ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    Fic Prince OF Tennis [mix 8 series]

    ลำดับตอนที่ #4 : Sanada Genichirou & Akimoto Pinku Series 2 part 1 : RUN RUN RUN

    • เนื้อหาตอนนี้เปิดให้อ่าน
    • 429
      2
      2 มี.ค. 56

    Sanada Genichirou &  Akimoto Pinku

    Series 2 part 1 :  RUN RUN RUN

           “ว๊ากกกกกกกกกกกกกก”

           หลังจากเจ้าเด็กปีสองปากพล่อยหลุดคำต้องห้ามออกมา แม่สิงห์สาวก็อาละวาดเอาซะชมรมแทบแตก น้ำเสียงโหยหวนของคิริฮาระดังสนั่นไปทั่วทำเอาพวกตัวจริงไม่ได้ซ้อมกันเป็นจริงเป็นจัง

          “อากิโมโตะหยุดทำเรื่องไร้สาระซักที!!

          ซานาดะที่นั่งทนอยู่กับเหตุการณ์ตรงหน้าอยู่นานจนทนไม่ไหวลุกขึ้นยืนก่อนเดินดุ่มๆไปยืนขวางทางการไล่ล่าของผู้จัดการสาวไว้ คิริฮาระเห็นดังนั้นจึงรุดไปอยู่ด้านหลังของซานาดะทันที

          “ถอยไปนะตาลุงอย่ามายืนทำหน้าแก่แถวนี้จะได้มั้ย!

          “นี่เธอ!เธอว่าใครเป็นตาลุงหน้าแก่กันหะ?!

          สงครามย่อยระหว่างจักพรรดิและจักพรรดินีเริ่มขึ้นอย่างกะทันหัน ทั่วทั้งชมรมดังก้องไปด้วยคำต่อว่าที่ดูเหมือนจะไม่มีใครยอมใคร คิริฮาระเห็นช่องทางรอดของตัวเอง เจ้าเด็กแสบจึงย่องหนีจากหลังซานาดะออกไปทันที

          หมับ !

          “ไปวิ่งรอบสนาม 20 รอบ!

          “โห รองกัปตันปล่อยผมไป

          “เพิ่มเป็น 2 เท่า!

          ซานาดะคว้าคอเสื้อน้องเล็กของชมรมไว้แล้วตะโกนออกคำสั่งใส่ทันที คิริฮาระเบ้ปากแล้วเอ่ยปากเถียงหากแต่กลับโดนทำโทษเพิ่ม เด็กหนุ่มได้ยินดังนั้นจึงกุลีกุจอออกไปวิ่งทันทีหลังจากซานาดะปล่อยคอเสื้อตนแม้ปากจะบ่นมุบมิบไปตลอดก็ตาม

          “นี่เก็นอิจิโร่นายจะบ้าหรอทำแบบนี้ได้ยังไงกันน่ะ?!

          “ถ้าอย่างนั้นแล้วจะทำไม”

          “เอาน่าซานาดะ ยอมผู้หญิงหน่อยเถอะ”

          เมื่อเห็นว่าไม่มีใครยอมใคร ยางิวจึงเดินเข้ามาออกปากห้ามเพื่อนของตนแล้วขยับแว่นมองไปทางผู้จัดการสาวซึ่งยืนกอดอกหน้าบอกไม่รับบุญอยู่

          “นั่นสิ ถ้าไม่มีอากุจังชมรมเราก็คงไม่มาได้ขนาดนี้หรอก”

          “อากุจัง แร็กเก็ตฉัน”

          ยูคิมูระว่าพลางเดินเข้ามาร่วมวงด้วย นิโอไหวไหล่เบาๆอย่างไม่สนใจตามประสาเจ้าตัวก่อนเด็กหนุ่มจะเดินไปยืนด้านข้างผู้จัดการสาวแล้วแบมือไปตรงหน้าเธอเพื่อขอแร็กเก็ตคืน

          “อ๊ะ นั่นสิ ขอบใจนะนิโอคุง”

