ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    รวมบทความการเมือง

    ลำดับตอนที่ #73 : 'จูเช'แนวนโยบายการเมืองใหม่แบบสังคมนิยมของพธม.

    • เนื้อหาตอนนี้เปิดให้อ่าน
    • 270
      0
      8 ม.ค. 53

    โดย ม.ล.ณัฏฐกรณ์ เทวกุล
    ที่มา บางกอกโพสต์
    แปลโดย ทีมข่าวไทยอีนิวส์
    30 พฤษภาคม 2552

    'จูเช' แนวนโยบายการเมืองใหม่แบบสังคมนิยมของพธม.

    สำหรับ ผู้ที่ต่อต้านพธม.คงจะรู้สึกโล่งอกที่กลุ่มพธม.จะไม่กลับไปประท้วงข้างถนน อย่างเอาเป็นเอาตายเหมือนในอดีต ซึ่งนับว่าเป็นผลบวกสำหรับบรรยากาศการเมืองของประเทศอย่างไม่น่าสงสัย

    อย่าง น้อยที่สุดสำหรับกลุ่มนักลงทุนในและนอกประเทศที่รังเกียจการกระทำนอกวิถีทาง ของระบอบรัฐสภาซึ่งไร้เสถียรภาพและคาดเดาไม่ได้ ที่นำไปสู่การบุกยึดสนามบินและทำเนียบรัฐบาล การจัดตั้งพรรคพธม.เป็นสิ่งที่น่ายินดีมาก

    ถึงกระนั้น ความสำเร็จของขบวนการเสื้อเหลืองในอดีตได้พิสูจน์ให้เห็นแล้วว่าประสิทธิภาพ ในการนำและการจัดการของพวกเขาไม่ควรถูกประเมินค่าต่ำ พวกเขามีสื่อที่มีอิทธิพลอยู่ในมือถึง 2 แห่ง - ASTV และ http://www.manager.co.th ซึ่งเป็นเวปไซท์ข่าวสารที่มีความนิยมมากที่สุดในประวัติศาสร์ของราชอาณาจักร ไทย

    โดยผ่านสื่อเหล่านี้ หรือหนังสือพิมพ์และเวปไซท์ที่สนับสนุนพวกเขา พรรคพธม.ไม่ว่าจะตั้งชื่อใดก็ตาม สามารถที่จะรณรงค์หาเสียงได้อย่างมีพลังและมีประสิทธิภาพ ด้วยเหตุผลนี้ คาดว่าพวกเขาจะกอบโกยคะแนนเสียงจากมวลชนที่สนับสนุนเขาในบางจังหวัด

    ในระยะสั้น ฐานเสียงของพรรคพธม.จะลุกล้ำเข้าไปในส่วนของพรรคประชาธิปัตย์ ส่วนในระยะยาวยังไม่สามารถคาดเดาได้

    ถ้า ดูจากอดีตพรรคพลังธรรมของพลตรีจำลอง ศรีเมือง ในสมัยที่เขาเริ่มจัดตั้งและบริหารมัน พวกเขาได้เจาะเข้าไปในกระแสต่อต้านพรรคประชาธิปัตย์ในเมืองหลวง แต่บรรยากาศการเมืองที่แตกแยกในปัจจุบันนี้มันต่างจากยุคนั้นซึ่งเป็นช่วง ที่พรรคใหม่นี้สามารถชิงที่นั่งได้ถึง 90% ในเขตกรุงเทพฯ และตอนนี้คะแนนที่ไม่สนับสนุนพรรคประชาธิปัตย์ก็คือคะแนนที่ไม่สนับสนุนพธม .อย่างไม่ต้องสงสัย ซึ่งคะแนนส่วนใหญ่แต่ไม่ทั้งหมดของคนเหล่านี้จะเทไปให้พรรคเพื่อไทย

    คุณ จะเห็นว่ามีพวกที่ไม่สนับสนุนพธม.แต่สนับสนุนพรรคประชาธิปัตย์ แต่คุณจะไม่เจอใครที่ไม่ชอบพรรคประชาธิปัตย์แล้วจะชอบพธม. จุดยืนการเมืองที่ขัดกันแบบนี้ไม่มีอยู่จริง

