ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    เมียบำเรอรัก (รีอัพ)

    ลำดับตอนที่ #32 : ตอนที่ 10/1

    • เนื้อหาตอนนี้เปิดให้อ่าน
    • 13.54K
      5
      20 มี.ค. 65






    มาอ่านต่อกันนะคะทุกคน


    หลังจากที่อาบน้ำเปลี่ยนเสื้อผ้าเรียบร้อยหญิงสาวก็เตรียมที่จะออกไปจากห้องทันที แต่ก็ถูกวายุห้ามเอาไว้เสียก่อน เพราะต้องการที่จะให้หญิงสาวรอไปพร้อมตนเอง หลังจากนั้นเขาก็เข้าไปอาบน้ำเปลี่ยนเสื้อผ้าเช่นกัน

    “เดี๋ยว รอฉันอาบน้ำเปลี่ยนเสื้อผ้าก่อน แล้วค่อยไปพร้อมกัน”

    “ทำไมล่ะคะ คุณเสร็จแล้วค่อยตามลงไปก็ได้” หญิงสาวถามพร้อมกับทำหน้าสงสัยว่าทำไมเขาต้องให้เธอรอ

    “ฉันสั่งก็ทำตามเถอะ ไม่ต้องมาถามมาก” เขาว่าจบก็เดินหนีเข้าห้องน้ำทันที แต่ก็ยังไม่วายส่งเสียงตะโกนเสียงดังออกมาสั่งอีกครั้ง “ห้ามหนีไปก่อนนะ ไม่งั้นฉันจะลงโทษให้ลงจากเตียงไปไหนไม่ได้เลยจำไว้” เสียงที่ถูกส่งออกมาจากห้องน้ำทำให้สลินลดาที่กำลังจะก้าวออกจากห้องต้องหยุดชะงักทันที ไม่กล้าที่จะก้าวเท้าออกจากห้อง แต่ก็ไม่วายที่จะต่อว่าคนที่ข่มขู่อยู่ในห้องน้ำไม่ได้ คนบ้า คนเอาแต่ใจ ดีแต่ออกคำสั่งแม้จะนั่งต่อว่าวายุอยู่นานแต่คนที่โดนข่มขู่ด้วยโทษฐานที่เห็นแก่ตัวแต่เธอก็ไม่กล้าที่จะแสดงอาการอะไรมาก ได้แต่นั่งรอจนวายุออกมาจากห้องแต่งตัวนั่นเอง

    “นึกว่าจะกล้า ที่แท้ก็กลัวเหมือนกันนะเธอนะ”

    “ฉันไม่ได้กลัวค่ะ แต่ฉันมาคิดๆดูแล้วว่าถ้าฉันไปก่อนมันก็จะดูไม่ดีเท่านั้นเอง” หญิงสาวแสร้งบอกออกไปเพื่อไม่ให้วายุรู้ว่าเธอกลัวคำขู่ของเขานั่นเอง

    “อ้อ...หรอ ฉันก็นึกว่าเธอกลัวที่จะลงจากเตียงไปไหนไม่ได้เสียอีก” วายุส่งเสียงราวหยอกล้อออกไปเมื่อเห็นว่าหญิงสาวตรงหน้านั่งก้มหน้า ใบหน้าออกสีเรื่อๆราวเลือดฝาดเต็มใบหน้าก็ให้นึกอยากแกล้งคนขี้อายขึ้นมา จึงเดินเข้าไปหาแล้วก็ก้มหน้าลงมาจนเกือบที่จะชิดใบหน้าหวาน

    “อุ้ย ...” หญิงสาวที่เงยหน้าขึ้นมาพอดีทำให้ใบหน้าหวานโดนวายุหอมแก้มไปเต็มๆ

    “ตกใจอะไร มากกว่านี้ก็ทำมาแล้ว กะอีแค่หอมแก้มจะอายทำไม” วายุที่ได้หอมแก้มสาวเข้าไปแสร้งแสดงอาการไม่พอใจเล็กน้อย

