ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    The last of your expectation

    ลำดับตอนที่ #22 : เหตุผลที่เซเวอรัสเป็นผู้เสพความตาย--2

    • เนื้อหาตอนนี้เปิดให้อ่าน
    • 538
      8
      20 ต.ค. 54

    อาเทน่า แบล็กเดินเข้าไปในความมืดก่อนที่แสงสว่างจากร่างของใครบางคนจะปรากฏชัด  มันส่องให้เห็นใครบางคนในความมืด  คนที่ทำให้อาเทน่าสั่นขึ้นมาด้วยความขยะแขยง "ทำไมมันยังไม่ตาย" อาเทน่ากระซิบ "ทำไมคนสารเลวอย่างมันต้องยังมีชีวิตอยู่" เมื่อมีคำถาม  มือเรียวค่อยๆ พลิกหนังสือและเปิดให้อาเทน่าเดินเข้าในดูใกล้ๆ

    'แล้วอับราฮัมก็ยื่นมือจับมีดจะฆ่าบุตรชาย  แต่ทูตของพระเจ้าเรียกเขาจากฟ้าสวรรค์ว่า "อับราฮัม ฮับราฮัม" แล้วท่านตอบว่า "พระเจ้าข้า" ทูตสวรรค์ว่า "อย่าแตะต้องเด็กนั่นหรือกระทำอะไรเขาเลย  เพราะบัดนี้เรารู้แล้วว่าเจ้ายำเกรงพระเจ้า  ด้วยเห็นว่าเจ้ามิได้หวงบุตรชายของเจ้า  แต่ยอมถวายบุตรชายคนเดียวของเจ้าให้เรา",'.- ปฐมกาล 22:10-12

    อาเทน่ารู้ชัดแล้วว่าจะเกิดอะไรขึ้น  เหตุผลที่เวลานี้เซเวอรัส สเนปมีสองคน  และมีคนหนึ่งต้องจบชีวิตลง  มันคือการบูชายันต์อันศักดิ์สิทธิ์เหมือนที่อับราอัมเคยทำ  แต่เหตุการณ์ในครั้งนี้ไม่เหมือนสิ่งที่เกิดขึ้นกับอิสแอ๊ค  ในตอนนั้นพระเจ้าทรงประสงค์ที่จะบูชายันต์มนุษย์และทรงทดสอบอับราฮัมเพื่อวัดคุณค่าทางจิตวิญญานของมนุษย์  ถ้าอับราฮัมปฏิเสธแต่แรกก็จะไม่ส่งอิมมานูเอลมาสู่โลก  แต่อับราฮัมยอมทำตาม  และพระเจ้าอาจจะตัดสินพระทัยใช้อิสแอ๊คในการบูชายันต์ก็เป็นได้

    โลกิที่เป็นลูกแกะบริสุทธิ์ที่สุดในโลกของผู้วิเศษนั้นก็เหมือนกับอิสแอ๊ค  เค้าไม่ได้ถูกวางไว้เพื่อเป็นเครื่องสังเวยแต่แรกแล้ว  แต่เพื่อจะส่งผ่านสถานภาพของเครื่องสังเวยมายังลูกหลานต่างหาก  ถ้าตอนนั้นคุณพริ้นซ์ไม่ยอมถวายโลกิให้เป็นสมบัติแห่งไนจัส อะโพคาลิฟ  โลกิจะกลายเป็นเครื่องสังเวยทันที!?!

    ทุกคนเข้าใจผิดมาตลอด ถึงไม่ถูกจอมมารฆ่าโลกิไม่มีโอกาสเป็นเครื่องสังเวยมาตั้งแรก! เซเวอรัสต่างหาก! แต่เค้าบริสุทธิ์ไม่พอ! ไนจัสจึงพยายามทำให้เค้าบริสุทธิ์โดยการแยกใจและวิญญานออกจากกัน! อาเทน่าขนลุกขึ้นมาทันทีเมื่อคิดถึงตอนนี้  ถ้างั้น  ที่ผ่านมาเธอรู้จักเซเวอรัส สเนปคนไหนกันแน่!? เพราะถ้ามันเป็นอย่างที่เธอคิดจริงๆ รอยร้าวแห่งร่างและวิญญานก็ต้องปริแยกมาตั้งนานแล้ว!

