ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    The last of your expectation

    ลำดับตอนที่ #21 : เหตุผลที่เซเวอรัสเป็นผู้เสพความตาย--1

    • เนื้อหาตอนนี้เปิดให้อ่าน
    • 639
      11
      14 ต.ค. 54

    "เธอเคยเห็นเค้าเหรอ"

    "แค่เหมือนเคยเห็น.... แต่ ก็ไม่ค่อยแน่ใจ" อัลพูดเบาๆ "แต่เค้าเหมือนจะอยู่กับเด็กคนหนึ่งที่คล้ายๆ ผม"

    "คล้ายเธอเหรอ"

    "ฮะ?" อันหันไปมองอาร์เทมีสที่ซักไซร้ "ทำไมเหรอ?"

    "เปล่า ไม่มีอะไร  เล่าต่อไปสิ"

    "ผมเห็น... ไม่แน่ใจว่าเมื่อไหร่" อัลดูเหมือนจะสับสน "มันนานมาก  เหมือนแค่ความฝันด้วยซ้ำ  คนที่เหมือนเซวี  แต่ผมยาวกว่า  บอบบางกว่า--" ยังไม่ทันที่จะพูดจบ  สเนปยืนขึ้นทันทีแล้วมองดูอัลอย่างคาดไม่ถึง  เหมือนเค้าจะนึกอะไรออก  ถ้าการดึงวิญญานออกจากร่างทำให้ร่างกลายเป็นเหมือนเปลือกหอยกลวงๆ เหมือนคนที่ถูกผู้คุมวิญญานดูดวิญญานออกไปแปลว่าคนๆ นั้นไม่ได้มีรักล้ำลึกพอที่จะยึด 'ใจ' กับ 'กาย' ไว้ด้วยกันได้  แล้วลิลี่ล่ะ  ลิลี่เป็นแบบไหน  การที่คนที่มีรักล้ำลึกกลายเป็นคนที่ไม่มีวันตายชั่วนิรันด์ได้แล้วลิลี่? เธอจะเป็นซากกระดูกในหลุมศพหรือกลายเป็นศพอมตะเหมือนเค้า!?

    "เซวี... เกิดอะไรขึ้น!"

    "คุณพ่อเอรีสอยู่ไหน?" คำเดียวที่หลุดออกจากปาก








    ร่างในชุดสีดำปรากฏกายท่ามกลางสุสานที่เหมือนจะพึ่งถูกมือดีพังมันลง  และกลุ่มบาทหลวงที่รวมตัวกันอยู่เงียบๆ ซึ่งเวลานี้หันมาแล้วและมองตรงมาที่ชายหนุ่มกับเด็กและคู่แฝดต่างเพศที่มีผมสีดำ

    "มาจนได้นะเซเวอรัส" เอรีสพูดขึ้น

    "คุณพ่อมาเมื่อไหร่" สเนปพูดพลางมอง 'ตัวเอง' อีกคนหนึ่งอย่างไม่เต็มตานัก

    "ตั้งนานแล้ว"

    "อ้อ... แล้ว  คุณพ่อรู้มั้ยว่าผมอยากจะถาม... อะไร"

    "ลิลี่ตอนนี้เป็นซากกระดูกในหลุมหรือว่าหายไป"

    สเนปเครียดขึ้นมาทันที "คุณพ่อรู้แต่แรก รู้มานานแค่ไหน!"

    "ตั้งแต่เค้าเกิด  ใช่ เซเวอรัส  พ่อรู้โครงสร้างของเรื่องนี้ทั้งหมด!"

    สเนปพุ่งเข้าไปคว้าคอเสื้อของบาทหลวงทันที และ  ไม่มีใครเข้ามาห้ามแม้แต่คนเดียว "คุณรู้ทั้งหมด! แล้วไม่เคยบอกผม! คุณหลอกใช้ผม!"

    "ชั้นไม่ได้หลอกใช้เธอ"

    "งั้นทำไมไม่บอกผมล่ะ!?!"

