ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    my boy maid นายรับใช้(หัวใจ)ของฉัน (1D Zarry Fic)

    ลำดับตอนที่ #13 : เดือดร้อน

    • เนื้อหาตอนนี้เปิดให้อ่าน
    • 250
      2
      12 ก.ย. 58

    ....เพี้ยะ.....
     
     
    ฝ่ามือหยาบกระด้างและหนา มันหนักเเน่นไปด้วยเสียงและอารมณ์เมื่อกระทบไปสู่แก้มซ้ายของชายหน้าเข้มที่ยืนอึ้งอย่างไม่รู้ตัวมาก่อนว่าต้องเจอการกระทำรุนแรงแบบนี้
     
     
     
    แก้มซ้ายเซนค่อยๆขึ้นสีแดงเทือกขึ้นเรื่อยๆ จนเห็นรอยครบทั้งห้านิ้วหนาไปทั่ว ลามมาถึงกกหู
     
     
    "ไอ้ลูกชั่ว!!" 
     
     
    เสียงเข้มทรงอำนาจตวาดคนตรงหน้าดังลั่น ยังไม่พอเขายังเอานิ้วชี้มาเล็งด่ากราดลูกชายคนเดียวของเขาอย่างไม่อายคนที่ยืนในห้อง
     
     
    "จิตใจแกทำด้วยอะไร อยากให้ฉันอายไปถึงไหน หา!! ลำพังหิ้วผู้หญิงขึ้นห้อง ทำตัวเลวทรามไม่พอใจใช่ไหม!"
     
     
    เขาเอานิ้วชี้เเตะไปที่กลางหน้าผากเซนเเล้วผลักหน้าผากนั้นให้หงายไปด้านหลังไปมา แต่เซนกลับมองชายที่เรียกว่าพ่ออย่างเหม่อลอยและท้าทาย
     
     
     
    "สมองกลับหรือไง เอาผู้ชายมาทำเมีย ใครรู้เข้าฉันไม่เอาหัวมุดดินมากกว่าเดิมหรือไง ห้ะ? ไอ้ลูกไม่มีสมอง!"
     
     
     
    "ลูกเหรอครับ ตลอดมามีเวลาไหนบ้างที่พ่อทำกับผมว่าเป็นลูกพ่อ!"
     
     
     
    "ผมจะทำตัวเลวทรามยังไง พ่อก็ไม่เคยสนใจมันอยู่แล้ว เอาเงินฟาดก็จบ ผมก็นึกว่าทำได้  ไม่ใช่สิ พ่อไม่มีเวลาแม้แต่สั่งสอนผมนี่นา ผมเลยเลวแบบนี้ไง"
     
     
    เซนยืนสวนคำไม่ตกฟาก ดวงตาของเขาแรกเริ่มคือความโกรธเคืองแต่นานๆไปมันกลับปนไปด้วยความน้อยใจ
     
     
     
    "นี่แกยังกล้าเถียงฉันอีกเหรอไง คิดบ้างไหมว่าถ้าฉันไม่ทำงาน จะเอาเงินไหนมาให้แกผลาญเล่นไปวันๆอย่างนี้!" 
     
     
    ...เพี้ยะ!!....
     
     
    ฝ่ามือเดิมฟาดลงไปที่แก้มข้างเดิม แต่แปลกที่คราวนี้ไม่เจ็บอย่างคราวแรก คงเพราะมันชาไปทั่วแล้วต่างหาก
     
     
    ยังไม่สิ้นสุดแค่นั้นเมื่อชายวัยกลางคน เงื้อมือสูงขึ้นกว่าเดิม หวังจะปะทะอีกหน แต่ผู้หญิงข้างๆเขา นั่นคือแม่ของเซนห้ามไว้เสียก่อน
     
     
    "พอค่ะคุณ ยังไงเขาก็เป็นลูกเรานะคะ"
     
     
    น้ำเสียงที่ดูจะใจดีและอบอุ่น แต่หารู้ไม่ว่ามันปนไปด้วยความเย็นชาขนาดไหน
     
     
    "เซนน่ะ เขาก็เป็นเหมือนเด็กที่ไม่รู้จักโต ไม่มีความคิดว่าสิ่งที่ทำมันเลวแค่ไหน แล้วทำให้เราสองคนต้องอับอาย"
     