    "ทั้งหมดคือท่านสินะ ท่านเองที่นำลิลี่กับเซเวอรัสมาพบกัน  เพื่อให้เค้าได้รักและยึดติดกับอัตตาของตน  ทิ้งจิตวิญญานบริสุทธิ์ที่มีไว้  ท่านทำเพื่ออะไร... เพื่อเค้าเองงั้นเหรอ!?"

    "มันน่าเศร้านะ... ถ้าการเสียวิญญานไปคือการเสียคนๆ หนึ่งไปอย่างไม่มีวันกลับ  เพราะโลกเวทมนตร์ต้องการมากกว่าแค่คนที่จะตายบนไม้กางเขน  แต่ต้องการวิญญานทั้งดวง"

    แพขนตาของไนจัสหลุบลง  แต่อาเทน่ารู้ว่าเธอไม่ได้ตั้งใจจะหลบตา  แต่อาจจะแค่ถอดถอนใจ... ใช่... ถ้าปล่อยให้เซเวอรัสที่เกิดมาเพื่อเป็นเครื่องสังเวยอยู่อย่างบริสุทธิ์เหมือนโลกิ  การสังเวยวิญญานคือการเสียเค้าไปอย่างไม่มีวันกลับ! จะไม่มีอะไรที่จะเรียกคืนมาได้อีกแล้ว! แต่  ถ้าเซเวอรัสมีรักที่ลึกล้ำ  มันจะทำให้ใจยึดติดกับตัวตนจนไม่สามารถโบยบินไปพร้อมกับวิญญานได้ และการที่ร่างของเค้าถูกย้ำยีจนยับเยินก็เพื่อจะแยกร่างและวิญญานจากกันในตอนท้าย! เพราะวิญญานบริสุทธิ์ย่อมไม่อาจจะไปด้วยกันได้กับเนื่อหนังสกปรก  ถ้าเช่นนั้น  การแยกร่างและวิญญานน่าจะเริ่มต้นทันทีที่เซเวอรัสเริ่มรักลิลี่! ทุกอย่างถูกวางหมากไว้แล้ว!?

    ถ้าเช่นนั้น!? ตลอดเวลาที่ผ่านมาลิลี่รักเซเวอรัสคนไหน!? ศาสตราจารย์สเนปที่เย็นชาแต่ก็อบอุ่นในส่วนลึก!?

    หรือบราเทอร์เซเวอรัส คนที่สามารถรักและให้อภัยได้แม้กระทั่งคนที่เลวร้ายที่สุดในโลก!?

    ใคร!? ใครกันแน่ในสองคนนี้ที่รักลิลี่แบบชู้สาว!? แล้วใครที่ถูกลิลี่รักฉันชู้สาว!?

    ใครกันที่พูดกับลิลี่ว่า "รักคือการสิ้นหวัง" !? หรือทั้งคู่!

    "ตอนนี้รู้ทุกอย่างแล้ว" ไนจัสพูดขึ้น "ไม่มีอะไรที่ชั้นปกปิดเธออีกแล้ว  เธอยังจะเดินร่วมทางกับชั้นอีกมั้ย... ก๊อดริก กริฟฟินดอร์"

    นาทีนั้น  อาเทน่าคุกเข่าลง  แล้วยื่นมือขึ้นไปจับชายเสื้อคลุมสีดำขึ้นมาจูบ "จิตวิญญานของข้าเป็นของท่านเสมอ  ไนจัส อะโพคาลิฟ เทวีผู้ครอบครองของข้า"








    "เธอตายไปนานแล้ว..." คำพูดนี้ทำให้อัลแข็งทื่อ ตัวสั่นตั้งแต่หัวจรดเท้า  ขณะที่ลูเซียสมองดูน้องสาวอย่างไม่แน่ใจ  แต่หล่อนยังคงพูดต่อไป "ใช่แล้วล่ะ  เด็กผู้ชายที่เหมือนเธอในความทรงจำวัยเด็กทำอย่างที่เค้าพูดกับเธอ  เค้าเอาวิญญานของเธอไปอย่างที่เค้าได้พูด  เพื่อเปิดประตูออกจากโลกที่ถูกพันธนาการ  อะโพคาลิฟ-ฟา"

    "นี่ป้า" อาร์เทมีสถอนใจ "ใจคอป้าจะบอกว่าเด็กที่เหมือนอัลบัสคืออะโพคาลิฟ-ฟางั้นเหรอ?"

