คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #14 : [AU/Fic] No Fairy tale -BF- UP.4.1
[color=#BF40BF]เอิ่มม กลับมาแล้วค่า
พร้อมกับความสั้นขั้นเทพ!!! ขอโทษด้วยนะค่ะ
งานเข้ามากมาย T^T
เอาเป็นว่า enjoy ครึ่งนึงก่อน อีกครึ่งตามมาแน่นอน >O<[/color]
.................................................................
Chapter 4: Another part
“แกก็ได้ยินแล้วนี่”
เสียงทุ้มที่ติดจะเย็นชาเอ่ยตอบ เบนศีรษะซึ่งปกคลุมไปด้วยเรือนผมสีทองมามองร่างบางที่นั่งอยู่บนเตียงชั่วขณะ ก่อนจะหมุนตัวเดินออกจากห้องไป ทิ้งร่างสูงที่ดูเงียบลงถนัดใจกับร่างบางที่นั่งนิ่งด้วยความสงสัยเอาไว้
“เบล พ่อแม่นายมาน่ะ จะไม่ไปเหรอ”
เสียงหวานเอ่ยทักท้วงอย่างแผ่วเบา เมื่อเห็นร่างสูงยังคงนิ่งเฉย ไม่มีทีท่าว่าจะเดินตาพี่ชายฝาแฝดของตนออกไปแม้แต่น้อย ราวกับกำลังจอมจมอยู่ในห้วงภวังค์ความคิด จนกระทั่งนิ้วเรียวยื่นไปสะกิดนั่นแหละจึงได้รู้สึกตัว
“อ่า งั้นเจ้าชายไปก่อนนะ ชิชิชิ ไว้เจ้าชายคุยธุระเสร็จแล้วจะกลับมาหา”
ว่าแล้วก็ขโมยจูบที่ริมฝีปากอิ่มอย่างรวดเร็วก่อนจะเดินผละจากไป มือเรียวยกขึ้นมาแตะริมฝีปากของตนช้าๆ รสสัมผัสอ่อนหวานยังคงติดอยู่ ไม่จางหายไป นึกโทษหัวใจตนเองที่เต้นรัวแรงขนาดนี้เพียงเพราะรสจูบอันอ่อนโยนจากคนที่ทำร้ายตน สุดท้ายแล้ว ฟรานก็ยังไม่อาจตัดใจจากเบลเฟกอลได้อยู่ดี
จะไป จิลก้รู้เรื่องระหว่างเรากับเบลแล้วสินะ แต่จิลก็ไม่ได้คิดอะไรกับเราเป็นพิเศษอยู่แล้ว ไม่เห็นจะต้องมีอะไรน่าเป็นกังวล เช่นนั้นแล้ว ลางสังหรณ์ร้ายๆที่อยู่ในอกนี้ มันคืออะไรกัน?
“แกรู้จักกับฟราน?”
เสียงทุ้มเข้มของพี่ชายฝาแฝดดังขึ้นทันทีที่ขาเรียวยาวก้าวผ่านบานประตูห้องโถงเข้าไป ดวงตาภายใต้เรือนผมสีทองยุ่งเหยิงของเบลเฟกอลกวาดตามองไปรอบห้องที่คล้ายกับท้องพระโรงนั้น แต่กลับไม่พบแม้แต่เงาของบิดามารดา
“ถ้าเจ้าชายรู้จักแล้วจะทำไม”
น้ำเสียงกวนนประสาทนั้นทำให้จิลยกยิ้มร้ายขึ้นมา ตั้งแต่เด็กๆแล้วที่เขากับมันมักจะแย่งของต่างๆกันอยู่เสมอ ครั้งนี้มันก็คงไม่ต่างกัน หากจะต่างก็คงเป็นเพราะของสิ่งนี้มันเย้ายวนใจกว่าชิ้นไหนๆที่เคยมีมา ยิ่งมันอยู่ในการครอบครองของน้องชายฝาแฝดนี่แล้ว ยิ่งอยากจะแย่งชิงมาเป็นเท่าทวีคูณ
“งั้นแกก็เตรียมใจไว้ดีๆก็แล้วกัน เพราะฉันเองก็อยากได้ฟรานมาไว้เหมือนกัน!”
