ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    fanfic knb by shiko

    ลำดับตอนที่ #225 : [MidoFuri] Uizan

    • เนื้อหาตอนนี้เปิดให้อ่าน
    • 686
      37
      5 ต.ค. 61

    Title :   Uizan

    Fandom : Kuroko no Basket

    Paring : Midorima x Furihata

    Notes : S // สวัสดีจ้า! (#โผล่ขึ้นมาจากบ่อเหมือนซาดาโกะ)

    มิโดริมะ // !!! อย่าโผล่มาแบบนี้สิ!!! (#สะดุ้งโหยง)

    s // ไม่สนหรอกจ้าตัวเธอ (#เสกบ่อน้ำที่มีน้ำวนขึ้นใต้เท้ามิโดริมะ)

    มิโดริมะ // ให้ไปแบบปกติสักครั้งจะตายเหรอไง?!!! (# โวยขณะโดนน้ำวนดูด)

    s // (#เมินคำบ่นจนเสียงเงียบไปแล้วหันมายิ้มให้คนอ่าน) ขอให้สนุกน่อ! อาจมั่วนิดๆ กรุณาทำใจ!

    .....................................................................................

    uizan

     

    เสียงจอแจดังไปทั่วตลอดสองข้างทางเดินจากผู้คนมากมายที่ต่างเลิกงานหรือเลิกเรียนกันแล้วกำลังรีบกลับบ้าน เช่นเดียวกับชายหนุ่มผมเขียวนายแพทย์คนดังของโรงพยาบาลในละแวกนี้ที่เดินกลับบ้านหลังเลิกเวรของตนตามลำพังเนื่องจากคนที่ตนสนิทด้วยในโรงพยาบาลแต่ละคนยังไม่ออกเวรกันสักคนทำให้หมอผมเขียวหรือมิโดริมะ ชินทาโร่อดีตนักบาสคนเก่งของชมรมบาสมหาลัยต้องเดินกลับคนเดียวแบบนี้...ที่จริงเจ้าตัวจะรอคนอื่นออกเวรก็ได้ หากแต่ด้วยความที่ไม่อยากให้ ใครบางคนที่รออยู่ที่บ้านคนเดียวต้องรอนานก็เลยกลับมันคนเดียวเลย

    หมอเขียว (?) เดินตามทางเดินก่อนที่จะเดินเลาะซ้ายเลาะขวาเข้าไปในซอยเล็กๆ ซอยหนึ่งไปสักพัก...มิโดริมะก็มาโผล่ที่หน้าบ้านสองชั้นหลังหนึ่งแล้ว คุณหมอหนุ่มเปิดประตูรั้วหน้าเข้าไปยังหน้าบ้านแล้วหยิบกุญแจออกมาไขเข้าไปในบ้าน ดังเช่นทุกวัน กลับมาแล้ว...

     กลับมาแล้วเหรอ?” ทันที่มิโดริมะปิดประตูบ้าน ชายหนุ่มผมสีน้ำตาลคนหนึ่งก็เดินออกมาต้อนรับทันทีพร้อมกับรอยยิ้มที่ดูจะแสนอ่อนโยน

     อื้ม...มิโดริมะยิ้มรับ “...กอดหน่อย ให้ชื่นใจ

     ฮาๆ ได้สิๆคนผมน้ำตาลหรือฟุริฮาตะ โคกิอดีตตัวสำรองของทีมบาสเซรินอ้าแขนออก ทางหมอหนุ่มเมื่อได้รับอนุญาตก็พุ่งเข้าไปกอดทันที

     วันนี้หวังว่านายไม่ลืมกินข้าวอีกนะพอกอดรัดฟัดเหวี่ยงจนพอใจแล้วก็เอ่ยถามคำถามที่แทบกลายเป็นกิจวัตรประจำวันกับคนรักตน...ใช่ เขากับฟุริฮาตะ โคกิเป็นคนรักกันแต่ถึงเพศเดียวกันเขาก็สนที่ไหนล่ะ ต่อให้ใครบ่นใครว่าใครนินทาเขาก็ไม่สนทั้งนั้นแหละ ต่างจากอีกฝ่ายที่รู้ห่วงเขามากกว่าตัวเขาเองเสียอีกว่าจะได้รับความลำบากจากเสียงนินทาพวกนั้นไหม...

    ...และเพราะที่ฟุริฮาตะ โคกิห่วงเขาเกินนั้นทำให้ตอนที่เขาสารภาพรักครั้ง...ไอ้คราวนั้นเล่นซะเขาเกือบแห้วจริงๆ แล้ว หากไม่ติดว่าเพื่อนหัวฟ้าแสนสุขภาพแต่เกรียนของเขาช่วยไว้จนสามารถปรับความเข้าใจกันแล้วคบกันได้จริงๆ เนี่ย

     ชะอุ๋ย! ไม่ลืมๆฟุริฮาตะส่งยิ้มเจื่อนๆ ให้

     แน่ใจ?” มิโดริมะถามย้ำ...ที่จริงก็ถามไปงั้นแหละ เพราะหน้าฟุริฮาตะอ่านง่ายมากทำให้เดาได้ว่าอีกฝ่ายกินข้าวแล้วแต่ไม่ตรงเวลาเท่านั้น

    แน่ๆฟริฮาตะพยักหน้ารับรัวๆ

    ถ้านายลืมฉันจับนายกดแน่มิโดริมะเอ่ยต่อหน้าตาย

    แค่ก!พอได้ยินประโยคนี้ฟุริฮาตะถึงกับสำลักลมหายใจตัวเองทันที ดวงหน้าเริ่มขึ้นสีแดงวาบขึ้นมา อย่าพูดแบบนี้สิ! อายบ้างเถอะ!!!!

    ไม่สนมิโดริมะขยับยิ้มน้อยๆ กับปฏิกิริยาที่ได้รับ...ความจริงเขาก็ไม่ใช่พวกชอบแกล้งคนนักหรอก แต่ท่าทางของรายนี้ทำเอาเขาอดไม่ได้จริงๆ

    ชินอ่ะ!!!ฟุริฮาตะทำแก้มป่องใส่คนขี้แกล้ง

    โอ๋ๆ อย่างอนน่ามิโดริมะเอานิ้วจิ้มแก้มป่องๆ ของอีกฝ่ายเล่น

    ไม่ได้งอน!ฟุริฮาตะเถียงกลับ

    จ้าๆมิโดริมะทำท่ายอมแพ้พร้อมหัวเราะในลำคอเบาๆ ว่าแต่วันนี้มีอะไรกินบ้าง?”

    ก็มีหลายอย่างล่ะนะฟุริฮาตะตอบกลับไป

    “...วันนี้นายป่วยหรือเปล่าเนี่ย?” มิโดริมะเลิกคิ้วขึ้นเมื่อได้ยินคำตอบ...ปกติรายนี้หากเขาถามอย่างนี้จะตอบกลับมาอย่างละเอียดว่ามีอะไรบ้าง ไม่มีครั้งใดที่ตอบว่า หลายอย่างแบบคลุมเครือแบบนี้เลย...

    ...เกิดอะไรขึ้นกันหว่า?...

    พูดแบบนี้ได้ไงอ่ะ!?” ฟุริฮาตะโวยกลับ ฉันออกจะแข็งแรงสุขภาพดี

    ขอเถียงขาดใจเลยไอ้คำว่าสุขภาพดีกับคนที่ชอบทำงานลืมกินลืมนอนเนี่ยมิโดริมะเถียงกลับทันควัน...ถึงเขารู้ว่า นักเขียนส่วนใหญ่นิสัยแบบนี้ แต่เป็นบ่อยๆ มันก็ไม่ไหวนะ! เสียสุขภาพหมด!

    ง่ะ!ฟุริฮาตะหง่อยลงเล็กน้อย ก็แหม...ลืมนิดเดียวเอง

    อย่างนายเรียกว่าลืมอย่างหนักเลยมากกว่ามิโดริมะที่เริ่มเข้าโหมดคุณแม่ (?) เอ่ยเสียงเข้ม หัดดูแลตัวเองบ้าง นอนให้เป็นเวลา กินอะไรที่ดีต่อ...

    เข้าใจแล้วๆ พอเถอะฟุริฮาตะที่รู้ว่าหากปล่อยไว้อีกฝ่ายบ่นยาวแน่นอนเอ่ยตัดบทเสียดื้อๆ มะ มากินข้าวเย็นกัน

    เฮ้อ ก็ได้มิโดริมะถอนหายใจออกมาเบาๆ ก่อนที่จะยอมเดินตามเข้าห้องทานข้าวแต่โดยดี แต่แล้ว...เมื่อเห็นอาหารที่วางอยู่บนโต๊ะคุณหมอหัวเขียวก็ถึงกับขมวดคิ้วเป็นปม โคกิ...ทำไมวันนี้มีแต่ของรสเปรี้ยวล่ะ?”

