คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #1 : นกยูงสีทอง
"ราคาน~" เสียงของผู้ชมมากมายที่กำลังรอการปรากฎตัวของข้าอยู่ข้างนอกนั่น ส่งเสียงร้องเรียกชื่อของข้าอยู่อย่างต่อเนื่อง ราวกับว่าทุกครั้งที่เรียกจะทำให้ข้าปรากฎตัวออกไปทันทีแบบนั้น ข้าไม่ว่าพวกเขาหรอก เพราะยังไงซะพวกเขาก็คงจะอดใจรอไม่ไหวที่จะได้ชมการแสดงที่แสนวิเศษจากข้า ราคานผู้นี้หรอก อย่างไรก็ตามข้าเองก็ไม่อาจจะทนต่อเสียงเรียกร้องของผู้ชมที่น่ารักแบบนี้หรอกนะ ข้าเปิดผ้าม่านออกมาพร้อมกับระเบิดควันและแสงสว่างที่ทองที่จะทำให้สายตาของพวกเขาพร่ามัวไปชั่วขณะ แน่นอนข้าทำเพื่อเป็นการเปิดตัวที่ดูยิ่งใหญ่และอลังการ มันเหมือนเป็นเอกลักษณ์ของข้าไปแล้ว และแน่นอน ทริคของแสงสีและควันพวกนี้ก็มาจากเวทมนตร์ของข้าเอง ข้ากวาดสายตามองไปรอบๆเห็นชาวเมืองทั้งที่เป็นมนุษย์และชาววาสทาย่าอยู่รวมกันมากมาย ณ เมือง 'วาลันโค' แห่งนี้ พวกเขากำลังเฉลิมฉลองให้กับเทศกาลกับเกี่ยวประจำปี และข้าก็มาที่นี้เพื่อมาสร้างความบรรเทิงเพิ่มเติมให้แก่พวกเขา ถึงแม้ว่าพวกทหารจะไม่ค่อยชอบขี้หน้าของข้าเลยก็ตาม จนส่งคนมาแอบส่องดูข้าในฝูงชน ใช่ ข้าตาดีพอที่จะเห็นความไม่เนียนเอาซะเลยของพวกเขา ซึ่งก็ไม่เห็นจะต้องใจร้ายกับข้าขนาดนั้นเลยนี่นา
"สวัสดีทุกคน! ราคานมาแล้วจ้า!!" ข้าตะโกนออกไป เหล่าคนดู โดยเฉพาะสาวๆต่างก็มากันกรีดร้องเรียกชื่อของข้ากันใหญ่เลย ข้าเนี่ยมันเสน่ญแรงเหมือนเคย
"ข้ารู้ว่าพวกเจ้าต้องการอะไร และข้า! ราคานผู้นี้ จะมามอบสิ่งที่พวกท่านต้องการเองในค่ำคืนนี้!" ในระหว่างที่ข้ากำลังป่าวประกาศและนึกถึงเรื่องที่คิดจะทำ หูของข้าก็ดันดีจนไปได้ยินเสียงอันไม่พึ่งประสงค์จากพวกทหารคุยกันเอง
'ช่าย หัวของแกไง' ข้าไม่รู้หรอกว่าใครพูด แต่ข้าอยากจะล้างปากของเจ้านั่นด้วยหินโสโครกจากใต้ทะเลลึก แต่เอ นั่นไม่ใช้ว่าจะทำให้ปากมันสกปรกกว่าเดิมหรอกเหรอ?? แต่ช่างเถอะใครสนกันเหล่า? ว่าแต่หลังปาร์ตี้นี้จบลงข้าควรจะไปลองสิ่งที่พวกมนุษย์เรียกกันว่า'ชูชิ' ดีมั้ยนะ? เมืองนี้จะมีขายรึเปล่าเนี่ย?