    "แล้วเธอเคยถามมั้ยล่ะ"

    เจอคำตอบแบบนี้ชายหนุ่มไม่สามารถทำอะไรได้นอกจากอึ้งเท่านั้น เพราะความจริงแล้ว  ไม่ใช่ว่าเค้าจะไม่เคยระแคะระคายเกี่ยวกับเรื่องทั้งหมด... เซเวอรัสอยู่กับเรื่องนี้มาตั้งแต่แรกแล้ว  เกี่ยวกับวันพิพากษา  แต่เพราะความรัก  เค้าออกจากมันแล้วออกมาหาลิลี่  เพื่อจะอกหัก  เพื่อจะเสียใจ  เพื่อจะเสียจิตวิญญานบริสุทธิ์ที่หลวงแม่ลูเครเซียเคยเตือนไว้

    เวลานี้  เค้ามองไปที่บราเทอร์เซเวอรัสเป็นครั้งแรก! ถ้าตอนนั้นเค้าเลือกที่จะเป็นบาทหลวงเค้าจะมีจิตใจเป็นอย่างไร  แม้ไม่บริสุทธิ์ไร้เดียงสาเหมือนเด็กหนุ่มตรงหน้า  แต่ก็คงจะมีจิตใจที่บริสุทธิ์พอ  และบางทีลิลี่อาจจะไม่ตาย

    แต่บราเทอร์สเนปไม่ได้มองเค้าแม้แต่น้อย  เค้านั่งนิ่งเหมือนไร้ชีวิตจิตใจที่ข้างหลุมศพที่ถูกขุดขึ้นมาของลิลี่

    "บราเทอร์--" สเนปเริ่มต้น  แต่พูดไม่ออก

    "ไม่อยู่... เธอไม่อยู่!" บราเทอร์เซเวอรัสพูดได้แค่นั้น

    "นั่น  ไม่เป็นไรหรอก" สเนปก้มหน้าลงไปด้วยอาการหายใจไม่ทั่วท้อง และคำพูดทั้งหมดที่ออกจากปากของบาทหลวงเซเวอรัส--วิญญานของเค้าก็เหมือนแทงเข้าไปในหัวใจอย่างรุนแรง

    "เธอไม่ได้นอนอยู่ที่นี่... ทอมไม่ได้ฆ่าเธอเหรอ!? แล้วทั้งหมดที่ชั้นทำมาตลอดเพื่ออะไร!?" เด็กหนุ่มหอบสะท้าน

    "จอมมารฆ่าเธอ... เหมือนที่ฆ่าเรา!" สเนปยืนกราม  บราเทอร์เซเวอรัสหันหน้าที่ซีดยิ่งกว่าปกติมาทางเค้า  ข้างๆ คือหลุมศพที่ว่างเปล่าของลิลี่ พอตเตอร์!

    ..........................

    .........................................

    ..............................................................

    .........................................

    ............................

    "ลิลี่... ชั้นเอง"

    "เซวี เธออยู่ที่ไหนนะ"

    "ออกมาข้างนอกด้วยกันหน่อยสิ"

    เพราะคำพูดในตอนนั้น  ชั้นถึงตัดสินใจขี่จักรยานออกไปกลางดึก  เพื่อพบกับเค้าทั้งๆ ที่เธอแทบจะเรียกได้ว่าเลิกคบกับเค้าไปแล้วตั้งแต่ปีห้า  แม้จะเห็นว่าเพ็ตทูเนียแอบมองจากหน้าต่างแต่ชั้นไม่สนใจ  ในหัวของชั้นมีแต่เรื่องของเซวีเมื่อเห็นกับตาเมื่อวานว่าคุณสเนปตวาดเซวีกลางตลาดและทุบตีเค้า

    เซวีไม่เหมือนเดิมอีกแล้ว  เค้าไม่มีแม่... ไม่มีใครอยู่กับเค้าทั้งนั้น!

