*เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นเป็นเพียงเรื่องสมมุติ ไม่มีความเกี่ยวข้องกับเหตุการณ์และศิลปินตัวจริง หากข้อมูลบางส่วนที่นำมาอ้างอิง ผิดพลาดอย่างใด ต้องขออภัยไว้ ณ ที่นี้ด้วยค่ะ
ในปีพุทธศักราช๒๔๘๘ หลังสงครามโลกครั้งที่สองจบลงอย่างเป็นทางการ เป็นที่โล่งใจของหลายฝ่ายที่รัฐมนตรีกระทรวงการต่างประเทศญี่ปุ่น(ในขณะนั้น) ในนามของพระจักรพรรดิลงนามในเอกสารยอมจำนนอย่างไม่มีเงื่อนไขต่อกลุ่มสัมพันธมิตร ทุกอย่างเหมือนจะจบลงด้วยดี
แต่แล้วในปีต่อมาก็ได้เกิดสงครามเย็น การต่อสู้ระหว่างสองประเทศมหาอำนาจ ที่สู้กันด้วยอุดมการณ์ เศรษฐกิจ การก้าวหน้าในเทคโนโลยีในสมัยนั้น รวมไปถึงการทดลองลับๆของสองประเทศก่อนจบสงครามโลกได้ถูกเปิดเผยโดยนักวิทยาศาสตร์นิรนามไม่ระบุฝั่งใดฝั่งหนึ่ง
จดหมายลับที่ถูกส่งไปหลายประเทศ สร้างความตกใจให้แก่ผู้ได้รับรู้ และเกิดความโกลาหลครั้งยิ่งใหญ่ทั่วโลก เมื่อในจดหมายได้ระบุว่าระเบิดลูกสุดท้ายก่อนจบสงครามได้มีการผสมเชื้อไวรัสบางอย่างที่ไม่สามารถระบุแน่ชัด เพื่อเป็นการลดปริมาณผู้ชายในการเข้าเกณฑ์ทหารสู่สนามรบ ไวรัสตัวนี้จึงทำให้ ‘ผู้ชายท้องได้’
แต่ไม่ใช่ผู้ชายทุกคนจะท้องได้ มีเพียงผู้ที่ภูมิคุ้มกันต่ำที่เมื่อได้รับไวรัสเข้าไป ในทางกายภาพไม่มีสิ่งใดเปลี่ยนแปลงมากนัก หากแต่ร่างกายภายในจะมีการเปลี่ยนแปลงให้พร้อมกับการตั้งครรภ์ เพราะอย่างนั้นความแข็งแรง กำยำ จึงลดลงและไม่สามารถผ่านในการตรวจสุขภาพเพื่อลงสู่สนามรบ คล้ายกับผู้ถูกเลือก เป็นคำสาป ช่างไม่ยุติธรรม
เหมือนฝันในวัยสิบขวบคิดเช่นนั้น
เด็กชายผิวขาวจัด ตัวผอมบาง นั่งกอดเข่าร้องไห้จนแทบขาดใจ เมื่อราวๆสองวันก่อนได้ยินประกาศทางวิทยุเรื่องผู้ชายท้องและสามารถไปตรวจแนวโน้มได้ที่โรงพยาบาล แม่ที่วิตกกังวลจนทำอะไรไม่ถูกจึงพาเหมือนฝันกับจันทร์วาด น้องชายวัยห้าขวบมาตรวจ ในตอนนั้นเหมือนฝันยังคิดว่าน่าขำ เพราะต่อให้ผู้ชายท้องได้ เหมือนฝันคงไม่ใช่หนึ่งในนั้น
แล้วสิ่งที่คิดไว้ก็พังทลายลง
“น้องเหมือนฝันมีแนวโน้มนะคะ ถ้าจะให้ชัดเลย ตอนน้องอายุสักสิบสอง สิบสามพามาตรวจอีกทีจะชัดเจนมากกว่านี้ เท่าที่ได้รับแจ้งมา คนที่มีแนวโน้ม ทางร่างกายภายนอกจะไม่ได้มีอะไรเปลี่ยนแปลงมาก อาจจะมีสะโพกผายออกนิดหน่อย หน้าตา ความงามพวกนี้ แต่น้องเหมือนฝันก็งามอยู่แล้ว แล้วก็ฮอร์โมนบางอย่างที่บอกเพศเดียวกันพอให้รู้ว่าคนนี้สามารถ…”