ในขณะที่ความคิดของข้ากำลังแล่นไป ร่างกายก็ข้าก็ยังคงเต้นและแสดงไปเองอย่างเป็นธรรมชาติ ลีลาการร่ายรำของข้านั้นอัศจรรย์ และผสมเข้ากับทริคเวทมนตร์ที่ข้างัดออกมาใช้มั่วๆไปเรื่อยๆข้าไม่ต้องคิดมากหรอกนะ ปล่อยกายไปตามใจ แล้วของดีๆแสดงออกมาเอง นั่นแหละคือวิธีการแสดงของข้า ฝูงชนมากมายต่างก็เต้นรำร้องเพลงไปด้วย แสงสีพลุไฟมากมายตระการตา ช่างเป็นช่วงเวลาแห่งความสุขที่สุด ข้าเฝ้ามองในฝูงชน ทั้งมนุษย์และชาววาสทาย่าที่อยู่ร่วมกันในงานต่างก็ร้องเล่น และเต้นรำไปด้วยกัน ...ช่างต่างจากที่พวกเขาทำกันในเขตแดนอื่นจริงๆ แต่เอาเถอะ! ที่นี้มันสงบสุขแค่นั้นข้าก็ไม่ควรคิดมากหร๊อก
ในช่วงเวลานั้นเองที่ข้าส่องเข้าไปในฝูงชนนั้น ข้ากลับเห็นสตรีภายใต้เสื้อคลุมนางหนึ่งที่อยู่ในนั้น ด้วยเหตุผลบางอย่าง นางหันเข้ามามองที่ข้า สายตาของพวกเราประจบกัน และหยุดนิ่งไปชั่วครู่ และ!! นางเป็นชาววาสทาย่าคนงามซะด้วยจากกลิ่นอายเวทมนตร์ที่สัมผัสได้ และข้าคงไม่วายที่จะขอร้องเพลงเพื่อเรียกร้องความสนใจจากสาวๆโดนเฉพาะนางด้วยเลยล่ะกัน ข้าคิดไปแปปเดียวเท่านั้นก่อนที่จะนึกบทเพลงที่จะหยิบมาร้องได้
"เราจะทำตามสัญญา..." ข้าเปล่งเสียงร้องเพลงออกมาเป็นภาษาวาสทาย่า ข้าไม่สนว่าพวกมนุษย์จะเข้าใจความหมายของมันหรือไม่ ข้าขอแค่พวกเขาจะเพลิดเพลินไปกับทำนองและเสียงอันไพเราะของมันก็พอแล้ว และในตอนที่ข้าเริ่มร้องเพลงออกมา ชาวเมืองที่เริ่มได้ยินก็หันกลับเข้าสนใจที่ข้าและเริ่มบอกกับคนข้างๆ จนในที่สุด คนทั้งเมืองก็ได้รับฟังและตกอยู่ในมนตร์สะกดของเพลง สตรีทั้งมนุษย์และชาววาสทาย่าตกหลุมรักในเสียงอันไพเราะของข้าและความงดงามของบทเพลง เพลงที่เกี่ยวกับคำสัญญาของผู้นำเผ่ายอดนักรบที่จะมอบคืนความสุขให้กับผู้คนของเขา แม้เพลงนี้จะเก่าแก่มากแล้วก็ตามที แต่ความขลังของมันไม่เคยเสื่อมคลายเลย
และสุดท้ายข้าก็เหลือบตามองกลับไปมองที่หญิงสาวชาววาสทาย่าคนนั้นหวังว่าจะได้เห็นสีหน้าที่กำลังหลงไหลในตัวข้า
.
..
...แต่เปล่าเลย ข้ามองเห็นสีหน้าที่แน่นิ่ง เงียบสงบเหมือนสายลมที่ไม่เคยพัดไปไหน และจากนั้นนางก็หันกลับแล้วเดินออกไปจากฝูงชนอย่างรวดเร็วข้าเผลอหยุดร้องเพลงต่อไป จนผู้ชมคิดว่าข้านั้นร้องเพลงจบแล้ว และเริ่มปรบมือให้กับข้า แต่ตอนนี้ข้าไม่สนใจอีกต่อไปแล้ว ข้าไม่เคยเจอใครที่เพิกเฉยต่อเสน่ญของข้าแบบนี้ได้มาก่อนเลย เป็นไปได้ยังไงกัน? ความสงสัยพุ่งพรวดแล่นเข้ามาในจิตใจของข้า จนขาขาของข้าก้าวลงมาจากเวที แต่ก่อนที่ข้าจะได้เดินต่อไปฝูงชนก็เข้ามารายล้อมตัวของข้า บดบังวิสัยทัศน์การมองเห็น กลิ่นน้ำหอมและกลิ่นกายของผู้คน กลบกลิ่นของเวทมนตร์ของนาง และข้าเองก็ขยับไปไหนไม่ได้เลย ข้าพยายามใช้มือคล้ำและกวาดหาทางออกไปจากสตรีที่พยายามจะเข้ามาแตะตัวของข้า
