คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #32 : ตอนที่ 10/1
หลังจากที่อาบน้ำเปลี่ยนเสื้อผ้าเรียบร้อยหญิงสาวก็เตรียมที่จะออกไปจากห้องทันที
แต่ก็ถูกวายุห้ามเอาไว้เสียก่อน เพราะต้องการที่จะให้หญิงสาวรอไปพร้อมตนเอง
หลังจากนั้นเขาก็เข้าไปอาบน้ำเปลี่ยนเสื้อผ้าเช่นกัน
“เดี๋ยว
รอฉันอาบน้ำเปลี่ยนเสื้อผ้าก่อน แล้วค่อยไปพร้อมกัน”
“ทำไมล่ะคะ
คุณเสร็จแล้วค่อยตามลงไปก็ได้”
หญิงสาวถามพร้อมกับทำหน้าสงสัยว่าทำไมเขาต้องให้เธอรอ
“ฉันสั่งก็ทำตามเถอะ
ไม่ต้องมาถามมาก” เขาว่าจบก็เดินหนีเข้าห้องน้ำทันที แต่ก็ยังไม่วายส่งเสียงตะโกนเสียงดังออกมาสั่งอีกครั้ง
“ห้ามหนีไปก่อนนะ ไม่งั้นฉันจะลงโทษให้ลงจากเตียงไปไหนไม่ได้เลยจำไว้” เสียงที่ถูกส่งออกมาจากห้องน้ำทำให้สลินลดาที่กำลังจะก้าวออกจากห้องต้องหยุดชะงักทันที
ไม่กล้าที่จะก้าวเท้าออกจากห้อง
แต่ก็ไม่วายที่จะต่อว่าคนที่ข่มขู่อยู่ในห้องน้ำไม่ได้ ‘คนบ้า
คนเอาแต่ใจ ดีแต่ออกคำสั่ง’ แม้จะนั่งต่อว่าวายุอยู่นานแต่คนที่โดนข่มขู่ด้วยโทษฐานที่เห็นแก่ตัวแต่เธอก็ไม่กล้าที่จะแสดงอาการอะไรมาก
ได้แต่นั่งรอจนวายุออกมาจากห้องแต่งตัวนั่นเอง
“นึกว่าจะกล้า
ที่แท้ก็กลัวเหมือนกันนะเธอนะ”
“ฉันไม่ได้กลัวค่ะ
แต่ฉันมาคิดๆดูแล้วว่าถ้าฉันไปก่อนมันก็จะดูไม่ดีเท่านั้นเอง”
หญิงสาวแสร้งบอกออกไปเพื่อไม่ให้วายุรู้ว่าเธอกลัวคำขู่ของเขานั่นเอง
“อ้อ...หรอ
ฉันก็นึกว่าเธอกลัวที่จะลงจากเตียงไปไหนไม่ได้เสียอีก”
วายุส่งเสียงราวหยอกล้อออกไปเมื่อเห็นว่าหญิงสาวตรงหน้านั่งก้มหน้า
ใบหน้าออกสีเรื่อๆราวเลือดฝาดเต็มใบหน้าก็ให้นึกอยากแกล้งคนขี้อายขึ้นมา
จึงเดินเข้าไปหาแล้วก็ก้มหน้าลงมาจนเกือบที่จะชิดใบหน้าหวาน
“อุ้ย ...”
