คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #45 : ตำนานในตำนานกรีก-โรมัน :: ซูสชิงบัลลังก์
หลังจากโครนัสได้อำนาจจากยูเรนัสเสร็จสรรพแล้ว โครนัสก็ครองอำนาจอย่างเป็นสุข ไม่มีใครขัดแข้งขัดขาให้รำคาญใจ
ไม่นาน.....
พระนางรีอา มเหสียอดยาหยีก็ประสูติโอรสให้กับพระองค์ แต่แทนที่โครนัสจะดีใจ เขากลับร้อนใจเหลือคณา เพราะคำสาปแช่งของพระบิดาพลันผุดขึ้นในสมอง
โครนัสจึงรีบอุ้มลูกแล้วกลืนกินทันที
ตัดไฟเสียแต่ต้นลม
แต่เพิ่งตัดไฟไม่ทันไร พระนางรีอาก็ประสูติบุตรขึ้นมาอีกรอบ โครนัสก็กลืนกินเสีย หลังจากนั้นไม่ว่านางรีอาจะอุตส่าห์ขยันปั่นลูกมามากเพียงไรก็ไม่วายถูกโครนัสจับกลืนกินแทนอาหารเย็นไปเสียหมด
จนในที่สุด รีอา ก็มีความรู้สึกแบบเดียวกับกาอียา คือ ทนการกระทำของสามีไม่ไหว นางจึงซ่อนโอรสคนสุดท้องแล้วก้อนหินยัดใส่ห่อผ้าส่งให้โครนัสกระเดือกลงท้องแทน
และโครนัสไม่ทันเฉลียวใจ กลืนกินก้อนหินเข้าไป แล้วนั่งสบายใจว่าตนตัดไฟไปเรียบร้อยแล้ว
นางรีอาจึงนำโอรสไปฝากให้นางอัปสรนีเรียด ธิดาของนีรูส ซึ่งธิดาของนีรูดเป็นอัปสรแห่งท้องทะเล และมีทั้งหมด 50 นาง!!
ซึ่ง ซีอุส จึงรอดจากกันกลืนกินจากโครนัสผู้เป็นบิดาอย่างหวุดหวิด
เหล่านางอัปสรนีเรียด ได้พาซีอุสไปเลี้ยงดูในถ้ำ บนยอดเขา ไอดา โดยให้นาง มีลิสสา ( เล่ากันว่านางเป็น คนๆแรกที่รู้จักเก็บน้ำผึ้งจากรวง ) สองธิดาของท้าว มีลิสซัส กษัตริย์แห่งเกาะครีต คอยเลี้ยงดูพระกุมารด้วยน้ำนมแพะ
และเพื่อป้องกันไม่ให้เสียงร้องให้โยเยดังไปถึงหูโครนัสให้พ่อคุณลงมาจับลูกกินล้างท้อง พวกคิวรีทิส ( เป็นชนเผ่าที่มีความรู้ในวิทยาการต่างๆอย่างกว้างขวาง ชาวกรีกโบราณได้รับความรู้จากชนเผ่านี้ จึงยกย่องนับถือให้ชนเผ่าคิวรีทิส เป็นนักบวชแห่งพระนางรีอา ) สาวกแห่งพระนางรีอา คิดท่าเต้นรำขึ้นมา ที่ประกอบด้วยเสียงร้องเซ็งแซ่และเสียงร้องประสานของอาวุธอึกทึก เพื่อกลบเสียงร้องไห้ของซีอุส
และเมื่อเวลาผันผ่านไป ซีอุสก็เติบโตเป็นผู้ใหญ่ แข็งแรงสมชายชาตรี และฉลาดปราดเปรื่อง
ทันทีที่ถึงเวลานั้นวัฏจักรก็หันหวนคืนตามคำสาปแช่ง
ซีอุสบุกเข้าจู่โจมพระบิดาเพื่อยึดอำนาจ สองพ่อลูกประจันบานกันเต็มที่ สุดท้ายโครนัสก็พ่ายแพ้ไปตามระเบียบ ถูกจับตัวใว้อย่างหมดท่า
ซีอุสจึงปรึกษาพระนางรีอาพระมารดา จึงตกลงกันได้ว่าให้ช่วยเหลือเหล่าพี่ๆโดยการให้โครนัสดื่มน้ำสำรอกที่ มีทิส ธิดาของโอเชียนัสปรุงขึ้น
