ตอนที่ 13 : ➵ CHAPTER 11 [100%]
อยากโดนหมาป่ากัดคอ *3*
“คุณมัคคึฮะ อาหารเช้ามาเสิร์ฟแล้ว" มาร์คพลิกร่างหันไปมองตามเสียง เห็นเจ้าของร่างเล็กเดินมาพร้อมถาดอาหารเช้า โดยมีแม่บ้านคอยพะว้าพะวงมองตามกลัวน้องแบมจะล้มเลยมองดูอย่างใกล้ชิด จนเมื่อแบมแบมวางถาดอาหารเช้าไว้ที่โต๊ะข้างเตียง แม่บ้านสาวก็พรูลมหายใจออกมาอย่างโล่งออก ก่อนจะเดินออกจากห้องไป ทิ้งให้มาร์คกับแบมแบมอยู่กันตามลำพัง
ตลอดทั้งอาทิตย์เป็นช่วงเวลาที่คนป่วยอย่างมาร์คเบื่อมากที่สุด เพราะเขาทำได้แต่นอนอุดอู้อยู่บนเตียงรอให้แผลสมานกัน แต่มันก็ไม่ได้น่าเบื่อไปซะหมดหรอก เพราะยังดีที่มีคุณหมอตัวเล็กคอยดูแลอาการอยู่ไม่ห่าง แม้บางครั้งแบมแบมจะทำเขาเจ็บต้องร้องลั่น แต่เขาก็ไม่เข็ด ยังอยากให้เจ้าตัวเล็กอยู่ใกล้ ๆ เขาตลอดเวลา
“คุณมัคคึจ๋า เดี๋ยวน้องแบมจะป้อนข้าวให้นะ" อ้อนเก่งจนคนฟังต้องหลุดยิ้มออกมา มาร์คพยักหน้าเบา ๆ ก่อนจะค่อยยันร่างตัวเองลุกขึ้นนั่ง มองริมฝีปากอวบที่ยื่นออกมาเย้ายวนเขา สงสัยว่าตอนนี้มาร์คจะอยากกินของหวานก่อนของคาวแล้วล่ะ "วันนี้น้องแบมลงมือทำอาหารเองเลยนะฮะ"
“ทำอาหารเป็นด้วยเหรอ ไม่เห็นรู้มาก่อน"
“ไม่เป็นหรอกฮะ แต่น้องแบมให้คุณป้าแม่ครัวช่วยสอน นี่น้องแบมโดนสั่งห้ามไม่ให้ใส่ตั้งหลายอย่าง เซ็งมาก ๆ เลย มันเลยสีไม่น่ากินแบบนี้" คนตัวเล็กพูดพร้อมทำหน้ายู่ใส่
“ทำไม โดนสั่งห้ามไม่ให้ใส่อะไร"
“ก็น้องแบมอยากให้ซอสมะเขือเทศลงไป มันจะได้เป็นสีแดง ๆ สวย ๆ คุณป้าแม่บ้านไม่ยอมให้น้องแบมทำ" คำพูดของแบมแบมทำมาร์คกลืนน้ำลายแทบไม่ลงคอ เขารู้สึกโชคดีมากที่ป้าแม่บ้านไม่ปล่อยให้แบมแบมทำอาหารคนเดียว ไม่อย่างนั้นเขาคงได้กินโจ๊กใส่ซอสมะเขือเทศแน่ ๆ
“ฉันหิวแล้ว ป้อนเร็วสิ" มาร์ครีบเปลี่ยนเรื่อง เพราะเขารู้ว่าถ้าเขาเบี่ยงความสนใจช้าอีกนิด เจ้าตัวเล็กต้องดื้อลงไปขโมยขวดซอสมะเขือเทศมาใส่โจ๊กของเขาแน่ ๆ
แบมแบมยิ้มรับก่อนจะค่อย ๆ ตักโจ๊กขึ้นมาแล้วยื่นช้อนไปจ่อปากมาร์ค เพียงแค่คนตัวสูงเปิดริมฝีปากนิดหนึ่ง ช้อนก็ถูกยัดเขาไป หลังจากนั้น...
“อ๊ากกกกก ร้อน ๆ " มาร์คก็ร้อนลั่น ยื่นริมฝีปากออกมาด้วยอาการเจ็บแสบ น้ำตาคลอเริ่มนิด ๆ ไม่มีวันไหนเลยจริง ๆ ที่เขาจะไม่โดนทำให้เจ็บตัว ส่วนคนที่ก่อเรื่องถึงกับต้องหน้างอทันที แบมแบมเม้มริมฝีปากตัวเอง พร้อมกับวางช้อนลง
“มันไม่อร่อยเหรอฮะ... คุณมัคคึถึงคายทิ้ง" มันไม่ใช่อย่างนั้นสักหน่อย นี่แบมแบมไม่ได้ยินที่เขาตะโกนร้องว่าร้อนหรือยังไง
“ม...ไม่ใช่"
“คุณมัคคึตอบแบบไม่มั่นใจ ต้องใช่แน่ ๆ เลย" หน้าเริ่มงอมากขึ้นไปอีก แบมแบมกำลังลุกเดินหนี แต่ว่าก็ไม่ทันได้หนีเพราะคนตัวสูงคว้าไว้ทันก่อน มาร์คโอบกอดคนตัวเล็กไว้แน่น แม้ว่าตอนนี้ลิ้นชาจนไร้ความรู้สึก ปากจะเจ็บจนน้ำตาจะไหลออกมา แต่ไม่อยากให้คนตัวเล็กงอนเลยต้องรีบง้อ
“ไม่ใช่อย่างนั้น โจ๊กที่น้องแบมป้อนมันร้อน มันเลยลวกปากคุณมัคคึ" คนตัวโตพูดด้วยน้ำเสียงออดอ้อนก่อนจะวางคางเกยไหล่คนตัวเล็ก เอาเป็นว่ามาร์คในลุคนี้ไม่มีใครได้เห็น มีเพียงแบมแบมเท่านั้นที่ได้เห็น
“จริงเหรอฮะ เจ็บไหมฮะคุณมัคคึ" แบมแบมหันมามองมาร์คด้วยแววตาเป็นห่วง มาร์คพยักหน้าเบา ๆ พร้อมยื่นริมฝีปากผอง ๆ ของตัวเองให้คนตัวเล็กดู
“เป่าให้หน่อยสิ" แถมยังทำเจ้าเล่ห์ แบมแบมเด็กน้อยผู้ใสซื่อไม่เคยรู้ว่ากำลังโดนเจ้าหมาป่าหนุ่มหลอก ยื่นหน้าเข้าไป ทำปากจู๋ก่อนจะเป่าลมเล็ก ๆ ออกจากปาก หลังจากนั้น...
“คุณมัคคึ!”