    "อันที่จริงน่าจะบอกว่าเหมือนแฮร์รี่ พอตเตอร์มากกว่านะ  เพราะลิลี่ตายเพื่อปกป้องแฮร์รี่  ไม่ใช่อัล"

    สเนปรู้สึกถึงความตึงเครียดของเด็กชายและพยายามประคองไว้  ขณะที่อัลพยายามถาม "แล้ว... วิญญานของผม"

    "ตอนนี้เธอน่าจะมีวิญญานอื่นในร่าง  จากที่เธอบอกว่าเธอเห็นไนจัสตอนเด็กๆ  แปลว่าหล่อนคงช่วยเธอไว้โดยให้เธออยู่ต่อมาด้วยวิญญานของ--"

    "ย่าลิลี่ใช่มั้ยฮะ!"

    "จากรูปการก็คงจะเป็นอย่างงั้น  ไม่งั้นเธอคงโตมาจนป่านนี้ไม่ได้หรอก  ตอนนี้ลิลี่คงถูกยึดร่างและใจไว้ด้วยกัน และอาจจะเดินท่องไปบนโลกอีกครั้งในฐานะคนตายเดินดินเหมือนเซเวอรัสตอนนี้ก็ได้" เธอเงียบไปพักหนึ่ง  ก่อนจะหันไปหาพ่อเพื่อขอความมั่นใจและพูดออกมา "หรืออาจจะอยู่กับไนจัส"

    "อยู่กับไนจัส...!" เซเวอรัส สเนปไม่แน่ใจว่าตนเองควรรู้สึกอย่างไร นานแค่ไหนแล้วที่เค้าไม่ได้พบลิลี่! ลิลี่สุดที่รักของเค้า! พระเจ้า.. เธอคือคนที่เค้ามอบหัวใจทั้งหมดให้มาตลอดและไม่มีวันหมดรักเธอ "เธออยู่กับไนจัส!?"

    อัลมองสเนป เค้ามั่นใจว่าไนจัสต้องบอกสเนปว่าวิญญานของลิลี่อยู่ในตัวเค้าแน่นอน  และสเนป  ไม่ได้ทำดีกับเค้า  แต่ทำดีกับลิลี่ต่างหาก! เค้าไม่มีความหมายเลย  ตอนนี้หัวใจเด็กชายเต็มไปด้วยความรู้สึกที่มอดไหม้อย่างที่ไม่เคยรู้สึกมาก่อน  ดวงตาของเค้าร้อนผ่าวด้วยความอิจฉาที่ทรงพลังอย่างที่ไม่เคยสัมผัสที่ไหนได้

    ยิ่งไปกว่านั้น! เค้าไม่รู้ด้วยซ้ำว่านี่มันเป็นความรู้สึกของลิลี่หรือเค้ากันแน่  มันสับสนไปหมด!

    "อัล... ไปไหน!" สเนปเรียกตาม

    "ผม... อยากอยู่ตามลำพังซักพัก!"

    "อัล ถึงวิญญานจะไม่ใช่ของเธอ  แต่ชั้นก็ไม่คิดจะให้เธอสละวิญญานคืนให้ลิลี่ตอนนี้หรอกนะ" สเนปพูดอย่างอ่อนโยน ยืนมือเข้าไปจับไหล่ของเด็กชาย "เราต้องหาทางเอาวิญญานมาคืนให้เธอก่อน" แต่อัลสะบัดมือสเนปออกอย่างรุนแรง

    "ผมไม่สนใจหรอก! ผมแค่อยากอยู่คนเดียว!" แล้วก็วิ่งออกไป  สเนปนิ่งอยู่ตรงนั้น  เค้าคิดว่าเค้าเข้าใจความรู้สึกสับสนของเด็กชายและเห็นใจชะตากรรมนั้น  บางที  เด็กคนนั้นอาจจะต้องการเวลาซักพัก

    อัลวิ่งไปจนกระทั่งถึงจุดที่ดอกมายมากมายปรากฏขึ้นมาอย่างน่าประหลาดทั้งๆ ที่ยังเป็นฤดูหนาว  บราเทอร์เซเวอรัสยืนอยู่ตรงนั่น  ช่างดูบริสุทธิ์งดงามราวกับเทวดา  แม้จะอยู่ในชุดสีดำ  เด็กชายเดินเข้าไปใกล้ๆ

