ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    [exo m,k] วุ่นนักรักงงๆ

    ลำดับตอนที่ #3 : [exo m,k] วุ่นนักรักงงๆ Part ๓

    • อัปเดตล่าสุด 26 ธ.ค. 55


     

    -3-

    Chanyeol Part

    ผมกดวางโทรศัพท์ก่อนที่จะเดินเข้าห้องเรียน ไม่รู้จะโทรอะไรกันหนักหนา ผมก็รู้นะว่าผมน่ะหล่อ อัทยาศัยดี มีตังค์ คุยเก่ง คุยสนุก แต่ไม่คิดบ้างหรอว่าผมก็ขี้เกียจเหมือนกัน ตลอดเช้าวันนี้ผมรับโทรศัพท์ไปทั้งหมดสิบสองสายแล้วนะ ไม่คิดว่าผมจะขี้เกียจบ้างหรอ แล้วตอนนี้ผมก็รู้สึกว่าหูผมเริ่มเพี้ยนๆไปแล้วล่ะ

     

    ก้าวแรกที่ผมก้าวเข้าไปในห้อง ผมก็ได้ยินเสียงของคนกำลังทะเลาะกันอยู่ แล้วมันก็เป็นใครไปไม่ได้นอกจาก ไคกับคยองซู

     

    "นี่นายเลิกยุ่งกับชีวิตฉันสักทีไม่ได้หรอ"

    "ไม่อะ ฉันว่ามันสนุกดีออก"

    "นี่นายเห็นชีวิตฉันเป็นของเล่นรึไง"

    "ใช่"

    "นายไค" ดีโอเริ่มหมดความอดทนกับไคแล้วล่ะ

    "นี่ๆชีวิตนายถ้าขาดฉัน นายคงทนไม่ได้หรอกเชื่อฉันสิ"

    "นายสำคัญตัวผิดไปแล้วล่ะ"

    "จริงๆนะ ชีวิตของนายมันน่าเบื่อมากถ้าขาดฉันสักคนนายจะต้องคิดถึงฉันคนนี้แน่ๆ"

    "งั้นนายก็ช่วยออกไปจากชีวิตฉันหน่อยได้มั้ย"

    "แล้วนายจะรู้สึก"  ไคเดินกลับไปนั่งที่แบบหน้างอๆก็คงจะน้อยใจคยองซูละมั่ง  นี่ถ้าผมไม่รู้เรื่องไคผมก็คงจะคิดว่าเมื่อเช้ามันอึไม่ออกแน่ๆ

     

    ผมเดินมาถึงตรงที่นั่งของคนตัวเล็กที่นั่งขำไคกับคยองซูปะทะฝีปากกัน  แล้วก็นึกอยากแกล้งขึ้นมา

    "อยากมีคนมาแกล้งบ้างหรอ"  คนตัวเล็กหุบปากทันทีที่ผมถาม

    "เงียบเถอะอีเอ๋อ"

    "เอ้า...นี่พูดดีด้วยแล้วนะ"

    "ฉันไม่ได้ขอ"

    "ฮึ่ยยย" ผมยืนมือไปยีผมของแบคยอลเบาๆ เพราะผมนึกคำพูดไม่ออกแล้ว ก็ผมไม่ใช่ไคนี่

    "เฮ้ย ผมยุ่งหมด  รู้มั้ยฉันจัดทรงตั้งนานนะ"  ผมมองคนตัวเล็กแล้วหลุดขำออกมา

    "ขำอะไร"

    "ก็ขำนายไง"  ผมพูดเสร็จแล้วกฌเลี่ยงไปนั่งที่ของตัวเอง

     

    ผมเพิ่งสังเกตว่า ไอ้เพื่อนหน้าหล่อของผมมันยังไม่มาถึงโรงเรียนเลย  ทั้งที่ปกติมันจะมาก่อนชาวบ้านชาวช่องเขา

    "ทำไมเซฮุนมันยังไม่มาอีก"

    "นั่นดิ  มันหายหัวไปตั้งแต่เมื่อคืนแล้วรึเปล่า"

    "ไปหาพยาบาลส่วนตัวอะนะ"

    "ใครว่ะ อยากรู้จริงๆ"

    "นั่นดิสงสัยจะดีจริงว่ะ ไม่ยอมไปโรงพยาบาลเลย"