    “คุณวายุ” หญิงสาวเรียกวายุออกมาเต็มเสียงแต่ก็ไม่กล้าที่จะต่อว่าเขาออกไป จึงได้แต่หันหลังหนีเพื่อหลบสายตาของวายุที่มองมายังเธอ

    “ไป ไปกันได้แล้ว” หลังจากนั้นทั้งสองก็ตรงไปยังห้องอาหารของทางโรงแรมเพื่อรวมรับประทานอาหารกับผู้บริหารของทางโรงแรมทันที

     

    กรุงเทพมหานคร

                ด้านดาราพรที่วันนี้หญิงสาวมีงานถ่ายแบบและงานโชว์ตัวตลอดทั้งวัน ตกตอนเย็นก็ต้องเข้ากองถ่ายละครเพื่อถ่ายซ่อมฉากที่ถ่ายไม่เสร็จเมื่อสัปดาห์ก่อน จนเวลาล่วงเข้าเช้าวันใหม่หญิงสาวถึงได้กลับเข้าบ้าน แต่พอเธอกำลังจะก้าวเท้าเข้าบ้าน คุณภัทราผู้เป็นแม่ก็เดินออกมาพร้อมส่งเสียงเรียกเธอไม่ขาดปาก

    “ดารา ดารา กลับมาแล้วหรอลูก ทำไม่กลับดึกจังล่ะลูก แม่รอหนูตั้งนานแล้วนะลูก”

    “ค่ะ คุณแม่มีอะไรกับดาราหรือเปล่าคะ ถึงได้มารอดารา ทุกทีเวลานี้คุณแม่จะยังไม่กลับบ้านนี่คะ” หญิงสาวถามผู้เป็นแม่ออกไปด้วยความสงสัยในพฤติกรรมของผู้เป็นแม่

    “แหม่คุณลูกขา คุณแม่ก็แค่อยากเจอคุณลูกของคุณแม่เท่านั้นเองค่ะลูก” คุณภัทราบอกออกไปพร้อมกับเข้าไปจูงหญิงสาวเข้าบ้าน

    “คุณแม่มีอะไรจะพูดกับลูกก็พูดมาเถอะค่ะ ลูกเหนื่อยค่ะ อยากจะพักผ่อนแล้ว” หญิงสาวบอกกับผู้เป็นแม่ออกไปพร้อมทั้งทิ้งตัวลงนั่งบนโซฟาอย่างแรง

    “แหม่ลูกก็”

    “คุณแม่มีอะไรจะพูดก็บอกมาเถอะค่ะ” ยังไม่ทันที่คุณภัทราจะพูดจบ ดาราพรก็แทรกขึ้นมาทันที ด้วยน้ำเสียงเบื่อหน่าย

    “ก็ได้ค่ะ คุณแม่จะถามว่าลูกกับพ่อวายุเป็นยังไงกันบ้าง แล้วเขามีวี่แววยังไงกับแม่เมียแต่งนั่นบ้างนะลูก” คุณภัทราถามในสิ่งที่ต้องการจะรู้ออกไป

    “คุณแม่ถามทำไมคะ” ดาราพรถามกลับด้วยสีหน้าที่ไม่เข้าใจ

    “แม่อยากรู้ว่าเมื่อไหร่พ่อวายุจะหย่ากับแม่เมียแต่งนั่น แล้วมาแต่งกับลูกสักที” คุณภัทราบอกทำให้หญิงสาวแสดงอาการไม่พอใจออกไปทันที

    “คุณแม่ทำไมถามแบบนี้คะ พี่ยุเพิ่งจะแต่งงานไปนะคะ คงจะหย่าเร็วๆนี้ไม่ได้หรอกค่ะ” หญิงสาวตอบกลับผู้เป็นแม่ด้วยน้ำเสียงไม่พอใจ