     
    ดวงตาคมกริบมองไปที่เซนอย่างกับจะเฉือนให้บาดเข้าเนื้อ ปลายหางตาก็เล็งไปที่ชายสองคนที่เธอรู้ดีว่าคือเพื่อนรักของเซน
     
     
    "เพราะว่าคงมีเพื่อนต่ำๆแบบนี้มั้ง เลยทำให้เซนทำตัวเลวมากขึ้นทุกวัน!"
     
     
    ไนออลและเลียมเมื่อได้ยินแบบนั้นก็หันมองแม่เซนอย่างเคืองๆ จากที่ก้มหน้าเกรงกลัวคนที่มีอายุมากกว่า
     
     
    "แม่อย่ามาลามถึงเพื่อนผม ทำไมไม่ย้อนมองดูตัวเองบ้างว่า เคยมีเวลาเอาใจใส่ สั่งสอนผมหรือเปล่า"
     
     
    เซนเดินเข้ามาใกล้พ่อแม่ต้วเองก่อนจะเชิดหน้าพูดเบาๆแต่น้ำเสียงเย้ยหยัน
     
     
    "บางทีคนเขาที่เห็นผมทำตัวเลวๆแบบนี้ ไม่ใช่เพราะว่าเพื่อนพาผิดหรอก แต่เขามองกันว่า...พ่อแม่ไม่สั่งสอน หึ!"
     
     
     
    "เซน!! มันจะมากไปล่ะนะ"
     
     
     
    ผู้เป็นพ่อขยุ้มที่กลุ่มผมดกดำของเซนเเล้วกระชากเข้าหาตัว มือขวากำแน่นหวังจะต่อยเข้าไปที่ลูกตัวเอง เพื่อกำหราบเด็กปากเสียที่พูดเเทงใจตน
     
     
     
    "หยุดนะครับ!!"
     
     
    ไนออลและเลียมจากที่ยืนนิ่งอยู่นาน แต่เมื่อเห็นว่าสถานการณ์ดูจะแย่ลงเรื่อยๆไนออลก็รีบคว้าตัวเซนออกห่าง เลียมก็ท้วงแขนพ่อเซนไว้
     
     
    "ปล่อย! ไอ้เด็กเลว พวกแกไม่มีสิทธิ์มาขวางฉัน!"
     
     
    พ่อเซนกราดด่าอย่างเหลืออด
     
     
     
    "พอเถอะครับ พวกคุณทำร้ายเซนเกินไป ตลอดมาเขาขาดความอบอุ่นจากพวกคุณมามากพอแล้ว"
     
     
    เลียมถือดีพูดเข้าข้างเพื่อนรักตน
     
     
    "ปล่อยฉันไนออล เลียมปล่อยเขา ไหนๆก็ไหนๆล่ะ ไม่เคยรักฉันอยู่แล้วนี่ ต่อยฉันตบฉันให้ตายไปเลย!!"
     
     
    เซนท้าทายเสียงดัง จนผู้เป็นพ่อกัดฟันกรอด
     
     
    "อย่ามาท้าฉันนะ ไอ้ลูกอกตัญญู ฉันจะฆ่าแกให้ตาย!"
     
     
    เขาดิ้นไปมาเพื่อให้หลุดจากเลียมที่รัดตัวเขาไว้แน่นหนา
     
     
    บรรยากาศเลวร้ายลงทุกที และดูเหมือนจะไม่มีใครหยุดง่ายๆ ต่างฝ่ายต่างไม่เข้าใจและจะลงอารมณ์กันอย่างเดียว
     
     
     
    ซึ่งต่อมาก็คงเป็นอีกปัจจัยหนึ่งที่เป็นเหมือนฟืนถูกเติมสร้างเชื้อเพลิงการวิวาทของครอบครัวมาลิกให้รุนแรงมากขึ้น
     
     
     
    นั่นคือ....
     