          “ปุริ ~

          เด็กสาวดูเหลอหลาเล็กน้อยก่อนมือบางจะส่งแร็กเก็ตคืนให้เด็กหนุ่มจอมหลอกลวงพลางเผยยิ้มน่ารักให้ นิโอพยักหน้ารับก่อนเดินไปกระตุกแขนยานางิที่นั่งอยู่ตรงเก้าอี้ข้างสนามให้ลุกขึ้นมาเล่นกับตนแทน

          “โห หกโมงครึ่งแล้วหรอเนี่ยสงสัยฉันต้องกลับแล้วล่ะ”

          “งั้นหรอ ให้ซานาดะไปส่งมั้ย”

          ยูคิมูระเอ่ยพลางมองพิงกุอย่างเป็นห่วงก็ผู้จัดการชมรมเทนนิสตนหน้าตาน่ารักซะขนาดนี้เกิดระหว่างทางกลับบ้านโดนฉุดไปจะทำยังไง ? ยางิวได้ยินดังนั้นก็พยักหน้าเห็นด้วยกับความเห็นของยูคิมูระที่มองไปทางคนโดนพาดพิง

          “ไม่เป็นไรหรอกยูคิมูระคุงฉันยอมให้ฮายะไปส่งยังจะดีกว่าอีก” (ฮายะ หมายถึงคิริฮาระจ้า : มิจจี้)

          พิงกุเอ่ยขึ้นพลางมองซานาดะด้วยความหมั่นไส้ เด็กสาวเดินไปหยิบกระเป๋านักเรียนของตนที่วางไว้ข้างสนามหลังจากไล่ตามคิริฮาระที่ยังคงวิ่งรอบสนามอยู่ก่อนเธอจะยกมือโบกลาให้เด็กหนุ่มในชมรม

          “ฉันจะไปส่งอากิโมโตะ ฝากดูคิริฮาระด้วยล่ะยูคิมูระ”

          “โอ๊ะ ได้สิ ฉันเต็มใจอยู่แล้ว”

          จักพรรดิหนุ่มเอ่ยเสียงเย็นก่อนทอดสายตามองไปทางน้องเล็กของชมรมที่วิ่งรอบสนามแล้วไปหยุดสายตาตรงเด็กสาวที่ยืนผงะอยู่ทางประตูชมรม ยูคิมูระพยักหน้ารับคำเพื่อนของตนก่อนเผยยิ้มบางให้ซานาดะตามนิสัยของเจ้าตัว

          “ซานาดะ อากุไม่อยู่แล้วนะ”

           “หืม ? เฮ้ย!!หยุดเดี๋ยวนี้นะอากิโมโตะ!!!

          สิ้นคำบอกของยางิวซานาดะก็มองไปที่ประตูชมรมทันที ซึ่งเด็กหนุ่มก็พบว่าเด็กสาวร่างบางวิ่งหนีเขาออกไปอย่างเร็วเรียบร้อยแล้ว จักพรรดิหนุ่มตะโกนก้องกังวานลั่นอย่างราชสีห์คำรามก่อนร่างสูงจะคว้ากระเป๋าแร็กเก็ตที่เปรียบดังกระเป๋านักเรียนของตนแล้ววิ่งตามออกไปทั้งที่ยังสวมชุดยูนิฟอร์มของตัวจริงริคไคอยู่ ยูคิมูระเห็นดังนั้นจึงได้แต่ส่ายหัวระอา

        “ทั้งสองคนนี่น้า

          ตึก ตึก ตึก ตึก !

          “อากิโมโตะ!ฉันบอกให้เธอหยุดไงล่ะ! หูหนวกรึไง!

          “หยุดให้โง่สิตาลุงบ้าหน้าแก่ เก่งจริงก็จับฉันให้ได้สิ ~

          เด็กสาวหัวเราะร่าพลางซอยเท้าหนีร่างสูงสุดชีวิตแต่อย่างซานาดะน่ะไม่ต้องวิ่งสุดชีวิตไม่นานเดี๋ยวก็ตามทันถ้าพิงกุไม่ถึงบ้านซะก่อน งานนี้คงต้องเสี่ยงดูซะแล้วว่าเธอจะโดนซานาดะจับได้ก่อนหรือว่าจะถึงวิมาณสวรรค์ก่อนกันแน่

          “ก็บอกให้หยุดไงฉันไม่มีเวลามาเล่นกับเธอหรอกนะ-_-*!