ริมฝีปากบางของร่างสูงเม้มแน่นทันทีเมื่อได้ยินคำกล่าวนั้น วูบหนึ่งที่รังสีแห่งการทำลายล้างพุ่งตรงมายังเขาราวกับกำลังท้าทาย เป็นสัญญาณเตือนให้ระวังตนเอาไว้
“ถ้าแกพลาดเมื่อไหร่นะ เบล ฉันจะแย่งชิงของสำคัญของแกมาเอง”
“ก็เอาสิ เจ้าชายพร้อมรับคำท้าอยู่แล้ว ไม่ต้องมาขู่ให้เสียเวลา ยังไงเจ้ากบก็ต้องเป็นของเจ้าชายอยู่วันยันค่ำ”
จิลได้แต่เหยียดยิ้มกับคำกล่าวที่ดูจะมั่นอกมั่นใจนั้น แต่ก่อนที่จะได้พูดโต้ตอบอะไรกลับไป พ่อบ้านประจำตระกูลก็ก้าวเข้ามาขัดจังหวะสนทนาอย่างรู้หน้าที่ก่อนจะเกิดการนองเลือดกันเกิดขึ้น เมื่อใดก็ตามที่เจ้าชายทั้งสองพระองค์มีความเห็นไม่ตรงกัน การซัดกันด้วยอาวุธก็จะเกิดขึ้นตามมาเสมอ
“ท่านพ่อกับท่านแม่ของพวกท่านมาถึงแล้วขอรับ”
สิ้นคำกล่าวนั้น บานประตูหนักกลางห้องโถงก็ถูกเปิดออกทันที บุรุษร่างสูงสง่าในชุดเสื้อคลุมสีดำก้าวเดินนำเข้ามาก่อน วงหน้าหล่อเหลาขมเค้มแลดูน่าเกรงขาม ยามเมื่อมีรอยแผลเป็นขนาดใหญ่พาดผ่านใบหน้า จมูกโด่งคมสัน ดวงตาสีแดงสดและริมฝีปากหนาซึ่งเม้มแน่นส่งผลให้คนตรงหน้ามีรัศมีแห่งความเป็นผู้นำและดูดุดันมากขึ้นเป็นเท่าทวี
ที่เดินเคียงข้างกันคือร่างโปร่งบางเจ้าของเรือนผมยาวสลวยสีเงินยวงที่ทิ้งตัวลงคลอเคลียสะโพกมนตามจังหวะการก้าวเดิน ผิวกายขาวผ่องราวกับน้ำนม วงหน้าหวานสวยกับจมูกรั้นๆดูน่าหลงใหล ดวงตาสีอควอมารีนคู่งามมองตรงมาเบื้องหน้าด้วยความหยิ่งทะนง
สมแล้วที่ในวงสังคม ขนานนามคนทั้งสองว่า ราชาและราชินีแห่งวงการมาเฟีย
“ว่าไง ไอลูกสวะ”
เสียงหวานเอ่ยทักทายทันทีที่ก้าวเข้ามาถึงห้องโถงกว้าง ใบหน้าหวานดูอิดโรยเล็กน้อยจากการนั่งเครื่องบินเป็นเวลายาวนาน ราชาและราชินีกลับมาแล้วหลังจากเดินทางไปประชุมมาเฟียที่ญี่ปุ่นนานนับสัปดาห์ ขณะที่ร่างสูงของคนเป็นพ่อไม่พูดอะไรเลยแม้แต่น้อย ดวงตาสีเลือดกวาดมองเจ้าชายทั้งสองผ่านๆก่อนจะเดินไปนั่งที่เก้าอี้บุนวมตัวใหญ่กลางห้องนั้น
“ท่านแม่” ร่างสูงของเบลเฟกอลพุ่งเข้าไปก่อน แขนเรียวโอบกอดรอบเอวบางของสควอโล่ก่อนจะซบเรือนผมยุ่งเหยิงลงกับอกนั้น “คิดถึงจังเลย ชิชิชิ”