     
    สองขาเรียวยาวที่สวมใส่เพียงกางเกงวอร์มหุ้มตาตุ่มตัวเดียวเท่านั้นได้เดินออกมาจากห้องนอนด้วยความที่ไม่รู้เหตุการณ์ภายนอก แค่เพียงได้ยินเสียงโวยวายจึงปรากฎตัวมาโดยไม่คำนึงถึงผลลัพธ์
     
     
     
    สี่ดวงตาของชายหญิงวัยกลางคนต่างมองไปที่เเฮร์รี่เป็นสายตาเดียว พวกเขาสังเกตถุงรอยแดงที่รู้ดีกันว่ารอยอะไรบนเนื้อตัวของชายผมหยิกผิวขาวคนนี้  ซึ่งเต็มไปหมดเเทบไม่มีที่ว่างให้เนื้อขาวหลุดรอด
     
     
     
    "ไอ้เด็กนี้ใช่ไหมที่พวกแกพูดถึงกันตอนที่ฉันยืนอยู่ข้างนอก ไอ้วิปริตเอ้ย!"
     
    พ่อเซนมองอย่างหยามเหยียดและก่นคอด่าแฮร์รี่จนคนที่ถูกด่าถลึงตาโตเพราะตกใจ
     
     
    "นี่มันเรื่องอะไรกันครับ พวกคุณเป็นใคร?"
     
     
    แฮร์รี่เอ่ยถามอย่างไม่รู้จริงๆ
     
     
    "ฉันสองคนน่ะเหรอ
     ก็พ่อแม่ไอ้ลูกเลวเซนไง แล้วนายล่ะเป็นใคร ทำไมมาทำให้ลูกฉันวิปริตผิดเพศตามเด็กเหลือขออย่างแกด้วย"
     
     
     
    สรรพนามต่างๆที่พ่อเซนพูดแก่ชายร่างสูงเริ่มเปลี่ยนไปตามแรงอารมณ์ที่ปะทุขึ้นทุกที
     
     
     
    "พ่อ อย่ามาดูถูกคนที่ผมรักแบบนี้! คนที่ไม่เคยรักผมจริงๆอย่างพ่อ ไม่เข้าใจหรอกว่าเขากับผมรักกันอย่างไง"
     
     
    เซนพูดสวนด้วยความเดือดดาล
     
     
    "นี่เซน เห็นเกย์นั่นดีกว่าพ่อตัวเองแล้วหรือไงลูก!"
     
    เเม่เซนเป็นฝ่ายที่สวนขึ้นมาบ้าง
     
     
    "ผมไม่ได้เห็นใครดีกว่าใคร แต่ผมแค่มองว่าผมกับเขาเรารักกันเท่านั้นเอง ดังนั้นไม่ว่าพ่อหรือแม่ไม่มีสิทธิ์มายุ่ง"
     
     
    เซนว่าพลางทำสายตาที่เปี่ยมไปด้วยความจริงจัง แล้วเดินไปหาแฮร์รี่
     
     
    ...หมับ...
     
     
    มือหนาคว้าเอวของเเฮร์รี่เอาไว้แนบตัวแน่น เพื่อส่งเสริมคำพูดว่าตนมั่นใจกับคำพูดเมื่อกี้แค่ไหน
     
     
    "เซน นายกับพ่อแม่กำลังทะเลาะกันเพราะฉันใช่ไหม?"
     
     
    เขาเอ่ยถามเสียงเบา
     
     
    "ก็ใช่นะสิ ถ้าไม่มีแก ลูกฉันคงไม่หลงผิด ไม่ทำให้ฉันสองคนขายขี้หน้าแบบนี้"
     
    เเม่เซนพูดตวาดดัง
     
     
     
    "เพราะผมจริงเหรอครับ อย่าว่าผมเสือกเลย แต่ตลอดเวลาที่เราอยู่ด้วยกัน ผมยังไม่เคยเห็นเซนอบอุ่นจากความรักพวกคุณสักครั้ง ผมก็แค่มาเติมเต็มเท่านั้นเอง"
     
     
    แฮร์รี่ฉุนจัดเมื่อคิดถึงความทรมานของเซนทุกคราวที่พูดถึงความรักในครอบครัว ซึ่งเขาไม่ได้รับมันเลยตั้งแต่เกิดจนตอนนี้
     
     
    "แล้วมันผิดตรงไหนเหรอครับที่เราเป็นผู้ชายทั้งคู่ ทั้งๆที่สุดท้ายแล้วการอยู้ด้วยกันอย่างมีความสุขมันต้องใช้ความรักไม่ใช่เหรอ?"
     
