ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    #HwangAndTheKwon [minhyunbin: h x m]

    ลำดับตอนที่ #65 : Au Thai : ฟัง [BinMin Weekly : Week 25]

    • เนื้อหาตอนนี้เปิดให้อ่าน
    • 1.01K
      72
      14 ธ.ค. 61

    #BinMinWeekly

    Week 25: Night

    Paring: H X M (#มินฮยอนบิน)

    Inspiration song: ฟัง (HYE Remix) - SIN Feat. อ้อม สุนิสา

     

     

    ฟัง

     

     

    ฉันได้ยินเสียงเธอ

    ถามผู้คนมากมาย

    รักต้องเป็นเช่นไร

    วันนี้เธอบอกว่าเธอตอบไม่ได้เลย

     

     

                เสียงไม่คุ้นหูดังขึ้นบนเวทีที่เริ่มหรี่ไฟลง ร่างสูงใหญ่ในชุดสีดำสนิทกับหมวกปิดหน้าปิดตาคือสิ่งแรกที่ปรากฏในสายตาของมนตร์

                หันมามองแก้วในมือพร้อมกระดกของเหลวสีอำพันตรงก้นแก้วลงคอจนหมด ก่อนจะเทความสนใจไปยังเสียงทุ้มอันเป็นเอกลักษณ์นั่นอีกครั้ง

     

                แนวเพลงที่ไม่ค่อยชอบฟัง กลับทำให้น้ำคลอหน่วยตาหมดความอดทนในวันนี้

     

                น้ำสีใสร่วงหล่นตามแรงโน้มถ่วงของโลก

     

                มนตร์ใช้หลังปาดมันออกลวก ๆ ฟังท่วงทำนองและเนื้อเพลงนั้นอย่างตั้งใจ

     

     

    ...

     

     

    ถ้อยคำหลอกลวงที่ใครต่อใคร

    คอยแต่งเติมเรื่องจริงของรักไป

    อาจทำให้ใจเธอหวั่นไหว

     

     

              “ขัณฑ์!

     

                อาทิตย์ก่อนเขาก็นั่งอยู่ที่นี่ทำตัวเย็นชาใส่คนข้างตัว และสุดท้ายก็ต้องมานั่งน้ำตาตกใน เพราะความอดทนของอีกฝ่ายได้หมดลงแล้ว

     

                แผ่นหลังกว้างที่คุ้นเคยค่อย ๆ ลับสายตาไป ... เจ็บจนแทบจะยืนไม่ไหว

     

                มนตร์ปล่อยให้ตัวเองนั่งทำตัวน่าไม่อายอยู่ตรงนี้ ... หน้าเคาน์เตอร์บาร์นี่

     

                กรีดร้องชื่ออีกคนเหมือนคนบ้า

     

                สุดท้ายมนตร์ก็เลือกฟังคนอื่นมากกว่าคนรักของตัวเอง

     

                ฟังคนอื่นที่บอกว่ารักแบบเราไม่มีวันยั่งยืน

               

     

    ...

     

     

    ขอเธออย่ากลัวรักคือสิ่งใด

    รู้สึกแล้วก็เป็นเรื่องของใจ

    เชื่อใจตัวเองสักครั้ง

     

     

                “ทำไมมนตร์ต้องฟังคนอื่น เราสองคนรักกันนะ” บทสนทนาเริ่มต้นด้วยอารมณ์คุกรุ่นของขัณฑ์

     

                ... หลังจากที่มนตร์เล่าให้ฟังว่าคนอื่นพูดอะไรให้ฟังบ้าง

     

                “คนอื่นไม่ควรมาอยู่ในความสัมพันธ์ของเราหรือเปล่า”

     

                เขาจำได้ว่าคนที่เคยใจเย็น มีรอยยิ้มอบอุ่นให้กันมาตลอด กำลังโกรธและโมโหหนักมาก อย่างที่ไม่เคยเห็นมาก่อน

     

                “แต่ ...”

