ตอนที่ 13 : คำขอร้อง
Smile of : 13
...ระหว่างทางที่ทั้งสามคนเดินมานั้นมีแต่กลุ่มผู้หญิงที่จับกลุ่มคุยกันด้วยหัวข้อเดียวกันเกือบทั้งหมดว่า ลูกชายบ้านอินุสึกะเป็นคนเจ้า
ชู้ เที่ยวชวนคนนั้นคนนี้ไปเที่ยวด้วยกันสองต่อสองแล้วก็ยังมีการถึงเนื้อถึงตัวสาว ๆ ที่ตัวเองชวนไปเที่ยวด้วยกันอีกด้วย นารูโตะนิ่งเงียบรับฟังสิ่งที่ได้ยินมาโดยไม่เอ่ยอะไรแต่แล้วคำพูดหนึ่งของชิกามารุก็ทำให้นารูโตะรู้สึกเหมือนตัวเองโดนอะไรหนัก ๆ ฟาดเข้ากลางศรีษะ...
“จะว่าไปอิโนะก็เคยบอกเหมือนกันนะว่าคิบะมาชวนไปเดินเล่น แต่อิโนะปฏิเสธไปเพราะว่าจะต้องไปทำธุระให้ที่บ้าน แล้วคิบะก็อาสาพาอิโนะไปส่งให้ถึงที่ อิโนะยังบอกอีกฝ่ายถูกฝ่ายนั้นกอดเอาไว้ด้วยเวลาที่อยู่บนหลังอากามารุด้วยกัน...แล้ววันนั้นเหมือนโจจิจะบอกด้วยว่าเห็นอิโนะที่ถูกคิบะโอบกอดไว้บนหลังอากามารุแล้ววิ่งผ่านหน้าเค้าไปน่ะ...” ประโยคบอกเล่าของชิกามารุทำให้นารูโตะหันมาสนใจฟังอย่างตั้งอกตั้งใจ
“แล้วอิโนะไม่ว่าอะไรงั้นเหรอที่ถูกเจ้าบ้านั่นกอดน่ะ...” ชิโนะเริ่มซักถามโดยไม่ได้สังเกตุเห็นสีหน้าของใครอีกคนเลยว่ามันซีดขาวขนาดใหนยามที่รับฟังเรื่องราวนี้
“เห็นอิโนะบอกว่าไม่ได้คิดอะไรแล้วเจ้าคิบะเองก็ดูไม่มีทีท่าว่าจะคิดอะไรเกินเลยด้วยเหมือนกัน...”
“อืม...พอพูดถึงเรื่องนี้ขึ้นมาเหมือนฮินาตะจะเล่าอะไรให้ฟังเหมือนกันนะ...” ชิโนะเอ่ยขึ้นมาเหมือนกับจะนึกอะไรขึ้นมาได้บ้างเหมือนกัน
“ฮินาตะก็ด้วยเหรอ...” คราวนี้เป็นนารูโตะที่เอ่ยถามออกมาอย่างลืมตัว แต่ทั้งสองคนก็ยังไม่ได้เอะใจอะไรกับท่าทีนั้นจึงเอ่ยตอบไปตามปกติ
“ก็เมื่อวันก่อนโน้นน่ะ ฮินาตะบอกว่ากำลังจะไปซ้อมจู่ ๆ คิบะก็มาชวนไปเดินเล่นแต่พอบอกว่าต้องไปซ้อมอีกฝ่ายก็คว้าตัวขึ้นหลังอากามารุแล้วก็พาไปส่งที่ที่ฮินาตะใช้ซ้อมประจำ ๆ ให้ทันทีเลย...”
“แล้วหลังจากนั้นล่ะ...” ชิกามารุเอ่ยถามต่อด้วยความอยากรู้อยากเห็น
“ก็ไม่มีอะไรเพราะตอนนั้นฮินาตะเป็นลมไปก่อนตั้งแต่คิบะคว้าตัวขึ้นไปกอดเอาไว้แล้วนั่นแหละ...แต่ฮินาตะบอกว่าพอรู้สึกตัวก็เห็นคิบะนั่งเฝ้าอยู่ใกล้ ๆ แล้วก็จากไปโดยไม่ได้พูดอะไรอีก...”
