จำเป็นต้องอธิบายใดๆ เพราะเมื่อขึ้นไปถึงเวที ฮิเดะก็ตวัดดาบปลิดชีพของอีกฝ่ายทันที  การต่อสู้หมุนเวียนไปเรื่อยๆ  คู่แล้วคู่เล่า  จนสุดท้ายก็เหลือค่เพียงคู่สุดท้าย ยูคิยืนอยู่บนเวที ให้คู่ต่อสู้ได้แสดงฝีมือออกมาทุกอย่าง เขายิ้มแล้วเก็บดาบลงฝัก  สันมือถูกตั้งขึ้นมาเพื่อป้องกัน  และไม่นานนัก อีกฝ่ายก็ล้มลงไปนอนบนพื้นเวทีอย่างยอมจำนน   ยูคิหันไปรับเงินรางวัล  สามพันเยนแล้วเดินลงจากเวทีอย่างสง่างาม  

              อ๊าก~  ผ่านไป 6 ชั่วโมงแล้วเหรอเนี่ย   ไปหาที่พักกันเถอะซาสุเกะร้องแล้วหันไปดึงแขนยูคิกับไซโซฉุดกระชากให้ไปหาที่พัก

              ไม่ต้องห่วงหรอก   ข้าหาไว้แล้วล่ะไซโซบอกแล้วเดินนำทุกคนไปยังบ้านหลังที่ว่า

              บ้านร้างอีกแล้วเหรอเนี่ยซาสุเกะบ่น  ผิดกับคนอื่นๆที่เดินไปในบ้านร้างหลังนั้นแล้วเริ่มจับจองที่นอนของต้น

              วันนี้เวรใครยูคิถาม  สองคนที่เหลือหันไปมองหน้าไซโซในทันที  ออกไปเตรียมฟืนซะยูคิพูดแล้วถีบไซโซให้ออกมานอกบ้าน

              ทำไมไม่ใจดีกับข้าเหมือนที่เจ้าใจดีกับซาสุจังล่ะ   เห็นแก่ตัวที่สุดไซโซทำท่าสะดีดสะดิ้งเกินหน้าเกินตา เจ้าทำแบบนั้น เจ้ายิ่งเหมือนผู้หญิงเข้าไปใหญ่ เจ้ารู้ตัวบ้างมั้ย ฮิเดะเดินออกมาบอก  ไซโซกำมือแน่นแล้วตะโกนตอบกลับ

              ข้าไม่ใช่ผู้หญิงนะไซโซว่าแล้วเดินกระทืบเท้าออกไปหาฟืน  ไซโซบางครั้งก็ดูเป็นหญิง  แต่บางครั้งก็ดูเป็นผู้ชาย   ถ้าไม่ใช่ว่าตอนอยู่ในป่าเคยแก้ผ้าอาบน้ำด้วยกัน เขาคงคิดว่าไซโซเป็นผู้หญิงไปจริงๆ   

              พรุ่งนี้เราจะเริ่มไปที่ไหนล่ะฮิเดะถาม  พลางนอนกระดิกเท้าอยู่ที่มุมหนึ่งของห้อง  ซาสุเกะหันไปมองแล้วปาขนมดังโงะใส่

              เลิกกระดิกเท้าซะที  ข้ารำคาญซาสุเกะกล่าวก่อนจะหันมาจัดที่นอนของตัวเอง  

              พรุ่งนี้งั้นเหรอ  ไม่มีอะไรต้องรีบใช่ไหมยูคิหันไปถามความเห็นจากซาสุเกะ ซึ่งเจ้าตัวก็พยักหน้าตอบรับ

              งั้นไปปราสาทเอโดะกันเถอะ  ไหนๆก็มาแล้ว และก็แวะกินทาโกยากิด้วย  แถวนั้นเขาบอกว่าทาโกยากิอร่อยสุดๆเลยล่ะยูคิพูด  ท้องฟ้าช่วยเย็นเริ่มจะทอแสงลงไปบางแล้ว  ยูคิหยิบดาบ เกนบุ ข้างตัวขึ้นมากำไว้ ไม่ว่าอย่างไร  ข้าก็จะคืนดาบเล่มนี้ให้แก่ท่าน  ท่านมาซามูเนะ  ศิษย์คนนี้จะไปหาท่านให้ได้  หวังว่าท่านอาจารย์คงจะอภัยให้ศิษย์คนนี้แล้วนะขอรับ  

              ข้ากลับมาแล้ว~”ไซโซตะโกนจากข้างนอก จนยูคิสะดุ้งเฮือก  วางดาบลงข้างตัวทันที   แล้วหันไปยิ้มให้กับผู้มาใหม่ งั้นข้าไปจุดไฟก่อนนะ  แสงตะวันใกล้หมดแล้วด้วยไซโซว่า ก่อนจะเดินไปนั่งกอกองไฟหน้าบ้านร้าง   

              งั้นข้าไปช่วยนะซาสุเกะอาสา  ก่อนจะวิ่งออกไปหน้าบ้าน  รอยยิ้มนี้...  มีความสุขให้ตลอดไปนะทุกคน

     

     


    ...

     

    นามของข้าคือซารุโทบิ  ซาสุเกะ 10ผู้กล้าซานาดะ

     

    ท่านยูคิมูระบสั่งให้ข้ามาบอกพวกท่านว่า

     

    ตอนต่อไปสนุกแน่ ให้พวกท่านรออ่านแล้วกัน

     

    ข้าไปล่ะ หมดหน้าที่ของข้าแล้ว

     

    ...

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    นิยายที่ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×