    แสงจันทร์ส่องสว่าง  เด็กหนุ่มร่างเล็ก ผมสีดำเป็นมันเย้มนั่งเศร้าอยู่ริมน้ำ  ก่อนที่ท่าทางเศร้าๆ จะหายไปราวกับเป็นเรื่องโกหก  เมื่อเห็นเธอเดินเข้าไปหาและเค้าคว้ามือเธอไว้  พากระโดดลงน้ำด้วยกัน  เสียงกรีดร้องอย่างไม่พอใจกลายเป็นความสนุกสนาน  พวกเค้าเล่นน้ำด้วยกัน  หัวเราะด้วยกัน  พักใหญ่ก่อนที่ลิลี่คิดได้ว่าควรขึ้นฝั่งได้แล้ว  เพราะพรุ่งนี้ต้องกลับไปโรงเรียนแล้ว  เซวีดูไม่กังวลกับมัน  เค้าหายตัวได้... หายตัวได้ตั้งแต่เรียนปีสาม  และไม่คิดจะกลับไปกับรถไฟของฮอกวอร์ตในวันพรุ่งนี้

    ขณะที่เธอบิดชายกระโปรงให้หมาด  เซวีหลบเข้าไปในมุมมืดแล้วถอดเสื้อออกเพื่อบิดให้แห้ง  เธอรู้ว่าแม้เธอจะเปลือยทั้งร่างเธอก็สามารถมั่นใจว่าจะไม่ถูกแอบดู  เซเวอรัส สเนปให้เกียรติเธอมาก  เค้าไม่มองถ้าเธอไม่อนุญาต  ไม่แม้แต่จะพินิจใจเธอ  ซึ่งถ้าเป็นเจมส์ที่เป็นจอมฉวยโอกาสเธอไม่สามารถวางใจได้เลย  และแม้จะไม่พูด  แต่เธอรู้ว่าเค้ารักเธอ  เพราะงั้นเค้าเจ็บปวดมากกว่าใครเมื่อเธอเลือกคบกับเจมส์  แต่เค้าไม่เคยปริปากอีกนับแต่วันที่หลุดปากเรียกเธอว่าเลือดสีโคลน

    เซวีอาจจะคิดว่าความมืดจะช่วยอำนาจรอยช้ำที่น่ากลัวราวกับเป็นเรื่องโกหกได้! เค้าจึงไม่ทันฟังเสียงฝีเท้าที่ใกล้เข้ามาและสะดุ้งเมื่อเธอถามถึงที่มาของรอยสีม่วงอมเขียวที่พาดผ่านตามร่างกาย  แล้วเค้าก็โป้ปดว่าเป็นอุบัติเหตุจากการตกบันได! เซเวอรัส สเนปพูดโกหกกับเธอมาไม่น้อย  และทั้งหมดคือเรื่องของเค้ากับพ่อ  เค้ารักและเทิดทูลพ่อมากขึ้นหลายเท่านับแต่เสียแม่ไปและไม่เคยปริปากสำหรับเรื่องเลวร้ายในบ้าน  แม้เราจะไม่เคยพูดคุยกันอีกหลังจากวันนั้น  แต่เมื่อตอนปีหกเธอได้ข่าวเรื่องที่มีคนพบเค้าถูกรุมเหยียบย่ำอย่างไม่น่าให้อภัยในห้องนอนของชายแก่ร่ำรวยคนหนึ่งในช่วงที่ปิดเทอมกลางภาค  จากบาทหลวงที่โบสถ์แถวบ้านเซวี  เธอบุกเข้าไปในที่แห่งนั้นเพื่อจะพบกับภาพที่น่าทุเรศที่สุด  สิ่งที่ถึงกับทำให้เธอคิดว่าถ้าเซวีเสกคำสาปพิฆาตใส่คนพวกนั้นเธอก็คงจะไม่โกรธเค้าแม้แต่น้อย  ในนามแห่งสวรรค์  พวกมันสมควรตาย!

