ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    เจ้าชายหิมะ

    ลำดับตอนที่ #9 : ขุนโจรแห่งป่าเคนาฟ กับแผนที่ลึกลับ

    • เนื้อหาตอนนี้เปิดให้อ่าน
    • 108
      0
      12 มี.ค. 63

    หญิงสาวมองมือข้างขวาถูกทิ้งอยู่ข้างลำตัวด้วยความห่อเหี่ยวหัวใจเหลือเกิน  นิ้วทั้งสี่เรียงชิดติดกันดูผิดปกติ  พยายามสั่งนิ้วมือให้ขยับอีกครั้ง  แต่ไม่เป็นผล  พยายามสั่งแขนข้างนั้นให้เคลื่อนไหว  ยกขึ้นมาครั้งแล้วครั้งเล่า  แต่มันกลับไม่ยอมรับคำสั่งใด ๆ แขนข้างขวาของเธอไม่สามารถบังคับได้ตั้งแต่ตื่นลืมตาขึ้นมามองยามเช้าของวันนี้  เธอเผลอนอนทับแขนขวามาตลอดคืน  บังเอิญทับโดนหลอดเลือดเส้นสำคัญยังผลให้เลือดไม่ไปเลี้ยงแขนข้างนั้น  และใช้การไม่ได้   ไม่มีกำลังและเรี่ยวแรงจะจับ  หรือหยิบยกอะไรทั้งนั้น  แคร์เซียนั่งใจเสีย  สีหน้าเต็มไปด้วยความกลัดกลุ้มกังวลใจ  ไม่น่าเชื่อเลยว่า  แค่การนอนทับแขนเท่านั้น  จะทำให้เกิดผลร้ายตามมาได้ถึงเพียงนี้เชียวหรือ?   แล้วเธอต้องกลายเป็นคนพิการไปแล้วหรือนี่?

     

    หญิงสาวรีบลุกขึ้นเดินไปที่หน้าต่างเมื่อได้ยินเสียงฝีเท้าม้าควบดังใกล้เข้ามา

     

    เสียงฝีเท้าของม้าคู่ใจชะลอความเร็ว  แล้วหยุดลงในที่สุด  หนุ่มใหญ่กระโดดลงอย่างคล่องแคล่ว  เขามองมายังบ้านพักตรงหน้า  อดใจหายไม่ได้  เมื่อกลับมาไม่เจอภรรยาสุดที่รักเหมือนอย่างเคย  แม้ว่าเธอจะตายจากเขาไปกว่าสิบปีแล้ว  เขาเองก็ยังไม่อาจทำใจได้เลย  ไม่ว่าเธอจะจากไปกี่ปีก็ตาม  แต่ความรักของเขาที่มีให้เธอไม่เคยลดลงแม้แต่น้อย

     

    ร่างสูงใหญ่ก้าวพ้นประตูเข้ามาในบ้าน  วัยเลยสี่สิบปีตอนปลายของขุนโจรวาร์เดอร์  ไม่ได้ทำให้เขาดูมีอายุอย่างที่ควรจะเป็นได้เลย  ทั้งยังดูหนุ่มมาก  แข็งแรงราวกับคนหนุ่มวัยสามสิบกว่าเท่านั้น  บุคลิกท่าทางสง่าผ่าเผยสมชายชาตรีอย่างนักรบ

     

    สาวใช้ยืนต้อนรับเจ้าของบ้านอย่างนอบน้อม  ทุกการก้าวเดินของเขาอยู่ในสายตาของเธอ  แวบหนึ่งที่เธอสบตากับเขา  แววตาคู่นั้นของหญิงสาวเป็นประกายแจ่มใส  เปี่ยมล้มด้วยความยินดี  ชื่นชม  และมีความสุขเหลือเกิน เพียงแค่การได้มองเห็นเขาเพียงเท่านี้   บ่งบอกถึงความรู้สึกบางอย่างที่ไม่อาจเก็บซ่อนเอาไว้ภายใน

     

    แคร์เซีย  ซีนิธยังไม่กลับมาอีกหรือ”  เสียงนายหัวหน้าโจรใหญ่เอ่ยถามถึงบุตรชาย

     

    ยังค่ะ นายท่าน

     

    หนุ่มใหญ่ถอนหายใจออกอย่างหนักหน่วง  บุตรชายของเขายังคงโกรธเขาอยู่  จึงหลบหน้าไม่ยอมพบหน้าเขามานานเป็นเดือนแล้ว

     

    สาวใช้ส่งแก้วน้ำผลไม้สีชมพูให้หนุ่มใหญ่ด้วยมือซ้าย

     

     “ขอบใจแคร์เซีย”   เขาส่งเสื้อคลุมให้เธอหลังจากรับแก้วน้ำผลไม้มาแล้ว  แวบหนึ่งรู้สึกแปลกใจ  ที่เธอไม่ส่งแก้วน้ำให้เขาด้วยมือขวาข้างที่เธอถนัดอย่างเคย  แปลกใจมากขึ้นเมื่อเธอรับเสื้อคลุมของเขาไปแขวนไว้ที่ข้างฝาด้วยมือซ้าย  ไม่ยอมใช้มือขวาเลย

     

    แคร์เซีย  เจ้าไม่สบายหรือ?”  เขาตัดสินใจถามออกไป  แม้จะรู้สึกไม่อยากถามไถ่เธอนัก  เพราะเกรงว่าจะทำให้เธอเข้าใจผิด  เกิดความหวังในตัวเขา  คิดเข้าข้างตนเองว่าเขามีใจให้กับเธอได้   แต่ทว่าอดถามไถ่ไม่ได้ในฐานะที่อยู่ด้วยกันมานาน  เขารู้สึกเหมือนเธอเป็นญาติคนหนึ่งในครอบครัวที่เขาควรใส่ใจดูแลเช่นกัน

     

    ปะเปล่าค่ะ”  สีหน้าของเธอซีดลงอย่างเห็นได้ชัด  เธอไม่อยากบอกความจริง  ที่สำคัญไม่อยากทำให้เขาไม่สบายใจเพราะเธอ  ด้วยช่วงนี้บุรุษตรงหน้ามีหน้าที่ความรับผิดชอบมากมายอยู่แล้ว  คิดว่าความผิดปกติที่เกิดขึ้นกับเธอ  เธอจะดูแลตัวเองได้  แม้ว่าลึก จะรู้สึกวิตกกังวลอยู่ไม่น้อย

     

    เจ้าช่วยหยิบแจกันตรงมุมห้องมาให้ข้าหน่อย” 

     

    แคร์เซียหันไปมองแจกันตรงมุมห้อง  ช่อดอกไม้สีเหลืองสดใสในแจกันแห้งเหี่ยวจนกลายเป็นสีน้ำตาลไปหมดแล้ว เป็นดอกไม้ช่อสุดท้ายของภรรยาสุดที่รักของเขาได้จัดประดับไว้เป็นครั้งสุดท้าย  ไม่ว่ามันจะแห้งเหี่ยวขนาดไหน  แต่เขาก็ยังอยากเก็บมันไว้  เพื่อระลึกถึงเธอ

     

    ข้า….”