    "คุณทำเหรอฮะ"

    "ใช่... เธอทำไมแยกออกจากเซวี  ปกติเธอเกาะติดเค้ายังก่ะอึปลาทอง"

    มันเป็นมุข  แต่อัลขำไม่ออก "เค้าไม่ได้ต้องการผมจริงๆ หรอกฮะ  เค้าต้องการผมเพราะวิญญานของย่าลิลี่อยู่ในตัวผมต่างหาก"

    บราเทอร์เซเวอรัสเลิกคิ้ว "อัล... เธอพูดเหมือนเธอกำลังหึงเลยนะเนี่ย"

    'หึง!?' เค้าหึงย่าตัวเอง  เรื่องแบบนี้มัน "พูดบ้าๆ!" อัลน่าแดงกล่ำ  บราเทอร์เซเวอรัส สเนปหัวเราะออกมา

    "ฮะๆๆๆ ตัวชั้นอีกคนหนึ่งถูกผู้ชายด้วยกันหลงรักเหรอเนี่ย! แถมยังเป็นเด็กผู้ชายที่อายุคราวหลานกับปู่ด้วย!"

    "นี่ไม่ตลกนะ!" อัลหน้าแดงจนควบคุมไม่ได้  แล้วยิ่งเด็กหนุ่มที่หน้าตามเหมือนสเนปแถมเป็นวิญญานของสเนปกำลังล้วงความลับของเค้าได้อย่างตรงประเด็นแบบนี้ด้วย  ไม่ใช่เรื่องที่จะควบคุมอารมณ์ได้เลย "ผมจะไปชอบผู้ชายด้วยกันได้ยังไงกัน!"

    "ถึงพระคัมภีร์จะห้าม แต่ชั้นไม่คิดว่าจะมีปัญหาหรอกนะ  อยากรักก็รักเลย  ดีกว่าไม่มีโอกาสบอกให้เค้ารู้แล้วนั่งเสียใจคนเดียว"

    ทั้งคู่อยู่ในความเงียบ  อัลเริ่มรู้สึกปลอดโปร่งอย่างประหลาด  เด็กผู้ชายคนนี้บริสุทธิ์มากจนเอาความกังวลใจออกจากเค้าไปได้หมด  เด็กชายตัวน้อย  เริ่มกลับเค้าสู่ภาวะปกติแม้จะยังเขิน  ก่อนจะนึกได้บางอย่าง

    "คุณก็... รักย่าลิลี่ใช่มั้ยฮะ"

    "ใช่... รักมาก"

    "เคยบอกย่ามั้ยฮะ" บราเทอร์ส่ายหัว "ทำไมล่ะฮะ" อัลอดถามไม่ได้

    "เพราะบอกไม่ได้" เซเวอรัสถอนใจ "รักคือการสิ้นหวังสินะ..."

    คำพูดนั้นเหมือนดาบแหลมที่แทงหัวใจของอัลเข้าเต็มเปา  แต่เค้ารู้ว่าหนึ่งในความเจ็บปวดและความเหงานั่นเป็นของเค้าแต่ก็ไม่ใช่เค้า  หากเป็นของตัวเค้าอีกคนในตัวที่ชื่อ ลิลี่ เอฟเวนส์ต่างหาก...

    ....................................................................

    ...............................................

    ................................

    ...ขอโทษ...

    แม้ริมฝีปากจะยับ  แต่ไม่มีเสียงใดหลุดรอดออกมาแม้แต่น้อย  และเสียงคำราม "ไอ้ลูกปีศาจ! ถ้าไม่มีแกแต่แรกชั้นคงไม่ต้องมาอยู่ในสภาพนี้! แกมันปีศาจชัดๆ! ซาตานกลับมาเกิดชัดๆ!" แต่ริมฝีปากบางที่ชุ่มเลือดก็ยังไม่อาจจะขยับเพื่อพูดคำอื่นได้นอกจาก

    ...ขอโทษ...

    ...ผมขอโทษครับ พ่อ...