หญิงสาวที่เงยหน้าขึ้นมาพอดีทำให้ใบหน้าหวานโดนวายุหอมแก้มไปเต็มๆ
“ตกใจอะไร
มากกว่านี้ก็ทำมาแล้ว กะอีแค่หอมแก้มจะอายทำไม” วายุที่ได้หอมแก้มสาวเข้าไปแสร้งแสดงอาการไม่พอใจเล็กน้อย
“คุณวายุ”
หญิงสาวเรียกวายุออกมาเต็มเสียงแต่ก็ไม่กล้าที่จะต่อว่าเขาออกไป
จึงได้แต่หันหลังหนีเพื่อหลบสายตาของวายุที่มองมายังเธอ
“ไป
ไปกันได้แล้ว” หลังจากนั้นทั้งสองก็ตรงไปยังห้องอาหารของทางโรงแรมเพื่อรวมรับประทานอาหารกับผู้บริหารของทางโรงแรมทันที
กรุงเทพมหานคร
ด้านดาราพรที่วันนี้หญิงสาวมีงานถ่ายแบบและงานโชว์ตัวตลอดทั้งวัน
ตกตอนเย็นก็ต้องเข้ากองถ่ายละครเพื่อถ่ายซ่อมฉากที่ถ่ายไม่เสร็จเมื่อสัปดาห์ก่อน
จนเวลาล่วงเข้าเช้าวันใหม่หญิงสาวถึงได้กลับเข้าบ้าน แต่พอเธอกำลังจะก้าวเท้าเข้าบ้าน
คุณภัทราผู้เป็นแม่ก็เดินออกมาพร้อมส่งเสียงเรียกเธอไม่ขาดปาก
“ดารา ดารา
กลับมาแล้วหรอลูก ทำไม่กลับดึกจังล่ะลูก แม่รอหนูตั้งนานแล้วนะลูก”
“ค่ะ
คุณแม่มีอะไรกับดาราหรือเปล่าคะ ถึงได้มารอดารา ทุกทีเวลานี้คุณแม่จะยังไม่กลับบ้านนี่คะ”
หญิงสาวถามผู้เป็นแม่ออกไปด้วยความสงสัยในพฤติกรรมของผู้เป็นแม่
“แหม่คุณลูกขา
คุณแม่ก็แค่อยากเจอคุณลูกของคุณแม่เท่านั้นเองค่ะลูก”
คุณภัทราบอกออกไปพร้อมกับเข้าไปจูงหญิงสาวเข้าบ้าน
“คุณแม่มีอะไรจะพูดกับลูกก็พูดมาเถอะค่ะ
ลูกเหนื่อยค่ะ อยากจะพักผ่อนแล้ว” หญิงสาวบอกกับผู้เป็นแม่ออกไปพร้อมทั้งทิ้งตัวลงนั่งบนโซฟาอย่างแรง
“แหม่ลูกก็”
“คุณแม่มีอะไรจะพูดก็บอกมาเถอะค่ะ”
ยังไม่ทันที่คุณภัทราจะพูดจบ ดาราพรก็แทรกขึ้นมาทันที ด้วยน้ำเสียงเบื่อหน่าย
“ก็ได้ค่ะ
คุณแม่จะถามว่าลูกกับพ่อวายุเป็นยังไงกันบ้าง แล้วเขามีวี่แววยังไงกับแม่เมียแต่งนั่นบ้างนะลูก”
คุณภัทราถามในสิ่งที่ต้องการจะรู้ออกไป
“คุณแม่ถามทำไมคะ”
ดาราพรถามกลับด้วยสีหน้าที่ไม่เข้าใจ
“แม่อยากรู้ว่าเมื่อไหร่พ่อวายุจะหย่ากับแม่เมียแต่งนั่น
แล้วมาแต่งกับลูกสักที” คุณภัทราบอกทำให้หญิงสาวแสดงอาการไม่พอใจออกไปทันที
“คุณแม่ทำไมถามแบบนี้คะ
พี่ยุเพิ่งจะแต่งงานไปนะคะ คงจะหย่าเร็วๆนี้ไม่ได้หรอกค่ะ”
หญิงสาวตอบกลับผู้เป็นแม่ด้วยน้ำเสียงไม่พอใจ
