ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    Fic Prince OF Tennis [mix 8 series]

    ลำดับตอนที่ #6 : Sanada Genichirou & Akimoto Pinku Series 2 part 2 : ไม่เข้าใจ?

    • อัปเดตล่าสุด 5 มี.ค. 56


    Sanada Genichirou &  Akimoto Pinku

    Series 2 part 2 :  

          โมโตะ”

          ……………………………………………………

          ………………………………………………

          กิโมโตะ”

          ……………………………………………………

          ………………………………………………

          “อากิโมโตะ!!!

          “ต ตื่นแล้วค่ะแม่!!

          … -_- ….

          น้ำเสียงใหญ่ดังกึกก้องไปทั่วกระท่อมหลังน้อย เด็กสาวที่นอนหลับใหลอยู่ในห้วงภวังค์สะดุ้งตื่นขึ้นมาทันใด แววตาสีฟ้าระยับกระพริบปริบๆเมื่อจับความได้ถึงเรื่องที่เกิดขึ้น

          “ฟ้ายังไม่สางเลยนะเนี่ยจะรีบปลุกทำไมห๊ะตาบ้า!

          “นี่ขนาดฟ้ายังไม่สางเธอยังแหกปากได้ขนาดนี้เชียว”

          เด็กสาวขมวดคิ้วยุ่งมองเด็กหนุ่มอย่างขัดใจเมื่อเห็นเห็นว่าท้องฟ้าภายนอกยังมืดครึ้มไร้แสงอาทิตย์ผิดกับเวลาที่เธอตื่นลิบลับหากแต่ซานาดะกลับเอ่ยย้อนแทงใจดำทำเอาพิงกุหน้าเหวอ

          “น นี่นาย ชึ! บ้าจริงฉันจะกลับบ้านแล้ว!

          เมื่อเห็นว่าตัวเองเริ่มเถียงร่างสูงตรงหน้าไม่ออกเด็กสาวจึงกระฟัดกระเฟียดลุกขึ้นยืนพรวดพราด ซานาดะเห็นดังนั้นก็ไม่ว่าอะไร เพราะรู้อยู่แก่ใจดีกว่าผู้จัดการสาวที่รู้จักกันมาถึง 3 ปีไม่มีทางกลับบ้านเองตอนฟ้ามืดเวลาตี 4 ขนาดนี้แน่

          แอ๊ด

          …. (- * -) ( -  - ) ( - A - ;;; )

          “หึ … - - ก็รีบกลับไปสิมัวรออะไร”

          ซานาดะกอดอกมองพิงกุ ร่างสูงเลิกคิ้วพลางมองเด็กสาวด้วยสายตาคมสุดกวนประสาทนั่น พิงกุหันมาขมวดคิ้วใส่เด็กหนุ่มอย่างหมั่นไส้ก่อนทำใจกล้าเดินออกไป ถึงจะเป็นสถานที่เปลี่ยวยังไงก็ต้องกลับบ้านไปก่อน แม้ทั้งสองคนจะโทรไปบอกครอบครัวแล้วก็ตามว่าคืนนี้จะไม่กลับบ้านหากแต่ยังไงคนทางบ้านคงต้องเป็นห่วงอยู่ดี

          “ล แล้วนายจะไม่กลับบ้านรึไงเดี๋ยวคุณตาก็เป็นห่วงเอาหรอก”

          “ปกติเธอเคยสนใจเรื่องของฉันด้วยรึไง - -…

          ยังไงนายก็เป็นคนในชมรมนี่นา ในฐานะผู้จัดการก็แค่ไม่อยากให้นายเป็นเด็กดื้อ”

          เด็กสาวตู่มั่วออกไปเรื่อยเปื่อย เรื่องการใช้ไหวพริบแถน่ะของถนัดอยู่แล้ว หากแต่เด็กหนุ่มกลับมองออกโดยง่าย ซานาดะไม่ได้ตอบอะไร มือใหญ่คว้าหมวกสีดำเข้าสวมหัวก่อนลุกขึ้นยืนเต็มความสูงแล้วเดินผ่านเด็กสาวออกไปนอกกระท่อมทันที

          “นายจะไปไหนน่ะตาบ้า?! เดี๋ยวสิรอฉันด้วยเก็นอิจิโร่”

          เมื่อเห็นว่าร่างสูงเอาแต่เดินดุ่มๆไปอย่างเดียวเด็กสาวจึงได้แต่วิ่งตามไปโดยไม่ลืมหันมาปิดประตูกระท่อมแล้วโค้งให้ด้วย(มารยาทดี - v - :มิจจี้)