    ก็ฉันอยากกินอ่ะฟุริฮาตะตอบกลับด้วยเหตุผลง่ายๆ

    ถึงงั้นก็อย่ากินเยอะสิ เดี๋ยวท้องเสียหรอกมิโดริมะดุด้วยความที่เป็นห่วงสุขภาพอีกฝ่าย

    รับทราบฟุริฮาตะตอบรับอย่างทะเล้น ทำให้มิโดริมะขยี้หัวอย่างหมั่นไส้ไปหนึ่งทีก่อนที่จะเริ่มทานมื้อเย็นกันอย่างเช่นปกติและเริ่มทำกิจวัตรุกอย่างเชดเช่นทุกวัน...จนพอตกดึกสิงที่น่าแปลกใจนอกจากมื้อเย็นที่มีแต่ของเปรี้ยวแล้วก็ได้เกิดขึ้นเมื่อชายหนุ่มผมน้ำตาลที่มักทำงานจนลืมนอนเดินเข้ามาภายในห้องนอนที่สภาพสะลึมสะลือ

    หื้อ? วันนี้นายนอนเร็วดีนะ...มิโดริมะเลิกคิ้วอย่างแปลกใจที่คนผมน้ำตาลเดินเข้ามาในห้องนอนในเวลาที่ยังไม่ถึงสามทุ่มดีเช่นนี้ เนื่องจากปกติอีกฝ่ายมักติดนิสัยโต้รุ่งเสียมากกว่าและปกติตนจะเป็นคนลากมานอนด้วย ไม่ใช่เดินมาเองง่ายๆ แบบนี้

    พอดีรู้สึกเหนื่อยๆ น่ะฟุริฮาตะตอบพลางปีนขึ้นเตียง

    เหรอมิโดริมะพยักหน้าเชิงเข้าใจ งั้นราตรีสวัสดิ์ เจ้าชิวาว่าน้อย

    บอกกี่ทีแล้วว่าฉันไม่ใช่ชิวาว่า!ฟุริฮาตะแยกเขี้ยวใส่เล็กน้อยก่อนที่จะทิ้งตัวลงนอน และภาพนั้นทำให้คนผมเขียวอดหัวเราะอย่างเอ็นดูเสียมิได้ ราตรีสวัสดิ์

     

     

     

     

     

    ...แปลก...แปลกไปมากจริงๆ ...

    มิโดริมะนั่งมองแผ่นซาร์ตคนไข้ในมือแบบที่ข้อมูลในกระดาษหาได้เข้าหัวแม้แต่น้อยเมื่อนึกถึงพฤติกรรมแปลกๆ ของคนรักตนตลอดหลายวันที่ผ่านมา...ที่นับวันเริ่มแปลกขึ้นเรื่อยๆ เริ่มจากกินของเปรี้ยวตลอดทั้งๆ ที่ปกติหมอนั้นชอบรสหวาน เข้านอนเร็ว เหนื่อยง่าย บางครั้งบอกคลื่นไส้ แถมเริ่มดูจะอารมณ์เสียง่ายชอบกลทั้งๆ ที่ฟุริฮาตะปกติเป็นคนในเย็นมากแท้ๆ ...

    ...ป่วยหรือเปล่านะ?...หรือว่าเขาทำอะไรให้รายนั้นไม่พอใจกันนะ?...

    เฮ้ เหม่ออะไรฟะมิโดริมะ!?” เสียงเหี้ยมๆ ของใครบางคนดังขึ้นพร้อมกับมือที่โบกหัวเขียวๆ ของคนเป็นหมออย่างแรง

    โอ๊ย! เจ็บนะครับ!มิโดริมะที่ดึงสติกลับเข้าร่างได้ทันควันหันไปโวยใส่ชายหนุ่มผมสีน้ำผึ้งที่ตบหัวตนเมื่อครู่ เรียกดีๆ ก็ได้มิยาจิซัง...ไม่เห็นต้องตีหัวเลย...

    เรียกแล้ว แต่นายไม่ได้ยินนี่หว่ามิยาจิ คิโยชิผู้เป็นรุ่นพี่ของนายหัวเขียวอย่างมิโดริมะยักไหล่อย่างไม่สนใจนักแม้ตนเพิ่งตีหัวชาวบ้านจนแทบสมองหลุดก็ตาม

    มิยาจิซังเรียกแล้วจริงๆ นะ ฉันยืนยันได้ชายหนุ่มผมดำที่ยืนกลั้นขำอยู่ห่างๆ ตั้งแต่มิยาจิตบหัวมิโดริมะเอ่ยขึ้นมาด้วยสีหน้าพยายามไม่ปล่อยก๊ากออกมาเสียเต็มที่

    “...” มิโดริมะเบ้หน้าน้อยๆ อย่างหมดทางเถียงพร้อมค้อนใส่คู่หูสมัยเล่นบาสตอนม.ปลายของตน...อย่าขำออกมาจริงๆ นะเฮ้ย! ไม่งั้นพ่อเอาลักกี้ไอเทมตีหัวจริงๆ แน่!

    แล้วตกลงเป็นอะไรไปห๊า? ปกตินายไม่เหม่อในเวลางานนี่หว่า?” ก่อนที่มิโดริมะจะได้ประทุษร้ายใครไปจริงๆ มิยาจิก็ถามเช่นนี้ออกมา

    พอดีมีเรื่องให้คิดนิดหน่อยน่ะครับมิโดริมะตอบรุ่นพี่ตนไป

    แต่จากหน้านาย ไม่นิดเลยวะมิยาจิกรอกตาไปมา ตกลงเกิดอะไรขึ้น?”

    คือ...มิโดริมะยิ้มแห้งๆ เมื่อเจอสายตาประมาณว่า จะบอกดีๆ หรือๆ หรือบอกด้วยน้ำตาที่มิยาจิส่งมาให้...ซึ่งแน่นอนว่าหากมันถูกส่งมาจากรุ่นพี่คนนี้มันทำให้มิโดริมะสยองเหลือหลายเลยล่ะ “...ช่วงนี้...โคกิดูแปลกๆ ไปน่ะครับ

    โคจังน่ะนะ?” ทาคาโอะ คาสึนาริที่ใช้เวลานานกว่าจะหยุดขำได้ถามกลับ

    แปลกยังไง?” มิยาจิเอ่ยถามเป็นลูกคู่กับทาคาโอะ

    ก็อย่างเหนื่อยง่าย คลื่นไส้ อยากกินของเปรี้ยวตลอด อารมณ์ก็ดูแปรปรวนชอบกลด้วยมิโดริมะเอ่ยตอบไปตามความจริง

    “...มิยาจิซัง คิดอย่างผมหรือเปล่า?” พอได้ยินดังนี้ทาคาโอะก็เหล่มองไปทางคนผมสีน้ำผึ้งเล็กน้อย

    เริ่มคิดล่ะมิยาจิยักไหล่น้อยๆ มิโดริมะ...นี่นายไม่รู้เหรอว่านี่มันอาการของคนท้องน่ะ?”

    รู้ครับ แต่โคกิเป็นผู้ชายนะครับมิโดริมะเถียงกลับ

    แล้วนายลืมหรือไงว่ามีคนที่ทำยาประหลาดๆ ออกมาได้ทุกวี่ทุกวันอยู่น่ะ?” มิยาจิกรอกตาไปมา

    “...ก็จริงมิโดริมะไม่เถียงว่ามีคนทำแบบนั้นได้จริงๆ โดยเฉพาะยาของเพื่อนสาวหัวชมพูของตนที่นึกคึกผลิตยาที่ผลนับวันยิ่งประหลาดขึ้นได้ทุกวันเนี่ย!