มือบางลูบเรือนผมสีทองสลวยนั้นด้วยความเอ็นดู ดีแค่ไหนแล้วที่เขาไม่กลับมาแล้วเจอลูกสองคนฆ่ากันตายอยู่ในคฤหาสน์ กลับมาครั้งนี้ก็ยังดีกว่าครั้งอื่นๆมากนัก หารู้ไม่ว่า เหตุการณ์นี้ จริงจังเกินกว่าจะทะเลาะกันไร้สาระ ราวกับความสงบนิ่งก่อนที่พายุลูกใหญ่จะพัดผ่านเข้ามา จิลเดินเข้ามากอดเอวอีกด้านหนึ่งของร่างบางอย่างเอาใจไม่แพ้กัน
ดวงตาสีฟ้าคู่สวยเหล่มองไปทางร่างสูงที่ยังคงนั่งอยู่บนเก้าอี้ตัวใหญ่เล็กน้อยก่อนจะเอ่ยปาก
“กลับมาบ้านไม่คิดจะทักลูกรึไงวะ แซนซัส”
เสียงหวานเอ่ยขึ้นด้วยประโยคแสนห้าวไม่เข้ากับตัว ราชาแห่งวงการมาเฟียเพียงแค่ปรายตามองเล็กน้อยก่อนจะเอ่ยตอบอย่างไม่ไยดี
“ไม่เห็นจำเป็น”
“นี่แก!”
พยายามข่มความโมโหลงคอไป ก่อนที่เบลจะเข้ามาไกล่เกลี่ยอย่างทุกที
“ท่านแม่ เดี๋ยวเจ้าชายทักท่านพ่อเองก็ได้ ชิชิชิ”
“มันหน้าที่แกอยู่แล้วนี่ ไอ้ลูกสวะ”
“แซนซัส พูดกับลูกดีๆสิ!”
เสียงหวานที่แว้ดขึ้นมาอีกรอบ ทำให้ร่างสูงเบือนหน้าไปอีกทางด้วยความรำคาญใจ ไม่อยากจะต่อปากต่อคำเหมือนเคย ไอสวะนี่นับวันมันจะยิ่งกล้า แบบนี้มันต้องสั่งสอน!
คิดแล้วร่างสูงก็ลุกขึ้นจากบัลลังก์ราชาย่างสามขุมเข้ามาหาภรรยาที่เริ่มหน้าตาซีดเซียวเพราะรู้ชะตากรรมตัวเอง
“ไอสวะจิล เบล อยากได้น้องมั้ย”
หันไปถามเจ้าชายทั้งสองด้วยน้ำเสียงเหี้ยมเกรียม เบลพยักหน้าอย่างกระตือรือร้นพร้อมๆกับจิลที่แสยะยิ้มมุมปากจนสควอโล่แทบอยากจะหันไปตบด้วยความขัดใจ
ไอลูกทรยศ!
ไม่พูดพร่ำทำเพลง ร่างสูงยกร่างบางขึ้นพาดบ่าขึ้นบันไดไป ไม่ต้องสงสัยว่าเสียงครางหวานคงจะได้ตามมาตลอดคืน เจ้าชายทั้งสองยืนแสยะยิ้มมองพ่อแม่ของตนจนลับตาไป แค่ครั้งนี้เท่านั้นที่ทั้งสองจะไม่ทะเลาะกัน จนกระทั่งจิลเริ่มเบนศีรษะกลับมามองน้องชายฝาแฝดเพียงคนเดียวของตน
“คืนนี้ฟรานต้องนอนห้องของฉัน!”
“ไม่มีทาง ทำไมเจ้าชายต้องให้เจ้ากบไปนอนห้องแกด้วย”
น้ำเสียงยียวนกวนประสาทจนจิลต้องสกัดกั้นอารมณ์ ถามมาได้ว่าทำไม ทำไมแกถึงเป็นแบบนี้ไปได้นะเบล
“ทำไมแกจะต้องมากวนประสาทฉันด้วย?”