    Sehun Part

    ผมเดินเข้าห้องมาแบบอารมณ์ดี เดินอมยิ้มมาตลอดทาง ก็จะไม่ให้อารมณ์ดีได้ไงล่ะ ก็เมื่อคืนผมได้นอนกอดพี่ลู่ห่านทั้งคืน แล้วตอนเช้าพี่ลู่ห่านยังทำมื้อเช้าให้ผมอีก

    แต่เมื่อคืนผมไม่ได้แค่นอนกอดพี่ลู่ห่านอย่างเดียวหรอกนะ เมื่อคืนผมกับพี่ลู่ห่านนอนกอดกับแบบแนบชิดมากจนหน้าเราใกล้กันกระทั่งได้รับไอร้อนของลมหายใจฝ่าย เราต่างจ้องตากันสักพักผมจู่โจมพี่ลู่ห่านทางริมฝีปากอย่างเร้าร้อนกลับกลายเป็นอ่อนหวานและนุ่มนวลให้เหมาะแก่พี่ลู่ห่านจากนั้นผมก็ใช้จมูกไซร้ลงมาที่ซอกคอขาวเนียน สูดดมความหอมอ่อนๆของน้ำหอมแล้วไล่ระดับลงมาที่เนินอกแล้วประทับรอยจารึกสีแดงกล้ำเอาไว้ที่เนินหน้าอกเป็นสัญลักษณ์ว่าพี่ลู่ห่านเป็นของผมแล้ว พี่ลู่ห่านก็ไม่เบาพี่เค้าประทับรอยไว้ที่ตรงแผ่นหน้าท้องของผม จากนั้นเราทั้งสองก็ต่างมอบความสุขให้กันและกันแบบนิ่มนวลจนหมดแรงแล้วเผลอหลับไป

     

    "เฮ้ย ไปอารมณ์ดีมาจากไหน" ชานยอลทักผมเป็นคนแรก

    "พยาบาลส่วนตัวแน่เลย ใช่มั๊ยวะ" ไคหันมาถามผม ผมเพียงแค่พยักหน้าตอบนิดนึง  ไม่รู้สิแต่ผมไม่มีความสุขแบบนี้มานานแล้ว หรือว่าตอนนี้ผมกำลังเอ่อ . . . คงไม่หรอกมั่ง

     

    Kris Part

    เมื่อไหร่นายจะฟื้นสักที นี่ฉันรอนายฟื้นขึ้นมาอยู่นะอาเต๋า นายจะรู้บ้างมั๊ยว่าฉันแล้วก็ทุกคนเป็นห่วงนายมาก นายจะมาอ่อนแอตอนนี้ไม่ได้นะ ในเมื่อนายเป็นคนที่เคยเข้มแข็งไม่ใช่หรอ

    ผมนั่งเฝ้าอาเต๋ามานานเท่าไหร่แล้วก็ไม่รู้ แต่ต่อให้มันนานกว่านี้ผมก็จะรอ ทุกคนคงสงสัยว่าทำไมผมถึงเป็นห่วงอาเต๋านักทั้งๆที่เราก็ไม่ได้เป็นพี่น้องกัน

    ผมน่ะเป็นลูกมาเฟียที่ค่อนข้างจะมีชื่อเสียงในจีน ตอนนั้นผมก็เป็นแค่ลูกมาฟียที่ทำตัวเก่งเหนือกว่าคนอื่นไปวันๆ อาศัยว่าลูกน้องของพ่อเยอะเลยทำตัวกร่างไปวันๆ จนวันหนึ่งผมออกมาเที่ยวต่างถิ่นคนเดียวแล้วไปเจอจิ๊กโก๋แถวนั้นเข้า บอกตามตรงว่าตอนนั้นผมกลัวมากพวกนั้นรุมผมเจ็บแทบตาย แต่ก็ได้อาเต๋าที่อยู่ดีๆก็โผล่มาจากไหนก็ไม่รู้มาช่วยไว้ แล้วผมก็ให้คนของพ่อตามหาตัวเต๋า เต๋าเป็นเด็กกำพร้าที่อาศัยอยู่ห้องใต้ดินของบ้านหลังหนึ่งแล้วต้องทำงานรับใช้อย่างหนัก ผมจึงให้พ่อไปรับตัวเต๋ามา เราสองคนน่ะสนิทกันมากแล้วเต๋ษเนี่ยแหละที่ทำให้ผมเริ่มฝึกศิลปะป้องกันตัว จนเป็นผมทุกวันนี้เพราะเต๋าคนเดียว

    Lay Part

    นี่ก็สองวันแล้วนะที่คริสไม่มาโรงเรียน หรือเต๋าอาการยังไม่ดีขึ้นงั้นหรอแต่นี้ก็ผ่านมาตั้งสองวันแล้วนะ

    "เลย์"

    "..."