“นายกำลังจะบอกว่าคิบะไม่ได้ทำอะไรฮินาตะอย่างนั้นใช่มั้ย...” ชิกามารุยิงคำถามที่ตรงกับใจของใครบางคนเสียเหลือเกิน ซึ่งชิโนะก็พยักหน้ารับเบา ๆ
“เฮ้อ...มันกำลังคิดจะทำอะไรของมันกันแน่นะเจ้านั่นน่ะ...” ชิกามารุเปรยขึ้นมาเบา ๆ
“เลิกคิดเรื่องพวกนี้ให้มันรกสมองดีกว่า...เอาเป็นว่าตอนนี้เราไปหาอะไรใส่ท้องให้มันอิ่มดีกว่า...” ชิโนะเสนอความคิดขึ้นมาซึ่งชิกามารุก็เห็นด้วย แต่ใครอีกคนยังคงนิ่งเงียบเพราะเรื่องราวที่เพิ่งได้รับรู้มันทำให้เค้าหวั่นใจอย่างไรชอบกลกับเรื่องราวของตนเอง
“นารูโตะ...นารูโตะ...” แล้วร่างบางก็ต้องสะดุ้งน้อย ๆ เมื่อได้ยินเสียงเรียกดังขึ้นข้าง ๆ ตัว
“อะ...อะไรเหรอ...” นารูโตะเอ่ยถามด้วยสีหน้างงงวย
“คิดอะไรอยู่รึไง...ชั้นเรียกตั้งนาน...” ชิกามารุตอบกลับไปพร้อมกับจ้องมองอีกฝ่ายอย่างค้นหา
“ก็คิดอะไรเรื่อยเปื่อย...แล้วมีอะไรหรือเปล่า...”
“พวกชั้นสองคนคิดว่าจะไปหาอะไรกินกันก่อนแล้วนายว่าไง...”
“ก็ไปสิ...” นารูโตะตอบกลับไปง่าย ๆ แบบไม่คิดมาก
“งั้นก็ไปกินราเมงของชอบนายแล้วกัน...รึว่าไง...” ชิโนะเอ่ยถามความเห็นอีกฝ่ายออกไปอย่างเอาใจ
“แต่พวกนายไม่ชอบราเมงไม่ใช่เหรอ...เราไปกินอย่างอื่นกันก็ได้...”
“เอาแบบนั้นเหรอ...” ชิกามารุร้องถามเพื่อความแน่ใจ ซึ่งนารูโตะก็พยักหน้ารับเพราะว่าตอนนี้เค้ายังไม่อยากกลับไปในสถานที่เก่า ๆ ที่มันเกิดเรื่องบางอย่างขึ้นและก็กลัวว่าคุณลุงเจ้าของร้านจะถามอะไรแปลก ๆ ออกมา
“ถ้างั้นเราไปร้านประจำของชั้นแทนก็แล้วกันนะมีอาหารหลายอย่างให้เลือกด้วย...” ชิโนะเสนอร้านในดวงใจขึ้นมาแล้วอีกสองคนก็เห็นชอบด้วยทั้งสามจึงมุ่งหน้าไปยังร้านที่ชิโนะบอกทันที
...แต่ทว่าไม่ว่าในมุมใหนของหมู่บ้านในตอนนี้เรื่องราวที่ทุกคนให้ความสนใจอยู่ตอนนี้ก็คือเรื่องของอินุสึกะ คิบะ กับสาว ๆ ในหมู่บ้าน และแน่นอนว่าในร้านนี้เองก็เช่นกันที่มีคนจับกลุ่มคุยกันทั้งชายและหญิง...
