คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #33 : ตัวตลก
ชายหนุ่มได้แต่ขานรับตามน้ำไปให้คุณนายเธอรู้สึกเบาใจ ระหว่างนั้นก็เปิดบุ๊กไทป์ซึ่งยังคงอยู่ในหน้าบอร์ดข่าวสารของเกมลำนำจ้าวยุทธจักรขึ้นมาเพื่อติดตามสถานการณ์ย้อนหลังภายในเกม หลัก ๆ ก็ไม่พ้นเรื่องมหานครฉางอานที่เขาบังเอิญไปปลุกชีพมันโดยไม่ได้ตั้งใจ แล้ววาดก็ต้องสะดุดเข้ากับหัวข้อร้องเรียนที่เหล่าเพลเยอร์นับร้อยพากันแสดงความคิดเห็นเชิงเกรี้ยวกราด พอไล่อ่านรายละเอียดดูแล้วจึงทราบว่าสาเหตุมันมาจากอะไร และยังมีหัวข้อช่วยสรุปเหตุการณ์ต่าง ๆ เมื่อคืนนี้เอาไว้ด้วย
ดูเหมือนกิลด์ใหญ่ทั้งห้าเพิ่งจะบรรลุถึงเมืองดาบมังกรและต่างตรึงกำลังกันอยู่ที่นั่น มีเพียงการเคลื่อนไหวเล็ก ๆ น้อย ๆ อย่างเช่นส่งคนเข้าไปตรวจสอบเส้นทางภายในอาณาเขตรอบ
ๆ มหานครฉางอานเท่านั้น
ส่วนเรื่องพื้นที่บั๊กซึ่งเป็นประเด็นกันอยู่ในขณะนี้ ทางจีเอ็มเพียงแสดงตัวอธิบายเพื่อยืนยันว่ามันไม่ใช่บั๊กและเลิกใส่ใจที่จะตอบกระทู้นั้นอีกเป็นครั้งที่สอง เล่นเอาเพลเยอร์หัวไหม้กันเป็นแถบ ๆ
สรุปจากที่ไล่อ่านดูแล้วยังไม่มีใครหรือกลุ่มไหนฝ่าเข้าไปจนถึงตัวเมืองโบราณได้เลย
แต่ในความคิดของวาด คงอีกไม่เกินคืนนี้จะต้องมีคนฝ่าเข้าไปจนได้ นั่นย่อมไม่พ้นเป็นคนจากกิลด์ใหญ่ทั้งห้าอย่างแน่นอน เมื่อพวกเขาตรวจสอบเส้นทางจนแน่ชัดแล้วก็คงพร้อมจะลงมือในทันที
“เป็นไงบ้าง
ยากสุด ๆ เลยใช่ไหมล่ะ
พ่อเองก็มีส่วนช่วยพัฒนาเกมนี้อยู่นิดหนึ่งเหมือนกันนะ”
วาทินที่สังเกตเห็นกล่าวขึ้นด้วยสีหน้าภูมิใจ
“อ๋อครับ
ก็คงจะแบบนั้น”
วาดตอบกลับสั้น
ๆ ท่าทางสบาย ผู้เป็นพ่อจึงหรี่ตารีบถามต่ออย่างสนใจว่า
“ลูกคงได้เพื่อนที่เล่นมาก่อนช่วยเหลือสินะ”
“ถ้าหมายถึงไอ้เทพล่ะก็มันชิ่งผมไปแล้วครับ เห็นว่ากำลังรุ่งเลยไม่อยากมาเสียเวลาวุ่นวายกับมือใหม่แบบผม”
เสียงที่ฟังดูเคืองนิด
ๆ ของชายหนุ่มส่งให้วาทินและดาราเผยยิ้มเอ็นดู
“พ่อว่ามันก็เป็นเรื่องที่ดีนะ นอกจากจะได้ยืนหยัดด้วยขาของตัวเองแล้วยังมีโอกาสพบเจอเพื่อนใหม่
ๆ เป็นสีสันอีกต่างหาก”
“ก็ว่างั้นแหละครับ พูดถึงเรื่องนี้แล้วผมก็เพิ่งได้เพื่อนใหม่ที่อายุปาเข้าไปจะ