    โดยแท้จริงแล้วพรรคพธม .จะครอบครองฐานเสียงของกลุ่มที่ไม่ใช่ประชาธิปัตย์ ที่ชื่นชอบสนธิ ลิ้มทองกุล ที่ต่อต้านทักษิณ ชินวัตร ซึ่งตอนนี้ยังเป็นฐานเสียงที่เล็กมากในเมือง แต่วิถีทางของพธม.สามารถจะโน้มน้าวคุณได้ แต่พฤติกรรมในอดีตของพวกเขาอาจไม่ได้ช่วยอะไร แต่อย่าคาดหวังว่าแนวคิดของพธม. - ขวาสุดกู่ทางการเมือง และซ้ายสุดกู่ทางเศรษฐกิจ - จะถูกนำมาใช้ในการหาเสียงโดยทันที

    ฐาน เสียงที่ใหญ่ของพรรคประชาธิปัตย์ในเมืองหลวงณ.จุดหนึ่งอาจจะไม่ยอมรับท่วงที ของการผูกขาดทางการเมืองของคุณทักษิณ แต่คนกรุงเทพฯก็ยังไม่พร้อมที่จะยอมรับอย่างง่ายดายต่อกลุ่มนักเคลื่อนไหว สหภาพแรงงาน อดีตเจ้าพ่อสื่อลวงโลกที่ล้มละลาย นักวิชาการที่อกหัก ผู้จัดตั้งมวลชน และนักการเมืองที่ไม่ได้รับการยอมรับและล้มเหลว

    โดย สรุป พรรคพธม.จะเป็นสีสันที่เพิ่มขึ้นในเวทีหาเสียงอย่างแน่นอน แต่โชคไม่ดีพวกเขาจะไม่สามารถกระตุ้นให้เกิดเสียงสนับสนุนอย่างทันทีทันใด แทนที่พรรคประชาธิปัตย์

    ผลกระทบต้นๆจากนโยบาย เชื่อผมเถอะ ต่างจากที่ประชาคมนักข่าวต่างชาติและกลุ่มนักวิชาการหลักๆที่อธิบายอย่าง ผิดๆถึงความหลากหลายของความแตกแยกในประเทศไทยใน 5 ปีที่ผ่านมา นั่นคือความนิยมของพธม.จะมาจากจังหวัดหลากหลายและชนชั้นหลากหลาย ความนิยมไม่ได้มาจาก "ชนชั้นสูงที่มีการศึกษา" หรือ "คนกรุงเทพฯ" หรือ "ภาคใต้ที่คุมโดยพรรคประชาธิปัตย์" หรือ "ผู้ที่สนับสนุนสถาบันฯอย่างแท้จริง" หรือ "แวดวงอนุรักษ์นิยม" แต่ความนิยมพวกเขามาจากพวกที่ติดตามสื่อที่บิดเบือนอย่าง http://www.manager.co.th และ ASTV ด้วยความบ้าคลั่งและดันทุรัง

    เพื่อ จะตอบคำถามของทุกคน: พรรคพธม.จะได้รับความนิยมในพื้นทีที่มีการแพร่ขยายของอินเตอร์เน็ทสูงและ พื้นที่ที่มีการติดตั้ง ASTV ในเงื่อนไขที่ว่าคนที่หูเบาเหล่านี้จะเปิดช่องฟังทั้งกลางวันและกลางคืน

    จาก มุมมองของสื่อ ASTV และ http://www.manager.co.th เป็นศัตรูของพรรคการเมืองทุกพรรคซึ่งไม่ค่อยจะชำนาญทางด้านสื่อ ถ้าแขนขาของสนธิถูกตัดออกไป ความนิยมของพรรคพธม.จะลดลงไปอย่างมาก ในระยะยาว จุดมุ่งหมายของการตั้งพรรคที่คล้ายพรรคคอมมิวนิสต์ ซึ่งเปรียบอย่างลับๆว่าเป็นพรรครอยัลลิสท์สีเหลือง จะไม่บรรลุผลสำเร็จ

    อย่าง ไรก็ตามเพื่อไม่ให้มองอย่างผิวเผิน คุณจะต้องเข้าใจถึงแนวทางที่พธม.จะเสนอเมื่อเริ่มมีการร่างนโยบายทางการ เมือง นโยบายที่ยังไม่เป็นลายลักษณ์อักษรเอนเอียงไปทางรูปแบบเลนินนิสต์ที่ปราศจาก แนวทางต่อต้านสถาบันกษัตริย์ของอุดมคติของลัทธิคอมมิวนิสท์ เพื่อขยายความให้กระจ่างขึ้น มันเป็นองค์ประกอบที่สนับสนุนสถาบันฯแต่ในขณะเดียวกันก็เอนเอียงไปทางซ้าย ด้านเศรษฐกิจ การสนับสนุนสถาบันฯก็เพื่อความอยู่รอดทางการเมืองในระยะกลาง ซึ่งก็หมายถึงว่าพวกเขาให้ความสำคัญกับความจงรักภักดีของคนไทยต่อสถาบัน ราชวงศ์ และใน 5 ถึง 10 ปีข้างหน้าพวกเขาจะเลือกที่จะใช้วิธีนี้เป็นหลักการรณรงค์หาเสียงสนับสนุน