    ยังไงก็พาหมอนั้นมาตรวจดูแล้วกัน ใช่ไม่ใช่จะได้รู้ไปเลยมิยาจิเอ่ย

    ครับเมื่อเห็นว่ายังไงก็คงปฏิเสธไม่ได้แล้วมิโดริมะจึงพยักหน้ารับไป

    ดี รับปากแล้วอย่าลืมพามาล่ะ ไม่งั้นพ่อเอาสับปะรดปาหัวแน่มิยาจิไม่ว่าเปล่า ยังถือสับปะรดจากไหนไม่รู้มาโชว์อีกต่างหาก

    ผมไม่บ้าพอรอให้คุณเอาสับปะรดมาประเคนให้ผมหรอกครับ!!!มิโดริมะที่ไม่อยากได้สับปะรดฟรีๆ แบบถึงหัวรีบเอ่ยออกมาเช่นนี้

    อยากหน่อยก็ได้นะมิยาจิเอ่ยอย่างเสียดายนิดๆ

    เรื่องอะไรล่ะครับ?” มิโดริมะไม่บ้าพออยากโดนของที่ปามาอาจถึงตายหรอกนะ

    ก็นะมิยาจิยักไหล่น้อยๆ ก่อนที่จะพูดปนเย้าแหย่คุณหมอผมเขียวเป็นลูกคู่กับบุรุษพยาบาลผมดำไปสักพักก่อนที่จะแยกย้ายไปทำงานใครงานมันเมื่อหมดเวลาพัก

    ตกเย็นเมื่อถึงเวลาเลิกงานมิโดริมะก็ตรงดึงกลับบ้านทันทีตามประสาพ่อบ้านใจกล้า (?) และทางคนที่รออยู่ที่บ้านเองก็เตรียมกับข้าวเอาไว้อย่างรวดทันราวกะเวลาที่อีกฝ่ายจะถึงบ้านได้อย่างน่าอัศจรรย์ ทำให้พอมาถึงบ้านปุ๊บมิโดริมะได้ทานข้าวเลยอย่างเช่นทุกวัน

    ตรวจร่างกาย?” ฟุริฮาตะเอ่ยทวนอย่างงุนงงกับคำพูดระหว่างมื้ออาหารของคนผมเขียว

    อื้ม ช่วงนี้ฉันรู้สึกว่านายเหนื่อยง่ายชอบกลน่ะ เลยห่วงว่าจะป่วยหรือเปล่ามิโดริมะเอ่ยอย่างมีเหตุผล

    ฉันแข็งแรงดีน่าฟุริฮาตะเถียงกลับ

    ถึงงั้นฉันก็ห่วงอยู่ดีมิโดริมะทำเสียงแผ่วราวแมวหง่อย

    ชินนี่ล่ะก็ฟุริฮาตะยกยิ้มอย่างอ่อนใจ ก็ได้ งั้นเดี๋ยวพรุ่งนี้ฉันจะไปตรวจดูแล้วกัน

    จริงนะ?” มิโดริมะคืนชีพ (?) ขึ้นมาทันทีที่ได้ยินคำพูดนี้

    อื้มฟุริฮาตะพยักหน้ารับยืนยัน ทำให้คนผมเขียวถอนหายใจออกมาอย่างโล่งอก แหม ทำหน้าแบบโล่งใจสุดๆ เลยนะ...นายนี่ขี้กังวลจริงนะ

    เพราะเป็นนายไงถึงได้ห่วงมิโดริมะสวนกลับทันควัน

    ไหงว่างั้นล่ะ~~~” ฟุริฮาตะทำเสียงงอแงใส่และ...การสวีตหวานแบบแปลกๆ (?) ของคู่นี้ก็ได้เริ่มขึ้นในเวลาต่อมา

     

     

     

     

     

    วันถัดมามิโดริมะก็ได้ทำการพาฟุริฮาตะไปตรวจร่างกายโดยคนตรวจก็คือมิยาจิ คิโยชิซึ่งเป็นรุ่นพี่ของมิโดริมะ...ความจริงมิโดริมะอยากจะเป็นคนตรวจร่างกายให้ฟุริฮาตะเอง แต่ด้วยความที่มิยาจิไม่อยากเห็นภาพที่คนตรวจกับคนไข้สวีตกันให้อิจฉาเล่นเลยถีบมิโดริมะไปรอที่อื่นแล้วอาสาเป็นคนตรวจเสียเอง

    มิยาจิทำการตรวจหลายอย่างตามขั้นตอนรวมไปทั้งการตรวจการตั้งครรภ์ด้วย...แม้คนถูกตรวจเป็นผู้ชายและทำเอาผู้ช่วยคนอื่นที่ไม่ใช่ทาคาโอะ คาสึนาริงงเป็นไก่ตาแตกเลยก็ตามเถอะ

    เมื่อการตรวจทุกอย่างเสร็จสิ้นมิยาจิก็ไล่ฟุริฮาตะไปนั่งรอผลตรวจกับมิโดริมะที่อู้งานมานั่งเฝ้ารอผลด้วย ราวๆ ครึ่งชั่วโมงต่อมามิยาจิถึงกลับมาพร้อมเอกสารรายงานผลตรวจเมื่อครู่

    มิโดริมะ ฟุริฮาตะ ผลตรวจได้แล้ว...และมัน...มิยาจิเอ่ยด้วยสีหน้าเจื่อนๆ ราวกับปลงโลกบวกปวดจิตสุดแสน

    มันทำไมเหรอครับ?” ฟุริฮาตะทำหน้ากังวล...นี่เขาเป็นโรคอะไรร้ายแรงหรือไง? ถึงทำหน้าราวคนไมเกรนขึ้นแบบนั้นน่ะ?

    เป็นไงล่ะครับ?” มิโดริมะถามต่อจากคนรักตนติดๆ

    เป็นไปตามคาดวะมิยาจิส่งยิ้มแห้งๆ ให้มิโดริมะ ก่อนหันไปรายงานผลกับตัวฟุริฮาตะต่อ ฟุริฮาตะ...นายท้อง

    “...” ฟุริฮาตะติดสตั้นไปสามวิก่อนที่จะ...แว๊ดลั่นออกมา ห๊า!? จะบ้าเหรอครับ!? ผมผู้ชายนะ!

    ...ปฏิกิริยาตามคาด...

    มิโดริมะไม่แปลกใจกับคำโวยวายของคนรักตนเสียเท่าไหร่นัก...ถึงพวกเขาจะมีอะไรกันหลายครั้ง แต่จะมีใครคิดว่าผู้ชายจะท้องได้กันล่ะ! ถ้าไม่ติดว่าเขาเป็นพวกไม่ค่อยปกติเท่าไหร่คงตกใจกับผลที่ได้ไม่ต่างกันหรอก!

    ไม่บ้าและนี่เรื่องจริงด้วยมิยาจิยัดผลตรวจให้เห็นกันจะๆ ถามจริงนายเผลอไปกินของแปลกๆ ที่โมโมอิหรือไอดะทำมาอีกหรือเปล่าเนี่ย?”

    “...จะว่าไป...หลายเดือนก่อนโค้ชกับโมโมอิทำเค้กมาให้กินนี่นาฟุริฮาตะทำท่าครุ่นคิดก่อนจะเอ่ยออกมาเช่นนี้ด้วยสีหน้าปลงโลกสุดแสน

    ชัดเจนมิยาจิ ทาคาโอะและมิโดริมะเอ่ยเป็นเสียงเดียวกันเมื่อได้คำตอบแบบนี้...ก็นอกจากยาแปลกๆ ของโมโมอิแล้ว ฝีมืออาหารของโมโมอิ ซัทสึกิกับไอดะ ริโกะก็น่าพิศวงไม่แพ้กันหรอก!!!

    ของกินของสองคนนั้นทำพิษอีกแล้วมิโดริมะยิ้มอย่างอ่อนใจ

    แล้วแบบนี้จะเอายังไงดีล่ะชิน?” ฟุริฮาตะทำหน้ากังวล

    ยังกังวลเรื่องฉันอีกเหรอ?” มิโดริมะที่รู้ว่าสิ่งที่อีกฝ่ายต้องการสื่อคืออะไรถามกลับไป ไม่เป็นไรหรอกน่า พวกไหนจะนินทาเรื่องที่ฉันทำนายป่องก่อนก็ช่างมัน นายคิดแค่เรื่องฉันกับลูกก็พอน่า

    ไม่เป็นไรน่า เดี๋ยวพวกไหนนินทาเดี๋ยวฉันจัดการให้มิยาจิที่ไม่อยากให้เกิดความเครียดเกินไปสำหรับแม่และเด็กตามประสาคนเป็นหมอเอ่ยพร้อมกับ...สับปะรดที่เอามาจากไหนไม่รู้มาถือไว้เตรียมปาหัวพวกปากมากอย่างที่พูดจริงๆ

    แล้วเรื่องที่บ้าน...ฟุริฮาตะรู้ดีว่าทางบ้านมิโดริมะพยายามขัดขวางเรื่องที่ตนคบกับรายนี่ขนาดไหน ขนาดตอนที่บอกคบกับเขายังบ้านแทบแตกแล้วนี่ถ้ารู้ว่าเขาท้องก่อนแต่งอีกนี่...ไม่อยากคิดสภาพเลยว่าบ้านมิโดริมะจะวุ่นวายขนาดไหน

    เดี๋ยวฉันจัดการเอง ไม่ต้องห่วงมิโดริมะรีบเอ่ยขัดขึ้นมาก่อนที่ความคิดของคนผมน้ำตาลจะกระเจิงไปมากกว่านี้

    เอาเป็นว่าไม่ต้องห่วง มีพวกตัวป่วนช่วยนายเยอะแน่นอนมิยาจิตบบ่าฟุริฮาตะเบาๆ

    รับรองเลยโคจัง แต่ล่ะคนที่ชินจะขอให้ช่วยเนี่ยวิธีจัดการไม่ปกติชัวท์ทาคาโอะมั่นใจล้านเปอร์เซ็นว่าปัญหาต่างๆ นี่ถูกจัดการด้วยความคิดสุดบรรเจิดของพวกอดีตรุ่นปาฏิหาริย์แน่

    ใช่ โดยเฉพาะ...ถ้าพี่นายช่วยเนี่ย...มิโดริมะพึมพำเบาๆ ...กรณีบ้านฟุริฮาตะตรงกันข้ามกับบ้านเขาเลย เนื่องจากทางบ้านอักฝ่ายต่างยอมรับการตัดสินใจของคนในครอบครัวตัวเองโดยเฉพาะฟุริฮาตะ เคียวที่เป็นพี่ชายแท้ๆ ของคนรักเขาที่โคตลบราค่อนเนี่ยแค่รู้ถึงปัญหาในตอนนี้ย่อมหาทางช่วยแน่นอน “...เพราะงั้นหายห่วงได้เลย

    “...เชื่อก็ได้ฟุริฮาตะถอนหายใจออกมาเบาๆ เมื่อโดยโน้มน้าวจากคนในโรงพยาบาลแต่ล่ะคน...

