ตอนที่ 8 : ตอนที่ 8
-8-
ถึงแม้ชุมชนที่รพีอยู่อาศัยจะห่างจากคอนโดของหม่อมราชวงศ์คีรินทร์ไม่มากนัก แต่ก็เหมือนอยู่กันคนละสังคม บริเวณบ้านของรพีคือชุมชนแออัด เป็นหมู่บ้านแบบเปิดซึ่งตั้งอยู่ตรงนี้มานานและเสื่อมโทรมลงเรื่อยๆ ขณะที่คอนโดของคุณชายเล็กอยู่ในตัวเมือง ไม่เคยรับรู้มาก่อนว่าแถวนี้เป็นอย่างไร ไม่แปลกหากสิ่งที่เกิดขึ้นในแต่ละพื้นที่จะดูราวกับอยู่กันคนละโลกโดยสิ้นเชิง
“อำนาจ ภานุภักดิ์ เบื้องหน้าเป็นเจ้าของร้านทองสี่แห่งในภาคกลาง เบื้องหลังปล่อยเงินกู้นอกระบบให้กับชาวบ้านในโซนพื้นที่ที่ตัวเองมีอิทธิพล ปัจจุบันมีชาวบ้านฟ้องร้องเรื่องเกี่ยวกับการทำผิดกฎหมายหลายคดี แต่ไม่มีคดีไหนไปได้ไกลเลยสักคดี เห็นได้ชัดว่ามีอิทธิพลมากในพื้นที่แถบนั้น แล้วก็คงจะมีผู้ช่วยเหลืออยู่เบื้องหลังด้วยถึงได้กล้าทำผิดโดยไม่กลัวเกรง”
ตรีภพกดปิดแท็บเล็ตแล้วถอยไปยืนด้านหลังโซฟา ปล่อยให้เจ้านายพูดคุยกับแขกโดยไม่เข้าไปรบกวน ขณะที่สองพี่น้องที่คนหนึ่งชินกับเพนท์เฮ้าส์นี้แล้ว ส่วนอีกคนเพิ่งเคยมาเป็นครั้งแรกมองหน้ากันด้วยความรู้สึกพูดไม่ออกบอกไม่ถูก
เรื่องของเสี่ยอำนาจอาจไม่ใช่ความลับอะไร แต่การใช้เวลาไม่ถึงครึ่งชั่วโมงในระหว่างที่พวกเขานั่งรถมาที่นี่หาข้อมูลที่เป็นประเด็นสำคัญได้จนครบ มองอย่างไรก็ดูจะไวเกินไปหน่อยหรือเปล่า
“พี่พีมีอะไรอยากถามเล็กหรือเปล่าครับ” หม่อมราชวงศ์คีรินทร์ซึ่งภายนอกดูเป็นปกติทุกประการเอ่ยถามด้วยน้ำเสียงนุ่มนวลคล้ายกับรับรู้ได้ถึงความสงสัยของสองพี่น้อง
“ผมสงสัยว่าคุณชายไปเจอพวกเราที่นั่นได้ยังไงครับ”
“เรื่องนั้นพี่พีน่าจะถามน้องชายตัวเองมากกว่านะครับ”
“น้องชาย... ดิม?” รพีหันขวับไปมองดมิสที่เบนหน้าหนีไม่ยอมสบตาอย่างคาดคั้น แทบจะคาดเดาเรื่องราวทั้งหมดได้ในทันที “ก่อนมาถึงดิมโทรหาคุณชายเหรอ”
“แค่เห็นพวกมันยืนล้อมพี ดิมก็ต้องรู้แล้วไหมว่าสู้ไม่ได้” ดมิสหันกลับมาพูดด้วยน้ำเสียงสั้นห้วนที่ดูหงอยนิดๆ “ดิมจำได้ว่าพีเคยขอยืมโทรศัพท์โทรหาคุณชายก็เลยโทรไปบอกว่าพีกำลังจะโดนทำร้าย ตั้งใจว่าจะขอให้เขาช่วยเหลือ แต่ว่า...”
“แต่ว่าอะไร”
“แต่ว่าพูดอธิบายสถานการณ์ยังไม่ทันจบเขาก็วางสายไปเลย ดิมก็ไม่คิดว่าจะมาไวขนาดนั้นเหมือนกัน”
หม่อมราชวงศ์คีรินทร์ซึ่งกำลังแปลกใจกับท่าทีงุ้งงิ้งของดมิสเวลาอยู่กับพี่ชายคลี่ยิ้มจาง ยามเห็นว่ารพีหันมามองหน้ากันด้วยแววตามีความหมายเหมือนอยากจะพูดอะไรบางอย่าง กระทั่งเห็นว่ารพีไม่เอ่ยอะไรออกมาเสียที เขาจึงเป็นฝ่ายพูดขึ้นก่อนเอง
“เวลามีปัญหาหรือต้องการความช่วยเหลือ ถ้าพี่พีไม่ไว้ใจใคร ถ้าคิดว่าไม่มีใครให้ความยุติธรรมกับพี่พีได้ ช่วยคิดถึงเล็กเป็นคนแรกได้ไหมครับ”
คำพูดที่เต็มไปด้วยความหมายหลุดออกจากปากของคุณชายเล็กโดยที่เจ้าตัวไม่แม้แต่จะเปลี่ยนสีหน้าเลยแม้แต่น้อย สิ่งเดียวที่เปลี่ยนแปลงไปคือดวงตาคู่สวยซึ่งเต็มไปด้วยความจริงใจ รู้ทั้งรู้ว่าไม่ได้อยู่ด้วยกันเพียงลำพัง หากคุณชายเล็กก็ยังเลือกที่จะพูดสิ่งที่คิดออกไปตามตรง
“ถ้ายังไง...ดิมขอกลับไปติวหนังสือที่หอก่อนแล้วกัน” กลายเป็นดมิสเองที่พูดไม่ออกบอกไม่ถูกจนต้องยกมือเกาหัวแล้วกระแอมเรียกความสนใจกลับมา “เรื่องไอ้พวกนั้น พีตัดสินใจยังไงก็บอก ดิมเคารพการตัดสินใจของพีอยู่แล้ว”
