ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    ทะลุฟ้า ป่วนยุทธภพ (สถานะ จบไตรภาคแรก)

    ลำดับตอนที่ #34 : โอสถทิพย์แห่งวังหลวง

    • เนื้อหาตอนนี้เปิดให้อ่าน
    • 24.37K
      1.37K
      6 ม.ค. 61

    เมื่อครบห้านาทีชายร่างสูงก็กลับขึ้นมาตามข้อตกลง  เขายื่นบุ๊กไทป์ของตัวเองพลางเปิดเสียงที่บันทึกไว้ขึ้นมา  วาดสั่งให้ข้ามตอนคุยโทรศัพท์ไป  สักพักก็หุบปากเงียบฟังเสียงคนทั้งสองพูดคุยกันหลังจากนั้น

    เธอจะบอกเลิกไอ้วาดมันเมื่อไร  ก็รู้ว่าฉันไม่ค่อยชอบคุยกับพวกน่าสมเพช

    ตอนนี้คงยังบอกไม่ได้  ธุรกิจของพ่อฉันต้องมาก่อนเป็นอันดับแรก  นายไม่รู้หรอกว่ามันยากแค่ไหนกว่าพ่อแม่ของไอ้บ้านั่นจะยอมตกลงสร้างโปรเจคพิเศษร่วมกับบริษัทของพ่อฉัน       ก็จนกว่าโปรเจคนี้จะจบฉันถึงจะตัดขาดสัมพันธ์กับมันโธ่!  ฉันก็เบื่อเหมือนกันล่ะน่า  นายวาดนั่นเล่นตื๊อฉันมาครึ่งปีไม่มีเบื่อจนน่ารำคาญเชียวล่ะ

    โอเค  ฉันเข้าใจแล้ว  เธอคงลำบากใจกว่าฉันเยอะ  ฮ่า ฮ่า ฮ่า

    วาดทนฟังต่อไม่ไหว  ชายร่างสูงจึงปิดมันลงไปและแสดงสีหน้าไม่ถูก

    นายคือวาดที่สองคนนั้นพูดถึงเหรอ

    ใช่  ว่าแต่นายช่วยส่งบันทึกเสียงเมื่อกี้มาให้ฉันหน่อยสิ  เดี๋ยวจะโอนเงินให้

    วาดตอบและสั่งเสียงเรียบ

    เรื่องเงินไม่ต้องแล้ว  ฉันเต็มใจช่วยนายว่ะ

    ชายร่างสูงตบบ่าคล้ายเข้าใจความรู้สึก  จากนั้นเอ่ยขอรหัสบุ๊กไทป์ของวาดเพื่อจะส่งบันทึกเสียงให้

    ขอบใจ

    วาดกล่าวเมื่อได้ทุกอย่างที่ต้องการมาแล้ว

    ชายหนุ่มขอตัวแยกกลับลงไปที่ลานจอดรถด้านล่าง  เขาไม่ใช่อันธพาลที่จะไปไล่ตีใคร   แต่หากเป็นในเกมมันก็อีกเรื่อง  วาดขับรถตรงกลับคอนโดด้วยความรู้สึกหน่วง ๆ

    ถูกแฟนสาวทรยศยังไม่เจ็บใจเท่าถูกเพื่อนรักมาลอบแทงกันข้างหลังแบบนี้

    ความจริงแล้วที่เทพเก่งไปทุกอย่างและล้ำหน้าเพื่อน ๆ วัยเดียวกันเสมอ   ก็เพราะวาดไม่คิดจะแข่งขันและยอมตามหลังมาตลอดไม่ให้มันต้องรู้สึกเสียหน้า   หากวัดกันโดยไม่สนความสัมพันธ์แล้ววาดสมควรเป็นที่หนึ่งในทุกด้านแทนด้วยคะแนนที่ทิ้งห่างคนวัยเดียวกันจนยากจะหาใครเทียบ!