    ...หวังว่าจะไม่มีปัญหาอะไรเกิดขึ้นจริงๆ นะ...

     

     

     

     

     

    จะเอาจริงเหรอชินเสียงถามอย่างไม่มั่นใจดังออกจากปากชายหนุ่มผมสีน้ำตาลที่ตัวสั่นเทาราวลูกสัตว์ตัวเล็กๆ ดวงตาสีเดียวกับเรือนผมมองบ้านหลังน้อยตรงหน้า

    แน่นอนชายหนุ่มผมเขียวพยักหน้ารับด้วยท่าทีที่ตรงข้ามกับคนผมน้ำตาลลิบลับ

    แต่ว่า...แบบนี้จะไหวเหรอ?” ฟุริฮาตะถามกลับด้วยอาการสั่นๆ ...จะไม่ให้สั่นได้ไงล่ะ! ก็นี่เป็นบ้านที่พ่อแม่มิโดริมะอาศัยอยู่ในยามนี่นิ!

    ไม่ไหวก็ต้องไหวล่ะนะมิโดริมะยักไหล่น้อยๆ

    แต่...ฟุริฮาตะพอเข้าใจว่าที่อีกฝ่ายพาตนมาที่บ้านพ่อแม่ตัวเองเพราะอะไร แต่ยังมีอีกเรื่องที่เขาไม่เข้าใจเลยคือ... “...ไหงนายพาพี่มาด้วยล่ะ!?”

    ...ไหงถึงพาพี่ชายเขามาด้วยล่ะเนี่ย?!!

    เพื่อเป็นหลักประกันว่าพ่อฉันจะรับไม่ได้จนมาลงกับนายแทนไงมิโดริมะตอบกลับหน้าตาเฉย

    ช่ายยยย รับรองไม่มีใครทำอะไรน้องรักพี่ได้แน่นอน ถ้าน้องโดนทำร้ายแม้ปลายเส้นผมพี่ยินดียอมไปให้คิโยมิซังตื้บเลยชายหนุ่มผมน้ำตาลผู้มีกิ๊ปติดที่ปอยผมด้านซ้ายตลอดเวลาราวเครื่องราง (?) เอ่ยอย่างเริงร่าจนน่าถีบ

    ถึงตายนะครับ อย่าเลยฟุริฮาตะที่รู้ว่าคนที่พี่ตนอ้างถึงเป็นอย่างไรรีบห้าม...เพราะหากโดนคนที่ว่าตื้บจริงๆ มีหวังตายแน่ๆ

    ไม่หรอก คิโยมิซังรู้จักอ้อมมืออยู่ชายหนุ่มผมน้ำตาลหรือนายฟุริฮาตะ เคียวหัวเราะร่า เพื่อไม่ให้เสียเวลา เราเข้าไปกันเถอะ!

    เดี๋ยว...ฟุริฮาตะทำท่าจะเอ่ยห้าม แต่...ไม่ทัน นายเคียวจัดการลากทั้งตัวฟุริฮาตะทั้งมิโดริมะเข้าไปในบ้านหลังน้อยตรงหน้าแล้ว แถมทันทีที่เข้ามาภายในบ้านบทบาทคนลากก็เปลี่ยนเป็นมิโดริมะ เจ้าตัวจับสองพี่น้องฟุริฮาตะนั่งรอในห้องรับแขกหน้าตาเฉยจากนั้นสักพักก็เดินไปตามใครสักคนมานั่งคุยที่ห้องรับแขกด้วยกัน

    มีหน้ามาพาเด็กคนนี้มาอีกนะเสียงเข้มๆ ดังออกมาจากชายวัยกลางคนผมเขียวที่ทิ้งตัวนั่งบนโซฟาฝั่งตรงข้าม...ซึ่งไม่รู้ว่าโชคดีหรือโชคร้ายอยู่บ้านคนเดียวในวันนี้ โดยที่ภรรยาตัวเองออกไปซื้อของพอดี

    ทำไมผมจะพามาไม่ได้ล่ะ นี่เป็นสิทธิของผมมิโดริมะเถียงพ่อตัวเองกลับทันควัน

    ตาลุงหน้าเหี่ยวนี่ดูน่าเบื่อชะมัดเคียวอ้าปากหาวอย่างไม่เกรงใจใคร เห็นแล้วอยากหาอะไรปาใส่จัง

    อย่าเชียวนะพี่ฟุริฮาตะรีบเอ่ยห้ามก่อนที่พี่ตนจะไปก่อเรื่องเข้า

    แล้วที่แกมาที่นี่มีอะไร?” กลับมาทางด้านคุณลุงมิโดริมะ จิทาโร่ที่จ้องลูกชายตัวเองปานจะหาหวย...เพราะมั่นใจว่าที่ลูกชายตนกล้าหน้าด้านพาคนรักตัวเองมาที่นี่ต้องไม่ใช่เรื่องเล็กๆ แน่

    ผมแค่จะมาบอกว่าผมจะแต่งงานกับโคกิมิโดริมะเอ่ยอย่างเต็มปากเต็มคำ ไม่มีความลังเลในน้ำเสียงแม้แต่น้อย ผมแค่มาบอกเป็นพิธี เพราะงั้นคุณไม่มีทางห้ามผมได้หรอก

    นี่ลูก!จิทาโร่ถึงกับหลุดมาดเลยทีเดียวกับคำพูดราวกับตบหน้าชาวบ้านของผู้เป็นลูกชายตน

    สามีนายแน่จริงๆ นะโคจัง...ลองใช้วิธีนี้ไปสู่ขอโชจิดีกว่าเคียวมองภาพพ่อลูกทะเลาะกันอย่างอารมณ์ดี

    ได้โดนโชจิซังโดดถีบขาคู่ใส่สิครับฟุริฮาตะที่เริ่มเหนื่อยใจกับพี่ตัวเองมากกว่าเรื่องการต่อต้านของว่าที่พ่อสามีตนเองถอนหายใจออกมาเบาๆ

    “...นี่แกจะแต่งงาน?” ทางจิทาโร่ที่ตัวสั่นน้อยๆ ราวกับพยายามปรับอารมณ์ตัวเองถามเสียงเข้ม แค่แกรักผู้ชายคนนี้...มันมีเหตุผลมากพอที่จะทำให้แกเสียความน่าเชื่อถือเหรอ!?”

    มีแน่นอนครับ และนอกจากเพราะความรักผมมีอีกเหตุผลด้วย...มิโดริมะที่คาดไว้อยู่แล้วว่าต้องถูกถามเช่นนี้เอ่ยด้วยสีหน้าที่ยังเรียบเฉย “...ผมทำโคกิท้อง...มีหลักฐานยืนยันแน่นอนว่าเป็นความจริงด้วยครับ

    ห๊า!?” จิทาโร่ถึงกับอ้าปากค้าง เป็นไปไม่ได้!