     

    แคร์เซียยืนก้มหน้านิ่ง  ไม่ได้เดินไปหยิบตามคำสั่งของเจ้าของบ้าน  เพราะเป็นแจกันขนาดใหญ่พอสมควร  ซึ่งต้องใช้ทั้งสองมือประคองในการยกมา

     

    แขนขวาของเจ้า  เป็นอะไร

     

    การได้รับการถามไถ่  เป็นความห่วงใยจากเขาบวกกับความกลัวและความกังวลใจทำให้น้ำตาอุ่นรื้นขึ้นมาคลอดวงตาของเธอไว้

     

    มันขยับไม่ได้…”  น้ำใส  ร่วงผล็อยลงมาอาบแก้มนวลนั้น

     

    มันเป็นอะไรบอกข้าสิ แคร์เซียข้าจะช่วยเจ้า”  หัวหน้าโจรขยับตัวเข้าไปใกล้

     

    สาวใช้มองหน้าบุรุษตรงหน้า  คนที่เธอแอบรักมานาน  เป็นห่วงเธอด้วยหรือเธอไม่อยากจะเชื่อเลย  ที่ผ่านมาเขาพยายามทำเฉยชากับเธอมาตลอด

     

    ข้ากลัวเหลือเกิน….”  สาวใช้โผเข้ากอดร่างของหนุ่มใหญ่อย่างขวัญเสีย  ร้องไห้โฮอย่างสะอึกสะอื้นจนตัวสั่นเทาไปหมด

    กลัวว่ามันจะขยับไม่ได้ตลอดไป”  เธอซบหน้าลงกับอกอุ่นของขุนโจรใหญ่

     

    วาร์เดอร์อึกอักอยู่ครู่หนึ่ง  ก่อนตัดสินใจโน้มตัวลงโอบกอดร่างบางในอ้อมแขนเอาไว้  ยกมือตบหลังเธอเบา อย่างให้กำลังใจ  ด้วยความสงสารเธอเหลือเกิน  ที่จริงเธอควรเป็นคุณหนูน้อยผู้น่าทะนุถนอมอยู่ในตระกูลของเศรษฐี  ไม่น่าจะต้องมาลำบากใช้ชีวิตอยู่ในค่ายโจรเช่นนี้เลย หลังจากพ่อแม่ถูกฆ่าตายหมดเมื่อถูกปล้นชิงทรัพย์สินเงินทอง  แคร์เซียจึงไม่เหลือใครอีกแล้ว  นอกจากนั้นเธอยังเป็นคนคอยดูแลบ้านและลูกชายให้เขาเป็นอย่างดีมาตลอด   หากเขาจะทำเป็นไม่ใยดีเธออีก  มันคงจะใจดำ  และไร้น้ำใจกับเธอจนเกินไป….

     

    แล้วนึกถึงโมเลนภรรยาสุดที่รักของเขา  มีชีวิตที่ไม่แตกต่างจากแคร์เซียเลยเช่นกัน  คิดถึงครั้งใดให้รู้สึกสะท้อนใจ  และรู้สึกผิดมหันต์ที่มีส่วนทำให้หลายครอบครัวต้องบ้านแตกสาแหรกขาดเช่นนี้

     

    แคร์เซียกอดร่างหัวหน้าโจรเอาไว้แน่น  รู้สึกอบอุ่นและปลอดภัยที่ได้อยู่ใกล้เขา  หากไม่มีผู้ชายคนนี้  เธอต้องถูกขืนใจตกเป็นเมียของสมุนโจรถ่อยคนนั้นไปแล้ว  ดีที่เขายื่นมือเข้ามาช่วยเอาไว้   จึงรู้สึกประทับใจบุรุษผู้นี้ตั้งแต่นั้นมา   หากเป็นไปได้อยากจะขอหยุดเวลาไว้ตรงนี้  เพื่อเก็บช่วงเวลานี้ไว้ให้นานที่สุด  อยากอยู่ในอ้อมกอดอันแสนอบอุ่นของเขาอย่างนี้ตลอดไป    แต่รู้ดีว่ามันไม่มีทางเป็นไปได้   เพราะเขาไม่เคยลืมภรรยาสุดที่รักของเขาได้เลย  แม้ว่าเวลาจะผ่านมานานเท่าใด  แม้เธอคนนั้นจะไม่มีชีวิตอยู่บนโลกนี้แล้วก็ตาม

     

    เจ้าใจเย็น เจ้าไม่เป็นอะไรหรอก  บอกข้าสิ มันเกิดอะไรขึ้นกับเจ้า“  วาร์เดอร์รู้สึกลำบากใจไม่น้อยที่ต้องรักษาน้ำใจของหญิงสาวในอ้อมแขน  ต้องระวังไม่ให้เธอเข้าใจผิดคิดว่าเขามีใจให้เธออีกด้วย  เมื่อเห็นร่างสั่นเทาเมื่อครู่สงบนิ่งลงแล้ว  จึงพยายามขยับตัวหญิงสาวออกจากอ้อมอก

     

    แคร์เซีย…”  เสียงเรียบของหนุ่มใหญ่ราวกับปรามเธออยู่ในที  เมื่อหญิงสาวยังซบหน้านิ่งงันแนบกับแผ่นอกกว้างของเขา

     

    เสียงของหัวหน้าโจรใหญ่ทำให้หญิงสาวต้องขยับตัวถอยออกมาให้ห่างจากกายของบุรุษหนุ่มอย่างเสียไม่ได้  มองหน้าเขาด้วยแววตาซ่อนความน้อยเนื้อต่ำใจอยู่ข้างใน

     

     “ข้าตื่นมา  แขนข้างขวาก็ใช้ไม่ได้แล้ว  มันไม่มีความรู้สึกเลย   เมื่อคืนข้าเผลอหลับไป  แล้วนอนทับแขนขวาทั้งคืน

     

    ให้ข้าดูแขนของเจ้าหน่อยนะ”  ขุนโจรใหญ่เอื้อมมือจับแขนขวาของหญิงสาวขึ้นมา  ขยับขึ้นขยับลงไปมา

     

    เจ็บไหม…”

     

    ไม่ค่ะ  มันไม่มีความรู้สึกอะไรเลย

     

    มือหนา ของเขาเลื่อนกดจุดต่าง บริเวณข้อมือของเธอทีละจุดอย่างชำนาญ

     

    โอ๊ย…!!”  มือของเธอกระตุกเล็กน้อย  และรู้สึกเจ็บแปล๊บขึ้นมาทันที

     

