คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #116 : แยกย้ายเดินทาง
“ว่าแต่นายมีกำลังคนมากพอแล้วหรือยัง การปลดล็อคเสาหลักทั้งห้าเต็มไปด้วยข้อจำกัดและกฎมากมาย ฉันแนะนำให้นายใช้หัวหน้ากิลด์สาขาทุกคนในภารกิจครั้งนี้ด้วยจะดีกว่านะ” เซียนหิมะรวบรวมสติกลับคืนมาและดึงบทสนทนาเข้าประเด็นสำคัญอีกครั้ง
“หนึ่งในข้อจำกัดที่ว่าคือกลุ่มคนที่จะเคลียร์ภารกิจพิเศษของสมาพันธ์ได้ต้องมีตำแหน่งผู้อาวุโสหรือตำแหน่งที่สูงกว่า เกิดต้องใช้หัวหน้ากิลด์สาขาทั้งสิบสามคนจริงจะยุ่งยากเปล่า
ๆ ” ยี่ฟงทำการบ้านมาดี เขาไม่คิดจะเลื่อนตำแหน่งใครขึ้นมามั่วซั่วแต่แรกแล้ว ยิ่งตำแหน่งอาวุโสมีจำกัดเพียงแค่เก้าที่นั่ง จะยกให้ใครสักคนยังต้องคิดแล้วคิดอีก หากทำเล่น ๆ อย่างถอดเข้าถอดออก ความขลังของตำแหน่งนี้คงได้เสื่อมถอยกันพอดี
เซียนหิมะเหมือนเพิ่งจะนึกออก เป็นเพราะเธอไม่ได้วุ่นวายกับสมาพันธ์มากนักจึงคิดง่ายเกินไป ตำแหน่งสูง ๆ ภายในสมาพันธ์คือสัญลักษณ์แทนขุมกำลังความแข็งแกร่งหลัก ทั้งยังเป็นหน้าเป็นตาและสิ่งค้ำจุนยึดเหนี่ยวให้แก่สมาชิกพันธมิตรทั้งหมดอย่างแท้จริง การที่คิดจะถอดตำแหน่งอาวุโสเข้า ๆ ออก ๆ ไม่นับเป็นเรื่องดี มันไม่ต่างอะไรไปจากการบ่อนทำลายฐานความเชื่อมั่นของสมาชิกพันธมิตรลงเรื่อย ๆ
ด้วยมือตัวเอง
ภารกิจพิเศษเฉพาะสมาพันธ์โหดเหี้ยมอำมหิตติดอันดับต้น
ๆ เลยทีเดียว เพียงข้อจำกัดที่ยี่ฟงเพิ่งจะกล่าวถึงก็หมายความว่า หนึ่งจ้าวสมาพันธ์กับอีกเก้าอาวุโสที่นับรวมเป็นสิบคน พวกเขากลุ่มนี้จะต้องรับผิดชอบภารกิจพิเศษแค่กลุ่มเดียวเพราะปัจจุบันไม่มีตำแหน่งไหนภายในสมาพันธ์ที่จะสูงไปกว่าสองตำแหน่งนี้อีกแล้ว พวกเขาไม่อาจขอความช่วยเหลือจากใครเพิ่มได้อีก มีแต่ต้องเคลียร์ภารกิจปลดล็อคเสาหลักทั้งห้าให้สำเร็จจึงจะปรากฏตำแหน่งที่สูงกว่าอาวุโสเพิ่มเข้ามา ยุคแห่งการบุกเบิกเริ่มต้นเช่นนี้ย่อมยากลำบากสุดแสนพร้อมเต็มไปด้วยการท้าทายขีดจำกัดไม่สิ้นสุด