    เสียงไอที่แทบไม่เป็นเสียงไอ  เลือดที่ผสมกลับน้ำลายไหลเป็นยางออกจากปากกับการฟาดไม้ลงกับร่างกายที่ผอมอย่างน่าหดหู่  ตอนนี้เลือดเริ่มไหลออกจากรอยแผลฉีกขาดที่เกิดจากการถูกของแข็งกระแทก  ในสติที่จวนเจียนจะแตกดับ  เค้าได้ยินเสียงครางสะอื้น  กับร่างที่ทรุดลงเหนือร่างของเค้าแล้วน้ำตาที่หยดลงบนร่างที่บาดเจ็บของเค้า  พ่อกำลังร้องไห้  นั่นเพราะพ่อเสียใจที่ทำให้เค้าเจ็บปวด  ถ้างั้น  ทำไมต้องทำร้ายเค้าขนาดนั้น?  ในเมื่อรักเค้ามากขนาดนั้น?

    มือที่พยายามประคองร่างกายที่บอบช้ำจนแทบจะเหมือนเนื้อที่ถูกทุบเพื่อทำสเต็ก  เค้าอยู่ในสภาพที่สติสตังขาดรุ่งริ่งและลมหายใจรวยรินขณะที่พ่อกอดเค้าแนบอกแล้วร้องไห้อย่างสิ้นหวัง

    ...ความรักคือการสิ้นหวังสินะ...!?

    ย้อนกลับไปก่อนหน้านั้น... เค้ายังนั่งอยู่ในห้องนอนหลุย-ฟิลลิปอยู่ด้วยซ้ำ  เนื้อตัวสะอาดสะอ้าน  หวีผมเรียบร้อย  รอคนที่พึ่งจ่ายเงินซื้อตัวเค้าหมาดๆ ด้วยเงินจำนวนพอๆ กับสามเท่าของรายได้ต่อเดือนของคนงานชั้นดีคนหนึ่งทีเดียว  เงินจำนวนนี้จะถูกรวบรวมเพื่อเป็นค่าใช้จ่ายของพ่อตลอดเวลาที่เค้าถูกฝากให้ฮอกวอร์ตเลี้ยง

    เซเวอรัสไม่สามารถบอกได้ว่าทำไม  ทำไมเค้าถึงยอมทำทั้งๆ ที่เมื่อทุกอย่างยุติ  เค้าจะกลายเป็นกระสอบทรายของพ่อต่อไป  โทไบอัส สเนปทุบตีเค้าให้สาสมกับการที่เค้าเอาตัวเองไปสู่ความโสมมน่าขยะแขยงทั้งๆ ที่เค้านั่นแหละเป็นคนขายลูกชายตัวเอง!

    ความคิดถูกหยุดลงเมื่อบานประตูเปิดออก  ชายสามคนเดินเข้ามา คนหนึ่งอายุเกินหน้าสิบแล้วและตัวอ้วนใหญ่  อีกคนสองคนเหมือนจะอายุน้อยกว่าแต่ก็ตัวอ้วนใหญ่พอๆ กัน  เป็นลักษณะของคนที่มีอายุและมีทรัพย์สินเงินทองมาก  คนที่แต่งงานเพื่อบังหน้า! หน้าสงสารผู้หญิงเหล่านั้นที่ไม่เคยรู้ตัวเลยว่าสามีของตัวเองไม่ได้รักตัวเองและลูกจริง!

    กับพละกำลังที่ถูกปล้ำกดลงกับเตียง  กับเสื้อผ้าที่ถูกฉีกออกจากร่าง  บนอกซีดขาวยังมีร่องรอยของการจูบหนักๆ อยู่ มันไม่ใช่คนแรก  ไม่ใช่ครั้งแรก  แต่หลายครั้ง  เด็กหนุ่มยึดเกร็งอยู่บนเตียงขณะที่ถูกบุกรุกร่างกายอย่างกระหาย  ดวงตาสีดำปิดลง  แทบไม่อยากรับรู้สิ่งที่เกิดขึ้น  แต่มันไม่สามารถหนีได้  ไม่เลย  เว้นแต่เค้าจะยกไม้กายสิทธิ์ขึ้นแล้วสาปพวกมัน  ใบหน้าซีดขาวเริ่มแปรเปลี่ยนเป็นการทอดถอนใจ  มันเป็นเรื่องธรรมดาในชีวิตเค้าไปแล้ว