    มันเป็นไปแล้วครับมิโดริมะพอเข้าใจปฏิกิริยาของพ่อตัวเองอยู่ที่จะไม่อยากเชื่อ...ที่จริงถ้าไม่ติดเรื่องอาหารพิสดารของสองคนนั้นเขาว่ามันคงไม่มีทางเกิดขึ้นจริงๆ นั้นแหละ

    อย่ามาล้อเล่นนะ!จิทาโร่ตบโต๊ะเสียงดังคล้ายระบายความโกรธออกมา

    โอ๊ะ! อันตรายนะ~~~” เคียวลากเสียงยาวจนน่าถีบเมื่อของบนโต๊ะดันกระเด็นตามแรงตบโต๊ะเมื่อครู่มาโดนน้องชายตน ซึ่งแน่นอนว่าก่อนที่มันจะถึงตัวฟุริฮาตะ นายเคียวก็จัดการกวาดไปหมดแล้ว อ่ะๆ อย่าทำหน้าน่ากลัวแบบนั้นสิ เดี๋ยวน้องผมก็กลัวหรอก...แบบนี้ไม่ดีต่อหลานผมด้วยนะ

    นี่คุณ...จิทาโร่หรี่ตามองคนที่พูดจากวนๆ ขัดกับสถานการณ์ในตอนนี้อย่างเห็นได้ชัด

    ฟุริฮาตะ เคียว พี่ชายของแฟนลูกชายคุณไงเคียวตอบกลับหน้าตาเฉยก่อนที่จะหันไปคุยกับว่าที่น้องเขย (?) แทน ฉันว่ามาบอกแค่นี้พอแล้วมั้ง~~~ ไปกันได้แล้ว ต้องไปบ้านทางบ้านฉันต่อนะ~~~”

    ครับมิโดริมะขานรับก่อนที่จะโค้งศีรษะให้บุพการีตนเล็กน้อย ลาล่ะครับ

    เดี๋ยว!จิทาโร่ทำท่าจะรั้งอีกฝ่ายเอาไว้ หากแต่กลับถูกเคียวที่โผล่ไปด้านหลังคนรุ่นราวคราวพ่อเมื่อไหร่ก็ไม่รู้จับล็อกแขนเอาไว้เสียก่อน ทำให้มิโดริมะสามารถพาฟุริฮาตะออกจากบ้านไปได้อย่างง่ายดาย

    ห้ามไม่ได้หรอก~~~~” เคียวลากเสียงยาวชวนหลอนก่อนที่จะปล่อยตัวคนอายุมากกว่าแล้วโดดแว๊บไปที่ประตูที่เป็นทางเข้าออกห้องเพียงทางเดียวอย่างรวดเร็วปานภูติผี ห้ามคิดทำอะไรน้องผมเด็ดขาด ไม่งั้นอย่าหาว่าผมไม่เตือน...ผมน่ะ มีความสามารถมากกว่าที่คุณเห็นภายนอกนะขอบอก~~~”

    “...คิดจะทำอะไรฉันได้หรือ?” จิทาโร่ถามกลับเสียงเข้มเป็นการบ่งบอกอย่างดีว่า...เจ้าตัวไม่มีทางปล่อยให้ลูกชายตนแต่งงานง่ายๆ แน่

    แน่นอน...อ๋อ และการคิดส่งคนหรือลงมือทำร้ายผู้อื่นผิดกฎหมายนะ เพราะงั้นอย่าคิดทำเลย เพื่อตัวคุณเองเคียวเอ่ยด้วยรอยยิ้มดังปกติ หากแต่คราวนี้กลับดูน่าขนลุกอย่างเห็นได้ชัดบ่งบอกเจตนาข่มขู่ชัดเจน

    แล้วคุณไม่คิดว่าแปลกเหรอที่น้องชายคุณชอบกับผู้ชายด้วยกัน?” จิทาโร่ถามกลับ

    ไม่ ผมยอมรับทุกอย่างที่น้องผมเป็น ไม่เหมือนคุณที่เอาแค่จะยัดเยียดความต้องการของตัวเองให้คนอื่นเคียวสวนกลับไปอย่างรวดเร็วด้วยคำพูดที่ราวกับตบหน้าอีกฝ่ายเข้าจังๆ ไปล่ะ

    พอพูดจบเคียวก็แว๊บออกมาจากบ้านในพริบตาแล้วโดดไปหาสองหนุ่มที่ยืนถอนหายใจกัน และเมื่อเห็นแบบนี้เคียวก็เดินไปขยี้หัวทั้งสองคนเล่นเพื่อให้คลายเครียดกัน (เราว่าไม่ช่วยนะนั้น // S , อ้าวเหรอ? // เคียว)

    เฮ้อ ผลเป็นตามคาดมิโดริมะบ่นออกมาเบาๆ

    นั้นสินะฟุริฮาตะพยักหน้ารับอย่างเห็นด้วย

    เอ้าๆ อย่าเครียดกันสิ...ไป ต่อไป ไปหาพ่อแม่กันนะโคจัง รับรองพ่อแม่คงดีใจที่ได้หลานสักทีล่ะนะเคียวตบบ่าปลอบ

    คงงั้นแหละครับฟุริฮาตะตอบรับก่อนที่จะเริ่มเดินทางไปยังบ้านตน...

    ...พอมาถึงบ้านฟุริฮาตะ...ผลที่ได้ตรงกันข้ามกับบ้านมิโดริมะลิบลับเพราะทั้งพ่อแม่ผู้แสนใจดีของฟุริฮาตะต่างดีใจมากที่จะได้อุ้มหลาน เท่านั้นไม่พอยังเริ่มคิดแผนการจัดงานแต่งให้ทั้งสองโดยรวมหัวกับมิโดริมะไปด้วยว่าจะเอางานแต่งแบบไหน เมื่อไหร่ กี่โมง จะเชิญใครบ้าง เลี้ยงอะไรดีและอีกมากมายจนฟุริฮาตะต้องไปห้ามก่อนที่จะยาวกว่านี้ โดยนายเคียวได้แต่ยืนหัวเราะอย่างไม่คิดจะช่วยอะไรน้องชายตนเลยแม้แต่น้อย

     

     

     

     

     

    หนึ่งเดือนต่อมาเวลาฤกษ์ดีสุขสรร... (อย่าเล่นสิ! // ฟุริฮาตะ , ก็ด้ายยยยย // S) หนึ่งเดือนต่อหลังจากจัดการอะไรหลายๆ อย่างได้เรียบร้อยแล้ว งานแต่งระหว่างมิโดริมะ ชินทาโร่กับฟุริฮาตะ โคกิก็ได้ถูกจัดขึ้นอย่างเงียบๆ โดยผู้คนที่ถูกเชิญมาต่างเป็นคนที่ทั้งคู่รู้จัดดีและที่ขาดไม่ได้เลยคืออดีตสมาชิกทีมปาฏิหาริย์ที่หากไม่เชิญมาสักคนโดนป่วนไปอีกสิบชาติแน่ (?) กับพวกอดีตสมาชิกทีมบาสเซย์รินที่ราวกับพ่อแม่คนที่สองสามสี่ของฟุริฮาตะขึ้นทุกทีแล้ว

    งานแต่งนี้ถูกจัดภายในห้อง VIP ชั้นบนสุดของโรงแรมแห่งหนึ่งในยามหัวค่ำเนื่องจากสะดวกต่อการเดินทางมาของแขกส่วนใหญ่ที่พวกตนเชิญมา โดยภายในห้องยามนี้ถูกประดับประดาด้วยผ้าสีขาวนวลกับช่อดอกไม้หลากสี

    นี่ชิน...จัดอลังการไปไหม?” ฟุริฮาตะมองภายในห้องแล้วยิ้มแห้งๆ ...ถึงเขารู้ว่าการจัดงานแต่งสไตร์ตะวันตกตามที่คนรักตนรวมหัวกับพ่อแม่เขาจัดนี่มันออกจะอลังการหน่อยๆ แต่ก็ไม่คิดว่าจะขนาดนี้นะ!

    ไม่หรอก แบบนี้แหละดีมิโดริมะเอ่ยด้วยสีหน้ายิ้มๆ ราวกับว่าตั้งใจจัดงานแต่งตัวเองให้เป็นแบบนี้อยู่แล้วถึงแม้คนจัดทั้งหมดแทบเรียกได้ว่าฝีมือผู้ใหญ่บ้านฟุริฮาตะล้วนๆ ก็ตาม

    ใช่! แบบนี้แหละดีแล้ว!หญิงสาวผมน้ำตาลผู้เป็นอดีต...ไม่สิ ตอนนี้ก็ยังเป็นโค้ชของทีมบาสเซย์รินที่เป็นหนึ่งในตัวต้นเรื่องทั้งหมดยิ้มร่าพร้อมกับดึงตัวฟุริฮาตะไปยังห้องข้างๆ ผ่านทางเชื่อมห้องที่จะใช้เป็นห้องแต่งตัว อย่ามัวยืนจ้ออยู่เลย! ไปแต่งตัวเถอะฟุริฮาตะคุง!

    เดี๋ยวสิ! โค้ช!ฟุริฮาตะโวยเล็กก่อนที่จะโดนลากตัวไป...และมีเสียงโวยวายดังแว่วมาเบาๆ นี่มันชุดผู้หญิงไม่ใช่เหรอครับ!?”