แต่เมื่อคุณกัดฟันหลั่งโลหิตจนสามารถข้ามผ่านพ้นจุดสำคัญจุดนี้ไปได้ ผลตอบแทนกับเส้นทางไปต่อที่ได้รับการแผ้วถางพอสมควรแล้วจะทำให้ก้าวหน้าไปได้รวดเร็วยิ่งกว่าเดิมเป็นเท่าทวี
เพียงครอบครองหนึ่งในตำแหน่งเสาหลักทั้งห้าได้ ภารกิจพิเศษหลังจากนี้จะเคลียร์สำเร็จได้หรือไม่ก็ขึ้นอยู่กับเวลาเพียงเท่านั้นแล้วจริง
ๆ
“แล้วนายมีแผนจะจัดการปัญหานี้ยังไง” เซียนหิมะถามน้ำเสียงค่อนข้างกังวล
“ตอนนี้สมาพันธ์ของฉันมีผู้อาวุโสสูงสุดหนึ่งคน แต่ถ้าแผนทุกอย่างราบรื่นจะมีอีกสามคนมานั่งลงยังตำแหน่งอาวุโสเพิ่มอีก สำหรับภารกิจครั้งนี้ฉันว่าพอแล้ว” ยี่ฟงตอบอย่างไม่ทุกข์ร้อน แต่เซียนหิมะไม่ใช่ พอได้ฟังแล้วเธอถึงกับกลืนไม่เข้าคายไม่ออกทันที
“นายจะบอกว่ามีกันแค่ห้าคนก็เคลียร์ภารกิจปลดล็อคเสาหลักทั้งห้าได้แล้วงั้นหรือ?”
“คิดว่างั้นนะ” ยี่ฟงตอบพลางแสดงอาการครุ่นคิด หญิงสาวพลันหมดคำพูดไปชั่วขณะ ยี่ฟงสังเกตเห็นอีกฝ่ายเหมือนมีอะไรในใจซึ่งเขาพอจะคาดเดาออก เปลี่ยนเป็นจริงจังและเอ่ยอธิบายเพิ่มเติมขึ้นว่า “ลองคิดดูนะ การจะเคลียร์ภารกิจปลดล็อคเสาหลักทั้งห้าในครั้งแรกเป็นเรื่องยากจริง ๆ ส่วนหนึ่งเพราะข้อจำกัดด้านกำลังพล แต่ว่าหลังจากนั้นล่ะ
เมื่อได้มาเสาหนึ่งแล้วมอบตำแหน่งให้กิลด์พันธมิตร การเคลียร์ภารกิจปลดล็อคเสาหลักต้นที่สองจะตัดปัญหาด้านกำลังพลไปได้แทบจะทันที พวกเราจะมีจำนวนเพิ่มขึ้นมหาศาล นับแค่ตำแหน่งอาวุโสในระดับวังอย่างพวกเธอแล้วก็มีมากถึงยี่สิบห้าคน ตำแหน่งองครักษ์อีกสอง
และยังมีตำแหน่งเสนาธิการอีกหนึ่งคนด้วย”
ฟังมาถึงตรงนี้เซียนหิมะเหมือนคิดอะไรได้ลาง
ๆ กระทั่งเป็นยี่ฟงที่เฉลยออกมาว่า
“ลองคิดกลับกันดูแล้วเป็นไปได้ว่าการจะเคลียร์ภารกิจปลดล็อคเสาหลักทั้งห้าปัญหานั้นไม่ได้อยู่ที่กำลังพลแต่แรก ฉันถึงค่อนข้างมั่นใจไงล่ะว่าจำนวนคนแค่ห้าก็น่าจะพอแล้วคงต้องไปดูอีกทีว่าดีเทลในตัวภารกิจทุกขั้นตอนจริง
ๆ แล้วมันซุกซ่อนปัญหาแท้จริงไว้ตรงไหนกันแน่”