    ในครั้งแรกๆ อาจจะมีความรื่นรมบ้าง  แต่ตอนนี้ไม่แล้ว  เพราะมันหลายครั้งและหลายคนจนเค้าเจ็บระบม  ยิ่งตอนนี้ยิ่งแล้วใหญ่  ไม่มีความสุขสมใดๆ อยู่เลย  มีแต่ความอึดอัดทรมานที่ถูกยัดเยียดลงมาซ้ำแล้วซ้ำอีก

    แต่ยังไงซะ  ความรุนแรงมันต้องจบ... ถ้าไม่จบก็มีแต่ตายเท่านั้น

    บานประตูเปิดออก  เผยร่างของเด็กผู้หญิงผมสีแดงที่ทางเข้า  แต่คนที่อยู่รอบๆ ตัวเค้าได้หายไปแล้ว  ร่างกายของเค้าไม่มีอะไรเหลือแม้แต่เสื้อผ้าชักชิ้น  มันถูกครอบคลุมด้วยน้ำแห่งตันหาของคนหลายคนที่ผสมปนเปกันจนไม่รู้ว่าของใครเป็นของใคร  เธอมองไปที่เตียงและเห็นหยดเลือด  มันกระจายเป็นหย่อมๆ  เปียกอยู่ที่โคนขาของเค้า  ครั้งแรกที่เธอได้เห็นความจริงมันก็คล้ายๆ แบบนี้  แต่มันแย่กว่ามาก  เพราะตอนนั้นเธอเปิดประตูเข้ามาและเห็นเค้าที่กำลังถูกรุมเหยียบย่ำ  ตอนนั้นเด็กสาวถึงกับขาดสติแผดเสียงอย่างทรมาณขณะที่ร่ายคำสาปอย่างไม่ปราณี

    สำหรับตอนนี้เด็กสาวกำลังร้องไห้ด้วยความเจ็บใจที่ตัวเองมาช้าเกินไปไป!

    "ทำไม" เสียงของเธอทำให้เค้าลืมตาขึ้นมามองดู "ทำไมเธออดทนกับเรื่องพรรค์นี้ได้  เธอไม่มีศักดิ์ศรีบ้างรึไง!"

    เค้าอยากจะยกมือขึ้นเช็ดน้ำตาสวยๆ นั่นให้  แต่มือเค้ามันก็สกปรกเหลือเกิน เค้ายันตัวลุกขึ้นอย่างยากลำบากขณะที่เธอนั่งร้องไห้ที่ปลายเตียงโดยหันหลังให้  รอให้เค้าอาบน้ำแต่งตัวแล้วออกไปด้วยกัน  ระหว่างพวกเค้าไม่พูดกันเลย  ไม่แม้แต่จะแตะต้องกันและกัน  ลิลี่ไม่หันมามองเค้าด้วยซ้ำ  เค้ายิ่งรู้สึกผิดที่มันเกิดขึ้น!

    เซเวอรัสตื่นแล้ว... เค้าเห็นตัวเองนอนอยู่ที่ห้องที่ไม่คุ้นเคย  แต่ไม่เห็นพ่อ  มีเด็กสาวที่อายุมากว่าเค้านิดหน่อยนั่งอยู่ข้างๆ นาซิสซา แบล็ก!? เด็กหนุ่มรู้ทันทีว่าตัวเองอยู่ที่ไหน  เค้าพยายามลุกขึ้นแต่ก็เจ็บจนร้าวไปทั้งตัว  นาซิสซาและเรกูรัสขยับเข้ามาประคอง  เซเวอรัสกวาดตาไปรอบๆ เพื่อจะมองให้ชัดว่ามีใครอยู่ใกล้ๆ บ้าง "ไม่มีใครอยู่หรอก  ไม่มีใครรู้ว่าคุณอยู่ที่นี่ด้วย" เรกูรัสพูด "นอกจากครีเซอร์  แต่ผมกำชับแล้วว่าไม่ให้เค้าพูด"

    "พ่อชั้นล่ะ!? เค้าอยู่ไหน!?" เด็กหนุ่มร้องอย่างหวาดกลัว  เค้ารู้ว่าทั้งนาซิสซาและเรกูรัสเป็นผู้เสพความตาย พวกเค้าต้องไม่ปล่อยมักเกิ้ลไว้แน่ๆ แต่ก็คลายใจเมื่อได้ยินคำตอบจากนาซิสซา

