คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #21 : เหตุผลที่เซเวอรัสเป็นผู้เสพความตาย--1
"เธอเคยเห็นเค้าเหรอ"
"แค่เหมือนเคยเห็น.... แต่ ก็ไม่ค่อยแน่ใจ" อัลพูดเบาๆ "แต่เค้าเหมือนจะอยู่กับเด็กคนหนึ่งที่คล้ายๆ ผม"
"คล้ายเธอเหรอ"
"ฮะ?" อันหันไปมองอาร์เทมีสที่ซักไซร้ "ทำไมเหรอ?"
"เปล่า ไม่มีอะไร เล่าต่อไปสิ"
"ผมเห็น... ไม่แน่ใจว่าเมื่อไหร่" อัลดูเหมือนจะสับสน "มันนานมาก เหมือนแค่ความฝันด้วยซ้ำ คนที่เหมือนเซวี แต่ผมยาวกว่า บอบบางกว่า--" ยังไม่ทันที่จะพูดจบ สเนปยืนขึ้นทันทีแล้วมองดูอัลอย่างคาดไม่ถึง เหมือนเค้าจะนึกอะไรออก ถ้าการดึงวิญญานออกจากร่างทำให้ร่างกลายเป็นเหมือนเปลือกหอยกลวงๆ เหมือนคนที่ถูกผู้คุมวิญญานดูดวิญญานออกไปแปลว่าคนๆ นั้นไม่ได้มีรักล้ำลึกพอที่จะยึด 'ใจ' กับ 'กาย' ไว้ด้วยกันได้ แล้วลิลี่ล่ะ ลิลี่เป็นแบบไหน การที่คนที่มีรักล้ำลึกกลายเป็นคนที่ไม่มีวันตายชั่วนิรันด์ได้แล้วลิลี่? เธอจะเป็นซากกระดูกในหลุมศพหรือกลายเป็นศพอมตะเหมือนเค้า!?
"เซวี... เกิดอะไรขึ้น!"
"คุณพ่อเอรีสอยู่ไหน?" คำเดียวที่หลุดออกจากปาก
ร่างในชุดสีดำปรากฏกายท่ามกลางสุสานที่เหมือนจะพึ่งถูกมือดีพังมันลง และกลุ่มบาทหลวงที่รวมตัวกันอยู่เงียบๆ ซึ่งเวลานี้หันมาแล้วและมองตรงมาที่ชายหนุ่มกับเด็กและคู่แฝดต่างเพศที่มีผมสีดำ
"มาจนได้นะเซเวอรัส" เอรีสพูดขึ้น
"คุณพ่อมาเมื่อไหร่" สเนปพูดพลางมอง 'ตัวเอง' อีกคนหนึ่งอย่างไม่เต็มตานัก
"ตั้งนานแล้ว"
"อ้อ... แล้ว คุณพ่อรู้มั้ยว่าผมอยากจะถาม... อะไร"
"ลิลี่ตอนนี้เป็นซากกระดูกในหลุมหรือว่าหายไป"
สเนปเครียดขึ้นมาทันที "คุณพ่อรู้แต่แรก รู้มานานแค่ไหน!"
"ตั้งแต่เค้าเกิด ใช่ เซเวอรัส พ่อรู้โครงสร้างของเรื่องนี้ทั้งหมด!"
สเนปพุ่งเข้าไปคว้าคอเสื้อของบาทหลวงทันที และ ไม่มีใครเข้ามาห้ามแม้แต่คนเดียว "คุณรู้ทั้งหมด! แล้วไม่เคยบอกผม! คุณหลอกใช้ผม!"
"ชั้นไม่ได้หลอกใช้เธอ"
"งั้นทำไมไม่บอกผมล่ะ!?!"