“แกก็น่าจะรู้อยู่แล้วนี่ว่าทำไม ในเมื่อแกเป็นคนทำให้มันเป็นอย่างนี้เอง พี่ชายเฮงซวยแบบนี้เจ้าชายไม่อยากได้หรอก!”
“อ่อ!แล้วคิดว่าฉันอยากจะได้น้องอย่างแกรึไง!”
.
.
.
7 ปีที่แล้ว
ร่างสูงของเจ้าชายคนสำคัญแห่งราชวงศ์ยืนนิ่งอยู่หน้าสวนกุหลาบอันงดงาม เมื่อวานนี้เขาขอฟรานแต่งงานไปแล้ว ถึงอีกฝ่ายจะเด็กอยู่แต่เบลก็มั่นใจว่า ร่างบางจะต้องจำมันได้ และรักเขาไม่แพ้กัน วันนี้เป็นอีกวันที่เขากับฟรานนัดเจอกัน ทุกๆวันดูจะกลายเป็นวันที่ดี นับตั้งแต่พบร่างบางครั้งแรกที่สวนกุหลาบแห่งนี้
นับจากวันนั้น ทั้งสองก็แอบลอบพบกันที่สวนกุหลาบแห่งนี้เรื่อยมา
หากแต่วันนี้ทุกสิ่งทุกอย่างกำลังจะเปลี่ยนแปลงไป
“ท่านเบลครับ ท่านเบล”
เสียงพ่อบ้านคนสำคัญประจำตระกูลเรียกขานร่างสูงอย่างคุ้นเคย เบลใจหายวาบเมื่อลางสังหรณ์ร้ายๆเริ่มแล่นเข้ามาในอก ทำไมถึงรู้สึกราวกับว่า จะต้องจากที่ไปไกลแสนไกลขนาดนั้น ทั้งๆที่ทาคุมิเองก็อาจจะแค่เรียกขานไปดื่มน้ำชายามบ่ายเหมือนทุกที
“รู้แล้ว รู้แล้ว เจ้าชายอยู่ในสวนนี่”
ขานรับออกไป พร้อมกับร่างสูงของพ่อบ้านที่ปรากฏตัวทันทีราวกับรู้ล่วงหน้าพร้อมกับกาน้ำชาในมือ แต่สีหน้าที่ดูย่ำแย่นั้นทำให้ร่างสูงรู้ทันทีว่า ทาคุมิมาที่นี่ไม่ได้เพื่อมาเสิร์ฟน้ำชาอย่างเดียวแน่
“เกิดอะไรขึ้นงั้นเหรอ ทาคุมิ”
ชายชราสะดุ้งเล็กน้อยก่อนจะถอนหายใจ ไม่ว่าอะไรก็ไม่สามารถปิดคุณชายของบ้านนี้ได้เลย มือเหี่ยวย่นวางชุดน้ำชาลงบนโต๊ะตัวเล็ก รินเสิร์ฟให้อย่างรู้หน้าที่ พร้อมกับเริ่มบอกเล่าเรื่องออกมาด้วยน้ำเสียงแผ่วเบา
“ท่านเบลครับ จริงๆแล้วท่านน่ะไม่ใช่ลูกชายคนเดียวของท่านแซนซัสหรอกนะครับ ”
“อะไรกัน จะบอกว่าท่านแม่เจ้าชายมีชู้รึไง ชิชิชิ”
น้ำเสียงกึ่งขบขันนั้นไม่ได้ทำให้พ่อบ้านคนสำคัญรู้สึกสนุกตามไปด้วยแต่อย่างใด ตรงกันข้ามชายชรากลับมีสีหน้าเคร่งขรึมขึ้นราวกับลำบากใจทที่จะเอ่ยความจริง
“ตกลงว่ามันยังไงกันล่ะ ทาคุมิ”
TBC.on the end of chapter 5
...................................................
[color=#BF40BF]ตามมาอีกไม่นาน กะลังแต่งด้วยความเฉื่อยค่ะ T^T[/color]
ความคิดเห็น