          “นายก็กลับบ้านไปสิจะมาไล่ตามฉันทำไมเล่า >^<!!

          “ฉันบอกยูคิมูระไว้แล้วว่าจะมาส่งเธอ - -+!

          “นายไม่มาส่งฉันยูคิมูระคุงก็ไม่รู้หรอก -3-!!

          “เลิกเถียงฉันแล้วหยุดวิ่งสิโว้ย!! -___-***!!!

          “กรี๊ดดดดด อย่าฆ่าฉันนะตาปีศาจหน้าแก่ >[ ]<;;!!!!

          จักพรรดิพิโรธวาทังขั้นสูงสุด ร่างสูงออกแรงวิ่งลบระยะห่างระหว่างเขาและเธอเข้ามามากขึ้นเรื่อยๆ เด็กสาวซอยเท้าถี่ยิบไม่เคยรู้สึกต้องวิ่งเร็วขนาดนี้มาก่อน

          ครืน ครืน

          เมฆดำครึ้มเริ่มก่อตัวขึ้น เป็นสัญญาณว่าอีกไม่ถึงชั่วโมงห่าฝนเม็ดใหญ่ต้องตกลงมาแน่ พิงกุเงยหน้ามองท้องฟ้าแล้วหันหลังมองซานาดะที่วิ่งตามเธออย่างไม่มีท่าจะลดละ

          “เก็นอิจิโร่ HELP ME ฉันหยุดวิ่งไม่ได้ T^T!!

          - -* อะไรนะ?!

          “หูหนวกรึไงยะ ฉันบอกว่าฉันหยุดวิ่งไม่ได้ไง T[ ]T!

          พิงกุเบะปากราวกับจะร้องไห้ ไม่เคยวิ่งหนีอะไรเร็วขนาดนี้มาก่อนทำให้ขาของเธอซอยยิกอย่างไม่คิดชีวิต ซานาดะออกอาการงงกับคนตรงหน้าเล็กน้อยจะวิ่งหนีอะไรเร็วขนาดถึงขั้นหยุดวิ่งไม่ได้กัน

          “แล้วจะให้ฉันทำยังไง - -;

          “ม ไม่รู้เหมือนกัน (;´д) 

          เด็กหนุ่มเริ่มคิดหนัก จะให้เขาวิ่งรอบเมืองนี้ซัก 10 รอบก็ยังไหว หากแต่ร่างเล็กนี่ถึงแม้จะเล่นเทนนิสได้ถึงขั้นเก่งแต่เธอก็ไม่เคยได้รับการฝึกหนักอย่างพวกเขามาก่อน ถ้าให้วิ่งแบบนี้ต่อไปคงไม่ไหวแน่

          “เก็นอิจิโร่ววว ฉันเหนื่อย ไม่ไหวแล้ว T^T

          พิงกุเริ่มส่งเสียงโอดครวญอีกคราเมื่อหยาดเหงื่อพรั่งพรูออกมานับไม่ถ้วนเป็นสัญญาณว่าผู้จัดการสาวแห่งริคไคเริ่มจะเหนื่อยจากการวิ่งมามากพอแล้ว และนั่นทำเอาซานาดะเริ่มไปต่อไม่ถูกถ้าเกิดว่าพิงกุเป็นอะไรไปเขาต้องโดนยูคิมูระและยานางิโกรธแน่นอน

          “ข้างหน้ามัน รางรถไฟ”

          ……….. (O [   ] O )  !!!! ….

          ซานาดะเริ่มคิดหนักเมื่อสายตาเหลือบไปเห็นรถไฟขบวนหนึ่งกำลังวิ่งมาทางที่เขาและเธอจำต้องวิ่งผ่าน ซึ่งเป็นทางกลับบ้านของพิงกุ เด็กหนุ่มตัดสินใจใช้ความคิดสุดท้ายในหัวที่ผุดขึ้น

          “บัดซบเอ้ย ยัยตัวปัญหา!!!

