ตอนที่ 10 : [Rewrite] เปิดซิงเขาก็ต้องดูแล 100%
“แจ็คสัน ฉันไม่อยากพูดเรื่องนี้เลยนะ แต่ว่านายกับผู้ชายคนนั้น”
หมอที่เพิ่งรักษาไข้ของยองแจหมาดๆ เดินเข้ามาคุยกับแจ็คสันซึ่งกลับมาจากทำงานพอดี ร่างหนาเห็นชัดๆ เลยว่าหมอที่เขารู้จักดียิ่งกว่าอะไรกำลังระงับอารมณ์โกรธแค่ไหน และแจ็คสันเองก็เบื่อที่จะฟังเต็มทน
“นายเลิกพูดมากก่อนได้ไหมมิโน นายเป็นเพื่อนไม่ใช่พ่อ”
“เออ ถ้าฉันเป็นพ่อนายฉันคงถีบนายคว่ำไปแล้ว มีอย่างที่ไหนผู้ชายคนนั้นไม่เคยด้วยซ้ำแต่นายไปทำแบบนั้นจนช่องทางฉีกขาดไข้ขึ้น”
มือหนาของมิโนยกขึ้นมากุมขมับตัวเองและพ่นลมหายใจเข้าออกที่เขาโกรธไม่ใช่เพราะคนนี้เป็นเพื่อนของเขาและคิดไม่ถึงว่ารสนิยมจะเปลี่ยนไปในเมื่อยองแจหน้าหวานยิ่งกว่าผู้หญิงขนาดนั้น แต่เพียงเขาสงสารเด็กคนนั้นต่างหาก
นอนไข้ขึ้นซมเป็นผักต้มอย่างนั้นน่ะ น่าเห็นใจจะตาย
“แล้วไง นายไม่รู้อะไรอย่ามาพูดดีว่า”
“เหรอ ฉันต้องรู้อะไรล่ะ?”
“หมอนั่นเป็นแฟนฉัน โอเคฉันทำไม่เป็นเลยรุนแรง จบนะ?”
ปัดๆ ไปอย่างนั้นแหละเพื่อนของเขาจะได้เลิกโวยวายสักที โวยวายลั่นห้องจนบอดี้การ์ดข้างนอกจะรู้เรื่องหมดทั้งบางแล้ว เพียงแต่ว่าคำของแจ็คสันทำให้มิโนเงียบก็จริง แต่เป็นเงียบแบบอึ้งๆ อึ้งมาก
“นะ...นายบอกว่า เด็กหน้าหวานนั่นเป็นแฟนนายเหรอ?”
“เออสิวะ แฟนกันมีอะไรกันมันก็ปกติ”
แจ็คสันโกหกคำโตออกไปเพราะตัดปัญหาและก็ขอให้เพื่อนเขาเชื่อด้วยซ้ำจะได้เลิกถามเซ้าซี้กลับบ้านกลับช่องไป นี่ต้องขอบคุณนัมจุนหรือเปล่าที่ตามหมอนี่มา เพราะว่าถ้าเป็นมิโนละก็ไม่นานที่บ้านเขาต้องรู้แน่ๆ ว่าเกิดอะไรขึ้น
เรื่องลามแน่ๆ
“ฉันล่ะพูดไม่ออกเลย สงสารแฟนนายมากนะไอ้ซาดิสม์”
“เออก็เด็กมันยั่ว เมื่อคืนนายไม่เห็นเด็กนั่นยั่วฉันนายจะไม่รู้เลยว่าน่าเอาแค่ไหน”
เพื่อนกันก็พูดตรงๆ แบบนี้เป็นประจำแต่คนที่นอนซมอยู่ในห้องไม่ชินด้วยซะหน่อย เสียงโครมใหญ่ดังมาจากในห้องจนแจ็คสันเบิกตากว้างกุมขมับ เอาละไงโคมไฟจากยุโรปของเขาอย่าบอกนะว่าเสียงนั่น
“โถ่เว้ย! เสียงนั่นดูก็รู้ว่าเป็นโคมไฟจากยุโรป นายกลับไปก่อนมิโนเพราะแฟนฉันกำลังป่วยละพาลมาก ต้องไปดูแลก่อน”
“เออพ่อคนหลงเมีย”
มิโนพ่นลมเป่าผมตัวเองและมองบนคว้ากระเป๋าแพทย์ออกไปจากห้อง ไม่เจอกันไม่กี่เดือนดูท่าว่าแจ็คสันเพื่อนเขาจะพิลึกขึ้นไปทุกวัน เห็นเงียบๆ บ้างานที่ไหนได้ซุกเมียไว้ที่ห้อง มีอะไรกันรุนแรงจนเขาต้องมาเช็ดขี้เช็ดเยี่ยวให้
...ปัง...