“…” เซียนหิมะบัดนี้เริ่มนับถือยี่ฟงขึ้นมาบ้าง จุดเล็ก ๆ น้อย ๆ แบบนี้เขาก็ยังมองออกอีกหรือ
คนทั้งสองยังไม่ทันจะได้สนทนาอะไรกันไปมากกว่านี้ มังกรเฒ่าที่ไม่มีข่าวมาสักพักพลันติดต่อถึงยี่ฟง ขณะที่หญิงสาวข้างกายปิดปากเงียบเลือกจะพยักหน้าให้โดยไม่พูดอะไรแทรกขึ้นมาอีก
“ว่าไงลุง ไปได้สวยอย่างที่โม้ไว้หรือเปล่า ฮ่า ฮ่า ฮ่า” รับสายปุ๊บก็กวนตีนนำไปก่อนเลย
“เหอะ
ๆ ทางข้ามีปัญหานิดหน่อยว่ะ” คำตอบของมังกรเฒ่า เห็นได้ชัดว่าไม่มีอารมณ์เล่น
“ฉันพอจะช่วยอะไรได้ไหม” ยี่ฟงเองก็จริงจังขึ้นมาทันที หากสูญเสียกำลังพลยอดนักสู้อย่างสามมารเฒ่าไป แผนการที่เขาเรียบเรียงไว้มีหวังล้มครืนลงมาแน่
“ที่ข้าติดต่อมาก็เพราะเรื่องนี้นั่นแหละ เอ็งช่วยมาที่เมืองหังโจวเดี๋ยวนี้เลย” ชายชราตอบด้วยน้ำเสียงอ่อนล้าประดักประเดิด
“หือ พวกลุงกำลังเล่นอะไรกันอยู่หรือเปล่าเนี่ย” ยี่ฟงจับพิรุธได้จากน้ำเสียง รู้สึกว่าการมาขอความช่วยเหลือครั้งนี้ไม่ธรรมดาอย่างเช่นชักชวนไม่สำเร็จจนต้องให้เขาไปคุยด้วยตัวเอง แต่การเจรจาชักชวนมีความเป็นไปได้ทว่าพ่วงเงื่อนไขประหลาดพิกลติดมาด้วยเสียมากกว่า
“เอ็งต้องการพลังของสามมารเฒ่าไหมล่ะวะ ตอนนี้ข้าทำอะไรไม่ได้แล้ว จะสำเร็จหรือไม่สำเร็จก็ขึ้นอยู่กับเอ็งแล้วไอ้ตัวแสบ แค่นี้นะ!” มังกรเฒ่าไม่พิรี้พิไร ความอดทนของเขาถึงขีดจำกัดแล้ว…
เซียนหิมะยืนอยู่ใกล้พอจะได้ยินเสียงจากปลายสาย เธอตอนนี้แววตาส่องประกายคาดหวังสูงสุด ก่อนหน้านี้ยี่ฟงบอกจะมีอีกสามคนมารับตำแหน่งอาวุโส ดูเหมือนสามคนที่ว่าจะเป็นถึงตำนานแห่งหังโจว สามมารเฒ่า? เรื่องนี้หากแพร่งพรายออกไปทั่วทั้งยุทธภพไม่ว่าจะชนชั้นไหนต้องแตกตื่นตะลึงลาน ความสนใจที่พุ่งมายังสมาพันธ์มังกรซ่อนแห่งฉางอานอยู่แล้วย่อมกลายเป็นว่าทีนี้ แวดวงอาชีพก็จะจับตาให้ความสำคัญกับการเติบโตของม้ามืดทมิฬที่น่าประหวั่นพรั่นพรึงนี้ด้วยเฉกเช่นเดียวกัน
การปรากฏขั้วอำนาจใหม่ขึ้นมา มีฝ่ายไหนบ้างจะทำเป็นทองไม่รู้ร้อนได้อยู่อีก?