"เอ่อ... ข้าขอทางพวกเจ้าหน่อยเถอะ" ท้ายที่สุดข้าก็พูดออกมาเพื่อร้องขอทางจากพวกนาง ข้าขอโทษนะ แต่ข้ามีคนที่คิดว่าข้าสนใจอยู่มากกว่าพวกเจ้าแล้วล่ะ ข้าได้แต่บอกกับพวกนางในใจเท่านั้น การทำร้ายจิตใจของสุภาพสตรีเป็นอะไรที่ข้าจะไม่ทำมากที่สุด บิดาสีเขียวยังคงเป็นใจให้กับข้า พวกนางเข้าใจแล้วเริ่มลีกทางให้ ข้เารีบวิ่งออกมาจากบริเวณของงานอย่างรวดเร็ว ไม่สนแล้วว่าปาร์ตี้นี้จะยังไม่จบ ข้าเชื่อว่าชาวเมืองต้องเต้นรำกันได้เองแน่ๆ
ข้าเดินลัดเลาะไปตามถนน กวาดสายตามองหานาง ยังดีที่ตอนนี้บริเวณถนนนั้นจะไม่ค่อยมีผู้คนนัก เพราะพวกเขาจะไปอยู่ที่งานกันหมด
และในที่สุดข้าก็เจอตัวนางเข้าแล้ว แต่ทำไมนางจะมาทำอะไรที่หน้าประตูบ้านของเทศมนตรีกันนะ?
นางมองซ้ายและขวา ตอนแรกข้าคิดว่าจะเข้าไปทักนางเลย แต่ขอเฝ้ามองนางไปสักพักล่ะกัน ข้าเองก็อยากจะรู้ว่่านางมาทำอะไรที่นี้ในตอนนี้
และนางก็ทำอะไรบางอย่างกับประตูหน้า แล้วจากนั้นก้เปิดเข้าไปเฉยเลย! หรือว่านางจะแค่มาเอาอะไรบางอย่างไปให้เทศมนตรีหุ่นหมูนั่นนะ? ข้าแอบมองนางต่อผ่านทางหน้าต่าง นางมองไปรอบๆในห้องทำเหมือนกำลังมองหาอะไรบางอย่าง อ่ะ! นางหันมาทางนี้! ข้ารีบหลบ หลังบานหน้าต่างไป หวังว่านางจะยังไม่เห้นข้านะ เพราะถ้าเห้นข้า คงจะเข้าใจผิดว่าข้าเป็นพวกโรคจิตแน่ๆ ว่าแต่พวกโรคจิตจริงๆ เขาทำแบบนี้กันจริงๆรึเปล่านะ? ข้าล่ะสงสัย แต่ไม่มีเวลาคิดหรอก
ข้าตัดสินใจมองกลับเข้าไปที่หน้าต่างอีกครั้ง ดูเหมือนว่าจะยังไม่สังเกตเห็นข้านะ โชคดีจัง และดูเหมือนว่านางจะเจอสิ่งที่ต้องการแล้วกำลังจะออกไปแล้วด้วย ข้าแอบเดินตามนางไปห่างๆ
นางเข้าไปในตรอกซอย และแน่นอนว่าข้าต้องตามเข้าไปด้วย แม้ว่าข้าจะโครตสงสัยเลยว่านางจะมาทำไม
แต่ในตอนนั้นเองที่นางกำลังเดินอยู่นั้นเอง
"เฮ้! ว่าไงแม่สาวน้อย!" ชายสองคนร่างกำยำและมีอาวุธอยู่ในมือโพล่ขึ้นมาดักหน้านางไว้ รสนิยมการแต่งกายที่ดูโครตเชยและรอยแผลเป็นที่ดูว่าน่าจะได้มากับเรื่องโง่ๆ บ่งบอกเลยว่าสองคนนี้เป็นพวกนักล่าค่าหัวแน่นอน และการที่มีนักล่าค่าหัวมาดักแบบนี้ก็แปลว่านาง...