“ดูท่าว่าเรื่องมันจะใหญ่กว่าที่เราคิดไว้นะเนี่ย...” ชิโนะเอ่ยขึ้นมากลางโต๊ะอาหาร
“ชั้นก็ว่างั้นแหละ...ไม่รู้ป่านนี้เจ้าคนก่อเรื่องมันจะทำหน้ายังไงน่ะ...” ชิกามารุเอ่ยขึ้นมาด้วยความเป็นห่วง จากนั้นบนโต๊ะอาหารก็ไม่มีใครพูดอะไรออกมาอีกมีเพียงคนรอบข้างที่ยังคงสนทนาเรื่องนั้นต่อไป
“เฮ้อ...อิ่มจังแหะ...” ชิโนะเอ่ยขึ้นด้วยน้ำเสียงสดชื่นหลังจากท้องอิ่ม
“เอ่อ...ชิกามารุ ชิโนะ ชั้นขอไปทำธุระที่นึงก่อนได้มั้ย...” นารูโตะเอ่ยขึ้นมาหลังจากปิดปากเงียบมานาน
“จะไปคนเดียวหรือว่าพวกเราไปด้วยได้...” ชิกามารุหันมาถามราวกับจะขออนุญาติ
“ไปหรือไม่ไปก็ได้เหมือนกันแหละ...”
“งั้นชั้นไปด้วย...แล้วนายล่ะชิโนะ...”
“ชั้นก็จะไปด้วย...” พอสรุปความเห็นออกมาแบบนั้นนารูโตะจึงเดินนำไปยังที่ที่ตนต้องการไปทันที และสถานที่ที่นารูโตะต้องการมาก็คือบ้านของครูอิรูกะแต่ดูเหมือนโชคจะไม่เข้าข้างเพราะดูเหมือนว่าคนที่นารูโตะต้องการพบจะไม่อยู่บ้านในตอนนี้
“สงสัยคงจะอยู่ที่ห้องทำงานของท่านซึนาเดะนั่นแหละ...จะไปหาหรือเปล่านารูโตะ...” ชิกามารุร้องถามความเห็นคนที่ยืนนิ่งด้วยความผิดหวัง แล้วนารูโตะก็ส่ายหน้าน้อย ๆ เป็นการปฏิเสธ
“ไม่ดีกว่าครูอิรูกะคงจะยุ่งอยู่...เอาไว้วันหลังค่อยมาใหม่ก็ได้...”
“แล้ววันนี้จะไปใหนต่อล่ะ...”
“ชั้นอยากกลับบ้าน...ได้หรือเปล่า...” น้ำเสียงเศร้า ๆ แสดงออกมาอย่างไม่ปิดบัง ชิกามารุกับชิโนะหันมามองสบตากันราวกับจะขอความเห็น
“ให้พวกเราไปส่งที่บ้านเอามั้ย...” ชิโนะร้องถามเพราะไม่อยากจะบังคับฝืนใจอีกฝ่าย และก็ไม่อยากให้รู้สึกอึดอัดที่ต้องไปใหนมาใหนกับพวกเค้าโดยไม่จำเป็น
“ไม่ต้องหรอกชั้นกลับเองได้...ขอบคุณที่อยู่เป็นเพื่อนนะทั้งสองคนเลย...” นารูโตะส่งยิ้มสดใสมาให้พร้อมกับคำขอบคุณ ซึ่งในสายตาของทั้งสองคนที่ได้แลเห็นกลับคิดว่ามันยังไม่เหมือนเดิม รอยยิ้มของดวงตะวันดวงนี้มันจะต้องสดใสมากกว่านี้หลายเท่า
“ไม่เป็นไร...ถ้ามีอะไรให้ช่วยก็บอกแล้วกัน...” ชิกามารุกล่าวทิ้งท้ายไว้ก่อนจะแยกย้ายกันไปคนละทาง พอแยกออกมาจากสองคนนั้นแล้วนารูโตะที่ตั้งใจว่าจะกลับบ้านก็เจอเข้ากับแม่ของคิบะที่เดินสวนมาพอดี
“อ้าว...นารูโตะ...”
“สวัสดีครับ...คุณป้าจะไปใหนเหรอครับ...” นารูโตะเอ่ยทักทายอย่างสุภาพ
“ก็ไม่ได้ไปใหนหรอกแต่ว่าเจอเธอก็ดีแล้วชั้นขอถามอะไรหน่อยได้หรือเปล่า...”
“ครับ...ถ้าผมตอบได้ล่ะก็นะครับ...” นารูโตะรับคำไปง่าย ๆ ทั้งที่ยังไม่รู้ว่าอีกฝ่ายจะถามอะไร
“เธอรู้มั้ยว่าเจ้าลูกชายไม่เอาใหนของป้ามันไปแอบชอบใครอยู่หรือเปล่า...” คำถามธรรมดาแต่ทำให้คนฟังถึงกับสะอึกจนพูดไม่ออก
“ทะ...ทำไม มีอะไรเหรอครับ...”