“ได้ ดิมไปเถอะ ตั้งใจอ่านหนังสือนะ”
“ขอบคุณอีกครั้งนะคุณชาย” ดมิสหันไปผงกหัวให้เจ้านายของพี่ชายอีกรอบ ถึงแววตาและท่าทางจะไม่ได้นุ่มนวลอะไร แต่ก็แสดงออกถึงการยอมรับ “ไม่ต้องไปส่ง พีคุยกับคุณชายไปเถอะ”
“เดี๋ยวผมไปส่งเองครับ” ตรีภพที่มองหาโอกาสหลบเลี่ยงออกไปจากห้องมานานเสนอตัวแล้วผายมือเชิญให้ดมิสตามออกไป สายตาสบประสานเพียงชั่วครู่ก็เข้าใจหัวอกกันและกันได้อย่างรวดเร็ว
ไม่รู้จะอยู่เป็นกอขอคอไปเพื่ออะไร
พอเหลือกันอยู่สองคนเหมือนปกติ แทนที่การพูดคุยจะราบรื่น ไม่ต้องนึกเกรงใจใครอีก บรรยากาศกลับกลายเป็นยิ่งเงียบงันโดยไม่ทราบสาเหตุ คุณชายคีรินทร์จ้องมองรพีนิ่งเหมือนต้องการบอกว่ายังรอคอยคำตอบอยู่ ส่วนฝ่ายที่ถูกจับจ้องก็ไม่รู้ว่าควรตอบด้วยคำพูดเช่นใดจึงจะเหมาะสม
...ทว่าท้ายที่สุดก็ต้องโยนความเหมาะสมที่ว่าทิ้งไป เพราะไม่อยากให้ดวงตาคู่สวยของคุณชายดูเป็นกังวลไปมากกว่านี้
“ได้ครับ” รพีพูดด้วยน้ำเสียงหนักแน่นไม่แพ้ดวงตาซึ่งฉายชัดถึงความจริงจัง “หากไม่นับดิม... ผมจะนึกถึงคุณชายเล็กเป็นคนแรก”
“เท่านั้นก็ดีแล้วครับ” คนฟังยกยิ้มกว้าง คำตอบที่ได้มีความหมายยิ่งกว่าอะไรทั้งหมด ตั้งแต่แรกเขาก็ไม่ได้คิดอยากแย่งชิงความรักจากน้องชายแท้ๆ ของพี่พีอยู่แล้ว เพราะอย่างนั้นแค่ได้เป็นคนสำคัญต่อจากครอบครัวของอีกฝ่ายก็พอ “เช่นนั้นพี่พีช่วยยกเรื่องของคุณอำนาจให้เล็กจัดการได้ไหมครับ”
“ผมไม่อยากให้คุณชายเล็กต้องลำบากไปด้วย” เพราะหวาดกลัวว่าจะทำให้คุณชายเล็กเป็นอันตรายหรือลำบาก รพีจึงมีสีหน้าเคร่งเครียดขึ้นอย่างเห็นได้ชัดเมื่อพูดถึงเจ้าหนี้ของตัวเอง “อย่าเข้าไปยุ่งกับคนพวกนั้นเลยครับ คนที่อยู่นอกกฎหมายเช่นนั้นไม่ควรค่าให้คุณชายเล็กสนใจ”
“สำหรับเล็กเรื่องแค่นี้ไม่ได้ถือว่าลำบากอะไรเลย เล็กเต็มใจช่วยจริงๆ เพราะอย่างนั้นอย่าปฏิเสธเลยนะครับ”
ไม่รู้ว่าคุณชายเริ่มจับทางของเขาได้ตั้งแต่เมื่อไร จึงดูคล้ายจะรู้ว่ารพีพ่ายแพ้ต่อดวงตาคู่นั้นเป็นอย่างมาก หลังจากวอนขอด้วยคำพูดไม่ได้ผลถึงได้ส่งแววตาออดอ้อนมาให้กันเช่นนั้น
“คุณชายจะทำอะไรครับ” รพีหันหน้าหนีแล้วขมวดคิ้วมุ่นด้วยความอึดอัด
พอได้ยินคำพูดที่ดูเหมือนจะยอมรับความพ่ายแพ้ไปแล้วครึ่งหนึ่ง ดวงตาคู่สวยของหม่อมราชวงศ์คีรินทร์ก็เปล่งประกายพราวระยับน่ามอง
“เล็กจะทำให้เรื่องของคุณอำนาจจบลงภายในวันนี้ครับ... พี่พีเพียงแค่อนุญาตให้เล็กทำตามใจก็พอ”
รพีเม้มปาก เริ่มชั่งน้ำหนักระหว่างสัญชาตญาณที่บอกว่า ‘ทำตามใจ’ ของคุณชายน่าจะเป็นเรื่องน่ากลัว กับหัวใจที่บอกว่าไม่ควรปฏิเสธสิ่งใดก็ตามที่คนตรงหน้าร้องขอ
ท้ายที่สุดสิ่งใดจะเป็นฝ่ายชนะ เพียงแค่มองตาคุณชายก็ไม่ต้องคิดต่อแล้ว
“อย่าทำให้ตัวเองต้องลำบากนะครับ”
หม่อมราชวงศ์คีรินทร์หัวเราะออกมาอย่างอารมณ์ดีเมื่อได้ยินคำพูดของคนขี้เกรงใจ สีหน้าของพี่พีที่อยากตามใจเขาแต่ก็ไม่อยากให้ต้องลำบาก ต่อให้มองอีกกี่ร้อยรอบก็ไม่มีทางเบื่อ
“เล็กไม่ลำบากหรอกครับ แต่ตอนนี้มีอีกเรื่องที่สำคัญกว่า” เจ้าของร่างสูงโปร่งผุดลุกขึ้นยืนและเดินตรงไปหยิบกล่องปฐมพยาบาลที่ตรีภพวางไว้ให้อย่างรู้ใจกลับมาหารพี
“คุณชายเล็ก เดี๋ยวผมทำเอง...”