ก็ถูกคนตัวสูงจูบจุ๊บเอาซะเลย พวงแก้มกลมเปลี่ยนสีเป็นสีแดงทันที ทั้งที่นี่ไม่ใช่ครั้งแรกที่ถูกมาร์คจูบ แต่ถูกจู่โจมแบบนี้จะไม่ทำให้เขินได้ยังไงกัน
ตั้งแต่ที่มาร์คฟังคำทำนายและได้รู้ว่าเรื่องระหว่างตนกับแบมแบมนั้นไม่ได้ทำให้เกิดปัญหาสงคราม มาร์คก็เหมือนจะได้ทำอะไรตามใจตัวเองมากขึ้น และนั่นมันทำให้เขาไม่ปิดกั้นความรู้สึกที่มีให้เจ้าตัวเล็ก นับวันเข้าเขายิ่งคิดว่าแบมแบมเป็นของเขา เขาพยายามคิดหาทางทุกอย่างที่จะทำให้แบมแบมได้อยู่ร่วมกับเขาอย่างมีความสุข รวมทั้งพยายามเปลี่ยนความคิดแบมแบมให้เรียกเขาว่าคุณสามีสักที
“คุณมัคคึปล่อยน้องแบม น้องแบมจะป้อนข้าวคุณมัคคึต่อ รอบนี้น้องแบมสัญญาจะไม่ทำให้คุณมัคคึต้องเจ็บปากอีก" มาร์คคลายกอดออก แต่ก็ไม่ยอมปล่อยมือออกจากเอวเล็ก ตาคมจับจ้องไปที่ใบหน้าเจ้าของแก้มป่อง มองดูทุกการกระทำด้วยความหลงใหล เจ้าตัวเล็กขยับตัว เอื้อมมือไปตักโจ๊กใส่ช้อน ในรอบนี้แบมแบมระวังตัวมากขึ้น เป่าโจ๊กในช้อนให้มาร์คอยู่สักพัก จนมันเริ่มเย็นตัวลง มือเล็กก็เลื่อนช้อนไปจ่อตรงปากคนตัวสูง
ครั้งนี้มาร์คได้กินโจ๊กในอุณหภูมิที่ปกติ มันทำให้เขาได้รับรสชาติของโจ๊กเข้าอย่างจัง ๆ คนตัวสูงทำตาโตอย่างประหลาดใจ ไม่น่าเชื่อว่านี่เป็นครั้งแรกที่แบมแบมทำอาหาร เพราะรสชาติมันกลมกล่อมอย่างพอดี
“เป็นยังไงบ้างฮะ คุณมัคคึ อร่อยไหม"
“ทำเองจริงหรือเปล่าเนี่ย อร่อยมาก" คำตอบของมาร์คทำคนตัวเล็กต้องอมยิ้มทันที แถมยังบิดตัวไปมาเล็กน้อยด้วยอาการเขิน
“ทำเองสิฮะ ไม่เชื่อก็ถามคุณป้าแม่ครัวดูสิ เป็นยังไงล่ะ อย่างนี้น้องแบมพอจะสอบผ่านการเป็นคุณสามีที่ดีได้ไหมฮะ" มาร์คอยากจะสวนกลับไปว่า สิ่งที่แบมแบมทำอยู่นี่เขาเรียกว่าหน้าที่ของคุณภรรยาชัด ๆ แต่กลัวว่าถ้าพูดไป แบมแบมจะงอแงอยากเป็นคุณสามีอีก ก็เลยได้แต่พยักหน้าตอบรับไป "น้องแบมอยากชิมบ้าง น้องแบมกินบ้างดีกว่า"
“ยกถ้วยมา เดี๋ยวฉันป้อนให้" แบมแบมทำตามที่มาร์คบอก คนตัวเล็กลุกขึ้นยืน จากนั้นก็ยกถาดถ้วยโจ๊กมาวางไว้ตรงพื้นที่ว่างข้าง ๆ ตัวมาร์ค ให้มาร์คได้ตักอย่างถนัด หลังจากนั้นแบมแบมก็กระโดดขึ้นนั่งพับเข่า จ้องมองมือมาร์คด้วยตาที่เป็นประกาย ทำให้คนมองอย่างมาร์คต้องหลุดยิ้มออกมา
มาร์คตักโจ๊กขึ้นมาและเป่าอย่างระมัดระวัง หลังจากนั้นก็ยื่นช้อนไปจ่อที่ริมฝีปากอวบ คนตัวเล็กไม่รอช้า รีบอ้าปากรับชิมรสชาติอาหารฝีมือตัวเอง หลังจากที่ลิ้นได้รับสัมผัสแล้ว แววตาของคนตัวเล็กก็เปลี่ยนเป็นประกายอีกครั้ง
“อร่อยจริง ๆ ด้วยคุณมัคคึ น้องแบมดีใจจังที่ตัวเองทำอาหารอร่อย อย่างนี้คุณมัคคึก็ไม่ต้องอดตายแล้ว" มาร์คยิ้มรับก่อนจะตักขึ้นมาอีกช้อน เป่าเสร็จก็ป้อนใส่ปากแบมแบม คนตัวเล็กกินต่อด้วยใบหน้าที่เปี่ยมสุข โยกหัวอารมณ์ดีไปมา อ้าปากรับโจ๊กที่มาร์คป้อนเรื่อย ๆ
ตอนนี้ก็เริ่มจะสงสัยแล้วล่ะ ว่าใครมาป้อนข้าวใครกันแน่ เหมือนว่าแบมแบมจะอร่อยกับโจ๊กฝีมือตัวเอง จนลืมหน้าที่ของตัวเองไป กว่าจะรู้ตัวอีกทีก็คิดโจ๊กหมดถ้วยแล้ว และมาร์คก็ดูมีความสุขที่ได้ป้อนเจ้าตัวเล็ก เพียงแค่มองคนตรงหน้ากิน เท่านี้เขาก็อิ่มแล้ว
“อ้าว! นี่น้องแบมจะมาป้อนข้าวคุณมัคคึไม่ใช่เหรอ ทำไมกลายเป็นคุณมัคคึมาป้อนน้องแบมเองล่ะ แล้วอย่างนี้คุณมัคคึจะกินอะไร"
กินนายแทนไงล่ะ แบมแบม... นั่นคือสิ่งที่มาร์คคิด คนอะไรจะน่ารักมากมายขนาดนี้
“ไม่เป็นไรหรอก ฉันยังไม่หิวเท่าไร" แต่เขาก็ต้องตอบในสิ่งที่ควรจะตอบไป
“งุ้ย น้องแบมขอโทษนะฮะ ที่เผลอกินโจ๊กเองหมดเลย" เจ้าตัวเล็กทำหน้ายู่ใส่ ก่อนจะค่อย ๆ คลานเข้ามาใกล้มาร์ค และวางมือไปที่อกแกร่งของเขา จ้องมองพร้อมทำตากระพริบอย่างสำนึกผิด แบมแบมอ้อนจนมาร์คเริ่มจะอดใจไม่ไหวจริง ๆ แล้ว เขาอยากจะหอมแก้มคนตัวเล็กแรง ๆ และดูดดมกลิ่นหอมไปทั่วทั้งร่าง
“นายออกไปเล่นข้างนอกเถอะ ฉันอยากพักผ่อน" แต่เขาก็ต้องระงับอารมณ์ไว้ โดยการให้คนตัวเล็กออกห่างจากเขา เพราะถ้าอยู่กับแบมแบมนานกว่านี้ เขาได้สติแตกแน่ ๆ
“น้องแบมไม่อยากไปเล่น น้องแบมอยากอยู่กับคุณมัคคึ" แบมแบมคงไม่รู้ตัวว่ากำลังบีบคอมาร์คอยู่ทางอ้อม "ถ้าคุณมัคคึจะนอน น้องแบมก็จะนอนเฝ้าคุณมัคคึ น้องแบมเหงา น้องแบมไม่ออกไปเล่นคนเดียว คุณจิงโจ้ก็ไม่อยู่ คุณหมาป่า... ก็ไม่รักน้องแบม"
ตอนที่แบมแบมพูดถึงคุณหมาป่า มาร์ครับรู้ได้ว่าน้ำเสียงของเจ้าตัวเล็กดูไม่สดใส ใบหน้าเล็กกำลังฟ้องเขาว่าแบมแบมกำลังเสียใจเมื่อพูดถึงคุณหมาป่า ดวงตาแดงก่ำคู่นั้นมันทำให้มาร์ครู้สึกเจ็บปวดตาม
“คุณจิงโจ้บอกว่าคุณหมาป่ากำลังไปมีครอบครัว... อีกนานคุณหมาป่าจะกลับมา... แต่น้องแบมเป็นครอบครัวของคุณหมาป่า ทำไมคุณหมาป่าถึงทิ้งน้องแบมไปง่าย ๆ อย่างนี้"
แบมแบมเริ่มทำเสียงอู้อี้ จมูกมนเริ่มเปลี่ยนเป็นสีแดง มาร์คเองก็รู้สึกจุกอกไปตาม ๆ กัน มันมีเหตุผลที่คุณหมาป่ามาหาแบมแบมไม่ได้ ก็เพราะว่ามาร์คยังบาดเจ็บอยู่ หมอเตือนไม่ให้เขาอยู่ในร่างหมาป่าเพราะเชื้อโชคอาจจะเข้าสู่่แผลได้ง่าย มันเลยทำให้คุณหมาป่าไม่สามารถมาหาแบมแบมได้ในช่วงนี้ แต่พอเห็นแบมแบมทำหน้าเศร้าแบบนี้ มันก็ทำให้เขาอดสงสารเจ้าตัวเล็กไม่ได้