    มัน เป็นแนวทางเศรษฐกิจที่เอนซ้ายเพื่อจัดสรรให้กับคนใช้แรงงานที่ด้อยสิทธิ์ ชนชั้นทำงานส่วนล่าง-กลางที่ยากจน และนักการเมืองที่ขาดน้ำเลี้ยง นักเคลื่อนไหว NGO ที่ไม่ได้รับการตอบสนองหรือถูกเมินเฉยจากรัฐบาล "ยุคเก่า" มาโดยตลอด

    แนวคิดเช่นการปฏิรูปที่ดินทำกินเหมือนเกาหลี เหนือมาเป็นประชาคมประเภทหนึ่งซึ่งถูกพิสูจน์แล้วว่าไม่ประสบความสำเร็จใน ประเทศจีนและสหภาพโซเวียต จะโผล่ออกมาในที่สุด แผนเศรษฐกิจอื่นอาจรวมถึงการปรับปรุงระบบสวัสดิการสำหรับผู้เกษียณอายุและ ผู้ได้รับบำเหน็จบำนาญและบุคคลที่ใช้ชีวิตอย่างยากจน การขึ้นภาษีอย่างมหาศาลต่อผู้ถือครองที่ดินหรืออสังหาริมทรัพย์ประเภทอื่น รวมถึงมรดก การจัดระบบภาษีก้าวหน้าอย่างไม่สมเหคุผล และอื่นๆ

    นโยบาย ของพวกเขาอาจรวมถึงการส่งเสริมหลักเศรษฐกิจพึ่งพาตนเองที่ถูกปลูกฝังในแนว คิดที่เป็นรากฐานของชาติ ซึ่งมันอาจจะทำให้เกิดการก่อตั้งระบอบการปกครองแบบเผด็จการที่มีนโยบายเอียง ซ้ายโดยคณะกรรมการของพรรคพธม.ซึ่งคล้ายกับคณะกรรมการโปลิทบูโร (politburo) ของโซเวียต (ถูกเลือกตั้งมาจากสภาประชาชน หรือ People’s Congress)

    คุณ สามารถจะคาดเดาได้อย่างแน่นอนว่าข้อโต้แย้งของแคมเปญพวกเขาที่โยงมาจากความ คิดเกี่ยวกับจิตสำนึกรวมและความเป็นหมู่คณะที่เหนือกว่าความเป็นบุคคล ซึ่งดึงดูดความสนใจจากพวกอนุรักษ์นิยมและพวกคลั่งชาติสุดกู่ การกล่าวอ้างถึง “ปรัชญาลัทธิจูเช” จะถูกนำมาเป็นแนวคิดหลักของพธม.ในช่วงปฏิบัติการทางการเมือง

    เดิมที มันถูกอธิบายว่าเป็นการประยุกต์ใช้ที่สร้างสรรค์ของลัทธิมาร์กซ์และเลนนิ นของชาติ การนำแนวคิด “จูเช” (การพึ่งพาตนเอง) มาใช้กลายมาเป็นหลักปรัชญาที่เปลี่ยนไปเรื่อยๆจากการตีความใหม่เป็นบางครั้ง บางคราวโดยคิม อิล ซุง/คิม จอง อิล เพราะแนวคิดนี้จำเป็นต้องปรับเปลี่ยน สุดท้ายมันถูกนำมาใช้โดยประมุขของรัฐเสมือนเป็นการสนับสนุนทาง “จิตวิญญาณ” ต่อการปกครองที่เป็นเผด็จการและกดขี่