    "เลย์"

    "…"

    "อีชิง"

    "อะไรเล่า เรียกชื่อจริงฉันทำไม"

    "ก็ฉันเรียกนายตั้งหลายรอบแล้ว"ซูโฮทำหน้าหงุดหงิดใส่ผม

    "แล้วมีอะไรเรียกซะดังอยู่ใกล้แค่นี้"

    "ไอติมละลายหมดแล้ว"ผมมองไปที่ไอติมที่อยู่ในมือตอนนี้มันละลายไหลย้อยลงไปถึงข้อศอกผมแล้ว "เป็นอะไรรึเปล่า ฉันเห็นนายลอยๆมาหลายวันแล้ว"

    "เปล่าหรอก เอ่อนายช่วยโทรหาเซฮุนให้หน่อยสิ"

    "ให้ฉันเนี่ยนะโทรหาเซฮุน ไม่มีทาง"

    "นะนะ นายช่วยโทรหาเซฮุนให้ฉันหน่อย"  ผมอ้อนซูโฮสุดฤทธิ์

    "เออ ก็ได้"  ผมยิ้มกว้างให้ซูโฮ  ก่อนที่ซูโฮจะล้างโทรศัพท์จากกระเป๋ากางเกงแล้วกดหาอะไรบางอย่างก่อนจะยื่นโทรศัพท์แบบหงุดหงิดมาให้ผม

    "เอาไปโทรเอง"  ผมรับมาแล้วกดโทรออกที่ชื่อของเซฮุน

    [มีไร] เอ่อ พี่น้องเขาทักกันแบบนี้หรอ

    "นี่พี่เลย์นะ"

    [อ้าวพี่เลย์หรอครับ มีอะไรหรือเปล่าครับ น้ำเสียงเปลี่ยนทันที

    "เอ่อ...เต๋าฟื้นหรือยัง"

    [ยังเลยครับ]

    "งั้นหรอ"

    [ครับ พี่คริสเฝ้าไม่ไปไหนเลย]

    "ตั้งแต่วันนั้นอะนะ"

    [ครับ ข้าวก็ไม่ยอมกินได้นอนรึเปล่าก็ไม่รู้]

    "จริงหรอ งั้นเดี๋ยวพรุ่งนี้พี่ไปเยี่ยมเต๋าละกัน"

    [ขอบคุณครับพี่ผมกดวางสายแล้วยื่นโทรศัพท์คืนให้ซูโฮ

    "ซูโฮ"

    "ว่าไง"

    "พรุ่งนี้นายไปเยี่ยมเต๋าเป็นเพื่อนฉันหน่อยสิ"

    "ไม่ว่าง"  ตอบแบบไม่คิดเลยนะ

    "นายคิดว่าฉันโง่ใช่มั๊ยที่บอกว่าไม่ว่างเนี่ย"

     

    "ก็ฉันไม่ว่าง"  ใครจะไปเชื่อซูโฮน่ะว่างจะตลอดปี  ผมส่งสายตาจับผิดไปให้ไอ้ขาววิ้งค์ข้างหน้าผม  "เออว่างก็ได้ แค่ไม่อยากไป"

    "ไปเถอะ ฉันไม่ได้ชวนนายไปหาเซฮุนซะหน่อย"

    "เออๆ ไปก็ไป" ซูโฮน่ะว่าง่ายจะตายไป

     

     

    พลัก

    ผมพลักสีขาวประตูห้องพักฟื้นเดี่ยวที่ดีที่สุดของพยาบาลเข้าไปเห็นคนตัวสูงนั่งอยู่ข้างเตียงคนไข้ที่กำลังจ้องมองคนตัวตัวสูงอีกคนบนเตียงที่เวลานี้นอนไม่รู้สึกตัวอยู่บนเตียงมาเป็นเวลาสามวันแล้ว

     

    "คริส"  ผมเรียกคนตัวสูงแบบเงียบที่สุดเท่าที่ทำได้แต่คริสเพียงเงยหน้ามาดูว่าผมเป็นใคร แล้วกลับไปมองเต๋าเหมือนเดิม คริสดูโทรมลงไปมากและสายตาของเขามันบ่งบอกว่าสิ้นหวังเหลือเกิน

    ผมค่อยๆเดินเข้าไปข้างๆคริส และวางมือลงบนไหล่กว้างเบาๆ

    "เต๋าต้องฟื้น"

    "..."

