ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    [LoL Fanfic] Lover Birds ปีกคู่กู้โลก♡[Rakan × Xayah story]♡

    ลำดับตอนที่ #2 : นกกาสีม่วง

    • เนื้อหาตอนนี้เปิดให้อ่าน
    • 192
      12
      11 มี.ค. 62

        
        "าย่าห์" เสียงที่ท่านพ่อเรียกชื่อของข้านั้นดังขึ้นมาในหัว ข้านั้นยังคงจำได้ดีเสมอแม้ว่าครั้งสุดท้ายที่ข้าได้ยินเสียงนั้นมันก็เมื่อหลายปีมาแล้ว ยาวนานและกำลังจะถูกลืมเลือนไปในไม่ช้า 

    ข้าในขณะที่กำลังเดินอยู่ท่ามกลางฝูงชนในเมือง 'วารันโค' แห่งนี้ ได้เห็นถึงผู้คนมากมายที่กำลังเฉลิมฉลองในเทศกาลเก็บเกี่ยวประจำปี มีทั้งพวกมนุษย์ และวาทาย่าจะเผ่าต่างๆเดินไปมาเป็นเรื่องปกติ บรรดาแสงสีเสียงมากมาย และกลิ่นของอาหารอันเลื่องชื่อของเมืองนั้นทำให้ข้าเกิดรู้สึกหิวขึ้นมาหน่อยๆ แต่ความสันที่สุขและงานเทศกาลอันรื่นเริงทั้งหมดนี้มันกลับทำให้ข้านั้นหวนนึกถึงช่วงเวลาเก่าๆ ในตอนที่พวกเขายังคงอยู่ โดยเฉพาะท่านพ่อที่ข้านึกถึงมากที่สุด แล้วมันก็ทำให้ข้าเศร้าใจขึ้นมา แม้จะอยู่ในงานเทศกาลที่สนุกสนานก็ตาม

    แต่ว่าข้าไม่ได้มาเพื่อเฉลิมฉลองงานเทศการหรอก วันนี้ข้าจะต้องหา 'เหรียญทองรูปเทพธิดา' ที่ซ่อนอยู่ในที่พักของเทศมนตรีเมืองนี้ให้ได้ และจากนั้นก็รีบออกจากเมืองไป ข้าจะได้ไม่ต้องมีความรู้สึกรำลึกความหลังแบบนี้อีก แต่ในขณะที่ข้ากำลังจะมุ่งตรงไปที่บ้านของเทศมนตรี ฝูงชนมากมายก็กรูเข้ามาเบียดเสียดกันทำให้ทางเดินของข้านั้นถูกปิดไปโดยปริยาย นี่กำลังเกิดเรื่องบ้าอะไรกัน?!
        