    ก็ใช่น่ะสิเสียงของริโกะดังตามมาอีกเสียง ไม่ต้องห่วง คางามิคุงเป็นคนเย็บให้ รับรองใส่ได้ชัวท์

    นั้นไม่ใช้ประเด็นนะครับ!!!เสียงคล้ายคนปลงโลกดังขึ้นอีกล่ะรอบก่อนที่จะค่อยๆ เงียบหายไปในที่สุดโดยคาดว่าคงโดนอดีตโค้ชตัวเองจับแต่งตัวไปแล้วนั้นเอง ทางมิโดริมะที่ยืนฟังมาตลอดก็ได้เพียงส่ายหน้าไปมาอย่างขำๆ เท่านั้น

    โหวงเหวงดีจังเนอะชายหนุ่มผู้ได้รับตำแหน่งพี่เจ้าสาวในวันนี้เดินมาด้วยสีหน้ายิ้มๆ

    นั้นสินะครับมิโดริมะพยักหน้ารับ...เขาไม่แปลกใจหรอกที่คนรักตนจะโวยวาย ก็เล่นจะให้อีกฝ่ายแต่งหญิงนี่นา แต่จะโทษเขาก็ไม่ได้นะเพราะเรื่องชุดนี่พ่อแม่อีกฝ่ายเป็นคนคิดให้ทั้งหมดเลย

    นี่ ชินทาโร่...เคียวเอ่ยขึ้นพร้อมกับรอยยิ้มแปลกๆ บนใบหน้า “...ถ้ามีอะไรแปลกๆ ในงานไม่ต้องไปสนใจนะ เพราะนั้นจะเป็นฝีมือฉันกับเพื่อนเอง

    “...ครับ แต่กรุณาอย่าให้มันป่วนมากนักนะครับมิโดริมะที่รู้ว่าคนอย่างเคียวไม่เคยทำอะไรปกติอย่างชาวบ้านชาวช่องเอ่ยดักไว้ก่อนที่จะเผลอทำให้ใครสักคนในงานซ็อกตายเอา

    แน่นอนอยู่แล้ว~~~” เคียวลากเสียงยาวอย่างน่าถีบมากมาย ทางนายก็ไปแต่งตัวเถอะ เดี๋ยวเสียเวลาเอา

    ครับมิโดริมะพยักหน้ารับก่อนที่จะเดินไปแต่งตัว และแน่นอนว่าเป็นคนละห้องกับฟุริฮาตะที่โดนแต่งองค์ทรงเครื่องอยู่

    เมื่อถึงเวลาที่กำหนดไว้และเหล่าแขกก็มากันครบแล้ว งานแต่งของระหว่างทั้งสองก็ได้เริ่มขึ้นโดยมิโดริมะทำหน้าที่ต้อนรับแขกไปจนมาถึงช่วงพิธีการ...ทางฝั่งพ่อเจ้าสาวจึงจูงแขนของชายหนุ่มผมสีน้ำตาลซึ่งยามนี้อยู่ในชุดเจ้าสาวแบบหางปลาสีเขียวอ่อนราวใบไม้ที่แตกหน่อขึ้นมาใหม่ๆ ดวงหน้าที่ดูธรรมดาถูกจับแต่งด้วยเครื่องสำอางสีอ่อนทำให้ดูหวานขึ้นมาทันตา

    เจ้าบ่าวหัวเขียวยืนนิ่งอึ้งไปสักพักและคาดว่าคงเรียกสติกลับมาไม่ได้แน่ถ้าว่าที่แม่ยายไม่ตบบ่าเรียกสติกลับเข้าร่างเสียก่อน

    สวยจังนะ ในชุดนี่เนี่ยมิโดริมะทักตามความคิดตนเมื่อตัวสาวเจ้าถูกส่งต่อมาให้ตนตามพิธี

    ไม่ค่อยอยากได้ยินคำว่าสวยเท่าไหร่แฮะฟุริฮาตะบ่นนิดๆ ...แหงล่ะ เขาเป็นชายจะชอบคำว่าสวยได้ไงเล่า!

    ก็นะ...มิโดริมะหัวเราะในลำคอเบาๆ ...จากนั้นพิธีดำเนินต่อไปเรื่อยๆ ทุกอย่างก็ดูเป็นไปตามลำดับพิธีการดีจนมาถึงในช่วงท้ายหลังจากที่ทั้งสองจูบสาบานจนทั้งห้องโห่ร้องแสดงความยินดีแก่ทั้งสองเรียบร้อยแล้วนั้นเอง...

    พรึบ!

    ...ไฟต่างดับไปดื้อๆ ทำให้เกิดความชุลมุนขนาดเล็กขึ้น พร้อมกับเสียงโวยวายไปในทิศทางเดียวกันว่า เกิดอะไรขึ้น!?”

    พรึบ!

    ทันที่ที่พูดจบประโยคแสงหนึ่งก็สว่างขึ้นมาจากเทียนเล่มหนึ่ง ทำให้ทุกสายตาเบนไปยังต้นตอของแสงนั้นและเห็นบุคคลสามคนที่ยืนอยู่อย่างชัดเจนแม้จะมีเทียนเล่มเดียวก็ตาม...ก็จะไม่เห็นชัดได้ไงล่ะ เล่นถือเทียนพรรษายักษ์ที่ไส้เทียนใหญ่พอๆ กับตัวเทียนมานิ!

    ยินดีด้วยนะ!หญิงสาวผมดำที่เป็นคนถือเทียนในยามนี้เอ่ยด้วยรอยยิ้ม

    ดีจริงที่ยังมาทัน!ชายหนุ่มผมน้ำตาลทองที่ดูเหงื่อตกนิดๆ เหมือนเพิ่งวิ่งมาถึงเอ่ย

    ยินดีด้วย...คลอดแล้วบอกด้วยว่าผู้หญิงผู้ชาย...พนันไว้...ชายหนุ่มผมสีน้ำตาลเหลือบเขียวเอ่ยด้วยหน้าราวคนง่วง

    เอ๊ะ? คานาเดะซัง ชิโรบะซัง โยชิกิซัง? มาไงครับเนี่ย?” ฟุริฮาตะที่เห็นว่าคนทั้งสามไม่ใช่ใครที่ไหน หากแต่เป็นเพื่อนของพี่ชายตนถามขึ้น...เขาจำได้ว่าตอนเชิญสามคนนี้บอกว่าไม่ว่างกันนิ?

    เคียวบอกให้มาเซอร์ไพร์น่ะคนผมน้ำตาลทองหรือชิโรบะตอบ...เป็นการไขข้อสงสัยถึงสาเหตุที่ไฟดับของทุกคนได้ทันทีเพราะคนที่กล่าวถึงนั้นมักทำอะไรเพี้ยนๆ (?) อยู่แล้ว เตรียมดูนอกหน้าต่างนะ

    วืดดดดดด ตูม!

    เสียงพุ่งผ่านอากาศพร้อมกับแสงของดอกไม้ไฟหลากสีสันทีปะทุกลางท้องฟ้า เรียกทุกสายตาจับจ้องออกไปไปยังแสงสว่างสวยงามบนท้องนภาสีดำที่มีรูปแบบหลากหลายราวเตรียมการมาอย่างดี

    เจ๋งเลยใช่ไหมล่ะ? ไอ้เคียวอุตสาห์ไปยื่นเรื่องขอจุดพลุแถวนี้เลยนะหญิงสาวผมดำหรือคานาเดะยิ้มร่าพลางมองดอกไม้ไฟที่ถูกจุดอย่างต่อเนื่อง ก่อนที่จะหยุดลงในอีกยี่สิบนาทีต่อมาพร้อมกับไฟภายในห้องที่กลับมาทำงานตามปกติและนั้นทำให้คานาเดะดับเทียนในมือตนไปด้วย เอ้า! ต่อไปโยนดอกไม้! ดูสิใครจะได้!

    รู้แน่ๆ คือไม่ใช้เจ๊แน่ชิโรบะบ่นพึมพำขึ้นมมเบาๆ

    หมายความว่าไงย่ะ!?” คานาเดะแยกเขี้ยใส่คนที่ว่าตน

    อย่าทะเลาะกัน...ชายหนุ่มผมสีน้ำตาลเหลือบเขียวหรือโยชิกิเอ่ยด้วยสีหน้าง่วงๆ

    โยนล่ะนะครับ...อึบ!ฟุริฮาตะทำการหันหลังแล้วโยนช่อดอกไม้ที่ตนถืออยู่ไปด้านหลังเพื่อเป็นการเสี่ยงดวงว่าใครจะได้แต่งงานเป็นคนต่อไปตามความเชื่อ ช่อดอกไม้สีสันสวยงามลอยล่องกลางกลางอากาศก่อนที่จะตกลงมาตามแรงโน้มถ่วงของโลกโดยที่...

    อ่ะ!” ...ลงที่กลางมือของหญิงสาวผมดำพอดีเด๊ะราวจับวาง เอ๊ะ? ฉัน?”

    เฮ้ยยยยย! เจ๊ได้! เจ๊จะแต่งกับใครเนี่ย!?” ชิโรบะถึงกับอุทานลั่นอย่างไม่อยากเชื่อ ไม่สิ! ใครจะหลงผิดมาแต่งกับเจ๊เนี่ย!?”