    ในช่วงปิดเทอมแบบนี้... เค้าคือสินค้าของพ่อที่ถูกขายให้กับใครก็ตามที่มีใจวิตถารและมีเงินจ่าย  สเนปต้องการเงินจำนวนมากระหว่างที่เค้าต้องอยู่ตามลำพังโดยปราศจากภรรยาและลูกที่ไปเรียนที่โรงเรียนประจำ  และเพื่อสิ่งนั้นสเนปเปลี่ยนลูกชายของตัวเองให้กลายเป็นเหมือนโสเภณีตั้งแต่อายุสิบสอง  คืนนั้นลิลี่มองใบหน้ายามหลับที่ซีดเซียวจนน่าสงสารนั่นและร้องไห้อย่างที่ไม่เคยร้องมาก่อน  เธอไม่เข้าใจว่าทำไมเด็กหนุ่มถึงอดทนกับมันขนาดนั้นทั้งที่เป็นพ่อมด  ทั้งที่สามารถจัดการกับเรื่องพวกนี้ด้วยเวทมนตร์  เซวีคิดว่าที่แม่ตายเป็นเพราะเค้าเหรอ!? แล้วเค้าก็เลยชดใช้ด้วยทั้งหมดของเค้าเหรอ!? อะไรคือเหตุผลที่แท้จริงที่ทำให้เซวีอยากเป็นผู้เสพความตาย! เค้าต้องการที่จะให้โวลเดอร์มอร์เปลี่ยนความคิดของเค้าที่มีต่อมักเกิ้ลใช่มั้ย!? บางที... คงเพราะโวลเดอร์มอร์เท่านั้นที่สามารถเปลี่ยนเซเวอรัส สเนปที่จำนนต่อโชคชะตายให้กลายเป็นเซเวอรัส สเนปที่ยืนยัดและไม่สนใจสิ่งใด

    "ชั้นอาจจะไม่ได้เข้าเรียนช่วงสามวันแรก... ขอรบกวนเธอได้มั้ย  ในฐานะที่เคยเป็นเพื่อน"

    "จนถึงตอนนี้เราก็ยังเป็นเพื่อน... เพื่อนสนิท!" ดวงตาสีดำในความมืดเบิกกว้าง  ก่อนจะรี่ลงและรอยยิ้มที่สวยงามปรากฏชัด  นี่อาจจะเป็นของขวัญที่ดีที่สุดสำหรับคนที่จนตรอกเช่นนั้น  ลิลี่พูดต่อไป "ถ้าเธออยากเป็นผู้เสพความตายเพื่อให้เค้าเปลี่ยนเธอ  เธอจะมัวรออะไรอีก"

    "ชั้น... พึ่งปฏิเสธลูเซียสไป"

    "ปฏิเสธ!?"

    "เพื่อที่จะคบกับเธออย่างสบายใจ ไปนะ"

    เมื่อแยกจากกัน  ลิลี่คิดไปตกเกี่ยวกับคำตอบของเซวี  ถ้าเซวีไม่เป็นผู้เสพความตาย  จิตใจของเค้าจะถูกความมืดเปลี่ยน  แล้วเค้าจะเป็นไงต่อ  เด็กอายุสิบเจ็ดยังไม่สามารถออกจากบ้านไปในตอนนี้ได้  อย่างน้อยก็ต้องจบการศึกษาก่อน  โดยเฉพาะเด็กที่ไม่มีใครเหลียวแลแบบนั้น  วินาทีนั้นลิลี่เปลี่ยนเป้าหมายจากบ้านของตนเป็นบ้านหลังสุดท้ายที่ตรอกช่างปั่นฝ้าย! ขณะที่ในหัวเต็มไปด้วยคำพูดที่เหมือนจะรู้ว่าตัวเองจะเข้าเรียนไม่ได้!

    ไม่ใช่เข้าเรียนไม่ได้  แต่เข้าเรียนไม่ไหวต่างหาก!!

    และสิ่งที่เธอได้ยินคือเสียงคำรามเกรี้ยวกราดเกี่ยวกับการที่ตัวเปียกกลับมาและเข้าบ้านดึก  เสียงกระแทกบึงบังและเสียงครางอย่างเจ็บปวดพลางร้องขอความเมตตาดังออกมาเป็นระยะ! ลิลี่หน้าซีด  พูดไม่ออก  ถอยหลังออกไปหลายก้าวและสังเกตว่าคนข้างเคียงเดินออกมาดูด้วยสีหน้ากังวนใจ.... แต่ไม่มีซักคนที่พยายามหยุดมัน

    ลิลี่น้ำตานองหน้า  เธอรีบถีบจักรยานออกไป  ไม่รู้ว่าความกล้าของเด็กบ้านกริฟฟินดอร์หายไปไหนหมด!? ดัมเบิ้ลดอร์ไปไหน!? คนอื่นๆ ไปไหน!?