          จักพรรดิคำรามใส่เด็กสาวก่อนร่างสูงจะวิ่งเข้าใกล้เธอในระยะประชิด จักพรรดินีเหลือบสายตามองทางด้านหลังตนเล็กน้อย เนื่องด้วยเป็นคนฉลาดเธอจึงรู้แน่ว่าร่างสูงคิดจะทำอะไร

          “นี่อย่าบอกนะว่านาย อ๊ะ !! …

          ฟุ่บ !

          ซานาดะกระโดดเข้ารวบร่างบางไว้แน่นแนบอกก่อนจะพาเธอกลิ้งล้มลงไปที่ทุ่งหญ้าด้านข้างแทนโดยใช้ตัวเองเป็นเบาะรองรับเด็กสาวไว้ แน่สิ.. เพราะมันคือหน้าที่ของลูกผู้ชายนี่นา

          “เป็นอะไรรึเปล่า ?”

          ….ก เก็นอิจิโร่ .. นี่นาย

          พิงกุเบิกตากว้างด้วยความตกใจเมื่อร่างสูงใหญ่ของซานาดะยอมใช้ตัวเองเป็นเบาะรองรับเธอไว้ เด็กสาวดันตัวเองลุกขึ้นจากอกกว้างทันที หัวใจเต้นระรัวที่ไม่รู้ว่าเพราะความเหนื่อยหรือเพราะคนตรงหน้ากันแน่ ซานาดะยันตัวเองลุกขึ้นนั่งตามร่างบางซึ่งได้แต่ก้มหน้างุดๆอยู่ข้างๆราวกับสำนึกผิด

          “ขอโทษนะ ขอโทษที่ทำให้ลำบาก”

          ………………..

          “นาย เจ็บมากรึเปล่า ?”

          “ถ้าฉันบอกว่าไม่เป็นไร ?”

          “ไม่จริง!เมื่อกี้หลังนายกระแทกพื้นเต็มๆเลยนะ!

          “แล้วเธอว่าฉันจะเจ็บมั้ยล่ะ”

          คำถามของเด็กหนุ่มทำเอาเด็กสาวหน้าเหวอ ใบหน้าหวานแดงเถือกด้วยความอายในความบ๊องของตัวเอง ร่างบางผลักแขนแกร่งของร่างสูงอย่างหมั่นไส้แล้วลุกขึ้นทันที

          ครืน ซ่า !

          ยังไม่ทันที่จะต่อสนทนา เม็ดฝนเจ้ากรรมก็เทกระหน่ำลงมาสาดใส่ทั้งคู่จนเปียกปอน ซานาดะขมวดคิ้วเข้มอีกครา .. วันนี้มันวันซวยอะไรกันนะ

          “ชิ ไอ้ฝนบ้านี่”

          “ตกหนักซะด้วยสิเนี่ย”

          “มัวยืนทำบ้าอะไรอยู่ล่ะรีบเข้าไปในกระท่อมสิ!!

          “ก กระท่อมอะไรของนาย”

          “ฮึ่ย!! ….

          เมื่อเห็นว่าบอกธรรมดาคงไม่ได้ผลกับเด็กสาว มือใหญ่ก็ตรงเข้าไปกระชากข้อแขนของเธอแล้วดึงพาร่างบางตามไปทันที พิงกุเหลอหลาเล็กน้อยแต่ก็ยอมเดินตามซานาดะไป

          แอ๊ด

          ฟุ่บ

          ประตูกระท่อมหลังเล็กถูกเปิดออก ด้านในรกร้างฝุ่นเกาะตามสภาพของมันเล็กน้อย หากแต่ก็สามารถเป็นที่หลบฝนได้ ซานาดะวางกระเป๋าแร็กเก็ตก่อนถอดหมวกสีดำของตนออกแล้วหันมองเด็กสาวที่ตัวเปียกโชกไม่แพ้กัน

          “ฝนมันตกหนัก วันนี้นอนที่นี่แล้วกัน”

          “ห๊า ? ! ให้ฉันนอนกับนายเนี่ยนะ ? !

