ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    เมียบำเรอรัก (รีอัพ)

    ลำดับตอนที่ #44 : ตอนที่ 13/2

    • เนื้อหาตอนนี้เปิดให้อ่าน
    • 11.95K
      17
      14 เม.ย. 65






    มาอ่านต่อกันนะคะทุกคน



    วันนี้วายุตื่นขึ้นมาราวๆ 2 โมงครึ่ง เนื่องจากเป็นวันหยุดและเมื่อคืนนี้เขาเองก็นอนไม่หลับ ด้วยไม่รู้ว่าเขาจะทำอย่างไรดี กับคนที่ได้ชื่อว่าเป็นภรรยา เขาคิดหาวิธีต่างๆที่จะทำให้พ่อ แม่ ของเขายินยอมที่จะให้เขาหย่ากับเธอและยอมรับในตัวของดาราพร วายุก้าวลงจากเตียงตรงไปยังห้องน้ำ เขามองไปยังราวแขวนผ้าขนหนูที่มันเคยมีพาดอยู่ทุกวัน แต่กว่าสองอาทิตย์ที่ผ่านมามันกลับหายไปเพราะคนที่เคยเตรียมเอาไว้ให้ไม่ได้อยู่ที่นี่นั่นเอง

    “เธอยังไม่กลับอีกเหรอสลินลดา คงจะมีความสุขมากเลยสินะที่ได้อยู่กับแฟนเก่า”  วายุนึกเข่นเคี้ยวอยู่คนเดียวที่ผู้เป็นภรรยายังไม่ยอมกลับจากเชียงใหม่ กว่า 2 อาทิตย์ที่ผ่านมา เธอคงจะมีความสุขที่ได้อยู่กับคนรักเก่ามากกว่าที่จะกลับมาอยู่กับเขา จากนั้นก็ตัดสินใจอาบน้ำแต่งตัว เพราะวันนี้เขาจะต้องเดินทางไปส่งคู่ค้าคนสำคัญของโรงแรมที่สนามบินตอน 10 โมงเช้า พอแต่งตัวเสร็จเขาก็ขับรถออกจากบ้านทันที เพราะเหลือเวลาอีกแค่ชั่วโมงเดียวเครื่องก็จะออกแล้ว วายุขับรถออกจากบ้านไปโดยที่เขาไม่รู้เลยว่าจะได้เห็นภาพที่มันบาดตา และสร้างความขุ่นเคืองให้เขาเป็นอย่างมาก

     

    สองสาวมาถึงสนามบินราวๆ เก้าโมงกว่าๆ สลินลดาบอกกับขวัญหทัยว่าให้เธอโทรศัพท์หานิโคลัสดูว่าตอนนี้เขาอยู่ที่ไหนจะได้เดินไปหาได้ถูก

    “ยัยขวัญแกลองโทรหานิคดูสิ ถามว่าตอนนี้อยู่ตรงสวนไหนของสนามบิน”

    “อืม โอเค งั้นเดี๋ยวฉันลองโทรดูแล้วกัน แกรอแป๊บนึงนะ” ว่าจบขวัญหทัยก็ลวงมือลงไปในกระเป๋าสะพาย ก่อนจะหยิบโทรศัพท์ออกมาโทรหาผู้เป็นเพื่อน สักพักปลายสายก็กดรับเธอจึงกรอกเสียงทักทายไปตามสาย

    “ฮัลโหลนิค นายอยู่ไหน ฉันกับยัยลดามาถึงสนามบินแล้วนะ” หญิงสาวกรอกเสียงไปตามสาย เมื่ออีกฝ่ายรับสาย “อ่อ โอเค แล้วเจอกัน” เมื่อคนปลายสายบอกที่อยู่มาแล้ว ขวัญหทัยก็กดวางสาย ก่อนที่จะหันไปบอกกับสลินลดา ก่อนที่จะพากันเดินไปหานิโคลัส ที่ร้านกาแฟภายในสนามบินนั่นเอง พอสองสาวเดินมาถึงหน้าร้านกาแฟชื่อดังก็มองหาผู้เป็นเพื่อนทันที พอเห็นว่าชายหนุ่มนั่งอยู่ตรงไหนก็เดินเข้าไปหาทันที

    “ไง” ขวัญหทัยที่เป็นฝ่ายเดินเข้าไปถึงก่อนก็เดินไปแตะไหล่หนาของนิโคลัสพร้อมส่งเสียงดัง เพื่อให้เขาตกใจเล่นๆ แต่ชายหนุ่มกลับไม่แสดงทีท่าตกใจให้คนอยากแกล้งได้เห็นแม้แต่น้อย “แหม่ม...จะตกใจให้เห็นสักหน่อยก็ไม่ได้” ว่าจบหญิงสาวก็นั่งลงที่เก้าอี้ ก่อนจะดึงมือของสลินลดาให้นั่งลงข้างๆ