“เล็กอยากทำให้ครับ” เพียงคำพูดประโยคเดียวที่มาพร้อมสีหน้ามุ่งมั่น รพีก็หมดคำพูดแทบจะทันที แม้แต่สายตาที่ใช้มองคุณชายก็ยังดูอ่อนลง ที่ชัดเจนพอๆ กับความอ่อนโยนคงจะเป็นความเอ็นดูซึ่งเขาแทบไม่เคยกล้าแสดงออกเลยสักครั้ง
“ผมถามได้หรือเปล่าครับว่าคุณชายเคยทำแผลให้ใครไหม”
“ถามได้สิครับ” คุณชายเล็กอมยิ้มน่ามอง “ไม่เคยเลยสักครั้ง เพราะงั้นเล็กคงต้องขอให้พี่พีช่วยสอน”
“แบบนี้ผมคงต้องอดทนให้มากหน่อย” รพีถูกความน่ามองของคุณชายทำให้หลงลืมตัวตนไปชั่วขณะ เขาเผลอหยอกล้ออีกฝ่ายอย่างเป็นกันเอง และมันก็ทำให้ดวงตาสีน้ำทะเลคู่นั้นดูสว่างไสวมากขึ้นเรื่อยๆ
“เล็กมือเบาครับ พี่พีไม่ต้องเป็นห่วง”
คำกล่าวของคุณชายเล็กไม่ใช่การพูดเกินจริงเลยแม้แต่น้อย เพราะหลังจากนั้นรพีก็ได้รับรู้ด้วยตัวเองว่าเจ้านายของเขามือเบามากเพียงใด ที่บอกว่าจะให้เขาช่วยสอนให้ จริงๆ ไม่ได้จำเป็นสักนิด เพียงแนะนำนิดหน่อยคุณชายก็จัดการต่อได้ด้วยตัวเองทั้งหมด
และที่สำคัญ...
ความใกล้ชิดที่มากกว่าปกติซึ่งต่างฝ่ายต่างไม่รู้ว่ามีใครตั้งใจหรือไม่ทำให้รพีมองเห็นความจริงจังบนสีหน้าของคุณชายได้อย่างชัดเจน นอกเหนือไปจากนั้นเขายังค้นพบว่าดวงตาสีฟ้าน้ำทะเลที่พ่ายแพ้นักหนานั้น แท้จริงยังงดงามได้มากกว่าที่คิดเมื่อได้มองในระยะประชิดเช่นที่เป็นอยู่
“มองกันด้วยสายตาแบบนี้ หลงเสน่ห์เล็กแล้วหรือครับ”
รพีถูกคำพูดหยอกล้อจากคนที่ทำแผลให้เขาเสร็จตั้งแต่เมื่อไรก็ไม่รู้เรียกสติ ชายหนุ่มผงะถอยไปด้านหลังเล็กน้อยเมื่อพบว่าระยะห่างระหว่างเขากับคุณชายลดลงมากเพียงใด
“ผมไม่กล้าหรอกครับ”
“ไม่กล้า... ทำไมหรือครับ”
คำถามตรงไปตรงมาทำให้รพีลำบากใจจนไม่รู้ว่าควรพูดอย่างไร ทว่าคราวนี้เหมือนคุณชายจะไม่ยอมปล่อยไปโดยง่าย จึงนั่งนิ่งไม่ขยับร่างไปไหนคล้ายจะกดดันจนกว่าเขาจะตอบ ท้ายที่สุดรพีจึงทำได้เพียงถอนหายใจแล้วยอมรับออกไปตามตรง
“ตั้งแต่เกิดมาผมไม่เคยพบเจอกับคนที่เหมาะสมกับคำว่างดงามมาก่อน แต่คุณชายเล็กในสายตาของผมงดงามทั้งภายนอกและภายใน ไม่ว่าจะสถานะหรือกิริยาล้วนเพียบพร้อมไปหมดทุกอย่าง...”
“…"
“คนต่ำต้อยอย่างผมไม่กล้าคิดอาจเอื้อม”
“คิดหน่อยเถอะครับ” หม่อมราชวงศ์คีรินทร์สวนกลับโดยไม่หยุดคิด ถึงจะดีใจที่คำพูดของรพีแสดงให้เห็นว่าเริ่มมีใจหากต้องควบคุมตัวเองไว้ แต่เขาก็ยังให้ความสำคัญกับใจความที่อีกคนต้องการสื่อสารมากกว่า “พี่พีคงทราบดีว่าเล็กคิดอย่างไร บางทีอาจจะทราบตั้งแต่แรกแล้วด้วยซ้ำ เพียงแค่ไม่อยากยอมรับเท่านั้น”
“คุณชายเล็ก...”