        "ราคาน~" ชาวเมืองเพศเมียแถวนี้เริ่มส่งเสียงเหมือนกำลังเรียกอะไรกันอยู่ แล้วต่างก็มองไปในทิศทางเดียวกันนั่นคือใจกลางเมืองที่มีเวทีขนาดใหญ่ตั้งอยู่ อะไรก็ตามที่อยู่หลังผ่านม่านบนเวทีนั่น จะต้องเป็นอะไรที่พวกเขารอคอยมานานเหมือนที่ข้ารอคอยที่จะได้ปลดปล่อยเผ่าของข้าให้เป็นอิสระ และไม่นานนัก ผ้าม่านบนเวทีก็ถูกเปิดออกมาพร้อมกับควันและแสงสว่างที่แทบทำตาของข้าพร่ามัวไปชั่วขณะ อะไรกัน!? กับดักเหรอ?! 
        "สวัสดีทุกคน! ราคานมาแล้วจ้า!!" ทั้งทีที่เสียงนัั้นพูดจบ เสียงกรีดร้องด้วยความตื่นเต้นของพวกเพศเมียรอบกายข้าก็ดังขึ้นมาก จนฆ่าอยากจะไล่ปาดคอทีล่ะตัวเลย ไม่สนใจว่าจะเป็นมนุษย์หรือวาสทาย่าด้วย! และหลังที่ข้าเริ่มมองเห็นได้ชัดเจน ข้าก็ได้รู้ว่าเจ้าของเสียงเป็นบุรุษชาววาสทาย่าอีกคนที่มีรูปร่างหน้าตาก็รูปงามดี แม้ว่าเขาจะดูจิตไม่ปกตินิดหน่อยก็เถอะ 
        "ข้ารู้ว่าพวกเจ้าต้องการอะไร และข้า! ราคานผู้นี้ จะมามอบสิ่งที่พวกท่านต้องการเองในค่ำคืนนี้!" เขาพูดขึ้นต่อก่อนที่จะเริ่มสร้างเสียงเพลงและแสงสีมากมายด้วยเวทมนตร์ไปพร้อมกับการร่ายรำของเขา
    เหอะ! ก็แค่เวทมนตร์กระจอกๆนั่นแหละ ข้าตัดสินใจไม่สนใจเจ้าตัวตลกนี่ แล้วพยายามคลำหาทางออกไปจากฝูงชนไปในเร็วที่สุด 
    แต่หลังจากนั้นสักพัก ข้าก็รู้สึกเหมือนกำลังถูกจ้องมองอยู่จากใครสักคน ข้าหันไปในทิศทางที่คิดว่ารู้สึกว่าจะเป็นทางนั้น  แล้วจากนั้นมันก็ใช่จริงๆ เจ้าตัวตลกนั่นกำลังมองข้าอยู่ด้วยสายตาที่เหมือนกำลังเจอเพรชเม็ดงามอยู่อย่างงั้นแหละ เราสองตัวจ้องหน้ากันอยู่สักพัก ก่อนที่เจ้านั่นจะลืมตาลงแล้วทำเหมือนกำลังนึกอะไรบางอย่างอยู่ ในตอนนี้ข้าเองก็ยังคงพยายามหาทางออกต่อไป แต่อนิจา ฝูงชนยิ่งดูวุ่นวายเข้าไปใหญ่เลยจนทำให้ถ้าหากข้าจะผ่านมันไปจริงๆข้าคงต้องฆ่าใครสักสองสามคน เยี่ยมที่สุดเลย(ประชด) ในขณะที่ข้ากำลังติดแหง่กอยู่แบบนี้และคิดว่าคงต้องชักขนนกออกมาปาดคนมนุษย์สักคนนั้นเอง
        "เราจะทำตามสัญญา..." ข้าได้ยินเสียงร้องเพลงจากเจ้าตัวตลกนั่น น่าแปลกดีนะ ที่ข้ารู้สึกคุ้นเคยกับเพลงนี้มาก มันทำให้ข้านึกถึง... อ่าโธ่ เอ้ย ทำไมข้าถึงฟังมันล่ะ?? ทั้งๆที่เพลงนี้มันจะทำให้ข้ายิ่งรู้สึกเศร้ามากขึ้นจากความทรงจำเก่าๆพวกนั้นแท้ๆ เพลงนี้มันคือเพลงที่ท่านพ่อของข้าเคยขับร้องให้ข้าฟัง ในสมัยที่ข้ายังเป็นเด็ก และมันก็ดันร้องเพราะมากซะด้วย ไม่นานนัก เจ้านั่นก็หันมามองที่ข้าอีกครั้ง ข้ามองเขากลับไป และคิดว่าข้าควรจะใช้จังหวะที่ฝูงชนนั้นกำลงหันไปสนใจเขาอยุ่จนไปอยู่รวมๆกันหน้าเวที แล้วก็เปิดทางเดินให้กับข้า รีบหนีออกมาจากตรงนี้ให้เร็วที่สุด เพราะคงจะไม่มีโอกาสที่ดีกว่านี้แล้วเป็นแน่ 