“แม่...แม่แค่อยากให้ลูกแต่งงานสักทีไงคะ
แม่ไม่อยากให้คนมองลูกของแม่ไม่ดีนะคะ แม่ไม่ชอบเวลาที่ได้ยินคนพูดว่าลูกเป็นมือที่สามเวลาเป็นข่าวกับพ่อวายุ
และอีกอย่างนึงแม่ต้องใช้เงินซะด้วยสิ”
คุณภัทราบอกลูกสาวออกไปและแม้ประโยคสุดท้ายจะพูดด้วยเสียงที่เบาราวกับไม่อยากให้ผู้เป็นลูกได้ยิน
แต่หญิงสาวก็ยังได้ยินมันอยู่ดีแม้มันจะเบาราวกระซิบก็ตาม
“คุณแม่ต้องการใช้เงิน
คุณแม่จะเอาเงินไปทำอะไรคะ แล้วเงินที่คุณพ่อโอนเข้าบัญชีทุกเดือนล่ะคะ
แล้วไหนจะเงินที่ดาราเพิ่งจะให้คุณแม่ไปอีกไปไหนหมด”
หญิงสาวถามออกไปด้วยน้ำเสียงไม่พอใจเป็นอย่างมาก
นับวันมารดาของเธอยิ่งจะใช้เงินเปลืองขึ้นทุกวัน ไม่ใช้ในการประมูลของการกุศลเพื่อเอาหน้าทางสังคมก็หมดไปกับการเล่นไพ่ภายในบ่อน
เธอไม่รู้ว่าเธอควรจะทำอย่างไรดี
“อย่าบอกนะคะว่าคุณแม่เสียในวงไพ่ของคุณแม่ไปหมดแล้ว”
“ค่ะ
อาทิตย์นี้แม่ดวงไม่ดีเลยลูก แม่เล่นเสียตลอดเลย
แล้วแถมแม่ก็ยังไปยืมเจ้าของบ่อนเอาไว้อีก 10 ล้าน” คุณภัทราบอกลูกสาวด้วยน้ำเสียงอ่อยๆ
“อะไรนะคะ 10
ล้าน คุณแม่ค่ะ คุณแม่รู้ตัวไหมคะว่าคุณแม่ทำอะไรอยู่ คุณแม่เป็นหนี้เป็น 10 ล้าน คุณแม่ทำได้ยังไงคะ
ดารากับคุณพ่อทำงานตั้งมากมายเพื่อให้คุณแม่เอาเงินไปละลายในบ่อนหรือคะ”
หญิงสาวถามออกไปด้วยความโมโห ความโกรธ และความเสียใจ ที่มารดาใช้เงินไปกับสิ่งที่ไม่สมควรทั้งๆที่ตัวเธอและผู้เป็นบิดาต่างทำงานหนัก
ตัวเธอเองทำงานในวงการบันเทิงทำงานทุกวันเหนื่อยสายตัวแทบขาด
แต่มันเป็นสิ่งเดียวที่ทำให้เธอมีความสุข
เธอไม่เคยนึกเบื่อหน่ายกับการทำงานที่ไม่มีวันหยุด ไม่มีเวลาตายตัว เพราะมันทำให้เธอรู้สึกว่าตัวเธอเองยังมีคนต้องการอยู่
ส่วนผู้เป็นบิดาของเธอก็ต้องทำงานหนักเพื่อหาเงิน
ท่านใช้เวลาในแต่ละวันหมดไปกับการทำงาน ท่านแทบจะไม่กลับบ้านเลยด้วยซ้ำ
เธอไม่รู้ว่ามันเป็นเพราะอะไร ทำไมพ่อของเธอถึงไม่ค่อยกลับบ้าน แต่ตอนนี้เธอรู้แล้วว่าเป็นเพราะว่าแม่ของเธอใช้เงินเป็นจำนวนมากนี่เอง
เธอมองผู้เป็นแม่อีกครั้งก่อนที่จะเดินหนีขึ้นห้องไปทิ้งให้ผู้เป็นแม่นั่งนิ่งอยู่บนโซฟาเพียงผู้เดียว
ความคิดเห็น