คำสารภาพที่ได้รับมาในสถานการณ์ที่ไม่คาดคิดทำเอารพีพูดอะไรไม่ออกไปชั่วจังหวะหนึ่ง ถึงกระนั้นคุณชายกลับไม่เมตตาทิ้งช่วงให้เขาได้หยุดพักหายใจเลยแม้แต่วินาทีเดียว
“หากพี่พีอยากให้ทุกอย่างค่อยเป็นค่อยไปเล็กก็จะทำให้ แต่เล็กอยากให้พี่พีหยุดปฏิเสธตัวเอง แล้วก็เลิกคิดว่าเล็กสูงค่าเกินกว่าจะเข้ามายุ่งเกี่ยวได้แล้ว... นอกจากคำนำหน้าที่ไม่เหมือนคนทั่วไป เล็กก็เป็นเพียงคนธรรมดาไม่ต่างจากใคร ไม่ได้สูงส่งหรืองดงามจนแตะต้องไม่ได้อย่างที่พี่พีเข้าใจ”
“…”
“คนภายนอกที่ไม่ได้รู้จักอาจคิดว่าเล็กต้องวางตัวดีตลอดเวลา คำพูดแต่ละอย่างไม่อาจเปิดเผยความรู้สึกได้ทั้งหมด ทุกอย่างต้องผ่านการคิดพิจารณา ไม่อาจเปิดเผยมากจนน่าเกลียด... แต่พี่พีน่าจะเริ่มทราบบ้างแล้วว่าในความเป็นจริงนั้นตรงกันข้ามโดยสิ้นเชิง” หม่อมราชวงศ์คีรินทร์คลี่ยิ้มจาง “จริงอยู่ที่เล็กได้เรียนรู้มารยาทมามากพอควรในช่วงเวลาที่ยังเป็นเด็ก แต่พี่ชายใหญ่มักจะบอกว่าเล็กเป็นเด็กโผงผางตรงไปตรงมา ไม่เหมือนคุณชายน้อยผู้เรียบร้อยที่ใครต่อใครบอกเลยแม้แต่นิด ไม่ว่าจะคิดหรือรู้สึกอะไร เล็กไม่เคยคิดว่าต้องรักษาหน้าหรือจำเป็นต้องกักเก็บมันไว้ หากเป็นสิ่งที่คิดว่าควรพูดเล็กก็จะพูด”
“คุณชายเล็ก ใกล้ไปแล้วครับ” รพีขยับกายถอยจนแผ่นหลังติดพนักโซฟา เมื่อใบหน้างดงามขยับเข้าใกล้และไม่มีทีท่าว่าจะผละออก
“หากเล็กเป็นคุณชายผู้แสนสูงส่งที่พี่พีพูดถึง... เขาจะทำเช่นนี้กับคนอื่นไหมครับ”
“…”
“แล้วเขาจะแสดงออกให้คนที่ชอบรับรู้ถึงความรู้สึกตรงๆ อย่างที่เล็กทำด้วยหรือไม่”
“…” รพีเม้มปาก ไม่อาจพูดตอบได้แม้เพียงครึ่งคำ
“คุณชายผู้แสนสูงส่งในใจพี่พี หากให้เดา...เห็นทีแม้แต่คำว่าชอบก็คงไม่กล้าเอ่ยเพราะอาจจะทำให้ตัวเองดูไม่ดี” คนพูดแสร้งทำสีหน้าครุ่นคิดเล็กน้อย ก่อนจะพยักหน้าให้กับตัวเองในท้ายที่สุด และจ้องมองรพีด้วยดวงตาที่ทำให้เขาหันหนีไปไหนไม่ได้ “ชอบครับ”
“คุณชายเล็ก!”
“เล็กชอบพี่พี”
“พอ…”
“ชอบมากขึ้นเรื่อยๆ เลยครับ”
“พอแล้วครับ” รพีวางมือทาบทับริมฝีปากนุ่ม ไม่เปิดโอกาสให้คุณชายได้พูดคำว่าชอบซ้ำเป็นรอบที่สี่ ลำพังเพียงเท่านี้หัวใจของเขาก็ถูกโจมตีอย่างรุนแรงจนแทบไปไม่เป็นอยู่แล้ว
“พอแล้ว แสดงว่าเข้าใจดีแล้วด้วยใช่ไหมครับ” คุณชายคีรินทร์ดึงมือรพีออกแล้วยกยิ้มพอใจ “ถ้าเข้าใจดีแล้วก็ช่วยหยุดคิดว่าเล็กสูงส่งเสียที สายตาเทิดทูนหรือเคารพแบบที่มากจนเกินไปนั่น... เปลี่ยนได้จะดีมากเลยครับ”
“ผมจะเปลี่ยนได้ยังไงกัน...”
“ไม่ยากเลย เพียงแค่พี่พีเปิดใจให้เล็ก ไม่นานสายตาพวกนั้นก็จะเปลี่ยนไปเอง”
…เปลี่ยนมาเหมือนกับสายตาที่เขาใช้มองอีกฝ่าย
เมื่อถูกความตรงไปตรงมาของคุณชายเล่นงานแบบไม่ให้ตั้งตัว รพีจะยังทำสิ่งใดได้อีกนอกจากจ้องมองกลับไปอย่างโง่งม จะให้ล้มเลิกความคิดทุกอย่างในทันทีคงเป็นไปได้ยาก และคุณชายก็คงเข้าใจดีอยู่แล้ว ถึงได้บอกว่าจะค่อยเป็นค่อยไปตามที่เขาต้องการ
“ทำไมคุณชายเล็กถึงมาชอบคนอย่างผมล่ะครับ” คำถามที่อยากรู้คำตอบมากที่สุดถูกเอื้อนเอ่ยออกไปอย่างอดไม่ได้ อย่าว่าแต่คุณชายเล็กเลย ขนาดเขายังมองไม่เห็นว่าตัวเองมีอะไรดีพอจะทำให้คนตรงหน้ามาหลงชอบได้
“เริ่มต้นจากความประทับใจ... แต่ชอบพออย่างแท้จริงเพราะความเป็นพี่พีครับ” คำตอบตรงไปตรงมาเกิดขึ้นพร้อมรอยยิ้มมีความสุขกับดวงตางดงามซึ่งกำลังนึกถึงภาพความทรงจำมากมาย “พี่พีอาจจะไม่ทราบว่าเล็กเคยเจอพี่พีมาหลายครั้งแล้ว ในทุกช่วงเวลาเล็กมักจะได้เห็นรอยยิ้มและความอ่อนโยนของพี่พีอยู่เสมอ ทุกความรู้สึกคงจะสั่งสมมาเรื่อยๆ ตั้งแต่ตอนนั้น ยิ่งได้รู้ว่าพี่พีคือ...”