    ถ้าปล่อยให้เป็นแบบนี้ต่อไปเรื่อยๆ เซวีต้องถูกพ่อฆ่าแน่ๆ!?!

    เมื่อพ่อกับแม่ปลุก  เพื่อเดินทางกลับฮอกวอร์ต  แต่ลิลี่ปฏิเสธ  เธอบอกว่าเธอหายตัวกลับได้เพราะอายุครบเกณฑ์แล้ว  ลิลี่ตัดสินใจกลับไปที่นั่นเพื่อจะรวบรวมความกล้า  และคุยกับพ่อของเซวี  แต่ก่อนจะถึงที่นั่น  เธอเห็นเค้าที่หิ้วของมาจากตลาด  เป็นอาหารและยาสำหรับคนที่บาดเจ็บ  เป็นครั้งแรกที่ลิลี่พิจารณาใบหน้าหล่อเหลาของพ่อเซวี  โทไบอัส  สเนป.. ผู้ชายคนนี้มีผมดกหนาสีแดง  ดวงตาสีเขียว  แต่มีจมูกที่เหมือนกับลูกชายของเค้า  แม้จะเป็นผู้ชาย  แต่ชายผู้นี้มีใบหน้าที่คล้ายเธอมาก  ทำให้ลิลี่เริ่มนึกแปลกใจถึงเหตุผลที่เกิดขึ้นทั้งหมด  เซวีรักเธอเพราะเธอเหมือนพ่อของเค้า  หรือเพราะพ่อของเค้าหน้าตาเหมือนเธอเค้าถึงเริ่มรักพ่อมากขึ้นทุกวัน?  สเนปเองก็ดูจะประหลาดใจกับการมาของเธอ  ลิลี่เริ่มพูด

    "หนูลิลี่ เอฟเวนส์  อยู่โรงเรียนเดียวกับเซวีคะค่ะ  เซวีเป็นไงบ้างคะ"

    "เรียนที่เดียวกัน...? หมายถึง  เป็นแม่มดเหรอ?" สเนปพูดอย่างใช้ความคิด  ก่อนจะกรีดยิ้มออกอย่างเหยียดหยาม "คงเป็นแค่เด็กที่เรียนที่เดียวกันใช่มั้้ย  ไม่ใช่เพื่อนหรอก"

    "เป็นเพื่อนสนิทค่ะ..." ลิลี่พูดอย่างชัดเจน "หนูมาเพื่อจะขอร้องไม่ให้คุณทำร้ายเซเวอรัส" ลิลี่เรียกชื่อเค้าอยากเต็มๆ ไม่ใช่แค่เซวี  และพูดอย่างชัดเจนอีกครั้ง "อย่า.. ทุบตีลูกชายอีกเลย"







    เจ็ดวันต่อมา  เซเวอรัส สเนปไปเรียนตามปกติ  ไม่มีร่องรอยเหล่านั้นปรากฏบนใบหน้า  แต่ลิลี่รู้ว่าเค้าต้องเจ็บหนักแน่เพราะเซวีช้ากว่าปกติมาก  แต่เธอหวังว่าเมื่อร่างกายของเพื่อนฟื้นเป็นปกติเค้าคงคล่องแคล่วว่องไวขึ้นเหมือนเดิม  คำพูดกระแนะกระแหนยังดังรอบๆ ตัวของเด็กหนุ่ม  จนเมื่อถึงวันสุดสัปดาห์ลิลี่ก็ต้องดึงเค้าออกไปข้างนอก  ไปด้วยกันทั้งๆ ที่เธอเป็นแฟนกับเจมส์แล้ว  สำหรับลิลี่  เธอสามารถอธิบายทุกสิ่งกับเจมส์ได้ถ้าเค้าเข้าใจผิด แต่เซเวอรัสไม่มีใคร  ถ้าเธอเสียเค้าไปเธอคงไม่สามารถยกโทษให้ตัวเองได้