“โคมไฟฉันจริงๆ ด้วย นายทำบ้าอะไรเนี่ยยองแจ!?”
“คุณทำกับผมแบบนี้ได้ยังไง คุณมาช่วงชิงเอกราชของผมและยังคุยโวหน้าบานแบบนั้นอีก ถ้าผมหายดีจะต่อยให้ยับ!”
แจ็คสันกระตุกยิ้มข้างมุมปากและเดินเข้าไปใกล้ๆ เตียงฝั่งที่ยองแจนอนอยู่ก่อนจะลากนิ้วตามพวงแก้มให้เจ้าของใบหน้าซีดหลบเป็นพัลวัน
“ปากเก่งนะไม่เหมือนเมื่อคืนที่ร้องครางอ่ะ อ้า อ่ะอยู่เลย เอาสิอยากต่อยฉันก็ทำเลย”
ใบหน้าหล่อยื่นเข้าไปใกล้ขึ้นและเอียงหน้าเข้าใส่อย่างท้าทาย
...พลั่ว!...
“เป็นไงเจ็บไหม! ครางงั้นเหรอไอ้คนฉวยโอกาส!!”
ยองแจโน้มตัวขึ้นมาต่อยแจ็คสันซะเต็มแรง แม้จะเป็นไข้แต่ถ้าโดนท้าทายไหนจะโกรธตั้งแต่เรื่องเมื่อคืนอยู่แล้วด้วยบอกเลยว่ายองแจจะไม่ออมแรงให้เด็ดขาดจนแจ็คสันหน้าหันไปอีกทาง
“นี่นายต่อยฉันจริงเหรอวะเนี่ย สาบานไหมว่าไม่สบายอยู่”
“ก็ใครใช้ แค่กๆ ให้คุณมาท้าผม คุณมันร้ายกาจทำผมแบบนี้ได้ยังไง ฮึก”
แจ็คสันถึงกับตัวค้างนิ่ง เขาเกิดมาไม่เคยโดนใครต่อยมาก่อนว่าจะสวนกลับแต่พอเห็นยองแจเอียงหน้าล้มตัวนอนไปอีกทางพร้อมเสียงสะอื้น จู่ๆ หัวใจของแจ็คสันก็กระตุกวูบ
“นาย นายก็ผิดเหมือนกันแหละหน่า”
เสียงกระปอดกระแปดไม่เต็มคำของแจ็คสันพูดออกไป ทำไมกันนะเขาไม่เคยต้องมาเกรงใจอะไรอยู่แล้วโดยเฉพาะกับลูกจ้างค่าตัวสูงลิ่วขนาดนี้ยิ่งไม่จำเป็นต้องออมเสียง เป็นคนอื่นคงกระชากมาต่อย แต่ยองแจ…
“โอเคผมผิดเองที่เมา ถ้างั้น ฮึก ก็ปล่อยให้เรื่องนี้เป็นเหมือนเรื่องไม่เคยเกิดขึ้น”
“ใครอยากจะจำกัน นอนไปทั้งแบบนี้แหละ ไปละ”
ร่างหนาพูดไปอย่างนั้นแต่ก็อดหันไปมองคนที่นอนหันหลังใส่ไม่ได้อยู่ดี เพราะน้ำตาของยองแจบวกกับเสียงสะอื้นมันก็ทำให้เขารู้สึกผิด คนแมนๆ อย่างยองแจพอโดนช่วงชิงศักดิ์ศรีลูกผู้ชายไปมันก็น่าเห็นใจ แต่ให้ย้อนไปเมื่อคืนเขาก็ห้ามตัวเองไม่ได้
เล่นยั่วตาใสแบบนั้น
“ล็อกประตูด้วยนะครับอยากอยู่คนเดียว”
เรื่องอะไรที่แจ็คสันต้องล็อกตามที่ยองแจสั่ง ที่นี่เป็นคอนโดของเขาและอีกอย่างถ้ายองแจเกิดตายคาห้องขึ้นมาเขาไม่โดนจับข้อหาฆาตรกรเหรอไง
“หัวข้อการวิจัยต้องเป็นเรื่องที่สร้างสรรค์และห้ามคัดลอกคนอื่นมาเด็ดขาด นักศึกษาจะต้อง...”