คุณชายเล็กชะงักไปเล็กน้อยเมื่อนึกขึ้นได้ว่ากำลังจะพูดอะไรออกไป ความลังเลพลันเกิดขึ้นแทบจะทันทีเมื่อได้เห็นสีหน้าไม่เข้าใจของรพี
“คุณชายเล็ก เป็นอะไรหรือเปล่าครับ”
“ไม่เป็นไรครับ” เขาส่ายหน้า พยายามฝืนยิ้มเพื่อให้รพีสบายใจ “เอาเป็นว่าพี่พีดีที่สุดสำหรับเล็ก เหตุผลใดๆ นอกเหนือจากนั้นล้วนไม่สำคัญ”
รพีมองออกว่าคุณชายตัดบทเพราะไม่ต้องการพูดถึงอะไรบางอย่าง เขาจึงปล่อยหัวข้อทิ้งไว้อย่างนั้นโดยไม่ได้ถามอะไรต่อ อีกอย่าง...เพียงแค่เรื่องที่คุณชายสารภาพออกมาตามตรงนี่ก็มากพอสำหรับวันนี้แล้ว ตอนนี้เขาแทบไม่รู้ด้วยซ้ำว่าควรรู้สึกเช่นไร
แต่ที่มั่นใจ...
หัวใจที่เต้นไม่เป็นจังหวะเวลาได้อยู่ใกล้ชิดมากเกินความจำเป็นหรือเวลาถูกโจมตีด้วยคำพูด มองอย่างไรก็ไม่ปกติแน่นอน
เมื่อรพีเงียบไม่พูดอะไรต่อ หม่อมราชวงศ์คีรินทร์ก็ลุกขึ้นขอตัวไปจัดการธุระเรื่องที่ขอเอาไว้อย่างอารมณ์ดี สีหน้าสดใสเป็นอย่างมากจนรพีอดยิ้มตามไม่ได้ ท้ายที่สุดเขาก็ทำได้เพียงปล่อยความคิดมากมายเอาไว้อย่างนั้น แล้วหันกลับมาสนใจปัจจุบันแทน
ในเมื่ออะไรจะเกิดก็ต้องเกิด คิดมากไปก็ไม่มีประโยชน์
บางทีรพีอาจจะไร้ทางเลือกตั้งแต่ที่ยอมให้คุณชายเจาะรูทะลุกำแพงในใจของเขาเข้ามาแล้วก็ได้
อา... คงจะเป็นอย่างนั้นจริงๆ นั่นแหละ ไม่อย่างนั้นตอนนี้กำแพงที่ว่านั่นจะหายไปได้อย่างไร
รพีกับดมิสรู้ข่าวเกี่ยวกับเจ้าหนี้ของตนในเช้าวันถัดมา ทั้งยังไม่ใช่การรู้จากปากของคนที่มาบอกธรรมดา แต่เป็นการรู้จากข่าวในโทรทัศน์ซึ่งรายงานเกี่ยวกับการทำธุรกิจผิดกฎหมายของเสี่ยอำนาจ รวมไปถึงเรื่องที่เสี่ยยัดเงินใต้โต๊ะเพื่อปกปิดเรื่องร้องเรียนของชาวบ้านหลายคดี ผลจากการสืบสวนที่ใช้เวลาเพียงข้ามคืนค้นพบหลักฐานการกระทำผิดเป็นจำนวนมาก มีทั้งพยานและเอกสารเป็นชิ้นเป็นอัน จะอย่างไรก็ไม่มีทางดิ้นหลุดหากไม่มีใครเข้ามาช่วยเหลือ
คนภายนอกอาจยังหวาดหวั่นว่าเสี่ยจะหลุดจากคดีเพราะรู้จักผู้มีอิทธิพล แต่คนวงในล้วนแล้วแต่รู้ดีว่าการจะเข้ามาแตะเรื่องนี้ อาจทำให้ตัวเองต้องกระทบกระทั่งกับคนที่มีอิทธิพลยิ่งกว่า
หม่อมราชวงศ์คีรินทร์ไม่ได้เปิดเผยตัวตนว่าอยู่เบื้องหลังการเข้าจับกุมเสี่ยอำนาจ ถึงอย่างนั้นก็ไม่ได้จงใจปิดบังตัวตน ด้วยเหตุนั้นหากใครสงสัยอยากรู้ว่าเหตุใดเสี่ยอำนาจที่ลอยตัวอยู่เหนือกฎหมายมาโดยตลอดจึงถูกจับกุมในชั่วข้ามคืนก็สามารถหาคำตอบได้ง่ายๆ โดยไม่จำเป็นต้องเปลืองแรง
คำถามก็คือ... ทำไมน้องชายของราชาแห่งวงการธุรกิจผู้สูงส่งถึงได้เข้ามายุ่งเกี่ยวกับเรื่องนี้กันแน่
[ทำไมน้องเล็กของพี่ถึงใช้ชื่อตัวเองจัดการคนพวกนั้น]
“ควรต้องกล่าวว่าเล็กยืมสถานะน้องเล็กของพี่ชายใหญ่มาใช้เป็นเครื่องมือมากกว่า ขออภัยด้วยนะครับที่ไม่ได้บอกก่อน” หม่อมราชวงศ์คีรินทร์พูดกับคนในสายโทรศัพท์ด้วยน้ำเสียงนุ่มนวล ดวงตาอ่อนโยนเต็มไปด้วยประกายของความสุขเหมือนเช่นทุกครั้งที่ได้พูดคุยกับพี่ชาย เช่นเดียวกันกับเจ้าของเสียงทุ้มเย็นชาที่ดูเปลี่ยนไปเป็นคนละคนเมื่อได้พูดคุยกับน้องชายเพียงหนึ่งเดียว
[พี่เชื่อว่าน้องเล็กมีเหตุผล]