60 มาอยู่เหมือนกัน”
น้ำเสียงนิ่งไม่ยินดียินร้ายของนายวาดเล่นเอาพ่อกับแม่แสดงสีหน้ากันไม่ถูกเลยทีเดียว
วาดที่เพิ่งเงยหน้าขึ้นมาเห็นจึงหัวเราะขำก่อนจะรีบกล่าวขึ้นว่า
“ผมไม่ได้ประชดนะ
แถมค่อนข้างถูกชะตากับลุงเขาทีเดียวเลยล่ะ
อิอิ”
คนทั้งสามพลันส่งเสียงหัวเราะขบขัน จากนั้นวาดก็ยังได้บอกเล่าเหตุการณ์ตลก ๆ
อีกมากให้พ่อกับแม่ฟัง
กระทั่งมื้อเช้าจบลงและชายหนุ่มอาสาเป็นผู้ล้างถ้วยชามอย่างทุกครั้ง ส่วนวาทินกับดาราเข้าโอบกอดล่ำลาลูกชายครู่หนึ่งก่อนจะรีบพากันเดินทางไปทำงาน
วาดใช้เวลาเก็บกวาดล้างถ้วยชามอยู่สักพักหนึ่งพลางคิดอะไรเรื่อยเปื่อย พอเสร็จเรื่องในครัวแล้วเขาก็เดินไปคว้าโทรศัพท์ขึ้นมากดโทรออก ชื่อคุณหนูจี้กะพริบอยู่ไม่นานก็มีเสียงหญิงสาวตอบกลับมาว่า
“ว่าไง”
“วันนี้เธอว่างเมื่อไร เราออกไปเที่ยวกัน”
วาดชักชวน สีหน้าคาดหวัง
“เราก็บอกแล้วนี่ว่าไม่ค่อยว่าง เรียนดนตรีมันยากมากนะรู้หรือเปล่า แถมเรื่องเรียนหมอเองก็สาหัสไม่แพ้กัน”
จี้ตอบน้ำเสียงเบื่อหน่าย
“ครึ่งปีมานี้เราเจอกันแค่สามครั้งเองนะ เจียดเวลามาให้กันบ้างสิคุณหนูจี้”
วาดเอ่ยขอตรง
ๆ ก็เข้าใจอยู่ว่าอีกฝ่ายยุ่งเหยิงกับเรื่องเรียนมากขนาดไหน แต่แบบนี้มันก็เกินไป
“เลิกเรียกฉันว่าคุณหนูสักทีได้ไหม! ไม่ว่างก็คือไม่ว่าง แค่นี้แหละ…”
ปลายสายขึ้นเสียงและตัดการติดต่อไปแทบจะทันที
วาดถอนหายใจหนักหน่วง แต่เขาคิดว่าจะออกไปหาเธอที่บ้านซะเลย อย่างน้อยก็อยากจะบอกเรื่องนัดไปเที่ยวกับครอบครัวต่อหน้ามากกว่าบอกผ่านโทรศัพท์มือถือแบบนี้ จะได้ไม่มีปัญหาทีหลัง
ยุคนี้พอเด็ก ๆ เรียนจบในระดับพื้นฐานที่โรงเรียนแล้ว พ่อแม่ของพวกเขาจะต้องซื้อคลาสการศึกษาในรูปแบบวิดีโอคลิปไปศึกษากันต่อเอง นอกจากภาษาไทยและอังกฤษที่เป็นข้อบังคับว่าต้องเรียนแล้วนอกนั้นเด็ก ๆ สามารถเลือกจะศึกษาในวิชาที่ตัวเองชอบได้อย่างอิสระ ซึ่งส่วนใหญ่จะเลือกวิชารองไม่ว่าจะคณิต ฯ วิทย์ ฯ หรือประวัติศาสตร์ พวกเขาก็จะศึกษาแค่สายใดสายหนึ่งให้บรรลุสุดยอดกันไปเลยโดยไม่จำเป็นต้องเลือกเรียนสายอื่นให้เหนื่อยเปล่า จากนั้นสิ่งที่พวกเขาตั้งใจศึกษามาจะเป็นสายงานหลักในอนาคต