"แล้วเธอเคยถามมั้ยล่ะ"
เจอคำตอบแบบนี้ชายหนุ่มไม่สามารถทำอะไรได้นอกจากอึ้งเท่านั้น เพราะความจริงแล้ว ไม่ใช่ว่าเค้าจะไม่เคยระแคะระคายเกี่ยวกับเรื่องทั้งหมด... เซเวอรัสอยู่กับเรื่องนี้มาตั้งแต่แรกแล้ว เกี่ยวกับวันพิพากษา แต่เพราะความรัก เค้าออกจากมันแล้วออกมาหาลิลี่ เพื่อจะอกหัก เพื่อจะเสียใจ เพื่อจะเสียจิตวิญญานบริสุทธิ์ที่หลวงแม่ลูเครเซียเคยเตือนไว้
เวลานี้ เค้ามองไปที่บราเทอร์เซเวอรัสเป็นครั้งแรก! ถ้าตอนนั้นเค้าเลือกที่จะเป็นบาทหลวงเค้าจะมีจิตใจเป็นอย่างไร แม้ไม่บริสุทธิ์ไร้เดียงสาเหมือนเด็กหนุ่มตรงหน้า แต่ก็คงจะมีจิตใจที่บริสุทธิ์พอ และบางทีลิลี่อาจจะไม่ตาย
แต่บราเทอร์สเนปไม่ได้มองเค้าแม้แต่น้อย เค้านั่งนิ่งเหมือนไร้ชีวิตจิตใจที่ข้างหลุมศพที่ถูกขุดขึ้นมาของลิลี่
"บราเทอร์--" สเนปเริ่มต้น แต่พูดไม่ออก
"ไม่อยู่... เธอไม่อยู่!" บราเทอร์เซเวอรัสพูดได้แค่นั้น
"นั่น ไม่เป็นไรหรอก" สเนปก้มหน้าลงไปด้วยอาการหายใจไม่ทั่วท้อง และคำพูดทั้งหมดที่ออกจากปากของบาทหลวงเซเวอรัส--วิญญานของเค้าก็เหมือนแทงเข้าไปในหัวใจอย่างรุนแรง
"เธอไม่ได้นอนอยู่ที่นี่... ทอมไม่ได้ฆ่าเธอเหรอ!? แล้วทั้งหมดที่ชั้นทำมาตลอดเพื่ออะไร!?" เด็กหนุ่มหอบสะท้าน
"จอมมารฆ่าเธอ... เหมือนที่ฆ่าเรา!" สเนปยืนกราม บราเทอร์เซเวอรัสหันหน้าที่ซีดยิ่งกว่าปกติมาทางเค้า ข้างๆ คือหลุมศพที่ว่างเปล่าของลิลี่ พอตเตอร์!
..........................
.........................................
..............................................................
.........................................
............................
"ลิลี่... ชั้นเอง"
"เซวี เธออยู่ที่ไหนนะ"
"ออกมาข้างนอกด้วยกันหน่อยสิ"
เพราะคำพูดในตอนนั้น ชั้นถึงตัดสินใจขี่จักรยานออกไปกลางดึก เพื่อพบกับเค้าทั้งๆ ที่เธอแทบจะเรียกได้ว่าเลิกคบกับเค้าไปแล้วตั้งแต่ปีห้า แม้จะเห็นว่าเพ็ตทูเนียแอบมองจากหน้าต่างแต่ชั้นไม่สนใจ ในหัวของชั้นมีแต่เรื่องของเซวีเมื่อเห็นกับตาเมื่อวานว่าคุณสเนปตวาดเซวีกลางตลาดและทุบตีเค้า
เซวีไม่เหมือนเดิมอีกแล้ว เค้าไม่มีแม่... ไม่มีใครอยู่กับเค้าทั้งนั้น!