"ใช่คนนี้แน่นะ?ได" นักล่าที่ตัวเตี้ยกว่า พูดกับอีกคน
"แน่นอน นี่แหละ นกกาสีม่วง ข้าจำได้ไม่ผิดตัวแน่ เอาล่ะถ้าพวกเราได้ตัวเจ้าแบบมีชีวิตอยู่เงินรางวัลจะมากเป็นสองเท่าเลยนะ เพราะงั้นมากับพวกเราซะดีๆถ้ายังอยากมีหัวอยู่บนบ่าของเจ้า" ไอ้พวกนักล่าค่าหัวเนี่ยพูดเป็นแบบนี้ตลอดแหละ ใช้แต่ความรุนแรง ไม่มีสไตล์เอาซะเลย ชิช่ะ
แต่เดี๋ยวก่อนนะ! นางกำลังตกอยู่ในอันตรายอยู่นะ! ข้าจะมามัวยืนมองเพิกเฉยได้ยังไงกัน?!
"ข้าเกรงว่าพวกเจ้าคงต้องพาศพของตัวเองไปแทนมากกว่านะ" นางตอบอย่างเรียบง่ายดูไม่กลัวเลยแม้แต่น้อย ข้าคิดว่าควรจะทำอะไรสักอย่างเพื่อให้นางได้มีโอกาสหนี...
"ปากของเจ้ามันเก่งนักนะ งั้นก็ได้ ค่าหัวตอนตายของเจ้าก็ยังสูงอยู่ดีนั่นแหละ!" เจ้าคนร่างยักกะลิงอุรังอุตังไร้ขนพูดขึ้นแล้วเตรียมง้างขวานขึ้นมา และตอนนี้แหละ!
"อาาาา สิ เพ่น ยา!! วาวาริ จิวาวา "" ข้าเข้ามาขัดจังหวะง้างขวานของมันด้วยการเข้ามาตะโกนร้องเพลงและเต้นไปด้วย เพื่อให้มันหันมาสนใจ และก็พูดว่า...
"ไอ้ปัญญาอ่อนนี่มาทำอะไรว่ะ?" อุยยย แรงกว่าที่คิดไว้แหะ เอาซะสลดนิดๆข้างใน แค่นิดๆนะ! แต่อย่างน้อยๆมันก็หันมาสนใจที่ข้ากันหมด เอาล่ะตอนนี้ล่ะ แม่นางได้โอกาสหนีแล้ว ส่วนข้าก็คงจะได้ลงมือตบพวกนี้ให้คว่ำเอง
"ข้ามาเพื่อชวนพวกเจ้าเต้นกัน! นี่ถือว่าเป็นเกียรติมากเลยนะที่ข้ามาชวนพวกเจ้ามาเต้นกันน่ะ เทศกาลทั้งทีมาทำอะไรกันก็ไม่รู้ในซอย ไม่เหงากันบ้างเหรอ??"
"ไปไกลๆเลยไปข้าไม่อยากมาเสียเวลากับไอ้จำอวดอย่างเจ้า" เจ้าคนสูงกว่ากำลังจะหันกลับไปแต่ทว่า...
"อั่ก! นี่แก!!" เจ้านั่นทรุดตัวลงมือกุมช่วงอกเอาไว้ มันเป็นอะไรไปข้าเองก็ไม่รู้ แต่ว่าทำไมแม่นางคนนั้นถึงไม่หนีกันนะ??
"ได!! หน๊อยแกนะแก!!" เจ้าคนเตี้ยกว่า ชักดาบออกมาแล้วพุ่งตรงเขาไปหานาง ตอนนี้ข้าคิดว่าการเต้นคงไม่ช่วยอะไรแล้วดังนั้น....
'' เสียงของดาบที่กระท้อนกับโล่พลังงานเวทย์ของข้าดังขึ้น ข้าที่กำลังยืนอยู่ข้างๆกับ นกกาสีม่วง ได้ปล่อยพลังเวทย์ที่สร้างโล่ชั่วคราวไว้ให้ แต่ทว่าท่าของนางตอนนี้ก็กำลังหลบดาบได้อยู่นี่หว่า และในช่วงเวลาเพียงแค่พริบตาเดียวเท่านั้น ข้าก็เห็นขนนกม่วงอมแดงผ่านร่างของนักล่าค่าหัวคนนั้นไปอย่างรวดเร็วในลมหายใจเดียว ส่งร่างนั่นกระเด็นถอยหลังไปเล็กน้อย ร่างนั่นใช้มือกุมเข้าที่อกและค่อยๆทรุดลงไป
"นี่แก... ทำอะไรลงไป...?" มันถามด้วยเสียงของคนที่กำลังขาดอากาศหายใจ เหมือนกับที่พวกเรากำลังขาดเวทมนตร์
"ขนนกของข้าพุ่งตัดผ่านเจาะรูทะลุในหัวใจของเจ้าแล้ว เพราะงั้น แกน่ะตายไปแล้ว..." นางตอบด้วยน้ำเสียงอันเยือกเย็นราวกับยมทูตที่กำลังพูดอยู่กับวิญญาญ ว่าแต่ประโยคท้ายนี่ เหมือนข้าเคยได้ยินมาจากที่ไหนมาก่อนแหะ...