    การนำของพรรคพธม.ทางด้านนโยบาย ต่างประเทศคาดว่าจะเน้นความคิดหลักของปรัชญา “จูเช” อย่างลับๆ ซึ่งหมายถึงความสามารถในการกระทำอย่างเป็นอิสระโดยไม่คำนึงถึงการแทรกแซงจาก ภายนอก ถ้าพรรคพธม.อยู่ในตำแหน่งผู้นำ ประเทศจะต้องเตรียมพร้อมที่จะดำเนินแนวทางปฏิบัติทางเศรษฐกิจที่ต่อต้านโลกา ภิวัฒน์ นโยบายอย่างเช่นการบังคับให้มีใบอนุญาตหรืออื่นๆ ที่ยอมรับโดยกลุ่มชนที่ไม่ได้รับข้อมูลข่าวสารและต่อต้านโลกาภิวัฒน์และสนับ สนุนโดยองค์กรที่เอียงไปทางสังคมนิยม จะกลายเป็นปทัสฐานในเวลาต่อมา

    จาก คำอธิบายข้างต้น คุณคงจะคาดเดาได้ด้วยตนเองว่าพธม.จะได้รับฐานการสนับสนุนอย่างไร ประเด็นที่กล่าวมาจริงแล้วมันฟังดูใหม่และดึงดูดใจ โดยเฉพาะการปกป้องคนยากจน การมีจิตสำนึกต่อสังคม และต่อต้านระบบการเมืองที่เห็นเงินสำคัญ และนโยบายที่เน้นเรื่องสวัสดิการ ถึงกระนั้น ปัญหาของระบอบพรรคเดียวที่คอยมีผู้สนับสนุนที่เป็นโปร-เจ้า และคลั่งชาติเสมอ จะทำให้ตัวของมันเสื่อมเองอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้

    สำหรับ การปกครองระบบรัฐสภาภายใต้ระบอบกษัตริย์ภายใต้รัฐธรรมนูญในปัจจุบัน ผมหวังว่าพรรคพธม.ที่รวมตัวกันโดยแกนนำ จะเข้ามามีบทบาทในเฉพาะรัฐบาลหน้าเท่านั้นและค่อยๆเลือนหายไปหลังจากนั้น

    นั่น หมายถึงว่าพรรคเสื้อเหลืองจะต้องได้ 10-20 ที่นั่งเป็นอย่างต่ำ บ้างจากภาคอีสาน ภาคใต้ และภาคกลาง นอกจากนั้น พวกเขาอาจจะต้องใช้กลยุทธ์อย่างชาญฉลาดในการช่วงชิงตำแหน่งรัฐมนตรีหลังการ เลือกตั้ง

    อย่างไรก็ตาม นี่คือสิ่งที่ผมจินตนาการว่าจะเกิดขึ้น

    พรรค พวกของนายสนธิ ลิ้มทองกุลแน่นอนจะได้ประมาณ 10 ถึง 20 ที่นั่งส.ส.ทั่วประเทศ ไม่ว่าจะผ่านทางการเลือกตั้งโดยตรงของเขตหรือปาร์ตี้ลิสต์ ซึ่งน่าจะเป็นอย่างหลังมากกว่า ตอนแรกพวกเขาจะสร้างภาพพจน์ให้ตนเองว่าเป็นฝ่ายที่ต่อต้านคอร์รับชั่นโดย แสดงตนว่ามีจรรยาบรรณที่สูงและจะไม่ปรารถนาที่จะร่วมกับพรรครัฐบาลผสมที่นำ โดยพรรคประชาธิปัตย์/ภูมิใจไทย แต่เมื่อเวลาผ่านไป พธม.จะดึงดูดผู้สนับสนุนที่เชื่อพวกเขาอย่างงมงายจำนวนมากโดยผ่านช่องทาง สื่อด้วยวิธีเดิมคือเกาะกระแสต่อต้านนักการเมืองที่โกงกินในประเทศ จุดนี้ทาง manager.co.th และ ASTV จะมีบทบาทที่สำคัญ

    จากพรรคฝ่าย ค้านเล็กๆ ลัทธิของเสื้อเหลืองจะแปรสภาพไปเป็นคู่แข่งที่น่ากลัวในการบริหารจัดการ ประเทศไทย จากคำถามของทุกคนที่ว่าผู้นำของพธม.จะมีส่วนในร่วมในการรับตำแหน่งรัฐมนตรี หรือไม่หลังการเลือกตั้งคราวหน้า คำตอบที่ชัดเจนคือไม่ อย่างไรก็ตามอันตรายที่แท้จริงก็คือเมื่อเวลาผ่านไปพธม.อาจได้รับการสนับ สนุนจากมวลชนจำนวนมาก (ลองนึกถึงพรรคพลังธรรมแล้วคูณเข้าไป 5 เท่าอย่างน้อย) ถึงจุดนั้นพวกเขาสามารถจะเปลี่ยนสภาประชาชนที่จัดตั้งขึ้นแล้วมาเป็นระบบการ ออกนโยบายอีกทางหนึ่งที่สามารถจะก่อให้เกิดการจำนนของระบอบการปกครอง