    ลิลี่ขอเป็นคนจ่ายเงินสำหรับขอเล็กๆ น้อยสำหรับเพื่อน  แม้ว่าเซวีจะลำบากใจเพราะถือว่าตัวเองเป็นผู้ชาย  แต่แล้วคนที่คาดไม่ถึงก็ปรากฏตัวขึ้น!  ลูเซียส  มัลฟอย... วูบแรกใบหน้าของเค้าซีดจัด  ก่อนจะดึงเซวีไปยังที่ลับตาคน  เซวีพยายามขัดขืนและลิลี่ก็พยายามขัดขวาง  แต่เมื่อลูเซียสดูจริงจังพวกเธอก็ต้องเปลี่ยนใจ

    "เรกูรัสบอกว่านายปฏิเสธ!" ลูเซียสผลักสเนปเข้าไปในห้อง "ทำไมต้องขัดขืนด้วยในเมื่อเราพยายามจะช่วยนาย!"

    "ช่วยเหรอ! ชั้นไม่ต้องการความช่วยเหลือจากคนที่เราก็รู้ว่าใครหรอกนะ!"

    "แต่เค้าจะเปลี่ยนนาย! ดัมเบิ้ลดอร์ไม่สนใจแต่จอมมารสน! นายจะดีขึ้นกว่าที่เป็นอยู่ตอนนี้แน่!"

    "ชั้นไม่ต้องการที่จะเปลี่ยน" สเนปหอบ "เปลี่ยนเพื่ออะไร! เพื่อที่จะได้หันไม้กายสิทธิไปหาพ่อตัวเองเหรอ!? ชั้นไม่จำเป็นต้องเปลี่ยนหรอก!"

    "ชั้นก็มาเพื่อจะเห็นกับตาว่านายจำเป็นต้องเปลี่ยนมั้ย" ลูเซียสพูดพลางผลักสเนปไปติดผนังและใช้กำลังที่เหนือกว่ากระชากเสื้อเชิตเก่าๆ จนขาด  เผยให้เห็นรอยช้ำสีม่วงเข้ม "นาซิสซาพูดถูก...." ลูเซียสพูดทั้งน้ำตา "นายบอบช้ำทั้งตัว!"

    ลิลี่น้ำตาคลอ เมื่อเห็นรอยช้ำน่าสังเวชนั่นเต็มๆ ตา  และเธอรู้เหมือนกันว่าลูเซียสไม่ใช่คนไม่ดี  ความจริงเค้าก็เหมือนกับหลวงพ่อเอรีสและหลวงแม่ลูเครเซีย  ไม่ใช่แค่หน้า  แต่ใจด้วย  และเธอก็รู้เหมือนกันว่า  โวลเดอร์มอร์กำลังจะเปลี่ยนชายหนุ่มคนนี้ให้กลายเป็นพ่อมดศาสตร์มืดที่น่ารังเกียจ  ตอนนั้นสเนปรู้ชัดว่าคนที่เค้าไม่ต้องการให้เห็นได้เห็นมันแล้ว "ออกไป! ออกไป! ชั้นไม่ต้องการเห็นหน้านายอีกแล้ว!" เค้ากรีดร้องแล้วพยายามขับไล่มัลฟอย  ก่อนจะปิดประตูตามหลังแล้วทรุดลงนั่งนิ่งกับพื้น  ร้องไห้เหมือนเด็กๆ  แต่ลิลี่  เธอไม่ร้องไห้  ไม่อาจร้องต่อหน้าเค้าได้  เพราะถ้าเธออ่อนแอเค้าอาจจะล้มครืนลง