    ข้าเดินฝ่าฝูงชนออกมาสู่ถนนได้สำเร็จ และข้าก็รีบมุ่งหน้าไปที่บ้านของเทศมนตรีให้เร็วที่สุด โชคเข้าข้างข้าเลย เพราะทั้งงานเทศกาล และเพราะเจ้าตัวตลกนั่น ทำให้ตอนนี้ท้องถนนแถบจะไม่มีผู้คนอยู่เลย ว่าแต่ข้าจะไปนึกถึงเจ้านั่นอีกทำไมกันนะ? พอได้แล้ว!
    ข้าเดินลัดเลาะไปตามถนน จนในที่สุดก็มาถึงจุดหมายจนได้ ข้าใช้ขนนกของข้าเองในการสะเดาะกลอนประตู ของแบบนี้มันช่างง่ายจริงๆ จากนั้นก็เดินประตูเข้าไป ห้องรับแขกที่มีโต๊ะทำงานของเทศมนตรีอยู่นั้น ภายในห้องถูกจัดแต่งด้วยร่างของสัตว์ที่ถูกพวกมนุษย์ล่ามาทำสิ่งของประดับห้องมากมาย รวมทั้งอาวุธ และรูปปั้นหน้าตาหน้าเกลียด
    ข้าเลือกที่จะมองไปรอบๆ และคิดว่าถ้้าข้าเป็นเทศมนตรี ข้าจะเอาเหรียญทองแสนมีค่านั้นไว้ที่ไหนนะ? 
    มันคงต้องใช้เวลาสักพักเลยในการหามัน และเมื่อกี้ ข้าคิดว่าข้าเห็นอะไรบางอย่างที่มีสีทองอยู่แถวหน้าต่างนะ แต่อาจจะตาฝาดไปเองเพราะเมื่อมองกลับไป ข้าก็ไม่เห็นอะไรแบบนั้นแล้ว และในที่สุดข้าก็เจอเหรียญเงินนั่นวางอยู่บนโต๊ะเอง   โธ่เอ้ย ซาย่า เจ้านี่มันสายตาเซ่อซ่าซะจริง ข้าหยิบเหรียญขึ้นมาดู แล้วก็พบว่ามันใช่เหรียญนั้นจริงๆ ข้าคิดว่านะ แต่ก่อนที่ข้าจะได้เดินออกไป จู่ๆเสียงเพลงนั่นก็ดังขึ้นในหัวของข้าอีกครั้ง อย่างควบคุมไม่ได้ เพลงโบราณนี้ทำให้ข้านึกย้อนกลับไปตอนเด็กอีกครั้ง บ้าจริง ทำไมต้องเป็นตอนนี้ด้วยนะ? ช่วยออกไปจากหัวของข้าทีเถอะ! 
    แต่ข้าสั่งไปก็เท่านั้น มันไม่มีวี่แววว่าจะเงียบไปเลย จนข้ายอมแพ้ ปล่อยให้มันแล่นอยู่่ในหัวแบบนั้นแหละ มันจะแย่ได้สักแค่ไหนกันเชียว? 
    ข้าเปิดประตูออกมา แล้วล็อคมันกลับให้เป็นเหมือนเดิม ก่อนจะเริ่มเดินเข้าไปในตรอกซอยข้างๆ เพราะนั่นจะเป็นทางออกจากเมืองที่ใกล้ที่สุดในตอนนี้ แต่ในขณะที่กำลังเดินอยู่นั้น เพลงนั่นก็บรรเลิงในหัวของข้าไม่หยุด ข้านึกถึงภาพของชาววาสทาย่าบนเวทีคนนั้น ไอ้ตัวตลกนั่น ข้าอยากจะลบความทรงจำของตัวเองออกไปทั้งหมดเลยเดี๋ยวนี้!

    มันเป็นช่วงเวลาที่ข้าเผลอวางการป้องกันตัวลงไปชั่วขณะ เพราะมัวแต่นึกถึงอยู่แต่เรื่องนั้นแล้วจากนั้น... 