"มะ- ไม่จริงน่า..." แต่เขาก็พูดไม่ทันขาดคำเลยนะ ร่วงไปซะแล้ว ข้านึกว่าหัวของเขาจะระเบิดปิดท้ายซะอีกน่าเสียดาย
"ไม่ต้องขอบคุณ" ข้าพูดกับนาง ตอนนี้ข้าคงดูหล่อมากเลยล่ะ
"แน่นอน ไม่จำเป็นต้องขอบคุณหรอก" นางตอบกลับอย่างเรียบง่าย แล้วเริ่มหันหลังกลับเพื่อจะเดินต่อไป ข้ารีบบบบ เดินตามนางไปทันที โธ่เอ้ย นางไม่เหมือนกับคนอื่นๆจริงๆด้วย
"เดี๋ยวๆ ข้า เอ่อ... ข้าขอทำความรู้จักกับเจ้าก่อนได้มั้ย?ข้ามีนามว่าราคาน เป็นนักผจญภัย ผู้ที่-"
"ข้าก็นึกว่าเป็นตัวตลกซะอีก" ตอนนั้นเองที่ข้ารู้สึกเหมือนโดนค้อนหินหวดเข้าที่หน้าไปอย่างจัง
"เอ่อ.. ก็ไม่ใช่หรอกนะ ข้าเป็นนักแสดงน่ะ แล้วก็... การแสดงของข้าดูเป็นยังไงบ้างล่ะ?" นางชะงักไปแปปนึงก่อนจะตอบเบาๆ
"...ติดหู..." และะะ ข้าก็ไม่ค่อยได้ยิน เยี่ยมเลย
"ว่าไงนะ?" ข้าถามย้ำเพื่อความแน่ใจ
"ช่างมันเถอะ ข้าขอตัวไปล่ะ อย่าได้เดินตามมานะ..." นางตัดบทเรียบๆ แล้วเดินต่อไป ข้าแตะไหล่เพื่อรั่งนางไว้ ซึ่งก็ไม่รู้ว่าเพราะทำไม?
"เฮ้" และข้าจะทำเสียงเข้มไปด้วยทำไมกันนะ?
"ปล่อย" นางพูดขึ้นมาด้วยน้ำเสียงที่แฝงจิตสังหาญในภายใน จนข้าต้องรีบปล่อยมือ
"แต่ ข้ายังไม่รู้จักชื่อของเจ้าเลยนะ บอกทีสิ" ข้ายังคงดื้อรั้น ไม่ว่ายังไง ข้าก็ต้องรู้จักนางให้ได้
"เจ้าไม่ต้องรู้หรอก" นางพูดจบแล้วก็เดินต่อไปเลย
"งั้นนนน ข้าขอติดตามเจ้าไปหน่อยนะ ว่าแต่นี่เจ้ากำลังจะไปไหนเนี่ย?" ข้าเดินตามนางต่อไป
"เจ้าจะทำแบบนี้ไปเพื่ออะไร?" นางหยุดเดินแล้วหันมาจ้องข้าตรงๆ และข้าก็...
" เอ่อ... ข้าไม่รู้สิ..." นางกรอกตาแล้วหันกลับไป
"ถ้าไม่มีเหตุผลก็อย่าได้ตามมา..." นางพูดขึ้น แล้วจากนั้น นางก็พุ่งตรงเข้าไปในป่า ไม่รอให้ข้าได้ตอบสนองอะไรอีกต่อไป
"เห้อ..." ข้าถอนหายใจเฮือกใหญ่ๆ ให้ตายสิ ทำไมถึงลงเอยแบบนี้กันนะ? แล้วข้าจะเอายังไงต่อดี?
แต่ข้าก็หมดอารมณ์ที่จะจัดปาร์ตี้ที่ไหนต่อแล้วด้วย
ถ้างั้น...
ขาของข้าเริ่มก้าวเดินตรงไปทางที่นางหายไป
นกกาสีม่วง งั้นสินะ
###############################################################
ความคิดเห็น