“นะ…นายต้องปิดเรื่องนี้ให้สนิท
เข้าใจใช่ไหม?” เซียนหิมะรีบกำชับชายหนุ่มจนแทบไม่เป็นคำ
“เรื่องอะไรหรือ” ยี่ฟงถามกลับหน้าซื่อตาใส แต่จากการเคลื่อนไหวอันไม่ธรรมดาที่เขาเตรียมการไว้ทั้งหมดนี้ การแสดงออกเมื่อครู่คงเป็นแค่การหยอกเธอเล่น ๆ
ซะมากกว่า แต่ถึงอย่างไรเซียนหิมะก็ยังอดคิดที่จะกล่าวกำชับให้เข้าใจตรงกันเสียไม่ได้ กลายเป็นว่าเธอผวา กลัวว่าหมากตาต่อไปที่ชายหนุ่มคิดจะเดินอาจทำให้ทั้งเธอและทั้งยุทธภพต้องสั่นสะท้าน! อึกทึกครึกโครมอย่างไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อนจนทิศทางสับสนปรวนแปรยากจะควบคุม
“เรื่องของสามมารเฒ่าหังโจว จะให้คนนอกรู้ไม่ได้เด็ดขาดว่าพวกเขากำลังจะเข้าร่วมมาเป็นกำลังหลักให้พวกเรา อย่างน้อยที่สุดต้องไม่แพร่งพรายออกไปรวดเร็วเกินไปนัก”
ยี่ฟงเหมือนเพิ่งตามทัน พลันหัวเราะเล็กน้อยตอบกลับไปว่า “ฉันต้องระวังเรื่องนี้อยู่แล้วไม่ใช่หรือไง
คุยกันมานานขนาดนี้เธอคิดว่าฉันจะสะเพร่าเดินหมากฆ่าตัวตายได้จริง ๆ
น่ะหรือ ฮ่า ฮ่า ฮ่า”
เซียนหิมะยิ้มจืดเจื่อนเผยสีหน้าอับอายอย่างหาได้ยากยิ่ง ดูท่าเธอจะวิตกกังวลจนเกินไป
ต่อหน้าชายหนุ่มคนนี้ทุกสิ่งเหมือนตกอยู่ในการควบคุมของเขาอย่างสิ้นเชิง เซียนหิมะจึงรีบปรับเปลี่ยนสีหน้าวางมาดให้สมกับเป็นท่านจ้าววังผู้ยิ่งใหญ่ จากนั้นค่อยกล่าวว่า “ฉันจะลองเชื่อนายดูสักครั้ง คงรู้ใช่ไหม
แผนการของนายมันสุ่มเสี่ยงและไม่แน่นอนอย่างมาก ขอเพียงมีจุดใดจุดหนึ่งเกิดผิดพลาดขึ้นมา แผนการทั้งหมดก็จะรวนทันทีเช่นกัน พยายามเข้าล่ะแล้วทางฉันจะรอฟังข่าวดีจากนาย”
ยี่ฟงไม่ตอบแต่เลือกจะพยักหน้าให้ยิ้ม
ๆ ขณะเซียนหิมะเหมือนจะทนเก๊กหน้าต่อไปไม่ไหวจึงรีบขอตัวเดินผละจากไปรวมกลุ่มกับคนสนิทของตัวเอง ทางกลุ่มเหนือฟ้าเมื่อสังเกตเห็นจึงย้อนกลับเข้ามาหายี่ฟงบ้างหลังจากทุกคนปล่อยให้ผู้นำทั้งสองฝ่ายได้มีเวลาส่วนตัวหารือกันเองมาสักพักแล้ว ก็คงถึงเวลาต้องแยกย้ายไปทำธุระที่ว่างเว้นมานานกันเสียที สองฝ่ายกล่าวลาและทยอยจากไปจนส่งผลให้ภายในโรงเตี๊ยมวิถีกระบี่จำนวนลูกค้าโหรงเหรงลงถนัดตา
“เป้าหมายต่อไปล่ะ” หยกราตรีถามขึ้นอย่างฮึกเหิม
“ครั้งนี้ฉันต้องไปทำธุระสำคัญ ส่วนพวกเธอน่ะควรจะรีบไปฟาร์มเลเวล รอจนกว่าฉันกับลุงจะกลับมา ถึงตอนนั้นพวกเราจะเริ่มลุยดันเจี้ยนลับใต้มหานครฉางอานกัน” ยี่ฟงตอบอย่างมีนัยยะแอบแฝง