        "เฮ้! ว่าไงแม่สาวน้อย!" มนุษย์ร่างกำยำสองคนเดินออกมาดักหน้าของข้า 
    หึ! พวกนักล่าค่าหัวอีกแล้วสินะ ดูเหมือนว่าข้าคงจะได้ล้างขนของตัวเองด้วยเลือดก่อนที่จะออกจากเมืองนี้ซะแล้ว
       
        "ใช่คนนี้แน่นะ? ได" นักล่าที่ตัวเตี้ยกว่า พูดกับอีกคน ทำเหมือนกับข้าเป็นแค่สิ่งของที่ไม่คิดจะตอบโต้อะไรแบบนั้นน่ะ
        
        "แน่นอน นี่แหละ นกกาสีม่วง ข้าจำได้ไม่ผิดตัวแน่ เอาล่ะถ้าพวกเราได้ตัวเจ้าแบบมีชีวิตอยู่เงินรางวัลจะมากเป็นสองเท่าเลยนะ เพราะงั้นมากับพวกเราซะดีๆถ้ายังอยากมีหัวอยู่บนบ่าของเจ้า"  ไอ้พวกนักล่าค่าหัวเนี่ยพูดเป็นแบบนี้ตลอดแหละ มีแค่เพียงความมั่นใจ แต่ไร้ซึ่งสมองที่จะประเมินคู่ต่อสู้ เหมือนเก่งอ่ะพวกเวรนี้
        
        "ข้าเกรงว่าพวกเจ้าคงต้องพาศพของตัวเองไปแทนมากกว่านะ" ข้าตอบกลับไป เล่นทำเอาเจ้าพวกนี้เลือดขึ้นหน้า ใครจะยอมไปง่ายๆแบบนั้นกันเหล่า?

        "ปากของเจ้ามันเก่งนักนะ งั้นก็ได้ ค่าหัวตอนตายของเจ้าก็ยังสูงอยู่ดีนั่นแหละ!" เจ้าสมองลิงนั่น ง้างขวานขึ้นมา ซึ่งข้าก็เตรียมพร้อมไว้แล้วล่ะ ข้าเตรียมขนนกขึ้นมาสามเส้น เล็งที่หัวใจ ก่อนที่จะ... 
        
        " อาาาา สิ เพ่น ยา!! วาวาริ จิวาวา! " เหนือความคาดคิด จู่ๆ ก็มีเจ้าบ้าคนนึงเข้ามาส่งเสียงร้องเพลง และเต้นไปมาจากทางด้านหลัง ทำให้นักล่าค่าหัวทั้งสอง รวมทั้งข้าด้วยต่างก็หันไปมองเขาด้วยความแปลกใจ
    ไอ้ตัวตลกนั่นคิดจะทำอะไรกัน!? อยากตายนักรึยังไง? ข้าไม่ช่วยหรอกนะ แม้ว่าเจ้าจะเป็นชาววาสทาย่าด้วยก็ตามที
    นักล่าค่าหัวทั้งสองต่างก็มองหน้ากันไปมาด้วยความงุนงงว่ามันเกิดอะไรขึ้น ข้าคิดว่าถ้าเป็นข้าจะต้องพูดว่า...

        "ไอ้ปัญญาอ่อนนี่มาทำอะไรว่ะ?" เหอะ เจ้าพวกนี้ด่าเบากว่าที่ข้าคิดไว้เยอะ ไร้น้ำยาป่าจริงๆ

         "ข้ามาเพื่อชวนพวกเจ้าเต้นกัน!  นี่ถือว่าเป็นเกียรติมากเลยนะที่ข้ามาชวนพวกเจ้ามาเต้นกันน่ะ เทศกาลทั้งทีมาทำอะไรกันก็ไม่รู้ในซอย ไม่เหงากันบ้างเหรอ??" เจ้าจำอวดนั่นพูดต่อไป ดูก็รู้ว่าต้องการที่จะก่อกวนพวกนี้ ว่าแต่จะทำมันไปเพื่ออะไรกัน? โดดลงภูเขาไปตายไม่ง่ายกว่าเหรอ?