แสงจันทร์ส่องสว่าง เด็กหนุ่มร่างเล็ก ผมสีดำเป็นมันเย้มนั่งเศร้าอยู่ริมน้ำ ก่อนที่ท่าทางเศร้าๆ จะหายไปราวกับเป็นเรื่องโกหก เมื่อเห็นเธอเดินเข้าไปหาและเค้าคว้ามือเธอไว้ พากระโดดลงน้ำด้วยกัน เสียงกรีดร้องอย่างไม่พอใจกลายเป็นความสนุกสนาน พวกเค้าเล่นน้ำด้วยกัน หัวเราะด้วยกัน พักใหญ่ก่อนที่ลิลี่คิดได้ว่าควรขึ้นฝั่งได้แล้ว เพราะพรุ่งนี้ต้องกลับไปโรงเรียนแล้ว เซวีดูไม่กังวลกับมัน เค้าหายตัวได้... หายตัวได้ตั้งแต่เรียนปีสาม และไม่คิดจะกลับไปกับรถไฟของฮอกวอร์ตในวันพรุ่งนี้
ขณะที่เธอบิดชายกระโปรงให้หมาด เซวีหลบเข้าไปในมุมมืดแล้วถอดเสื้อออกเพื่อบิดให้แห้ง เธอรู้ว่าแม้เธอจะเปลือยทั้งร่างเธอก็สามารถมั่นใจว่าจะไม่ถูกแอบดู เซเวอรัส สเนปให้เกียรติเธอมาก เค้าไม่มองถ้าเธอไม่อนุญาต ไม่แม้แต่จะพินิจใจเธอ ซึ่งถ้าเป็นเจมส์ที่เป็นจอมฉวยโอกาสเธอไม่สามารถวางใจได้เลย และแม้จะไม่พูด แต่เธอรู้ว่าเค้ารักเธอ เพราะงั้นเค้าเจ็บปวดมากกว่าใครเมื่อเธอเลือกคบกับเจมส์ แต่เค้าไม่เคยปริปากอีกนับแต่วันที่หลุดปากเรียกเธอว่าเลือดสีโคลน
เซวีอาจจะคิดว่าความมืดจะช่วยอำนาจรอยช้ำที่น่ากลัวราวกับเป็นเรื่องโกหกได้! เค้าจึงไม่ทันฟังเสียงฝีเท้าที่ใกล้เข้ามาและสะดุ้งเมื่อเธอถามถึงที่มาของรอยสีม่วงอมเขียวที่พาดผ่านตามร่างกาย แล้วเค้าก็โป้ปดว่าเป็นอุบัติเหตุจากการตกบันได! เซเวอรัส สเนปพูดโกหกกับเธอมาไม่น้อย และทั้งหมดคือเรื่องของเค้ากับพ่อ เค้ารักและเทิดทูลพ่อมากขึ้นหลายเท่านับแต่เสียแม่ไปและไม่เคยปริปากสำหรับเรื่องเลวร้ายในบ้าน แม้เราจะไม่เคยพูดคุยกันอีกหลังจากวันนั้น แต่เมื่อตอนปีหกเธอได้ข่าวเรื่องที่มีคนพบเค้าถูกรุมเหยียบย่ำอย่างไม่น่าให้อภัยในห้องนอนของชายแก่ร่ำรวยคนหนึ่งในช่วงที่ปิดเทอมกลางภาค จากบาทหลวงที่โบสถ์แถวบ้านเซวี เธอบุกเข้าไปในที่แห่งนั้นเพื่อจะพบกับภาพที่น่าทุเรศที่สุด สิ่งที่ถึงกับทำให้เธอคิดว่าถ้าเซวีเสกคำสาปพิฆาตใส่คนพวกนั้นเธอก็คงจะไม่โกรธเค้าแม้แต่น้อย ในนามแห่งสวรรค์ พวกมันสมควรตาย!