“เดี๋ยวคุณหมาป่าก็กลับมา เชื่อฉันสิ... คุณหมาป่ารักนายจะตาย"
“ไม่จริงหรอก คุณหมาป่าไม่รักน้องแบม ถ้าคุณหมาป่ารักน้องแบม คุณหมาป่าจะไม่ทิ้งน้องแบมอย่างนี้"
มาร์คกำลังจะขาดอากาศหายใจ เขาไม่อยากให้แบมแบมมองคุณหมาป่าแบบนั้น เพราะคุณหมาป่าที่แบมแบมพูดยังไงมันก็คือเขา มาร์คอยากจะบอกความจริงทุกอย่าง แต่แค่คิดที่จะทำ เขาก็รู้สึกกลัวเหลือเกิน เขากลัวแบมแบมจะหวาดกลัวในเผ่าพันธ์ุของเขา เขากลัวแบมแบมจะโกรธเขาที่เขาโกหก มันเป็นความอึดอัดที่มาร์คอยากจะหนีแต่ก็ทำไม่ได้
“แต่ฉันเชื่อว่าวันนี้คุณหมาป่าจะมาหานาย นายลองไปรอที่สวนดอกไม้ดูสิ รอไม่นาน คุณหมาป่าจะมา"
“ไม่จริงหรอก น้องแบมไปรอทุกวัน คุณหมาป่าก็ไม่มา"
“เชื่อฉันสิ ฉันเป็นเทวดา ฉันเลยรู้ว่าวันนี้คุณหมาป่าของนายจะกลับมา" แบมแบมเงียบไปสีหน้าดูลังเลว่าจะไปตามที่บอกดีหรือเปล่า เพราะว่ากลัวไปแล้วจะต้องรอเก้อ กลับมาคงจะน้อยใจคุณหมาป่ามากกว่าเก่าแน่ จนมาร์คยกมือขึ้นมาลูบหัวเบา ๆ "เชื่อฉันสิ"
“อือ ก็ได้ฮะ" แบมแบมก็ตัดสินใจจะลองไปรอดูอีกสักครั้ง "น้องแบมจะรอคุณหมาป่า ถ้าวันนี้คุณหมาป่าไม่มานะ น้องแบมจะไม่รักคุณหมาป่าแล้ว"
พูดจบแบมแบมก็กระโดดลงจากเตียง ก่อนจะหันมาหยิบถาดอาหารที่เพิ่งกินหมดออกไปด้วย มาร์คชะเง้อมองจนกระทั่งประตูห้องปิดลง ร่างสูงก็รีบลุกขึ้นออกจากเตียง
มาร์คมองดูบาดแผลของตัวเอง ก็ต้องยกยิ้มเล็กน้อย เพราะการที่เขาเอาแต่นอนพักมันทำให้แผลของเขาดีขึ้นเยอะมาก เมื่อสามวันก่อนยังรู้สึกเจ็บแผลนิดหน่อยตอนลุกขึ้นเดิน แต่ตอนนี้อาการเจ็บมันแทบไม่เหลือแล้ว ถ้าอย่างนั้นคงจะไม่มีปัญหาอะไรถ้าเขาจะไปหาเจ้าก้อนในร่างหมาป่า
ไม่มีการรอใด ๆ ทั้งนั้น มาร์ครีบเดินไปเปิดประตูมองดูว่าเจ้าก้อนไปชัวร์หรือยัง หลังจากที่เช็คดูแล้วทางสะดวก เขาก็กลับมาซ่อนหลังประตู หลังจากนั้นก็พยายามปลุกเรียกร่างหมาป่าร่างยักษ์ที่ซ่อนอยู่ภายในร่างกายของเขา ใบหน้าคมกัดฟันแน่นส่วนกรอบหน้าขึ้นกรามจนเห็นชัด ความร้อนเริ่มซ่านไปทั่วทั้งร่างเขา มือหนาปลดเปลื้องเสื้อผ้าออก ขนฟูที่ซ่อนไว้ผุดขึ้นมาปกปิดพื้นผิวขาวเนียน ใบหน้าหล่อเหลายืดหยุ่นจนกลายเป็นหัวสุนัขขนาดใหญ่ เล็บยาวออกมาคมและแข็งแรง สัมผัสกลิ่นของเขาทำงานได้ดีมากขึ้น เขาสามารถกะระยะได้ว่าแบมแบมเดินถึงตรงไหน รวมทั้งเสียง เขาสามารถฟังได้ว่าเจ้าตัวเล็กกำลังบ่นพึมพำอะไร
แบมแบมกำลังบ่นถึงคุณหมาป่า รับรองได้ว่าถ้าเจ้าตัวเล็กได้เห็นหน้าเขาในร่างหมาป่า คงจะบ่นจนเข้าต้องหูชาแน่ แต่ถ้าไม่ไป... เขาว่าเขาคงจะโดนเจ้าก้อนโกรธตลอดชีวิต
.
.
.
.
.
.
.
แบมแบมเดินมาที่สวนดอกไม้หลังปราสาทด้วยใบหน้าที่บึ้งตึง หันซ้ายหันขวามองหาสัตว์ร่างใหญ่ขนนุ่มด้วยความคิดถึง นานมากแล้วที่แบมแบมไม่เจอกับคุณหมาป่า ตอนแรกก็ไม่โกรธมากเพราะคิดว่าคุณหมาป่าก็เป็นผู้ชาย ก็คงจะอยากมีแฟนเหมือนตน แต่นี่หายไปนานมาก จนแบมแบมน้อยใจที่คุณหมาป่าไม่ให้ความสำคัญ
หมาป่าหนุ่มเดินเข้ามาในสวนพร้อมกับคาบดอกไม้ช่อหนึ่งมาง้อเจ้าตัวเล็ก ถึงแม้ว่าระหว่างทางที่มาจะทำคนแตกตื่นที่เขาอยู่ในร่างหมาป่า แต่มาร์คก็ไม่สน เขาตั้งใจจะมาหาเจ้าก้อนในร่างนี้ให้ได้ มาร์คเดินเข้าไปใกล้ร่างเล็ก แบมแบมเพิ่งรู้สึกตัวว่ามีใครอยู่ข้างหลัง จึงหันหน้ามามอง แต่เมื่อได้เห็นบุคคลที่กำลังรอคอย น้ำตาก็เริ่มก่อตัวที่ขอบตา
“คุณหมาป่า... มาจริง ๆ ด้วย" แบมแบมพยายามกลั้นน้ำตาไม่ให้ไหล แต่ทว่ามันกลั้นไม่ได้ เจ้าตัวเล็กคิดถึงสัตว์เลี้ยงตัวนี้แทบขาดใจ เจ้าตัวเล็กไม่รอช้าวิ่งเข้าไปกอดสัตว์ร่างโต มาร์คเพียงยืนนิ่งให้คนตัวเล็กกอด ทั้งที่ควรดีใจที่ทำให้แบมแบมมีความสุขได้ แต่เขากลับรู้สึกอึดอัดขึ้นมา
เขาไม่อยากแสดงละครเป็นคนสองคนอย่างนี้ แบมแบมควรจะรับรู้ว่าเขากับคุณหมาป่าคนคนเดียวกัน แต่เพราะกลัวมันเลยทำให้เขาไม่กล้าตัดสินใจบอกความจริงไป...
“คุณหมาป่านิสัยไม่ดี!! ได้คุณภรรยาแล้วทิ้งน้องแบมเลยเหรอ!” หลังจากที่คลายกอดคนตัวเล็กก็บ่นใส่ทันที มาร์คจึงรีบยื่นดอกไม้ให้แบมแบมเป็นการดักคอเสียก่อน และมันก็ได้ผล เจ้าตัวเล็กจ้องมองดอกไม้ด้วยตาเป็นประกาย "คุณหมาป่าเอาดอกไม้มาให้น้องแบมเหรอฮะ"
หมาป่าหนุ่มพยักหน้าเบา ๆ เป็นการบอกว่าใช่ และนั่นทำให้แบมแบมยิ้มกว้างจนแก้มปริ ก่อนจะยื่นมือไปรับดอกไม้จากปากของมาร์ค เห็นได้ชัดเลยว่าแบมแบมดูอารมณ์ดีมากกว่าเก่าเป็นพันเท่า ดีนะที่มาร์คคิดแผนง้อทัน ไม่งั้นป่านนี้เขาคงจะต้องทนฟังแบมแบมบ่น โดยที่เขาไม่สามารถตอบโต้อะไรได้ อธิบายก็ไม่ได้ด้วย
“น้องแบมหายโกรธคุณหมาป่าก็ได้ แต่ครั้งต่อไปจะไปไหนก็บอกน้องแบมด้วย จะไปนานแค่ไหนก็ต้องบอก เข้าใจไหมฮะ"
“...” แล้วเขาจะบอกยังไงล่ะ เขาสื่อสารกับแบมแบมภาษาหมาไม่ได้!
