ทะลุฟ้า ป่วนยุทธภพ (สถานะ จบไตรภาคแรก)

ลำดับตอนที่ #115 : ไม่พ้นเรื่องลากตีน

ยี่ฟงส่ายหน้าพลางอมยิ้ม  ทำไมเขาจะไม่รู้ว่าอีกฝ่ายมีจุดประสงค์แรงกล้าอะไร ทุกอย่างดำเนินมาจนถึงตอนนี้ยิ่งทำให้มั่นใจว่าสถานการณ์ของวังฟีนิกซ์เยือกแข็งไม่ค่อยดีอย่างมาก พวกเธอต้องการการสนับสนุนทุกช่องทางเท่าที่จะควานหาได้ในช่วงเวลาอันบีบคั้นและบัดนี้เซียนหิมะยิ่งกว่าถูกหวย โอกาสที่กิลด์ใหญ่อื่นไม่มีทางได้รับมาง่าย ๆ ก็คือการนัดหมายเจรจาหารือกับบุคคลผู้ที่มีอัจฉริยภาพถึงขั้นบุกเบิกฝ่าดันเจี้ยนลับไปได้ด้วยลำพังตัวคนเดียว พวกเขายังไม่รู้แม้กระทั่งตัวจริงของสุดยอดฝีมือคนนี้ กลายเป็นว่าวังฟีนิกซ์เยือกแข็งของเธอนำหน้าอีกสี่กิลด์ใหญ่อยู่ก้าวสองก้าวได้เป็นครั้งแรก

ยี่ฟงไม่แปลกใจเลยจริง ๆ ที่หญิงสาวตรงหน้าจะกล่าวออกมาเช่นนี้   คนเก่งไม่ว่าจะอยู่ในจุดตกต่ำสักแค่ไหนก็ยังได้รับการใส่ใจและให้ความสำคัญมากเป็นสัจธรรมอยู่แล้ว

เฉกเช่นเดียวกัน  เซียนหิมะไม่มีทางชวดโอกาสงาม ๆ แบบนี้เด็ดขาด และเธอกำลังจะใช้โอกาสที่ได้มาเพื่อสานสัมพันธ์กับยี่ฟงต่อในระยะยาว

“ตามใจเธอแล้วกัน”  ยี่ฟงไม่ไปคิดมาก  หลังจากตอบเธอแล้วก็มานั่งอนุมัติคำขอเข้าร่วมพันธมิตรอีกชุดใหญ่ กลุ่มกิลด์เหล่านี้ล้วนเป็นกิลด์สาขาลับ ๆ ของวังฟีนิกซ์เยือกแข็งทั้งสิ้น แม้ไม่ใช่กิลด์ในระดับพรรคแต่เมื่อรวมเข้าด้วยกันจำนวนมาก  พละกำลังก็ไม่ยิ่งหย่อนไปกว่าใคร

พริบตาในหน้าต่างจัดลำดับสมาพันธ์ก็ปรากฏระลอกคลื่นลูกใหญ่  สมาพันธ์มังกรซ่อนแห่งฉางอานก่อนหน้านี้รั้งอยู่ท้ายตารางไร้ผู้คนสนใจแต่เมื่อพวกเขาจู่ ๆ จำนวนพันธมิตรพลันพุ่งทะยานทะลุปรอทแซงขึ้นมารวดเดียวจนอยู่ในหัวตาราง  ฐานะย่อมไม่เหมือนเดิมอีก  ทุกฝ่ายพากันจับจ้องมองมาเป็นตาเดียว   สมาพันธ์แถวหน้าห้าลำดับแรกย่อมเป็นของห้ากิลด์ใหญ่เอง   เป็นเพราะต้องรักษาเกียรติของกิลด์ใหญ่ที่อยู่ในระดับวัง   กองกำลังหลักจึงไม่ได้โยกย้ายไปอยู่ใต้สมาพันธ์ในสังกัดของตนแต่อย่างใด   เหล่าเพลเยอร์จึงเรียกสมาพันธ์พวกนี้ว่าแหล่งรวมกิลด์สาขา  แต่ในมุมมองนักกีฬาแล้วอย่างไรการก่อตั้งสมาพันธ์ก็ช่วยให้การรวบรวมกิลด์สาขาเป็นเรื่องง่ายไม่เปลืองแรง   ทุกกิลด์ใหญ่ภายในวงการอาชีพหรือกระทั่งกลุ่มคนที่คาดหวังจะเดินบนเส้นทางอีสปอร์ต จะต้องมีการริเริ่มก่อสร้างรากฐานสมาพันธ์ไว้แต่เนิ่น ๆ เป็นของตนเองกันอย่างน้อยคนละหนึ่งสมาพันธ์