     
    แฮร์รี่ยังพูดต่อน้ำเสียงเด็ดขาดเเละไม่เกรงกลัวต่อใบหน้าเข้มขรึมทั้งสองที่จ้องมองเขาไม่วางตา
     
     
    "ความรักที่พวกเราเห็นว่าคุณไม่เคยมีให้เซน มีเเต่เงินเท่านั้นที่ผมเห็นพวกคุณใช้มันแทนสิ่งที่เซนต้องการมาตลอด"
     
    เลียมที่นิ่งเฉยมานานก็เอ่ยเสียงพูดบ้าง
     
     
    "นี่พวกเธอจะรุมด่าฉันสองคนสินะ เด็กนี่มันเด็กจริงๆ ไม่รู้ว่าคำที่ออกจากปากมานั้นจะทำให้เดือดร้อนขนาดไหน"
     
     
    แม่เซนพูดเสียงเย้ยเยาะอย่างคนเหนือกว่า
     
     
     
    "แล้วพวกเธอจะรู้ว่าสิ่งที่พวกเธอทำเมื่อกี้จะเกิดอะไรขึ้น เซน ลูกดูให้ดีนะว่าคนรอบข้างตัวนายจะเป็นยังไง ถ้าไม่อยากให้เกิด กลับบ้านแล้วหมั้นกะเจดซะ!"
     
     
     
    "ผมไม่มีทางหมั้นหรือเเต่งงานกับคนที่ผมไม่ได้รักเด็ดขาด ผู้ชายคนนี้ต่างหากคือคนเดียวที่ผมจะอยู่ด้วย"
     
     
    มือหนาของเซนกำชับอ้อมแขนให้เอวเเฮร์รี่บดเบียดเอวหนาตนมากขึ้น
     
     
     
    "ได้เซน แล้วเราจะเห็นดีกัน พ่อเขาเตือนลูกล่ะนะ"
     
    เเม่เซนทำแววตาเย็นชาใส่ มันไม่มีความรักเจือปนในนั้นเลยแม้แต่น้อย
     
     
     
    "ผมไม่กลัว ผมจะทำทุกทางเพื่อให้อยู่กับเเฮซ รวมถึงเอาชนะพ่อแม่ให้เลิกยุ่งกับเราสองคนด้วย"
     
    เซนประกาศลั่นห้อง ดั่งคำท้าที่เขายอมรับจากพ่อแม่ตัวเอง
     
     
     
    ....ปัง...
     
     
     
    เสียงประตูห้องคอนโดเซนถูกปิดดังลั่นจากฝีมือคนที่มาเยือนเมื่อสักครู่ 
     
     
     
    "เซน พ่อแม่แกเขาคิดจะทำอะไรว่ะ ดูเหมือนว่าจะไม่ใช่เล่นๆเลยนะเพื่อน"
     
    ไนออลเดินมาตบบ่าเซนเบาๆ
     
     
    "ฉันว่ามันต้องร้ายแรงมากขึ้น หากเราไม่ยอมสิโรราบแก่พวกเขา"
     
    เลียมเสริม
     
     
    "ฉันไม่รู้ว่าจะเกิดอะไรขึ้นหรอกนะ แต่ฉันต้องรักษาเเฮซ คนที่ฉันรักเอาไว้ ไม่ว่าจะเป็นยังไงฉันจะสู้เพื่อคนที่เขารักฉะนและฉันก็รักเขาด้วย"
     
     
    เซนหันมามองแฮร์รี่ที่เขายืนเกี่ยวเอวข้างๆอย่างสื่อความหมาย
     
     
    "เซน ฉันสัญญาว่าจะสู้ ไม่กล้ว และอยู่เคียงข้างนายตลอดไป เราจะฝ่าฟันอุปสรรคไปด้วยกันนะ"
     