“เฮ้อ~ น้องแบมลืมไปคุณหมาป่าบอกน้องแบมไม่ได้ คุณหมาป่าเป็นหมา งั้นก็ไม่ต้องไปไหน ไปทำหมันเลยดีไหมฮะ จะได้ไม่ต้องไปหาสาว ๆ อีก"
มาร์คส่ายหัวรัว จู่ ๆ ก็รู้สึกขนลุกซู่ซ่าขึ้นมาทันที จะให้เขาไปทำหมันเนี่ยนะ เขาไม่ใช่หมาบ้าน! นี่หมาป่านะเฟ้ย
“ไม่เอาหรอก ยังไงคุณหมาป่าก็ต้องทำ เพราะพอถึงฤดูสัมพันธ์ คุณหมาป่าก็หนีหายไปอีก น้องแบมไม่อยากให้คุณหมาป่าไปจากน้องแบมนะ คุณป๊าบอกว่าหมาตัวผู้เวลาทำหมันแล้วจะไม่ติดสาวอีก คุณหมาป่าทำเถอะนะ ทำเพื่อน้องแบมนะ"
มาร์ครู้สึกร้อน ๆ หนาว ๆ ขึ้นมาทันที ยังไงแบมแบมก็ไม่น่าจะทำอะไรเขาได้ เจ้าตัวเล็กไม่มีทางรู้วิธีทำหมันสักหน่อย และถ้าแบมแบมไปขอให้คนอื่นช่วยทำหมันให้เขา ก็ไม่มีใครทำให้แน่ ทั้งที่คิดว่าไม่มีทางเป็นไปได้ ทำไมเขาถึงรู้สึกกลัว ๆ อยู่ดี
“คุณหมาป่าไม่ตอบ งั้นแปลว่าตกลงแล้วนะ เดี๋ยวน้องแบมจะเอาไปปรึกษาคุณมัคคึ ให้คุณมัคคึช่วยหาหมอมาทำหมันให้คุณหมาป่า" ปรึกษาถูกคนแล้วล่ะ เพราะคุณมัคคึจะช่วยให้คุณหมาป่าไม่ต้องมาทำหมัน
“แต่ตอนนี้เรามาเล่นกันไหมฮะคุณหมาป่า เราไม่ได้เล่นด้วยกันนานแล้วนะ" แบมแบมพูดพร้อมกอดขาสัตว์ร่างโตไว้ ต่อให้ตอนนี้มาร์คจะรู้สึกอยากจะนอนพักเฉย ๆ แต่เพราะต้องเอาใจเจ้าตัวเล็ก เลยพยักหน้าตอบรับไป
“เย้! มาเล่นขว้างลูกบอลกัน น้องแบมจะขว้างแล้วคุณหมาป่าก็วิ่งไปรับนะฮะ" คำพูดของแบมแบมทำมาร์คกลืนน้ำลายแทบไม่ลงคอ นี่เจ้าก้อนเคยมองว่าเขาเป็นหมาป่าบ้างไหม แต่ล่ะอย่างที่ให้เขาทำ ไม่ต่างจากเจ้าตูบที่เฝ้าบ้านเลยสักนิด
แบมแบมวิ่งไปหยิบลูกบอลที่อยู่ในศาลากลางสวน จากนั้นก็โบกไปมาแล้วส่งสัญญาณบอกคุณหมาป่าว่ากำลังจะขว้างแล้ว มาร์คทำได้เพียงถอนหายใจอย่างเหนื่อยใจ แต่มองไปเห็นรอยยิ้มสดใสนั้น ก็ทำให้เขาต้องแอบยิ้มเล็ก ๆ สุดท้ายก็ยอมขยับตัวเพื่อเตรียมตัวรับลูกบอล
“ไปเลย!!” มาร์คมองตามลูกบอลที่กำลังลอยข้ามฟ้ามา ความแม่นยำและความรวดเร็วทำให้มาร์ควิ่งไปรับลูกบอลได้ทัน ทำคนตัวเล็กตาโตรีบตบมือรัวอย่างปลื้มใจในความเก่งของคุณหมาป่า มาร์ควิ่งกลับมาคาบลูกบอลให้แบมแบม เจ้าตัวเล็กรับไปก่อนจะโยนมันออกไปอีกรอบ
เพราะเป็นหมาป่า ทำให้เขาไม่รับพลาดแม้ว่าในครั้งนี้จะรับยากกว่าครั้งที่แล้ว หมาป่าหนุ่มกระโดดงับลูกบอลกลางอากาศ เรียกเสียงตบมือจากคนตัวเล็กได้รัว ๆ
สายตาเห็นภาพไหว ๆ ตรงมุมปราสาท หันไปมองก็เห็นโจอี้กำลังยืนหัวเราะคิกคักอย่างชอบใจ และนั่นทำให้เขารู้สึกร้อนวูบ ก็โดนน้องชายมายืนหัวเราะอยู่ตรงนั้นเป็นใครจะไม่อายบ้างล่ะ ถ้าเขาต้องวิ่งรับลูกบอลอีกรอบ เขาเชื่อว่าโจอี้ต้องวิ่งไปตามคนอื่นมาดูสกิลการรับลูกบอลของเขาแน่ ๆ ดังนั้นเกมการเล่นนี้จะไม่เกิดขึ้นอีก
“คุณหมาป่า มาเร็ว ๆ สิฮะ" เกมนี้มันต้องเปลี่ยน ต้องไม่ใช่เขาที่วิ่งไปรับลูกบอล แต่จะเป็น... “เอาลูกบอลมาสิ คุณหมาป่า ปล่อยเร็ว ๆ น้องแบมจะขว้างแล้ว"
ต้องเป็นเจ้าก้อนนี่แหละที่วิ่งไปรับลูกบอลแทนเขา
มาร์คนั่งลงกับพื้นพร้อมเชิดหน้าขึ้น เป็นการบอกว่าเขาจะไม่ให้แบมแบมขว้างแล้ว แบมแบมพยายามเอื้อมมือหยิบเขาลูกบอลจากปากมาร์ค แต่เขาก็เบี่ยงหน้าหนีเป็นบ่อย
'เปลี่ยนกันบ้างสิ'
มาร์คพูดบอกภาษาหมา แน่นอนว่าแบมแบมฟังไม่ออกอยู่แล้ว คนตัวเล็กเหนื่อยจากการแย่งลูกบอล จึงเงยหน้ามองมาร์คพร้อมคิ้วขมวดใส่
“คุณหมาป่าเป็นอะไร ทำไมไม่ปล่อยลูกบอล"
'ให้ฉันโยนบ้าง'
“น้องแบมฟังภาษาคุณหมาป่าไม่รู้เรื่อง"
'งั้นก็ถอยไป ฉันจะทำให้ดู'
มาร์คลุกขึ้นยืน ก่อนจะสะบัดหน้าขว้างลูกบอลไป แบมแบมได้แต่มองตามมันไป จนมันกลิ้งไปออกไปในพื้นที่เขตนอกปราสาท มาร์คใช้จมูกดันให้เจ้าตัวเล็กไปข้างหน้า แบมแบมพยายามคิดตามกับพฤติกรรมของคุณหมาป่า
“จะให้น้องแบมวิ่งไปเก็บ" มาร์คพยักหน้ารัว ๆ หรือแบมแบมจะเข้าใจเขาแล้ว "แล้วคุณหมาป่าจะโยนไปทำไมเล่า!”
แต่สุดท้ายก็ไม่เข้าใจ เจ้าก้อนขมวดคิ้วใส่เขา ก่อนจะวิ่งไปตามลูกบอลมา มาร์คนั่งลงอย่างผ่อนคลาย แค่เขวี้ยงลูกบอลไปแล้วเจ้าก้อนก็ไปเก็บ นี่คงจะเป็นเกมที่เขาชอบและก็ไม่ต้องอายด้วย มาร์คหันไปมองด้านหลังเห็นโจอี้ทำหน้าเบื่อ ๆ ใส่ หลังจากนั้นน้องชายตัวแสบก็เดินกลับเข้าไปในปราสาท ทำให้หมาป่าหนุ่มเริ่มอารมณ์ดีมากขึ้นไปอีก เขามองกลับมาที่เจ้าก้อน เห็นแบมแบมกำลังมุดโพรงไม้ออกไปนอกปราสาท
เขาก็ทำแค่เพียงรอ...
แต่... นั่งรอสักพัก ทำไมแบมแบมไม่ออกมาสักที อยู่ ๆ ใจมันก็ร้อนรุ่มขึ้นมาเพราะแบมแบมกลับมาช้าเกินไป เพราะมันผิดปกติ มาร์คจึงต้องรีบลุกออกจากตรงนั้น วิ่งไปตรงที่แบมแบมหายไป เขาวิ่งไปสุดตรงโพรงไม้ มุดหน้าเข้าไป เขาก็พบเจ้าตัวเล็กยืนอยู่
มาร์คผ่อนลมหายใจอย่างโล่งอก เพราะเขาคิดว่าจะเหตุร้ายกับแบมแบมแล้วซะอีก แต่... ทำไมแบมแบมดูนิ่งไป มาร์คจึงเงยหน้ามองแบมแบมอีกครั้ง ก็เพิ่งจับสังเกตได้ว่าเจ้าตัวเล็กดูผิดปกติไป
เจ้าก้อนกำลังยืนตัวเกร็งและจ้องมองอะไรบางอย่าง มาร์คไม่รอช้ารีบเข้าไปดึงชายเสื้อแบมแบมไว้ให้มาอยู่ด้านหลังเขา ก่อนจะรีบยืนบังแบมแบมไว้ เพื่อไม่ให้อะไรมาทำร้ายได้ ตาคมมองตามไปทางสายตาแบมแบม พอได้มองเห็นสิ่งตรงนั้น หัวใจของเขาก็เต้นแรงมากขึ้น ความหวาดกลัวทำเขาต้องค่อย ๆ ดันร่างให้แบมแบมถอยหลังกลับไป
มีใครบางคนยืนอยู่หลังต้นไม้ กำลังจ้องมองมาทางเขาและแบมแบม มาร์คพยายามเพ่งมองสังเกตใบหน้า แต่เงาของผ้าคลุมสีดำปิดหน้าเอาไว้ เขาจึงมองไม่ออกว่าคนคนนั้นหน้าตาเป็นยังไง
แต่แล้วคำพูดหนึ่งก็ดังขึ้นในโสตประสาท มันทำให้ร่างของมาร์คก็ชาไปหมดทุกส่วน หัวใจของเขาเหมือนหยุดเต้นไปแล้ว มาร์คนึกถึงคำพูดของอเมธ่าบอก ที่บอกว่าคนใส่ชุดผ้าคลุมสีดำเป็นเหตุที่ทำให้เกิดสงครามระหว่างมนุษย์และหมาป่า หรือจะเป็นคนคนนี้...