     

                และมนตร์ก็สะอึกกับคำพูดพวกนั้นเหมือนคนเป็นใบ้

     

                “มนตร์ก็พูดแค่คำนี้ ... ลองตัดคำว่าแต่ออกจากชีวิตบ้างก็ได้นะ” แววตานั้นวูบไหวยามเอ่ยประโยคตัดพ้อนั่น

     

                “ขัณฑ์ไม่เข้าใจเรา”

     

                นอกจากจะอ่อนไหวกับคำพูดคนอื่นแล้ว

     

                มนตร์ยังเอาแต่ใจตัวเองมากเกินไปด้วยในวันนั้น

     

     

    ...

     

     

    อย่างความรักที่สั่งให้ฉันมีเธอ

    ให้ฉันมีแค่เพียงแต่เธอเท่านั้น

    เป็นเหตุผลหนึ่งเดียวที่ขอยืนยัน

    คือฉันรักเธอ

     

     

                “แล้วมนตร์ล่ะ” เป็นครั้งแรกที่มนตร์ได้ยินเสียงทุ้มนั้นสั่นไหว

                “เราไม่ได้บอกให้มนตร์เปิดเผยเรื่องของเราให้ใคร ๆ รู้”

                “เวลามีคนถามเราก็แค่บอกไปตามตรง” ขัณฑ์หันหน้าหนีไปทางอื่น หลับตาลงเหมือนพยายามระงับความไม่พอใจที่กำลังพลุ่งพล่าน

     

                “หรือมันน่าอายนักที่พวกเรารักกัน”

               

                มนตร์ทำได้แค่แตะแขนอีกคนเบา ๆ

     

                ณ เวลานั้น เขาทำได้แค่นี้จริง ๆ

     

     

    ...

     

     

    ไม่มีเงื่อนไขใด

    ไม่มีใครนิยาม

    หรือกฎเกณฑ์ที่ต้องตาม

    ยามที่เธอลองให้รักบอกหัวใจตัวเอง

     

     

                “ถ้าเป็นแบบนั้น ...” ขัณฑ์หันกลับมาหาคนข้างตัว ดวงตาแดงก่ำเพราะกำลังพยายามข่มไม่ให้ตัวเองร้องไห้ออกมา

     

                “มนตร์เข้ามาทำให้เรารักทำไม”

                “มนตร์มาบอกว่ารักเราทำไม”

     

                วินาทีที่น้ำตาของผู้ชายตรงหน้าไหลลงมา

     

                มนตร์เพิ่งรู้ว่าตัวว่าตัวเองใจร้ายขนาดไหน

     

     

    ...

     

     

    รักคืออะไรเราจะรู้ได้ยังไง

    ถ้ายังฟังเสียงใครต่อใคร

    มากกว่าหัวใจตัวเราเอง

     

     

                “ขัณฑ์—”

                “เราเหนื่อยแล้วมนตร์ ...”

     

                หลังจากพูดประโยคนั้นจบขัณฑ์เดินออกจากร้านไป ไม่หันมาเหลียวมองคนที่ตะโกนเรียกจนเสียงแหบแห้งเลยแม้แต่วินาทีเดียว

     

                มนตร์ปล่อยให้น้ำตากับเหล้าในแก้วเหลี่ยมอยู่เป็นเพื่อนตลอดคืน

                และยินยอมให้เพื่อนในวันนั้น เข้ามาในชีวิตเป็นอาทิตย์แล้ว

     

     

    ...

     

     

    สวยงามคนเราแล้วแต่ใจใครก็ใจมัน

    รักมันจะเกิดอย่าไปกลัวถ้ามันต่างไป

     

     

                เสียงที่กำลังเปล่งออกมานั้นไม่ได้เพราะเลิศเลออะไร แต่กลับฟังดูจริงจังและจริงใจมากเหลือเกิน

     

                เหมือนคนบนเวทีต้องการร้องเพลงนี้ให้กับใครสักคน

     

                ถ้ามนตร์ไม่เข้าข้างตัวเองมากไป ...