     
    "พวกนายต้องเอาความรักเข้าสู้เพื่อเอาชนะพ่อแม่เซนให้ได้ เราสองคน ไม่ใช่สิ เราสามคนจะช่วยนายเอง"
     
    เลียมเดินมากอดคอเซนเอาไว้
     
     
    "ใช่ฉันก็ด้วย"
     
    ไนออลก็เดินไปกอดคอแฮร์รี่ไว้
     
     
    "เออขอบใจพวกนายมากที่จะช่วยฉันนะ"
     
    เซนพูดยิ้มๆ
     
     
    "แต่เดี๋ยวนะ พวกนายไม่คิดจะตามลูอิสบ้างเหรอ ฉันเห็นว่าเขาเดินออกไปจากหน้าห้องอ่ะ ป่านนี้อยู่ไหนไม่รู้"
     
     
    เเฮร์รี่คิดได้เลยพูดขึ้นมา
     
     
     
    "เออนั่นดิ ลืมเลย ไนล์เราไปหามันกันเหอะ ป่านนี้ร้องไห้โดดสะพานตายล่ะมั้ง ฮ่าๆๆๆ"
     
     
    เลียมหัวเราะเพื่อสร้างบรรยากาศให้ดีขึ้น
     
     
    ...ปั่ก..
     
    "เอามาอีกแก้ว"
     
    เสียงแหลมเล็กที่ค่อนข้างจะกระท่อนกระแท่นเอ่ยขึ้นกับบาร์เทนเดอร์ในผับที่มีระดับเหมาะกับฐานะของลูอิส
     
     
    แก้วเหล้าน้ำสีอำพันถูกวางเป็นแก้วที่สิบตรงหน้าชายหนุ่ม เขาไม่ลังเลที่จะกระดกมันรวดเดียวหมด
     
     
     
    "เอามาอีกแก้ว"
     
     
    "พอครับ!"
     
     
    เสียงสั่งเหล้าของลูอิสได้ถูกขัดลงด้วยเสียงของช่ยหนุ่มเพื่อนรักเขาสองคนมาขัดเอาไว้
     
     
    "ไนล์ เลียม พวกแกมาทำไมเนี่ย?"
     
    ลูอิสหันไปหาต้นเสียงอย่างเคืองๆ
     
     
    "มาตามแกกลับไงไอ้เพื่อนบ้า อกหักมานั่งกินเหล้าเนี่ยนะ "
     
    ไนออลตบบ่าลูอิสเบาๆเรียกสติ
     
     
    "พวกแกไม่เข้าใจหรอก มันเจ็บนะเว้ย!"
     
     
    "นี่แกชอบแฮร์รี่ขนาดนั้นเลยเหรอเพื่อน?"
     
    เลียมนั่งเก้าอี้ข้างๆลูอิสเเล้วถามเขา
     
    "ตอนแรกก็คิดว่ารู้สึกเล่นๆธรรมดา แต่พอเห็นว่าเซนอึ๊บกับเด็กนั่น มันก็เจ็บ"
     
    ลูอิสระบายความรู้สึกทั้งหมดให้กับเลียมและไนออลฟัง
     
     
    "อืม นี่เเกเป็นเกย์ตั้งแต่เมื่อไร?" ไนออลถาม
     
     
    "ไม่นะเว้ย ฉันไม่ชอบผู้ชาย จริงๆนะไม่เคยสนใจมาก่อน"
     
    ลูอิสส่ายใบหน้าแดงๆด้วยฤทธิ์แอลกอฮอล์ไปมา
     
     
    "ฮ่าๆๆ สงสัยอาการเหมือนเจ้าเซนแหละ รู้สึกเฉพาะแฮร์รี่คนเดียว เด็กคนนี้มันต้องมีอะไรบางอย่างที่ทำให้ผู้ชายสนใจ"
     
    เลียมว่าอย่างขำๆ
     
     
    "ฉันก็ว่าว่ะ ทั้งเซนและลูต่างชอบเด็กนั่นขนาดนี้ ไม่ธรรมดาจริงๆ"
     