“เกรงว่าจะทำให้พี่ชายใหญ่ผิดหวังเสียแล้ว...” คุณชายเล็กเบนสายตาไปมองพ่อบ้านส่วนตัวซึ่งกำลังยืนจ้องโทรทัศน์ด้วยสีหน้าว่างเปล่าอยู่ไม่ไกล “คราวนี้เล็กทำตามความต้องการส่วนตัวครับ”
[งั้นหรือ] หม่อมราชวงศ์ปฐวีเงียบเสียงไปครู่หนึ่ง [เช่นนั้นความต้องการที่ว่านั่นก็คือเหตุผล ดีแล้วที่น้องเล็กรู้จักเอาแต่ใจเสียบ้าง]
“คิดแบบนั้นจะดีหรือครับ พี่ชายใหญ่จะทำให้เล็กเสียคนเอานะ” คนเป็นน้องหัวเราะเสียงสดใส “ขอบคุณนะครับที่เข้าใจ หากได้เจอกันเมื่อไรเล็กจะเล่าให้พี่ชายใหญ่ฟังทุกอย่าง ไม่มีปิดบังแน่นอน”
[พี่จะรอ]
หลังจากวางโทรศัพท์จากคนที่สำคัญที่สุดในชีวิตเรียบร้อยแล้ว คุณชายคีรินทร์ก็เดินเข้าไปจูงมือรพี ดึงให้มานั่งดูข่าวบนโซฟาด้วยกันดีๆ แต่พอเห็นท่าทางที่ดูคล้ายกับหุ่นยนต์ไร้จิตวิญญาณนั้นเข้าก็ได้แต่หัวเราะออกมาอย่างอดไม่อยู่
“พี่พีตกใจมากเลยหรือครับ”
“คุณชายเล็ก...” รพีกะพริบตาปริบๆ แล้วดึงสติกลับมาอีกครั้ง “แบบนี้จะไม่เป็นไรจริงๆ ใช่ไหมครับ”
“ไม่เป็นไรหรอกครับ คนที่่เกี่ยวข้องกับคุณอำนาจน่าจะมองว่าเล็กทำตามใจตัวเองโดยที่พี่ชายใหญ่ไม่ได้สนับสนุน ถึงอย่างนั้นก็คงไม่กล้าเสี่ยงเพราะอย่างไรเล็กก็เป็นน้องชายของพี่ชายใหญ่ สำหรับคนที่ไม่ได้รู้จักส่วนตัว เล็กก็เป็นเพียงเด็กเอาแต่ใจที่ทำทุกอย่างโดยไม่สนกฎเกณฑ์เพราะมีพ่อเป็นหม่อมเจ้าและมีพี่ชายเป็นนักธุรกิจที่มีชื่อเสียงเท่านั้น”
“แล้วคนรอบตัวคุณชายเล็ก...”
“ถึงจะไม่ได้ปิดบัง แต่เล็กก็ไม่ได้จงใจเปิดเผย มีเพียงคนขี้สงสัยไม่กี่คนเท่านั้นที่จะตามสืบ ดังนั้นเรื่องนี้จึงรับรู้กันเพียงวงในครับ เล็กเชื่อว่าคงไม่มีใครกล้าพูดออกไปพล่อยๆ”
อีกอย่างคือเขาไม่ได้ทำอะไรผิด เพียงช่วยเปิดทางให้มีคนเข้าไปจับคนทำผิดไม่ให้ใช้เส้นสายได้เท่านั้น ไม่มีช่องทางใดๆ ให้ใครใช้เรื่องนี้เล่นงานพี่ชายใหญ่ได้เลย เพราะแม้จะบอกว่าทำตามใจ แต่คุณชายเล็กก็วางแผนเอาไว้ทั้งหมด และมั่นใจว่าสิ่งที่ทำจะไม่ส่งผลกระทบต่อพี่ชายโดยเด็ดขาด
“คุณชายเล็กมั่นใจนะครับว่าเรื่องนี้จะไม่ส่งผลกระทบอะไรกับตัวเองหรือพี่ชาย”
รู้ทั้งรู้ว่าแก้ไขอะไรไม่ได้แล้ว แต่รพีก็ยังไม่อาจปล่อยผ่านเรื่องนี้ไปได้โดยง่าย เขาไม่ต้องการให้ตัวเองเป็นต้นเหตุทำให้คุณชายต้องเดือดร้อน หากเป็นแบบนั้นให้กลับไปลำบากเหมือนเดิมยังดีเสียกว่า
“พี่พีอาจจะไม่ทราบ... แต่ขอกล่าวตามตรงว่าพี่ชายใหญ่ของเล็กค่อนข้างจะมีฐานะและอำนาจครับ ถ้าให้พูดแบบไม่เกรงใจ เล็กคงต้องบอกว่าไม่มีใครกล้าหาเรื่องพี่ชายใหญ่แน่นอน โดยเฉพาะอย่างยิ่งกับเจ้าของร้านทองเล็กๆ ที่ทำตัวเป็นนักเลง รู้จักพรรคพวกเพียงไม่กี่คน” คำพูดปลอบประโลมทั้งรอยยิ้มดูจะต่างจากเนื้อความที่กล่าวออกมาคนละขั้ว ถึงอย่างนั้นคุณชายเล็กก็ยังเอ่ยต่อไปด้วยน้ำเสียงราบเรียบไม่เปลี่ยนแปลง “ปกติพี่ชายใหญ่กับเล็กมักจะวางตัวอยู่ในพื้นที่ของตัวเอง ไม่ก้าวก่ายเรื่องภายนอกเพื่อหลักเลี่ยงความยุ่งยาก ถึงอย่างนั้นก็ไม่ได้แปลว่าเราทำอะไรไม่ได้ เรื่องนี้ก็เป็นเพียงเรื่องเล็กๆ ที่ไม่ได้สลักสำคัญอะไรเลยสำหรับพี่ชายใหญ่ พี่พีอย่าเป็นกังวลเลยครับ”
“ถึงอย่างนั้น...”