แฮ๊กกก!!
มาร์คขู่คำรามขู่ฝ่ายตรงข้าม ทั้งดันตัวให้แบมแบมไปอยู่ด้านหลัง คนตัวเล็กจ้องมองฝ่ายตรงข้ามด้วยความหวาดกลัวพร้อมกับเอามือมาจับสัตว์ร่างใหญ่เพื่อให้ตัวเองอุ่นใจ แต่แล้วทั้งสองก็ต้องเบิกตากว้างอย่างตกใจ เมื่อข้างกายคนชุดดำนั้น มีหมาป่าตัวหนึ่งเดินออกมาจากหลังต้นไม้ มันขู่มาร์คกลับเป็นการปกป้องคนที่อยู่ข้างกายมัน ในตอนนี้มาร์คช็อกค้างไปเสียแล้ว เพราะไม่คิดว่าเขาจะมาหาถึงที่ งั้นก็แปลว่า...
“น...นั่นมัน หมาป่าที่จับตัวพี่ยองแจไปนี่ น้องแบมจำได้!!!” เจ้าตัวเล็กตะโกนลั่นพร้อมชี้หน้าหมาป่าหนุ่มขนสีทอง
ใช่... นั่นคือแจ็คสัน งั้นก็หมายความว่าคนที่อยู่ในชุดดำนั่นอาจจะ... เป็นชเว ยองแจ!
“เอาพี่ยองแจของแบมแบมคืนมา" เจ้าตัวเล็กวิ่งไปหาแจ็คสันอย่างไม่คิดชีวิต ดีที่มาร์คไวกว่าเขาใช้ปากงับชายเสื้อแบมแบมไว้ทัน ไม่อย่างนั้นแบมแบมไม่ปลอดภัยแน่ ๆ
มาร์คดึงร่างเล็กไว้พร้อมจ้องมองยองแจไม่ล่ะสายตา เพราะยองแจเอาฮู้ดมาปิดหน้าไว้เลยทำให้เห็นเพียงแต่เงามืด ๆ จึงไม่เห็นว่ายองแจกำลังรู้สึกอะไร แต่ถ้าให้เดา เขาว่าน่ากำลังร้องไห้ เพราะเขาเห็นมือขาว ๆ ยกขึ้นมาปาดน้ำตาของตัวเอง มาร์คไม่รู้เหตุผลที่ยองแจกับแจ็คสันมาที่นี่ แต่สิ่งเดียวที่เขากลัวเหรอเกินคือสองคนนี้จะมาเอาแบมแบมไปจากเขา
ถึงรู้ว่านั่นคือพี่ชายของแบมแบม ก็เท่ากับว่าเป็นคนในครอบครัวของแบมแบม... แต่คนที่ไปอยู่ด้วยนั่นคือแจ็คสัน ชายที่เคยคิดจะฆ่าเขา เขาไม่มีทางปล่อยให้แบมแบมไปอยู่กับคนแบบนั้นแน่ และอีกอย่าง... เขาคงทำใจไม่ได้ถ้าจะต้องห่างจากเจ้าก้อนน้อย นี่มันไม่ใช่สิ่งที่เขาคิดไว้
“ฮึก! เอาพี่ยองแจของแบมแบมคืนมา" แบมแบมร้องไห้หนักขึ้นเรื่อย ๆ ยองแจยืนมองน้องชายตัวเองแทบใจจะขาด อยากจะเข้าไปกอดไว้แน่นแต่ก็ไม่สามารถทำได้
เพราะกลับไปไม่ได้แล้ว เลยขอแจ็คสันให้พามาหาแบมแบม แค่อยากรู้ว่าน้องชายสุขสบายดีไหม ตอนที่เขาเห็นแบมแบมเล่นสนุกกับมาร์ค รอยยิ้มสดใสนั่นมันทำเขาโล่งใจ เพราะแบมแบมได้อยู่คนกับที่อ่อนโยน ไม่ต้องมาทนทุกข์แบบเขา นั่นเป็นเหตุผลที่ยองแจไม่ยอมเผยตัว และก็กลัวการจากลาครั้งนี้จะยากมากขึ้น แน่นอนว่าแบมแบมต้องไม่ยอมให้เขาไปแน่ ถ้าเขาไม่ไป แจ็คสันก็จะไม่ยอม ก็จะกลายเป็นเรื่องชุลมุนมากขึ้นไปอีก ยองแจเลยจำเป็นต้องรักษาสัญญาไม่ไปจากเขา
เจ้าตัวเล็กดื้อจะวิ่งเข้าไปหาแจ็คสันให้ได้ แต่ต่อให้ดิ้นยังไงมาร์คก็ไม่มีทางปล่อยชายเสื้อหลุดออกจากปาก ตาคมเลื่อนสายตาไปมองเพื่อนรักเก่า ฝ่ายนั่นไม่ได้เสียงขู่ดังเหมือนในตอนแรกแล้ว แค่ส่งเสียงขู่ในลำคอเล็ก ๆ แจ็คสันมองมาที่มาร์ค เขาทั้งสองจ้องตากันเนิ่นนานเหมือนกับกำลังสื่อสารกันทางสายตา สิ่งที่มาร์ครับรู้จากสายตาคู่นั้นคือมีแต่ความโกรธแค้น ส่วนสิ่งที่แจ็คสันได้รับไปก็คือความเสียใจ
ยองแจเริ่มกลั้นเสียงสะอื้นของตัวเองไม่ได้ มือขาวจึงวางไปที่แผ่นหลังของแจ็คสันเป็นการบอกเขาว่ากลับ กระโดดตัวขึ้นหลังแจ็คสันเป็นการบอกว่าพร้อมจะกลับแล้ว มาร์คมองตามยองแจก็ยิ่งไม่เข้าใจ ทำไมยองแจถึงยอมกลับไปง่าย ๆ ทั้งที่ตอนนั้นก็อยากจะหนี ส่วนเจ้าก้อนน้อยเอาแต่รบเร้ามาร์คบอกเขาซ้ำ ๆ ว่านี่เป็นหมาป่าตัวที่จับยองแจไป
นี่คงเป็นครั้งสุดท้ายที่ได้เห็นน้องชายตัวเล็ก แค่นี้ก็เพียงพอแล้ว ยองแจไม่ต้องกังวลใจอะไรอีกแล้ว เพราะมาร์คดูแลแบมแบมได้ดีแค่นั้นเขาก็สบายใจมาก ถามว่าอยากกลับไปอยู่กับแบมแบมไหม อยากกลับไปมาก แต่ตนไม่สามารถหนีจากแจ็คสันได้อีกแล้วเลยต้องยอมลาจาก และมีอีกวิธีที่ทำให้ได้อยู่ด้วยกันคือให้แบมแบมไปอยู่กับเขาที่ปราสาทของแจ็คสัน แต่ยองแจไม่ยอมให้มันเป็นอย่างนั้นแน่ เพราะยองแจไม่อยากให้แบมแบมต้องไปอยู่นรกเหมือนกับตน ดังนั้นจึงขอเพียงแค่มาเห็นหน้าก็พอ
แต่ทว่า.... มีฝ่ายหนึ่งเล่นตุกติก...