          เอ ทางนี้มันคุ้นๆนะ

          เด็กสาวเริ่มฉุกคิดเมื่อเดินตามซานาดะมาตามทางเรื่อยๆ แววตาสีฟ้าเหล่มองร่างสูงข้างๆที่ไม่ยอมปริปากพูดอะไรมาได้สักพักนึงแล้ว พิงกุจึงตัดสินใจสะกิดมือใหญ่นั่นเบาๆจนซานาดะก้มมอง

          “ทางกลับบ้านนายมันทางนี้หรอฉันจำได้ว่านี่มันทางกลับบ้านฉันนี่นา”

          เสียงใสเอ่ยถามออกไป ซานาดะจึงกระแอมไอเบาๆเล็กน้อยก่อนหันใบหน้าคมคายเสมองไปทางอื่นแทน

          “ฉันก็กลับบ้านทางนี้ได้เหมือนกัน”

          พิงกุเลิกคิ้วมองร่างสูงอย่างไม่เชื่อหูตัวเอง นี่ซานาดะกำลังจะไปส่งเธอสินะ ?

          “นายกำลังจะไปส่งฉันล่ะสิท่าน่ะ ~

          “ไร้สาระ - -*

          “จริงอ่ะ?!แต่ทางนี้มันไกลกว่าบ้านนายไม่ใช่หรอ”

          “แล้วเธอกลับทางนี้ได้คนเดียวรึไง”

          “ก็ปกตินายไม่ได้กลับบ้านทางนี้นี่นาก็เลยสงสัย ~ อ๊ะ เดี๋ยวสิเก็นอิจิโร่อย่าเดินหนีสิยะ!

          ซานาดะขมวดคิ้วนิ่งพลางรุดเดินหนีร่างบางทันทียิ่งรู้จักกันมากก็ยิ่งรู้ดี พิงกุเห็นดังนั้นจึงรีบวิ่งตามไปประกบข้างร่างสูงอีกครา นิสัยปากไม่ตรงกับใจแบบนี้เธอเจอมาตั้งแต่สมัยปี 1 แล้วล่ะกับคนคนนี้น่ะ

    ………………………………………………………………………………………………………………..

          ต่อมา

          ตึก ตึก ตึก ตึก

          “แฮ่ก แฮ่ก แฮ่ก”

          แอ๊ด

          “ข ขอโทษที่มาสายนะยูคิมูระคุง!!

          … - - ….

          พิงกุก้มลงหอบเหนื่อยราวกับไปวิ่งมาราธอนร้อยกิโลเมตรมา หลังจากซานาดะไปส่งถึงบ้านแล้วเธอก็กลับขึ้นไปนอนต่อ จนมาตื่นเอา 7 โมง กว่าจะจัดการกับตัวเองแล้วมาถึงที่โรงเรียนก็ใช้เวลากว่า 10 นาที พอมาถึงก็พบกับร่างสูงรองกัปตันชมรมยืนกอดอกตีสีหน้าเคร่งขรึมเป็นเอกลักษณ์ยืนอยู่

          “อ้าว ยูคิมูระคุงไม่อยู่หรอ?”

          “วันนี้หมอนั่นไม่ซ้อมตอนเช้า”

          “เห งั้นหรอเนี่ย”

          เมื่อเข้าใจกระจ่างแจ้งถึงการหายตัวไปของกัปตันชมรมพิงกุจึงพยักหน้ารับหงึกหงักพลางเนียนเดินผ่านร่างสูงกว่าตนราว 20 เซนเข้าไปในชมรม

          “เดี๋ยวก่อน!

          “อ .. อะไรเล่า?”

          “ทำไมเธอถึงมาสาย”

          “ชึ นายจะอยากรู้ไปทำไมอ่ะมันชีวิตของฉันนะ”

          “แต่เธอเป็นผู้จัดการชมรมควรจะมีความรับผิดชอบให้มากกว่านี้!

          “ใครอยากเป็นกันยะ!ถ้ายานางิคุงไม่มาขอร้องฉันก็ไม่เป็นให้หรอก!

          “แต่ยังไงตอนนี้เธอก็คือผู้จัดการชมรมเพราะงั้นความรับผิดชอบต่อชมรมเธอต้องรู้ดีที่สุด!

          “อะไร ฉันคือผู้จัดการชมรมนะไม่ใช่แม่บ้านจะต้องคอยมาก่อนพวกนายตลอดเวลาน่ะ!