เสียงบรรยายหน้าห้องวันนี้บอกเลยว่าแบมแบมน่ะไม่เข้าใจสักนิดแม้กระทั่งอาจารย์สั่งงานให้ไปทำยังเข้าหูซ้ายทะลุออกหูขวาอยู่เลยจนเพื่อนตัวสูงที่อยู่ข้างๆ ต้องใช้ปากกาจิ้มมือให้รู้สึกตัว
“แบม แบมแบม นายเป็นไร?”
“หะ ห้ะ?”
แบมแบมเอียงหน้ามามองเพื่อนรักของตัวเองและทำท่างงใส่ พอมองไปที่หน้าห้องอีกทีคืออาจารย์กำลังเก็บหนังสือการสอนออกไปจากห้องแล้ว นี่เขาไม่ได้ตั้งใจฟังจนถึงขนาดหมดไปสามชั่วโมงไม่ได้จดอะไรสักตัวเลยหรือไงกัน
“ฉันเป็นห่วงนายนะ นายเปลี่ยนไป”
ยูคยอมทักเพื่อนร่างบางที่หันมายิ้มแก้เก้อ ความจริงก็รู้ตัวแหละว่าช่วงนี้เขาเงียบและมีเรื่องคิดตลอด ซึ่งมันก็เป็นเรื่องของคนที่ชื่อมาร์คนั่นแหละที่คอยทำให้เขาคิดมาก
“ไม่มีอะไรหรอก”
“เราคบกันมานานเท่าไหร่แล้วนะ ฉันคิดว่านานพอที่นายจะไม่ปิดบังซะอีก แต่ก็ช่างเถอะนายคงไม่อยากเล่า”
ยูคยอมบ่นน้อยใจอย่างเห็นได้ชัดแต่ก็พยายามไม่คาดคั้นเพื่อนตัวเองให้มากความ เพราะถ้าแบมแบมไม่อยากเล่าเขาก็ไม่อยากคาดคั้น
“ไม่มีอะไรจริงๆ ยูคยอม”
จะไม่มีอะไรได้ยังไงในเมื่อจิตใจของแบมแบมกลัวเรื่องของมาร์คทุกลมหายใจเข้าออก เขารอดเรื่องเมื่อคืนมาได้แต่ใช่ว่าจะรอดตลอด คุณมาร์คจอมใจร้ายของแบมแบมน่ากลัวมากจนไม่อยากเจอหน้า
แต่วันนี้ก็เจอไปแล้วและรู้สึกว่าทั้งวันก็มีคนของมาร์คตามติดจนรู้สึกได้ด้วยซ้ำ
“ตามนั้นแหละ นายว่าไงก็ว่างั้น ว่าแต่เย็นนี้พี่ยองแจมารับไหม?”
“คงไม่ เมื่อเที่ยงไลน์มาบอกว่าติดงานต่างจังหวัดกับเจ้านาย”
แบมแบมเล่าตามจริงเพราะเมื่อเที่ยงเขาไลน์หาพี่ชายว่าจะโทร.แต่พี่ชายของเขากลับตอบเป็นข้อความสั้นๆ ว่าติดงานที่ต่างจังหวัด
แบมแบมเชื่อฝังอกเพราะปกติพี่ชายไม่เคยโกหกและหมั่นมารับแบมแบมเสมอ แสดงว่าคราวนี้ยุ่งจริงๆ
“อืม งั้นกลับด้วยกันไหมมีรถมาและก็ที่บ้านอยากเจอนาย แม่บ่นว่าอยากทำขนมกับนาย”
“อ้าวเหรอ งั้นบอกแม่นายเลยว่าเย็นนี้จะไปหาพร้อมนาย”
“เห้ยจริงดิ เออๆ เดี๋ยวบอกแม่แป๊บ”
ยูคยอมเบี่ยงตัวหยิบมือถือพิมพ์หาแม่ของตัวเองด้วยรอยยิ้มออกหน้าออกตาเสียจนคิ้วขวาของแบมแบมกระตุก เขาไม่น่าฟังคำพูดของมาร์คมาเลยด้วยซ้ำ มันต้องไม่จริง คนอย่างยูคยอมจะมาสนใจเขาได้ยังไง
“ก็นานแล้วไม่ได้ไปหาแม่นาย”
ความจริงน่ะเหรอ แบมแบมแค่ไม่อยากกลับไปเจอมาร์คตอนนี้ รู้ว่าหนีไม่รอดแต่ก็ขอเลี่ยงสักสี่ห้าชั่วโมง ให้พอมีที่หายใจบ้างก็พอ
...สองทุ่ม...