“นายตั้งใจจะทำอะไรหรือ” เหนือฟ้าที่หัวไวกว่าเพื่อนถามกลับน้ำเสียงสงสัย
“ฝึกฝนพวกเธอไง ทั้งด้านเลเวลและพลังฝีมือ
ไม่มีที่ไหนจะดีไปกว่าดันเจี้ยนลับนี้อีกแล้ว อีกอย่างในนั้นยังมีไอเท็มระดับสูงรอให้พวกเราฟาร์มกันอีกเยอะ ก่อนจะเริ่มภารกิจสำคัญ ขุมกำลังก็จำต้องแข็งแกร่งกว่านี้ไม่ใช่หรือ นี่พวกเธอคงไม่คิดว่าฉันจะพาลุยเส้นทางหลักในทันทีหรอกใช่ไหม ตัวบางเป็นกระดาษกันขนาดนี้แค่จะผ่านดันเจี้ยนลับใต้ดินยังยาก”
ยี่ฟงเทศนายาวเหยียด
สามสาวกับสองตัวละครชายเผยสีหน้าจ๋อยไปครู่หนึ่งเลยทีเดียว
“ทางนี้ฝากประมุขอย่างพวกนายหน่อยนะหนวดพยัคฆ์ ฉันจัดการธุระเสร็จเมื่อไรจะรีบย้อนกลับมา” ยี่ฟงไม่ไปสนใจอารมณ์ของเหล่าลูกทีม รีบสั่งเสียและหันหลังเดินออกจากร้านจนหายลับไปท่ามกลางละอองฝนที่ยังคงเทกระหน่ำลงมาไม่หยุดยั้ง
เมืองหังโจว
“พวกเอ็งแก่จะลงโลงกันอยู่แล้วยังคิดเล่นกันเป็นเด็ก
ๆ ไปได้ เฮ้อ” มังกรเฒ่ารำพึงรำพัน
“ฮ่า
ฮ่า ฮ่า ไอ้กร ตอนนี้พวกเราอยู่ที่ไหน ไม่ใช่ในเกมหรอกหรือ คิดจะดึงตัวสามมารเฒ่าก็จำต้องผ่านพิธีได้รับการยอมรับจากพวกข้าก่อนโว้ยถึงจะถูกต้องตามธรรมเนียม” เฒ่าทารกกล่าวน้ำเสียงปนหัวเราะ
“ธรรมเนียมบ้าบอคอแตกสิไม่ว่า แต่ช่างเถอะ ยังไงข้าขอเตือนไว้ก่อน ไอ้ตัวแสบนี่ขยับไปตรงไหนก็พังพินาศที่นั่น กลัวก็แต่พิธีการไร้สาระของพวกเอ็งจะยิ่งทำให้เรื่องราวเอิกเกริกลามไปกันใหญ่แทน แก่ไม่รู้จักแก่ก็แบบนี้แหละหนอ” มังกรเฒ่าสวนกลับไปนิดหน่อย จากนั้นเอ่ยเตือนในด้านสรรพคุณของยี่ฟงเข้าขั้นเรียกได้ว่าเผาเกรียม สถานะตัวหายนะเด่นหราแทบจะแปะหน้าผากชายหนุ่มผู้ถูกหยิบยกขึ้นมาเป็นหัวข้อสนทนาในครั้งนี้ได้เลยด้วยซ้ำไป!
“เอ็งจะดูถูกสามมารเฒ่าเกินไปแล้ว จัดมาเถอะ ไม่มีเรื่องไหนที่พวกข้าสามคนเอาไม่อยู่ ฮ่า ฮ่า” มารตะกละ ชายชราร่างอ้วนท้าทายประกาศศักดาพร้อมเสียงหัวเราะประสานกัน ส่วนมังกรเฒ่านั้นเผยยิ้มจืดชืดสุด ๆ เขาพลันมีความรู้สึกว่า หัวเราะทีหลังมักจะดังกว่าเสมอ
__________________________
ผมมีความตั้งใจและคาดไว้ว่าเรื่องนี้จะจบปลายปี ถ้ายังอัปลงอย่างต่อเนื่องไปแบบนี้ล่ะก็นะ ช่วงนี้ไฟเริ่มมาก็จะรีบปั่นให้เยอะเท่าที่จะทำได้ไปก่อน ขอบคุณทุกคนที่สนับสนุนและจะยังสนับสนุนกันต่อไปนับจากนี้ไว้ด้วย
ความคิดเห็น