หากสนใจและชอบที่จะเรียนมากกว่าหนึ่งวิชานั่นก็ถือว่าไม่ผิดอะไร เพราะมันก็สามารถเป็นทางเลือกให้แก่เด็ก ๆ ต่อสายงานหลักในอนาคตได้เหมือนกัน
หากครอบครัวไหนไม่ใส่ใจบุตรหลานให้เคร่งศึกษา นั่นก็เป็นเรื่องของพวกเขาเพราะใครก็ช่วยไม่ได้
ช่วงเช้าวาดจึงใช้ไปกับการศึกษาประวัติศาสตร์ผ่านวิดีโอคลิปของอาจารย์ชื่อดังเฉพาะด้าน ซึ่งราคาคลาสเรียนของอาจารย์ท่านนี้ถือว่าแพงทีเดียว นอกจากวิชาประวัติศาสตร์แล้วเขายังได้ซื้อคลาสการสอนภาษาจีนและภาษาญี่ปุ่นมาศึกษาเพิ่มเติมด้วย เหตุผลนั้นง่าย ๆ เพราะนายวาดชอบมังงะของญี่ปุ่น ส่วนทางภาษาจีนก็มีเหตุผลไม่ต่างกันเท่าไร เนื่องจากช่วงนี้นิยายจีนกำลังภายในรวมถึงแนวจีนย้อนยุคมาแรงและฮิตมาก เขาเองก็อยากจะอ่านออกและไปไล่ตามอ่านมันทุกเรื่องที่ดัง
ๆ โดยไม่ต้องง้อกลุ่มปลิงที่นำมาแปลแถมเก็บเงินหน้าด้าน ๆ ให้เสียสุขภาพจิต
จวบกระทั่งสิบเอ็ดโมงกว่า
วาดในชุดเสื้อยืดสีขาวกับกางเกงยีนส์สีฟ้าก็เตรียมที่จะเดินทางไปบ้านแฟนสาวของตัวเอง เขานั่งลงสวมรองเท้าหนังหุ้มข้อสีน้ำตาล จากนั้นคว้าหมวกแก๊ปสีเดียวกันสวมศีรษะไว้ด้วย วาดเช็คสัมภาระในกระเป๋าเป้สีดำครู่หนึ่งก่อนสะพายหลังไว้พร้อมเดินออกจากห้องพักไป
วาดลงมาข้างล่างคอนโดและตรงไปยังรถเมอร์เซเดส
เบนซ์ของตัวเอง มันเป็นรถยนต์คันสีเทาแซมดำโหลดต่ำ เป็นหนึ่งในรุ่นที่ค่อนข้างเรียกได้ว่าแพงกระเป๋าฉีกสำหรับในยุคปัจจุบันนี้เลยก็ว่าได้
ชายหนุ่มโยนเป้สะพายไว้ที่เบาะข้าง
ๆ ก่อนขับรถตรงออกถนนใหญ่อย่างชำนาญ ใช้เวลาในการเดินทางถึงบ้านจี้โบแฟนสาวของเขาไม่นานเท่าไรนัก หากไม่ได้มุ่งไปใกล้กับสถานที่ท่องเที่ยวหรือสถานบันเทิงแล้วก็แทบจะไม่มีรถติดอย่างในอดีตให้เห็น วาดขับเลี้ยวเข้าไปยังหมู่บ้านของเหล่าผู้มีอำนาจทางการเงิน ผ่านป้อมรักษาความปลอดภัย ไม่ช้ารอบข้างก็ปรากฏบ้านหลังใหญ่โตมากมายในกรอบสายตา
วาดขับตรงเข้าไปกลางหมู่บ้านก่อนจะจอดรถไว้ข้างรั้วบ้านหลังหนึ่ง เขาลงไปกดกริ่งเรียกครั้งเดียวก็มีหญิงวัยกลางคนรีบออกมาเปิดประตูรั้ว วาดส่งยิ้มให้พลางกล่าวว่า
“สวัสดีครับป้าใส
คุณหนูตัวแสบอยู่ข้างในหรือเปล่า”
“คุณหนูจี้ไม่ได้ออกไปเที่ยวพักผ่อนกับคุณวาดหรอกเหรอคะ!?”