หมาป่าที่หลบซ่อนตามที่ต่าง ๆ เริ่มโผล่ออกมา พร้อมขู่คำราม ยองแจเบิกตากว้างอย่างตกใจ ส่วนมาร์คเองก็ตกใจไม่แพ้กัน เพราะหมาป่าพวกนี้ไม่ใช่คนในฝูงของเขา ในตอนแรกแบมแบมดื้อจะวิ่งเข้าหาแจ็คสัน แต่พอเห็นหมาป่าเยอะมากมายขนาดนี้เจ้าตัวเล็กก็รีบเอาตัวไปซ่อนที่อกหมาป่ามาร์คอย่างหวาดกลัว
เหล่าหมาป่าก้าวเท้าเข้ามากันอย่างช้า ๆ โดยมีจุดมุ่งหมายคือมาร์ค ส่วนยองแจโมโหกับการกระทำของแจ็คสัน เลยทุบมือไปที่เขาซ้ำ ๆ พร้อมกัดริมฝีปากไว้แน่นเพื่อระงับอารมณ์โกรธของตัวเอง อยากจะส่งเสียงด่าแต่ก็กลัวแบมแบมจะจับได้ว่าเป็นเขา ยองแจทำเพื่อแบมแบมโดยการไม่เผยตัว ส่วนแจ็คสันนั้นก็ทำเพื่อยองแจเช่นกันโดยการจับตัวเจ้าตัวเล็กกลับไปด้วย!
มาร์คขู่คำรามเสียงดังพร้อมแยกเขี้ยวแหลมคมคู่ฝ่ายตรงข้าม แบมแบมไม่เคยเห็นคุณหมาป่าในมุมนี้มาก่อน ยอมรับตรง ๆ เลยว่าตอนนี้นอกจากจะกลัวหมาป่าพวกนั้นแล้ว เจ้าตัวเล็กก็ยังแอบกลัวคุณหมาป่าด้วย แต่เพราะรักและรู้ว่าคุณหมาป่ากำลังปกป้องอยู่ เจ้าตัวเล็กจึงต้องแข็งใจส่ายหัวไปมาเป็นการบอกตัวเองว่าอย่าคิดเรื่องอื่น แบมแบมมองไปทางตรงหน้าและคิดหาวิธีเพื่อปกป้องตัวเอง รวมทั้งปกป้องคุณหมาป่าด้วย
แต่ตัวเล็กแค่นี้... จะไปสู้อะไรได้ แค่คิดก็ท้อแล้ว ความอ่อนแอทำให้น้ำตามาก่อตัวที่ขอบตา และทันใดนั้น เจ้าหมาป่าพวกนั้นก็วิ่งเข้ามาหาทั้งสองด้วยความเร็วสูง เพราะกลัวแบมแบมเลยขดตัวลงไปนั่งกับพื้นพร้อมกรี๊ดร้องเสียงดัง ความชุลมุนเกิดขึ้นที่ตรงนั้น มาร์คไม่มีทางปล่อยแบมแบมไปแน่ เขาพยายามต่อสู้กับพวกฝั่งของแจ็คสัน เขาตัวคนเดียวเลยทำให้โดนรุมได้ง่าย ส่วนจ่าฝูงอย่างแจ็คสันนั้น ได้แต่ยินมองผลงานตัวเองอย่างเยือกเย็น
ยองแจมองน้องชายตัวเองที่นั่งตัวสั่นอยู่ตรงนั้นน้ำตาก็ยิ่งไหลอาบแก้มมากกว่าเก่า ความเจ็บปวดนี้ทำให้ยองแจถามตัวเองซ้ำ ๆ ว่าทำไมตัวเองต้องพบเจอเรื่องเจ็บปวดครั้งแล้วครั้งเล่า เพราะอะไรกัน... เพราะแจ็คสัน หรือเป็นเพราะเวรกรรมที่ตัวเองเคยก่อมาช้าปางก่อนกันแน่
เหล่าหมาป่าที่เหลือพุ่งตัวเข้าไปหาแบมแบม หนึ่งในนั้นแปลงกายเป็นมนุษย์โอบอุ้มแบมแบมไว้ ในตอนนี้แบมแบมทั้งช็อกและหวาดกลัว ภาพที่หมาป่ากลายร่างเป็นคนนั้นยังทำให้แบมแบมตกใจไม่หาย สิ่งที่มาร์คได้พยายามปิดบังไว้ได้ถูกเปิดแล้ว ในตอนนี้แบมแบมได้รับรู้ว่ามนุษย์หมาป่านั้นไม่ได้มีแค่ในนิทาน และก็เหลือแค่รู้ความจริงจากเขาเท่านั้น ว่าสรุปจริง ๆ แล้วคุณหมาป่ากับคุณมัคคึคือคนเดียวกัน
ในจังหวะนั้นมาร์คหันมามองแบมแบม ภาพที่เจ้าตัวเล็กถูกอุ้มโดยฝ่ายศัตรู ทำหัวใจของเขาแทบแหลกสลาย เขาพยายามตะเกียดตะกายวิ่งมาหาแบมแบม แต่ทว่าก็ถูกฝ่าศัตรูเอาโซ่มาพันร่างเขาเพื่อขัดขวาง หมาป่าหนุ่มล้มลงไปนอนกับพื้น และก็ถูกตรอกซ้ำโดยการถูกอุ้มเท้านับสิบเหยียบย้ำเรือนร่าง
ใครว่าหมาป่าไม่มีน้ำตากัน ในตอนนี้น้ำตาเจ้าหมาป่ามาร์คน้ำตาไหลรินลงมา ภาพที่แบมแบมกำลังถูกอุ้มจากไปนั้นทำเขาแทบขาดหายใจ แม้ร่างกายจะถูกทำร้ายจนได้รับบาดแผล แต่ก็ไม่เจ็บเท่าใจที่กำลังถูกพรากคนรักไปต่อหน้า
'คราวนี้นายได้รู้แล้วใช่ไหม ว่าการที่ถูกพรากสิ่งที่รักไป มันเป็นยังไง' แจ็คสันพูดบอก เพราะอยู่ในร่างหมาป่าก็มีแต่หมาป่าเท่านั้นที่รู้ว่าพวกเขากำลังพูดคุยเรื่องอะไรกัน
คำพูดของแจ็คสันกรีดลึกบาดใจคนฟังอย่างมาร์คมากขึ้นไปอีก เขารู้ว่าการสูญเสียของรักมันเจ็บปวด แต่ก็ไม่เจอกับตัวเองเลยไม่รู้ว่ามันเจ็บเท่าไร จนในวันนี้...วันที่เขาเห็นแบมแบมถูกพรากไปต่อหน้า เขาเข้าใจดีเลยว่ามันเจ็บเจียนตายขนาดไหน
“ปล่อย!! ปล่อยแบมแบมลงเดี๋ยวนี้!!” เพราะอดทนไม่ไหวอีกแล้วยองแจจึงตะโกนออกไปห้ามให้ลูกน้องของแจ็คสันปล่อยแบมแบม "ผมบอกให้ปล่อยไง!!!!!”