“แต่ถ้าอยากตอบแทน เล็กเห็นว่ามีอยู่เรื่องหนึ่งที่พี่พีกับน้องชายน่าจะช่วยได้”
“คุณชายพูดมาได้เลยครับ”
“ย้ายออกจากบ้านหลังนั้น” รอยยิ้มจางบนใบหน้าคนพูดแปรเปลี่ยนเป็นความจริงจังที่เข้ามาแทนที่ “ในเมื่อสถานที่แห่งนั้นไม่ได้น่าจดจำ อย่าฝืนทนอยู่ต่อไปเพราะไร้ทางเลือกเลยครับ ตอนนี้พี่พีไม่ได้ลำบากต้องหาเงินใช้หนี้เหมือนเมื่อก่อนแล้ว”
นั่นสินะ...
เขาไม่ได้ลำบากต้องทำงานหามรุ่งหามค่ำ หาเงินมาใช้หนี้ที่ไม่ได้ก่ออีกแล้ว จากนี้จะยังฝืนทนอยู่ในที่ที่ทั้งเขาและน้องชายต่างอยากหลีกหนีไปให้พ้นทำไมกัน สิ่งที่ดีที่สุดในบ้านหลังนั้นสำหรับรพีคือดมิส และเขาก็เชื่อว่าน้องคงคิดเช่นกัน ในเมื่อตอนนี้อยากย้ายไปที่ไหนก็ทำได้ เขากับน้องก็ไม่จำเป็นต้องทนอยู่ในที่ที่เต็มไปด้วยความทรงจำอันเลวร้ายอีกต่อไป
“ผมจะทำตามที่คุณชายเล็กบอกครับ”
“เล็กมีห้องว่างปล่อยให้พี่พีเช่าได้อยู่ที่ชั้นเก้าของคอนโดนี้ ถ้าอยู่ที่นี่น่าจะสะดวกทั้งกับพี่พีแล้วก็น้องชายที่ต้องเดินทางไปมหาวิทยาลัย สนใจรับไว้พิจารณาไหมครับ”
รพีกะพริบตาปริบๆ มองคนที่พูดเรื่องต่างๆ ออกมาได้อย่างไหลลื่นราวกับวางแผนเอาไว้หมดแล้วอย่างพูดไม่ออกบอกไม่ถูก
“อย่าให้ผมรบกวนคุณชายเล็กไปมากกว่านี้เลยครับ”
“รบกวนอะไรกันครับ เล็กกำลังหารายได้ต่างหาก ห้องนั้นปล่อยทิ้งไว้เล็กก็ไม่ได้ใช้ทำอะไร สู้ปล่อยให้คนที่ไว้ใจได้เช่าดีกว่าเยอะ เล็กไม่ได้จะยกให้พี่พีฟรีๆ เสียหน่อย”
“ห้องของคอนโดที่นี่มีราคาสูงขนาดไหน เพียงแค่มองจากภายนอกก็รู้ครับ ผมมั่นใจว่าคุณชายเล็กต้องให้เช่าในราคาต่ำแน่นอน แล้วแบบนี้จะไม่เป็นการรบกวนได้ยังไง”
“ไม่หรอกครับ พี่พีมองเล็กในแง่ดีเกินไปแล้ว อันที่จริงเล็กเองก็ได้ประโยชน์เพราะเรียกหาคนที่ชอบได้ตลอดเวลา แบบนี้จะต่างจากการเอาแต่ใจตัวเองตรงไหนกัน”
ไม่ว่าจะพูดอะไรออกไปก็ถูกตอกกลับมาทุกประโยค ทั้งยังมีคำว่า ‘ชอบ’ อยู่ในเหตุผลซ้ำไปซ้ำมาหลายครั้ง ท้ายที่สุดรพีจึงทำได้เพียงยอมรับความพ่ายแพ้ พยายามมองผ่านคำคำนั้นที่คุณชายย้ำอยู่หลายรอบ สัญญากับตัวเองอยู่ในใจว่าจะทำทุกอย่างเพื่อตอบแทนเจ้านายคนนี้เป็นการแลกเปลี่ยน
“ถ้ามีอะไรที่ต้องการ คุณชายบอกผมได้เลยนะครับ”
ดวงตาของคีรินทร์พราวระยับเมื่อได้ยินคำพูดของรพี รอยยิ้มขี้เล่นพลันปรากฏขึ้นบนใบหน้าอย่างหาได้ยาก
“ที่ต้องการที่สุดก็คือหัวใจของพี่พี ให้กันได้ไหมครับ”
“คุณชายเล็ก...” รพีครวญเสียงอ่อย อยากจะถอนหายใจก็รู้สึกว่าไม่ควร แต่จะกลั้นรอยยิ้มขบขันก็ทำไม่ได้ แววตาจึงเต็มไปด้วยความเอ็นดูคนขี้แกล้งที่แสดงออกชัดเจนว่าพูดเพราะต้องการหยอกล้อเขาเท่านั้น
ถึงอย่างนั้นก็เถอะ...