ป้าใสแสดงสีหน้าแปลกใจ
“หือ
เธอไม่อยู่บ้านเหรอครับ
เห็นบอกว่าวุ่นวายกับเรื่องเรียนจนไม่มีเวลาออกไปไหนนี่”
วาดหรี่ตากล่าว
หัวใจเขาเจ็บแปลบคล้ายประติดประต่อเรื่องราวได้เองราง
ๆ ไปแล้ว
“คุณหนูเธอออกไปเมื่อสองชั่วโมงก่อนแล้วค่ะ เห็นว่าจะไปเที่ยวแต่ป้าก็ไม่ทราบคุณหนูจะไปที่ไหน”
ป้าใสกล่าวยืนยัน
“ขอบคุณครับป้า”
วาดเอ่ยเสียงเบาก่อนจะเดินย้อนกลับไปขึ้นรถ เขานั่งสีหน้าตายด้านอยู่ครู่หนึ่งและพยายามปลอบตัวเองว่าอย่าคิดมากเกินไป แต่ฝ่ามือกับคว้าบุ๊กไทป์ขึ้นมาเปิดใช้งานด้วยสัญชาตญาณเพื่อจะค้นหาตำแหน่งของแฟนสาวก่อนแล้ว เมื่อทำการค้นหา ไม่นานก็ปรากฏตำแหน่งของเธอแสดงให้เห็นว่าอยู่ที่ห้างสรรพสินค้าไม่ไกลจากที่นี่ แต่บังเอิญเหลือเกินที่มันปรากฏตำแหน่งไอ้เทพเพื่อนรักของเขาอยู่ตรงนั้นด้วยในเวลานี้…
“นี่มันเรื่องบัดซบอะไรวะ!”
ชายหนุ่มขมวดคิ้วแน่นก่อนปิดบุ๊กไทป์ลงและรีบขับรถตรงไปยังห้างสรรพสินค้าอย่างรวดเร็ว
เขาต้องการเห็นด้วยตาตัวเองแล้วค่อยตัดสินเรื่องราวอีกที
ไม่ถึงสิบนาทีวาดก็นำรถเข้าไปในลานจอดของห้างเรียบร้อยแล้ว จากนั้นเขารีบวิ่งตรงเข้าไปที่ศูนย์อาหารโดยไม่สนสายตาใคร กระทั่งถึงที่หมายแต่วาดเลือกจะเดินอ้อมหลบขึ้นไปอีกชั้นหนึ่งเพื่อกวาดสายตาหาคนรู้จักทั้งสอง
“ไอ้สารเลว”
วาดกัดฟันกล่าว
ในที่สุดเขาก็พบเห็นเทพกับแฟนสาวของเขานั่งร่วมโต๊ะทานอาหารกันด้วยท่าทางสนุก วาดรวบกำฝ่ามือข้างที่ถือโทรศัพท์ไว้จนแทบคลั่ง พอดีกับที่มีชายคนหนึ่งกำลังเดินสวนไป วาดรีบขวางและเอ่ยว่า
“ฉันจ้าง 3,000 นายช่วยลงไปฟังสิ่งที่หนุ่มสาวหน้าตาดีคู่นั้นคุยกันแล้วมาบอกฉันได้ไหม!?”
ชายร่างสูงตาลุกวาว รีบกวาดสายตามองตามนิ้วที่ชี้ไปของวาดทันที บริเวณศูนย์อาหารเวลานี้มีคู่หนุ่มสาวไม่มาก ยิ่งหน้าตาดีทั้งคู่ด้วยแล้วยิ่งน้อยเข้าไปใหญ่
“นายพูดจริงเหรอ”
“ถ้าครบห้านาทีแล้วนายกลับขึ้นมาให้ฉันโอนเงินได้เลย!”