ความชุลมุนที่เกิดขึ้นในตอนแรกถูกหยุดชะงักเพียงเพราะได้ยินเสียงตะโกนที่สั่นเครือของยองแจ เพราะยองแจเป็นเหมือนนายใหญ่คนที่สองของตระกูลหวัง เหล่าลูกน้องจึงหวาดกลัวกันตาม ๆ ไป ทุกอย่างมันไม่ทันใจ ยองแจจึงกระโดดลงจากหลังแจ็คสัน รีบวิ่งไปหาน้องชายตัวเล็กที่ถูกอุ้มอยู่ มือเล็กดึงตัวแบมแบมมาไว้ในอ้อมอกตัวเอง เขาโอบกอดแบมแบมแน่นพร้อมเอามือลูบหัวเป็นการปลอบขวัญ
ในตอนนี้แบมแบมหมดสติไปแล้ว อาจจะเป็นเพราะความหวาดกลัวเลยทำให้แบมแบมช็อกจนสลบไป เรื่องนี้ยองแจรู้ดี เจ้าตัวเล็กร่างกายไม่ค่อยแข็งแรง เขารู้... ยองแจมองน้องชายตัวเองพร้อมกับร้องไห้สะอื้นเสียงดัง เขากำลังโทษตัวเองว่าทุกอย่างที่เกิดขึ้นมันเป็นเพราะเขา ถ้าเขาไม่มาแอบดูแบมแบม ทั้งมาร์คและแบมแบมก็คงจะไม่ต้องมารับกับความเจ็บปวดพวกนี้
“ผมก็อยู่กับคุณแล้ว มันยังไม่พอหรือยังไง... ทำไมต้องมาลากน้องชายผมไปอยู่ขุมนรกกับคุณด้วย" ยองแจหันไปพูดกับแจ็คสันพร้อมกับปล่อยน้ำตาร่วงรินลงมาไม่ขาดสาย ส่วนคนถูกดุได้แต่ยืนแน่นิ่ง เขาเพิ่งรู้ตัวว่าตัวเองทำสิ่งโง่เขลาก็ตอนที่เห็นภาพยองแจหันมามองเขาด้วยสายตาที่แสนเจ็บปวดแบบนั้น
ก็แจ็คสันตั้งใจจะทำเพื่อยองแจ เขาจำภาพที่ยองแจร้องไห้กับธีมบอกว่าคิดถึงแบมแบมได้ เขาก็เลยอยากจะทำให้ยองแจมีความสุข ในตอนที่ยองแจมาขอเขาว่าอยากมาแอบดูแบมแบม อยากรู้ว่าแบมแบมเป็นยังไงบ้าง มันเป็นสิ่งแรกที่ยองแจขอจากเขา แน่นอนว่าเขาย่อมยอมทำตามอยู่แล้ว แต่เขาแค่อยากให้ยองแจมีความสุขมากกว่านี้ เลยวางแผนซ้อนให้เหล่าลูกน้องของเขาจับตัวแบมแบมกลับไปด้วย แต่ทำไมสิ่งที่เขาทำนั้นกลับกลายเป็นความเศร้าแบบนี้ สิ่งที่เขาอยากเห็นคือรอยยิ้มของยองแจ ไม่ใช่ใบหน้าที่มีแค่คราบน้ำตา
มาร์คฝืนร่างกายตัวเอง เดินขากระเผรกมาหาแบมแบม เขาใช้ปลายจมูกชนหัวแบมแบม แต่เจ้าตัวเล็กก็ไม่ฟื้นขึ้นมา ยองแจมองหน้ามาร์คพร้อมเอนหัวซบเขาและสะอื้นร้องไห้เสียงดัง ภาพนั้นเป็นภาพที่บาดใจคนมองอย่างแจ็คสัน มันก็สมควรแล้วล่ะ สมควรแล้ว... ในตอนนี้แจ็คสันได้แต่ถามตัวเองซ้ำ ๆ ว่าที่ผ่านมานั้นเขาเคยทำอะไรให้ยองแจมีความสุขบ้างหรือเปล่า แม้แต่เมื่อกี้ที่เขาตั้งใจจะทำให้ยองแจมีความสุข แต่กลับกลายเป็นทำร้ายยองแจไปอีกครั้ง มันทำให้แจ็คสันเผลอคิดว่าเขาไม่สวมควรที่จะอยู่ข้างยองแจอีกต่อไป
แจ็คสันเดินกลับไปในทางที่เขาเคยมา เหล่าลูกน้องได้แต่มองเขาสลับกับยองแจด้วยความสงสัย ว่าทำไมเจ้านายไม่พายองแจกลับไปด้วย ส่วนยองแจเองเห็นเหล่าหมาป่าเริ่มเดินกลับ ก็เลยหันไปมองที่ที่เคยมีแจ็คสันยืนอยู่
ที่ตรงนั้นแจ็คสันไม่อยู่แล้ว... กลับกลายเป็นเห็นร่างของเขาเดินจากไป โดยไม่เหลียวหลังกลับมามอง หรือว่ายองแจจะเป็นอิสระแล้ว...
ทั้งที่ควรดีใจ แต่ทำไมความรู้สึกของยองแจสับสนไปหมด และเพียงเสี้ยววินาทีที่แจ็คสันหันหน้ากลับมามอง ก็ทำยองแจกลับรู้สึกหายใจไม่ออก
“นายเป็นอิสระแล้ว...” มาร์คพูดขึ้น ยองแจหันไปมองตามเสียงก็พบมาร์คอยู่ในร่างมนุษย์แล้ว และมองถัดไปอีกก็เจอเด็กหนุ่มใบหน้าอ่อน เอาผ้าคลุมมาคลุมร่างเปลือยเปล่าของเขาไว้ และคนคนนั้นจะเป็นใครไม่ได้นอกจากโจอี้ ก็หลังจากที่แบมแบมกรี๊ดลั่น ทั้งปราสาทก็ต่างแตกตื่นตามหาแบมแบมกันให้วุ่น แต่โจอี้จำได้ว่าเขาเห็นแบมแบมครั้งล่าสุดคือที่สวนดอกไม้ก็รีบตามมาช่วย แต่เขามาถึงก็ตอนที่เหตุการณ์มันคลี่คลายแล้ว เขาเลยยืนแอบมองอยู่ห่าง ๆ และก็เข้ามาอีกทีพร้อมผ้าคลุมร่างให้มาร์ค เลยทำให้มาร์คกล้าคืนร่างกลับมาเป็นมนุษย์
“ฉันจะพานายกลับไปบ้าน ไปหาพ่อกับแม่ของนาย... และหลังจากนั้น... เราจะขึ้นไปที่ภูเขาตอนเหนือด้วยกัน"
“ไปทำไม...” ยองแจถามกลับ มาร์คเงียบไปครู่หนึ่งก่อนจะเอามือมาลูบแบมแบมเบา ๆ ยองแจค่อย ๆ คลายกอดแบมแบมออก มาร์คจึงช้อนแขนเข้าไปโอบกอดแบมแบมไว้แทน
“เราจะไปสร้างครอบครัวกันที่นั่น ทั้งครอบครัวนายและครอบครัวฉัน พวกเราจะปลอดภัย"
“ปลอดภัย? หมายความว่ายังไง" มาร์คหันไปสบตาโจอี้ครู่หนึ่งเป็นการปรึกษาว่าเขาจะเริ่มพูดดีหรือไม่ แต่เพียงแค่น้องชายพยักหน้าเขาก็เริ่มพูดต่อ
“อยู่ที่นี่ไม่ปลอดภัย นายอาจจะไม่เชื่อสิ่งที่ฉันพูด... แต่ฉันขอให้นายเชื่อ...” สีหน้าของมาร์คในตอนนี้ทำยองแจเริ่มวางใจไม่ลงว่าตอนนี้ตัวเองกำลังมีความสุขแล้วจริงหรือเปล่า "เรากำลังจะเกิดสงคราม... สงครามระหว่างมนุษย์กับหมาป่า...”
“...”
“ฉันไม่อยากให้ใครสักคนในครอบครัวของฉันต้องจากไป และฉันก็ไม่อยากจากแบมแบมไปเหมือนกัน ดังนั้นฉันเลยจะชวนครอบครัวของนายหนีไปกับฉัน"
“...”
“ฉันสัญญาว่าจะดูแลทุกคนอย่างดี ขอให้เชื่อมั่นฉัน...” ทำไมยิ่งฟังยองแจยิ่งรู้สึกหดหู่ตาม และทำไมสิ่งแรกที่นึกถึงคือเจ้าหมาป่าขนสีทอง ทั้งที่จะได้กำจัดฝันร้ายแล้ว ทำไม... ทำไมต้องคิดถึงเขา
“ทำไมถึงเกิดสงคราม" ยองแจถามต่อ
“ฉันไม่รู้... มีคนเตือนฉันมาอย่างนั้น... และฉันก็ไม่อยากเสี่ยง ก็เลยจะหนีก่อน"
“คุณบอกว่ามีสงคราม... งั้น... หมาป่าทุกตัวก็ต้องตกอยู่ในอันตรายงั้นเหรอ"
“คงจะอย่างนั้น... มนุษย์ก็เช่นกัน" ทำไมยิ่งฟังถึงยิ่งปวดใจแบบนี้ ยองแจพยายามสลัดภาพคนใจร้ายออกจากหัว แต่ทำไมภาพของเขาถึงถูกฉายซ้ำ ๆ ทำไมกัน ทำไมกัน...
“พี่ดูลังเล... มีอะไรที่ห่วงอยู่หรือเปล่า" โจอี้ถามขึ้นสะกิดความรู้สึกของยองแจ แววตาไหววูบไปทันที นั่นสิ... มีอะไรที่ต้องห่วง ทั้งที่น้องก็อยู่ด้วยแล้ว และต่อไปก็จะได้ไปพบกับแม่ ทั้งที่ทุกอย่างมันคลี่คลาย ทำไมยังกังวล
หรือเป็นเพราะ...
“มาร์ค...” ยองแจคิดว่าตัวเองกำลังถูกบางอย่างควบคุม จนไม่ใช่ตัวเองแล้ว แล้วอะไรกันที่ควบคุมเขาจนไม่เป็นตัวของตัวเองแบบนี้
หรือว่าจะเป็น... ความรัก...
"ผมฝากดูแลครอบครัวของผมดี ๆ นะ... พาเขาไปในที่ปลอดภัยในได้นะ"
ทั้งโจอี้และมาร์คต้องมองยองแจด้วยความตกตะลึง แต่เพียงแค่จ้องดวงตาคู่นั้นของยองแจ ก็เหมือนได้คำตอบหมดทุกอย่าง ทั้งเจ็บปวดและโหยหามันฉายอยู่ในนัยต์ตาคู่นั้น มาร์คเข้าใจแล้ว... เข้าใจทุกอย่าง...
“ถ้าทุกคนถามถึงผม... บอกว่าหาตัวผมไม่พบ... ไม่ก็บอกว่าผมตายไปแล้ว"
“...”