    เมื่อ มีโอกาสที่ดีกว่านั้น นั่นหมายถึงเมื่อมีการก่อรัฐประหาร หรือที่ดีกว่านั้น การลุกฮือติดอาวุธโดยประชาชนเพื่อต่อต้าน “นักการเมืองปิศาจที่โกงกินและเกินกว่าการชำระล้าง” สภาประชาชนของพธม.จะตอบสนองบทบาทที่ถูกบัญญัติไว้แล้วในที่สุด ซึ่งแน่นอนก็คือการรับหน้าที่เป็นรัฐสภาชั่วคราวโดยทันทีเพื่อที่จะร่างรัฐ ธรรมนูญใหม่ที่เคร่งครัดที่จะทำให้แม้กระทั่งผู้ร่างรัฐธรรมนูญฉบับปัจจุบัน ของปี 2550 ถึงขั้นอับอายได้

    ผลที่สุดพธม.จะบรรลุเป้าหมายในการเขียน แถลงการณ์นโยบาย “การเมืองใหม่” ซึ่งจะคล้ายกับของคาร์ล มารกซ์ แต่ปรับเปลี่ยนเพื่อให้ยังมีสถาบันกษัตริย์และอื่นๆที่เกี่ยวข้องรวมอยู่ ด้วย “การเมืองใหม่” จะมีทุกองค์ประกอบของนโยบายเศรษฐกิจที่มุ่งเน้นไปทางสังคมนิยม

    สิ่ง ที่จะก่อให้เกิดอันตรายต่อความมั่นคงของชาติและต่อระบอบการปกครองปัจจุบัน ของราชอาณาจักรไทยนั้นน่าจะเป็นรัฐธรรมนูญที่เขียนขึ้น ”ใหม่” ของ “การเมืองใหม่” พธม.ต้องการแค่ไม่กี่ที่นั่งเพื่อให้มีบทบาทในสภาผู้แทนราษฎรในขณะนี้ และในการมีส่วนร่วมกับสมาชิกวุฒิสภาที่ถูกแต่งตั้งและเลือกตั้งบางคน เสียงเรียกร้องของพวกเขาจะกัดเซาะเข้าไปอย่างช้าๆ (เสมือนน้ำที่หยดบนหิน) ต่อระบอบประชาธิปไตยที่เน้นการเลือกตั้งในระบบรัฐสภาภายใต้การปกครองระบอบ กษัตริย์ภายใต้รัฐธรรมนูญ เป้าหมายที่แท้จริงของพวกเขาที่ต้องการเลขาธิการที่ไม่ได้มาจากการเลือกตั้ง เพื่อเป็นผู้นำของ politburo ซึ่งมาจากสภาประชาชน มันเกินกว่าที่ประชาชนทั่วไปจะเข้าใจ ถึงกระนั้น จากการวิเคราะห์ของคนคนหนึ่งที่เข้าใจการต่อสู้ที่ยาวนานของเสื้อแดง มันมีบางอย่างที่แอบแฝงอยู่ภายใต้พื้นผิวซึ่งแม้แต่มองด้วยสายตาเปล่ายังไม่ สามารถจะหยั่งรู้ถึงความจริงซึ่งขณะนี้กำลังถูกปิดบังโดยคราบสีของรอยัล ลิสต์

    สิบปีจากนี้ไป เมื่อมองกลับมา เสื้อแดงอาจจะไม่ได้เป็นผู้ที่ปลดปล่อยชนชั้นกรรมาชีพก็ได้


    หมายเหตุท้ายบทความ:อะไรคือปรัชญาเศรษฐกิจจูเช(หรือจูเชียะ)?