    ปากเสียไอ้น้องบ้า!คานาเดะยกเท้าถีบน้องตัวเองไปทีหนึ่ง

    หยุดก่อน...ไม่งั้นฉันฟ้องน้องเล็กพวกนายแน่...โยชิกิที่กลัวว่างานแต่งจะกลายเป็นงานแข่งมวยไปเสียก่อนเอ่ยขึ้นมา

    “...” เพียงคำพูดประโยคเดียวจากคนที่ทำหน้าง่วงที่สุดในกลุ่มก็ทำเอาสองพี่น้องที่ทะเลาะกันเมื่อครู่เงียบลงไปในบัดดล

    ส่วนคานาเดะคงแต่งกับอาสึกะ เรียวนั้นแหละ...คบกันนานแล้วนิโยชิกิเอ่ยต่อหน้าตาเฉย

    เฮ้ย! แกรู้ได้งายยยยยย!?” คานาเดะแว๊ดลั่นเมื่อเพื่อนตัวดีดันรู้ความลับของตนที่ปกปิดมานานเสียแล้ว แถมยังแฉความลับเพื่อนได้หน้าตาเฉยอีก!

    สืบเอาโยชิตอบอย่างง่ายๆ ได้ใจความ

    คบกับไอ้เรียวจริงดิเจ๊!?” ชิโรบะถึงกับอ้าปากค้างเมื่อรู้ว่ารายนี้คบกับใครอยู่...ตกลงนี่เขาได้พี่เขยแล้วเหรอฟะ!?

    เดี๋ยวต้องเตรียมชุดไปงานแต่งคานาเดะซังต่อสินะครับฟุริฮาตะหัวเราะคิกคักกับภาพที่เหล่าเพื่อนของผู้เป็นพี่ตนเถียงกันด้วยประเด็นแบบนี้...ไม่คิดเลยว่าคนที่อาจมีสิทธิ์ได้แต่งงานคนต่อไปคือเพื่อนสาวเพียงคนเดียวในกลุ่มไม่ปกติ (?) ของพี่เขาเสียได้

    อย่าแซวกันสิโคกิ~~~” คานาเดะทำเสียงอ่อยที่ขนาดเด็กดีสุดๆ อย่างฟุริฮาตะ โคกิยังแซวตนทำให้หลายๆ คนหลุดหัวเราะออกมาเบาๆ พร้อมความรื้นเริงที่แสดงความยินดีกับว่าที่สาวเจ้าคนต่อไป...ซึ่งนั้นทำเอาคานาเดะแทบอยากเอาหน้ามุดดินหนีเป็นรั้งแรกในชีวิตเลยทีเดียว

    โดยที่คนทั้งงานหารู้ไม่ว่ามีคนคนหนึ่งได้ออกจากงานไปนานแล้ว...ตั้งแต่ที่ไฟจะดับและยามนี้กำลังจัดการกับใครบางคนอยู่เสียด้วย

    อุตสาห์เตือนแล้วนะครับ ว่าอย่าคิดทำอะไรแบบนี้น่ะอีกด้านหนึ่งห่างออกจากงานแต่งไปพอสมควรชายหนุ่มผมน้ำตาลเอ่ยพลางมองชายวัยกลางคนที่ถูกมัดปานดักแดด้วยฝีมือตน แต่ยังดี...ที่คุณคิดแค่ทำให้วุ่นวายแค่นั้น เนอะคุณมิโดริมะ จิทาโร่

    รู้ได้ไงว่าฉันจะลงมือ?” จิทาโร่ถามชายหนุ่มผมน้ำตาลที่มองแผนตนออกอย่างฉับไวทั้งๆ ที่ไม่น่าจะดูออกแท้ๆ แต่ถึงดูออกก็ไม่น่าจะคาดเดาเวลาตกมือได้จนหาทางแก้สถานการณ์ได้ทันแบบนี้...ยิ่งเป็นการแก้โดยการหาพลุหาดอกไม้ไฟมาจุดเยอะขนาดนี้ไม่น่าจะใช้เวลาเตรียมแบบหุนหันแน่

    อย่าดูถูกตำรวจญี่ปุ่นสิครับ ของแค่นี้ผมตามสืบได้อยู่แล้วเคียวหัวเราะในลำคอเบาๆ ...ความจริงตอนแรกเขาคิดว่าอีกฝ่ายจะทำอะไรอันตรายกว่านี้เสียอีกไม่คิดเลยว่าจะแค่แกล้งทำให้ไฟดับจนเกิดความวุ่นวายแค่นี้

    เป็นตำรวจเหรอ? ถึงว่าสิ...เท่านี้จิทาโร่ก็เดาถึงสาเหตุที่อีกฝ่ายรู้ได้ไม่ยากว่าทำไมอีกฝ่ายสืบเรื่องตนได้...ว่าแต่แบบนี้ไม่ผิดจรรยาบรรณตำรวจเหรอ?

    จนปานนี้แล้วผมว่าคุณยอมรับการตัดสินใจของชินทาโร่เขาได้แล้วมั้งเคียวเอ่ยลากเสียงยาว

    ไม่มีทางและไม่มีวันเสียหรอกจิทาโร่ตอบกลับเสียงเข้ม แต่ฉันก็ไม่คิดทำร้ายเด็กคนนั้นเหมือนกัน

    แสดงว่าคุณตัดสินใจจะต่างคนต่างอยู่แทนแล้วสินะครับ?” เคียวฉีกยิ้มร่า

    เออจิทาโร่ขานรับห้วนๆ

    งั้นแบบนั้นก็ดีครับเคียวเอ่ยทั้งที่ในใจรู้ว่าท่าทางของอีกฝ่ายนี่...มันซึนเดเระชัดๆ รู้แล้วว่าที่เขาเห็นแฟนน้องตนซึนนิดๆ ในตอนแรกๆ ได้มาจากใคร ไว้เดี๋ยวโคกิคลอดเมื่อไหร่จะพาหลานไปเยี่ยมแล้วกันนะครับ

    ไม่กลัวฉันฉกหลานนายหนีหรือไง?” จิทาโร่ถามกลับ

    ไม่ เพราะอย่างคุณไม่มีทางหนีผมรอดหรอก หึๆเคียวหัวเราะในลำคอแบบให้ชวนหลอนเล่นๆ

    เสียงหัวเราะสยองชะมัดจิทาโร่เบ้หน้าน้อยกับคนที่ทำเสียงปานในหนังสยองขวัญ ว่าแต่แก้มัดฉันได้แล้วมั้ง? ฉันไม่ทำอะไรแล้วน่า

    แก้เองสิครับเคียวตอบกลับทันควัน...ถือว่าเป็นการเอาคืนที่แกล้งน้องเขาแล้วกัน

    ใครมันจะแก้ได้ฟะ!?” จิทาโร่โวยใส่...ใครที่ไหนจะแก้เชือกหนาตึงแถมถูกพันเป็นมัมมี่แบบนี้ได้เองกัน!?

    ผมไงเคียวยักไหล่น้อยๆ

    ทำอีท่าไหนล่ะนั้น!?” ถึงจิทาโร่ไม่รู้อีกฝ่ายพูดจริงหรือพูดเล่นแต่หากอีกฝ่ายเคยเจอสถานการณ์เดียวกับตนนี่แล้วหลุดรอดไปได้ก็เก่งไปหน่อยล่ะ!

    ไม่รู้สิครับ พอดีโดนฝึกมาเคียวหัวเราะหึก่อนที่จะหันหลังให้อีกฝ่าย ลาล่ะครับ เดี๋ยวน้องรักของผมจะรอนาน

    เดี๋ยวสิ!จิทาโร่เรียกรั้ง หากแต่...ไม่ทัน เคียวได้เดินจากไปแล้ว

    ...แล้วนี่เขาจะแก้มัดยังไงเนี่ย!?...