    "นี่นายยังไม่ได้กินอะไรใช่มั๊ย" คริสก็ยังเงียบไม่ตอบผมตามเคย "ไม่ได้นอนมากี่วันแล้วละ" ก็ยังคงเงียบอยู่ "ฉันว่านายลงไปหาอะไรกินก่อนดีมั๊ย"

    "เงียบเถอะ"  นั่นไงพูดแล้ว พูดแบบนี้ถ้าเป็นเวลาปกติโดนฉันสวนแล้วนะแต่เวลาแบบนี้เขาอ่อนแอมาก อ่อนแอมากจริงๆ

    ผมค่อยๆนั่งลงข้างๆเขา

    "ฉันว่าเต๋าตื่นมาแล้วเจอนายสภาพแบบนี้เขาคงจะรู้สึกผิดมากแน่" เขาค่อยๆหันมามองฉันด้วยสายตาว่างเปล่า

    "แล้วฉันควรทำยังไง"

    "ลงไปหาอะไรกินกับฉันแล้วทำตัวเหมือนคริสคนเดิม"

    "ตอนนี้ฉันดูไม่เหมือนคนเดิมเลยหรอ"

    "ใช่ ตอนนี้นายเหมือนเด็กสามขวบที่ไม่ยอมฟังใครแล้วถ้าเต๋าฟื้นขึ้นมาเห็นนายสภาพนี้จะรู้สึกยังไง"

    "งั้นฉันควรไปหาอะไรกินใช่มั๊ย"

    "ป่ะ" ฉันลุกขึ้นแล้วยื่นมือไปข้างหน้าแล้วยิ้มบางๆให้ คริสยื่นมือของเขาออกมาช้าๆเพื่อจับมือฉัน แล้วยันตัวขึ้นลุกยืน ตอนนี้ผมต้องแหงนหน้าคุยกับเขาแล้วล่ะ

    "ไปหาอะไรกินกัน"  ผมหันไปหาซูโฮที่นั่งอยู่โซฟา "ฝากเต๋าด้วยนะ" ซูโฮพยักหน้าตอบแบบหงุดหงิดแต่ก็ยอมทำแต่โดยดี แล้วผมก็จูงร่างสูงออกมาจากห้องเพื่อไปหาอะไรกิน

     

     

    คริสนั่งจ้องบะหมี่ตรงหน้ามาเป็นเวลาครึ่งชั่วโมง  จนตอนนี้ผมจัดการบะหมี่ของผมไปเรียบร้อยแล้ว

    "นั่งจ้องแล้วมันจะอิ่มมั๊ย"

    "ก็มันไม่น่ากิน"

    "อร่อยจะตายไป"

    "..."แล้วคริสก็นั่งจ้องบะหมี่ถ้วยนั้นต่อไป ผมเลยดึงถ้วยบะหมี่มาที่ข้างหน้าผมแทนถ้วยเดิมที่หมดไป  แต่ผมไม่ได้จะกินมันหรอกนะ ผมค่อยๆคีบเส้นใส่ช้อนแต่คงไม่ต้องเป่าหรอกมันคงจะเย็นชืดแล้วล่ะ ทิ้งไว้ตั้งครึ่งชั่วโมงกว่า ผมยื่นช้อนที่มีบะหมี่พูนขึ้นมาแล้วยื่นไปจ่อปากคนตัวสูง

    "อ้าปากสิ"

    "..." คริสมองหน้าผมแปลกๆ

    "ฉันบอกให้อ่าปากไง อ้าปาก"ผมเน้นคำว่าอ้าปาก เห็นเขากระตุกยิ้มนิดนึงก่อนจะอ้าปากงับบะหมี่ในช้อนไปเขี้ยวจนแก้มตุ๋ย "เห็นมั๊ยอร่อยจะตาย"

     

     

     

     

     

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×