แต่หากมีฝ่ายหนึ่งฝ่ายใดสามารถปลดล็อคตำแหน่งเสาหลักทั้งห้าได้ สมาพันธ์นั้นย่อมมีฐานะไม่ต่ำต้อยไปกว่ากิลด์ใหญ่ในระดับวังอีกต่อไป  พวกเขาอาจสูงกว่าขั้นหนึ่งด้วยซ้ำ แต่ในปัจจุบันเป็นได้เพียงแค่แหล่งรวมตัวของกิลด์ สาขาเท่านั้นเพราะเรื่องอย่างเช่นการปลดล็อคเสาหลักทั้งห้ายังไม่เคยเกิดขึ้นจริงมาก่อน

ถัดลงมาจากห้าลำดับแรก  ก็จะเป็นสมาพันธ์ในเครือของเหล่ากิลด์ที่เข้าแข่งขันชิงดีชิงเด่นกันเป็นประจำ  พวกเขาทั้งหกกิลด์เป็นรองเพียงห้ากิลด์ใหญ่เท่านั้น

เนื่องจากเกมเพิ่งเปิดมาเพียงสี่ปีกว่า   การแข่งขันในวงการอีสปอร์ตจึงมีเจ้าประจำที่น่าจับตามองอยู่แค่สิบทีม ส่วนทีมหน้าใหม่ที่มาพร้อมกับความมั่นใจและคาดหวังสูงต่างถูกบดขยี้เละจนแตกสลายไปตาม ๆ กัน  กลายเป็นว่าทีมใหม่ผ่านมาแล้วก็จากไปดุจกระแสลมที่ไม่มีอะไรแน่นอน

สมาพันธ์มังกรซ่อนแห่งฉานอานขณะนี้รั้งอยู่หัวตารางในลำดับที่สิบห้า แต่นี่เป็นเพียงการรวบรวมพันธมิตรเข้ามาเฉย ๆ โดยยังไม่ทันจะได้ลงมือเคลียร์ภารกิจสั่งสมคะแนนกันเลยสักเศษเสี้ยว แค่จำนวนพันธมิตรตอนนี้กลับมากพอจะถีบสมาพันธ์อื่นที่เหลือไว้ข้างใต้ได้แล้ว ไม่ต้องสงสัยเลยว่าเมื่อสมาพันธ์มังกรซ่อนแห่งฉางอานเริ่มเก็บคะแนน  พวกเขาก็จะเป็นรองแค่สิบลำดับแรก  เข้าสู่เส้นแบ่งระดับการแข่งขันระหว่างนักกีฬาอาชีพกับเพลเยอร์เกมออนไลน์!