นาฬิกาตรงหน้าจอมือถือของแจ็คสันบ่งบอกเวลาว่าตอนนี้เป็นเวลาสองทุ่มแล้ว แต่ว่าตั้งแต่เขาออกมาจากห้องยองแจก็ยังไม่เห็นว่าคนป่วยออกมาหาอะไรกินเลยแม้แต่น้อย ใจคอจะเมินเฉยแจ็คสันก็คิดว่าอย่างน้อยก็เพื่อนร่วมโลก เลยเดินเลียบๆ เคียงๆ ไปหน้าห้องทั้งที่ใส่เพียงเสื้อกล้ามสีดำและกางเกงวอร์มเหมือนอย่างทุกที
“ตายหรือเปล่าวะ?”
ประตูห้องนอนของยองแจถูกแง้มออกเล็กน้อยและใช้สายตาสอดส่องเข้าไปด้านในอย่างระแวดระวัง จนกระทั่งเห็นว่าคนที่เพิ่งร้องไห้เมื่อกี้หน้าแดงเหงื่อโทรมกายเท่านั้นแหละร่างหนาก็ถือวิสาสะเข้าห้องไปอย่างไม่รีรอ
“อะไรกันวะเนี่ย เป็นถึงขนาดนี้เลยเหรอ?”
แจ็คสันไม่รู้มาก่อนเลยว่าการเปิดซิงผู้ชายสักคนจะทำให้เขาบาดเจ็บแถมเป็นไข้ขนาดนี้ มือหนายกขึ้นกุมขมับตัวเองและถอนหายใจเฮือกใหญ่ก่อนเดินไปจับตัวยองแจ
“นี่นายไปกินข้าว...เห้ย”
ตัวร้อนอย่างกับไฟ หน้าของยองแจแดงมากจนแจ็คสันเองยังตกใจไม่หาย เปลือกตาบวมเป่งจากการร้องไห้ เขารู้เลยว่าเมื่อกี้ยองแจคงเสียใจมากที่ต้องรับกับสภาพของตัวเองที่มีอะไรกับเขา
“ไอ้หมอมันรักษายังไงวะเนี่ย?”
ก็รู้แหละว่าเรื่องทั้งหมดมันเป็นเพราะตัวเองแต่ก็แกล้งโทษเพื่อนหมอของตัวเองก่อนจะเดินไปหากะละมังใส่น้ำมาดูแลเพื่อนร่วมโลก ไม่สิตอนนี้ต้องเลื่อนสถานะเป็นคนที่มีความสัมพันธ์ลึกซึ้งกับแจ็คสันไปแล้ว
“เวรกรรมอะไรของฉันวะเนี่ย เจ็บปากโดนต่อยยังต้องมาเช็ดตัวให้อีก”
บ่นไปอย่างนั้นแหละแต่เขาก็พิถีพิถันบิดน้ำจากผ้าขนหนูเช็ดตามหน้าและตัวของยองแจอยู่ดี เมื่อคืนว่ายองแจนี่มันเสือร้ายชัดๆ แต่พอร่างกายโดนน้ำและเป็นไข้กลับอ้อนเหมือนแมวซะงั้น ใบหน้าไร้สติเอียงหลบตามความเย็นจนแจ็คสันลอบยิ้ม
“อื้อ ยองแจหนาว”
เรียกแทนชื่อตัวเองอีกแล้ว อย่าทำให้มือของแจ็คสันสั่นจะได้ไหมแค่นี้ก็เช็ดตัวไม่มีสมาธิอยู่แล้ว ก็ตอนที่แหวกเสื้อของตัวเองมาน่ะสิร่างกายขาวเนียนของยองแจเต็มไปด้วยรอยรักจากเขาเต็มไปหมด
“ยองแจหนาว แบมแบมพี่หนาว อื้อ”
สองพี่น้องนี่ต้องรักกันขนาดไหนกันนะถึงหายใจเข้าออกก็เป็นกันและกัน ไม่แปลกที่ยองแจพร้อมทำทุกอย่างเพื่อแบมแบมตลอด
“อืม รู้แล้วว่าหนาว ไหนหันหน้ามาหน่อย”
เหงื่อเต็มไรผมของยองแจและไอร้อนที่แผ่ออกมาถูกผ้าขนหนูขาวสะอาดค่อยๆ ซับไปตามพวงแก้มและหน้าผากอย่างแผ่วเบา แจ็คสันใจเต้นแรงทุกครั้งที่เห็นใบหน้าหลับพริ้มของยองแจบวกความตื่นเต้นที่ตัวเองต้องมาทำอะไรแบบนี้
คนแรกที่เขาเช็ดตัวให้ กับคนที่จ้างมาเป็นแฟนปลอมๆ เนี่ยนะ
“สงสัยต้องทำบ่อยๆ จะได้ไม่ป่วย”
ตรรกะไหนไม่รู้แต่แจ็คสันพูดออกมาแล้วงงเองก่อนจะตบหน้าสากให้ได้สติ อย่างยองแจมีเสน่ห์ตรงไหนให้เขาอยากร่วมนอนด้วยอีกครั้งกัน ดวงตาเข้มมองไปที่ร่างกายคนป่วยก็...