    "เราสะกดนิ่งเค้าไว้ตอนที่พยายามพาเธอออกจากบ้าน  เพราะเค้าไม่ยอมให้เราเอาเธอมา  เราเลยต้องทำ" นาซิสซาถอนใจ "ลูเซียสกับเรกูรัสเตือนเรื่องที่เธอรักพ่อมากกับเราแล้ว  เราไม่ทำร้ายเค้าหรอก"

    "ขอบคุณ..." เซเวอรัสกล่าวก่อนจะลุกขึ้นจากเตียง "ชั้นว่าชั้นกลับดีกว่า  ซิเรียส แบล็กคงไม่ชอบใจที่เห็นชั้นในบ้าน"

    "เค้าไม่มีทางเห็นหรอก  เค้าไปกางเต้นที่บ้านพอตเตอร์!  ไม่กลับมาเป็นชาติแล้ว!" เรกูรัสมีน้ำโห  ก่อนจะอ่อนลง "เซเวอรัส... เป็นผู้เสพความตายเถอะนะ"

    "นายพูดอะไร...?"

    "มีแต่วิธีนี้เท่านั้นที่จะทำให้ความมืดขยายตัวในใจคุณมากพอ  แล้วออกไปจากบ้านนั่น  ไปจากนรกนั่นซะ"

    เซเวอรัส สเนปหลับตาลง  เค้านึกถึงตอนที่เรียกเธอว่าเลือดสีโคลน  แล้วพยายามขอโทษเธอ  ก่อนจะถูกขับไล่ไสส่งเหมือนหมูหมาเพราะเค้าทำตัวเหมือนผู้เสพความตายที่เหยียดเผ่าพันธุ์  แม้ตอนนี้เธอจะไม่เป็นเพื่อนเค้าอีกแล้ว  แม้ว่าเธอจะชอบเจมส์ พอตเตอร์ "ไม่ล่ะ" เค้าพูดพลางเช็ดน้ำตา "ชั้นขอปฏิเสธ"

    "ไม่คิดดูหน่อยเหรอ--"

    "ไม่  แล้วขอปฏิเสธไปตลอดกาลด้วย  และวางใจเถอะ  ชั้นไม่บอกใครหรอกว่าพวกนายเป็นผู้เสพความตาย" เซเวอรัสออกจากบ้านกริมโมเพลสแล้วกลับสู่โลกมักเกิ้ล  เค้าจะไม่เป็นผู้เสพความตาย  เค้าจะไม่พลาดเป็นครั้งที่สองอีกแล้ว  ตอนนี้เค้าคิดถึงลิลี่ที่พาเค้าออกจากคฤหาสนั่น  โดยไม่พูดอะไรกัน  พระเจ้า! เค้าอยากบอกเธอ  เพราะงั้น  เค้าหมุนโทรศัพท์ไปหาด้วยเงินที่เหลือไม่มาก  เค้าโดนพ่อทุบไปรอบหนึ่งแล้ว  และรู้ว่าจะต้องโดนทุบอีกรอบ  เค้าอยากได้กำลังใจจากเธอนิดหน่อยก่อนจะกลับไปสู่บ้าน  ที่อาจจะโดนตีจนตายก็ได้ "ลิลี่, นี่เซวีนะ  ออกมาเจอกันหน่อยสิ  ชั้นรอที่สระน้ำ"

    เธอมาจริง  เค้าบอกเธอเรื่องที่จะไม่เป็นผู้เสพความตาย  รวมทั้งเรื่องที่เค้าอาจจะไม่ได้เข้าเรียนในอาทิตย์แรกและขอให้เธอช่วยเหลือ  ก่อนจะแยกจากไป เพราะไปสู่นรกที่เค้าเรียกว่าบ้าน... และเค้ารู้ในอีกหลายวันต่อมาว่า  ในคืนที่แยกจากกันหลังจากเล่นน้ำที่สระนั้น  เธอได้ตามเค้ากลับไปที่บ้าน  และได้ยินเสียงร้องอย่างทรมาณของเค้าผสมกับเสียงคำรามและเสียงทุบตีอย่างโหดเหี้ยมของพ่อ  เพราะพ่อนั่นแหละที่พลั้งปากออกมาว่า ลิลี่มาขอร้องเค้าว่า "อย่าทุบตีเซวีอีกเลย"








    TBC.

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    นิยายที่ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×