ในช่วงปิดเทอมแบบนี้... เค้าคือสินค้าของพ่อที่ถูกขายให้กับใครก็ตามที่มีใจวิตถารและมีเงินจ่าย สเนปต้องการเงินจำนวนมากระหว่างที่เค้าต้องอยู่ตามลำพังโดยปราศจากภรรยาและลูกที่ไปเรียนที่โรงเรียนประจำ และเพื่อสิ่งนั้นสเนปเปลี่ยนลูกชายของตัวเองให้กลายเป็นเหมือนโสเภณีตั้งแต่อายุสิบสอง คืนนั้นลิลี่มองใบหน้ายามหลับที่ซีดเซียวจนน่าสงสารนั่นและร้องไห้อย่างที่ไม่เคยร้องมาก่อน เธอไม่เข้าใจว่าทำไมเด็กหนุ่มถึงอดทนกับมันขนาดนั้นทั้งที่เป็นพ่อมด ทั้งที่สามารถจัดการกับเรื่องพวกนี้ด้วยเวทมนตร์ เซวีคิดว่าที่แม่ตายเป็นเพราะเค้าเหรอ!? แล้วเค้าก็เลยชดใช้ด้วยทั้งหมดของเค้าเหรอ!? อะไรคือเหตุผลที่แท้จริงที่ทำให้เซวีอยากเป็นผู้เสพความตาย! เค้าต้องการที่จะให้โวลเดอร์มอร์เปลี่ยนความคิดของเค้าที่มีต่อมักเกิ้ลใช่มั้ย!? บางที... คงเพราะโวลเดอร์มอร์เท่านั้นที่สามารถเปลี่ยนเซเวอรัส สเนปที่จำนนต่อโชคชะตายให้กลายเป็นเซเวอรัส สเนปที่ยืนยัดและไม่สนใจสิ่งใด
"ชั้นอาจจะไม่ได้เข้าเรียนช่วงสามวันแรก... ขอรบกวนเธอได้มั้ย ในฐานะที่เคยเป็นเพื่อน"
"จนถึงตอนนี้เราก็ยังเป็นเพื่อน... เพื่อนสนิท!" ดวงตาสีดำในความมืดเบิกกว้าง ก่อนจะรี่ลงและรอยยิ้มที่สวยงามปรากฏชัด นี่อาจจะเป็นของขวัญที่ดีที่สุดสำหรับคนที่จนตรอกเช่นนั้น ลิลี่พูดต่อไป "ถ้าเธออยากเป็นผู้เสพความตายเพื่อให้เค้าเปลี่ยนเธอ เธอจะมัวรออะไรอีก"
"ชั้น... พึ่งปฏิเสธลูเซียสไป"
"ปฏิเสธ!?"
"เพื่อที่จะคบกับเธออย่างสบายใจ ไปนะ"
เมื่อแยกจากกัน ลิลี่คิดไปตกเกี่ยวกับคำตอบของเซวี ถ้าเซวีไม่เป็นผู้เสพความตาย จิตใจของเค้าจะถูกความมืดเปลี่ยน แล้วเค้าจะเป็นไงต่อ เด็กอายุสิบเจ็ดยังไม่สามารถออกจากบ้านไปในตอนนี้ได้ อย่างน้อยก็ต้องจบการศึกษาก่อน โดยเฉพาะเด็กที่ไม่มีใครเหลียวแลแบบนั้น วินาทีนั้นลิลี่เปลี่ยนเป้าหมายจากบ้านของตนเป็นบ้านหลังสุดท้ายที่ตรอกช่างปั่นฝ้าย! ขณะที่ในหัวเต็มไปด้วยคำพูดที่เหมือนจะรู้ว่าตัวเองจะเข้าเรียนไม่ได้!
ไม่ใช่เข้าเรียนไม่ได้ แต่เข้าเรียนไม่ไหวต่างหาก!!
และสิ่งที่เธอได้ยินคือเสียงคำรามเกรี้ยวกราดเกี่ยวกับการที่ตัวเปียกกลับมาและเข้าบ้านดึก เสียงกระแทกบึงบังและเสียงครางอย่างเจ็บปวดพลางร้องขอความเมตตาดังออกมาเป็นระยะ! ลิลี่หน้าซีด พูดไม่ออก ถอยหลังออกไปหลายก้าวและสังเกตว่าคนข้างเคียงเดินออกมาดูด้วยสีหน้ากังวนใจ.... แต่ไม่มีซักคนที่พยายามหยุดมัน
ลิลี่น้ำตานองหน้า เธอรีบถีบจักรยานออกไป ไม่รู้ว่าความกล้าของเด็กบ้านกริฟฟินดอร์หายไปไหนหมด!? ดัมเบิ้ลดอร์ไปไหน!? คนอื่นๆ ไปไหน!?