    ชาร์ลส์ เจนกิ้นส์ ทหารอเมริกันที่หนีทหารจากเกาหลีใต้เข้าไปใช้ชีวิตอยู่ในเกาหลีเหนือนาน 40ปี(2507-2547)เขียนในหนังสือคำสารภาพ(To tell the truth)ที่เขาเขียนขึ้นหลังจากหลบหนีออกจากเกาหลีเหนือมาได้ว่า

    ใน ตอนแรกที่เขาหนีทหารเข้าไปอยู่ในเกาหลีเหนือในราวปีพ.ศ.2508นั้น ภายหลังจากถูกล้างสมองให้รับรู้เกี่ยวกับประวัติศาสตร์และความอัจฉริยะของ คิมอิลซุง บิดาผู้ก่อตั้งเกาหลีเหนือแล้ว ทางการเกาหลีเหนือก็บังคับให้เรียนเกี่ยวกับ"ปรัชญาจูเชียะ"

    ปรัชญา จูเชียะตามทฤษฎีของคิมอิลซุง มีสาระสำคัญยกย่องการพึ่งตัวเอง เกาหลีเหนือต้องพึ่งตัวเองดีกว่าการพึ่งการค้ากับประเทศลัทธิคอมมิวนิสต์ อื่น เช่น จีน โซเวียต ต้องเรียนวันละ10ถึง11ชั่วโมง ถ้าท่องจำไม่ได้ในส่วนที่ถูกสั่ง ต้องเรียนซ้ำ16ชั่วโมงในวันอาทิตย์ ดังนั้นแม้แต่40ปีต่อมาที่หนีออกจากเกาหลีเหนือมาได้ ข้าพเจ้าก็ยังจำคำโฆษณาชวนเชื่อปรัชญานี้ได้ดี บางครั้งข้าพเจ้ายังท่องมันได้แม้แต่ในความฝัน

    ข้าพเจ้าไม่ใช่นัก เศรษฐศาสตร์ แต่มันเป็นทฤษฎีบ้าๆ ยิ่งเรียนก็ยิ่งรู้สึกว่ามันไร้เหตุผล บางครั้งข้าพเจ้าเหลียวดูรอบตัวและพิศวงเหลือเกินว่า เหตุใดคนทั้งประเทศนี้จึงเชื่อทฤษฎีไม่สมประกอบนี้ แน่นอนเป็นทฤษฎีโกหกเห็นชัดๆ เพราะใครก็รู้ว่าเกาหลีเหนือล้มแน่ถ้าขาดการค้า หรือการพึ่งพาบริจาคจากประเทศอื่นเพื่อปากท้องของคนเกาหลีเหนือ

    ข้าพเจ้า มักจะบอกลูกสาว2คนที่เกิดและเติบโตในเกาหลีเหนือเสมอว่า"โลกที่เรากำลังอยู่ ในเกาหลีเหนือ ไม่ใช่โลกมนุษย์ที่แท้จริง"แต่เด็กๆไม่ค่อยเชื่อข้าพเจ้านัก เพราะโลกในเกาหลีเหนือเป็นโลกเดียวเท่านั้น ที่เด็กๆรู้จัก

    แต่ ข้าพเจ้าไม่เคยถูกล้างสมองด้วยประวัติศาสตร์ หรือทฤษฎีเศรษฐศาสตร์จอมปลอม และการเคารพบูชาคิมอิลซุงซึ่งพวกเขายัดเยียดให้ หากคุณเป็นชาวเกาหลีเหนือที่เติบโตในสภาพนี้ มันอาจจะมีแนวโน้มที่จะเชื่อทุกสิ่งทุกอย่างที่พวกเขาสั่งสอน หรืออย่างน้อยอาจจะเชื่อบ้างไม่เชื่อบ้างไม่มากก็น้อย

    แต่ข้าพเจ้าเติบโตมาจากโลกภายนอก รู้จักโลกภายนอก ข้าพเจ้ารู้ว่า ทุกอย่างเป็นการโกหกหลอกลวง

    สำหรับ ลัทธิบูชาเคารพปัจเจกบุคคลในเกาหลีเหนือนั้น ข้าพเจ้าซาบซึ้งดีเมื่อถามคำถามซื่อๆตรงๆและน่าจะมีเหตุผลต่อเจ้าหน้าที่ พรรคว่า"ถ้าคิมอิลซุงตาย จะเกิดอะไรขึ้น?"เท่านั้นหละข้าพเจ้าก็โดนทำโทษหนักด้วยคำถามนี้ การเกริ่นแย้มว่าคิมอิลซุงเป็นมนุษย์เดินดินที่ไม่พ้นความตาย...

    ก็เป็นเรื่องที่เป็นไปไม่ได้เลยในเกาหลีเหนือ
    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    นิยายที่ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×