“เล็กหยอกเล่น แต่พูดจริงๆ ครับ”
“คุณชายเล็กพักให้ผมหายใจบ้างเถอะครับ” รพีร้องขอทั้งสีหน้าอ่อนแรง หากกลับยังไม่อาจหยุดรอยยิ้มกับความเอ็นดูที่ฉายชัดในแววตาได้
“นี่ก็พักแล้วนะครับ หากไม่พักเล็กคงเอาแต่ใจ ร้องขออะไรจากพี่พีมากกว่านี้ ยกตัวอย่างเช่น...” หม่อมราชวงศ์คีรินทร์อมยิ้มพลางขยับกายเข้าหารพี “ขอให้พี่พีแทนตัวเองว่าพี่ แล้วก็เรียกเล็กด้วยชื่อโดยไม่มีคำนำหน้า”
“จะทำแบบนั้นได้ยังไงครับ”
“เล็กไม่รีบครับ เอาไว้วันไหนพี่พีใจตรงกันแล้วค่อยเรียกก็ได้”
คุณชายเล็กย่อมรู้ดีว่าเขาเอาแต่มองไปในแนวทางด้านบวก ไม่ได้นึกเลยว่าหากผลออกมาเป็นลบ หากพี่พีไม่คิดจะรักเขาไม่ว่าจะผ่านไปนานขนาดไหนก็ตามจะเป็นเช่นไร เขาเพียงคิดว่าอย่างน้อยในเวลานี้คนข้างกายก็หวั่นไหวบ้างแล้ว ถ้าพยายามให้มากหน่อยก็คงไม่มีปัญหาอะไร
...หรือถ้าผลสุดท้ายมันไม่เป็นไปตามที่คิด เขาก็พร้อมจะสนับสนุนพี่พีไปในทางที่เจ้าตัวต้องการ แม้ว่าจะต้องเป็นฝ่ายเจ็บก็ตาม
ทว่า...
ไม่รู้เพราะเหตุใด ในใจลึกๆ จึงเชื่อมั่นว่าคนตรงหน้าไม่มีวันทำให้ตนเจ็บ สายตาของพี่พีแม้ไม่ใช่สายตาที่มีแต่ความรัก หากก็ยังเต็มไปด้วยความรู้สึกพิเศษที่สัมผัสได้ในบางเวลา เหลือก็แค่ต้องหมั่นรดน้ำพรวนดิน ชักนำให้ยอมเปิดเผยมากกว่าเก่าเท่านั้น
อีกอย่างคือพี่พีไม่ได้ปฏิเสธความรู้สึกของเขา ไม่แม้แต่จะแสดงท่าทีลำบากใจหรือไม่ชอบใจออกมาตอนที่ได้รับรู้ความรู้สึกของกัน อย่างน้อยนั่นก็ช่วยย้ำให้รู้ว่าอีกฝ่ายไม่ได้รังเกียจสิ่งที่เกิดขึ้นทั้งหมด
“พี่พีอย่าคิดมากเลยนะครับ ให้มันค่อยเป็นค่อยไปก็ได้ เล็กสัญญาว่าถ้าผลสุดท้ายไม่เป็นไปตามที่คิด เล็กจะไม่ทำให้พี่พีลำบากใจ”
คำพูดปลอบประโลมที่ดูเศร้าสร้อยอยู่ไม่น้อยทำให้รพีปวดหน่วงในอกอย่างไร้สาเหตุ เขาขบริมฝีปากของตัวเองเพื่อปิดบังความรู้สึกภายใน หากเมื่อได้เห็นสีหน้าที่ดูเหมือนกำลังนึกถึงเรื่องเศร้าอะไรสักอย่างนั้นเข้า กำแพงที่พยายามสร้างขึ้นใหม่ก็พังทลายไม่มีชิ้นดี
“ถึงจะยังให้คำตอบในตอนนี้ไม่ได้ แต่ผมรู้ดีว่าความรู้สึกของตัวเองไม่ได้หยุดนิ่ง... ดังนั้นหากในอนาคตผมจะมอบหัวใจให้กับใครสักคนที่ผมรักจากใจจริง”
“…”
“…คนคนนั้นจะต้องเป็นคุณชายเล็กแน่นอนครับ”
กับคนอื่นล้วนไม่มีสิทธิ์...
เพราะในยามนี้แม้ไม่กล้าพูดว่ารัก เนื่องจากเพิ่งได้พบเจอเพียงไม่นาน หากความรู้สึกที่มีแต่จะยิ่งถลำลึกหรือหัวใจที่เต้นไวขึ้นเวลาได้ชิดใกล้ล้วนบ่งบอกเอาไว้หมดแล้วว่าเขาคิดเช่นไร รพีเพียงต้องการเวลาเพื่อความมั่นใจ ต้องการให้รู้จักกันมากกว่านี้ และเมื่อเวลานั้นมาถึง เขาจะไม่ลังเลที่จะพูดคำว่ารักอย่างแน่นอน
หัวใจดวงนี้ถูกกำหนดเอาไว้แล้วว่าจะให้ใครเป็นเจ้าของ
ถึงตอนนั้นแม้คนที่บอกว่ารักก่อนจะเป็นฝ่ายเปลี่ยนใจ แม้เขาจะทำได้เพียงจ้องมองคนคนนั้นเดินจากไป
หัวใจที่ให้ไปแล้ว...ชั่วชีวิตก็ไม่คิดเอาคืน
นิยายที่ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ

พี่พี*คุณชาย จริงๆหรอ มองยังไงก็เป็น คุณชาย*พี่พี
คุณชายเล็กนี่คือ-เก้ากระต่ายก้อนเวอร์ชั่นคุณชายมาดผู้ดีชัดๆ และคุณชายต้องเกี่ยวกับเรื่อง 7 ปีที่แล้วแน่ๆ
ฮือออ ต่างคนต่างชัดเจนในความรู้สึกของตัวเอง คือดีย์ ดีมากๆเลย ชอบคนแบบคุณชายเล็กรู้สึกแบบไหนก็พูดแบบนั้นแต่ว่าก็อยู่ในขอบเขต ชอบรพีที่รู้จักวางตัวแต่เมื่อเป็นเรื่องของหัวใจก็เปิดเผยเต็มที่เหมือนกัน ชอบมากๆ สงสารก็ก็แต่ดมิสกับคุณตรีภพทึ่มาเป็นอากาศของสองคนนี้ 55555 คุณชายเล็กเคยเจอรพีมาก่อนหรือเปล่า กับเป็นคนที่ทำให้รพีเกิดอุบัติเหตุใช่มั้ยนะ สงสัยต่อไปปป / อำนาจมันน่ากลัวแบบนี้นี่เอง ถ้าใช้ในทางที่ถูกก็ดีไปแต่ถ้าใช้ผิดมันจะน่ากลัวสุดๆ