โครนัสจึงสำรอกเอาลูกๆออกมา ( นี่แหละน๊า.....กินแล้วไม่ยอมเคี้ยว ) 5 พระองค์คือ
1. โปไซดอน / เนปจูน
2. ฮาเดส / พลูโต
3. เฮสเทีย / เวสตา
4. ดิมิเตอร์ / ซีริส
5. ฮีรา / จูโน
และก้อนหินที่เข้าใจผิดว่าเป็นซีอุสด้วย ( จนลูกเล็กจนโตก้อนหินก็ไม่ย่อยครับ กระเพาะเทพนี่ประหลาดดีแท้ แต่ถึงเป็นกระเพาะคนนี่ก็ไม่ย่อยอยู่ดีใช่มั้ย ) ซึ่งปัจจุบัน เก็บไปรักษาบูชาอยู่ที่ วิหารเดลฟี วิหารของอพอลโล อยู่ที่เมื่องเดลฟี ในหุบเขาด้านตะวันตกเฉียงใต้ของทิวเขาพาร์นาซัส ( เชื่อดีมั้ย ? ) ซึ่งเป็นบริเวณที่ชาวกรีกโบราณถือว่าเป็นศูย์กลางของโลก
เทพทั้งห้าที่สำรอกออกมานั้นนอกจากยังไม่ตายแล้ว ยังเติบโตเป็นผู้ใหญ่อีกด้วย
ก็เลยเป็นว่า ซีอุสยึดอำนาจจากพระบิดาและช่วยเหลือพี่ๆได้สำเร็จ พระองค์ก็ตั้งตนเองเป็นใหญ่อยู่บนเทือกเขาโอลิมปัส และเลือก ฮีรา พี่สาวคนเล็ดสุดและงามที่สุดเป็นราชินี แต่.....
หนทางในการครองโอลิมปัสไม่เรียบง่ายเหมือย โครนัส เพราะไอ้ตอนรุ่นโครนัสชิงอำนาจจากยูเรนัส เผอิญยูเรนัสไม่มีพวก แต่ตอนซีอุสจะยึดอำนาจจากโครนัส เผอิญโครนัสพวกตรึมน่ะขอรับ
เอาล่ะสิครับ ซีอุสเองก็ปกครองอำนาจอยู่ดีๆใครจะไปรู้ว่าคณะเทพไตตันพี่น้องของโครนัสจะขึ้นมาปราบหลานแก้แค้นแทนน้องชาย ( แต่คณะเทพไตตันที่ว่าน่ะเหลืออยู่ 7 องค์ครับ นอกนั้น [ อย่าลืมลบโครนัสไปอีกหนึ่ง ]เปลี่ยนฝ่ายไปภักดีต่อซีอุส แล้ว คือ เนโมซินี ธีมิส โอเชียนัส และ ไฮเพอเรียน ) จึงเกิดการต่อสู้ระหว่าง หลาน กับลุงๆป้าๆ
หลังจากต่อสู้กันอยู่นานซีอุสก็เล็งเห็นว่าฝ่ายตรงข้ามมีมากกว่าแถมแต่ละองค์ก็ทรงพลังแถมร่างกายบิ๊กๆกันทั้งนั้น จึงลงไปสร้างพันธมิตรกับพวกไซคลอปส์ที่ยังอยู่ในคุกทาร์ทะรัส ( คนอื่นเขาไปไหนถึงไหนแล้ว )
โดยให้สัญญาว่า
ถ้าสร้างอาวุธสายฟ้า ( อสุนีบาต ) ให้จะปล่อยให้เป็นอิสระ
เมื่อได้รับข้อเสนอเช่นนั้น พวกไซครอปส์ก็สร้างอาวุธสายฟ้าให้สุดกำลัง
ซีอุสจึงได้อาวุธคู่มือที่มีอานุภาพร้ายแรง
ทันทีออกไปรบกันอีกครั้ง เหล่าเทพไตตันก็พ่ายแพ้และถูกจับขังไว้ในคุกทาร์ทะรัสอีกครั้ง
ส่วนโครนัสนั้น หนีไปปักฐานต่างแดนที่แคว้น เฮสเพอเรีย ครองความเป็นใหญ่ที่นั่นอย่างสงบสุขตลอดไป
ฝ่ายไซคลอปส์ก็ได้รับการปลดปล่อยตามสัญญา แต่ก็ดันไปแข็งข้อต่อซีอุสจึงเจออาวุธที่ตัวเองสร้างมาฟาดใส่ ( น่าสงสาร ) ถูกจองจำอยู่ในคุกทาร์ทะรัสเหมือนเดิม
แต่หลังจากนั้นไม่นาน!!
