ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    ทะลุฟ้า ป่วนยุทธภพ (สถานะ จบไตรภาคแรก)

    ลำดับตอนที่ #33 : ตัวตลก

    • เนื้อหานิยายตอนนี้เปิดให้อ่าน
    • 24.36K
      1.17K
      5 ม.ค. 61

    ชายหนุ่มได้แต่ขานรับตามน้ำไปให้คุณนายเธอรู้สึกเบาใจ       ระหว่างนั้นก็เปิดบุ๊กไทป์ซึ่งยังคงอยู่ในหน้าบอร์ดข่าวสารของเกมลำนำจ้าวยุทธจักรขึ้นมาเพื่อติดตามสถานการณ์ย้อนหลังภายในเกม   หลัก ๆ ก็ไม่พ้นเรื่องมหานครฉางอานที่เขาบังเอิญไปปลุกชีพมันโดยไม่ได้ตั้งใจ  แล้ววาดก็ต้องสะดุดเข้ากับหัวข้อร้องเรียนที่เหล่าเพลเยอร์นับร้อยพากันแสดงความคิดเห็นเชิงเกรี้ยวกราด  พอไล่อ่านรายละเอียดดูแล้วจึงทราบว่าสาเหตุมันมาจากอะไร     และยังมีหัวข้อช่วยสรุปเหตุการณ์ต่าง ๆ เมื่อคืนนี้เอาไว้ด้วย

    ดูเหมือนกิลด์ใหญ่ทั้งห้าเพิ่งจะบรรลุถึงเมืองดาบมังกรและต่างตรึงกำลังกันอยู่ที่นั่น   มีเพียงการเคลื่อนไหวเล็ก ๆ น้อย ๆ อย่างเช่นส่งคนเข้าไปตรวจสอบเส้นทางภายในอาณาเขตรอบ ๆ มหานครฉางอานเท่านั้น

    ส่วนเรื่องพื้นที่บั๊กซึ่งเป็นประเด็นกันอยู่ในขณะนี้    ทางจีเอ็มเพียงแสดงตัวอธิบายเพื่อยืนยันว่ามันไม่ใช่บั๊กและเลิกใส่ใจที่จะตอบกระทู้นั้นอีกเป็นครั้งที่สอง  เล่นเอาเพลเยอร์หัวไหม้กันเป็นแถบ ๆ

    สรุปจากที่ไล่อ่านดูแล้วยังไม่มีใครหรือกลุ่มไหนฝ่าเข้าไปจนถึงตัวเมืองโบราณได้เลย

    แต่ในความคิดของวาด  คงอีกไม่เกินคืนนี้จะต้องมีคนฝ่าเข้าไปจนได้  นั่นย่อมไม่พ้นเป็นคนจากกิลด์ใหญ่ทั้งห้าอย่างแน่นอน  เมื่อพวกเขาตรวจสอบเส้นทางจนแน่ชัดแล้วก็คงพร้อมจะลงมือในทันที

    เป็นไงบ้าง  ยากสุด ๆ เลยใช่ไหมล่ะ  พ่อเองก็มีส่วนช่วยพัฒนาเกมนี้อยู่นิดหนึ่งเหมือนกันนะ

    วาทินที่สังเกตเห็นกล่าวขึ้นด้วยสีหน้าภูมิใจ

    อ๋อครับ  ก็คงจะแบบนั้น

    วาดตอบกลับสั้น ๆ ท่าทางสบาย  ผู้เป็นพ่อจึงหรี่ตารีบถามต่ออย่างสนใจว่า

    ลูกคงได้เพื่อนที่เล่นมาก่อนช่วยเหลือสินะ

    ถ้าหมายถึงไอ้เทพล่ะก็มันชิ่งผมไปแล้วครับ  เห็นว่ากำลังรุ่งเลยไม่อยากมาเสียเวลาวุ่นวายกับมือใหม่แบบผม

    เสียงที่ฟังดูเคืองนิด ๆ ของชายหนุ่มส่งให้วาทินและดาราเผยยิ้มเอ็นดู

    พ่อว่ามันก็เป็นเรื่องที่ดีนะ       นอกจากจะได้ยืนหยัดด้วยขาของตัวเองแล้วยังมีโอกาสพบเจอเพื่อนใหม่ ๆ เป็นสีสันอีกต่างหาก