“ก็มันเคยมาปรึกษาป้าว่ามันรู้สึกแปลก ๆ เวลาอยู่ใกล้คนบางคนแล้วอาการที่มันเล่ามาก็เหมือนคนกำลังแอบหลงรักใครอยู่อย่างงั้นแหละ ที่สำคัญเหมือนจะรักเค้าข้างเดียวด้วย...แล้วยิ่งตอนนี้มีข่าวลือของมันกับผู้หญิงทั้งหมู่บ้านเข้ามาอีกป้าเลยเดาไม่ถูกว่าเป็นลูกสาวบ้านใหน...”
“เอ่อ...ผมไม่รู้หรอกครับว่าคิบะเค้าชอบใคร แต่ถ้าป้าอยากรู้จริง ๆ ก็คงต้องไปถามกับเจ้าตัวเค้าเองนั่นแหละครับดีที่สุด...” นารูโตะกลั้นใจเอ่ยออกไปช้า ๆ ทั้งที่ในใจมันกำลังกรีดร้องด้วยความเจ็บปวดจนบรรยายไม่ถูกกับสิ่งที่เพิ่งได้รับรู้มา
“งั้นเหรอ...เธอก็ไม่รู้เหรอ...เฮ้อ...แล้วอย่างนี้จะไปขอให้มันถูกได้ยังไงกันเล่าลูกบ้านใหนก็ไม่รู้ แต่ถ้าน่ารักเหมือนหนูฮินาตะล่ะก็แม่จะรีบไปเจรจาให้ทันทีเลย...” แล้วแม่ของคิบะก็เดินบ่นอะไรงึมงำคนเดียวต่อไปโดยไม่สนใจนารูโตะอีก ฝ่ายนารูโตะเองพอได้ยินประโยคสุดท้ายนั้นแล้วก็รู้สึกเหมือนร่างกายมันจะยืนไม่อยู่เสียอย่างนั้นเอง
“น่ารักเหมือนฮินาตะ...งั้นเหรอ...” นารูโตะพึมพำกับตัวเองเพียงแผ่วเบา ก่อนจะพาร่างกายที่อ่อนล้าของตนกลับไปยังบ้านที่เป็นที่พักพิงอย่างเลื่อนลอย
...หลังจากแยกกับนารูโตะมาแล้วชิกามารุกับชิโนะก็ยังคงเดินมาด้วยกัน เพราะยังนึกไม่ออกว่าจะไปใหนดีและระหว่างที่กำลังนึกอยู่นั้น ใครบางคนก็โผล่เข้ามาให้รู้สึกหมั่นใส้ในทันที...
“มีอะไร...จะมาให้อัดอีกรอบใช่มั้ย...” ชิโนะกล่าวเสียงแข็งทันทีที่เห็นว่าคนที่ยืนอยู่ตรงหน้าเป็นใคร
“ใจเย็นน่าชิโนะ...พูดจากันดี ๆ ก่อนก็ได้...” ชิกามารุทำหน้าที่เป็นกรรมการอีกครั้งอย่างไม่ตั้งใจ
“ก็เห็นหน้ามันแล้วอารมณ์มันขึ้น...ถ้านายอยากคุยก็คุยไปคนเดียวแล้วกันเพราะชั้นไม่อยากเสวนากับคนที่ทำร้ายนารูโตะให้บาดเจ็บ...” พูดจบชิโนะก็หมุนกายเดินจากไปทันที
“เฮ้อ...มันจะอะไรกันนักกันหนาวะเนี่ย แล้วนายมีอะไรเหรอ...” ชิกามารุบ่นออกมาด้วยความเบื่อหน่ายก่อนจะหันมาถามคนที่ยืนนิ่งให้
ชิโนะด่าอย่างไม่สะทกสะท้าน
“ชั้นมีเรื่องอยากจะขอร้องนายซักเรื่องได้มั้ย...” คิบะกล่าวออกมาด้วยทีท่าที่ดูน่าเวทนาอยู่ไม่น้อย
“เรื่องอะไร...”