    ยังรู้สึกเจ็บอยู่  ไม่เป็นไรมากหรอก  ต้องพยายามใช้มือนี้  อย่าทิ้งเอาไว้เฉย   เจ้าต้องหมั่นนวดด้วยน้ำมันบ่อย   มันจะดีขึ้น  จะเป็นเรื่องใหญ่นะ  ถ้าเจ้ารักษาไม่ถูกวิธี  มันจะขยับไม่ได้ตลอดชีวิตเลย  รู้รึเปล่า…”  เขาดุเธอเล็กน้อยก่อนถอนมือกลับ  แต่ถูกหญิงสาวดึงไว้

     

    ข้าขอโทษ   ข้า…”

     

    แคร์เซียยังพูดไม่ทันจบ  หัวหน้าโจรหนุ่มใหญ่รีบชิงพูดตัดบทขึ้นมาอย่างรวดเร็ว

     

    ไม่เป็นไรหรอก   เจ้าพักผ่อนนะ  ข้าขอตัวก่อน”  วาร์เดอร์จับมือของเธอที่ยึดมือของเขาไว้ออก  ตบมือของเธอแผ่วเบา  แล้วลุกขึ้นเดินจากไป

     

    หญิงสาวได้แต่มองร่างหนุ่มใหญ่เดินหายลับเข้าไปในห้องด้านใน  ใจของเธอรู้สึกผิดเสมอ  อยากจะขอโทษเขากับบางเรื่องที่เธอทำผิดต่อขุนโจรใหญ่อย่างไม่น่าให้อภัยได้  เธอจะต้องหาโอกาสสารภาพผิดกับเขาให้ได้ซักวันหนึ่ง

     

    ============= 

     

    ลมพัดใบไม้สีเหลืองเล็ก   ปลิดปลิวร่วงพลูลงสู่พื้นดินราวกับม่านใบไม้  ยามใบไม้เสียดสีกันเมื่อต้องลม  เกิดเสียงเพลงใบไม้  ช่อดอกไม้สีเหลืองสดใสถูกวางลงบนแท่นหินอ่อนสลักชื่อ  แกลสเซอร์  โมเลน

     

    ข้ารู้ว่าเจ้าชอบดอกไม้นี้มากที่สุด  ข้าเก็บมาฝากเจ้านะ”  วาร์เดอร์จรดปลายนิ้วลงบนตัวอักษรแกะสลักของแท่นหินอ่อน  ซึ่งเป็นชื่อของภรรยาของเขาอย่างเชื่องช้าด้วยความคิดถึง

     

    ตราบใดที่ข้ายังมีลมหายใจ  ข้าจะยังรักเจ้าเสมอ  ไม่มีใครมาแทนเจ้าในใจข้าได้”  ขุนโจรใหญ่โน้มศีรษะลงจูบแท่นหินอ่อนนิ่งนานด้วยความรักที่มีต่อภรรยาผู้จากไปอย่างไม่มีวันหวนกลับมาได้อีกแล้ว

     

      “โมเลนข้าคิดถึงเจ้าเหลือเกิน…”

     

    ขุนโจรฝ่ายขวามักมาขลุกตัวอยู่เป็นเพื่อนเธอเสมอ  ทุกครั้งที่เหยียบย่างมาที่นี่  เขาจะรู้สึกสบายใจขึ้นมาอย่างประหลาด  ปัญหาทุกข์ร้อนใจที่หนักหนาสาหัส  ที่คิดอย่างไรก็คิดไม่ออก  จะคลี่คลายลง  และหาทางออกได้ทุกครั้งราวกับปาฏิหารย์  หากเขามีเวลาว่างมากพอ  วาร์เดอร์จะคิดถึงรอยยิ้มอันแสนหวานของภรรยา  จิตใจที่แสนดี  เรื่องราวความเป็นมาของเธอ   ทุกช่วงเวลาที่ได้อยู่ใกล้ชิดกันอย่างไม่รู้สึกเบื่อหน่ายเลย   และรู้สึกเหมือนมันเพิ่งเกิดขึ้นไม่นานมานี้เอง

     

    ขุนโจรวาร์เดอร์หยิบแผ่นหนังเล็ก ๆ ออกมาคลี่ดู ข้างในปรากฏรูปวาดเหมือนเส้นทางที่คล้ายกับแผนที่ มีวงกลมล้อมรอบคำว่า ซาเบอร์  ภารกิจลับที่หัวหน้ากบฏริกเกอร์สั่งให้เขาส่งสายลับไปสืบถึงการเคลื่อนไหวของทุกอาณาจักรที่กำลังออกตามหาผู้อ่านคาถา  และดาบทองสีรุ้ง  ก่อนหน้านี้เขาได้รับรายงานถึงการเคลื่อนไหวของอาณาจักรเดเวด้า ที่ส่งคนออกค้นหาผู้อ่านคาถาแล้ว  และตอนนี้สายรายงานว่า  ได้พบหมู่บ้านแห่งหนึ่งที่อยู่ชายแดนของอาณาจักรลาคาสต้าติดกับทิศตะวันออกอาณาจักรเรียว ชื่อหมู่บ้าน  ซาเบอร์  เป็นหมู่บ้านที่แปลกมาก  มีหุบเขาสูงล้อมรอบ ปกคลุมด้วยหมอกจัด มีการจัดเวรยามเฝ้าระวังอย่างแน่นหนาเป็นพิเศษ  และไม่อนุญาตให้ใครผ่านเข้าออกหมู่บ้านได้โดยไม่ได้รับอนุญาต แตกต่างจากหมู่บ้านอื่น ๆ โดยสิ้นเชิง 

     

     

    หัวหน้าโจรใหญ่หันไปมอง  เมื่อได้ยินเสียงฝีเท้าของใครบางคนหยุดอยู่ข้างหลัง รีบเก็บแผ่นหนังนั้นซ่อนไว้ในเสื้ออย่างเดิม

     

    ซีนิธ…”  ลูกชายคนเดียวของเขาปรากฏตัวอยู่ตรงหน้า  เค้าหน้าบางส่วนถอดแบบมารดาของเขามาไม่มีผิด

     

    หนุ่มหน้าคมวางดอกไม้สีเหลืองสดใสช่อใหญ่ในมือ  ลงบนแท่นหินอ่อนแกะสลักชื่อของมารดา  วันนี้เป็นวันครบรอบวันตายของผู้ให้กำเหนิดชีวิตของเขา

     

    เจ้ายังไม่หายโกรธพ่ออีกหรือ”  เขาเอ่ยถามบุตรชายที่ยังมีท่าทีเฉยชา  แล้วขยับตัวเข้าไปใกล้

     

    ซีนิธโค้งคำนับให้กับหลุมศพของมารดา  ก่อนหันมาตอบคำถามของบิดา

     

    ข้าไม่อยากเป็นโจรอีกต่อไปแล้วท่านพ่อทำไมเราไม่หนีไปจากที่นี่”  เขาเคยบอกพ่อมาหลายครั้งแล้ว  แต่ทว่าพ่อไม่เคยเห็นด้วยแม้แต่ครั้งเดียว  ทำให้เขาโกรธจนไม่อยากพูดกับพ่ออีกเลย