    ก็ว่างั้นแหละครับ  พูดถึงเรื่องนี้แล้วผมก็เพิ่งได้เพื่อนใหม่ที่อายุปาเข้าไปจะ 60 มาอยู่เหมือนกัน

    น้ำเสียงนิ่งไม่ยินดียินร้ายของนายวาดเล่นเอาพ่อกับแม่แสดงสีหน้ากันไม่ถูกเลยทีเดียว

    วาดที่เพิ่งเงยหน้าขึ้นมาเห็นจึงหัวเราะขำก่อนจะรีบกล่าวขึ้นว่า

    ผมไม่ได้ประชดนะ  แถมค่อนข้างถูกชะตากับลุงเขาทีเดียวเลยล่ะ  อิอิ

    คนทั้งสามพลันส่งเสียงหัวเราะขบขัน        จากนั้นวาดก็ยังได้บอกเล่าเหตุการณ์ตลก ๆ อีกมากให้พ่อกับแม่ฟัง  กระทั่งมื้อเช้าจบลงและชายหนุ่มอาสาเป็นผู้ล้างถ้วยชามอย่างทุกครั้ง  ส่วนวาทินกับดาราเข้าโอบกอดล่ำลาลูกชายครู่หนึ่งก่อนจะรีบพากันเดินทางไปทำงาน

    วาดใช้เวลาเก็บกวาดล้างถ้วยชามอยู่สักพักหนึ่งพลางคิดอะไรเรื่อยเปื่อย    พอเสร็จเรื่องในครัวแล้วเขาก็เดินไปคว้าโทรศัพท์ขึ้นมากดโทรออก  ชื่อคุณหนูจี้กะพริบอยู่ไม่นานก็มีเสียงหญิงสาวตอบกลับมาว่า

    ว่าไง

    วันนี้เธอว่างเมื่อไร  เราออกไปเที่ยวกัน

    วาดชักชวน  สีหน้าคาดหวัง

    เราก็บอกแล้วนี่ว่าไม่ค่อยว่าง  เรียนดนตรีมันยากมากนะรู้หรือเปล่า  แถมเรื่องเรียนหมอเองก็สาหัสไม่แพ้กัน

    จี้ตอบน้ำเสียงเบื่อหน่าย

    ครึ่งปีมานี้เราเจอกันแค่สามครั้งเองนะ  เจียดเวลามาให้กันบ้างสิคุณหนูจี้

    วาดเอ่ยขอตรง ๆ  ก็เข้าใจอยู่ว่าอีกฝ่ายยุ่งเหยิงกับเรื่องเรียนมากขนาดไหน  แต่แบบนี้มันก็เกินไป

    เลิกเรียกฉันว่าคุณหนูสักทีได้ไหม!  ไม่ว่างก็คือไม่ว่าง  แค่นี้แหละ

    ปลายสายขึ้นเสียงและตัดการติดต่อไปแทบจะทันที

    วาดถอนหายใจหนักหน่วง  แต่เขาคิดว่าจะออกไปหาเธอที่บ้านซะเลย        อย่างน้อยก็อยากจะบอกเรื่องนัดไปเที่ยวกับครอบครัวต่อหน้ามากกว่าบอกผ่านโทรศัพท์มือถือแบบนี้  จะได้ไม่มีปัญหาทีหลัง

    ยุคนี้พอเด็ก ๆ เรียนจบในระดับพื้นฐานที่โรงเรียนแล้ว   พ่อแม่ของพวกเขาจะต้องซื้อคลาสการศึกษาในรูปแบบวิดีโอคลิปไปศึกษากันต่อเอง   นอกจากภาษาไทยและอังกฤษที่เป็นข้อบังคับว่าต้องเรียนแล้วนอกนั้นเด็ก ๆ สามารถเลือกจะศึกษาในวิชาที่ตัวเองชอบได้อย่างอิสระ                  ซึ่งส่วนใหญ่จะเลือกวิชารองไม่ว่าจะคณิต ฯ  วิทย์ ฯ  หรือประวัติศาสตร์    พวกเขาก็จะศึกษาแค่สายใดสายหนึ่งให้บรรลุสุดยอดกันไปเลยโดยไม่จำเป็นต้องเลือกเรียนสายอื่นให้เหนื่อยเปล่า  จากนั้นสิ่งที่พวกเขาตั้งใจศึกษามาจะเป็นสายงานหลักในอนาคต