    เขาเลือกเรียนประวัติศาสตร์เพราะไม่จำเป็นต้องแข่งขันกับใครมากนัก       แต่จริง ๆ แล้วไม่ว่าจะคณิต ฯ  วิท ฯ หรือวิชาอื่นวาดล้วนสามารถทำคะแนนติดท็อปของโลกได้เลยด้วยซ้ำ

    ชายหนุ่มเรียนรู้ทุกอย่างมาตั้งแต่จำความได้        ส่วนใหญ่แล้วอาศัยอยู่กับพ่อแม่ที่คิดคำนวณสร้างเทคโนโลยีล้ำยุคมาสิบกว่าปีจนกลั่นกรองตกผลึกความรู้ในแง่มุมที่หาไม่ได้จากในคลาสเรียนมาเยอะทีเดียว

    พอกลับมาถึงคอนโด  วาดก็ทิ้งร่างลงกับเตียงนอนอย่างอ่อนใจ     เขาอดรู้สึกไม่ได้ว่าเรื่องราวเกี่ยวกับแฟนสาวและเพื่อนรักล้วนไม่มีใดจริง  เขาเพียงถูกหลอกใช้เพื่อผลประโยชน์เท่านั้น

    ฉันต้องเก่งกว่านี้

    วาดลุกขึ้นเปลี่ยนเสื้อผ้าที่สบายกว่า  เขาเดินไปหาอะไรกินที่ครัวและจัดการสุขภาพตัวเองให้พร้อม

    เกือบหนึ่งชั่วโมงต่อมา

    วาดสวมใส่เครื่องเกมอีกครั้งและเริ่มออนไลน์ตั้งแต่บ่าย

     

    ยี่ฟงรู้สึกตัวภายในเกม  ดูเหมือนจะเป็นเวลาใกล้รุ่งสางเข้าไปทุกที           เขาโจมตีใส่โลงศพที่ตั้งอยู่ไม่ห่างเพื่อระบายอารมณ์  แน่นอนว่าเจ้าของโลงต้องพุ่งเข้าหาอย่างโกรธเคือง         แต่ยี่ฟงใช้เวลาเพียงครู่เดียวก็จัดการทหารองครักษ์แห่งฉางอานได้แล้ว  ซึ่งไอเทมที่ดรอปมีบางอย่างเปลี่ยนแปลงไป  แทนที่จะเป็นชิ้นส่วนย่อยคัมภีร์ร่างอมตะอย่างทุกครั้ง  ทว่ามันกลับเปลี่ยนเป็นชิ้นส่วนย่อยคัมภีร์โลหิตเดือดแล้วในตอนนี้

    ยี่ฟงก็ไม่ได้แปลกใจอะไร  เนื่องจากคัมภีร์ร่างอมตะเพิ่งถูกรวบรวมจนครบ     ทางระบบคงผลัดเปลี่ยนวิชายุทธ์อื่นเข้ามาแทนที่  ไม่เช่นนั้นคงได้มีการปักหลักฟาร์มอยู่ที่เดียวในพื้นที่ที่มีแต่วิชายุทธ์คลาสสูงดรอปจนไม่ต้องไปไหนกันแล้ว

    ต้องรีบทิ้งระยะห่างหน่อยแล้ว  ถ้ามัวแต่ค้างอยู่ที่เดิมคงได้ถูกคนอื่นตามมากวาดสมบัติจนเกลี้ยงไปก่อนแน่

    ชายหนุ่มเอ่ยคาดการณ์

    ในที่สุดเขาก็ทะยานร่างฝ่าตรงไปยังสุดห้องโถงอีกฟาก        พอเคลื่อนที่ผ่านโลงศพแล้วเสียงคำรามพร้อมด้วยเหล่าทหารองครักษ์แห่งฉางอานก็ดีดฝาโลงกระเด็นออก  พวกมันแทบจะลุกขึ้นในทันทีเพื่อเข้าขัดขวางผู้บุกรุก    แต่ไม่กี่อึดใจพวกมันทั้งหมดก็ถูกพลังปราณที่ระเบิดออกจากร่างยี่ฟงผลักดันจนถอยหลังกลับไป      เส้นทางกลับกลายเป็นเปิดโล่งและด้วยวิชาตัวเบาขั้นกลางที่ได้รับมา  หนุนเสริมด้วยท่าเท้าเมฆาซ่อนมังกรคลาส A    ร่างของชายหนุ่มก็ทะยานฝ่าไปจนพ้นเขตห้องโถงแห่งนี้ได้ในพริบตา   ฝ่าเท้าของเขาแตะสัมผัสพื้นแค่ปลายก็แทบจะเหินทะยานออกไปทันที