          "ไปไกลๆเลยไปข้าไม่อยากมาเสียเวลากับไอ้จำอวดอย่างเจ้า"  เจ้าคนตัวสูงกว่าไม่สนใจแล้วหันกลับมาที่ข้า ซึ่งข้าก็เตรียมพร้อมมาแล้วล่ะ และในช่วงพริบตาที่ขนนกของข้าถูกปล่อยออกไป ขนที่เบาบางแข็งตัวขึ้นและพุ่งทะลุคอหอยของไอ้ร่างลิงนี่ ก่อนที่ข้าจะควบคุมขนนกให้กลับมาอยู่ในมืออีกครั้งอย่างรวดเร็ว

          "อั่ก! นี่แก!!"  เจ้านั่นล้มลงไปแล้วหมดลมหายใจอย่างง่างดาย กระจอกอย่างที่ข้าคิดไว้ไม่มีผิดเลย
          "ได!! หน๊อยแกนะแก!!" เจ้าคนเตี้ยกว่า ทำสีหน้าโกรธจัด ก่อนที่จะชักดาบออกมา แล้วตรงเข้ามาหมายจะแทงข้า ข้านั้นที่เตรียมพร้อมอยู่แล้วก็กำลังจะเตรียมหลบนะ แต่อีกสิ่งที่ไม่คาดคิดก็เกิดขึ้นอีกครัั้ง 

           ' เสียงของดาบนั่นที่ฟันไปกระทบเข้ากับโล่เวทมนตร์บางอย่าง และแสงสีทองรอบๆตัวข้านั่นยังทำให้ข้าไม่แปลกใจมากไปกว่าร่างของผู้ที่ทำแบบนั้น กำลังยืนคั่นอยู่ระหว่างข้าและเจ้านักล่าค่าหัวนั่น เขาเข้ามาอยู่ตรงนี้ได้เร็วขนาดนี้เลยงั้นเหรอ?? แต่ถึงอย่างงั้นข้าก็ต้องรีบทำในสิ่งที่ต้องทำ ขนนกของข้าถูกส่งออกไปทำหน้าที่อีกครั้ง และครั้งนี้ข้าเล็งเข้าที่ขั้วหัวใจของมัน เส้นขน ตัดทะลุผ่านมันไปอย่างรวดเร็ว ส่งร่างนั่นกระเด็นออกไปเล็กน้อยร่างนั่นใช้มือกุมเข้าที่อกและค่อยๆทรุดลงไป

        "นี่แก... ทำอะไรลงไป...?" มันถามด้วยเสียงของคนที่กำลังขาดอากาศหายใจ เหมือนกับที่พวกเรากำลังขาดเวทมนตร์นั่นแหละ

     "มะ- ไม่จริงน่า..." ไม่นานที่เขาพูด พิษบาดแผลก็พรากเอาลมหายใจสุดท้ายของเขาไป กาก...

        "ไม่ต้องขอบคุณ" เจ้าตัวตลกพูดขึ้นมา แม้ว่ามันจะจริง ที่ไม่ต้องขอบคุณเลยสักนิด เพราะข้าไม่ต้องการความช่วยเหลืออะไรแบบนั้นจากเขาเลยสักนิด

        "แน่นอน ไม่จำเป็นต้องขอบคุณหรอก" ข้าตอบกลับไปตามตรง แต่ก็ทำให้หมอนี่หน้าถอดสีเลยทีเดียว

        "เดี๋ยวๆ ข้า เอ่อ... ข้าขอทำความรู้จักกับเจ้าก่อนได้มั้ย?ข้ามีนามว่าราคาน เป็นนักผจญภัย ผู้ที่-"

        "ข้าก็นึกว่าเป็นตัวตลกซะอีก" ข้าตัดบทของเขาไป ตอนนั้นเองที่ข้ารู้สึกเหมือนได้เอาค้อนหินหวดเข้าที่หน้าเจ้าเจ้านี่ไปอย่างจัง สะใจจริงๆ

        "เอ่อ.. ก็ไม่ใช่หรอกนะ ข้าเป็นนักแสดงน่ะ แล้วก็... การแสดงของข้าดูเป็นยังไงบ้างล่ะ?"  ข้าต้องชงักกับคำถามนั้นทันทีที่ได้ยิน เพลงโบราณนั่นน่ะเหรอ? ไม่อยากจะพูดถึงมันหรอกนะ แต่ว่ามันก็...