“หน้าก็หวานงั้นๆ หุ่นก็งั้นๆ เสียงครางก็...งั้นๆ”
ก็งั้นๆ ที่ทำให้แจ็คสันต้องมาดูแลคนป่วยเพราะโดนเปิดซิงไปเนี่ยไง
...ติ๊ง...
เสียงข้อความในแอปพลิเคชั่นแชทเด้งขึ้นเกิดเสียงในห้องจนแจ็คสันต้องคว้ามาดูและเลิกคิ้วสูง ก็เพื่อนหมอของเขาดันส่งข้อความมาเตือนว่าอย่าลืมทายาตรงนั้นของยองแจด้วย
“ฉิบหาย นี่ฉันต้องมาทำอะไรแบบนี้วะเนี่ย”
แจ็คสันยกมือขึ้นมากุมขมับตัวเองและมองไปที่ถุงยาที่เพื่อนหมอของเขาวางเอาไว้ จะบ้าตายเกิดมาไม่เคยเช็ดตัวให้ใครไม่พอยังต้องมาทำอะไรแบบนี้อีกหรือเนี่ย
ทายาที่รูก้นของยองแจทำยังไงวะ ทำเป็นแต่สอดใส่เข้าใจกันบ้างไหม
“เพราะคุณคนเดียวเลย ไอ้คุณแจ็คสันบ้า มาชิงความเป็นชายของผม บ้าที่สุด”
เชื่อเลยว่าขนาดในฝันหรือเป็นเพราะพิษไข้อะไรก็ตามเถอะยองแจยังเก็บเรื่องนี้ไปคิดเลยเหรอเนี่ย แถมยังก่นด่าแจ็คสันอยู่ในอกจนต้องระบายออกมาดังลั่น ร่างหนากัดฟันแน่นอยากจะกระชากมาคุยให้รู้เรื่องแต่สงสารคนป่วย
“เออ ก็รับผิดชอบอยู่นี่ไง ฉันเป็นคนดีขนาดไหนที่เอานายแล้วไม่ทิ้งเหมือนคนอื่น”
บ่นกันนักใช่ไหม ด่ากันนักใช่ไหม ได้ ทายาแค่นี้มันก็คงไม่ยากอะไรหรอกแค่ป้ายๆ
ขอคืนคำ
“เอ่อคือ...อึก”
ความคิดพิสดารนี่มาจากไหนกันก็ไม่รู้แต่ว่าแจ็คสันน่ะลอบกลืนน้ำลายเป็นรอบที่เท่าไหร่ไม่ได้นับ หลังจากค่อยๆ พลิกร่างของยองแจให้ตะแคงไปอีกทางและถอดกางเกงบอลออกช้าๆ ช่องทางรักที่เขารุกรานเองกับตัวมันบวมแดงจนอดสงสารไม่ได้เลย
“เมื่อคืนฉันทำร้ายนายขนาดนี้เลยเหรอ?”
แจ็คสันนิ่งเงียบไปสักพัก จู่ๆ ความรู้สึกผิดตีรวนมาที่หัวของตัวเอง
“อ้ะ!”