    หากมองจากระยะห่างออกไปจะสามารถพบเห็นยี่ฟงเหินร่างอยู่เหนือพื้นได้เลยด้วยซ้ำ

    ชายหนุ่มพุ่งทะยานต่อเนื่องไปตามเส้นทางหินที่แคบลงอีกครั้ง       เขาไม่กังวลว่าจะถูกลอบโจมตีอย่างในตอนแรกอีกแม้แต่น้อย  กระทั่งยี่ฟงสังเกตเห็นทางขาดเป็นหลุมลึก        ข้างล่างนั้นคงต้องมีกับดักสังหารอยู่อย่างไม่ต้องสงสัย  อีกฟากหนึ่งห่างออกไปเกือบยี่สิบเมตร   หากต้องการจะผ่านตรงนี้ไปเพลเยอร์มีแค่วิธีเดียวคือกระโดดเหยียบไปตามแผ่นหินสี่เหลี่ยมซึ่งลอยค้างเป็นช่อง ๆ อยู่เหนือระหว่างหลุมลึก              ระยะห่างของแผ่นหินที่ว่าไม่เท่ากัน    ถ้าพลาดร่วงลงไปคงยากจะรอดชีวิตกลับขึ้นมาได้

    อย่างไรก็ดี  ยี่ฟงแทบจะไม่ชะลอความเร็วลงเลย     เขาไม่สนใจด้วยซ้ำว่าข้างล่างมีอะไรรออยู่       พอบรรลุถึงทางขาดเขาก็พุ่งออกไปอย่างมั่นใจ             ฝ่าเท้าแตะสัมผัสลงที่แผ่นหินสี่เหลี่ยมขนาดพอจะให้หยัดยืนไว้ได้เท่านั้น  พริบตาต่อมายี่ฟงก็ดีดร่างทะยานออกไปต่อเนื่องไม่มีเสียสมดุล  แผ่นหินที่สอง สาม ห้า เจ็ด สิบ   ยิ่งมาชายหนุ่มยิ่งกระโดดข้ามไกลขึ้นเรื่อย ๆ  พอถึงกลางทาง  แผ่นหินก็เริ่มมีอันที่เปราะบางอยู่ด้วย     เรียกได้ว่ามีอะไรสัมผัสลงไปก็แตกหักทันที               ทว่านั่นไม่ใช่ปัญหากับยี่ฟงเพราะเขาใช้เวลาแค่กะพริบตาเดียวหลังฝ่าเท้าแตะสัมผัสแผ่นหินก็สามารถดีดร่างพุ่งทะยานผ่านไปเรียบร้อยแล้ว

    ความสามารถนี้ได้มาจากท่าเท้าเมฆาซ่อนมังกรที่เพิ่งเลื่อนขึ้นเป็นคลาส A

    อุปสรรคตรงนี้แทบไม่มีผลอะไร  ยี่ฟงเฉยชามากส่วนหนึ่งเพราะอารมณ์ด้านจิตใจเขากำลังเกรี้ยวกราด    ไม่ช้าเขาก็ผ่านไปจนถึงอีกฟากหนึ่งได้ราวกับแค่วิ่งอยู่ในสวนรอบคอนโดเท่านั้น

    เส้นทางหลังจากนี้ก็ไม่ปรากฏอันตรายใดขัดขวางอยู่อีกจนยี่ฟงพบเข้ากับห้องหนึ่งอยู่ข้างทาง     มันมีป้ายสลักอักษรบอกกล่าวไว้ว่า  โอสถทิพย์แห่งวังหลวง

    ยี่ฟงไม่คิดอะไรให้ยุ่งยากเพราะมันคงเป็นรางวัลสำหรับเส้นทางนี้        เขาก้าวผ่านประตูเข้าไปอย่างรวดเร็วจึงพบเห็นกล่องยาขนาดหนึ่งฝ่ามือวางเรียงอยู่บนโต๊ะกลางห้องถึงสามกล่อง

    เพลเยอร์ยี่ฟงได้รับสิทธิ์เลือกหนึ่งในสามกล่องยาโอสถทิพย์แห่งวังหลวงค่ะ

    ชายหนุ่มคว้ากล่องตรงกลางขึ้นมาโดยไม่มีท่าทางเรื่องมาก        จากนั้นอีกสองกล่องพลันสลายหายไปราวกับมายา  ยี่ฟงเปิดกล่องเพื่อพินิจดูโอสถทิพย์ภายในอย่างเบามือ