เห็นท่าทางจริงจังของวาด ชายร่างสูงก็รีบพยักหน้าตอบรับและเดินลงไปที่ศูนย์อาหารโดยไม่ต้องเสียเวลาคิด พอวาดเห็นชายคนนั้นนั่งอยู่โต๊ะข้าง ๆ
เป้าหมายแล้วจึงรีบยกโทรศัพท์ขึ้นมากดโทรออก
“มีอะไรวะไอ้วาด”
เสียงของเทพ ชายหนุ่มหน้าตาหล่อเหลาดังตอบกลับมา
“ฉันมีอะไรจะถามหน่อย กิลด์ที่นายกับจี้แฟนฉันสังกัดอยู่ชื่ออะไรวะเพื่อน”
วาดพยายามกล่าวเป็นปกติและจ้องลงไปที่คนทั้งสองตาไม่กะพริบ
“วังเทวาห้วงสมุทรน่ะ นายคงรู้จักใช่หรือเปล่า”
เทพตอบด้วยท่าทางขบขัน ส่วนหญิงสาวตัวเล็กที่นั่งอยู่ฝั่งตรงข้ามกำลังยกฝ่ามือปิดปากกลั้นหัวเราะ
ดูเหมือนคนทั้งสองจะดูถูกเขาเสียเหลือเกิน
“ต้องรู้จักอยู่แล้ว เป็นถึงกิลด์ใหญ่อันดับสามเลยไม่ใช่หรือไง…ว่าแต่ตอนนี้นายอยู่ไหนวะ”
วาดตอบและถามกลับคล้ายไม่มีอะไรเกิดขึ้น
“ฉันออกมาเที่ยวห้างกับเพื่อนในเกมน่ะ พวกเรากำลังไปได้ดี ถ้าชนะการแข่งขันในลีคเพลเยอร์หน้าใหม่อีกสามเดือนข้างหน้าล่ะก็พวกเราคงมีหวังได้ติดเป็นนักกีฬาอีสปอร์ตร่วมกับเพลเยอร์ระดับสูงของวังเทวาห้วงสมุทรแน่
ๆ แล้วนายเป็นไงบ้าง เห็นว่าเขตจงหยางมีภารกิจลับโผล่ที่ป่ากลืนวิญญาณด้วยนี่ ตอนนี้เพลเยอร์ส่วนใหญ่เขาเปลี่ยนเป้าหมายไปที่เมืองโบราณที่เพิ่งปรากฏมาแทนแล้ว ฉันแนะนำให้นายรีบไปค้นหาภารกิจลับให้ได้ก่อนที่คนอื่นจะย้อนกลับไปจะดีกว่า เอ่อ
นายเพิ่งเริ่มเล่นมาคืนเดียวเองนี่หว่า
คงฝ่าเข้าไปในป่าไม่ไหวหรอกมั้ง ขอโทษทีว่ะ ฮ่า ฮ่า ฮ่า”
แววตาที่จับจ้องลงไปของวาดสั่นไหว ชายหนุ่มทราบอยู่แล้วว่าแฟนสาวกับเพื่อนรักของเขาเริ่มเล่นเกมพร้อมกัน แรก ๆ ยังพอได้รับรู้เรื่องราวที่คนทั้งสองนำมาเล่าให้ฟังอยู่บ้าง แต่หลังจากนั้นพวกเขาก็เริ่มห่างเหินออกไปเรื่อย
ๆ กระทั่งถึงขั้นปิดบังว่ากำลังออกมาเที่ยวกันสองคนอยู่คาตาอย่างในตอนนี้
“แค่นี้ก่อนว่ะ
เดี๋ยวฉันคงต้องพยายามมากกว่าเดิมเพื่อไล่ตามพวกนายให้ทันซะแล้ว”
วาดอดทนกล่าว พออีกฝ่ายตอบรับกลับมาเขาก็ขว้างโทรศัพท์กระแทกใส่เสาจนแตกหักสภาพดูไม่น่าจะใช้การได้อีก วาดทรุดร่างลงนั่งพิงกับรั้วกั้นเมินเฉยสายตาแตกตื่นของผู้คนรอบ
ๆ
“กิลด์ใหญ่อันดับสามงั้นเหรอ…”
ความคิดเห็น