เพียงแค่เจลยาสีใสป้ายไปที่ช่องทางรักของยองแจ เสียงตกใจปนความเจ็บปวดก็ดังขึ้นจนแจ็คสันชักมือออกแทบไม่ทัน
“นายอย่าสำออยได้ไหม รีบๆ ทาจะได้รีบเสร็จไง”
มันอาจไม่ใช่คำปลอบที่ดีนักของแจ็คสัน แต่ว่าความจริงคำที่ออกมาทั้งหมดมันก็เป็นเพราะว่าเขาแอบห่วงยองแจนั่นแหละว่าถ้าไม่รีบทายาแล้วเมื่อไหร่ยองแจจะหาย อาจจะเหมือนรำคาญแต่ที่จริงเขาไม่ได้หมายความว่าอย่างนั้น
“จะทาเบาๆ ละกัน แมนจริงป่ะเนี่ย”
ว่าแล้วแจ็คสันก็กลั้นใจทายาที่ปากทางอีกครั้ง แต่ครั้งนี้เขาอ่อนโยนมากๆ มากเสียจนยองแจไม่ปริปากร้องออกมาเลยด้วยซ้ำ
“เป็นเมียฉันเหรอไงต้องมาทำให้ขนาดนี้”
ปากหยักบ่นอุบอิบออกมาพลางเก็บหลอดยาใส่ถุงตามเดิม ว่าแต่คนที่ได้กันแล้วแถมเขาเป็นคนได้ซะด้วยต้องเรียกยองแจว่าเมียหรือเปล่า
“มันก็ไม่เชิงซะหน่อย ไม่ใช่หรอก”
ถ้าไม่ใช่อย่างที่ปากแจ็คสันว่าแล้วทำไมแจ็คสันต้องอมยิ้มและเคลื่อนหน้าไปมองคนที่นอนหลับด้วย
แผ่นเจลลดไข้ถูกแกะออกและติดที่หน้าผากแคบสวย ซึ่งท่าทางการติดกลับเป็นการลดช่องว่างระหว่างใบหน้าไปพร้อมกัน
“ความจริงตอนนอนตอนป่วยนายก็น่ารักดีนะ ไม่มีพิษภัย”
ปากของยองแจขยับหงุบหงิบเหมือนในฝันกำลังเต็มไปด้วยเรื่องด่าของแจ็คสันเต็มไปหมด คนตัวหนาอมยิ้มหัวเราะเพราะว่าปากซีดๆ ของยองแจเหมือนเด็กขี้บ่นไม่มีผิด
“โทษฐานที่นายแอบบ่นฉัน”
แจ็คสันปิดประตูห้องยองแจออกไปพลางยกมือขึ้นมาจับที่ริมฝีปากของตัวเองและคลี่ยิ้มกว้าง เมื่อกี้ไม่รู้ว่าทำไมตัวเองต้องขโมยจูบจากยองแจด้วย ปากสีซีดจืดชืดไม่ได้น่ายั่วยวนสักนิด แค่ทำโทษที่บ่น
จริงๆ นะ
“คุณมาร์ค! คุณมาที่นี่ได้ยังไง?”
“ไปไหนมา?”
มันเป็นประโยคแรกของวันที่แบมแบมได้รับหลังจากลงมาจากรถของยูคยอมแล้ว เมื่อคืนเขาไม่ได้กลับคอนโดเพราะค้างที่บ้านยูคยอมเลย แม่ของยูคยอมคิดถึงแบมแบมจนไม่อยากให้กลับและแบมแบมเองก็ไม่อยากเจอหน้ามาร์คด้วย
จึงเป็นสาเหตุให้มาร์คมาดักรอแบมแบมอยู่ที่หน้าคอนโด
“ฉันถามไม่ได้ยินเหรอไงแบมแบม!”
เสียงตวาดดังลั่นไปทั่วล็อบบี้ก่อนที่มาร์คจะนั่งก้นไม่ติดโซฟารีบกระชากแขนของแบมแบมเข้าหาตัว ร่างเล็กเซล้มกระแทกอกแกร่งอย่างแรงพยายามปัดป้องตัวเองออกจากมาร์คและสายตาคนอื่นที่เริ่มมองมาที่ตัวเอง เขาไม่คิดหรอกว่ากลับมาแต่เช้าขนาดนี้มาร์คจะมาดักรอ
“คุณมาร์ค ผมเจ็บปล่อยผมนะ”
“ปล่อยนายอย่างนั้นเหรอ ฉันโทร.หานายกี่สายแล้วแต่นายกลับเมินเฉยและไปเที่ยวกับเพื่อนคิดไม่ซื่อนั่น”
ความโกรธของมาร์คเรียกได้ว่าขึ้นหน้าก็ว่าได้ เขาโกรธที่แบมแบมไม่รับสายเหมือนจงใจหนีเขา รู้อยู่เต็มอกว่ามันเป็นเพราะกลัวเรื่องเมื่อคืนนั้นอยู่ที่เขาจะข่มเหงแบมแบม แต่ในเมื่อเจ้าตัวยอมเป็นที่ระบาย แบมแบมไม่ควรหนีเขาแบบนี้
“นายลืมไปแล้วเหรอแบมแบมว่านายเป็นใคร? นายลืมหน้าที่เหรอ?”