แม่ผู้แสนดี กาอียาก็เกิดความแค้นแทนเหล่าลูกๆ จึงเนรมิต ไทฟอน มังกร 100 หัว มีเปรวไฟฟวยพุ่งทางดวงตา แผดเสียงกึกก้องกัมนาทออกทางปากและจมูกตลอดเวลา ออกอาระวาด
คราวนี้ล่ะครับเทพบนเขาโอลิมปัสเป็นอันต้องเตลิด เผ่นไปซ่อนตัวที่อียิปต์ มิหนำซ้ำยังแปลงกายเป็นสัตว์ต่างๆ เช่น โค แกะ เพื่อไม่ให้อสูรจำได้
แต่หลังจากหลบลี้ได้ไม่นาน ซีอุสก็เกิดความละอายจึงกลับไปต่อสู้กับไทฟอน อย่างดุเดือดเลือดพร่าน และสังหารอสูรร้ายได้ในที่สุด
ทว่านางกาอียายังไม่คลายจากความแค้น จึงเนรมิตยักษ์ร้ายชื่อว่า เอนเซลาดัส ( อ๊า.....อันนี้เราเคยอ่านเจอในการ์ตูนนี่หว่า ) ส่งมาล้างแค้นแทนไทฟอน แต่ในที่สุดเอนเซลาดัส ก็ถูกจับล่ามโซ่ขึงพึดอยู่ใต้ภูเขาเอตนา
แต่เอนเซลาดัสไม่ยอมง่ายๆ ดิ้นรนสุดชีวิตพลางคำรามเสียงกึกก้อง บางครั้งก็พ่นไฟหมายจะทำร้ายซีอุส แต่วันเวลาผ่านไปเอนเซลาดัสชักเหนื่อย ( สังขารอยู่เหนือทุกสิ่ง จำไว้ครับท่าน ) และนี่ก็เป็นนิทานที่ไว้บอกเหตุเวลาที่เด็กถามว่า " ทำไมถึงมีแผ่นดินไหว แล้วก็มีภูเขาไฟที่เขาเอตนา ที่เกาะซิสิลี "
หลังจากปราบเอนเซลาดัสได้ กาอียาก็ชักขี้เกียจ ปล่อยไปเลยตามเลย
สวรรค์จึงกลับมาสงบสุข
และเพื่อความมั่นคง ซีอุสก็จัดแจงแบ่งสันปันแต่งที่ดินและตำแหน่งให้พี่ๆ
โดย
โปไซดอน ปกครองทะเลเมดิเตอร์เรเนียน และแม่น้ำทั้งปวง
ฮาเดส ปกครอง บาดาล หรือ ยมโลก ทรัพย์สินใต้ดินและคุกทาร์ทะรัส
เฮสเทีย เป็นเทวีแห่งไฟ และความผาสุขในเคหสถาน
ดิมิเตอร์ เป็นเทวีแห่งธัญญาหาร
ฮีรา เป็นเทวีผู้คุ้มครองการวิวาห์
ความคิดเห็น