     

    หัวหน้าโจรฝ่ายขวาถอนหายใจหนัก  

    นั่นมันหมายถึงความตายรอเจ้าอยู่นะ  ข้าเคยบอกเจ้าแล้ว  ทำไมเจ้าถึงยังไม่เข้าใจ  กฎของค่ายริกเกอร์  ผู้ทรยศจะต้องถูกตามล่า  และตายสถานเดียว  ที่ผ่านมาไม่เคยมีใครหนีพ้นความตายไปได้    ที่สำคัญคนที่อยู่ในค่ายโจรทุกคน ทุกเจ็ดวัดต้องได้รับยาสกัดพิษ ไม่งั้นจะต้องทุรนทุรายอย่างทรมานและขาดใจตายในที่สุด  เจ้าก็เคยเห็นมานักต่อนักแล้วมิใช่หรือ ว่าคนที่ฝ่าฝืนคำสั่งของท่านริกเกอร์นั้นเป็นเช่นไร

     

    ข้าไม่กลัว!   ท่านพ่อขี้ขลาด!”  บุตรชายหัวหน้าโจรใหญ่เน้นคำหนักแน่น ไม่เคยคิดเลยว่าบิดาผู้เก่งกล้าสามารถจะขลาดกลัวได้ขนาดนี้ 

     

    ท่านพ่ออย่าได้กังวลเรื่องยาสกัดพิษเลย   ข้าได้ทดลองคิดสูตรยาต้านพิษได้สำเร็จแล้ว ข้าตั้งชื่อมันว่า ยาต้านพิษเจ็ดราตรี  พรุ่งนี้จะครบเจ็ดวันที่ท่านพ่อต้องไปรับยาสกัดพิษ  ท่านพ่อไปรับยามาตามปกติเอามาให้ข้า แต่ท่านไม่ต้องกิน แต่ลองกินยาสูตรของข้าแทน  เราจะได้รู้ผลกัน  ข้าหยุดกินยาสกัดพิษมาได้รอบหนึ่งแล้ว  ร่างกายเป็นปกติดี 

     

    เขามองบุตรชายคนเดียวอย่างห่วงใย  ไม่น่าเชื่อว่า ซีนิธเป็นเพียงหมอประจำค่ายริกเกอร์ธรรมดา  แม้ท่านริกเกอร์จะให้สิทธิพิเศษ  ไม่ต้องออกปล้นร่วมกับเหล่าโจรทั้งหลาย มีหน้าที่รักษาดูแลคนเจ็บป่วยในค่ายโจร  ไม่นึกว่าเขาจะกล้าคิดยาต้านพิษจนสำเร็จได้  ซึ่งมันหมายถึง การทรยศต่อหัวหน้ากบฏริกเกอร์ขั้นร้ายแรง

     

    พ่อเป็นห่วงเจ้านะ  สิ่งที่พ่อจะทำ  พ่อต้องมั่นใจ   หากมีความเสี่ยงมาก  พ่อจะไม่ทำ   หากความเสี่ยงนั้นหมายถึงชีวิตของเจ้า   ชีวิตของพ่อไม่เหลือใครอีกแล้ว   ที่พ่อห่วงก็คือเจ้านะ  ซีนิธ…”  หัวหน้าโจรใหญ่จับบ่าบุตรชายเอาไว้   ผู้สูงวัยกว่าด้วยอายุหยุดพูดไปครู่หนึ่ง  มองดูปฏิกิริยาของบุตรชายที่ดูอ่อนลง

     

    เจ้าก็รู้ว่า  ท่านริกเกอร์  มีบุญคุณกับพ่อมากมายแค่ไหน  ทั้งยังมีฝีมือที่มิอาจจะมีใครเอาชนะได้โดยง่าย  ทั้งยังมีพลังของปีศาจที่เหนือกว่าคนปกติธรรมดาคอยคุ้มครองอยู่” 

     

    ข้ารู้ท่านพ่อเป็นห่วงข้าที่สุด   ท่านต้องดูแลตัวเองบ้างนะ  อย่าทำงานจนหนักเกินไป

     

    ซีนิธจ้องมองบิดา  เขารับรู้เป็นอย่างดีว่าบุรุษตรงหน้าเป็นห่วงเขามากมายแค่ไหน  แต่อย่างไรก็ตาม  เขาได้ตัดสินใจแล้ว  และไม่มีวันเปลี่ยนความตั้งใจ

     

    บุรุษสูงวัยดึงบุตรชายเข้ามากอดไว้  “พ่อดีใจที่เจ้าเข้าใจ…”

     

    ซีนิธหลับตากอดบิดาไว้แน่น  ต่อไปนี้เขาอาจไม่มีโอกาสได้กอดพ่อเอาไว้อย่างนี้อีกแล้ว  นี่อาจเป็นครั้งสุดท้าย

     

    ท่านพ่อ  …ข้าขอโทษที่ทำให้ท่านไม่สบายใจ…”  หมอหนุ่มอยากจะกล่าวขอโทษกับผู้ให้ชีวิตเป็นครั้งสุดท้าย  ด้วยสิ่งที่เขากำลังจะทำนั้นอาจนำความเดือดร้อนมาให้ผู้เป็นพ่ออย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้

     

    ท่านพ่อเล่าเรื่องท่านแม่ให้ข้าฟังหน่อยได้ไหมว่าท่านพ่อกับท่านแม่เจอกันได้ยังไง  ข้าอยากรู้และอยากจะจดจำเอาไว้”  ซีนิธอยากจะเก็บเกี่ยวความทรงจำเกี่ยวมารดาไว้เป็นครั้งสุดท้าย  หากจะต้องจากไปแสนไกล

     

    ได้สิ  พ่อจะเล่าให้ฟัง”  หนุ่มใหญ่ยิ้มอย่างมีความสุข  ดึงซีนิธนั่งลงข้างหลุมศพของมารดา  แล้วเริ่มเล่าเรื่องราวให้บุตรชายฟัง

     

    วันนั้นเมื่อ ยี่สิบห้าปีก่อน

     