“ขอบคุณนะ... ขอบคุณที่รักครอบครัวของผม" คำพูดของยองแจทำให้คนฟังอย่างมาร์คและโจอี้น้ำตาซึมตาม ๆ กันไป มันเป็นคำบอกลาที่เศร้าที่สุดเท่าที่เขาได้ยินมา ถึงแม้ว่าเขาไม่ได้รู้จักกับยองแจเป็นการส่วนตัว ไม่ได้ผูกพันธ์ แต่ความรู้สึกที่ยองแจส่งมานั้นมันทำให้เขาทั้งสองรู้สึกเศร้าใจไม่ต่างกัน
“ผมฝากด้วยนะ" น้ำตาของยองแจไหลรินอาบแก้มหนักกว่าเก่า ริมฝีปากหยักที่สั่นอยู่เลื่อนไปฝากสัมผัสนุ่ม ๆ ที่บนหน้าผากมนของน้องชาย ก่อนจะถอนใบหน้าออกและจ้องมองหน้าน้องชายสุดที่รักพร้อมกับหยาดน้ำตาที่ร่วงพรู
ยองแจลุกขึ้นยืน เขาจ้องแบมแบมอยู่สักพัก หลังจากนั้นก็เดินกลับเข้าไปในป่า เดินเข้าไปในเส้นทางที่แจ็คสันเดินจากไป มาร์คลุกขึ้นยืนพร้อมกับโอบกอดแบมแบมไว้แน่น เขาจ้องมองยองแจที่เดินจากเขาไปช้า ๆ ด้วยความหดหู่ใจเล็ก ๆ เขารู้ว่ายองแจคงสับสนกับความรู้สึกของตัวเอง แต่ถ้าเป็นการตัดสินใจที่ดีแล้ว เขาก็จะห้าม และเขาก็ขออวยพรขอให้ยองแจได้มีความสุข แม้ว่าเส้นทางที่ยองแจเลือกนั้นจะเป็นทางที่ร้อนระอุ แต่ถ้ายองแจเลือกแล้ว งั้นยองแจก็ต้องรู้ว่ามันมีบ่อน้ำที่ช่วยดับไฟที่ร้อนระอุพวกนี้ได้
สุดสายตาของเขาที่มองตามยองแจไป เขาพบร่างหมาป่าขนสีทองอยู่ตรงสุดปลายทาง เขาเห็นแล้วล่ะว่าแจ็คสันอยู่ตรงนั้น และเขาก็รู้ว่าแจ็คสันได้ยินเรื่องที่เขาบอกกับยองแจ...
มาร์คหวังว่านี่จะเป็นการช่วยเหลือสิ่งสุดท้ายของเขา หวังว่ามันจะช่วยลบล้างบาปที่เขาเคยสร้างไว้ และเขาก็หวังว่าแจ็คสันจะพายองแจหนีไปออกจากภูเขาไฟที่กำลังจะปะทุ ขอให้เขาหนีก่อนที่มันจะระเบิดออกมา
เช่นเดียวกันกับเขา... เขาก็จะต้องหนีก่อนที่มันจะระเบิด
“พ่อกับแม่อยู่ภูเขาทางเหนือแล้วใช่ไหม" มาร์คหันไปถามน้องชาย ฝ่ายนั้นพยักหน้าถี่แทนคำตอบ "ดูแลแบมแบมไว้ให้ดีดี แล้วฉันจะกลับมารีบกลับมา"
มาร์คช้อนร่างแบมแบมไปให้โจอี้ ฝ่ายนั่นได้แต่รับแบมแบมมาไว้ในอ้อมอกพร้อมพยักหน้าเบา ๆ เขารู้ว่ามาร์คกำลังจะทำอะไรต่อ... มาร์คกำลังจะกลับไปที่อาณาอากาเซ่เพื่อไปช่วยพ่อแม่ของแบมแบมให้มาด้วยกัน
Howl~
มาร์คหอนเรียกฝูงของตัวเอง หลังจากนั้นเขาก็รีบวิ่งไปตามทางอย่างเต็มกำลัง เขาวิ่งนำไปข้างหน้าอย่างมุ่งมั่น และไม่นานก็มีหมาป่าหนุ่มหลายตัววิ่งไล่ตามหลังเขา มาร์คหันไปมองพร้อมกระตุกยิ้มนิด ๆ ไม่มีอะไรมาขัดขวางเขาได้อีกแล้ว แม้ในตอนนี้กายของเขาจะได้รับบาดแผลจากเหตุการณ์เมื่อกี้ แต่เขาก็ไม่ยอมให้มันมาขวางโชคชะตาเขาหรอก
ในวันนี้แหละ... เขาจะได้เปลี่ยนโชคชะตาตัวเองเสียที
11/06/60
หง่ออออออออออ ยองแจ เกลียดเขามากขนาดนั้น แต่พอรู้ว่าเขาตกอยู่ในอันตรายก็ยังกลับไปหาเขา วันเวลามันช่วยเปลี่ยนใจคนจริง ๆ ขนาดมาร์คกับแบมแบมอยู่ด้วยกันยังเปลี่ยนเลย แล้วยองแจ กับแจ็คสันจะไม่เปลี่ยนเหรอ เราเคยอ่านในมุมที่แจ็คสันใจร้ายกับยองแจ แต่มันก็ต้องมีมุมที่ดีดีบ้างสิ
ตอนนี้มาร์คเริ่มแผนแล้ว สู้เขานะมาร์ค หนีโชคชะตาให้ได้ มาลุ้นกันว่าจะมีอะไรเกิดขึ้นอีกหรือเปล่า แล้วแบมแบมล่ะ จะเป็นยังไง มาติดตามกันน๊าา จุ๊บๆๆ
ขอกำลังใจหน่อยนะค้าฟฟ มาคอมเม้นต์กัน ๆๆ ไรท์อยากอ่าน อิอิ
มาติดแท็กกันเถอะน๊าาา #คุณหมาป่ามบ
ถ้ามีคำผิดขออภัยนะค้าฟฟฟ อ่านไปรอบเดียว เดี๋ยวต้องไปทำงานต่อแว้ว 55555 รักนะงับ
07/06/60
ไรท์กำลังจะไปเรียน แต่อยากแต่งเลยอัปเพิ่มนิสสสหนึ่งและต้องรีบไปเรียนต่อ ฮี่ฮี่
สรุปคนคนนั้นก็คือยองแจนี่เอง บุคคลในผ้าคลุมสีดำ หลายคนเดาว่าเป็นเจบี ฮึฮึ เรื่องนี้มันซับซ้อนซ่อนเงื่อนเยอะมว๊ากกก มาลุ้นกันต่อเถอะ เนอะ
ขอกำลังใจด้วยนะค้าฟฟฟ
ติดแท็กกันเถอะ #คุณหมาป่ามบ จุ๊บ
เดี๋ยวมาต่อหน้าา อาจจะมีคำผิด หรือประโยคแปลก ๆ เดี๋ยวมาแก้น๊า อ่านไปรอบเดียวต้องรีบไปเรียนต่อ อิอิ
อ้อ! สำหรับรีดที่จะไปคอนกัซ รอบกทม ทั้งเสาร์และอาทิตย์ ไรท์ไปแจกโปสการ์ดเรื่องคุณหมาป่าที่นั่นน๊าา แต่มีจำนวนจำกัดมากกกกกก ใครสนใจมาร่วมกรอกฟอร์มกัน ไรท์จะได้ทราบยอดคร่าว ๆ ว่าควรทำไปปริมาณเท่าไร แต่กรอกแล้วไม่ใช่ว่าได้เลยน๊าา ต้องไปรับให้ทันด้วยน๊าของมีจำกัดค้าฟฟ
https://goo.gl/forms/ufN4i7gPNdf8AArv1
31/05/60
อันดับแรก ขอโทษรีดทุกคนนน ฮือออ ที่หายไปนาน ไรท์ยุ่งมาก เลยไม่ได้อัปสักที
แต่ในตอนนี้กลับมาอัปแล้ว ไม่ทิ้งแน่นอน รักน้องแบมขนาดนี้ อิอิ
คุณหมาป่านี่โดนน้องแบมจ้องจะทำร้ายอยู่เรื่อยเลยนะคะ 555555
เอาแล้ว ใครคือคนในชุดผ้าคลุมสีดำ
มาลุ้นกันต่อ ขอกำลังใจด้วยนะค้าาา เม้นกันเถอะ เม้นสักนิดสักหน่อยก็ยังดี คิคิ
ติดแท็กกันด้วยเถอะนะ #คุณหมาป่ามบ
นิยายที่ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ

ยองแจกลับไปหาพี่แจ็คละ
มาร์คคะรีบเลยย