“สิบสามกิลด์เชียว  กิลด์ใหญ่อีกสี่กิลด์มีกองกำลังลับแบบเธอไหม” ยี่ฟงอึ้งนิด ๆ พลางถามกลับ

“ไม่มีหรอก แต่ถ้ามีคงไม่เกินสองสามกิลด์  พวกเขามัวแต่จับกิลด์สาขาแถวหน้ายัดเข้าสมาพันธ์อย่างเอิกเกริกเพื่อใช้แสดงแสนยานุภาพกดข่มกันในด้านจิตวิทยา  เป็นการโปรโมทหวังเรียกแรงสนับสนุนจากเพลเยอร์ทั่ว ๆ ไปให้เข้าร่วม ซึ่งสำหรับฉันมันไร้สาระมาก” เซียนหิมะตอบตามจริง  กิลด์ใหญ่อย่างพวกเธอไม่จำเป็นต้องไปทำอะไรแบบนั้นเลยจริง  ๆ   เพราะถึงเวลาเหล่ากิลด์ใหญ่ก็จะมีพื้นที่ให้แสดงศักยภาพที่แน่นอนกันอยู่แล้วบนเวทีการแข่งขันอันดุเดือดเลือดพล่าน  ส่วนพวกสมาพันธ์ที่ก่อตั้งขึ้นมาจากเพลเยอร์ธรรมดาไม่ได้มีแรงดึงดูดอะไรนัก  แค่มีสองสามกิลด์เข้าร่วมพันธมิตรกับพวกเขายังถือว่ามากเกินจะใฝ่ฝันแล้วด้วยซ้ำ

“มังกรซ่อนแห่งฉางอาน?”

“ฉางอานหรือ ท่านเองก็เพิ่งก่อตั้งสมาพันธ์ไม่นาน ใกล้เคียงช่วงเวลาการปรากฏของมหานครฉางอานซะด้วย  มีอะไรเกี่ยวข้องเชื่อมโยงกันไหมครับ”

“เอ๊ะ!  นี่มันกลุ่มนักฆ่าของมัจจุราชซานจื่อ  ตอนนี้ถูกเปลี่ยนเป็นหน่วยลับสายดาร์ค?”

“กลุ่มนักฆ่ากลุ่มนี้ดูเหมือนฐานของพวกมันจะอยู่ไม่ไกลจากมหานครฉางอานด้วยนะ   ฉันว่าสมาพันธ์นี้ต้องเกี่ยวข้องกับพื้นที่ของดันเจี้ยนใหม่แน่ ๆ”

ข้อความบนหน้าต่างสนทนาเฉพาะของสมาพันธ์เด้งขึ้นมาถี่ยิบส่วนใหญ่คือสมาชิกจากกิลด์สาขาของวังฟีนิกซ์เยือกแข็งทั้งสิบสามกิลด์ที่เพิ่งเข้าร่วมมาฝอยกันเอง การสันนิษฐานของพวกเขาไม่ได้หวือหวาอะไร เป็นพื้นฐานที่ทุกคนย่อมสมควรคิดคำนึงเชื่อมโยงกันเอาเองได้ทั้งนั้น   คำใบ้ฉางอาน  มากพอจะใช้เป็นฐานถกเถียงความเป็นมาของสมาพันธ์มังกรซ่อนแห่งฉางอานซึ่งมีคำคำนี้อยู่ในชื่อด้วยแล้วจริง ๆ  กระทั่งมีเพลเยอร์คนหนึ่งโพล่งออกมาว่า

“ท่านจ้าวสมาพันธ์หรือว่าท่านจะเป็นบุคคลลึกลับที่บุกเบิกฝ่าดันเจี้ยนใต้มหานครฉางอานสำเร็จได้ด้วยตัวคนเดียวผู้นั้น?  แม้แต่กองกำลังหลักจากห้ากิลด์ใหญ่ยังต้องพ่ายแพ้”

ข้อความต่อจากนั้นล้วนเป็นไปในทิศทางเดียวกัน   ข้อกังขาไม่ชอบใจที่แต่เดิมเริ่มผุดเกิดในจิตใจหลังจากกิลด์ของตนเข้าร่วมพันธมิตรกับสมาพันธ์ไร้ชื่อเริ่มลดน้อยถดถอย ต่างพากันชื่นชมยินดีแทนอย่างน่าตาเฉยให้แก่สุดยอดฝีมือผู้เหยียบย่ำห้ากิลด์ใหญ่ไว้ได้เป็นครั้งแรกในประวัติศาสตร์ วีรกรรมนี้ยิ่งใหญ่สมเกียรติให้เพลเยอร์ทั่วไปได้ใฝ่ฝันยกย่องกันเองแล้ว