    หัวหน้ากบฎริเกอร์นำสมุนโจรบุกปล้นคฤหาสถ์เศรษฐี   ครอบครัวของโมเลนถูกปล้นและฆ่าตาย  เมื่อพบโมเลน  ซึ่งเป็นลูกสาวคนเดียวของเศรษฐีใหญ่  ตามคำสั่งแล้วต้องจับตัวหญิงสาวมาให้กับหัวหน้ากบฏ  แต่ทว่าเมื่อเขาเห็นเธอครั้งแรก  กลับรู้สึกสงสารเธอเหลือเกิน  จึงพยายามช่วยให้เธอหนีไป  แต่สมุนโจรคนหนึ่งมาเห็นเข้าเสียก่อน  เขาจึงต้องจับตัวเธอมา  ท่านริกเกอร์สังเกตเห็นว่าเขาห่วงใยสาวน้อยคนนี้เป็นพิเศษ จึงมอบเธอให้เป็นของขวัญ  ซึ่งไม่ใช่ครั้งแรกที่ได้มอบหญิงสาวให้เป็นรางวัลเช่นนี้  แต่ที่ผ่านมาเขาไม่เคยสนใจ  ได้แต่ปฏิเสธมาโดยตลอด   แต่เพราะเป็นเธอ  เขาจึงไม่กล้าปฏิเสธ  เพราะการปฏิเสธหมายถึงเธอต้องตกเป็นของสมุนโจรคนอื่นต่อไป  

     

    ขุนโจรวาร์เดอรไม่เคยคิดจะฝืนใจโมเลน  ถ้าหญิงสาวไม่ยินยอมพร้อมใจเป็นภรรยาของเขา และรู้ตัวดีในเมื่อเขาเป็นโจรที่ไปร่วมปล้นฆ่าทำลายครอบครัวของเธอจนพินาศอย่างนั้น  เป็นใครก็ต้องโกรธต้องเกลียดเป็นธรรมดา คงเป็นการยากที่จะได้รับการให้อภัยจากเธอได้ เขาเพียงอยากคอยดูแลปกป้องคุ้มครองเธอเท่านั้น 

     

    วันเวลาผ่านไปห้าปี  การดูแลเอาใจใส่โมเลนอย่างดีมาโดยตลอด  แม้เธอจะไม่ยอมพูดกับเขา  นิ่งเฉยและเย็นชาใส่เขาเหมือนเขาไม่มีตัวตน  ตีสีหน้าบึ้งตึงใส่เขาเสมอ  แต่ทว่าความดีของเขาเริ่มทลายกำแพงแห่งความโกรธ  ความเกลียดในใจของเธอให้ลดน้อยลงไปทุกที  ทำให้โมเลนเปลี่ยนไป  ยอมรับและเข้าใจหัวหน้าโจรอย่างเขามากขึ้น   ยอมพูดคุยให้ความคุ้นเคยกับเขามากขึ้น  แต่ยังคงไม่เกินเลยไปมากกว่าคำว่าเพื่อนและมิตรภาพ

     

    กลางดึกของคืนเดือนมืด  วาร์เดอร์นั่งกินเหล้าตามลำพังคนเดียวตั้งแต่หัวค่ำจนดึกดื่น  เขาออกร่วมปล้นฆ่ากับหัวหน้ากบฎทุกครั้ง  ไม่เคยรู้สึกเสียใจใด ทั้งสิ้น  แต่เมื่อเขาได้รู้จักโมเลน  เธอทำให้ความรู้สึกของขุนโจรอย่างเขาเปลี่ยนไป  คิดถึงจิตใจของคนอื่นมากขึ้น  เอาใจเขามาใส่ใจเรามากขึ้น  หัวหน้าโจรหนุ่มกลับรู้สึกทุกข์ใจทุกครั้งที่ต้องออกไปร่วมปล้น  ฆ่า  ชิงทรัพย์สิน   และสุดท้ายหากบ้านนั้นมีหญิงสาว  จะต้องถูกจับตัวมาเป็นเมียของพวกโจร   ภาพเหล่านี้มันวนเวียนเกิดขึ้นแล้วเกิดขึ้นอีก  คนอื่นอาจชินตา  แต่สำหรับเขารู้สึกเป็นบาปในใจ เขาต้องทำตามคำสั่งของท่านริกเกอร์  เพื่อตอบแทนบุญคุณของหัวหน้ากบฏที่ได้ชุบเลี้ยงเขามาตั้งแต่เล็ก   เนื่องจากเขาเป็นเพียงเด็กกำพร้าถูกคนนำมาทิ้งไว้กลางป่าเคนาฟ   มิฉะนั้นเขาคงกลายเป็นอาหารของสัตว์ป่าไปแล้ว  ด้วยความฉลาด  บวกความเก่งกล้าสามารถ  ด้วยฝีมือ ปฏิภาณและไหวพริบเป็นเลิศ  เขากลายเป็นคนโปรดของท่านริกเกอร์  หัวหน้ากบฏให้ความเอ็นดูรักใคร่เขาเป็นพิเศษ  และแต่งตั้งเขาเป็นหัวหน้าโจรฝ่ายขวา

     

    โมเลนมองวาร์เดอร์นั่งกินเหล้าอย่างมากมายด้วยความเป็นห่วงอยู่นานแล้ว  พยายามจะไม่สนใจ  และบอกตัวเองว่า  ควรเข้านอนได้แล้ว   แต่เมื่อหลับตาลง  กลับนอนไม่หลับ  ใจยังคงเป็นห่วงหัวหน้าโจรหนุ่ม   ไม่เข้าใจตัวเองว่าทำไมถึงต้องเป็นห่วงเขาขนาดนี้   ด้วยมิตรภาพและความเป็นเพื่อน   เธอบอกกับตัวเอง   ในที่สุดจึงตัดสินใจเข้าไปห้ามปราม

     

    แก้วเหล้าที่กำลังยกขึ้นดื่ม  ถูกมือของหญิงสาวจับไว้

     

    พอเถอะ  วาร์เดอร์  ท่านดื่มมากไปแล้วนะ

     

    หัวหน้าโจรเงยหน้ามองภาพพร่าเลือนของหญิงสาวอย่างสะลึมสะลือ  เขาสะบัดหัวอีกครั้งอย่างมึนงง  ท่าทีสง่างามด้วยความเป็นนักรบหายไปหมดเมื่ออยู่ในสภาพเมาหัวราน้ำเช่นนี้

     

    ใคร….โมเลนเหรอ…”  เสียงชายหนุ่มพูดอ้อแอ้ไม่ชัดถ้อยชัดคำ   ไม่มีพลังหนักแน่นเหมือนยามมีสติตื่นเต็ม

     

    พอเถอะ  ท่านควรพักผ่อนได้แล้วนะ”  โมเลนพยายามดึงแก้วเหล้าออกจากมือชายหนุ่ม

     

    โมเลนอย่าห้ามข้าข้าอยากดื่มอีกเอาเหล้ามาให้ข้าเถอะได้โปรด…”

     

    หยุดเถอะวาร์เดอร์  ท่านดื่มมากไปแล้ว  ท่านเมาแล้วนะ  ไปนอนเถอะ  ข้าจะช่วยพยุงท่านไป”  หญิงสาวช่วยประคองพาร่างกำยำสูงใหญ่ของขุนโจรหนุ่มเดินโงนเงนไปจนถึงห้องพักของเขา  ระหว่างทางเขาพูดบ่นเรื่อยเปื่อยไปตลอดทางอย่างน้อยเนื้อต่ำใจที่ต้องเป็นโจรอยู่เช่นนี้