ถ้าปล่อยให้เป็นแบบนี้ต่อไปเรื่อยๆ เซวีต้องถูกพ่อฆ่าแน่ๆ!?!
เมื่อพ่อกับแม่ปลุก เพื่อเดินทางกลับฮอกวอร์ต แต่ลิลี่ปฏิเสธ เธอบอกว่าเธอหายตัวกลับได้เพราะอายุครบเกณฑ์แล้ว ลิลี่ตัดสินใจกลับไปที่นั่นเพื่อจะรวบรวมความกล้า และคุยกับพ่อของเซวี แต่ก่อนจะถึงที่นั่น เธอเห็นเค้าที่หิ้วของมาจากตลาด เป็นอาหารและยาสำหรับคนที่บาดเจ็บ เป็นครั้งแรกที่ลิลี่พิจารณาใบหน้าหล่อเหลาของพ่อเซวี โทไบอัส สเนป.. ผู้ชายคนนี้มีผมดกหนาสีแดง ดวงตาสีเขียว แต่มีจมูกที่เหมือนกับลูกชายของเค้า แม้จะเป็นผู้ชาย แต่ชายผู้นี้มีใบหน้าที่คล้ายเธอมาก ทำให้ลิลี่เริ่มนึกแปลกใจถึงเหตุผลที่เกิดขึ้นทั้งหมด เซวีรักเธอเพราะเธอเหมือนพ่อของเค้า หรือเพราะพ่อของเค้าหน้าตาเหมือนเธอเค้าถึงเริ่มรักพ่อมากขึ้นทุกวัน? สเนปเองก็ดูจะประหลาดใจกับการมาของเธอ ลิลี่เริ่มพูด
"หนูลิลี่ เอฟเวนส์ อยู่โรงเรียนเดียวกับเซวีคะค่ะ เซวีเป็นไงบ้างคะ"
"เรียนที่เดียวกัน...? หมายถึง เป็นแม่มดเหรอ?" สเนปพูดอย่างใช้ความคิด ก่อนจะกรีดยิ้มออกอย่างเหยียดหยาม "คงเป็นแค่เด็กที่เรียนที่เดียวกันใช่มั้้ย ไม่ใช่เพื่อนหรอก"
"เป็นเพื่อนสนิทค่ะ..." ลิลี่พูดอย่างชัดเจน "หนูมาเพื่อจะขอร้องไม่ให้คุณทำร้ายเซเวอรัส" ลิลี่เรียกชื่อเค้าอยากเต็มๆ ไม่ใช่แค่เซวี และพูดอย่างชัดเจนอีกครั้ง "อย่า.. ทุบตีลูกชายอีกเลย"
เจ็ดวันต่อมา เซเวอรัส สเนปไปเรียนตามปกติ ไม่มีร่องรอยเหล่านั้นปรากฏบนใบหน้า แต่ลิลี่รู้ว่าเค้าต้องเจ็บหนักแน่เพราะเซวีช้ากว่าปกติมาก แต่เธอหวังว่าเมื่อร่างกายของเพื่อนฟื้นเป็นปกติเค้าคงคล่องแคล่วว่องไวขึ้นเหมือนเดิม คำพูดกระแนะกระแหนยังดังรอบๆ ตัวของเด็กหนุ่ม จนเมื่อถึงวันสุดสัปดาห์ลิลี่ก็ต้องดึงเค้าออกไปข้างนอก ไปด้วยกันทั้งๆ ที่เธอเป็นแฟนกับเจมส์แล้ว สำหรับลิลี่ เธอสามารถอธิบายทุกสิ่งกับเจมส์ได้ถ้าเค้าเข้าใจผิด แต่เซเวอรัสไม่มีใคร ถ้าเธอเสียเค้าไปเธอคงไม่สามารถยกโทษให้ตัวเองได้
ลิลี่ขอเป็นคนจ่ายเงินสำหรับขอเล็กๆ น้อยสำหรับเพื่อน แม้ว่าเซวีจะลำบากใจเพราะถือว่าตัวเองเป็นผู้ชาย แต่แล้วคนที่คาดไม่ถึงก็ปรากฏตัวขึ้น! ลูเซียส มัลฟอย... วูบแรกใบหน้าของเค้าซีดจัด ก่อนจะดึงเซวีไปยังที่ลับตาคน เซวีพยายามขัดขืนและลิลี่ก็พยายามขัดขวาง แต่เมื่อลูเซียสดูจริงจังพวกเธอก็ต้องเปลี่ยนใจ
"เรกูรัสบอกว่านายปฏิเสธ!" ลูเซียสผลักสเนปเข้าไปในห้อง "ทำไมต้องขัดขืนด้วยในเมื่อเราพยายามจะช่วยนาย!"