ยี่ฟงที่เหลือบตาอ่านผ่าน ๆ พลันเกาหัว   ดูเหมือนสมาชิกทั่วไปจากกิลด์สาขาจะไม่ได้รู้เรื่องอะไรเลย   เหล่าหัวหน้ากิลด์ทั้งสิบสามสาขาเองบัดนี้กำลังร่ำไห้น้ำตานองหน้า  มีแต่คนระดับผู้นำที่ทราบความเป็นมาภายใต้คำสั่งการให้เข้าร่วมพันธมิตรกับสมาพันธ์ของยี่ฟง  พวกเขาไม่มีใครคัดค้านหรือกังขา ขณะนี้จำต้องถูกข้อความของสมาชิกในสังกัดพวกตนถ่มถุยใส่ห้ากิลด์ใหญ่ทิ่มแทงนัยน์ตาอย่างไม่อาจแก้ไขอะไรได้ เหล่าหัวหน้ากิลด์สาขากับคนสนิทได้แต่ร้องครางในใจ

เฮ้ย!  หนึ่งในห้ากิลด์ใหญ่วังฟีนิกซ์เยือกแข็งคือแม่ผู้ให้กำเนิดสิบสามกิลด์ของพวกเอ็งนะโว้ย

“อย่าไปแขวะห้ากิลด์ใหญ่เลย  พวกเขาเพียงโชคไม่ดี  กว่าจะเดินทางมาถึงจุดหมายฉันก็ฝ่าดันเจี้ยนใหม่ไปได้ระยะหนึ่งแล้ว ถ้าเปลี่ยนเป็นเริ่มต้นบุกเบิกใหม่พร้อมกัน ฉันแค่คนเดียวยังไงก็สู้ไม่ไหว” ข้อความนี้ยี่ฟงเป็นคนพิมพ์ส่งตอบกลับทุกคนไปเอง   เขาเข้าใจความรู้สึกของเหล่าหัวหน้ากิลด์สาขาทั้งสิบสามคนดี   รู้ความจริงทุกอย่างแต่ไม่สามารถบอกกล่าวออกไปได้นับว่าน่าหงุดหงิดรำคาญใจเหมือนมีอะไรมาตำเท้าและดึงไม่ออกอยู่อย่างนั้น  ยี่ฟงที่ไม่คิดปกปิดตัวตนย่อมพูดแทนใจเชื่อมทั้งสองฝ่ายได้ ซึ่งการแสดงฐานะของเขาก็ไม่ได้มีเป้าหมายเล็ก ๆ เพียงเพื่อสยบเพลเยอร์จอมฝอยในสังกัดเท่านั้นแต่เขายังต้องการเรียกตีนจากกิลด์ใหญ่ให้มุ่งมาที่ตนอีกด้วย นี่จึงจะเป็นเป้าหมายแท้จริงของชายหนุ่มเสียมากกว่า

เหล่าหัวหน้ากิลด์สาขาทั้งสิบสามที่ปิดปากเงียบงันมาตลอดพลันได้รับบันไดทางลง  ต่างพากันเสนอหน้าพิมพ์ข้อความส่งกันออกมาบ้าง  ส่วนใหญ่เป็นการกล่าวชมเชยจ้าวสมาพันธ์ที่ไม่นำเอาชัยชนะเพียงครั้งสองครั้งมากดข่มใคร  และยังรีบส่งข้อความช่วยเหลือวังฟีนิกซ์เยือกแข็งของพวกตนโดยอ้อม  สุดท้ายเหล่าเพลเยอร์ทั่วไปในสังกัดทุกคนก็ยอมโอนอ่อน  แต่ก็มีบ้างที่ตื่นเต้นกับฐานะของยี่ฟงจนยกย่องสรรเสริญเขา   ถึงกับส่งข้อความค่อนแคะห้ากิลด์ใหญ่ประมาณว่าถ้ายี่ฟงมีกองกำลังฝีมือดีคอยสนับสนุนเหมือนกันบ้างย่อมมีดีพอจะเหนือกว่า ไม่ต้องพูดถึงในด้านเลเวลตัวละครยี่ฟงที่อ่อนกว่าหลายช่วงชั้นในตอนนี้