     

    โมเลนเจ้าเองก็คงเกลียดข้าใช่มั้ยที่ข้าเป็นโจร  ปล้น  ฆ่า  พ่อแม่ของเจ้า  ข้าเสียใจ…  ข้าขอโทษ  ข้า…”  ร่างสูงใหญ่ของบุรุษหนุ่มถูกวางลงบนเตียงหนานุ่ม

     

    ข้าเคยเกลียด  เคยโกรธท่าน  แต่นั่นนานมาแล้ว”  โมเลนหาผ้าชุบน้ำเย็นมาเช็ดหน้าตาและเนื้อตัวให้เขา

     

    จริง นะ”  เขาเอื้อมมือจับมือเธอไว้  แล้วขยับตัวโงนเงนลุกขึ้นมาจากเตียง

     

    จริงแต่ตอนนี้ข้าต้องขอตัวไปนอนก่อนนะ  ดึกมากแล้ว…”  เธอรีบดึงมือตัวเองกลับมา  เริ่มรู้สึกแปลก   เหมือนสัญชาตญาณจะเตือนภัยอะไรบางอย่างที่กำลังจะเกิดขึ้นข้างหน้านี้

     

    เจ้าอย่าเพิ่งไปอยู่กับข้าได้มั้ยคืนนี้…”  ยังไม่ทันคิดอะไรต่อไป  ร่างของเธอก็ตกอยู่ในอ้อมแขนของชายหนุ่ม  ได้กลิ่นเหล้าคลุ้งจนฉุนกึ้ก  ฤทธิ์แอลกอฮอล์ทำให้คนเรามีความกล้ามากกว่าตอนมีสติมีจิตสำนึกอยู่ครบถ้วนบริบูรณ์  และมักกล้าทำในสิ่งที่ผิดเสมอ

     

    ข้ารักเจ้าโมเลน”  เขากระซิบบอกเบา ที่ข้างหูของหญิงสาว  ก่อนบรรจงประทับริมฝีปากอุ่นสัมผัสผิวแก้มนุ่มเนียนของเธอแผ่วเบาด้วยความรัก   ร่างบางถูกกดลงบนเตียง  ไม่อาจขัดขืน  และต้านทานแรงกำลังของคนหนุ่มได้เลย

     

    ไม่นะ!!   อย่า……..!!!”

     

    =============== 

     

     

    แสงแดดอุ่นสาดแสงเข้ามาให้ห้องสี่เหลี่ยม    เสียงนกเล็ก ส่งเสียงร้องสดใสกระจุ๊กกระจิ๊กอยู่ด้านนอก  ปลุกหัวหน้าโจรหนุ่มให้ตื่นขึ้นจากความหลับไหล  เขารู้สึกว่าหัวหนักอึ้งและมึนตื้อไปหมด  หยีตากับแดดใสที่สาดส่องผ่านเข้ามาทางหน้าต่าง  มองผิวเนียนละเอียดของแผ่นหลังหญิงสาวที่เปลือยเปล่านอนหันหลังให้เขาอยู่ไม่ไกล  ห่างกันแค่มือเอื้อมถึง  ร่างบางนั้นสั่นไหวสะอึกสะอื้นไห้

     

    ขุนโจรใหญ่รู้สึกใจหาย!! นี่เขาทำอะไรลงไป!!  เมื่อคืนนี้?

     

    วาร์เดอร์ขยับตัวเข้าไปใกล้แล้วโอบกอดร่างบางเข้ามาแนบกายด้วยความรักอย่างสำนึกผิด

     

    ร่างหญิงสาวสะดุ้งสุดตัว  เมื่อกายอุ่นของบุรุษเข้ามาโอบกอดไว้  ดึงผ้าห่มที่ปิดหน้าอกขึ้นจนถึงคอไว้แน่น 

     

    โมเลนข้าขอโทษ….ข้าไม่ได้ตั้งใจล่วงเกินเจ้า  ข้ารักเจ้า”  ขุนโจรวาร์เดอร์ก้มลงจูบแก้มนวลของเธอแผ่วเบา เป็นการปลอบขวัญ  แก้มนั้นมีร่องรอยของหยาดน้ำตาแห่งความเสียใจที่ยังไม่เหือดแห้ง

     

    ได้โปรดวาร์เดอร์กรุณา…”  น้ำเสียงนั้นคลอเสียงสะอื้นไห้ตลอดเวลา 

     

    อย่าถูกเนื้อต้องตัวข้าอีก…”

     

    โมเลน….”  คำพูดนั้นแทบทำให้เขาช็อกไม่อยากเชื่อว่าจะได้ยิน

     

    หญิงสาวขยับตัวผละออกจากอ้อมกอดของเขาลุกขึ้นนั่ง

     

    ข้าไม่ได้ตั้งใจโมเลน…”   หัวหน้าโจรใหญ่ลุกขึ้นตาม   “ข้าขอโทษ…”  เขาคว้าตัวเธอเข้ามากอดไว้แน่นด้วยความรู้สึกเสียใจและรู้สึกผิดเหลือเกิน

     

    ได้โปรดโมเลนอย่าทำอย่างนี้กับข้าเลย…”

     

    โมเลนพยายามเบนตัวออกห่างจากกายของบุรุษหนุ่ม พยายามขืนตัวเองเอาไว้ ไม่ยอมโอนอ่อนไปตามที่เขาต้องการ แต่เจ้าของอ้อมแขนอันแข็งแกร่งนั้นกอดรัดร่างอันบอบบางของเธอเอาไว้แน่น  ไม่ยอมให้เธอห่างไปไหน

     

    ขอให้เป็นครั้งแรกและครั้งสุดท้าย  ข้าขอร้อง…”  ร่างหญิงสาวยังคงสะอึกสะอื้น 

     

    ขุนโจรใหญ่ยกมือเช็ดน้ำตาข้างแก้มของหญิงสาวตรงหน้าอย่างทะนุถนอม  สองมือประคองใบหน้าของหญิงสาวให้หันมาสบตากับเขาและฟังเขาพูด

     

    ข้าจะรับผิดชอบเจ้า  ดูแลเจ้าตลอดไป  จะไม่มีใครอื่นอีก  นอกจากเจ้าเพียงคนเดียว  โมเลนได้โปรดให้โอกาสข้าเถอะนะ”  เขาพยายามขอร้องเธอ ในชีวิตของหัวหน้าโจรใหญ่  ไม่เคยต้องขอร้องใครอย่างนี้มาก่อน

     

    หญิงสาวจ้องมองบุรุษตรงหน้า  นิ่งงันฟังคำเขาอ้อนวอนขอร้องเธอ  ราวกับต้องมนต์สะกดแห่งความรักของเขาที่มีต่อเธอ  มันไม่ใช่เพิ่งเกิดขึ้น  แต่มันเกิดขึ้นนานมาแล้ว  เขาได้แสดงให้เธอเห็นด้วยการกระทำที่มากกว่าคำพูดเพียงไม่กี่ประโยค  ตลอดเวลาห้าปีที่ผ่านมาเขาดูแลเธอเป็นอย่างดี ไม่เคยหักหาญน้ำใจ หรือพยายามล่วงเกินเธอแม้แต่น้อย

     

    โมเลน...ข้ารักเจ้า... 