          “ถ้าอย่างนั้นทำไมถึงไม่ลาออกไปซะตั้งแต่ทีแรกห๊ะ!?”

          “อ๋อ นายต้องการแบบนี้ตั้งแต่แรกใช่มั้ย?!

          “หยุดทั้งสองคนนั่นแหละ!

          เมื่อการโต้วาทีเริ่มบานปลายเฉียดการทะเลาะเบาะแว้ง เสนาธิการชมรมซึ่งนั่งฟังอยู่นานจึงเอ่ยปากตะโกนเสียงดังขึ้น เป็นเวลาเดียวกับที่คิริฮาระน้องเล็กของชมรมมาถึงพอดี เด็กหนุ่มหัวหยิกจึงไม่กล้าเอ่ยทักทายเสียงเจื้อยแจ้วอย่างเช่นทุกวัน

          “ไม่เอาน่าซานาดะ .. ใจเย็นหน่อยสิ”

          ยางิวเดินเข้ามาตบไหล่ซานาดะเบาๆเป็นการเตือนสติจักพรรดิของชมรมที่อารมณ์ครุกกรุ่นไม่เป็นท่าหากแต่ซานาดะกลับปัดมือเพื่อนตนออกแล้วเดินเข้าไปในห้องชมรมอย่างหัวเสีย พิงกุขมวดคิ้วมองตามแผ่นหลังกว้างนั่นอย่างไม่เข้าใจ ทำไมซานาดะชอบเอาคำว่า ผู้จัดการ มาบีบเค้นเธออยู่เรื่อยเลยนะ

          “ฮายะ ไปวิ่งรอบสนาม 20 รอบซะ”

          “ม เมื่อกี้เกิดอะไรขึ้นอ่ะผู้จัดการ”

          “นี่ไม่ใช่เรื่องของนาย ไปวิ่งรอบสนามเดี๋ยวนี้!

          “ปุริ โหดวุ้ย”

          พิงกุตวาดเสียงลั่นชมรม คิริฮาระสะดุ้งเฮือกก่อนพยักหน้าแล้วรีบกุลีกุจอไปวิ่งรอบสนามตามคำสั่งของผู้จัดการสาวที่กำลังโกรธจัดทันที นิโอที่เผลอสะดุ้งตามกับน้ำเสียงของพิงกุจึงเอ่ยพึมพำกับตนเองเบาๆ

          “น้ำหน่อยมั้ยอากุจัง”

          เมื่อเห็นว่าพิงกุเดินมานั่งข้างตนที่เก้าอี้ข้างคอร์ดสนาม อัจฉริยะแห่งชมรมจึงโบกมือทักทายพลางเป่าหมากฝรั่งสีเขียวในปากตนไปด้วยก่อนจะส่งน้ำเปล่าขวดใสเย็นเฉียบให้เด็กสาว

          “ไม่เป็นไรหรอกมารุอิคุง ขอบใจนะ”

          หากแต่พิงกุกลับปฏิเสธออกไปก่อนหันไปเผยยิ้มบางที่ดูออกจะฝืนหน่อยๆให้เด็กหนุ่ม มารุอิมองรอยยิ้มนั่นเล็กน้อยก่อนวางขวดน้ำนั่นข้างตนแล้วหันไปสนใจนิโอและยางิวที่ซ้อมกันอยู่ในคอร์ดแทน

          “ผู้จัดการ ไปซ้อมกับฉันหน่อยมั้ยเผื่อจะอารมณ์ดีขึ้น”

          “อ๊ะ เอาสิ ! ฝากด้วยนะแจ็กกัลป์คุง”

          “ฉันขอไปดูหน่อยละกัน ไปด้วยกันมั้ยยานางิ?”

          เด็กหนุ่มเชื้อชาติบราซิลเดินเข้ามาเอ่ยชวนผู้จัดการสาวไปซ้อมซึ่งเธอก็พยักหน้ารับแล้วหยิบกระเป๋าแร็กเก็ตบนตักขึ้นสะพายไหล่ มารุอิจึงลุกขึ้นยืนเพื่อจะไปดูการฝึกซ้อมโดยหันไปชวนยานางิซึ่งนั่งอยู่ที่เก้าอี้ยาวอีกตัว

          “ไม่ล่ะ ฉันว่าจะไปดูเก็นอิจิโร่ซักหน่อย”

          “หรอ งั้นฝากด้วยนะ”

          ยานางิเอ่ยปฏิเสธพลางปิดสมุดโน้ตของตนเมื่อจดข้อมูลล่าสุดเสร็จแล้วลุกขึ้นยืนเดินเข้าไปในห้องของชมรมตามซานาดะไป มารุอิพยักหน้ารับก่อนเดินตามแจ็กกัลป์และพิงกุไปที่คอร์ดสนามข้างคอร์ดของยางิวและนิโอที่ดูท่าว่าจะไม่มีใครยอมใครกันซักที

          “ฮายะ เดี๋ยวตอนเย็นน่ะมาเจอกับฉันหน่อยนะ”

          “อ๊ะ ? ! เอาเด้ผู้จัดการ !