“ผมเปล่า ก็เพราะคุณน่ากลัวแบบนี้นี่ไงผมถึงอยากหนี คุณจะทำอะไรผมอีก”
มาร์คเหยียดยิ้มออกมาเล็กน้อยและกระชากแขนของแบมแบมเต็มแรงพร้อมกระซิบข้างหู
“ทำให้นายเจ็บเหมือนที่ฉันเจ็บ กลัวนักใช่ไหมอยากหนีฉันใช่ไหม? บอกเลยไม่มีทาง”
ร่างเล็กของแบมแบมปลิวติดไปกับมาร์คที่กระชากทึ้งแขนไปที่รถของตัวเอง คนของมาร์คหลีกทางให้และเปิดประตูก่อนที่ร่างทั้งร่างของแบมแบมจะถูกโยนเข้าไปข้างใน แบมแบมรู้ว่าการดิ้นรนหาทางหนีมันไม่มีประโยชน์แต่เขาก็ยังอยากหนีจากมาร์คอยู่ดี
“คุณปล่อยผมลงเดี๋ยวนี้นะ”
“ฉันไม่ปล่อย”
นอกจากจะตะโกนใส่หน้าแบมแบมแล้ว สีหน้าท่าทางของร่างโปร่งยังทำเอาแบมแบมไม่กล้าที่จะเถียงด้วยสักนิด บ่อน้ำตาของแบมแบมเริ่มซึมปลายหางตาและเบือนหน้าออกไปนอกหน้าต่างพร้อมกับรถที่เคลื่อนตัวออกไปตามคำสั่งของมาร์ค
“คุณมันคนใจร้าย ผมเกลียดคุณ”
แบมแบมพูดออกมาเพียงแผ่วเบาแต่มีเหรอที่คนอย่างมาร์คที่นั่งใกล้แบมแบมจนแทบจะเกยตักจะไม่ได้ยิน มาร์คหัวเราะออกมาตามลำคอและช้อนหน้าแบมแบมเข้าหาตัวเอง
“เกลียดฉันให้เยอะๆ ก็ดี ฉันชอบ”
“อื้อ”
แพขนตาของแบมแบมชื้นไปด้วยหยาดน้ำตาไหลลงมาไม่หยุดเมื่อมาร์คใช้ริมฝีปากประกบเรียวปากนุ่มของตัวเอง ลิ้นร้อนตระหวัดเข้ามาข้างในเพื่อสำรวจความเป็นเจ้าของว่าไม่มีใครได้เข้ามานอกจากเขา แค่เมื่อคืนมาร์คให้คนสืบมาว่าแบมแบมอยู่ที่ไหนและได้รับคำตอบว่าเป็นบ้านของเพื่อนคนนั้น มาร์คก็โกรธเป็นฟืนเป็นไฟและมาดักรอตั้งแต่เช้าที่คอนโดของแบมแบมนั่นแหละ
“อ่อย”
มือเล็กๆ ทุบไปที่หน้าอกของมาร์ครัวๆ เพื่อประท้วงให้มาร์คปล่อยสักที แต่กลับกลายเป็นว่านอกจากมาร์คไม่ปล่อยแล้วยังประคองร่างแบมแบมนั่งตักอีกด้วย เขาไม่รู้เลยว่าตอนนี้เขาเป็นอะไรเหมือนเสียการควบคุมไปซะทุกอย่าง เพียงแค่คิดว่าเมื่อคืนแบมแบมไปนอนกับหมอนั่นมา
แค่นอนร่วมห้องเฉยๆ ใช่หรือเปล่าไม่รู้
“อย่าดิ้น บอกฉันมาว่าเมื่อคืนนายนอนกับใคร?”