    หากสนใจและชอบที่จะเรียนมากกว่าหนึ่งวิชานั่นก็ถือว่าไม่ผิดอะไร       เพราะมันก็สามารถเป็นทางเลือกให้แก่เด็ก ๆ ต่อสายงานหลักในอนาคตได้เหมือนกัน

    หากครอบครัวไหนไม่ใส่ใจบุตรหลานให้เคร่งศึกษา  นั่นก็เป็นเรื่องของพวกเขาเพราะใครก็ช่วยไม่ได้

    ช่วงเช้าวาดจึงใช้ไปกับการศึกษาประวัติศาสตร์ผ่านวิดีโอคลิปของอาจารย์ชื่อดังเฉพาะด้าน        ซึ่งราคาคลาสเรียนของอาจารย์ท่านนี้ถือว่าแพงทีเดียว      นอกจากวิชาประวัติศาสตร์แล้วเขายังได้ซื้อคลาสการสอนภาษาจีนและภาษาญี่ปุ่นมาศึกษาเพิ่มเติมด้วย      เหตุผลนั้นง่าย ๆ เพราะนายวาดชอบมังงะของญี่ปุ่น        ส่วนทางภาษาจีนก็มีเหตุผลไม่ต่างกันเท่าไร      เนื่องจากช่วงนี้นิยายจีนกำลังภายในรวมถึงแนวจีนย้อนยุคมาแรงและฮิตมาก       เขาเองก็อยากจะอ่านออกและไปไล่ตามอ่านมันทุกเรื่องที่ดัง ๆ   โดยไม่ต้องง้อกลุ่มปลิงที่นำมาแปลแถมเก็บเงินหน้าด้าน ๆ ให้เสียสุขภาพจิต

    จวบกระทั่งสิบเอ็ดโมงกว่า

    วาดในชุดเสื้อยืดสีขาวกับกางเกงยีนส์สีฟ้าก็เตรียมที่จะเดินทางไปบ้านแฟนสาวของตัวเอง          เขานั่งลงสวมรองเท้าหนังหุ้มข้อสีน้ำตาล  จากนั้นคว้าหมวกแก๊ปสีเดียวกันสวมศีรษะไว้ด้วย     วาดเช็คสัมภาระในกระเป๋าเป้สีดำครู่หนึ่งก่อนสะพายหลังไว้พร้อมเดินออกจากห้องพักไป

    วาดลงมาข้างล่างคอนโดและตรงไปยังรถเมอร์เซเดส เบนซ์ของตัวเอง  มันเป็นรถยนต์คันสีเทาแซมดำโหลดต่ำ  เป็นหนึ่งในรุ่นที่ค่อนข้างเรียกได้ว่าแพงกระเป๋าฉีกสำหรับในยุคปัจจุบันนี้เลยก็ว่าได้

    ชายหนุ่มโยนเป้สะพายไว้ที่เบาะข้าง ๆ ก่อนขับรถตรงออกถนนใหญ่อย่างชำนาญ      ใช้เวลาในการเดินทางถึงบ้านจี้โบแฟนสาวของเขาไม่นานเท่าไรนัก      หากไม่ได้มุ่งไปใกล้กับสถานที่ท่องเที่ยวหรือสถานบันเทิงแล้วก็แทบจะไม่มีรถติดอย่างในอดีตให้เห็น  วาดขับเลี้ยวเข้าไปยังหมู่บ้านของเหล่าผู้มีอำนาจทางการเงิน    ผ่านป้อมรักษาความปลอดภัย  ไม่ช้ารอบข้างก็ปรากฏบ้านหลังใหญ่โตมากมายในกรอบสายตา

    วาดขับตรงเข้าไปกลางหมู่บ้านก่อนจะจอดรถไว้ข้างรั้วบ้านหลังหนึ่ง  เขาลงไปกดกริ่งเรียกครั้งเดียวก็มีหญิงวัยกลางคนรีบออกมาเปิดประตูรั้ว  วาดส่งยิ้มให้พลางกล่าวว่า

    สวัสดีครับป้าใส  คุณหนูตัวแสบอยู่ข้างในหรือเปล่า

    คุณหนูจี้ไม่ได้ออกไปเที่ยวพักผ่อนกับคุณวาดหรอกเหรอคะ!?