     
    ไนออลว่าสนับสนุน
     
     
     
    "อืม ว่าแต่แก ไอ้ลู ฉันกับไนล์คงต้องบอกว่าแกต้องทำใจนะเว้ย เพราะเซนมันจริงจังกับแฮร์รี่มาก"
     
     
    เลียมว่า
     
     
    "ใช่ เพราะตอนที่แกออกไปจากคอนโด พ่อแม่เซนบุกเข้ามาในห้องเลยว่ะ ทำให้รู้ทุกอย่างของไอ้เซน"
     
    ไนออลบอกลูอิส
     
     
    "ห้ะ!!? จริงเหรอว่ะ เรื่องใหญ่เลยนะนั่น"
     
    ลูอิสร้องตกใจเสียงหลง จนสามารถละจากแก้วเหล้าตรงหน้าไปได้
     
     
     
    "ก็จริงสิว่ะ พวกฉันนี่ไปไม่เป็นเลย พ่อแม่มันเอาจริงด้วย คงจะสาหัสเอาการ เลยบอกแกให้ช่วยหาทางไม่ให้เพื่อนเราเดือดร้อน"
     
    เลียมว่าเสียงสุขุม
     
     
    "จะให้ไปช่วยมันไม่มากไปหน่อยเหรอว่ะ ฉันอกหักเพราะไอ้เซนนะเว้ย จู่ๆจะให้ไปช่วยขนาดนั้น ตอนนี้ใจฉันโคตรร้าว"
     
    ลูอิสว่าเสียงเศร้า
     
     
    "ฉันว่าต้องให้เวลาไอ้ลูทำใจว่ะเลียม เราต้องเข้าใจมันนะ เรื่องแบบนี้มันสะเทือนใจพอสมควร ต้องใช้เวลา"
     
    ไนออลตบบ่าลูอิสอย่างเข้าใจ
     
     
    "ขอบใจพวกนายมากที่เข้าใจ แถมตามมาที่นี่ถูก"
     
    ลูอิสบอกเสียงเบาๆ
     
     
    "จะตามมาไม่ถูกได้ไงล่ะ แกเล่นพิมพ์บอกในดีเอมกลุ่มว่าอยู่ที่ไหน"
     
    เลียมพูดแล้วเอาตามองบน
     
     
    "อ้าวเหรอ ฮ่าๆๆ "
     
    ลูอิสขำร่วน
     
     
    "จิตใจนายตอนนี้คงบอบช้ำมาก แต่ไม่นานจะดีขึ้นเว้ยเพื่อน"
     
    ไนออลยังคงปลอบลูอิสอย่างนั้น
     
     
    "ใช่ ฉันไม่รู้ว่าจะหายเมื่อไร แต่จะพยายามให้เป็นปกติเร็วที่สุด เพื่อเซนและแฮร์รี่ล่ะกัน"
     
    ลูอิสนั่งคอตก
     
     
    "ขอพันช์แก้วนึงค่ะ"
     
    เสียงเล็กๆสั่งเครื่องดื่มข้างๆชายหนุ่มทั้งสาม ทำให้ต้องหันไปดูเจ้าของเสียงนั้น
     
     
    "โอ้พระเจ้า สูง หุ่นดี ผิวสีแทน ผมยาวสลวย ใช่เลย มันใช่เลย"
     
    ลูอิสเป็นคนเเรกที่เอ่ยปากชมเรือนร่างบางอย่างไม่ปิดบัง หญิงสาวได้ยินก็หันมายิ้มให้แก่ลูอิสเป็นเชิงว่าเธอก็ถูกใจเขาเช่นกัน
     
     
    "ไม่อยากเจ็บ...อย่ายิ้มให้พี่นะน้อง"
     
    ลูอิสจ้องร่างบางไม่วางตา พร้อมเลียมุมปากจนไนออลกับเลียมตามไม่ทันกับความเศร้าเพราะอกหักเมื่อกี้ของลูอิสไม่ทัน
     
     
    "เดี๋ยวมานะเพื่อน คนนี้แม่งใช่ ต้องสานสัมพันธ์เสียหน่อย แม่ของลูกชัดๆ"
     
    ลูอิสตบบ่าเลียมแล้วรีบเดินเข้าไปโอบเอวหญิงสาวคนนั้น ผิดกับเพื่อนทั้งสองของเขาที่หันหน้าหากันแล้วทำหน้างง
     
     
    "คือมันหายอกหักแล้วเหรอ?" 
     