“ชั้นอยากเจอนารูโตะ...”
“ถ้าเจอแล้วนายจะทำยังไง...”
“ชั้นอยากขอโทษเค้า...ตั้งแต่เกิดเรื่องเค้าก็หลบหน้าชั้นมาตลอดไม่ยอมฟังที่ชั้นพูดเลย ชั้นรู้ว่าตัวเองผิดแต่อย่างน้อยก็อยากจะขอโทษแต่ก็ไม่หวังให้เค้ายกโทษให้หรอกเพราะความผิดของชั้นมันยากเกินกว่าจะมองข้ามไปได้ง่าย ๆ...”
“แล้วความผิดของนายคืออะไร บอกชั้นได้หรือเปล่า...” พอได้ยินแบบนั้นคิบะก็นิ่งอึ้งไปไม่ยอมเอ่ยอะไรพร้อมกับหลบสายตาอีกฝ่ายที่จับจ้องมาอย่างต้องการค้นหา
“ถ้านายไม่บอกชั้นก็คงช่วยอะไรไม่ได้เหมือนกัน...เพราะถ้าจะพูดกันจริง ๆ แล้วนายเป็นคนทำร้ายนารูโตะให้ต้องเสียใจแถมยังบาดเจ็บอีกต่างหาก ข้อนี้ชั้นเองก็ไม่ชอบใจเท่าไหร่...” จากคำพูดประโยคนั้นทำให้แววตาของคิบะยิ่งหม่นหมองลงอย่างเห็นได้ชัด ซึ่งชิกามารุก็สังเกตุเห็นมันอย่างชัดเจน
“ขอโทษนะชิกามารุ...ชั้นบอกนายตอนนี้ไม่ได้จริง ๆ แต่หลังจากที่ชั้นเจอนารูโตะแล้วชั้นสัญญาว่าชั้นจะบอกทุกอย่างกับนาย...” คิบะพยายามต่อรองเพราะตอนนี้คนที่เข้าใกล้นารูโตะได้ไม่ใช่เค้า มีเพียงคนตรงหน้ากับใครอีกคนที่กระแทกกำปั้นใส่เค้าเมื่อวานเท่านั้น และการที่เค้าจะขอร้องคน ๆ นั้นให้ช่วยเรื่องนี้คงเป็นการยากดังนั้นความหวังสุดท้ายของเค้าจึงเหลือเพียงชิกามารุเท่านั้น
“ถ้าชั้นช่วยนายแล้วตัวชั้นจะได้อะไรล่ะ...เกิดนารูโตะรู้ว่าเป็นเพราะชั้นทำให้นายเข้าใกล้เค้าได้ ชั้นก็แย่นะสิ...” ชิกามารุกล่าวถึงปัญหาที่จะตามมาภายหลัง ซึ่งคิบะก็เข้าใจดีแต่ว่าตัวเองไม่มีทางเลือกอื่นแล้ว
“ขอโอกาสให้ชั้นได้ขอโทษซักครั้งแค่นั้นก็พอ...” คิบะเองก็ไม่รู้จะเอ่ยอะไรที่มันดีกว่านี้แล้วจริง ๆ
“ชั้นยังไม่รับปากก็แล้วกันแต่จะลองหาวิธีให้...” พูดแล้วชิกามารุก็เดินจากไปทันที
“ขอบใจนะชิกามารุ...” คิบะตะโกนไล่หลังอีกฝ่ายไปด้วยความรู้สึกยินดี
“ยังเร็วไปที่จะมาขอบใจเพราะชั้นยังไม่รู้เลยว่ามันจะมีวิธีแบบนั้นจริง ๆ หรือเปล่า...” ชิกามารุเอ่ยตอบทั้งที่ยังไม่ได้หยุดเดิน แต่สำหรับ
คิบะเพียงเท่านี้มันก็เพียงพอแล้วเพราะอย่างน้อยความหวังเล็ก ๆ ในใจของเค้ามันก็เริ่มมีความเป็นไปได้ขึ้นมาแม้จะนิดหน่อยก็ตาม
...นารูโตะพอกลับมาอยู่คนเดียวในห้องตามลำพังก็ยิ่งรู้สึกกระวนกระวายใจ ความคิดต่าง ๆ สับสนวุ่นวายจนดูน่าปวดหัว สุดท้ายก็ได้แต่นั่งถอนหายใจอย่าเบื่อหน่ายกับปัญหาของตัวเองในเวลานี้...