    “แม่...แม่แค่อยากให้ลูกแต่งงานสักทีไงคะ แม่ไม่อยากให้คนมองลูกของแม่ไม่ดีนะคะ แม่ไม่ชอบเวลาที่ได้ยินคนพูดว่าลูกเป็นมือที่สามเวลาเป็นข่าวกับพ่อวายุ และอีกอย่างนึงแม่ต้องใช้เงินซะด้วยสิ” คุณภัทราบอกลูกสาวออกไปและแม้ประโยคสุดท้ายจะพูดด้วยเสียงที่เบาราวกับไม่อยากให้ผู้เป็นลูกได้ยิน แต่หญิงสาวก็ยังได้ยินมันอยู่ดีแม้มันจะเบาราวกระซิบก็ตาม

    “คุณแม่ต้องการใช้เงิน คุณแม่จะเอาเงินไปทำอะไรคะ แล้วเงินที่คุณพ่อโอนเข้าบัญชีทุกเดือนล่ะคะ แล้วไหนจะเงินที่ดาราเพิ่งจะให้คุณแม่ไปอีกไปไหนหมด” หญิงสาวถามออกไปด้วยน้ำเสียงไม่พอใจเป็นอย่างมาก นับวันมารดาของเธอยิ่งจะใช้เงินเปลืองขึ้นทุกวัน ไม่ใช้ในการประมูลของการกุศลเพื่อเอาหน้าทางสังคมก็หมดไปกับการเล่นไพ่ภายในบ่อน เธอไม่รู้ว่าเธอควรจะทำอย่างไรดี “อย่าบอกนะคะว่าคุณแม่เสียในวงไพ่ของคุณแม่ไปหมดแล้ว”

    “ค่ะ อาทิตย์นี้แม่ดวงไม่ดีเลยลูก แม่เล่นเสียตลอดเลย แล้วแถมแม่ก็ยังไปยืมเจ้าของบ่อนเอาไว้อีก 10 ล้าน” คุณภัทราบอกลูกสาวด้วยน้ำเสียงอ่อยๆ

    “อะไรนะคะ 10 ล้าน คุณแม่ค่ะ คุณแม่รู้ตัวไหมคะว่าคุณแม่ทำอะไรอยู่ คุณแม่เป็นหนี้เป็น 10 ล้าน คุณแม่ทำได้ยังไงคะ ดารากับคุณพ่อทำงานตั้งมากมายเพื่อให้คุณแม่เอาเงินไปละลายในบ่อนหรือคะ” หญิงสาวถามออกไปด้วยความโมโห ความโกรธ และความเสียใจ ที่มารดาใช้เงินไปกับสิ่งที่ไม่สมควรทั้งๆที่ตัวเธอและผู้เป็นบิดาต่างทำงานหนัก ตัวเธอเองทำงานในวงการบันเทิงทำงานทุกวันเหนื่อยสายตัวแทบขาด แต่มันเป็นสิ่งเดียวที่ทำให้เธอมีความสุข เธอไม่เคยนึกเบื่อหน่ายกับการทำงานที่ไม่มีวันหยุด ไม่มีเวลาตายตัว เพราะมันทำให้เธอรู้สึกว่าตัวเธอเองยังมีคนต้องการอยู่ ส่วนผู้เป็นบิดาของเธอก็ต้องทำงานหนักเพื่อหาเงิน ท่านใช้เวลาในแต่ละวันหมดไปกับการทำงาน ท่านแทบจะไม่กลับบ้านเลยด้วยซ้ำ เธอไม่รู้ว่ามันเป็นเพราะอะไร ทำไมพ่อของเธอถึงไม่ค่อยกลับบ้าน แต่ตอนนี้เธอรู้แล้วว่าเป็นเพราะว่าแม่ของเธอใช้เงินเป็นจำนวนมากนี่เอง เธอมองผู้เป็นแม่อีกครั้งก่อนที่จะเดินหนีขึ้นห้องไปทิ้งให้ผู้เป็นแม่นั่งนิ่งอยู่บนโซฟาเพียงผู้เดียว


    .............................................
    อ่านอย่างมีความสุขนะคะทุกคน


    อยู่กับไรท์ไปนานๆนะคะทุกคน




    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    นิยายที่ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×