    เธอพยาพยามปลอบ... เช็ดน้ำตา  นานมาก  กว่าเพื่อนรักจะสงบลง "ถ้าเธอเป็นผู้เสพความตาย  เพื่อออกจากนรกนั่น  ชั้นคิดว่าชั้นคงไม่ว่าอะไรเธอหรอก" ลิลี่กระซิบ  รู้ว่าไม่มีใครช่วยเซเวอรัสได้  เค้ารักพ่อของเค้ามาก  ปกป้องทุกอย่าง  ไม่มีใครช่วยเค้าได้ถ้าเค้าไม่ยอมรับมัน  และเซวี--ถ้าเค้าอยากออกจากนรกนั่น--จากเงื้อมมือของสัตว์ที่เค้าเรียกว่าพ่อเค้าต้องก้าวออกมา  แต่เค้ารัก--มากเกินไป  บางทีอาจจะถูกอย่างที่ลูเซียสว่า  ถ้าเพียงมีความมืดมากพอที่จะเปลี่ยนเซวีให้มีหัวใจที่แข็งกระด้างพอที่จะสลัดทุกสิ่งแล้วออกมาจากบ้านหลังนั้น  แต่เซวีส่ายหน้าและลิลี่ถึงกับจับไหล่เค้าเขย่า "เธออย่าทนอยู่กับเค้าเลย! หนีไปเถอะ! หรือถ้าห่วงเค้าก็จัดการกับเค้าด้วยเวทมนตร์! เธออายุสิบเจ็ดแล้ว  และเธอมีสิทธิป้องกันตัว!"

    "ทั้งหมดไม่ใช่เรื่องจริง"

    "เซวี!"

    "ทั้งหมดไม่ใช่เรื่องจริง เพราะงั้นชั้นถึงทนได้" สเนปพยายามหยุดตัวเองไม่ให้สะอื้นอีก "แม้เค้าจะเป็นแบบนั้น  แต่เค้ารักชั้น  เค้าอาจจะปากแข็งและแสดงออกอย่างรุนแรง  แต่เค้ารักชั้น  ถ้าชั้นไม่อยู่กับเค้าและปกป้องเค้าใครจะทำ  เพราะงั้น... ชั้นถึงทนได้  เมื่อชั้นเรียนจบและมีงานทำ  ทุกอย่างจะเปลี่ยนไป  ชั้นจะไม่ต้องเป็นโสเภณีอีก  และชั้นจะดูแลเค้า"

    "แล้วถ้าเค้าไม่หยุดความรุนแรงล่ะ"

    "ความรุนแรงน่ะ  ยังไงก็ต้องหยุด  เพราะถ้าไม่หยุดก็มีแต่ตายเท่านั้น" สเนปถอนใจ "บางทีความรักของชั้นมันอาจจะหมายถึงการสิ้นหวังก็ได้"
    ----------------------------------

    "ความรักคือการสิ้นหวัง"

    "หา!?"

    "แม่เธอเคยพูดแบบนี้!"

    "เนี่ยนะ" แฮร์รี่มองดูซิเรียสอย่างคาดไม่ถึง "ทำไมแม่พูดงั้นล่ะฮะ"

    "ชั้นก็ไม่รู้..." ซิเรียสบอกโดยไม่สนใจเสียงโหยหวนที่ดังอยู่ข้างล่าง  และทอมที่วิ่งออกมาโดยมีไลชาตามมาติดๆ "แต่ชั้นคิดว่าชีวิตของชั้นมันเป็นแบบนั้น  แต่สเนปมันชอบกระแนะกระแหนอยู่เรื่อยว่าถ้าคิดแบบนั้นก็สมควรตาย"

    "ผมเข้าใจคุณนะ!" แฮร์รี่พยายามปลอบโยน "ชีวิตวัยเด็กของสเนปอาจจะไม่ได้ดีเด่อะไรนัก  แต่เค้าก็ไม่ได้ติดคุกตั้งสิบสามปีเหมือนคุณนี่  เค้าจะเข้าใจอะไร!"

    "ใช่ เพราะงั้นชั้นถึงอยากฆ่ามันทุกครั้ง! ที่กริมโมเพลส! ถ้ารีมัสไม่ห้าม! ชั้นฆ่ามันไปแล้ว!" ซิเรียสฮึดฮัด

    "บางที... เพราะตอนนั้นแม่อาจจะกังวลที่โวลเดอร์มอร์ตามล่า"

    "ไม่มีทาง! แม่ของเธอเข้มแข็งที่สุด!  ยิ่งไปกว่านั้น  แม่เธอพูดคำนี้ระหว่างที่เรากำลังฉลองในคืนวันฮัลโลวีนตอนปีเจ็ด!"

    "หา"

    ซิเรียสถอน "เหมือนจะพูดลอยๆ โดยไม่รู้ตัวด้วยซ้ำ"





    TBC.

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    นิยายที่ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×