    อ่ะ...ระหว่างที่กำลังคิดอย่างกังวลอยู่นั้น เชือกที่มัดรอบกายของจิทาโร่ก็ค่อยๆ คลายออกทำให้เจ้าตัวเห็นรอยตัดจากของมีคมที่โผล่มาตั้งแต่เมื่อไหร่ก็ไม่รู้...ไม่สิ ความจริงเจ้าตัวพอเดาออกอยู่ว่าน่าจะเป็นฝีมือของใคร “...ตกใจแทบแย่ หลอกกันได้นะไอ้ตำรวจบ้านั้น

     

     

     

     

     

    เวลาผ่านไปหลายเดือนหลังจากงานแต่งของมิโดริมะ ชินทาโร่กับฟุริฮาตะ...ไม่สิ มิโดริมะ โคกิจบลงไปด้วยดี ทั้งคู่ก็ต่างใช้ชีวิตกันอย่างสงบสุขทั้งในครอบครัวและหน้าที่การงานที่ไม่มีใครมานินทาอะไรเกี่ยวกับการแต่งกับผู้ชายด้วยกันเพราะไปเห็นพี่เขยของคนผมเขียวป่วนมาและพอรู้ว่าใครเป็นพี่เขยของมิโดริมะ ชินทาโร่ก็ไม่มีใครกล้านินทาว่าร้ายอะไร

    ทางคานาเดะกับคนที่ชื่ออาสึกะ เรียวสามเดือนหลังจากงานแต่งของคู่สามีภรรยามิโดริมะก็ได้แต่งงานกันจริงๆ ตามที่สาวเจ้าได้รับช่อดอกไม้ในงานแต่ง และคราวนี้คนโชคดีคนต่อไปตกที่ทาคาโอะ คาสึนาริ ซึ่งทางทาคาโอะถึงกับทำหน้างงทันทีที่ตนดันได้รับดอกไม้ในคราวนี้

    แฟนยังหาไม่ได้แล้วฉันจะแต่งกับใครเนี่ย!?” ทาคาโอะสบถออกมาเบาๆ

    แต่งกับฉันไงคาสึจังงงชายหนุ่มหน้าสวย...มิบุจิ เรโอะที่โผล่มาแจ่มกับงานแต่งรายนี้ได้ไงไม่รู้เอ่ยด้วยรอยยิ้ม

    ไม่เอา! เกรงใจครับ!ทาคาโอะรีบปฏิเสธก่อนที่จะใส่เกียร์หมาวิ่งหนี ทางมิบุจิก็วิ่งตามไปปานหนังอินเดีย...เรื่องในคราวนั้นก็ประมาณนี้ล่ะนะ แต่ช่างเถอะ ส่วนใหญ่ทุกๆ วันก็สงบดีจนมาถึงวันนี้ที่...

    เตรียมห้องเร็ว!

    หมอ! หมอคนไหนว่างบ้าง!?”

    ผมเอง!

    นายน่ะไม่ต้องเลย! ฉันจัดการเอง!

    ไหวเหรอมิยาจิซัง!?”

    แกลืมไปหรือไงว่าจริงๆ ฉันเป็นสูตินารีแพทย์น่ะเจ้าบ้า!

    ...ชายหนุ่มผมน้ำตาลผู้ที่เป็นภรรยาของคุณหมอหัวเขียวกำลังจะคลอดนั้นเอง ทำให้ทุกคนในโรงพยาบาลต้องเตรียมห้องอย่างเร่งด่วนและวุ่นวายกว่าปกติมากเนื่องจากการทำคลอดให้ผู้ชายย่อมไม่เหมือนกับผู้หญิงแน่นอน

    อย่ามัวเล่น เข้าห้องผ่ากันได้แล้ว! ส่วนนายนั่งรอนิ่งๆ ไปซะ!มิยาจิที่จะทำหน้าที่ทำคลอดให้ศรีภรรยาของรุ่นน้องตัวเองไล่คนผมเขียวไปนั่งรอก่อนที่จะรีบวิ่งเข้าห้องผ่าตัดไป

    ครับ...ชินทาโร่ (เนื่องจากตอนนี้มิโดริมะกับฟุริฮาตะใช้นามสกุลเดียวกันแล้ว เพราะงั้นขอเปลี่ยนบรรยายโดยใช้ชื่อแทนเด้อ // S) พยักหน้ารับก่อนที่จะไปนั่งรอที่หน้าห้องผ่าตัดอย่างใจจดใจจ่อ พลางมองเข็มนาฬิกาที่ค่อยๆ ขยับไปอย่างช้าๆ

    ...จะเรียบร้อยหรือเปล่านะ?...

    ใช่ว่ามิโดริมะไม่เชื่อใจรุ่นพี่ตัวเอง แต่ฐานะในตอนนี้เจ้าตัวก็ยังอดห่วงไม่ได้อยู่ดี ยิ่งเวลาที่คนรักตนเข้าห้องผ่าตัดผ่านไปนานเท่าไหร่ ความรู้สึกกังวลก็ยิ่งมากขึ้นเท่านั้นจนกระทั่ง...

    อุแววววววว!!!” ...มีเสียงร้องดังลั่นออกมาจากห้องผ่าตัดทำให้ชินทาโร่ลุกพรวดขึ้นมาจากเก้าอี้ ไม่นานนักบุรุษพยาบาลที่คุ้นเคยอุ้มร่างเล็กๆ ของชีวิตหนึ่งออกมาพร้อมกับคุณหมอผมสีน้ำผึ้ง

    ยินดีด้วยคุณพ่อ นายได้ลูกสาวล่ะชินจังทาคาโอะเอ่ยด้วยรอยยิ้มพรอมส่งสิ่งที่อยู่ในมือตนต่อให้คนผมเขียว

    ห้ามทำเด็กร่วงนะเว้ย!มิยาจิที่เห็นว่าอีกฝ่ายกำลังเกร็งหรืออย่างไรก็ไม่ทราบเอ่ยอย่างติดตลกเช่นนี้ออกมา

    ไม่ทำงั้นหรอกครับ!มิโดริมะเถียงกลับพร้อมกับอุ้มทารกน้อยอย่างชำนาญ

    เออๆมิยาจิขานรับไปส่งๆ เพื่อกวนประสาทอีกฝ่ายเล่น แล้วนี่จะตั้งชื่อว่าอะไร?”

    เดี๋ยวรอโคกิฟื้นก่อนแล้วค่อยคิดครับมิโดริมะตอบกลับไป...เขาอยากให้คนรักเขาเป็นคนตั้งชื่อลูกคนแรกเสียมากกว่าให้เขาตั้งเอง

    โอเค ตามนั้นก็ได้...นึกชื่อได้เมื่อไหร่มาบอกฉันคนแรกนะ!มิยาจิเอ่ย

    ได้ไงอ่ะ! ชินจังต้องบอกผมก่อนสิมิยาจิซัง!ทาคาโอะโวยเล็กน้อย...เขาเองก็อยากรู้เป็นคนแรกนะ!

    ไม่รู้ไม่ชี้มิยาจิยักไหล่น้อยๆ พลางยื่นมือไปดีดหน้าผากอีกฝ่าย ทำให้ทาคาโอะเปลี่ยนโวยเรื่องโดนดีดเหม่ง ทางชินทาโร่ก็มองภาพคู่หูกับรุ่นพี่ตนเถียงกันเล่นอย่างขบขันไป

    หลังจากการผ่าตัดจบลงโคกิก็ถูกส่งตัวไปห้องพักผู้ป่วย ชินทาโร่พร้อมลูกน้อยเองก็ตามไปนั่งเฝ้าคนที่ยังหลับอยู่เพราะฤทธิ์ยา ระหว่างรอนั้นก็มีคนมาป่วนเป็นพักๆ ตามประสาจนเวลาผ่านไป...

    ชิน...” ...ผู้ป่วยก็ค่อยๆ ฟื้นขึ้นมา ดวงตาสีน้ำตาลใสค่อยๆ เหล่มองยังคนที่นั่งอยู่ข้างเตียง

    ฟื้นแล้วเหรอ?” ชินทาโร่ถาม

    อื้มโคกิพยักหน้ารับ ลูก...ล่ะ?”

    อยู่นี่ชินทาโร่ส่งเด็กน้อยให้คนรักตน เราได้ลูกสาวล่ะ

    แบบนี้คานาเดะซังชนะพนันสินะโคกิรับตัวลูกสาวตนมาด้วยรอยยิ้ม...ยิ่งเมื่อนึกถึงเรื่องที่เพื่อนพี่ตนพนันกันไว้ก่อนหน้านี้ก็อดขำนิดๆ เสียไม่ได้สิน่า

    นั้นสินะชินทาโร่ที่รู้เรื่องนี้เหมือนกันตอบรับอย่างเห็นด้วย แล้ว...จะตั้งชื่อว่าอะไรดีล่ะ?”

    ชินก็ตั้งสิโคกิเอ่ย...ตอนแรกเขาคิดว่าคนผมเขียวตั้งชื่อไปแล้วเสียอีก

    ฉันอยากให้นายตั้งนิชินทาโร่ทำเสียงออดอ้อน

    งั้น...โคกิที่แพ้ลูกอ้อนรายนี้อยู่แล้วทำท่าครู่คิด ฮิมาวาริเป็นไง? จะได้สดใสเหมือนดอกทานตะวันไง

    เหมือนนายด้วยชินทาโร่เอ่ยต่อด้วยหน้าตาย

    บ้าสิโคกิหน้าแดงวาบขึ้นมากับคำพูดของอีกฝ่าย ทางชินทาโร่ก็หัวเราะอย่างมีความสุขกับครอบครัวของตนที่ยามนี้สมบูรณ์แบบที่สุด...

    ...และหวังว่าช่วงเวลาแบบนี้...จะอยู่ต่อไปจนตราบชั่วชีวิตของทั้งสอง

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

    END


    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    นิยายที่ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×