    เลียมถามเสียงสงสัย
     
    "หึๆ ไม่รู้ว่ะ คืออะไรว่ะ?"
     
    ไนออลผายมือทั้งสองขึ้นมา แล้วเพยิดไหล่เบ้ปากงงๆ
     
     
    "ฮ่าๆๆ ลูอิสคือลูอิส เราไม่น่าไปเชื่อเลยว่ามันจะจริงจังกับใคร"
     
    เลียมส่ายหัวตัวเองเหมือนกับไนออลที่ส่ายหัวไปมาพร้อมๆกับเขา แล้วทั้งสองก็ปล่อยเสียงหัวเราะออกมา
     
     
     
     
    ด้านพ่อแม่เซน
     
     
    ..ปั่ก...
     
    ปากการาคาแพงด้ามสีทองวางกับโต๊ะทำงาน ใบหน้าที่ยังคงสุขุมวัยกลางคนอย่างพ่อเซนเงยหน้าขึ้นมา
     
     
     
    "เรื่องที่ให้สืบ เป็นไงบ้าง?"
     
     
    เขาถามกับนักสืบที่จ้างมาเพื่อเรื่องที่ต้องการโดยเฉพาะ
     
     
    "ตามนี้เลยครับท่าน"
     
     
    นักสืบหนุ่มยื่นซองน้ำตาลที่มีเอกสารข้อมูลอยู่ในนั้นครบถ้วน ผู้ว่าจ้างไม่รอช้าที่จะเปิดมันออกมาอ่าน
     
     
    "ทำงานได้ดีมาก ค่าจ้างส่วนที่เหลือบอกกับเลขาฉันได้เลย แล้วไปซะ"
     
     
    เสียงราบเรียบกล่าวขึ้นอย่างถูกใจกับใบกระดาษในมือตัวเอง  นักสืบหนุ่มก้มหัวลงเเล้วเดินไปจากห้องทำงานกว้าง
     
     
    "คราวนี้แหละ เจ้าเด็กเหลือขออย่างแฮร์รี่ต้องเจอกับไฟที่ตัวเองเสนอร่างบินเข้ามาเสียที"
     
     
    ชายวัยกลางคนนั่งกระตุกมุมปากยิ้มอย่างมีเเผนในใจเต็มไปหมด สายตาก็จ้องมองกระดาษที่ปรากฎรูปหญิงวัยกลางคนซึ่งน่าจะรุ่นราวคราวเดียวกับเขาอย่างไม่วางตา
     
     
     
    "นี่เป็นแม่แกสินะ แฮร์รี่"
     
     
    น้ำเสียงเยือกเย็นถูกปล่อยออกมาจากปากหนาที่คล้ำจากการสูบบุหรี่เบาๆ
     
     
     
     
    ++++++++++++++++
     
     
    พ่อเซนคิดจะทำอะไรเนี่ย???
     
     
    ติดตามตอนต่อไปนะคะ
     
    ช่วงนี้นุ๊กจะสอบอีกแล้ว (เพิ่งเปิดเทอมได้ไม่นาน)
    ที่มหาลัยก็จะสอบอีกครั้ง -.-
     
     
    ถ้าอัพช้าอย่าว่ากันนะ (ปกติช้าตลอด)
     
     
    เม้นติชมกันได้นะคะ หรือว่าจะติชมผ่านทางทวิตเตอร์ก็ได้ค่ะ
    เพียงติดแฮซแทก #myboymaid เท่านี้คุณก็จะเป็นส่วนหนึ่งที่ทำให้ฟิคพัฒนาให้ดีขึ้น 
     
     
     
    ขอบคุณนักอ่านมากค่ะ 
     
     
     
     
     
     
     
     
     
     
     
     
     
     
    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    นิยายที่ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×