    เพลเยอร์ยี่ฟงได้รับ  โอสถทิพย์ผลัดเปลี่ยนเส้นเอ็นระดับ 5

    จากที่ทราบข้อมูลมา  ยาโอสถในเกมนี้แบ่งออกเป็น 10 ระดับ              ยี่ฟงนับว่าโชคดีกว่าชาวบ้านเขาอีกแล้ว  ซึ่งยากลม ๆ สีหม่นเพียงเม็ดเดียวในกล่องนี้มูลค่าสูงมากขั้นต่ำก็ปาไป 5,000,000 ตำลึงทองแล้ว

    ยี่ฟงรีบอ่านรายละเอียดความสามารถของมันทันที


    โอสถทิพย์ผลัดเปลี่ยนเส้นเอ็นระดับ 5

    เมื่อเพลเยอร์กลืนกินมันเข้าไปจะช่วยให้ความอ่อนล้าสะสมทั้งหมดสลายไปภายใน 5 นาที   เส้นเอ็นทั่วร่างได้รับการซ่อมแซมผลัดเปลี่ยนใหม่   มีผลทำให้ค่าประสบการณ์ที่จะได้รับจากมอนสเตอร์เพิ่มขึ้นสองเท่าเป็นเวลาสองชั่วโมง


    ยี่ฟงผิวปากก่อนจะปิดกล่องยาลงตามเดิมและเก็บมันเอาไว้ก่อน        เขากลับออกมาจากห้องเพื่อเดินทางต่อ  แล้วก็พ้นออกไปสู่ห้องโถงกว้างแห่งใหม่ในเวลาต่อมา   สถานที่นี้ดูดีกว่าที่แรกอยู่บ้างแม้จะมีโลงศพตั้งประดับไว้อยู่เหมือนกันก็ตาม  ห่างออกไปใจกลางห้องโถงมีโลงศพอันโดดเด่นตั้งอยู่บนแท่นยกสูงเพียงหนึ่งเดียว       ล้อมรอบไว้ด้วยโลงศพมากมายเรียงรายอยู่บนพื้น

    ไม่ต้องสงสัยเลยว่าภายในโลงศพบนแท่นนั้นจะต้องมีมอนสเตอร์ชั้นสูงหลับใหลอยู่อย่างแน่นอน

    ยี่ฟงตัดสินใจซัดหินก้อนหนึ่งโดยแฝงลมปราณเอาไว้เข้าใส่โลงศพที่คล้ายเป็นหนึ่งในบริวารนับไม่ถ้วน  หินก้อนนั้นกระแทกอย่างแม่นยำจนเกิดเสียงหนัก ๆ ดังก้องขึ้นมา   ไม่กี่อึดใจจากนั้นฝาโลงก็เลื่อนเปิดออกไม่ต่างอะไรอย่างที่ผ่านมาแล้วมากนัก  แต่นักรบตายซากที่โผล่ขึ้นมากลับดูตัวสูงใหญ่กว่าเยอะ            ร่างกายที่กร่อนสลายเหลือแต่กระดูกอันเป็นจุดอ่อนของพวกมันกลับปรากฏให้เห็นแค่สามจุดเล็ก ๆ เท่านั้น

    และดูเหมือนการตื่นของมันจะไปปลุกตัวอื่น ๆ ที่อยู่ใกล้ขึ้นมาอีกจำนวนสี่ตัว

    ขุนพลผู้ภักดี เลเวล 44 โจมตี

    กองทหารฝีมือดี เลเวล 40 โจมตี

    กองทหารฝีมือดี เลเวล 40 โจมตี

    กองทหารฝีมือดี เลเวล 40 โจมตี

    กองทหารฝีมือดี เลเวล 40 โจมตี

    เสียงแจ้งของระบบมาพร้อมกับการแผดเสียงคำรามดุดันของศัตรูทั้งห้าตัว

    ยี่ฟงไม่ประมาท  เขาเอ่ยเรียกใช้วิชายุทธ์วิหคอหังการซ้ำขึ้นมาสองครั้งตั้งแต่เปิดฉากในทันที       เลเวลของเขาทะลวงขีดจำกัดขึ้นเป็น 46 อีกครั้ง  ระหว่างกลุ่มนักรบตายซากที่ดีดร่างทะยานเข้ามา        ยี่ฟงก็จัดการนำหอกและทวนขึ้นมือแฝงลมปราณพร้อมซัดสวนกลับไปโดยไม่มีการถอยหลัง



    มีคอมเม้นต์เยอะก็มีกำลังใจจะเขียนต่อเนื่อง
    จริง ๆ ไม่อยากพิมพ์บอกเพื่อเรียกเม้นต์แบบนี้เลย  อิอิ
    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    นิยายที่ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×