"ช่วยเหรอ! ชั้นไม่ต้องการความช่วยเหลือจากคนที่เราก็รู้ว่าใครหรอกนะ!"
"แต่เค้าจะเปลี่ยนนาย! ดัมเบิ้ลดอร์ไม่สนใจแต่จอมมารสน! นายจะดีขึ้นกว่าที่เป็นอยู่ตอนนี้แน่!"
"ชั้นไม่ต้องการที่จะเปลี่ยน" สเนปหอบ "เปลี่ยนเพื่ออะไร! เพื่อที่จะได้หันไม้กายสิทธิไปหาพ่อตัวเองเหรอ!? ชั้นไม่จำเป็นต้องเปลี่ยนหรอก!"
"ชั้นก็มาเพื่อจะเห็นกับตาว่านายจำเป็นต้องเปลี่ยนมั้ย" ลูเซียสพูดพลางผลักสเนปไปติดผนังและใช้กำลังที่เหนือกว่ากระชากเสื้อเชิตเก่าๆ จนขาด เผยให้เห็นรอยช้ำสีม่วงเข้ม "นาซิสซาพูดถูก...." ลูเซียสพูดทั้งน้ำตา "นายบอบช้ำทั้งตัว!"
ลิลี่น้ำตาคลอ เมื่อเห็นรอยช้ำน่าสังเวชนั่นเต็มๆ ตา และเธอรู้เหมือนกันว่าลูเซียสไม่ใช่คนไม่ดี ความจริงเค้าก็เหมือนกับหลวงพ่อเอรีสและหลวงแม่ลูเครเซีย ไม่ใช่แค่หน้า แต่ใจด้วย และเธอก็รู้เหมือนกันว่า โวลเดอร์มอร์กำลังจะเปลี่ยนชายหนุ่มคนนี้ให้กลายเป็นพ่อมดศาสตร์มืดที่น่ารังเกียจ ตอนนั้นสเนปรู้ชัดว่าคนที่เค้าไม่ต้องการให้เห็นได้เห็นมันแล้ว "ออกไป! ออกไป! ชั้นไม่ต้องการเห็นหน้านายอีกแล้ว!" เค้ากรีดร้องแล้วพยายามขับไล่มัลฟอย ก่อนจะปิดประตูตามหลังแล้วทรุดลงนั่งนิ่งกับพื้น ร้องไห้เหมือนเด็กๆ แต่ลิลี่ เธอไม่ร้องไห้ ไม่อาจร้องต่อหน้าเค้าได้ เพราะถ้าเธออ่อนแอเค้าอาจจะล้มครืนลง
เธอพยาพยามปลอบ... เช็ดน้ำตา นานมาก กว่าเพื่อนรักจะสงบลง "ถ้าเธอเป็นผู้เสพความตาย เพื่อออกจากนรกนั่น ชั้นคิดว่าชั้นคงไม่ว่าอะไรเธอหรอก" ลิลี่กระซิบ รู้ว่าไม่มีใครช่วยเซเวอรัสได้ เค้ารักพ่อของเค้ามาก ปกป้องทุกอย่าง ไม่มีใครช่วยเค้าได้ถ้าเค้าไม่ยอมรับมัน และเซวี--ถ้าเค้าอยากออกจากนรกนั่น--จากเงื้อมมือของสัตว์ที่เค้าเรียกว่าพ่อเค้าต้องก้าวออกมา แต่เค้ารัก--มากเกินไป บางทีอาจจะถูกอย่างที่ลูเซียสว่า ถ้าเพียงมีความมืดมากพอที่จะเปลี่ยนเซวีให้มีหัวใจที่แข็งกระด้างพอที่จะสลัดทุกสิ่งแล้วออกมาจากบ้านหลังนั้น แต่เซวีส่ายหน้าและลิลี่ถึงกับจับไหล่เค้าเขย่า "เธออย่าทนอยู่กับเค้าเลย! หนีไปเถอะ! หรือถ้าห่วงเค้าก็จัดการกับเค้าด้วยเวทมนตร์! เธออายุสิบเจ็ดแล้ว และเธอมีสิทธิป้องกันตัว!"