    ป้าใสแสดงสีหน้าแปลกใจ

    หือ  เธอไม่อยู่บ้านเหรอครับ  เห็นบอกว่าวุ่นวายกับเรื่องเรียนจนไม่มีเวลาออกไปไหนนี่

    วาดหรี่ตากล่าว  หัวใจเขาเจ็บแปลบคล้ายประติดประต่อเรื่องราวได้เองราง ๆ ไปแล้ว

    คุณหนูเธอออกไปเมื่อสองชั่วโมงก่อนแล้วค่ะ  เห็นว่าจะไปเที่ยวแต่ป้าก็ไม่ทราบคุณหนูจะไปที่ไหน

    ป้าใสกล่าวยืนยัน

    ขอบคุณครับป้า

    วาดเอ่ยเสียงเบาก่อนจะเดินย้อนกลับไปขึ้นรถ     เขานั่งสีหน้าตายด้านอยู่ครู่หนึ่งและพยายามปลอบตัวเองว่าอย่าคิดมากเกินไป    แต่ฝ่ามือกับคว้าบุ๊กไทป์ขึ้นมาเปิดใช้งานด้วยสัญชาตญาณเพื่อจะค้นหาตำแหน่งของแฟนสาวก่อนแล้ว  เมื่อทำการค้นหา        ไม่นานก็ปรากฏตำแหน่งของเธอแสดงให้เห็นว่าอยู่ที่ห้างสรรพสินค้าไม่ไกลจากที่นี่  แต่บังเอิญเหลือเกินที่มันปรากฏตำแหน่งไอ้เทพเพื่อนรักของเขาอยู่ตรงนั้นด้วยในเวลานี้

    นี่มันเรื่องบัดซบอะไรวะ!

    ชายหนุ่มขมวดคิ้วแน่นก่อนปิดบุ๊กไทป์ลงและรีบขับรถตรงไปยังห้างสรรพสินค้าอย่างรวดเร็ว    เขาต้องการเห็นด้วยตาตัวเองแล้วค่อยตัดสินเรื่องราวอีกที

    ไม่ถึงสิบนาทีวาดก็นำรถเข้าไปในลานจอดของห้างเรียบร้อยแล้ว    จากนั้นเขารีบวิ่งตรงเข้าไปที่ศูนย์อาหารโดยไม่สนสายตาใคร   กระทั่งถึงที่หมายแต่วาดเลือกจะเดินอ้อมหลบขึ้นไปอีกชั้นหนึ่งเพื่อกวาดสายตาหาคนรู้จักทั้งสอง

    ไอ้สารเลว

    วาดกัดฟันกล่าว

    ในที่สุดเขาก็พบเห็นเทพกับแฟนสาวของเขานั่งร่วมโต๊ะทานอาหารกันด้วยท่าทางสนุก   วาดรวบกำฝ่ามือข้างที่ถือโทรศัพท์ไว้จนแทบคลั่ง  พอดีกับที่มีชายคนหนึ่งกำลังเดินสวนไป  วาดรีบขวางและเอ่ยว่า

    ฉันจ้าง 3,000  นายช่วยลงไปฟังสิ่งที่หนุ่มสาวหน้าตาดีคู่นั้นคุยกันแล้วมาบอกฉันได้ไหม!?

    ชายร่างสูงตาลุกวาว  รีบกวาดสายตามองตามนิ้วที่ชี้ไปของวาดทันที  บริเวณศูนย์อาหารเวลานี้มีคู่หนุ่มสาวไม่มาก  ยิ่งหน้าตาดีทั้งคู่ด้วยแล้วยิ่งน้อยเข้าไปใหญ่

    นายพูดจริงเหรอ

    ถ้าครบห้านาทีแล้วนายกลับขึ้นมาให้ฉันโอนเงินได้เลย!