“เฮ้อ...ทำไมต้องไปนึกถึงคนพรรค์นั้นด้วยเนี่ย แล้วเราจะมานั่งกลุ้มใจทำไมล่ะอยากรู้อะไรก็ไปถามเจ้าตัวเค้าตรง ๆ เลยสิ...ก็เราทำแบบนั้นไม่ได้ไม่ใช่รึไงถึงต้องมานั่งบ่นกับตัวเองเหมือนคนบ้าแบบนี้น่ะ...โอ๊ย...ปวดหัว...” นารูโตะที่พูดกับตัวเองด้วยประโยคที่ไม่ค่อยจะเข้าใจหากมีใครมาเห็นสภาพเค้าที่คุยกับตัวเองแบบนี้คงคิดว่านารูโตะอาจจะสติไม่สมประกอบก็เป็นได้...
“กับเรายังทำไปซะขนาดนั้น...แล้วกับผู้หญิงจริง ๆ คงจะ...คนบ้า...คนไม่รับผิดชอบ...” นารูโตะรำพึงรำพันกับตัวเองก่อนจะซุกหน้าลงไปบนหมอนราวกับต้องการจะหนีความจริงบางอย่าง แต่แล้วคนที่กำลังจิตตกก็ต้องสะดุ้งเฮือกขึ้นมาเมื่อมีเสียงเคาะประตูอยู่หน้าห้อง พร้อมกับเสียงเรียกของคนคุ้นเคย...
“ก๊อก...ก๊อก...นารูโตะ ชั้นเอง...”
“มีอะไรอีกงั้นเหรอ...ชิกามารุ...” นารูโตะร้องถามออกไปเมื่อเห็นว่าเป็นใคร
“ตอนเย็นว่างหรือเปล่า...” ชิกามารุเอ่ยถามขึ้นมาด้วยน้ำเสียงราบเรียบดังเช่นปกติไม่ได้มีพิรุธแต่อย่างใด
“ก็ว่างอยู่...นายจะทำไมเหรอ...” นารูโตะร้องถามกลับไปด้วยไม่เข้าใจกับคำถามที่ไม่มีต้นมีปลายของอีกฝ่าย
“เย็น ๆ จะแวะมาหามีเรื่องสำคัญจะคุยด้วยอย่าไปใหนซะก่อนล่ะ...” พูดจบชิกามารุก็หมุนกายเดินจากไปทันที
“คุยตอนนี้ไม่ได้เหรอ...ชั้นกำลังว่างอยู่พอดี เบื่อ ๆ ด้วย...” นารูโตะตะโกนถามตามหลังไป
“ตอนเย็นนั่นแหละดีแล้ว...ตอนนี้ชั้นมีธุระต้องไปทำก่อน อย่าลืมล่ะ...” แล้วชิกามารุก็เดินหายไปจากสายตา
“อะไรของเค้าน่ะ...” นารูโตะบ่นกับตัวเองเบา ๆ ก่อนจะปิดประตูกลับเข้าไปในห้องตามเดิม พอออกมาจากบ้านของนารูโตะแล้ว
ชิกามารุก็แวะไปหาใครบางคนที่นัดเจอกันที่ริมทางน้ำของหมู่บ้านทันที เพื่อนัดแนะเวลาและสถานที่ และคน ๆ นั้นก็ไม่ใช่ใครอื่น...
“วันนี้ตอนเย็นชั้นบอกนารูโตะว่าจะแวะไปหา...นายก็ไปแทนชั้นแล้วกัน...”
“แล้วถ้าเกิดนารูโตะเห็นว่าเป็นชั้นแล้วไม่ยอมคุยด้วยจะทำยังไงล่ะ...” คิบะร้องถามถึงปัญหาที่เค้าเคยประสบมาก่อนกับอีกฝ่าย
“ก็คิดหาวิธีแก้ไขเอาเองสิ...ชั้นช่วยได้แค่นี้แหละ และนี่ก็เป็นโอกาสเดียวที่นายมีตอนนี้ เลือกเอาเองแล้วกันว่าจะรับโอกาสนี้ไว้หรือปล่อยมันทิ้งไป...”
