ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    *--หัวใจในเงารัก--*

    ลำดับตอนที่ #1 : บทนำ

    • เนื้อหาตอนนี้เปิดให้อ่าน
    • 1.16K
      3
      5 พ.ค. 60

    “มาลูก ตาคิม ตาคี มารู้จักกับน้าพิกุลหน่อย”

    คุณอธิปัตย์เรียกลูกชายทั้งสองคนเข้ามาในห้องรับแขกเพื่อให้มาทำความรู้จักกับหญิงกลางคนวัยสี่สิบปลายผู้หนึ่งกับเด็กสาวร่างผอมบางผิวขาวซีดที่เอาแต่ก้มหน้าก้มตาราวกับประหม่าหรือกริ่งเกรงอะไรบางอย่าง

                    “นี่น้าพิกล ส่วนหนูคนนี้คือหนูลิน...วิมลิน ตั้งแต่วันนี้ไปทั้งสองคนจะมาเป็นสมาชิกใหม่ในบ้านเรา”

                    “สวัสดีครับ” คิมหันต์ยกมือไหว้ แล้วหันไปส่งยิ้มทักทายเด็กสาวที่ยืนแอบอยู่ด้านหลังคุณพิกุล คาดคะเนจากอายุคงอ่อนกว่าเขาสักห้าหกปีปี

    ความเป็นมิตรที่เขาหยิบยื่นให้ ทำให้วิมลินอดทักทายด้วยรอยยิ้มกลับไม่ได้ แต่พอเหลือบไปมองคนที่ยืนอยู่ข้างๆ คิมหันต์ เห็นอีกฝ่ายมองมาด้วยแววตาขุ่นเคือง ไม่พอใจ และแสดงถึงความเป็นศัตรูเต็มเปี่ยม รอยยิ้มของหล่อนก็หุบฉับ สีหน้าและท่าทางกลับกลายเป็นความตื่นตระหนกและกริ่งเกรงจนต้องรีบก้มหน้าอีกครั้ง 

    “รักกันให้มากๆ นะ ทั้งหนูลิน ทั้งเจ้าคิม เจ้าคี เราเป็นครอบครัวเดียวกัน ต้องรักกัน”

    “ทำไมพ่อทำแบบนี้!”

    ความอดทนของคีรีมีไม่มากพอ เพราะเขาโพล่งสิ่งที่อัดอั้นอยู่ในใจอย่างไม่สนใจสมาชิกใหม่ของบ้าน ใบหน้าของเขาแดงก่ำด้วยโทสะอันรุนแรง 

    “แม่ยังนอนป่วยอยู่ข้างบนแล้วทำไมพ่อยังกล้า...พ่อทำแบบนี้ได้ยังไง!”

    “คี...พ่อกับแม่เลิกกันมาเกือบปีแล้ว พ่อเสียใจที่ทุกอย่างเป็นแบบนี้แต่เมื่อเราสองคนไปกันไม่รอด ทนอยู่กันไปก็มีแต่ทุกข์ใจเปล่าๆ นภาเองก็เห็นดีด้วยถ้าพ่อจะมีภรรยาใหม่ เราสองคนคุยและตกลงกันแล้ว” คุณอธิปัตย์สาวเท้าเข้าไปหาลูกชาย วางมือลงบนบ่าเขาแล้วบีบเบาๆ “คีต้องเข้าใจ น้าพิกุลก็เป็นภรรยาของพ่อคนหนึ่งเหมือนกัน แล้วจะให้พ่อปล่อยให้เธออยู่ลำพังกับลูกสาวในแฟลตเล็กๆ แบบนั้นได้ยังไง ทั้งพิกุลและวิมลินเขาก็อยู่เงียบๆ โดยไม่ร้องขออะไรมาตั้งสองปี ถือว่าพอ่ขอเถอะนะคี”

    คนเป็นลูกทำเสียงหึในลำคอ พลางตวัดมามองหล่อนกับผู้เป็นแม่ แววตาดูถูกแกมสมเพช

    “ก็ตามใจพ่อเถอะครับ บ้านหลังนี้เป็นบ้านของพ่อ ผมไม่มีสิทธิ์คัดค้านอะไรอยู่แล้วนี่ครับ”

    พูดจบก็เดินจ้ำอ้าวออกจากบ้านไป ไม่กี่วินาทีหลังจากนั้นเสียงเครื่องยนต์ก็ครางกระหึ่ม ก่อนรถสปอร์ตสมรรถภาพเยี่ยมจะพุ่งทะยานออกไปด้วยความเร็วแรงตามอารมณ์ของคนขับ ทิ้งไว้เพียงเสียงทอดถอนใจอย่างกลัดกลุ้มของผู้เป็นพ่อ

    “อย่าไปสนใจไอ้เจ้าลูกชายตัวร้ายของผมเลยพิกุล มันก็ทำปึงปังไปอย่างนั้นเอง ปล่อยไว้สักพัก มันคงจะเข้าใจแล้วหายบ้าเองนั่นละ”

    คำพูดของคุณอธิปัตย์เป็นดั่งความหวังลึกๆ ในหัวใจของคุณพิกุล ผ่านไปสองปี สายตาเย็นชาเกลียดชังของคีรีก็ยังคงอยู่เช่นเดิมไม่เปลี่ยนแปลง ต่างกับคราแรกก็ตรงที่เขาไม่เอะอะโวยวายเสียงดัง แต่ก็ยังไม่ยอมคุยกับคุณพิกุลเลยสักครั้งแม่จะอาศัยอยู่บ้านเดียวกันก็ตาม

    ทว่า...กับวิมลินแล้ว เขาจะคอยมาป้วนเปี้ยน พูดกระทบกระเทียบถากถางอยู่เป็นประจำยามอยู่ด้วยกันสองต่อสอง ไม่มีใครรู้ว่าคีรีชอบกลั่นแกล้งและบีบบังคับหล่อนแค่ไหน เว้นก็แต่คิมหันต์ที่มักจะเข้ามาห้ามปรามเป็นประจำ

    กระทั่งวันที่คุณนภา...ภรรยาของคุณอธิปัตย์จากไปด้วยโรคเส้นเลือดในสมองแตกอย่างกะทันหัน อารมณ์ของคีรีจึงปะทุขึ้นมาอีกครั้ง เขาหาเรื่องวิมลันบ่อยขึ้น มองหล่อนอย่างเกลียดชังมากขึ้น พลางประกาศกร้าว

    “ผมไม่มีวันอภัยให้พวกคุณ!”

    ความแค้นเคืองของเขาวิมลินรับรู้ได้เต็มหัวใจ แต่หล่อนไม่อาจทำอะไรได้นอกจากก้มหน้ารองรับความรู้สึกของเขาอยู่เงียบๆ และมีเพียงความหวัง...หวังว่าเขาจะลดทอนความชิงชังในหัวใจของตนเองลงในสักวันหนึ่ง

     

     

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    นิยายที่ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×