“เพื่อนของผมน่ะสิ ผมไปบ้านเขาก็ต้องนอนกับเขาและคุณจะมาอยากรู้ทำไม...อื้อ”
อารมณ์โกรธของมาร์คปะทุขึ้นมาถึงขีดสุดรีบจับต้นคอของแบมแบมประกบจูบอีกหนโดยไม่แคร์ลูกน้องข้างหน้าสักนิด มีเพียงแบมแบมนี่แหละหน้าร้อนฉ่าไม่กล้ามองไปยังชายชุดดำข้างหน้าแล้ว เขาไม่ได้หน้าหนาเหมือนมาร์คขนาดนั้น
ไม่ว่าจะนอนเฉยๆ หรืออะไรก็ตาม อย่าหวังเลยว่านับจากวันนี้แบมแบมจะหลุดรอดสายตามาร์คไปอีก เขาเป็นเจ้าของชีวิตของแบมแบม ใครหน้าไหนก็ห้ามมายุ่งกับของชิ้นนี้
นักอ่านสามารถซื้อเป็นหนังสือแบบ E-Book อ่านได้แล้ววันนี้
ในราคาเพียง 200 บาทให้อ่านกันจุใจ
E-Book ประกอบด้วย เนื้อหาตั้งแต่แรกจนจบและตอนพิเศษในเล่มโดยเฉพาะ
ลิ้งค์ซื้อ #แฟนกำมะลอจจ คลิกที่นี่
ลิ้งค์วิธีซื้อ #แฟนกำมะลอจจ คลิกที่นี่
สามารถแสดงความคิดเห็นผ่านทวิต #แฟนกำมะลอจจ
AUTHOR: SNOOKY
FANS PAGE : SECRET SNOOKY FICTION
TWITTER @SKadsakul
นิยายที่ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ

537 ความคิดเห็น
-
#145 Memekarn (จากตอนที่ 10)วันที่ 2 ธันวาคม 2561 / 23:43โอ้ยยยชอบคู่นี้ลิ้นกับฟันสุดๆ#1450
-
#105 ชเวหวังคิมอิมต้วนภูวกุลพัค (จากตอนที่ 10)วันที่ 15 พฤศจิกายน 2561 / 19:30จูบเลยๆๆๆๆ 55555#1050
-
#104 mooeve1234 (จากตอนที่ 10)วันที่ 15 พฤศจิกายน 2561 / 13:50ตัวอย่างนี่รุกหนักมากกกกก กรี๊ดดดดด#1040
-
#103 aruxfics (จากตอนที่ 10)วันที่ 14 พฤศจิกายน 2561 / 16:23โอ้ยชอบมากค่ะ สัมผัสถึงความน่ารักที่กำลังจะเกิดขึ้น#1030
-
#102 nmsty (จากตอนที่ 10)วันที่ 14 พฤศจิกายน 2561 / 09:19นว้อง55555555#1020
-
#101 pangpupii (จากตอนที่ 10)วันที่ 14 พฤศจิกายน 2561 / 00:34แงงงงง ชอบบบบ55555#1010
-
#100 jjacksonn7 (จากตอนที่ 10)วันที่ 13 พฤศจิกายน 2561 / 23:40โอ้ยเอ็นดู ยองแจทำหล่นได้ไงลูก55555#1000
-
#99 แก้วกาแฟสีใส (จากตอนที่ 10)วันที่ 13 พฤศจิกายน 2561 / 23:33กรี๊ดดดดดดดดดดดดดดดดด กกน.นว้องงงง5555#990
-
#98 AiooN1358 (จากตอนที่ 10)วันที่ 13 พฤศจิกายน 2561 / 22:13กำลังฟินกับมุขกกน...งุย...น่ารักจัง#980
-
#97 BAMppyj33 (จากตอนที่ 10)วันที่ 13 พฤศจิกายน 2561 / 21:36ยองเเจหนูทำ กกน ตกหรอลูก อายยิ่งกว่าเห็นตุ๊กตานากอีกนะ5555#970
-
#96 Paysage (จากตอนที่ 10)วันที่ 13 พฤศจิกายน 2561 / 20:32บรรยายมาซะจนอยากให้แจ็คสันเห็นตุ๊กตานากเลย555555 แล้วอะไรคือการมาล้อกกนน้อง แหม่5555#960
-
#95 preem77 (จากตอนที่ 10)วันที่ 13 พฤศจิกายน 2561 / 19:44อยากอ่านตอนหน้าแล้วแหละ-///-#950