     

    เสียงคำบอกรักของเขา มันดังก้องกังวานเข้าไปในจิตใจอันแสนอ่อนไหวของหญิงสาว  อยากจะขัดขืน  แต่กลับอ่อนแอทุกครั้งที่ได้อยู่ใกล้เขา  ไม่อาจต้านทานความรักของเขาที่มีต่อเธอได้  ที่สำคัญไม่อาจฝืนความรู้สึกของตัวเองที่มีต่อเขาได้เลย ทั้ง ๆ ที่เธอพยายามฝืนมันมาตลอด  กำลังกายที่พยายามฝืนตัวเองเอาไว้กลับอ่อนแรงลงทุกขณะ  ขุนโจรหนุ่มค่อย ๆ โน้มใบหน้าเข้าไปใกล้ใบหน้าของหญิงสาวอย่างช้า ๆ 

     

    แต่ทว่าความรู้สึกผิดในใจ  ภาพอันโหดร้ายใต้ก้นบึ้งของจิตใจของหญิงสาวกลับผุดขึ้นมาในจิตใจของเธออีกแล้ว  โมเลนรีบเบือนหน้าหนีใบหน้าของชายหนุ่มที่โน้มตัวเข้ามาใกล้จนเกือบประชิด  น้ำตาพลันเอ่อขึ้นจนล้นขอบตารินละไปตามแก้มนวลไม่ขาดสาย

     

     

    ได้โปรด………ข้าขอร้อง....”  โมเลนยังคงยืนยันคำเดิม 

    คำพูดนั้นทำให้วาร์เดอร์นิ่งอึ้งไปนาน 

     

    หากความรักของข้าเป็นการทำร้ายเจ้าขนาดนี้…”  วาร์เดอร์สูดลมหายใจเข้าลึก  

     

    เมื่อมันเป็นความต้องการของเจ้า…”  ชายหนุ่มนิ่งไปครู่หนึ่งเพื่อรวบรวมกำลังใจ

     

    ข้ายินดีที่จะทำตาม  ข้าเคารพการตัดสินใจของเจ้าเสมอแต่อยากบอกให้เจ้ารู้ไว้ว่า   ไม่ว่าเจ้าจะคิดอย่างไร  ข้าจะยังรักเจ้าเสมอ  รักเจ้าเพียงคนเดียว  และจะรักเจ้าตลอดไปจนกว่าชีวิตของข้าจะหาไม่”  ชายหนุ่มตัดใจขยับตัวถอยห่างออกจากร่างบางของคนที่เขาแสนรักเหลือเกินอย่างเสียไม่ได้

     

    ตั้งแต่นั้นมาเขาไม่มีโอกาสได้ใกล้ชิดโมเลนอีกเลย  เหตุการณ์นั้นทำให้ขุนโจรวาร์เดอร์รู้สึกเสียใจอย่างมาก  จึงปฏิญาณกับตนเองว่าเขาจะไม่ดื่มเหล้าอีกตลอดชีวิต  เพราะหลายครั้งที่เขาดื่มเหล้า  มักทำอะไรลงไปโดยไม่รู้ตัวและขาดสติเสมอ   ไม่ว่าเธอจะรู้สึกอย่างไรกับเขาก็ตาม  แต่เขายังรักเธอ  และไม่เคยสนใจหญิงอื่นอีกเลย  เขาปฏิบัติตัวกับเธอเหมือนเดิม   แม้เธอจะนิ่งเงียบไม่พูดไม่จา แสดงอาการเฉยชากับเขาแค่ไหนก็ตาม   

     

    แต่ด้วยสัมพันธ์อันลึกซึ้งเพียงครั้งเดียวนั้นทำให้โมเลนตั้งครรภ์ซีนิธ  เธอจึงเริ่มพูดกับขุนโจรใหญ่อีกครั้ง  พยายามทำใจให้สบาย  เพื่อลูกในท้องจะได้มีสุขภาพดีทั้งร่างกายและจิตใจ  ที่สำคัญความดีของเขาทำให้เธอต้องใจอ่อน  แต่ถึงกระนั้นโมเลนยังคงวางตัวกับวาร์เดอร์ด้วยความระมัดระวัง  ไม่เปิดโอกาสให้เขาเข้ามาใกล้ชิดเธอได้อีก

     

    "Every Day I Love You"

    I don't know, but I believe
    That some things are meant to be
    And that you'll make a better me
    Everyday I love you
    I never thought that dreams came true
    But you showed me that they do
    You know that I learn something new
    Everyday I love you

    'Cos I believe that destiny
    Is out of our control (don't you know that I do)
    And you'll never live until you love
    With all your heart and soul.

    It's a touch when I feel bad
    It's a smile when I get mad
    All the little things I am
    Everyday I love you

    Everyday I love you more
    Everyday I love you

    'Cos I believe that destiny
    Is out of our control (don't you know that I do)
    And you'll never live until you love
    With all your heart and soul

    If I asked would you say yes?
    Together we're the very best
    I know that I am truly blessed
    Everyday I love you
    And I'll give you my best
    Everyday I love you

     


    ซีนิธตั้งใจฟังพ่อเล่าเรื่องราวเกี่ยวกับแม่ให้ฟังอย่างตั้งอกตั้งใจ  ดวงตาคู่นั้นมองบิดาด้วยความชื่นชมอย่างมาก  ที่หนักแน่นและมั่นคงในความรัก  แม้ว่าแม่ของเขาจะจากไปนานแล้วก็ตาม    บรรดาหญิงสาวในค่ายริกเกอร์ต่างนิยมชมชอบในตัวบิดาของเขาอย่างออกนอกหน้า  เพราะไม่ว่าจะเป็นหน้าตาคมเข้ม  ความหล่อเหลา ที่ไม่เคยน้อยกว่าใคร  หรือจะเป็นนิสัยใจคอที่สงบเยือกเย็น  ฝีมือ  และสติปัญญา  พ่อของเขาไม่เคยเป็นรองใคร  นอกจากท่านริกเกอร์คนเดียวเท่านั้น  พวกเธอต่างพยายามเข้ามาพูดคุยหยอกล้อ  ให้ความสนิทสนมกับบิดาของเขา  แต่ไม่เคยมีหญิงใดทำให้พ่อของเขาหวั่นไหวได้เลย

     

    ทำไมพ่อถึงไม่สนใจหญิงอื่นอีกเลย”  บุตรชายคนเดียวตั้งคำถามด้วยความสงสัย

     

    เพราะพ่อมีแม่เจ้าคนเดียวเท่านั้นในใจ  ไม่อาจมีใครมาแทนแม่ของเจ้าได้”  ขุนโจรฝ่ายขวาตอบคำถามลูกชาย

     

    เป็นคำตอบที่ซีนิธรู้อยู่แล้วว่าพ่อของเขาจะต้องตอบเช่นนี้

     

    งูเขียวตัวใหญ่เลื้อยผ่านมาตรงบริเวณที่วาร์เดอร์นั่งอยู่อย่างรวดเร็ว 

     

    ท่านพ่อ!!  ระวัง!!”