          พิงกุที่กำลังเตรียมแร็กเก็ตเอ่ยขึ้นกับคิริฮาระที่นั่งพิงลูกกรงเหล็กของชมรมอยู่ข้างคอร์ดของตน เจ้าเด็กแสบเผยรอยยิ้มร่าออกมาทันทีซึ่งเด็กสาวก็พยักหน้ารับแล้วเดินเข้าไปในคอร์ดเพราะแจ็กกัลป์กำลังยืนรออยู่โดยที่มารุอิยืนเป่าหมากฝรั่งอยู่ข้างคิริฮาระที่นั่งอยู่

          “อากุจังเนี่ยร้ายกาจเสมอเลยน้า”

          “นั่นสิครับรุ่นพี่มารุอิอีกหน่อยคงเก่งกว่ารุ่นพี่มารุอิแหงเลย”

          “ปากเสีย อัจฉริยะอย่างฉันน่ะไม่มีทางแพ้หรอก”

          ป้าป!

          “โอ้ย .. T^T

    ………………………………………………………………………………………………………………

          ทางด้านยานางิและซานาดะ

          แอ๊ด ปัง

          ขณะที่พิงกุและแจ็กกัลป์ฝึกกันอยู่ยานางิซึ่งผละตัวมาหาซานาดะจึงถือวิสาสะเปิดประตูชมรมเข้าไปโดยไม่ลืมจะปิดมันลงก่อนทอดสายตามองเพื่อนตนที่นั่งอยู่บนเก้าอี้ในห้องของชมรม

           “นายโอเครึเปล่าเก็นอิจิโร่”

          “ยานางิเรอะ

          “อืม ฉันเอง”

          ซานาดะปรายตามองเพื่อนของตนเล็กน้อยแล้วเอ่ยถามไป ยานางิจึงพยักหน้ารับแล้วเดินเข้าไปนั่งข้างๆจักพรรดิหนุ่มที่ดูใจเย็นลงมากแล้ว

          “ทำไมนายถึงพูดกับอากุแบบนั้นล่ะ”

          ….. ฉันก็ ไม่รู้”

          “หืม ?”

          ยานางิหันมองเพื่อนของตนที่ดูแปลกไป ซานาดะถอนหายใจก่อนถอดหมวกสีดำบนหัวตนออกแล้ววางลงข้างตัวแทน

          “ไม่มีอะไรหรอก”

          “บอกฉันมาได้นะ เก็บไว้คนเดียวมันไม่ดีหรอก”

          ……………………………

          ฮึ?”

          “ฉันควรจะไปขอโทษรึไง”

          “นายคิดว่าไงล่ะ”

          ……………อืม………..

          …. อืม ? หมายถึงอะไร ….

          “ฉันว่าฉันได้คำตอบแล้วล่ะ”

          ซานาดะหยิบหมวกของตนขึ้นมาสวมหัวอีกคราก่อนลุกยืนเมื่อเสียงออดเข้าเรียนดังขึ้น ยานางิมองตามแผ่นหลังของเพื่อนตนที่เดินออกไปจากห้องชมรมก่อนเผยยิ้มบาง

          “ตอนเย็นอีกล่ะสิ ฟอร์มเยอะจริงนะ”

    To be continued

    .......................…………………………………………………………………………………………………………………
    คู่นี้ถูกรีเควสจ้า 5555 อาจจะแต่งคู่นี้เร็วกว่าคู่อื่นน้า > < อยากรีเควสคู่ไหนอีกบอกมาได้จ้า
    มาดูไปดูมารุ่นพี่ซานาดะเนี่ยอารมณ์ร้อนไปนิดเนอะ พิงกุจังก็ใช่ย่อย
    ต้องให้รุ่นพี่ยานางิเตือนสติตลอดเลย ไม่ไหวเลยจริงๆสองคนนี้เนี่ย :'p

     

    THE★ FARRY
    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×