          พิงกุร้องเสียงหลงทันทีพลางชี้นิ้วระหว่างตนกับซานาดะประกอบการถาม

          “เธอก็เห็นไม่ใช่รึไงว่าฝนมันตกหนักแค่ไหน”

          ซานาดะเอ่ยพลางถอดเสื้อยืดสีเหลืองประจำชมรมออกก่อนจะเสยผมตัวเองพลางสะบัดไล่น้ำออกเบาๆทำเอาพิงกุหน้าแดงขึ้นมาอีกครา ตอนปี1หมอนี่ยังไม่แมนขนาดนี้เลยนะ เด็กสาวคิดพลางวางกระเป๋านักเรียนตัวเองลงบ้างก่อนจะนั่งหันหลังพลางกอดตัวเองไปด้วย

          “หนาวชะมัด

          เด็กสาวบ่นพึมพำ ซานาดะคว้าเสื้อนักเรียนตนมาสวมแทนเสื้อยืดริคไคที่เปียกชื้นก่อนเด็กหนุ่มจะโยนเสื้อแจ็กเก็ตสีเหลืองแขนยาวซึ่งเป็นของริคไคโปะหัวเด็กสาว

          “อ๊ะ ?!

          พิงกุหยิบเสื้อตัวใหญ่ออกจากหัวตนเองก่อนหันมองซานาดะที่นั่งหันหลังให้เธออยู่

          …. ถอดเสื้อผ้าเธอออกแล้วใส่เสื้อฉันแทน จะได้ไม่เป็นหวัด”

          ( o/////////////o) !!!! ……

          ซานาดะพูดเสียงแผ่ว ใบหน้าคมคายขึ้นสีแดงเล็กน้อยหากแต่เขานั่งหันหลังอยู่เพื่อไม่ให้อีกฝ่ายรับรู้ อย่างน้อยเขาก็สุภาพบุรุษพอที่จะเสียสละแจ็กเก็ตอุ่นๆเพื่อเด็กผู้หญิงตัวเล็กๆคนนึงล่ะน่า

          …………ขอบ……….ใจนะ……

          พิงกุผงกหัวรับคำพลางเอ่ยขอบคุณ เธอหันหลังให้เด็กหนุ่มแล้วทำตามที่ซานาดะบอกทุกอย่าง ดีนะที่เสื้อยาวพอจะปิดโคนขาของเธอบ้างแม้เธอจะรู้ว่าอย่างซานาดะไม่ใช่พวกฉวยโอกาสแต่ก็อยากจะรักษาสิทธิ์ของตัวเองเอาไว้ก่อน ก็แหม ไม่ได้หยิบเสื้อแจ็กเก็ตชมรมตัวเองมานี่นา

          “เธอเปลี่ยนเสื้อผ้าเสร็จรึยัง”

          “อ อื้ม”

          “งั้นก็นอนซะ

          “แต่นี่มันเพิ่งทุ่มกว่าเองนะ”

          “เธออยากดูฉันเปลี่ยนเสื้อผ้ารึไง”

          สิ้นคำของซานาดะ พิงกุก็กุลีกุจอไปนอนชิดติดกำแพงกระท่อมทันใด

          ดีนะที่แถวนี้เป็นทุ่งหญ้าเลยมีกระท่อม .. ไม่งั้นคงขลุกกันที่ตู้โทรศัพท์ซักที่แน่ๆ

          เด็กสาวหลับตาปี๋ทันใด ซานาดะเห็นดังนั้นก็เผยยิ้มพอใจ

          น่าแกล้งเป็นบ้า … ’

          ความคิดชั่วร้าย ผุดเข้ามาในหัวของจักพรรดิซะแล้ว

    To be continued

    .......................…………………………………………………………………………………………………………………

    THE★ FARRY
    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    นิยายที่ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×