    เห็นท่าทางจริงจังของวาด   ชายร่างสูงก็รีบพยักหน้าตอบรับและเดินลงไปที่ศูนย์อาหารโดยไม่ต้องเสียเวลาคิด  พอวาดเห็นชายคนนั้นนั่งอยู่โต๊ะข้าง ๆ เป้าหมายแล้วจึงรีบยกโทรศัพท์ขึ้นมากดโทรออก

    มีอะไรวะไอ้วาด

    เสียงของเทพ  ชายหนุ่มหน้าตาหล่อเหลาดังตอบกลับมา

    ฉันมีอะไรจะถามหน่อย  กิลด์ที่นายกับจี้แฟนฉันสังกัดอยู่ชื่ออะไรวะเพื่อน

    วาดพยายามกล่าวเป็นปกติและจ้องลงไปที่คนทั้งสองตาไม่กะพริบ

    วังเทวาห้วงสมุทรน่ะ  นายคงรู้จักใช่หรือเปล่า

    เทพตอบด้วยท่าทางขบขัน  ส่วนหญิงสาวตัวเล็กที่นั่งอยู่ฝั่งตรงข้ามกำลังยกฝ่ามือปิดปากกลั้นหัวเราะ

    ดูเหมือนคนทั้งสองจะดูถูกเขาเสียเหลือเกิน

    ต้องรู้จักอยู่แล้ว  เป็นถึงกิลด์ใหญ่อันดับสามเลยไม่ใช่หรือไงว่าแต่ตอนนี้นายอยู่ไหนวะ

    วาดตอบและถามกลับคล้ายไม่มีอะไรเกิดขึ้น

    ฉันออกมาเที่ยวห้างกับเพื่อนในเกมน่ะ  พวกเรากำลังไปได้ดี     ถ้าชนะการแข่งขันในลีคเพลเยอร์หน้าใหม่อีกสามเดือนข้างหน้าล่ะก็พวกเราคงมีหวังได้ติดเป็นนักกีฬาอีสปอร์ตร่วมกับเพลเยอร์ระดับสูงของวังเทวาห้วงสมุทรแน่ ๆ  แล้วนายเป็นไงบ้าง  เห็นว่าเขตจงหยางมีภารกิจลับโผล่ที่ป่ากลืนวิญญาณด้วยนี่    ตอนนี้เพลเยอร์ส่วนใหญ่เขาเปลี่ยนเป้าหมายไปที่เมืองโบราณที่เพิ่งปรากฏมาแทนแล้ว   ฉันแนะนำให้นายรีบไปค้นหาภารกิจลับให้ได้ก่อนที่คนอื่นจะย้อนกลับไปจะดีกว่า  เอ่อ  นายเพิ่งเริ่มเล่นมาคืนเดียวเองนี่หว่า  คงฝ่าเข้าไปในป่าไม่ไหวหรอกมั้ง  ขอโทษทีว่ะ  ฮ่า ฮ่า ฮ่า

    แววตาที่จับจ้องลงไปของวาดสั่นไหว             ชายหนุ่มทราบอยู่แล้วว่าแฟนสาวกับเพื่อนรักของเขาเริ่มเล่นเกมพร้อมกัน   แรก ๆ ยังพอได้รับรู้เรื่องราวที่คนทั้งสองนำมาเล่าให้ฟังอยู่บ้าง  แต่หลังจากนั้นพวกเขาก็เริ่มห่างเหินออกไปเรื่อย ๆ กระทั่งถึงขั้นปิดบังว่ากำลังออกมาเที่ยวกันสองคนอยู่คาตาอย่างในตอนนี้

    แค่นี้ก่อนว่ะ  เดี๋ยวฉันคงต้องพยายามมากกว่าเดิมเพื่อไล่ตามพวกนายให้ทันซะแล้ว

    วาดอดทนกล่าว       พออีกฝ่ายตอบรับกลับมาเขาก็ขว้างโทรศัพท์กระแทกใส่เสาจนแตกหักสภาพดูไม่น่าจะใช้การได้อีก  วาดทรุดร่างลงนั่งพิงกับรั้วกั้นเมินเฉยสายตาแตกตื่นของผู้คนรอบ ๆ

    กิลด์ใหญ่อันดับสามงั้นเหรอ

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    นิยายที่ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×