“มาถึงขั้นนี้แล้วไม่ว่าจะเกิดอะไรขึ้นชั้นก็ต้องเจอนารูโตะให้ได้...” คิบะเอ่ยด้วยน้ำเสียงมุ่งมั่น
“แต่ว่านายต้องรับปากชั้นเรื่องนึงด้วย...” ชิกามารุมีข้อแม้บางอย่างมาให้
“อะไรเหรอ...”
“ถ้านายไม่สามารถปรับความเข้าใจกับนารูโตะได้...ก็อย่าเข้าใกล้นารูโตะอีกไม่ว่าจะด้วยเหตุผลใดก็ตาม...” เงื่อนไขของชิกามารุทำให้คิบะต้องขบกรามแน่นเพราะมันหมายความว่าถ้าทุกอย่างมันไม่ได้เป็นไปอย่างที่เค้าหวัง โอกาสที่เค้าจะได้เริ่มต้นใหม่กับใครบางคนมันก็ไม่มีเช่นกัน
“ได้...ชั้นจะปล่อยมือจากนารูโตะทันที ถ้าทุกอย่างล้มเหลว...”
“ก็ดี...อย่าลืมคำพูดวันนี้ของนายซะล่ะคิบะ ส่วนเหตุผลที่ชั้นช่วยนายก็เพราะไม่อยากเห็นน้ำตาของนารูโตะอีกเพราะว่ามันทำให้ชั้นรู้สึกอย่ากฆ่าคนที่ทำให้น้ำตาสายนั้นไหลรินลงมาให้ตายอย่างทรมาน...” พูดจบชิกามารุก็เดินจากไปปล่อยที่เหลือให้เป็นหน้าที่ของคนที่ขอร้องมาจัดการต่อเอาเอง
นิยายที่ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ

คิบะไฟต์ติ้ง! ปรับความเข้าใจกับโตะให้ได้นะ!
โดยเฉพาะชิกก้า นายแมนมากๆๆๆๆไปเลยอ่ะ
โดนใจแม่ยกไปเต็มๆ คิบะคุงนายรีบปรับความเข้าใจให้ได้นะไม่งั้นเค้าจะไปเชียร์สองชิแล้วนะ
ชิก้าก็อัดให้ยับเลยนะ ฉับๆๆๆ(?)
ลูกสาวบ้านไหนหรอ
ก็ไม่ใช่ลูกสาวแต่เป็นคนที่ยืนอยู่หน้าคุณแม่นั่นแหล่ะค่ะ
นารูโตะน่าสงสารอ่ะ มาได้ยินพวกผู้หญิงพูดกันอ่ะ
ชิกามารุก็พระเอกอ่ะ น้ำใจงามเว่อร์
ชิกามารุ พระเอกเลยอ่ะะะะะ
สงสารนารูโตะ
คิบะ น่าตบมาก
5555
ชิกาแอบโหดด้วย น่ากลัวอ่ะ
ดีใจที่มาอัพนะคะ
สงสารนารุจัง มาได้ยินแบบนี้ยิ่งเข้าใจผิดกว่าเดิมอีก
คิบะถ้าไม่อยากกินแห้ว ขอบอกให้นายมาเคลียร์กับนารุด่วนๆๆๆเลยนะ
แต่อ่านตอนนี้รู้สึกรักชิกาขึ้นกว่าเดิมอีก ชิกาเท่มากๆเลย
แต่งสนุกมากค่า
ขอตัวไปอ่านตอนต่อไปก่อนล่ะกำลังมันส์
คุณแม่คิบะขา โตะแต่งหญิงแล้วต้องน่ารักกว่าฮินะจังแน่ๆค่ะ รีบไปขอโตะเลยค่ะ *w*
ขอ...กรี๊ดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดด ค่า
ฟินมาก ชิก้าขา พระเอกมากเลย โฮกกกกกกกก
ประโยคสุดท้ายก๊าวใจมากถึงมากๆค่า //นอนตายกำเดาไหลพรากๆ