     

    อาวุธลับถูกซัดใส่เจ้างูตัวนั้นอย่างรวดเร็วและแม่นยำปักเข้าที่หัวของงูเขียว  ไม่ถึงวินาที  งูตัวนั้นจึงสงบนิ่งหมดสภาพไปอย่างง่ายดาย

     

    วาร์เดอร์ผ่อนลมหายใจออกอย่างโล่งอกกับนาทีวิกฤต  แล้วหันไปก้มลงดูงูเขียวตัวนั้น  มองเห็นไม้เล็ก ที่เหลาจนแหลมคมปักอยู่ที่หัวของงูตัวนั้น  คิ้วเข้มขมวดเข้าหากันทันที

     

    มันตายรึยังซีนิธ”  สายตาขุนโจรใหญ่จับจ้องอยู่ที่ร่างแน่นิ่งของงูเขียวนั้น  ซึ่งห่างไปไม่ถึงคืบ

     

    ยังหรอกมันแค่สลบไปเท่านั้นเองบุตรชายหัวหน้าโจรใหญ่ตอบ

     

    อาวุธนี้เป็นของเจ้าเองหรือ?”  วาร์เดอร์หันมาสบตากับลูกชาย

     

    บุตรชายคนเดียวของขุนโจรฝ่ายขวาหน้าซีดเผือดลงทันที

     

    เจ้าเป็นคนทำร้ายสมุนโจรที่ชายป่าด้านนอกใช่มั้ย?”  หัวหน้าโจรใหญ่จ้องหน้าบุตรชายเขม็งด้วยความหนักใจยิ่งนัก

     

    เจ้าทำทำไมซีนิธ?”  น้ำเสียงนั้นเริ่มเคร่งเครียดขึ้น

     

    ข้าอยากช่วยหญิงคนหนึ่งเท่านั้น”  ภาพของหญิงสาวแสนสวย  เจ้าของดวงตาสีเขียวมรกตอันร่าเริงปรากฏขึ้นในหัวสมองของเขา

     

    ข้ากลัวว่าเธอจะถูกจับมาอยู่ในค่ายโจร  และต้องมีชีวิตเหมือนแม่ของข้า…”  ซีนิธหยุดพูดเล็กน้อย  ดูปฏิกิริยาของบิดาก่อนพูดต่อไป

     

    ข้าทำผิดอย่างนั้นหรือ?”

     

    วาร์เดอร์ถอนหายใจออกอย่างหนักหน่วง เขาเข้าใจเหตุผลของซินิธเป็นอย่างดี  สบตาบุตรชายด้วยความกังวล

     

    แล้วเจ้าไปที่คุมขังหญิงสาวที่รอทำพิธีเซค์  ทำไม?”

     

    ผู้หญิงคนนั้น  ข้าเห็นพ่อแม่ของเธอถูกฆ่าตาย  แล้วเธอก็ถูกจับตัวมาที่นี่  ข้าสงสารเธอ  อยากช่วยเธอ  ท่านพ่อ  ที่สำคัญข้าต้องการทำลายพิธีเซค์  ข้าไม่อยากให้ท่านริกเกอร์มีชีวิตเป็นอมตะ  ไม่ว่ามันจะเป็นจริงหรือไม่ก็ตาม  ข้าจะขัดขวางพิธีเซค์ให้ถึงที่สุด”  แววตาชายหนุ่มเป็นประกายคมกล้าอย่างหนักแน่น

     

    ซีนิธ  มันอันตรายมากนะ  มีแต่ตายกับตายเท่านั้น”  วาร์เดอร์เน้นคำราวกับจะขอร้องให้ลูกชายคนเดียวของเขาทบทวนใหม่อีกครั้ง

     

    ท่านพ่อ…” ซีนิธสบตากับบิดานิ่ง 

     

    ข้ายอมตาย…” 

     

    แววตาแบบนี้ผู้เป็นบิดารู้ดีว่า  ไม่มีสิ่งใดจะเปลี่ยนแปลงความตั้งใจเด็ดเดี่ยวของบุตรชายได้เลย 

     

    ท่านพ่อ  ข้าขอถาม  ท่านจะยอมให้หัวหน้ากบฏริกเกอร์เป็นอมตะ  แล้วเที่ยวปล้ม ฆ่า ชิงทรัพย์ต่อไปได้อยู่อีกหรือ  ท่านพ่อจะทนเห็นชีวิตของผู้หญิงอีกกี่คนที่มีชะตาชีวิตเช่นเดียวกับแม่ของข้า  คำถามจากบุตรชายคนเดียวของเขาเสียดแทงลึกลงไปในก้นบึ้งของจิตใจหัวหน้าโจรฝ่ายขวาให้เจ็บปวด

     

     “ถ้าเราต้องตาย  แต่หยุดความชั่วร้ายเหล่านี้ได้  มันคุ้มมั้ย?  ซีนิธถามบิดาต่อไป  คำถามจากลูกชายทำให้ขุนโจรใหญ่ต้องคิดหนัก  มองดูบุตรชายคนเดียว  ถึงจะเป็นแค่หมอรักษาคนไข้  แต่กลับมีความคิดหาญกล้าเช่นนี้ได้  เขาเติบโตเป็นผู้ใหญ่เต็มตัวแล้วจริง ๆ 

     

    ท่านพ่อ ได้โปรดคิดดู  พูดจบซีนิธโค้งคำนับให้บิดา ก่อนเดินจากไป 

     

    หนุ่มใหญ่หยิบแผ่นหนังที่ซ่อนไว้ด้านในของตัวเสื้อออกมาคลี่อีกครั้ง เขาจ้องมองมันอยู่นาน  นอกจากที่หัวหน้ากบฏริกเกอร์จะอยากเป็นอมตะแล้ว  เขายังปรารถนาจะได้เป็นเจ้าของดาบทองสีรุ้งอีกด้วย เมื่อนั้นโลกจะเป็นเช่นไร    เขาพับเก็บมันให้เล็กที่สุดเท่าที่จะทำได้   มัดไว้ด้วยเชือกป่าน  ก่อนตัดสินใจนำแผนที่นั้นซ่อนไว้ใต้ซอกแผ่นหินข้างป้ายหินอ่อนแกะสลักชื่อของภรรยา

     

    ข้าฝากเจ้าดูแลด้วยนะ โมเลน

     


     

     

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    นิยายที่ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×