เหมือนฝันไม่สามารถทนฟังได้อีกต่อไป เด็กน้อยเลือกที่จะวิ่งหนีออกมาพร้อมกับน้ำตาที่ไหลรินไปตลอดทาง
เหมือนฝันบอกกับตัวเองว่านี่เป็นเพียงความฝัน อีกไม่นานคงตื่น แต่เสียงร้องไห้จากผู้คนที่เดินเข้าออกโรงพยาบาล คาดว่าได้รับข่าวจากวิทยุจึงมาตรวจเช่นกัน ก็ทำให้รู้ว่านี่คือความจริง
“พี่เหมือน ฮึก พี่เหมือน”
“จันทร์”
เสียงร้องเรียกชื่อเขาพร้อมกับเสียงสะอื้นของน้องชาย ทำเอาพี่คนโตรีบเช็ดน้ำตาออกใบหน้า เพราะไม่อยากให้น้องชายที่รักเห็นว่าตนเองอ่อนแอ
“จันทร์เห็น ฮึก พี่เหมือนวิ่งออกมา แล้วพี่เหมือนก็ร้องไห้”
เหมือนฝันหลบสายตาน้องชายแสนฉลาดคนนี้ไม่ได้จริงๆ คนเป็นพี่ไม่ตอบอะไร อุ้มน้องชายตัวเล็กขึ้นมานั่งตักแล้วกอดปลอบ มองหน้าผู้เป็นมารดาที่มีสีหน้าเศร้าไม่ต่างกัน
“แม่ขอโทษนะเหมือน”
เหมือนฝันส่ายหน้า เม้มปากกลั้นเสียงสั่นๆของตน แล้วซบลงที่ไหล่เล็กของผู้หญิงที่เขารักที่สุด
“แม่ไม่ต้องขอโทษหรอก แม่ไม่ผิดเสียหน่อย”
หญิงวัยกลางคนแต่ความสวยยังสะพรั่งโอบกอดลูกชายสุดที่รักทั้งสอง มือสากด้านจากทำงานหนักเพื่อเลี้ยงลูกชายทั้งสอง ลูบผมนุ่มเพื่อปลอบประโลม ดวงตาสวยหลั่งน้ำตาออกมาเงียบๆ
“แม่สัญญาว่าแม่จะดูแลลูกให้ดีที่สุด ไม่ต้องกลัวนะ ทุกอย่างจะต้องไม่เป็นอะไร แม่จะพยายามให้ดีที่สุด”
เด็กชายวัยสิบขวบพยักหน้า หลับตาแน่นปล่อยให้น้ำตาไหลในอ้อมกอดของผู้เป็นแม่ เขาเชื่อในคำพูดของผู้หญิงตัวเล็กๆคนนี้ แต่เหมือนฝันยังคงภาวนา อ้อนวอนอยู่ภายในใจลึกๆ
ขอให้สิ่งที่เกิดขึ้นราวกับฝันนี้ ไม่เลวร้ายกับเขาจนเกินไป
*****
ขอฝากด้วยนะคะ เป็นการเขียนแนวนี้ครั้งแรก ผิดพลาดประการใดขออภัยด้วยค่ะ
#เหมือนดั่งฝัน
2020/01/24
ข้อความที่โพสจะต้องไม่น้อยกว่า {{min_t_comment}} ตัวอักษรและไม่เกิน {{max_t_comment}} ตัวอักษร
กรอกชื่อด้วยนะ
_________
กรอกข้อมูลในช่องต่อไปนี้ไม่ครบ
หรือข้อมูลผิดพลาดครับ :
_____________________________
ช่วยกรอกอีกครั้งนะครับ
กรุณากรอกรหัสความปลอดภัย
ชอบชื่อพี่น้องทั้งสองคนเลยค่ะ แล้วเรื่องก็น่าติดตามมากๆเลย กี๊ดดดด อยากกอดๆ น้องเหมือนฝันจังเลย มารู้แบบนี้ทั้งที่ไม่ได้เตรียมใจไว้คงเหมือนพังทลายลงมาเหมือนกัน แงงงง
น้องเหมือนน่าสงสารอ่า แต่น้องต้องโตมาเข้มแข็งแน่ๆ
รอติดตามอยู่น้าาา
น้องงงง ยุคแรกเลยคงงงและสับสนน่าดู สังคมกฎหมายคงยังใหม่กันมาก