        "...ติดหู..." ข้าตอบออกไปเบาๆ ในระดับที่จงใจไม่ให้เขาได้ยินมัน ข้ารู้ว่าหูของชาววาสทาย่าไม่ดีพอที่จะได้ยินเสียงคำพูดในลำคอหรอกนะ

        "ว่าไงนะ?" เขาย้ำถามอีกครั้ง ซึ่งจริงๆข้าก็ไม่ควรตอบไปหรอกนะ

        "ช่างมันเถอะ ข้าขอตัวไปล่ะ อย่าได้เดินตามมานะ..." ข้าตัดบทเรียบๆ แล้วเริ่มเดินต่อไป ข้าต้องรีบหนีออกไปจากสถาณการณืไม่ปกติแบบนี้ไปให้ไวที่สุด ไม่งั้นหัวของข้าคงจะเอาแต่คิดถึงแต่เพลงนั้นแน่ๆ แต่ทว่ายังไม่ทันได้ก้าวเดินไปสักก้าว ข้าก็สัมผัสได้ถือมือของเขาที่แตะไล่ของข้ารั้งเอาไว้ 

    ข้าชักจะโกรธแล้วนะ!

        "เฮ้" และเจ้าบ้านนั่นก็ทำเสียงเข้มๆประหลาดๆนั่นไปเพื่ออะไรกัน?

        "ปล่อย" ข้าพูดขึ้น และรู้สึกได้ว่าน้ำเสียงของข้าฟังดูโกรธขึ้นมาจริงๆด้วย

        "แต่ ข้ายังไม่รู้จักชื่อของเจ้าเลยนะ บอกทีสิ" เขายังคงดื้อรั้น แต่ขอโทษนะ

        "เจ้าไม่ต้องรู้หรอก" ข้าพูดตัดจบแล้วก็รีบเดินต่อไปทันที

        "งั้นนนน ข้าขอติดตามเจ้าไปหน่อยนะ ว่าแต่นี่เจ้ากำลังจะไปไหนเนี่ย?" เขายังคงเดินตามข้าต่อไป

        "เจ้าจะทำแบบนี้ไปเพื่ออะไร?" ข้าหยุดเดินแล้วหันไปจ้องเขาตรงๆ บ่งบอกว่าข้าต้องการเหตุผลที่จริงจัง และเขาก็... 

        " เอ่อ... ข้าไม่รู้สิ..." ข้ากรอกตาด้วยความหงุดหงิด แล้วข้าเลือกที่จะหันกลับมาที่ทางออก ไร้สาระที่สุด!

        "ถ้าไม่มีเหตุผลก็อย่าได้ตามมา..." ข้ารีบวิ่งออกมาดดยที่จะไม่รอการตอบโต้ของเขาอีกต่อไป และถ้าครั้งนี้เขาตามมาอีก  เขาคงจะตกอยู่ในอันตรายอีก และข้าจะไม่ช่วยเขาจริงๆนะ! 


    หลังจากที่ข้าเข้ามาในป่าได้แล้ว ข้าก็พยายามที่ปัดและลืมทุกความทรงจำที่เกิดขึ้นในเมืองในวันนี้ โดยเฉพาะบทเพลงที่กำลังอยู่ในหัว และ...ใบหน้าของเจ้านั่น เพราะยังไงซะข้าก็ได้เหรียญมาแล้ว มันจบธุระในเมืองนี้แล้วซาย่าห์! เลิกคิดถึงได้แล้ว! 

    แต่ถึงอย่างงั้น... เขา นอกจากจะเป็นชาววาสทาย่าแล้วดูเหมือนว่าเขาก็เป็นเหมือนเผ่าเดียวกันกับข้าเลย แต่ขนนกของเขามันไม่ใช่ เขาเป็นนกยูงที่มีขนสีทอง

    ข้าเลือกที่จะหยุดพักที่กิ่งไม้ นี่ก็เย็นมากแล้ว พระอาทิตย์สีทองก็ยังคงทำให้ข้านึกถึงเขาอีกครั้ง... บ้าจริง

    นกยูงสีทอง งั้นสินะ


    ##########################################################################


    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    นิยายที่ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×