“ตัวตนของนาย  ไม่นานต้องถูกกระจายออกไปจนถึงหูพวกกิลด์ใหญ่   แบบนี้จะดีหรือ”  เซียนหิมะถามขึ้นมาหลังจากได้รับข้อความจากผู้นำกิลด์สาขา

“เป็นแผนเรียกตีนเบี่ยงเบนความสนใจไงล่ะ   ฉันคิดว่าอย่างน้อยสามในสี่กิลด์ใหญ่ต้องพุ่งเป้ามาระบายความแค้นกับฉันแน่หรือบางทีอาจสนใจต้องการดึงตัวฉันให้เข้าร่วมกับพวกเขาก็คงมากันหมด ถึงเวลานั้นจุดสนใจของทุกคนจะไม่ได้อยู่ที่การแข่งขัน Survival war แล้ว  เพราะพวกเขาเชื่อมั่นจนเกินไป  แผนที่เตรียมไว้ก็อาจยังคงเดิมไม่ได้รับการปรับแก้เท่าที่ควรนัก  ฝ่ายเราซึ่งยังไม่ค่อยลงตัวจะได้เพิ่มโอกาสคว้าชัยชนะขึ้นมาอีกสักหนึ่งถึงสองเปอร์เซ็นต์ เธอคิดว่าไงล่ะ” ยี่ฟงอธิบายโดยละเอียดกระทั่งเอ่ยถามความคิดเห็นหญิงสาวที่อ้ำอึ้งอยู่ข้าง ๆ

“เพิ่มมาแค่นี้จะมีความหมายด้วยหรือ” เซียนหิมะไม่รู้จะกล่าวอะไรแล้วจริง ๆ

“ฮ่า ฮ่า  เพิ่มมาก็ยังดีกว่าลดไม่ใช่หรือไง  ฉันคว้ามันหมดนั่นแหละถ้าช่วยให้มีโอกาสชนะเพิ่มขึ้นอีกสักนิด  จะน้อยแค่ไหนไม่สำคัญ  สิ่งสำคัญคือมันค่อย ๆ เพิ่มขึ้นต่างหาก  อิอิ” ยี่ฟงแสดงความเห็นอย่างตรงไปตรงมา  ขณะนี้เซียนหิมะเริ่มรู้สึกว่าร่างกายหดเล็กลงเรื่อย ๆ ส่วนอีกฝ่ายตัวใหญ่ทะลุเมฆไปแล้ว

เธอเข้าใจแล้วว่าเหตุใดชายหนุ่มคนนี้ถึงพิเศษนัก   ความสามารถอันโดดเด่นที่สุดของเขาอาจไม่ใช่ในด้านพลังฝีมือการต่อสู้แต่สมควรเป็นสติปัญญาคิดอ่านที่ละเอียดยิบทุกขั้นตอนเสียมากกว่า  เธอชักอยากจะเห็นตั้งแต่ตอนนี้แล้วว่ายี่ฟงจะแผ่ฝ่ามือกว้างไกลพอให้ศัตรูจากทุกด้านวิ่งวนไปได้นานแค่ไหน และจุดที่ทุกฝ่ายเริ่มตระหนักถึงความเป็นจริงในข้อนี้จะแสดงสีหน้ากันออกมาอย่างไร  คงได้มีคนกระอักเลือดหรือวิญญาณหลุดลอยกันบ้างล่ะคราวนี้!