     

                ใครสักคนที่สบตากันอยู่ตรงนี้

     

                ใครสักคนที่กำลังฟังคนอื่นมากกว่าฟังหัวใจตัวเอง

     

                “ขัณฑ์”

     

                ม่านน้ำตาบดบังทุกอย่างไปหมดสิ้น แผ่นอกกว้างพร้อมกลิ่นที่คุ้นเคยเข้ามาแทนที่ภาพนักร้องบนเวที อ้อมกอดอุ่นทำให้มนตร์เข้าใจเพลงนี้มากขึ้นกว่าเดิม

     

     

                อย่างที่เนื้อเพลงได้บอกไว้

     

     

    ไม่ว่าจะสุขหรือสุดท้ายจะต้องเสียใจ

    ให้มันเป็นไปเถอะให้มันเป็นไปเถอะ

     

     

                มนตร์ขอเลือกให้ความรักของเขาเป็นไปแบบนี้

     

     

    ...

     

     

                บุณย์มองภาพของผู้ชายคนสองที่กำลังโอบกอดกันอยู่ตรงหน้าด้วยรอยยิ้ม ก่อนเดินลงเวทีด้วยหัวใจที่เปิดโล่ง

                เหตุการณ์วันนั้นที่ทั้งสองคนมีเรื่องไม่เข้าใจกัน เขาก็อยู่ด้วย นั่งทำหน้านิ่งอยู่ตรงตำแหน่งของตัวเอง หลังชุดกลองใหญ่ที่เล่นเป็นประจำทุกวัน

                หนึ่งอาทิตย์ที่ผ่านมาบุณย์คอยเฝ้ามองเจ้าของแววตาเศร้าสร้อยนั้นทุกวัน ถึงแม้ว่าวงจะมีคิวเล่นที่นี่แค่ จันทร์ พุธ ศุกร์ ก็ตาม

                เคยคิดจะเข้าไปพูดคุยสานสัมพันธ์ใหม่ตามที่หัวใจตัวเองต้องการ แต่พอเห็นน้ำตาที่ยังคั่งค้างอยู่ในความรู้สึกของอีกฝ่ายแล้วนั้น ... เขาก็ตัดสินใจเลือกมองอยู่ที่ไกล ๆ แทนจะดีกว่า

     

                ท้ายที่สุดก็ทำได้แค่ให้กำลังใจเจ้าของดวงตาสวยคนนั้น ผ่านบทเพลงที่ตั้งใจร้องให้ฟัง

     

                ถ้าให้ทำมากกว่านี้ คงจะเกินไปสำหรับคนที่มีหน้าที่แค่คอยมองแบบเขา

     

     

                อย่างที่เนื้อเพลงได้บอกไว้

     

     

    ไม่ว่าจะสุขหรือสุดท้ายจะต้องเสียใจ

    ให้มันเป็นไปเถอะให้มันเป็นไปเถอะ

     

     

                บุณย์ขอเลือกให้ความรักของเขาเป็นไปแบบนี้

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

    - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - -

     

    สวัสดีค่ะ

    กลับมาแล้วจ้า ขอบคุณคนที่ยังรออ่านงานเราอยู่นะคะ

    มีกำลังใจมาก ๆ เลย ดีใจสุด ๆ เขินด้วย

     

    เรื่องนี้เขียนขึ้นเพราะมีคนบอกให้เขียนให้หน่อย

    และส่วนตัวก็ชอบเพลงนี้มาก อาจจะไม่ค่อยเข้าธีมกลางคืนเท่าไหร่

    แต่ฉากเป็นกลางคืนในคลับ ผับ บาร์ ก็ถือว่าไม่หนีห่างไปมากนัก

    อ่านจบแล้วหวังว่าเราจะเข้าใจความรักของคนสามคนได้มากขึ้นนะคะ

     

    แล้วก็ แล้วก็ ปีหน้าเราจะรวมเล่มพีเรียดทุกเรื่องที่เราเคยเขียน

    พร้อมกับเปิดเผยเรื่องยาวแนวนี้อีกสองเรื่อง เรื่องละหนึ่งตอน

    เป็นน้ำจิ้มให้ได้อ่านกันก่อนเรื่องยาวจะตามมา (หรืออาจจะไม่มา)

    ชื่อเรื่องรวมทั้งหมดคือกลิ่นกาล มาจากกลิ่นของกาลเวลาที่ผ่านมานั่นเองค่ะ

    ฝากด้วยนะคะ ><

    น่าจะมีรายละเอียดให้ได้อ่านกันประมาณต้นปีหน้าค่ะ

    #HwangAndTheKwon

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    นิยายที่ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×