"ทั้งหมดไม่ใช่เรื่องจริง"
"เซวี!"
"ทั้งหมดไม่ใช่เรื่องจริง เพราะงั้นชั้นถึงทนได้" สเนปพยายามหยุดตัวเองไม่ให้สะอื้นอีก "แม้เค้าจะเป็นแบบนั้น แต่เค้ารักชั้น เค้าอาจจะปากแข็งและแสดงออกอย่างรุนแรง แต่เค้ารักชั้น ถ้าชั้นไม่อยู่กับเค้าและปกป้องเค้าใครจะทำ เพราะงั้น... ชั้นถึงทนได้ เมื่อชั้นเรียนจบและมีงานทำ ทุกอย่างจะเปลี่ยนไป ชั้นจะไม่ต้องเป็นโสเภณีอีก และชั้นจะดูแลเค้า"
"แล้วถ้าเค้าไม่หยุดความรุนแรงล่ะ"
"ความรุนแรงน่ะ ยังไงก็ต้องหยุด เพราะถ้าไม่หยุดก็มีแต่ตายเท่านั้น" สเนปถอนใจ "บางทีความรักของชั้นมันอาจจะหมายถึงการสิ้นหวังก็ได้"
----------------------------------
"ความรักคือการสิ้นหวัง"
"หา!?"
"แม่เธอเคยพูดแบบนี้!"
"เนี่ยนะ" แฮร์รี่มองดูซิเรียสอย่างคาดไม่ถึง "ทำไมแม่พูดงั้นล่ะฮะ"
"ชั้นก็ไม่รู้..." ซิเรียสบอกโดยไม่สนใจเสียงโหยหวนที่ดังอยู่ข้างล่าง และทอมที่วิ่งออกมาโดยมีไลชาตามมาติดๆ "แต่ชั้นคิดว่าชีวิตของชั้นมันเป็นแบบนั้น แต่สเนปมันชอบกระแนะกระแหนอยู่เรื่อยว่าถ้าคิดแบบนั้นก็สมควรตาย"
"ผมเข้าใจคุณนะ!" แฮร์รี่พยายามปลอบโยน "ชีวิตวัยเด็กของสเนปอาจจะไม่ได้ดีเด่อะไรนัก แต่เค้าก็ไม่ได้ติดคุกตั้งสิบสามปีเหมือนคุณนี่ เค้าจะเข้าใจอะไร!"
"ใช่ เพราะงั้นชั้นถึงอยากฆ่ามันทุกครั้ง! ที่กริมโมเพลส! ถ้ารีมัสไม่ห้าม! ชั้นฆ่ามันไปแล้ว!" ซิเรียสฮึดฮัด
"บางที... เพราะตอนนั้นแม่อาจจะกังวลที่โวลเดอร์มอร์ตามล่า"
"ไม่มีทาง! แม่ของเธอเข้มแข็งที่สุด! ยิ่งไปกว่านั้น แม่เธอพูดคำนี้ระหว่างที่เรากำลังฉลองในคืนวันฮัลโลวีนตอนปีเจ็ด!"
"หา"
ซิเรียสถอน "เหมือนจะพูดลอยๆ โดยไม่รู้ตัวด้วยซ้ำ"
TBC.
ความคิดเห็น