    “นึกว่าจะมาไม่ทันซะแล้ว ดีนะที่ออกจากบ้านเร็ว รถติดชะมัดเลย” ขวัญหทัยบ่นออกมาเมื่อตัวเองและเพื่อนสาวมาถึงสนามบินช้ากว่าที่คิดเพราะการจราจรที่ขับคั่งของกรุงเทพมหานคร เมืองหลวงของประเทศที่มีจำนวนรถยนต์มากกว่าถนน

    “ไม่ต้องมาบ่นเลยยัยขวัญ ฉันนะอุตส่าห์รีบไปรับแกแต่เช้า แต่แกนั่นแหละมัวแต่อาบน้ำให้ลูกๆของแกนะ” สลินลดาที่เงียบฟังเพื่อนบ่นอยู่นานก็ออกอาการหน้างอเล็กน้อย เมื่อนึกถึงสาเหตุที่ทำให้เธอมาถึงช้า เพราะว่าตอนที่เธอไปถึงบ้านของขวัญหทัย หญิงสาวเพิ่งจะอาบน้ำเสร็จ โดยให้เหตุผลของการช้าของตัวเองว่ามัวแต่จับเจ้าสุนัขตัวแสบทั้งสองของเธออาบน้ำนั่นเองทำให้ลืมเวลานัด เมื่ออาบน้ำเจ้าสองตัวเสร็จจึงเห็นว่าใกล้จะถึงเวลาแล้ว

    “ห๊ะ อะไรนะ ทำไมผมไม่รู้เรื่องเลยว่าฮันนี่มีลูกแล้ว” นิโคลัสที่ไม่รู้ความหมายของคำพูดของสลินลดาจึงแสดงอาการตกใจมาก เมื่อได้ยินว่าขวัญหทัยมีลูกแล้ว เพราะไม่เคยรู้ว่าเพื่อนสาวแต่งงานแล้ว จนสลินลดาที่เห็นอาการของนิโคลัสแล้วต้องเป็นฝ่ายแก้ความเข้าใจผิดนั้นเสียเอง

    “ไม่ใช่ลูกแบบนั้นหรอกค่ะนิค ลูกที่ว่านี้คือหมานะคะ ยัยขวัญนะเขารักมาก รักเหมือนลูก เรียกว่าลูกทุกคำเลย” เมื่อพูดจบก็หันไปมองหน้าของเพื่อนรักที่นั่งหน้าหงิกเพราะถูกเมาท์ระยะเผาขน

    “อ่อ ผมก็นึกว่าฮันนี่มีลูกแล้วจริงๆซะอีก ที่ไหนได้หมานี่เอง”

    “พอๆ แล้วเลิกพูดเรื่องของฉันกันได้แล้ว เอาเป็นว่าทำไมนายรีบกลับล่ะ ไหนว่าจะมาเที่ยวสัก สอง สามเดือนไง” ขวัญหทัยรีบเปลี่ยนเรื่องเมื่อเห็นว่าเพื่อนทั้งสองกำลังหัวเราะลูกๆที่น่ารักของเธอ

    “พอดีงานที่โน่นมีปัญหานิดหน่อยนะ เลยต้องกลับไปจัดการให้เรียบร้อยก่อน แล้วค่อยกลับมาใหม่นะ” นิโคลัสบอกกับสองสาวถึงสาเหตุที่ต้องเดินทางกลับก่อนกำหนด ทั้งที่เคยคิดว่าจะอยู่เที่ยวที่เมืองไทยไปอีกสักพัก หลังจากนั้นทั้งสามก็คุยกันต่อถึงแพลนการเที่ยวหลังจากที่นิโคลัสกลับมา สถานที่ท่องเที่ยวขึ้นชื่อ ร้านอาหารชื่อดัง และสถานที่พักถูกยกขึ้นมาในวงสนทนาของทั้งสามจนเมื่อนิโคลัสเหลือบมองนาฬิกาเห็นว่าใกล้เวลาที่เครื่องจะออกจึงบอกกับเพื่อนสาว ทั้งสามเลยเช็กบิลค่ากาแฟก่อนที่จะพากันเดินไปส่งนิโคลัสทำการเช็คอินเพื่อรับ Boarding pass เมื่อได้รับแล้วทั้งสามก็เดินไปส่งนิโคลัสที่ เกท เพื่อทำการตรวจหนังสือเดินทาง และเอกสารต่างๆก่อนที่จะขึ้นเครื่อง ก่อนที่จะแยกกันหญิงสาวทั้งสองต่างเข้าสวมกอดนิโคลัสเพื่อเป็นการอำลากัน โดยที่สลินลดาไม่มีโอกาสได้รู้เลยว่าภาพที่เธอสวมกอดกับนิโคลัสนั้นมันกำลังสะท้อนอยู่ในดวงตาคู่คมของวายุที่กำลังมองดูทั้งสองอยู่ หลังจากนั้นเมื่อทั้งสองส่งนิโคลัสเข้าเกทแล้ว ทั้งสองก็ออกจากสนามบินไปทันที โดยไม่รู้เลยว่ามีวายุตามออกมาด้วย

     

    ..............................................
    อ่านอย่างมีความสุขนะคะทุกคน
    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    นิยายที่ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×